Beranda / แฟนตาซี / 5/B เหมืองร้างมรณะ / เที่ยวเพื่อที่จะได้กลับบ้าน

Share

เที่ยวเพื่อที่จะได้กลับบ้าน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-25 23:30:49

ในขณะที่คิชิโระกำลังตั้งรับการโจมตีจากเงาปีศาจที่แตกตัว เงาร่างใหญ่ตัวเดิมก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งจากด้านหลังของเขา มันยกแขนยาวเรียวขึ้นเตรียมจะจู่โจม ฮารุกะเห็นมันพอดี เธอรีบมองไปที่นาฬิกาอาคมของเธอ หน้าปัดของมันสว่างวาบขึ้นมาเป็นสีแดงสด ตัวเลขดิจิทัลแสดงระยะห่าง 5 เมตรพร้อมกับลูกศรชี้ไปทางด้านหลังของคิชิโระ

"คิชิโระ! ข้างหลังนาย! 5 เมตร!" ฮารุกะตะโกนเตือนสุดเสียง

คิชิโระได้ยินเสียงของฮารุกะ เขาบิดตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด เงาปีศาจโจมตีพลาดเป้า มันส่งเสียงคำรามด้วยความหงุดหงิด

"ขอบใจนะ ฮารุกะ!" คิชิโระหอบหายใจ เขาสามารถเรียกมีดอาคมของเขาออกมาจากอากาศได้ มันเป็นมีดสั้นสีเงินวาววับที่เปล่งแสงสีฟ้าอ่อน ๆ มีอักขระโบราณสลักอยู่บนใบมีด คิชิโระกระชับด้ามมีดแน่น เขามองไปยังกลุ่มเงาที่กำลังรวมตัวกันอีกครั้ง

"ฮารุกะ เตรียมขวดไว้!" คิชิโระสั่ง เขาพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจที่รวมตัวกันเป็นร่างใหญ่ มือขวาถือมีดอาคมพุ่งตรงเข้าใส่ ในขณะที่มือซ้ายปล่อยคลื่นพลังงานสีขาวออกมาเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวของมัน

การต่อสู้ดุเดือดขึ้นทันที คิชิโระเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับพายุ มีดอาคมของเขาสะบัดไปมาอย่างคล่องแคล่ว เขาทั้งฟัน ปัดป้อง และหลบหลีกการโจมตีจากเงาปีศาจที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกครั้งที่คมมีดอาคมสัมผัสกับเงาปีศาจ มันจะส่งเสียงซ่าเหมือนมีอะไรบางอย่างถูกเผาไหม้ และเงาปีศาจก็จะขาดหายไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้มันสลายไปได้โดยสมบูรณ์

"มันเร็วกว่าที่คิดเยอะเลยนะ!" คิชิโระสบถ เขากระโดดหลบเงาปีศาจที่พุ่งเข้ามาจากด้านข้าง พลางมองหาช่องว่างที่จะโจมตีไปยัง "หัว" ของมันตามที่เคยฝึกมา

ฮารุเสียงกรีดร้องที่ยาวนานและเจ็บปวดดังลั่นไปทั่วโถงเหมือง ร่างของเงาปีศาจสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันบิดเบี้ยวและแตกสลายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับหมอกควันสีดำที่ถูกฉีกกระชาก แสงสีแดงก่ำในดวงตาของมันริบหรี่ลง ก่อนจะดับวูบไปในที่สุด

ภายในไม่กี่วินาที ร่างของเงาปีศาจก็สลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียง ดวงวิญญาณสีเทาหม่น ขนาดเท่ากำปั้นเด็กที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ มันสั่นระริกราวกับกำลังจะสลายหายไปในพริบตา

"ฮารุกะ! ตอนนี้แหละ!" คิชิโระตะโกน เขายืนหอบหายใจเล็กน้อยแต่ก็ยังคงจับมีดอาคมมั่นคง คอยระแวงรอบข้างเผื่อจะมีเงาตัวอื่นโผล่มา

ฮารุกะไม่รอช้า เธอรีบเปิดฝาขวดกักเก็บดวงวิญญาณออกทันที พร้อมกับร่ายคาถาที่เธอท่องจำขึ้นใจ เสียงของเธอเริ่มแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยพลังงาน:

"อาตมันแห่งรัตติกาล สู่กาลผนึก ผูกพันด้วยอำนาจแห่งแสง โปรดกลับคืนสู่ภาชนะ จงเป็นดั่งที่ฉันบัญชา! โอม... นะโม... สู่ภวังค์..."

