มีเซ็กส์กับผู้ชายสองคนก็ว่าแปลกจนเธออยากจะบ้า แต่อีกเรื่องคือสำคัญกว่าก็คือความทรงจำของเธอหายไปเกือบค่อนปี หลายเดือนที่ผ่านมาเธอจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ครั้งสุดท้ายเธออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังท้อแท้ต่อโชคชะตาชีวิต เธอเป็นนักเขียนออนไลน์ใช้นามปากกาด้วยชื่อเล่นของเธอเองว่า ‘เลน่า’ ไม่ใช่ว่าเธอเขียนไม่ได้เรื่อง แต่เธอถูกขโมยผลงานต่างหาก เงินก็ไม่มี ผลงานสุดปังของเธอที่เธอซุ่มเขียนมานานกำลังถูกสร้างเป็นซีรี่ห์จำนวนห้าสิบตอน โดยที่เธอไม่มีส่วนในผลงานชิ้นนี้
ถ้าเธอมีผู้ชายมีคนรักก็คงจะดี แต่เธอขาดพยานหลักฐานทุกอย่าง ไร้ซึ่งคนปกป้อง ความทรงจำสุดท้ายนั้นคือเธอกำลังขอ ผู้ชาย...ผู้ชาย...และผู้ชาย จริงๆ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เลน่าหันไปมองสองหนุ่มที่อายุไล่เลี่ยกัน แต่ความหล่อกินกันไม่ลง นี่เธอไปหาสองคนนี้มาจากไหนนะ
เลน่ายิ้มให้ทั้งสองเมื่อเจอกับสายตาสองคู่ที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว “อาหารบำรุงร่างกายพร้อมแล้ว” เขาคนนี้ชื่ออะไรละเนี่ย เลน่าแอบคิดในใจ ถ้าบอกความจริงไปพวกเขาจะเชื่อเธอหรือเปล่านะว่า เธอไม่ใช่เธอ เฮ้ย! ว่าเธอไม่ใช่เธอ...แต่บัตรประจำตัววันเดือนปีเกิด ทุกอย่างมันคือเธอ นี่คือตัวเธอที่ความทรงจำหายไปแปดเดือน
เลน่าเดินมายังสองหนุ่มที่นั่งในท่วงท่าสบายพวกเขารอเธออยู่ ที่โต๊ะมีเก้าอี้เพียงสามตัว ถ้าเธอจะสังเกตสักหน่อยโต๊ะกินข้าวของพวกเธอเป็นสามเหลี่ยม ไม่รับแขกกันเลยสินะ ไม่มีที่เหลือให้ใครแทรก ใครกันนะช่างคิด แต่ถ้าจะสังเกตเพิ่มอีกเก้าอี้ทั้งสามดูดีมีราคาตามสไตล์หลุยส์ นี่มันของคุณภาพชั้นหนึ่ง
“นั่งสบายจัง” เลน่าเผลอคิดดัง ช่วงชีวิตเธอไม่เคยถึงขั้นคาดฝันว่าจะได้นั่งเก้าอี้ราคาแพงเท่าบ้านหนึ่งหลังได้
“ที่รัก!” เสียงมาพร้อมกับฝ่ามืออุ่นที่มาสัมผัสที่ต้นคอ “ทำไมรอยคิสมาร์กรอยนี้ถึงช้ำหนักขนาดนี้” เลน่าหน้าร้อนแก้มแดง ตอนเธออาบน้ำไม่ใช่แค่ลำคอของเธอ โคนขาอ่อนด้านในมีรอยจ้ำแดงแบบนี้เต็มไปหมด
คำพูดของเขาคนนี้ทำให้เขาอีกคนที่ดูสุขุมกว่าขมวดคิ้วและขยับมาหาเธอทันที “ได้ทายาหรือเปล่า” เสียงอ่อนนุ่มใจดีถามออกมาอย่างเป็นห่วง รอยพวกนี้เป็นฝีมือใครกันหรือพวกเขาทั้งคู่ บนบาทบนเตียงของพวกเขาเป็นอย่างไรนะ!...จำไม่ได้เลย
ยาเหรอ เธอไม่รู้ว่าเธอมียาสำหรับสิงเหล่านี้ด้วย เลน่าส่ายหน้า เพื่อปกปิดพิรุธ “มันหมด” เธอบอกเสียงเบาๆ เขาพยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ
“เดี๋ยวพี่จัดการให้” โอ้ยยย! ทำไมเธอถึงรู้สึกดีแบบนี้ ความรู้สึกของคนที่ได้รับการห่วงใยเป็นเช่นนี้เองเหรอ เมื่อได้ข้อสรุปเรื่องยาแล้วทั้งสามจึงกลับมาสนใจอาหาร
เลน่ายังจำไม่ได้ว่าเธอกลายเป็นผู้หญิงเห็นแก่เซ็กส์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมนูอาหารพวกนี้มัน...หอยนางรมที่ถูกเสิร์ฟพร้อมกับเกลือและมะนาว สลัดปลาแซลมอน ไข่ตุ๋น น้ำซุปไก่ดำ สตอเบอร์รี่ น้ำแตงโมปั่น
“ไปทำกันตอนไหน”
“สั่งจากร้านประจำ มาวินบอกว่าไม่สะดวกทำ” เลน่ายิ้ม ชายที่สุขุมดูอบอุ่นเขาชื่อมาวิน มีความสามารถในการทำอาหารบำรุงร่างกาย ทั้งสามลงมือกินเลน่าได้รับการดูแลจากสองหนุ่มคนโน้นป้อนคำคนนี้ป้อนคำ ดีอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ แม้ทั้งๆที่พึ่งผ่านศึกหนักกันมา แต่ทำไมนะพอกินอิ่มแล้วความรู้สึกต้องการก็เกิดขึ้น อาหารเหล่านี้เชิดชูพลังและอารมณ์ความต้องการจริงๆ
“เลน่าที่รัก” ไหล่บางถูกจับจองด้วยศีรษะของเขา ทำไงดีนะถึงจะรู้จักชื่อชายหนุ่มหน้าหยกคนนี้ ผู้ชายสองคนข้างกายเธอมีอุปนิสัยต่างกันสิ้นเชิง แต่พวกเขาสองคนก็หล่อมาก หุ่นก็แน่นฟิตเปรี๊ยะ! ฟิตแน่นทุกสัดส่วนจริงๆ
หืม เธอหันไปสบตากับเขา “ผมถูกท้าแข่ง”
“เหรอ เอาสิ” พรึ่บ! เขาขยับและมองตาเธออย่่างรวดเร็วต่างกับวินาทีที่เอ่ยประโยนั้นออกมา เหมือนว่าแค่เอ่ยไปเท่านั้นไม่ได้คาดหวังผลที่จะตามมา ดูจากอาการเขาแล้วคำตอบของเธอเกินการคาดหมายของเขามาก ใบหน้าเขากระจ่างใสงดงามชวนมอง หล่อขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นกอง เขายิ้มเผยฟันขาวที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามมาทางเธอ
“ตกลง!” เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินหายเข้าไปในห้องนอน และเลน่าก็ต้องเจอกับสายตาไม่เข้าใจของมาวิน “ทำไมเหรอคะ”
เขาเดินมานั่งข้างกายเธอ และอังหน้าผากเธอด้วยหลังมือเขา “ไม่มีไข้นี่น่า”
“ฉันปกติดีค่ะ”
“ก็นั่นสิทั้งๆที่ปกติดี เพราะยังไม่หมดเวลากักบริเวณลีโอ...” อ่อ ชื่อลีโอ ว่าแต่กักบริเวณมันคืออะไรกันนะ อึดอัดชะมัด หรือจะบอกพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอดไป ก็แค่จำอะไรไม่ได้ แต่อย่างอื่นก็ยังเหมือนเดิม
“ถ้างั้น...” เลน่าลุกขึ้น “พวกเราก็ตามไปคุม” แบบนี้ก็จะได้รู้ “...นะนะ” เธอคล้องแขนเขาออดอ้อน ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ มาวินไม่ได้แปลกใจกับท่าทางขี้อ้อนของเธอเลย คงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำตามปกตินิสัยของเธอ ก็เขาคนนี้ดูอบอุ่นน่าอ้อนมากๆ
