ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วง
คิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด “เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา “อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?” “อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายใน การเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮารุกะต้องรับน้ำหนักตัวของเขาเกือบทั้งหมด และยังต้องคอยสอดส่องอันตรายที่อาจมาถึง “เราเกือบจะออกจากเขตเขาวงกตแล้วคิชิโระ” ฮารุกะกระซิบให้กำลังใจ เสียงของเธอแหบแห้งจากความเหนื่อยล้า “เราจะวางแผนกันใหม่... คราวนี้เราจะขอให้ชิบะช่วยนำทางให้” “ฮารุกะ...” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา “อย่าหันหลังให้ความมืด... เฝ้าระวังไว้...” ฮารุกะรู้สึกถึง ความตึงเครียด ที่เพิ่มขึ้นทุกย่างก้าว เธอใช้ นาฬิกาอาคม สแกนหาพลังงานมืดอย่างต่อเนื่อง แต่ในอุโมงค์แคบ ๆ ที่พวกเขาเดินอยู่นั้น ไม่มีสัญญาณใด ๆ ปรากฏ “ไม่มีอะไรนะคิชิโระ” ฮารุกะปลอบ “เรามาถึงทางที่คุ้นเคยแล้ว...” การจู่โจมอันโหดเหี้ยม (The Brutal Ambush) ทันทีที่พวกเขาเดินถึง ทางเลี้ยวโค้ง ของอุโมงค์ที่มืดมิดและเงียบสงัด เงาดำขนาดใหญ่ ก็ พุ่งทะลุ ออกมาจาก เพดานถ้ำ เหนือศีรษะของพวกเขา! มันคือ เงาปีศาจเสือดาวดำ (Shadow Leopard) ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าเสือดาวทั่วไปถึงสองเท่า มี กรงเล็บ ที่ยาวและแหลมคมราวกับดาบ มันปรากฏตัวอย่าง เงียบเชียบ และ รวดเร็ว จน กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ของคิชิโระที่กำลังอ่อนแอ และ นาฬิกาอาคม ของฮารุกะที่รวนจากพลังงานมืด ก็ไม่สามารถตรวจจับได้ทัน! เงาปีศาจเสือดาวดำจู่โจมด้วย ความแม่นยำ และ ความตั้งใจ ที่จะทำลาย เป้าหมายที่อ่อนแอที่สุด เคร้ง! มันไม่ได้พุ่งเข้าใส่ฮารุกะ แต่พุ่งเข้าใส่ คิชิโระ ที่กำลังเดินซวนเซอยู่! ฮารุกะส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ เธอพยายามใช้ร่างกายของเธอ บังคิชิโระ ไว้ แต่ไม่ทันการณ์! กรงเล็บ ของเงาปีศาจเสือดาวดำ กรีด เข้าที่ กลางหลัง ของคิชิโระอย่างรุนแรง! ฉั๊วะ! เนื้อ และ เสื้อผ้า ถูกฉีกขาดในพริบตา เลือดสีแดงฉาน พวยพุ่งออกมาจากแผลขนาดใหญ่กลางหลังของคิชิโระ ร่างของเขา กระตุก อย่างรุนแรง ก่อนจะ ทรุดตัวลง กับพื้นอย่างหมดสิ้นสติ! “คิชิโระ!” ฮารุกะกรีดร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนก เธอทรุดตัวลงคุกเข่าข้าง ๆ ร่างที่เลือดอาบของคิชิโระ มือของเธอสัมผัสกับเลือดอุ่น ๆ ที่ไหลออกมาไม่หยุด เงาปีศาจเสือดาวดำยืนอยู่เหนือร่างของคิชิโระ มันส่งเสียง ขู่ฟ่อ ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเตรียมกรงเล็บเพื่อ ปลิดชีพ เป้าหมายที่ล้มลง “แก... แกทำอะไรเขา!” ความตื่นตระหนกของฮารุกะเปลี่ยนเป็น ความเดือดดาล ทันที! เธอไม่เคยรู้สึกโกรธและสิ้นหวังเท่านี้มาก่อน สัญชาตญาณของการเป็นผู้ปกป้อง ได้เข้าครอบงำเธออย่างสมบูรณ์ เธอ ปามีดอาคม ที่ถืออยู่ในมือเข้าใส่หน้าเงาปีศาจเสือดาวดำอย่างรวดเร็วเพื่อดึงความสนใจ! เคร้ง! เงาปีศาจเสือดาวดำปัดมีดอาคมของคิชิโระออกไปอย่างง่ายดาย มันหันมาเผชิญหน้ากับฮารุกะ แต่ดวงตาของมันฉายแวว เหยียดหยาม ราวกับว่าฮารุกะเป็นเพียงแมลงที่น่ารำคาญ “แก! จะต้องชดใช้!” ฮารุกะคำราม การต่อสู้สุดท้ายของฮารุกะ (Haruka's Last Stand) ฮารุกะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว คิชิโระกำลังเลือดออกมากเกินไป เธอรู้ว่าเธอต้องใช้ พลังทั้งหมด ที่มี ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม เงาปีศาจเสือดาวดำเคลื่อนไหวด้วย