แสงสีม่วงอ่อน ๆ พวยพุ่งออกจากปากขวดและแผ่ขยายออกไปครอบคลุมดวงวิญญาณสีเทาหม่นนั้น แรงดูดมหาศาลจากขวดเริ่มดึงวิญญาณเข้าไปทีละน้อย ดวงวิญญาณต่อต้าน มันดิ้นรนและพยายามหนีออกไป แต่พลังของคาถากักเก็บนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่มันจะต้านทานได้

เพียงไม่นาน ดวงวิญญาณสีเทาหม่นก็ถูกดูดเข้าไปในขวดจนหมดสิ้น ฮารุกะรีบปิดฝาขวดอย่างรวดเร็ว แสงสีม่วงที่เปล่งออกมาจากขวดก็ดับลงพร้อมกับความเงียบที่เข้าปกคลุมอีกครั้ง

ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง ขาของเธอแทบจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว คิชิโระเดินเข้ามาหาเธอทันที เขาวางมือบนไหล่ของเธออย่างปลอบโยน

"เหนื่อยหน่อยนะ" คิชิโระพูดพลางยื่นมือไปดึงเธอให้ลุกขึ้น "เก่งมากเลยฮารุกะ"

ฮารุกะพยักหน้า เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่ยังคงมีความหวาดกลัวแต่ก็แฝงไปด้วยความภูมิใจ "นายก็เหมือนกัน คิชิโระ เกือบไปแล้วไหมล่ะ"

"ก็เกือบไปจริง ๆ นั่นแหละ" คิชิโระยิ้มแหย ๆ "ดีนะที่นายตาไว ไม่งั้นฉันคงได้เจ็บตัวไปมากกว่านี้แน่ ๆ"

เขาหันไปมองรอบ ๆ อีกครั้ง ความมืดมิดในเหมืองดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับเงาปีศาจตัวแรก สัญญาณเตือนในนาฬิกาของฮารุกะยังคงนิ่งสนิท แต่ทั้งคู่ก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

"ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะโผล่มาเร็วขนาดนี้" ฮารุกะพูด พลางกำขวดกักเก็บวิญญาณแน่น "แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมันมาจากไหนกันแน่"

คิชิโระมองไปยังความมืดเบื้องลึกของเหมือง "คงต้องเข้าไปข้างในให้ลึกกว่านี้แหละมั้ง หวังว่าวิญญาณตัวนี้จะให้เบาะแสอะไรบางอย่างกับเราได้นะ"

พวกเขาเงียบไปครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงหยดน้ำที่กระทบพื้นและเสียงลมหายใจของพวกเขาเท่านั้นที่ดังแผ่ว ๆ ในความมืดมิด บรรยากาศเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เพราะพวกเขารู้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอาจจะน่ากลัวกว่าที่พวกเขาเพิ่งเจอมาหลายเท่า

"เอาล่ะ พักกันสักครู่ แล้วไปต่อกัน" คิชิโระตัดสินใจ เขาหันไปส่งยิ้มให้ฮารุกะอีกครั้ง พยายามจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเธอ "เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อกลับบ้าน..."

ฮารุกะพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เธอวางขวดวิญญาณลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง แม้จะเหนื่อยล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะหาทางกลับบ้านก็เป็นแรงผลักดันให้เธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เคียงข้างเพื่อนสนิทของเธอ

"เพื่อกลับบ้าน..." ฮารุกะทวนคำแผ่วเบา ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มออกเดินลึกเข้าไปในความมืดมิดของเหมืองร้างอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรจะรอพวกเขาอยู่ในส่วนลึกของเหมืองแห่งนี้ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากะจ้องมองการต่อสู้ด้วยความเป็นห่วง เธอหยิบขวดกักเก็บดวงวิญญาณออกมาจากกระเป๋าสะพายของเธอ ขวดแก้วใสเปล่งประกายสีม่วงอ่อน ๆ เธอพร้อมที่จะทำหน้าที่ของเธอทันทีที่คิชิโระสามารถจัดการกับมันได้

จู่ ๆ เงาปีศาจก็เปลี่ยนกลยุทธ์ มันไม่พุ่งเข้าหาคิชิโระตรง ๆ อีกต่อไป แต่มันเริ่มเคลื่อนไหวเป็นวงกว้างในความมืด ทำให้ยากที่จะจับทิศทาง คิชิโระเริ่มหอบหายใจ การต่อสู้ต่อเนื่องมาสักพักแล้ว และเขาก็เริ่มเหนื่อยล้า เขาพยายามใช้ไฟฉายส่องหาหัวของมัน แต่เงาปีศาจก็ว่องไวเกินไป

"ฮารุกะ! นายเห็นหัวมันไหม!" คิชิโระตะโกนถามพลางใช้มีดอาคมปัดป้องเงาที่พุ่งมาทางเขา

ฮารุกะจ้องเขม็งไปที่เงาปีศาจ เธอใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเธอพยายาม "มองเห็น" ในความมืด เธอสังเกตเห็นว่าแม้เงาปีศาจจะเคลื่อนไหวรวดเร็วแค่ไหน แต่ก็มีจุดหนึ่งที่ดู "หนาแน่น" กว่าจุดอื่น ๆ เล็กน้อย คล้ายกับเป็นแก่นกลางของมัน และนาฬิกาอาคมของเธอก็เริ่มส่งสัญญาณเตือนที่รุนแรงขึ้นเมื่อเธอเพ่งความสนใจไปที่จุดนั้น

"เห็นแล้ว! คิชิโระ! มันอยู่เหนือไหล่ขวาของมัน! มันพยายามปกปิดเอาไว้!" ฮารุกะตะโกนบอกอย่างตื่นเต้น เสียงเธอสั่นเล็กน้อยแต่ก็ชัดเจน

คิชิโระรับข้อมูล เขากัดฟันแน่น "ได้เลย!"

เขากระโดดตีลังกาหลบการโจมตีของเงาปีศาจ จากนั้นใช้แรงทั้งหมดที่มีพุ่งตัวเข้าใส่มันอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ มือที่ถือมีดอาคมพุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่ฮารุกะบอก ด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง เงาปีศาจไม่สามารถหลบได้ทัน คิชิโระแทงมีดอาคมเข้าไปที่จุดนั้นอย่างแม่นยำ!

โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!

เสียงกรีดร้องที่ยาวนานและเจ็บปวดดังลั่นไปทั่วโถงเหมือง ร่างของเงาปีศาจสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันบิดเบี้ยวและแตกสลายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับหมอกควันสีดำที่ถูกฉีกกระชาก แสงสีแดงก่ำในดวงตาของมันริบหรี่ลง ก่อนจะดับวูบไปในที่สุด

ภายในไม่กี่วินาที ร่างของเงาปีศาจก็สลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียง ดวงวิญญาณสีเทาหม่น ขนาดเท่ากำปั้นเด็กที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ มันสั่นระริกราวกับกำลังจะสลายหายไปในพริบตา

"ฮารุกะ! ตอนนี้แหละ!" คิชิโระตะโกน เขายืนหอบหายใจเล็กน้อยแต่ก็ยังคงจับมีดอาคมมั่นคง คอยระแวงรอบข้างเผื่อจะมีเงาตัวอื่นโผล่มา

ฮารุกะไม่รอช้า เธอรีบเปิดฝาขวดกักเก็บดวงวิญญาณออกทันที พร้อมกับร่ายคาถาที่เธอท่องจำขึ้นใจ เสียงของเธอเริ่มแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยพลังงาน:

"อาตมันแห่งรัตติกาล สู่กาลผนึก ผูกพันด้วยอำนาจแห่งแสง โปรดกลับคืนสู่ภาชนะ จงเป็นดั่งที่ฉันบัญชา! โอม... นะโม... สู่ภวังค์..."