“แน่ใจว่าไหวเหรอ” ก็ยังเจ็บๆ เมื่อยๆ ล้าๆ อยู่บ้าง แต่เธอไม่ได้รู้สึกอยากนอนเลย เลน่าจึงพยักหน้ายืนยันความตั้งใจ มาวินยิ้มและพยักหน้ารับและจูงมือเธอกลับเข้าไปในห้องนอนตามลีโอไป เมื่อพวกเขาเข้าไปลีโอก็เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ชุดแบบนี้มันชุดนักแข่งรถชัดๆ ขาดแต่สวมแจ็คเก็ตอีกตัวเท่านั้น
ที่แท้ลีโอเป็นนักแข่งรถเหรอเนี่ย เท่ห์จัง “พวกเราจะไปคุมความประพฤตินาย ไปสนามไหน”
ลีโอไม่ได้แสดงถึงความไม่พอใจ ในทางตรงข้ามเขากลับเดินเข้ามาหาเธอสองมือโอบแก้มน่ารักของเธอไว้อย่างอ่อนโยน “สนามมังกร มีนายกับเลน่าไปด้วย ชัยชนะต้องเป็นของฉันอย่างไม่ต้องสงสัย”
“เดิมพันด้วยอะไร”
“รถอีโคคาร์”
“นายยังมีไม่พออีกเหรอ”
“บำรุงร่างกายฮูหยินสามให้ดีๆ หลังจากนี้ฮูหยินต้องดื่มยาต้มนี้เป็นประจำ คงจะสามารถให้นางยังคงอยู่ต่อไปได้สักอย่างน้อยครึ่งปีหรือถ้าโชคดีก็อาจจะถึงหนึ่งปีขอรับ” หมอเอ่ยกับนายท่านจางและฮูหยินจาง ก่อนจะขอตัวจากไป“เขียนจดหมายส่งไปให้เหวินฉู่ เขาควรได้รู้เรื่องนี้และรีบรุดกลับมาให้เฉียวเฉี่ยวได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย” ฮูหยินจางพยักหน้าพร้อมซับน้ำตา ในวันนี้มีทั้งเรื่องยินดีและเรื่องไม่นายินดี นางได้หลานเพิ่มมาอีกสองคนแต่กำลังจะเสียสะใภ้เล็กไปแม้จะรู้ว่าการเสียสะใภ้ไปหนึ่งคนในสังคมนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บุตรชายนางยังหนุ่มแน่นสามารถแต่งสะใภ้คนใหม่เข้าจวนได้ก็ตาม แต่สิบเดือนมานี้ เฉียวเฉี่ยวจัดว่าเป็นสะใภ้ที่ดีและน่ารักคนหนึ่ง แถมยังเป็นแม่ที่มีหัวอกความเป็นแม่เต็มเปี่ยมแม้การเลือกชีวิตครั้งนี้เฉียวเฉี่ยวจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจยามเวลาความเป็นความตายว่าจะรักษาใครไว้ นายท่านจางกลับเลือกหลานๆ ทั้งสองไว้ทางด้านเหวินฉู่กับซิงซิง ทันทีที่ทั้งสองเดินทางออกพ้นประตูเมือง เหวินฉู่ก็ดึงร่างบางขึ้นสู่หลังม้าเขาควบม้าห่างประตูเมืองและกำแพงเมืองไปอย
“ฮูหยินน้อยสามอย่าโมโหนะเจ้าค่ะ ไม่ดีต่อครรภ์” ดั่งเป็นระฆังเตือนสติ ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ทายาทของเขา ให้เขาต้องจากไปอย่างไรเขาก็ต้องกลับมา ไม่กลับมาหานางก็ต้องกลับมาหาทายาทของเขา ซึ่งเรื่องนี้เฉียวเฉี่ยวประเมิน เหวินฉู่สูงเกินไปเฉียวเฉี่ยวตัดสินใจไปหาเหวินฉู่ในที่สุด ตลอดเดือนมานี้นางอยู่อย่างสงบ วันๆ นางแถบไม่เห็นเขาเลย จะได้เจอกันอีกทีก็ยามหัวค่ำที่เขาต้องการสมสู่กับนาง ต้องการหรือเปล่าตอนนี้นางไม่เชื่อมั่นในตัวเองเสียแล้ว มีตรงไหนบ้างที่นางไม่ดีกับเขา