หน้าหลัก / แฟนตาซี / 90 วันก่อนฉันเป็นศพ / บทที่ 2-1-ไม่ทันตั้งตัว (1)

แชร์

บทที่ 2-1-ไม่ทันตั้งตัว (1)

ผู้เขียน: พรธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-24 02:08:35

เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลไปทำงานตามปกติ โดยไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่บริษัทบ้าง หญิงสาวหยิบแฟ้มสรุปงานเมื่อวานที่ไปพบลูกค้ามาเพื่อจะรายงานหัวหน้า ขณะเดียวกันเพื่อนที่นั่งทำงานโต๊ะข้างๆ ก็เดินเข้ามาพอดี เธอรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหานิรมลเพื่อจะสนทนาถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้

“นิว...เมื่อวานเธอไม่อยู่...”

“นิวมาหรือยัง?”

เสียงดังมาจากข้างหลัง ทุกคนหันหน้าไปมองตามเสียง เพื่อนคนที่กำลังจะเล่าเรื่องหยุดชะงักและถอยห่างจากนิรมลเมื่อเห็นสีหน้าคนถามที่ดูเคร่งเครียด

“เมื่อวานผลเป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวคุณเข้าไปสรุปให้ผมฟังที แล้วก็เตรียมข้อมูลและเข้าประชุมกับบอร์ดบริหารกับผมด้วย”

“ได้ค่ะ”

นิรมลรับคำแล้วรีบถือแฟ้มงานตามเข้าไปในห้องหัวหน้า เพื่อรายงานผลงานเมื่อวานนี้ และออกมาเตรียมเอกสารการประชุมด้วยความเคร่งเครียด จนเพื่อนคนที่จะเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟังได้แต่นั่งมองห่างๆ จนหญิงสาวรู้สึกได้ว่ามีคนมอง

“เมื่อเช้านี้พี่จะเล่าอะไรให้ฟังหรือเปล่าคะ หัวหน้ามาพอดีเลยไม่ได้คุยกันต่อ”

“ไม่มีอะไรหรอก นิวรีบทำงานเหอะ อีกห้านาทีต้องเข้าประชุมแล้ว เดี๋ยวเตรียมเอกสารไม่ทัน”

นิรมลพยักหน้าให้

“งั้นค่อยคุยกันนะคะ”

นิรมลเข้าประชุม กว่าจะออกมาจากห้องประชุมได้ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้ว หลังจากนั้นเธอนั่งทำงานต่อ จนเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า มองนาฬิกาที่ผนังห้องอีกทีก็พบว่าใกล้จะห้าโมงเย็น หญิงสาวนึกถึงเอกภพที่วันนี้ยังไม่ได้คุยกัน จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ

‘บีอยู่ไหน ยังทำงานอยู่หรือเปล่า’

‘อยู่สิ นี่หัวหน้ากำลังเร่งงานบีอยู่เลย แล้วนี่จิ๋วกลับหรือยัง’

‘ยังเหมือนกัน จิ๋วกำลังสรุปงานประชุมอยู่’

‘ดีๆ ถ้างั้นบีขอทำงานก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน’

นิรมลวางโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ เขาก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้พบเจอกับเขาครั้งแรก

............................................

นิรมลและเอกภพรู้จักกันเมื่อมาฝึกงานที่บริษัทนี้ แต่ทั้งสองคนฝึกงานกันคนละแผนก เอกภพได้ฝึกงานที่แผนกคอมพิวเตอร์ ส่วนนิรมลฝึกงานที่แผนกขาย พี่ๆ พนักงานต่างก็เรียกน้องนักศึกษาฝึกงานทุกคนให้มารู้จักกัน ซึ่งในตอนนั้นมาฝึกงานด้วยกันรวมทั้งหมดห้าคน

“ถึงจะอยู่กันคนละมหาวิทยาลัยก็ควรรู้จักกัน หรือฝึกกันคนละแผนกก็เถอะ สักวันพวกน้องๆ อาจจะพึ่งพากันได้”

ในตอนนั้นพี่ๆ ในแผนกต่างก็ให้นักศึกษาฝึกงานคอยช่วยประสานงานระหว่างแผนก เพื่อให้น้องๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น โดยเฉพาะครั้งแรกที่นิรมลถูกใช้ให้ไปขอเอกสารจากเอกภพ

“นาย พี่ที่แผนกจะขอให้นายปรินต์สเปกคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ให้หน่อย ขอเดี๋ยวนี้เลย”

เอกภพมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก ไม่พูดหรือหยิบเอกสารที่เธอต้องการเสียที ทำให้นิรมลเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง

“นายได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย”

เอกภพยังคงไม่ตอบคำถามอะไร เขานั่งมองเครื่องคอมพิวเตอร์หน้าตาเฉย จนนิรมลเริ่มรู้สึกโมโห แต่แล้วเสียงเครื่องปรินต์ก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบ เอกภพหยิบเอกสารที่ปรินต์เสร็จเรียบร้อยมาให้อีกฝ่าย

“เอ้า นี่เอกสารที่ต้องการ”

“นาย!”

