แชร์

บทที่ 1-2-เริ่มต้น (2)

ผู้เขียน: พรธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-05 23:13:05

“ดีใจไหมลูก หนูได้น้องสาวนะ”

พ่อของนิรมลพาไปดูน้องที่ห้องทารกแรกเกิด เด็กหญิงนิรมลชะเง้อมองผ่านกระจก ในตอนนั้นเธออายุเพียงสิบสองปี ในความคิดของเด็กๆ เธอคิดว่าน้องสาวเสมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต สามารถเล่นได้ จับแต่งตัวได้

หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ของเธอออกจากโรงพยาบาล ส่วนพ่อไปทำนาคนเดียว แม่หยุดพักเพียงสองสามวันก็ออกไปทำนาช่วยพ่ออีกแรง พาน้องสาวไปเลี้ยงที่ทุ่งนาด้วย จัดการผูกเปลไว้ที่ต้นไม้ แล้วตัวเองไปยืนหลังขดหลังแข็งทำนากลางแดดร้อนๆ  

ส่วนเด็กหญิงนิรมลต้องไปโรงเรียน เมื่อเลิกเรียนหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เธอจะช่วยแม่เลี้ยงน้องสาวเมื่อเวลาพ่อแม่ไปทำนา หรือเวลาที่แม่ต้องทำงานบ้าน เธอรักน้องสาวมากเพราะช่วยแม่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

เด็กหญิงนิรมลเห็นพ่อแม่ทำงานหนักแทบทุกวัน ไม่มีวันหยุดเลย นั่นทำให้เธอวางเป้าหมายในชีวิตไว้ทันที

‘ฉันจะเรียนหนังสือให้เก่ง จะได้ทำงานดีๆ มีเงินเดือนสูงๆ เลี้ยงดูพ่อแม่เอง จะได้ไม่ต้องทำงานหนักอย่างทุกวันนี้’

เวลาผ่านไป นิรมลเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ เธอได้รับการติดต่อจากบริษัทขายอาหารเสริมที่เธอไปฝึกงาน และหญิงสาวได้เข้าทำงานที่นี่ เธอตั้งใจทำงานจนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง และนำเงินนั้นมาซื้อคอนโดฯ ที่อยู่ใกล้ๆ บริษัท จะได้ไม่ต้องเช่าหอพักหรือคอนโดฯ อยู่

ส่วนนรีนันท์น้องสาวของเธอ ขณะนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่สามที่มหาวิทยาลัยแถวบ้าน นิรมลช่วยจ่ายเงินค่าเทอมให้กับน้องสาว โดยที่ไม่ต้องรบกวนเงินของพ่อแม่อีก และหญิงสาวยังขอร้องพ่อแม่ให้หยุดทำนา อยากให้อยู่บ้านพักผ่อนสบายๆ

“หนูอยากให้พ่อแม่ได้หยุดพักบ้าง ทุกวันนี้หนูส่งเงินมาให้พ่อแม่ใช้แล้วนี่คะ พ่อแม่จะได้ไม่เหนื่อย”

“พ่อแม่ไม่หยุดทำนาหรอกนิว ขืนหนูให้พ่อแม่อยู่บ้านเฉยๆ เซ็งตายเลยลูก อีกอย่างที่นาของเราก็มีมากมาย ปล่อยให้ว่างไว้ได้ยังไง”

แม่ของเธอพูดบ่นๆ แต่นิรมลก็ยังไม่ละความพยายาม

“หนูไม่ได้ให้แม่ปล่อยที่นาไว้ว่างๆ สักหน่อย หนูอยากให้แม่ปล่อยที่นาให้เขาเช่าจะดีกว่านะคะ หนูไม่อยากให้พ่อแม่ทำงานหนักอีก”

พ่อแม่ของนิรมลเข้าใจดีว่าลูกสาวคนโตเป็นห่วง พ่อแม่จึงทำตามที่เธอแนะนำ นั่นคือปล่อยที่นาให้คนอื่นเช่าทำนาบ้าง และแบ่งที่นาส่วนหนึ่งทำเอง

นิรมลกลับมาถึงคอนโดฯ ที่พัก เธอเดินเข้ามากดลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักของเธอที่อยู่ชั้นสิบ บริเวณนั้นไม่มีใครเลย

ติ๊ง!