แสงสีม่วงอ่อน ๆ พวยพุ่งออกจากปากขวดและแผ่ขยายออกไปครอบคลุมดวงวิญญาณสีเทาหม่นนั้น แรงดูดมหาศาลจากขวดเริ่มดึงวิญญาณเข้าไปทีละน้อย ดวงวิญญาณต่อต้าน มันดิ้นรนและพยายามหนีออกไป แต่พลังของคาถากักเก็บนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่มันจะต้านทานได้

เพียงไม่นาน ดวงวิญญาณสีเทาหม่นก็ถูกดูดเข้าไปในขวดจนหมดสิ้น ฮารุกะรีบปิดฝาขวดอย่างรวดเร็ว แสงสีม่วงที่เปล่งออกมาจากขวดก็ดับลงพร้อมกับความเงียบที่เข้าปกคลุมอีกครั้ง

ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง ขาของเธอแทบจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว คิชิโระเดินเข้ามาหาเธอทันที เขาวางมือบนไหล่ของเธออย่างปลอบโยน

"เหนื่อยหน่อยนะ" คิชิโระพูดพลางยื่นมือไปดึงเธอให้ลุกขึ้น "เก่งมากเลยฮารุกะ"

ฮารุกะพยักหน้า เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่ยังคงมีความหวาดกลัวแต่ก็แฝงไปด้วยความภูมิใจ "นายก็เหมือนกัน คิชิโระ เกือบไปแล้วไหมล่ะ"

"ก็เกือบไปจริง ๆ นั่นแหละ" คิชิโระยิ้มแหย ๆ "ดีนะที่นายตาไว ไม่งั้นฉันคงได้เจ็บตัวไปมากกว่านี้แน่ ๆ"

เขาหันไปมองรอบ ๆ อีกครั้ง ความมืดมิดในเหมืองดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับเงาปีศาจตัวแรก สัญญาณเตือนในนาฬิกาของฮารุกะยังคงนิ่งสนิท แต่ทั้งคู่ก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

"ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะโผล่มาเร็วขนาดนี้" ฮารุกะพูด พลางกำขวดกักเก็บวิญญาณแน่น "แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมันมาจากไหนกันแน่"

คิชิโระมองไปยังความมืดเบื้องลึกของเหมือง "คงต้องเข้าไปข้างในให้ลึกกว่านี้แหละมั้ง หวังว่าวิญญาณตัวนี้จะให้เบาะแสอะไรบางอย่างกับเราได้นะ"

พวกเขาเงียบไปครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงหยดน้ำที่กระทบพื้นและเสียงลมหายใจของพวกเขาเท่านั้นที่ดังแผ่ว ๆ ในความมืดมิด บรรยากาศเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เพราะพวกเขารู้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอาจจะน่ากลัวกว่าที่พวกเขาเพิ่งเจอมาหลายเท่า

"เอาล่ะ พักกันสักครู่ แล้วไปต่อกัน" คิชิโระตัดสินใจ เขาหันไปส่งยิ้มให้ฮารุกะอีกครั้ง พยายามจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเธอ "เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อกลับบ้าน..."

ฮารุกะพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เธอวางขวดวิญญาณลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง แม้จะเหนื่อยล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะหาทางกลับบ้านก็เป็นแรงผลักดันให้เธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เคียงข้างเพื่อนสนิทของเธอ

"เพื่อกลับบ้าน..." ฮารุกะทวนคำแผ่วเบา ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มออกเดินลึกเข้าไปในความมืดมิดของเหมืองร้างอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรจะรอพวกเขาอยู่ในส่วนลึกของเหมืองแห่งนี้ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   รักษาตัวและบันทึก