ความเร็วเหนือมนุษย์ มันพุ่งเข้าใส่ฮารุกะทันที กรงเล็บของมันหมายจะฉีกร่างของเธอเป็นชิ้น ๆ ฮารุกะใช้ กระบวนท่า ‘ก้าวเท้าเงาสับหลีก’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างสุดกำลัง เธอหลบหลีกการโจมตีอันรุนแรงของมันได้เพียง เส้นยาแดงผ่าแปด “คาถาพันธนา! โอม!” ฮารุกะพยายามร่าย คาถาพันธนาการ แบบรวดเร็ว แต่เงาปีศาจเสือดาวดำนั้น ว่องไวเกินไป มันหลบหลีกคาถาของเธอได้อย่างง่ายดาย และใช้ หาง ที่เต็มไปด้วยหนามของมัน ฟาด เข้าที่สีข้างของฮารุกะอย่างจัง! พลั่ก! ฮารุกะกระเด็นไปกระแทกกับผนังถ้ำอย่างแรง เธอรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่เธอก็ กัดฟัน อดทนไว้ เธอมองไปที่ ร่างของคิชิโระ ที่นอนจมกองเลือดอยู่ ‘ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้! ถ้าฉันตาย... คิชิโระก็ตายด้วย!’ ฮารุกะลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างทุลักทุเล เลือด ไหลซึมออกจากปากของเธอเล็กน้อย ความเหนื่อยล้า และ ความเจ็บปวด จากการต่อสู้ครั้งก่อน ๆ และการบาดเจ็บล่าสุดเข้าโจมตีเธออย่างหนักหน่วง พลังอาคม ของเธอใกล้จะหมดลงแล้ว เธอรู้ว่า คาถาธรรมดา ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ เธอต้องใช้ ไม้ตาย ฮารุกะยก ตำราอาคม ของเธอขึ้นสู่ระดับศีรษะ เธอรวบรวม พลังชีวิต และ พลังอาคม ที่เหลือทั้งหมด โดยไม่สนใจว่าเธอจะเหลืออะไรหลังจากนี้ พลังงานสีม่วงเข้ม ที่รุนแรงกว่าทุกครั้ง พวยพุ่ง ออกมาจากร่างของเธอราวกับพายุ พลังนั้นแรงกล้าจนทำให้ ตำราอาคม ของเธอสั่นสะเทือน “จงฟัง! อาตมันแห่งเงา! ด้วยโลหิตและหยาดเหงื่อแห่งผู้ปกป้อง!” ฮารุกะคำรามด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลังที่แท้จริง เงาปีศาจเสือดาวดำรู้สึกถึง พลังงานที่เหนือกว่า ที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของฮารุกะ มันส่งเสียงขู่ฟ่อด้วยความระมัดระวังเป็นครั้งแรก “คาถาผนึกขั้นทำลาย! มิติแห่งความว่างเปล่า! จงดูดซับ!” พลังงานสีม่วงเข้ม ไม่ได้พุ่งออกไปในรูปแบบของลำแสง แต่แผ่ขยายออกไปในรูปของ คลื่นพลังงานขนาดใหญ่ ที่ บิดเบือน พื้นที่และเวลาโดยรอบ คลื่นพลังงานนั้นพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจเสือดาวดำทันที เงาปีศาจเสือดาวดำพยายาม วิ่งหนี มันใช้ ความเร็ว ทั้งหมดที่มีเพื่อพุ่งออกไปนอกรัศมีคลื่นพลังงาน แต่ คลื่นพลังงาน ของฮารุกะนั้น รวดเร็วกว่า! โฮกกกกกกกกกก! เงาปีศาจเสือดาวดำถูกคลื่นพลังงาน เข้าครอบงำ ร่างกายของมัน สลาย ออกเป็น วิญญาณ นับพันดวงอย่างรวดเร็ว วิญญาณเหล่านั้นถูก ดูด เข้าสู่ ขวดกักเก็บวิญญาณ ของฮารุกะในทันทีจนหมดสิ้น! [วิญญาณถูกกักเก็บสำเร็จ! ผนึกชั่วคราวเสร็จสิ้น!] การตัดสินใจที่เดิมพันด้วยชีวิต (A Race Against Bleeding) ทันทีที่เงาปีศาจสลายไป พลังงานชีวิต และ พลังอาคม ของฮารุกะก็ หมดลง อย่างสมบูรณ์! เธอรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลัง แตกสลาย เธอไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืนหยัด ฮารุกะล้มลง อย่างแรงข้างร่างของคิชิโระ เธอหายใจหอบถี่ ๆ ดวงตาของเธอพร่ามัว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คิชิโระยังคงหายใจอยู่ “คิชิโระ... ฉัน... ฉันทำสำเร็จแล้ว...” ฮารุกะพึมพำด้วยความโล่งใจ แต่ความโล่งใจนั้นถูกแทนที่ด้วย ความหวาดกลัว ทันที เลือด ของคิชิโระยังคงไหลออกจากบาดแผลขนาดใหญ่ที่หลังของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน หากไม่ได้รับการรักษาในอีกไม่กี่นาที เขาจะต้อง เสียชีวิต แน่นอน ฮารุกะพยายามรวบรวม เศษเสี้ยว ของพลังงานอาคมที่เธอได้จากการฝึกฝน กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู เธอหายใจเข้าลึก ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างช้า ๆ พลังอาคม เพียงเล็กน้อยเริ่มกลับมาสู่ร่างของเธอ เพียงพอ ที่จะใช้ คาถาฟื้นฟู แบบรวดเร็วได้ เธอร่ายคาถาฟื้นฟูเข้าที่บาดแผลของคิชิโระอย่างรวดเร็วที่สุด คาถาของเธอสามารถ ชะลอ การไหลของเลือดได้ แต่ไม่สามารถปิดบาดแผลได้ทั้งหมด “ไม่พอ... มันไม่พอ...” ฮารุกะร้องไห้ ความเจ็บปวด ที่สีข้างของเธอเองไม่ได้สำคัญเท่า ความกลัว ที่จะสูญเสียเขา ฮารุกะไม่มีเวลาแล้ว เธอใช้ แรงกายทั้งหมด ที่เหลืออยู่ ลาก ร่างกายของคิชิโระขึ้นพาดบนไหล่ของเธออย่างยากลำบาก “คิชิโระ! นายต้องไม่เป็นไร! เราจะถึงแล้ว!” ฮารุกะใช้ แรงกาย ที่ฝึกฝนมา วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต โดยมีร่างของคิชิโระที่เลือดอาบพาดอยู่บนไหล่ของเธอ เธอวิ่ง ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและคุ้นเคย เลือด ของคิชิโระหยดลงบนพื้นทุกย่างก้าวที่เธอวิ่งไป ทุกก้าวเต็มไปด้วย ความเจ็บปวด และ ความมุ่งมั่น ที่จะรักษาชีวิตของคู่หูไว้ให้ได้ การมาถึงที่หมาย (Arrival) “โมริ! ชิบะ! อาอิ!” ฮารุกะวิ่งเข้าสู่ โถงถ้ำที่ซ่อนตัว ของคนงานเหมืองด้วยใบหน้าและเสื้อผ้าที่ เปื้อนเลือด เธอแทบจะล้มลงกับพื้นทันทีที่ถึงที่หมาย คนงานเหมืองที่เห็นภาพนี้ต่างตกใจจนลุกฮือขึ้นมา โมริและชิบะวิ่งเข้าหาฮารุกะทันที “เกิดอะไรขึ้น!?” โมริอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นคิชิโระที่หลังอาบไปด้วยเลือด “เงา... เงาปีศาจ! มันจู่โจมพวกเรา!” ฮารุกะกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน “แผลใหญ่... ที่หลัง... เลือดออกไม่หยุด... อาอิ! ช่วยเขาด้วย!” ก่อนที่ใครจะตอบอะไร ฮารุกะก็ ทรุดตัวลง กับพื้นทันที ความเหนื่อยล้า และ การบาดเจ็บ ที่เธอฝืนไว้มานานได้เข้าเล่นงานเธอจนหมดสิ้น ชิบะและคนงานหลายคนรีบ หาม คิชิโระที่หมดสติไปยัง มุมทำแผล อย่างรวดเร็ว อาอิ เข้ามาตรวจสอบบาดแผลของคิชิโระด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดทันที โมริรีบประคองฮารุกะที่กำลังหมดสติอยู่กับพื้น “ไม่เป็นไรนะหนูฮารุกะ” โมริกล่าวอย่างปลอบโยน “พวกหนูปลอดภัยแล้ว... อาอิ จะช่วยคิชิโระได้แน่นอน” ฮารุกะพยายามเงยหน้าขึ้นมอง แต่ภาพก็ดับวูบไป ภารกิจนำส่ง คู่หูของเธอได้สิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้ ชะตากรรม ของคิชิโระอยู่ในการดูแลของเหล่าคนงานเหมืองผู้รอดชีวิต ในขณะที่ฮารุกะสลบไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนพื้นที่อุโมงค์ทางเข้าคือ หยดเลือดสีแดงสด ที่เป็นเครื่องยืนยันถึงความเด็ดเดี่ยวและความรักในมิตรภาพที่เธอมีให้กับคิชิโระ และความสำเร็จในการรวบรวม ผ้ายันต์ผืนที่สอง ที่ซ่อนอยู่ในตำราอาคมของเธอ การวางแผนสำหรับ ผ้ายันต์ผืนที่สาม ต้องถูกเลื่อนออกไป จนกว่าทั้งสองคนจะฟื้นตัวจากการต่อสู้ที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอดในครั้งนี้คิชิโระ และ ฮารุกะ ถูกหามกลับมาถึงที่หลบซ่อนของคนงานเหมืองอย่างรวดเร็วที่สุด อาอิ และคนงานคนอื่น ๆ รอรับพวกเขาอยู่แล้ว ผ้ายันต์อาคมสีทองอำพัน (ผืนที่ 3) ถูกนำออกมาจากก้อนน้ำแข็งโดยฝีมือของ ชิบะ และถูกเก็บรักษาไว้ข้างเตียงของฮารุกะร่างกายของทั้งคู่บอบช้ำอย่างหนัก ฮารุกะ ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บภายในจากคลื่นเสียง และการบาดเจ็บที่ขาจากใยน้ำแข็ง คิชิโระ เองก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดจากการต่อสู้ทางกายภาพติดต่อกัน“พวกหนูสู้มามากพอแล้ว” โมริ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา “พักผ่อนซะ พวกเราจะดูแลทุกอย่างเอง”การรักษาเริ่มต้นขึ้นทันที อาอิ ใช้ความรู้ทั้งการแพทย์พื้นบ้านและ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่ฮารุกะสอน ควบคู่ไปกับ ผงแร่ธาตุอาคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้งคู่ โดยเฉพาะฮารุกะที่ใช้พลังอาคมเกินขีดจำกัดไปมากเวลาผ่านไปสามวันเต็ม ทั้งคิชิโระและฮารุกะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายของพวกเขาดูดซับพลังงานอาคมและยาฟื้นฟูเพื่อซ่อมแซมความเสียหายภายในบันทึกลึกลับที่ถูกซ่อน (The Hidden Journal)ในวันที่สี่ คิชิโระ ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาพยายามลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ ฮารุกะ ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ เธอ
คิชิโระ พุ่งเข้าใส่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็น ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด มีดอาคม ของเขาปะทะกับ ดาบน้ำแข็ง ของผู้เฝ้าอย่างรุนแรงเคร้ง! เคร้ง!“ฮารุกะ! โจมตีทางกายภาพเท่านั้น! อาคมของเธอจะถูกแช่แข็ง!” คิชิโระตะโกนเตือนฮารุกะรู้ดีว่าความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากเงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นอันตรายต่อ พลังอาคม ของเธอมาก เธอตัดสินใจใช้ มีดอาคมสำรอง ที่คิชิโระให้เธอถือไว้ แล้วใช้ กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ ห่อหุ้มมีดอาคมด้วยพลังงาน กายภาพ ที่ไม่เจาะจง แล้วเข้าช่วยคิชิโระสู้การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็นไปอย่าง ช้า ๆ เพราะความหนาวเย็นกัดกินพลังงานของทั้งคู่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นแกร่งและว่องไว การโจมตีของคิชิโระแทบไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับ เกราะน้ำแข็ง ของมันได้เลยการปรากฏตัวของคลื่นเงา (The Wave of Shadows)ในขณะที่ทั้งคิชิโระและฮารุกะกำลังพยายามหาช่องโหว่ของผู้เฝ้า จู่ ๆ พื้นน้ำแข็ง ทั่วห้องโถงก็ สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงเสียงคำราม และ เสียงร้อง ที่ผสมกันดังขึ้นจากทุกทิศทางของถ้ำน้ำแข็ง!“อะไรน่ะ!?” ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจเ
ผมพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ "ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ" ที่จะมีการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความรู้ และความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด โดยมีบทสนทนาและคำบรรยายรวมกันมากกว่า 2,500 คำครับ/ค่ะ!ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ (The Sealed Gate of Whispers and the Ancient Ritual)ชิบะ นำทาง คิชิโระ และ ฮารุกะ ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและแคบอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บ ที่พวกเขาได้รับในตอนที่แล้วทำให้พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวังสูงสุด คิชิโระ สลับถือ มีดอาคม ไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ฮารุกะ เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เตรียมพร้อมที่จะใช้ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่เพิ่งฝึกฝนมาใหม่“ทางนี้แหละครับ” ชิบะกระซิบ เสียงของเขาเคร่งเครียด “เบื้องหน้าพวกคุณคือ ประตูเหล็กโบราณ ที่ถูกผนึกไว้”เมื่อถึงทางเข้าโถงถ้ำขนาดใหญ่ คิชิโระและฮารุกะก็ต้องเบิกตากว้าง เบื้องหน้าพวกเขาคือ ประตูเหล็กขนาดมหึมา ที่มีสนิมเกาะกรัง แต่ถูกปกคลุมด้วย อักขระอาคม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ อักขระเหล่านั้นส่งสัญญาณถึง พลังป้องกัน ที่ไม่อาจผ่านไปได้ง่าย ๆ“พลังอาคมขอ