เสียงประตูลิฟต์เปิดออก มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมา แต่หญิงสาวที่ยืนรออยู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เพราะมัวก้มหน้าตอบข้อความของลูกค้าอยู่ และไม่ได้สนใจว่าจะมีใครออกมาจากลิฟต์หรือไม่ จนกระทั่งได้ยินเสียงทักทายดังขึ้น

“คุณนิว เพิ่งกลับมาเหรอครับ”

นิรมลเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายก็ยิ้มทักทาย ปรากฏว่าเป็นเพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่ข้างห้อง

“ใช่ค่ะ คุณกฎจะออกไปไหนคะ หรือว่ามีนัดกับใครหรือเปล่า”

“ผมจะออกไปรับแฟนครับ วันนี้เขาอยู่ทำโอที ก็เลยคิดว่าจะออกไปกินข้าวข้างนอกกันเลย”

นิรมลยิ้มให้กับกรกฎ เขาเป็นชายหนุ่มข้างห้องพักที่อาศัยอยู่กับแฟนสาว เธอมองตามหลังเขา พูดพึมพำ

“คุณกฎนี่ดูรักแฟนจริงๆ”

หญิงสาวกดลิฟต์อีกครั้ง เธอก้าวเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปข้างบน

นิรมลขึ้นไปที่ชั้นสิบ ห้องของเธออยู่ตรงกลาง หญิงสาวเปิดประตูเดินเข้ามา เธอวางของไว้ในห้องนั่งเล่น มีโทรทัศน์และโซนครัวเล็กๆ มีห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นของเธอ ส่วนอีกห้องหนึ่งบางครั้งนรีนันท์จะมาพักด้วยในช่วงปิดเทอมบ้าง

นิรมลซื้ออาหารกลับมากินที่คอนโดฯ เธอรีบกินอาหารอย่างรวดเร็วแล้วหยิบงานที่จะต้องนำเสนอให้ลูกค้าในวันพรุ่งนี้มาทำจนเสร็จ เวลาตอนนั้นดึกมากแล้ว หญิงสาวเข้านอนด้วยความอ่อนเพลีย แล้วเธอก็ฝัน…

นิรมลฝันว่าตัวเองมายืนอยู่ในสถานที่มืดมิดอีกครั้ง หญิงสาวหันมองรอบตัว รู้สึกราวกับว่าตัวเองเคยมาที่นี่มาก่อน หญิงสาวหันซ้ายหันขวา ไม่กล้าเดินไปไหนเพราะไม่รู้ทิศทาง

“นิรมล!”

เสียงเรียกดังก้องขึ้น นิรมลหันไปตามทิศทางของเสียง เธอเดินไปตามเสียงนั้นจนเห็นท่านยมบาลยืนมองเธออยู่ด้านบน

“ท่าน!”

“เจ้าจงจำไว้ เจ้ามีเวลาเพียงเก้าสิบวันเท่านั้น”

“เก้าสิบวัน?”

นิรมลทวนคำ คิ้วขมวดด้วยความสงสัย ท่านยมบาลพยักหน้า

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าอยากให้เจ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด เพื่อที่วันข้างหน้า หากเจ้ามองย้อนกลับมาจะได้ไม่ต้องเสียใจในภายหลังอีก”

นิรมลสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทั้งๆ ที่แอร์ในห้องเย็นฉ่ำจนหนาว แต่หญิงสาวกลับเหงื่อออกมาเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด เธอลุกขึ้นมาหยิบนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงมาดู เป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว เธอพูดพึมพำกับตัวเอง

“ฝันแปลกๆ ทำไมรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นมาก่อน แต่ช่างมันเถอะ เราคงคิดมากไป...เช้าแล้วไปอาบน้ำทำงานเลยดีกว่า”

............................................

นิรมลไปถึงที่ทำงานก่อนเวลาเริ่มงานราวหนึ่งชั่วโมง เธอขึ้นไปเตรียมเอกสารงานทุกอย่างตามปกติ จนกระทั่งเพื่อนร่วมงานในแผนกเริ่มทยอยเข้ามาทำงาน

“วันนี้มาเช้าจังเลยนะนิว เตรียมตัวไปพบลูกค้าแต่เช้าเลยหรือไง”

นิรมลหันมายิ้มให้ แต่ไม่ได้ตอบคำถามนั้น จนกระทั่งหัวหน้าเดินเข้ามาหานิรมล ยื่นแฟ้มเอกสารแฟ้มหนึ่งมาให้

“เดี๋ยวตอนบ่ายไปที่นี่หน่อยนะ มีลูกค้าสนใจสินค้าของเรา คุณไปนำเสนอสินค้าหน่อย เผื่อจะมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาบ้าง”