    คิชิโระ และ ฮารุกะ ถูกหามกลับมาถึงที่หลบซ่อนของคนงานเหมืองอย่างรวดเร็วที่สุด อาอิ และคนงานคนอื่น ๆ รอรับพวกเขาอยู่แล้ว ผ้ายันต์อาคมสีทองอำพัน (ผืนที่ 3) ถูกนำออกมาจากก้อนน้ำแข็งโดยฝีมือของ ชิบะ และถูกเก็บรักษาไว้ข้างเตียงของฮารุกะร่างกายของทั้งคู่บอบช้ำอย่างหนัก ฮารุกะ ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บภายในจากคลื่นเสียง และการบาดเจ็บที่ขาจากใยน้ำแข็ง คิชิโระ เองก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดจากการต่อสู้ทางกายภาพติดต่อกัน“พวกหนูสู้มามากพอแล้ว” โมริ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา “พักผ่อนซะ พวกเราจะดูแลทุกอย่างเอง”การรักษาเริ่มต้นขึ้นทันที อาอิ ใช้ความรู้ทั้งการแพทย์พื้นบ้านและ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่ฮารุกะสอน ควบคู่ไปกับ ผงแร่ธาตุอาคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้งคู่ โดยเฉพาะฮารุกะที่ใช้พลังอาคมเกินขีดจำกัดไปมากเวลาผ่านไปสามวันเต็ม ทั้งคิชิโระและฮารุกะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายของพวกเขาดูดซับพลังงานอาคมและยาฟื้นฟูเพื่อซ่อมแซมความเสียหายภายในบันทึกลึกลับที่ถูกซ่อน (The Hidden Journal)ในวันที่สี่ คิชิโระ ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาพยายามลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ ฮารุกะ ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ เธอ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   ผ้ายันต์ผืนที่ 3

    คิชิโระ พุ่งเข้าใส่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็น ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด มีดอาคม ของเขาปะทะกับ ดาบน้ำแข็ง ของผู้เฝ้าอย่างรุนแรงเคร้ง! เคร้ง!“ฮารุกะ! โจมตีทางกายภาพเท่านั้น! อาคมของเธอจะถูกแช่แข็ง!” คิชิโระตะโกนเตือนฮารุกะรู้ดีว่าความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากเงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นอันตรายต่อ พลังอาคม ของเธอมาก เธอตัดสินใจใช้ มีดอาคมสำรอง ที่คิชิโระให้เธอถือไว้ แล้วใช้ กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ ห่อหุ้มมีดอาคมด้วยพลังงาน กายภาพ ที่ไม่เจาะจง แล้วเข้าช่วยคิชิโระสู้การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็นไปอย่าง ช้า ๆ เพราะความหนาวเย็นกัดกินพลังงานของทั้งคู่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นแกร่งและว่องไว การโจมตีของคิชิโระแทบไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับ เกราะน้ำแข็ง ของมันได้เลยการปรากฏตัวของคลื่นเงา (The Wave of Shadows)ในขณะที่ทั้งคิชิโระและฮารุกะกำลังพยายามหาช่องโหว่ของผู้เฝ้า จู่ ๆ พื้นน้ำแข็ง ทั่วห้องโถงก็ สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงเสียงคำราม และ เสียงร้อง ที่ผสมกันดังขึ้นจากทุกทิศทางของถ้ำน้ำแข็ง!“อะไรน่ะ!?” ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจเ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   กับดักที่ดุเดือด

    ผมพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ "ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ" ที่จะมีการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความรู้ และความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด โดยมีบทสนทนาและคำบรรยายรวมกันมากกว่า 2,500 คำครับ/ค่ะ!ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ (The Sealed Gate of Whispers and the Ancient Ritual)ชิบะ นำทาง คิชิโระ และ ฮารุกะ ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและแคบอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บ ที่พวกเขาได้รับในตอนที่แล้วทำให้พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวังสูงสุด คิชิโระ สลับถือ มีดอาคม ไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ฮารุกะ เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เตรียมพร้อมที่จะใช้ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่เพิ่งฝึกฝนมาใหม่“ทางนี้แหละครับ” ชิบะกระซิบ เสียงของเขาเคร่งเครียด “เบื้องหน้าพวกคุณคือ ประตูเหล็กโบราณ ที่ถูกผนึกไว้”เมื่อถึงทางเข้าโถงถ้ำขนาดใหญ่ คิชิโระและฮารุกะก็ต้องเบิกตากว้าง เบื้องหน้าพวกเขาคือ ประตูเหล็กขนาดมหึมา ที่มีสนิมเกาะกรัง แต่ถูกปกคลุมด้วย อักขระอาคม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ อักขระเหล่านั้นส่งสัญญาณถึง พลังป้องกัน ที่ไม่อาจผ่านไปได้ง่าย ๆ“พลังอาคมขอ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   การออกตามหาอีกครั้ง