นางตามใจเขาทุกอย่าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางเผลอตื่นมาตอนกลางดึก ทำให้นางรู้ว่าเขาไม่เคยนอนอยู่ข้างกายนางเลย เขาไปนอนที่ไหนกันซึ่งเรื่องนี้นางก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเขา แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวมาโดยตลอด เขาหลงใหลสาวใช้ห้องข้างของเขามากเลยเหรอไร
นางเปลี่ยนจากตื่นสายมาตื่นตอนเช้าทำงานเยี่ยงบ่าวทั้งงานหนักงานเบาไม่ปริปากบ่นสักคำ ยามกลางดึกสงัดเหวินฉู่เมื่อบำเรอดูแลฮูหยินน้อยเสร็จสมหลับใหลไปแล้ว เขาก็จะใช้ประตูเชื่อมเข้ามาในห้องสาวใช้ห้องข้างซิงซิง ก็แสนทรหด นางไม่ขัดขืนต่อความต้องการชายหนุ่มเลยสักนิด เขาต้องการให้นางทำอะไรนางก็กระทำให้อย่างไม่มีข้อแม้ซี๊ดดดด เหวินฉู่ ครางกระเซ่าเมื่อช่วงล่างของเขากำลังถูกซิงซิงใช้ปากดูดเคล้น เสียงจ๊วบจ๊าบ เนื่องจากคืนนี้ซิงซิงมีฤดู เหวินฉู่จึงไม่อาจทำอะไรนางได้ แต่เขาก็ยังต้องการใกล้ชิดนางมากกว่าแค่นอนกอดในแต่ละคืนสภาพสถานการณ์ในเรือนฉู่เป็นแบบนี้คืนแล้วคืนเล่า แม้เหวินฉู่จะไม่พอใจที่ซิงซิง ต้องทำงานหนักเยี่ยงบ่าวในตอนกลางวัน แต่ทว่าซิงซิงช่างดื้อนัก เขาสั่งห้ามนางก็ไม่ยอมฟัง เขาจึงจำใจต้องยินยอม แต่ก็เก็บความรู้สึกเคลือบแคลงไว้เช่นกันเฉียวเฉี่ยว ที่เคยรู้มาก่อนหน้านี้ว่าเหวินฉู่มีสาวใช้ห้องข้าง ซึ่งนางพยายามให้บ่าวสาวทั้งสองที่ติดตามนางมาไปสืบว่าเป็นผู้ใดบ่าวสาวทั้งสองทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้นั้นคือใคร แต่พวกนางกลับให้คำตอบไปว่า “พวกบ่าวยังสืบหาไม่ได้เ
“ท่านต้องการอะไร!!” ซิงซิงใช้แรงกายอันน้อยนิดขัดขืนเขา ทั้งปัดมือเขาออกจากการลูบไล้ที่หยาบกระด้าง“ลองเดาดูสิ” ริมฝีปากทั้งสองบดเบียดกันอย่างบ้าคลั่ง ความรุนแรงที่เหวินฉู่กระทำกับซิงซิง สร้างความเจ็บปวดกายทรมานใจให้กับซิงซิงเป็นอย่างมากริมฝีปากทรมานนางยังไม่พอ ฝ่ามือกำยำยังกระทำชำเราเรือนกายอันบอบบางไม่หยุดหย่อน เขากระชากชุดสาวใช้ประจำเรือนจนขาดไม่เป็นชิ้นดี ซิงซิงก่นด่าเขาไม่หยุดเมื่อปากนางได้รับอิสระ แต่เพราะเสียงที่ไม่เป็นมงคลเหวินฉู่ไม่ชอบฟังเขากำจัดเสียงนั้นด้วยการอุดปากนางด้วยปากและลิ้นของเขาในทันทีเฮ่อเฮ่อ ลมหายใจหอบกระชั้นของทั้งสองเมื่อสายตาเว้นระยะห่างให้ช่องอากาศได้ผ่าน ดวงตาชายหนุ่มกวาดมองไปทั่วร่างบางใต้แสงสลัว เมื่อครู่เขาคงรุนแรงกับนางจริงๆ สินะ หลายๆ ตำแหน่งตามร่างกายนางมีรอยถลอกที่เกิดจากการเสียดสีของชิ้นผ้าที่เขากระชากออกไปอย่างบ้าคลั่งฝ่ามือหยาบกระด้างไล้สัมผัสผิวเนียนตั้งแต่แก้มไล่มาถึงลำคอเรียวเล็ก มีส่วนไหนของนางที่เขาไม่เคยแตะต้องอีกเหรอ แน่นอนย่อมไม่มีเขาสัมผัสแล้วทุกตารางนิ้วแต่เท่าไหร่ก็ไม