นิรมลยังไม่ตอบรับอะไร เธอหยิบแฟ้มงานที่หัวหน้าถือมาเปิดดูข้อมูล

“แต่ที่นี่ เคยมีพี่ที่แผนกประชาสัมพันธ์ไปนำเสนอสินค้ามาแล้วนี่คะ แล้ว...หัวหน้าจะให้นิวไปนำเสนอซ้ำอีกครั้งเหรอคะ”

“ผมคุยรายละเอียดไว้แล้ว กลุ่มคนที่จะมาฟังนี่เป็นคนละกลุ่มกัน คุณไปเถอะ ผมรับรองว่าไม่น่าพลาด ผมบอกพวกเขาว่านัดไว้เวลาบ่ายโมงนะ”

ทางด้านนิรมลรีบจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ ที่จะไปคุยกับลูกค้า และเตรียมตัวออกจากที่ทำงาน เพราะสถานที่ที่นัดลูกค้าไว้ค่อนข้างไกล หญิงสาวจึงออกจากบริษัทตั้งแต่สิบเอ็ดโมง และไม่ได้กลับเข้ามาในบริษัทอีก

จนถึงเวลาพักเที่ยง แม่บ้านคนหนึ่งเดินออกไปซื้อของฝั่งตรงกันข้าม ในระหว่างการเดินข้ามถนนกลับมา แม่บ้านคนนั้นทำกระเป๋าสตางค์หล่นบนถนน เธอก้มลงไปเก็บโดยไม่ได้มองว่าตอนนั้นมีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็ว ตรงมายังแม่บ้านที่ขยับจะลุกขึ้นจากถนนแต่ลุกขึ้นมาไม่ได้ ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างดึงไว้ คนขับรถยนต์คันนั้นก็ไม่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่กลางถนน แม่บ้านจึงได้แต่นั่งจ้องรถยนต์และกรีดร้องสุดเสียง

“กรี๊ดดด!!!”

โครม!!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 15-2-หาจนเจอ (2)

    หลังจากวันนั้น ธันวาก็ฝันซ้ำๆ แบบเดิมติดต่อกันถึงเจ็ดวัน ในแต่ละครั้งเขาจะพูดบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับปากกรกฎ จนกระทั่งในคืนที่เจ็ด เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่มียังคงฝันซ้ำๆ เช่นนี้ รู้สึกเอะใจ คิดว่าน้องชายน่าจะต้องการให้เขาไปจัดการเรื่องที่กรุงเทพฯ และเริ่มมั่นใจว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับน้องชาย“พี่ช่วยมาดูแลห้องพักให้ผมที พี่จะขายหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่พี่เลยครับ”ธันวาเดินเข้ามาหากรกฎที่ยืนมองเขาด้วยแววตาที่อาลัยอาวรณ์ เขาคิดว่าน้องชายมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากจะพูด“กฎมีอะไรจะบอกกับพี่หรือเปล่า นี่พี่ฝันเรื่องเดิมๆ แบบนี้ติดกันเจ็ดวันแล้วนะ”กรกฎยิ้ม แต่ใบหน้าของเขายังคงเศร้าหมองอยู่“ผมอยากให้พี่ไปกรุงเทพฯ จัดการเรื่องทรัพย์สินของผมครับ ถ้าพี่ไปที่โน่น คุณนิรมลจะช่วยจัดการเรื่องให้พี่เอง ผมขอร้องนะครับ”ธันวานิ่งเงียบ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาคิดวนเวียนอยู่ว่าควรจะไปดีไหม จนไม่ได้สังเกตว่ากรกฎกลับค่อยๆ ถอยห่างออกไปจากเขา กระทั่งได้ยินเสียงกรกฎดังแว่วมาจากที่ไกล“พี่ไปกรุงเทพฯ ให้ได้นะครับ ผมหมดเวลาแล้ว”ธันวาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขานึกเอ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 15-1-หาจนเจอ (1)