ฮารุกะ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยู่ในส่วนหนึ่งของที่หลบซ่อนที่ถูกจัดให้เป็น ห้องพยาบาล ชั่วคราว อาอิ ผู้ดูแลคนงานเหมืองกำลังนั่งเฝ้าเธออยู่“หนูตื่นแล้วเหรอฮารุกะ” อาอิยิ้มอย่างอ่อนโยน“คิชิโระ... คิชิโระเป็นยังไงบ้างคะ?” ฮารุกะรีบถามทันที“อาการของเขาคงที่แล้วค่ะ” อาอิกล่าวอย่างปลอบใจ “แผลฉีกขาดที่หลังมันลึกมาก แต่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และหนูก็ใช้คาถาสะกดเลือดไว้ได้ทัน ทำให้ไม่เสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้โมริกับคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันดูแลเขาอยู่”ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้มือสัมผัสที่สีข้างของตัวเอง บาดแผล ที่เกิดจากหางของเงาปีศาจเสือดาวดำนั้นยังคงรู้สึกเจ็บอยู่“หนูต้องพักผ่อนนะ” อาอิกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าหนูคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ... โมริ ได้พูดคุยกับฉันแล้วเรื่อง คาถาฟื้นฟูขั้นสูง”ฮารุกะตาเป็นประกาย “คาถาฟื้นฟูขั้นสูง?”“ใช่” อาอิพยักหน้า “ฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยนักเวทที่เหมืองนี้มาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฉันพอจะรู้หลักการของ การรักษาอาคมแบบเร่งด่วน ที่ใช้พลังงานจาก แร่ธาตุอาคม ในเหมืองมาช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ฉันจะสอนวิชานี้ให้หนู ถ
ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วงคิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด“เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา“อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?”“อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายในการเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮ
คิชิโระและฮารุกะเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ทิศเหนือ พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าวหลังจากบทเรียนราคาแพงจากการลอบโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ พวกเขาใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง และ ฮารุกะ ก็คอยสแกนพลังงานมืดด้วย นาฬิกาอาคมหลังจากผ่านอุโมงค์แคบ ๆ มาได้เกือบชั่วโมง แสงจากมีดอาคมของคิชิโระก็ส่องกระทบกับทางเข้าขนาดใหญ่ที่แปลกตา“ดูนั่นสิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปข้างหน้าเบื้องหน้าพวกเขาคือ เขาวงกต ที่ถูกสร้างจาก เสาหิน ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เสาหินแต่ละต้นทอดตัวสูงขึ้นไปจนลับสายตา ทำให้เกิดทางเดินแคบ ๆ และซับซ้อนราวกับเป็นทางเดินของเขาวงกตในตำนาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วย พลังงานมืด ที่หนาแน่นจนแทบจับต้องได้“ตามแผนที่ของชิบะ... ผ้ายันต์ผืนที่สองอยู่ในใจกลางเขาวงกตนี้” ฮารุกะกล่าว พลางกางแผนที่ฉบับเต็มของเหมืองที่โมริมอบให้แผนที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “แดนซับซ้อนแห่งอักขระ” ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและทางตันมากมาย“เราต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางให้ได้” คิชิโระกล่าวอย่างมุ่งมั่น “เราจะใช้ เข็มทิศอาคม ของเธอช่วยนำทาง”“ฉันพยายามแล้ว” ฮารุกะตอบอย่างกังวล “พลังงานมืดที่นี่มัน