“ฮูหยินน้อยสามยินดีด้วยเจ้าค่ะ” พวกนางทำความเคารพและกล่าวยินดีอย่างพร้อมเพรียงได้น่าดูชมนักเสียงฉอเลาะประจบประแจงกล่าวชื่นชมยินดีหัวเราะต่อกระซิกระหว่างนายสาวกับบ่าวทั้งสองแน่นอนว่าต้องดังไปถึงห้องข้างที่มีสาวใช้ผู้ที่ถูกเก็บไว้อย่างช่วยไม่ได้นอกจากดวงตาที่แดงก่ำเพราะน้ำตาที่คลอหน่วยตาแล้ว เสียงสะอื้นสักนิดก็ไม่มีเล็ดรอดออกมาให้แม้แต่ตัวเองจะได้ยิน“คุณชายสาม” บ่าวสาวทั้งสองทำความเคารพต่อเหวินฉู่ที่กลับเข้าห้องหอมาในที่สุด บนชุดเจ้าบ่าวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา เหวินฉู่ที่อยู่ในค่ายทหารมาถึงสี่ปี แม้จะดื่มหนักมาแค่ไหนเขาก็ไม่มีอาการเมามายเลยสักนิด จะมีเพียงสีหน้าและดวงตาที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เท่านั้นพรึ่บ! ชายหนุ่มไม่รั้งรอให้เสียเวลาเขากระชากชุดเจ้าบ่าวสีแดงออกจากเรือนกายไปในทันที เฉียวเฉี่ยวมองชายหนุ่มด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แก้มเนียนสาวแดงปลั่ง เมื่อได้เห็นรูปร่างเปลือยของสามีของตนจนเต็มตาไร้อาภรณ์เป็นครั้งแรก แม้ก่อนนี้นางจะได้เข้าถึงจุดลี้ลับของชายหนุ่มมาแล้วเมื่อดวงตาไล่ลงไปตามท่อนขาด้านในที่ขาวเนียน เขาช่างมีผิว
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่นางยังเป็นหวานหว่าน ตอนนั้นนางจะรู้สึกอย่างไรกัน คงไม่เสียใจใช่หรือไม่ เพราะหวานหว่านถูกอบรมสั่งสอนมาแล้วว่า ต่อไปนางต้องปรนนิบัติดูแลฮูหยินน้อยสาม เพราะนั่นก็เป็นหน้าที่ของสาวใช้ห้องข้างด้วย แบ่งเบาภาระฮูหยินในการดูแลคุณชายสามแต่ทว่าตอนนี้นางคือซิงซิง ซิงซิงคือหญิงสาวที่ไม่จำเป็นต้องแบกรับตำแหน่งสาวใช้ห้องข้าง แต่นางต้องแบกรับความรู้สึกที่กำลังจะสูญเสียชายผู้เป็นที่รักซิงซิง นางยอมรับกับตัวเองอยู่เงียบๆ ว่า นางเจ็บปวดกับข่าวนี้ หัวใจของนางแตกสลายแล้วจริงๆ ก่อนนี้มันเป็นเพียงรอยร้าวที่ทั้งชีวิตนี้ไม่อาจประสานกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ทว่าตอนนี้รอยร้าวนั้นได้ปริแตกทำหัวใจนางสลายแล้วจริงๆ“อาฉู่” ซิงซิงพยายามเก็บความรู้สึกที่หัวใจแตกสลายไว้ “ปล่อยข้าไปเถอะ ตอนนี้ข้าไม่เหลืออะไรอีกแล้วนอกจากชีวิตของข้า”“ซิงซิง เจ้ายังมีข้า นับจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิตข้า ข้ารักเจ้า เจ้าคือผู้ที่ข้ารัก”ฮาฮา ในตอนนั้นที่นางได้ยินคำรักของผู้ชายคนนี้ นางทำได้เพียงหัวเราะทั้งน้ำตา ความรักของเขาที่มีต่อ