    นิรมลและทีมทำงานที่จังหวัดกาญจนบุรีเพียงสองสัปดาห์ พวกเขาก็ได้ผลงานเกินเป้าหมายที่วางไว้ ลูกค้าที่ไปนำเสนอสินค้าพากันซื้อจนสินค้าที่เอาไปไม่เพียงพอ“ผมคุยกับทางท่านประธานแล้ว ท่านบอกว่าทีมเราทำงานกันได้ดีมาก และอนุญาตให้พวกเราหยุดพักผ่อนกันได้ ถ้าใครไม่มีงานด่วนก็กลับไปทำงานวันจันทร์ หรือจะอยู่เที่ยวแถวนี้ก่อนก็ได้นะ”“ไชโย!”ทุกคนร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ โดยเฉพาะชมพูนุทที่หันมาคุยกับนิรมลและเอกภพ“วันพรุ่งนี้ได้กลับบ้านแล้ว”นิรมลนิ่งเงียบ ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว ส่วนเอกภพเขาหันไปพูดกับทุกคน“ผมว่าพวกเรามาเก็บของกันดีกว่า วันพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางตั้งแต่เช้า ดีไหมครับหัวหน้า ดีไหมนิว ชมพู”ทุกคนพยักหน้าเห็นดีด้วย โดยเฉพาะนิรมลที่ไม่ได้พยักหน้าเฉยๆ แต่กลับดึงมือชมพูนุทให้ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน“ไปเถอะชมพู ของแกเยอะด้วย กว่าจะเก็บเสื้อผ้า เก็บเครื่องสำอางต่างๆ ของแกอีก”............................................เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ และทยอยขนกร

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 14-2-แถบชายแดน (2)

    หลังจากที่ชมพูนุทและหัวหน้าขึ้นรถตู้ออกไปแล้ว นิรมลกดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง“พวกเขาไปแล้ว พี่กล้ามารับนิวกับหนึ่งได้เลยค่ะ”เพียงครู่เดียว รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งก็วิ่งมา มันเป็นรถกระบะสีดำมีแคปให้นั่ง เอกภพมองรถแล้วพยักหน้าบอกกับนิรมลให้เข้าไปนั่งที่แคปด้านหลังจะดีกว่า“อำเภอสังขละบุรีนี่ไกลไหมคะพี่กล้า”“ไปอีกประมาณห้าสิบกิโลเมตร หรืออาจจะไปไกลกว่านั้นเพราะต้องไปแนวตะเข็บชายแดน ถ้ายังไงคุณลองเปิด GPS ด้วยก็ได้ จะได้รู้ว่าเราหลงกันหรือเปล่าด้วย”เอกภพที่นั่งด้านหน้าคู่กับคนขับรถจึงต้องเป็นคนที่เปิด GPS เพื่อช่วยเพชรกล้าดูทางตามที่อยู่ตามที่หญิงสาวจดมา“ตอนนี้หาบ้านเลขที่ตามสมุดนี่ไม่เจอเลยนิว เอายังไงดีครับ”เอกภพถามแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ดู ในขณะที่รถยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ เพชรกล้าขมวดคิ้ว เขากำลังนั่งนึกถึงสถานที่ที่กำลังจะไปว่าควรจะไปที่ไหนดี“ถ้าอย่างนั้น สถานที่ที่ง่ายที่สุด หาง่ายที่สุด น้องลองเลือกสถานที่เป็นที่ว่าการอำเภอสังขละบุรีก่อนก็ได้ ตอนนี้ไปให้ถึงก่อน แล้วค่อยว่ากันเรื่องบ้านเลขที่นี้ว่ามันมีไหมดีกว่านะน้องนิว”

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 14-1-แถบชายแดน (1)

    หลังจากกลับมาจากตลาดนัดมาบ้านเช่าชั่วคราว นิรมลที่กำลังเดินเข้าบ้านก็ถูกดึงมือเสียก่อน เธอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเอกภพที่เป็นคนดึงมือเธอไว้“มาคุยกันก่อนสิจิ๋ว”เอกภพเดินนำหน้าเธอ เขาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน หน้าเอกภพคิ้วขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องให้คิด ใบหน้าที่เคยอารมณ์ดีหรือยิ้มหัวเราะให้เธอกลับกลายเป็นใบหน้าที่ดูจริงจัง ทำให้นิรมลคิดว่าเขาคงจะเครียดหรือคิดเรื่องอะไรอยู่“บีมีอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาดูจริงจัง จิ๋วทำอะไรผิดหรือเปล่า”“ผู้ชายคนที่คุยด้วยที่ตลาดคือใครเหรอ ทำไมถึงดูสนิทสนมกันจัง”เอกภพถาม หน้าตาดูจริงจัง นิรมลเกือบถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองมาแบบต้องการคำตอบ เธอจึงรีบอธิบาย“เขาคือพี่เพชรกล้า สามีของแก้วตาไง คือว่า...จิ๋วมีเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือน่ะ”“ทำไมต้องขอความช่วยเหลือด้วยล่ะ ทำไมมีอะไรไม่เห็นจะเล่าเรื่องให้บีฟังบ้างเลย”นิรมลแอบถอนหายใจไม่ให้เอกภพเห็น หญิงสาวเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟังตั้งแต่ต้นเท่าที่เธอจำได้ รวมทั้งเรื่องราวที่เธอมีสัมผัสพิเศษ แต่เอกภพที่ฟังแล้วกลับยิ่งคิ้วขมวดมากขึ้น เมื่