    ฮารุกะ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยู่ในส่วนหนึ่งของที่หลบซ่อนที่ถูกจัดให้เป็น ห้องพยาบาล ชั่วคราว อาอิ ผู้ดูแลคนงานเหมืองกำลังนั่งเฝ้าเธออยู่“หนูตื่นแล้วเหรอฮารุกะ” อาอิยิ้มอย่างอ่อนโยน“คิชิโระ... คิชิโระเป็นยังไงบ้างคะ?” ฮารุกะรีบถามทันที“อาการของเขาคงที่แล้วค่ะ” อาอิกล่าวอย่างปลอบใจ “แผลฉีกขาดที่หลังมันลึกมาก แต่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และหนูก็ใช้คาถาสะกดเลือดไว้ได้ทัน ทำให้ไม่เสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้โมริกับคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันดูแลเขาอยู่”ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้มือสัมผัสที่สีข้างของตัวเอง บาดแผล ที่เกิดจากหางของเงาปีศาจเสือดาวดำนั้นยังคงรู้สึกเจ็บอยู่“หนูต้องพักผ่อนนะ” อาอิกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าหนูคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ... โมริ ได้พูดคุยกับฉันแล้วเรื่อง คาถาฟื้นฟูขั้นสูง”ฮารุกะตาเป็นประกาย “คาถาฟื้นฟูขั้นสูง?”“ใช่” อาอิพยักหน้า “ฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยนักเวทที่เหมืองนี้มาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฉันพอจะรู้หลักการของ การรักษาอาคมแบบเร่งด่วน ที่ใช้พลังงานจาก แร่ธาตุอาคม ในเหมืองมาช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ฉันจะสอนวิชานี้ให้หนู ถ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   พลีชีพ

    ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วงคิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด“เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา“อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?”“อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายในการเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   ผ้ายันต์ผืนที่ 2

    คิชิโระและฮารุกะเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ทิศเหนือ พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าวหลังจากบทเรียนราคาแพงจากการลอบโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ พวกเขาใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง และ ฮารุกะ ก็คอยสแกนพลังงานมืดด้วย นาฬิกาอาคมหลังจากผ่านอุโมงค์แคบ ๆ มาได้เกือบชั่วโมง แสงจากมีดอาคมของคิชิโระก็ส่องกระทบกับทางเข้าขนาดใหญ่ที่แปลกตา“ดูนั่นสิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปข้างหน้าเบื้องหน้าพวกเขาคือ เขาวงกต ที่ถูกสร้างจาก เสาหิน ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เสาหินแต่ละต้นทอดตัวสูงขึ้นไปจนลับสายตา ทำให้เกิดทางเดินแคบ ๆ และซับซ้อนราวกับเป็นทางเดินของเขาวงกตในตำนาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วย พลังงานมืด ที่หนาแน่นจนแทบจับต้องได้“ตามแผนที่ของชิบะ... ผ้ายันต์ผืนที่สองอยู่ในใจกลางเขาวงกตนี้” ฮารุกะกล่าว พลางกางแผนที่ฉบับเต็มของเหมืองที่โมริมอบให้แผนที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “แดนซับซ้อนแห่งอักขระ” ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและทางตันมากมาย“เราต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางให้ได้” คิชิโระกล่าวอย่างมุ่งมั่น “เราจะใช้ เข็มทิศอาคม ของเธอช่วยนำทาง”“ฉันพยายามแล้ว” ฮารุกะตอบอย่างกังวล “พลังงานมืดที่นี่มัน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status