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 13-2-ไปเมืองกาญจนบุรี (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลเดินออกมาจากห้องพัก พอดีกับที่รติมา แฟนของกรกฎเปิดประตูออกมาจากห้องข้างๆ เช่นกัน นิรมลทักทายอีกฝ่ายทันที“สวัสดีค่ะคุณรติ เมื่อคืนเข้ามาพักที่นี่เหรอคะ นิวไม่รู้เลยว่าคุณมา”“ค่ะ รติเข้ามาที่นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว รติมาเก็บของ ตั้งใจจะไปพักที่บ้านแม่ค่ะ”รติมาพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง นิรมลเดินมาหาอีกฝ่ายเพื่อจะมาปลอบใจ เธอมองอีกฝ่ายถือของเต็มทั้งสองมือจึงอาสาช่วยเหลือ“ถ้าอย่างนั้นนิวช่วยนะคะ กล่องที่วางหน้าห้องนั่นก็ด้วยใช่ไหม”“ขอบคุณค่ะคุณนิว”รติมายิ้มให้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ นิรมลยกกล่องกระดาษขึ้นมา ไม่หนักสักเท่าไรหรอก พอถือไหวในระหว่างที่กำลังลงลิฟต์ นิรมลก็ชวนอีกฝ่ายคุยถึงเรื่องของกรกฎ“ว่าแต่ทำไมคุณรติไม่อยู่ห้องนี้ต่อล่ะคะ ทำไมย้ายออกไป?”“บ้านแม่อยู่ใกล้ที่ทำงานรติมากกว่าค่ะ อีกอย่างรติก็รู้สึกผิดกับกฎมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แล้วก็...”รติมาพูดแล้วหยุดชะงัก เธอลังเลว่าควรจะเล่าดีหรือไม่ นิรมลที่กำลังฟังอยู่จึงซักถามให้อีกฝ่ายเล่าต่อ“ยังไงต่อเหรอคะคุณรติ”“เมื่อคืน

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 13-1-ไปเมืองกาญจนบุรี (1)

    เมื่อเข้าห้องพักได้ นิรมลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทร. มาหา แต่ปรากฏว่าหน้าจอโทรศัพท์ไม่มีข้อความหรือสัญญาณสายเรียกเข้าขึ้นมาเลย ทำให้หญิงสาวยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างแต่ภาพที่เห็น...ทำเอานิรมลมือไม้อ่อนจนโทรศัพท์แทบจะหลุดจากมือ ตรงบริเวณประตูห้อง เธอเห็นวิญญาณของกรกฎยืนมองเธออยู่ แต่เขาไม่ได้เข้ามาใกล้มากกว่านี้วิญญาณกรกฎยิ้มให้นิรมล เขาไม่ได้มาหาในสภาพที่น่ากลัวอีก และในวันนี้เขามาบอกรายละเอียดในการตามหาพี่ชายให้หญิงสาวรับรู้ และขอให้เธอช่วยทำอะไรบางอย่างในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำเองได้แล้ว“พี่ชายของผมอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาทำงานอะไร แล้วจะยอมมาดูแลห้องพักให้ผมหรือเปล่า แล้วก็...ผมอยากขอให้ช่วยสืบเรื่องแฟนผมด้วยว่าเธอจงใจหรือตั้งใจทำร้ายผมหรือเปล่า”นิรมลนิ่งเงียบฟังข้อมูลที่กรกฎบอก คิ้วขมวดและนึกอะไรบางอย่าง เธอถามเขาก่อนที่กรกฎจะพูดออกมา“ถ้าอย่างนั้นต้องคิดเรื่องการตามหาพี่ชายของคุณก่อนก็แล้วกัน พี่ชายคุณชื่ออะไรคะ แล้วที่บอกว่าอยู่จังหวัดกาญจนบุรีนี่อยู่ตรงไหน จังหวัดนี้มันไม่ใช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status