เอกภพยังคงนิ่งเฉยไม่ยอมพูดอะไรต่อ นิรมลหยิบเอกสารกำลังจะหันหลังกลับ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงพูดดังมาจากด้านหลังอีกครั้ง

“คนเขาอุตส่าห์ทำงานให้ แทนที่จะขอบใจกันสักคำก็ไม่มี”

“ขอบใจมากกก”

นิรมลพูดลากเสียงแสดงความขอบคุณ เอกภพมองหน้าหญิงสาว ใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาเป็นประกาย เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งเดินมาตามหญิงสาว เพราะเห็นว่าหายไปนาน

“เอกสารยังไม่ได้อีกเหรอนิว พี่ๆ เขาให้ฉันมาตามแกเนี่ย

“ได้แล้ว ไปกันเหอะแก”

         

            หลังจากครบระยะเวลาการฝึกงานสี่เดือนแล้ว ผู้จัดการก็เรียกนักศึกษาฝึกงานทั้งห้าคนมาที่ห้องประชุมเพื่อสรุปงาน และเล่าให้ทุกคนได้รับรู้อย่างทั่วถึง

“ผมดีใจมากนะที่นักศึกษาฝึกงานรุ่นนี้มีคุณภาพมากทีเดียว ถึงจะมาจากต่างมหาวิทยาลัยกันก็ตาม และผมมีข่าวดีที่จะบอกพวกคุณทั้งห้าคนด้วยนะ”

ทั้งห้าคนนั่งนิ่ง สายตาทุกคนหันหน้ามามองผู้จัดการด้วยความตั้งใจรับฟังว่าข่าวดีคืออะไร

“เนื่องจากพวกคุณช่วยงานบริษัทได้ดีมากๆ และผมเห็นความตั้งใจของพวกคุณทุกคน ทางบริษัทจึงจะจ้างงานพวกคุณ มีสองในห้าคนนี้ที่มีผลงานเข้าตาเราครับ”

ทั้งห้าคนหันมามองหน้ากัน สายตาต่างมีคำถามว่าใคร ทางด้านผู้จัดการไม่ปล่อยให้สงสัยนานนัก เขาพูดต่อ

“คนที่บริษัทเลือกไว้ คือ น้องเอกภพ แผนกคอมพิวเตอร์ กับน้องนิรมล แผนกการขายนะครับ”

คนที่เหลือหันมามองหน้าเอกภพและนิรมล ผู้จัดการพูดอธิบายต่อ

“สำหรับเหตุผลที่เลือกสองคนนี้ น้องเอกภพเขียนโปรแกรมแล้วนำไปเสนอท่านประธานบริษัทและผู้บริหาร ทุกคนชอบมาก เพราะโปรแกรมนี้สามารถนำไปใช้ได้จริง และมีแผนที่จะพัฒนาให้สามารถขายได้ ส่วนน้องนิรมลสามารถขายของให้ลูกค้าวีไอพีได้ ลูกค้าประทับใจในการบริการ และชมว่าสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดีด้วย”

ผู้จัดการยกยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะหันไปยังนักศึกษาอีกสามคนที่เหลือ

“ส่วนน้องๆ อีกสามคน ก็ทำงานดีนะครับ ถ้าใครจะสมัครงานที่นี่ ทางบริษัทจะรับไว้พิจารณาเป็นพิเศษ แต่อาจจะต้องไปทำงานแผนกอื่นๆ หรือน้องอาจจะได้พบเจอกับแผนกที่เหมาะสมกับน้องได้นะครับ”

นักศึกษาฝึกงานทั้งสามคนต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยความหวัง ส่วนนิรมลและเอกภพมองหน้ากันด้วยความดีใจที่มีงานทำหลังจากเรียนจบทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 15-2-หาจนเจอ (2)

    หลังจากวันนั้น ธันวาก็ฝันซ้ำๆ แบบเดิมติดต่อกันถึงเจ็ดวัน ในแต่ละครั้งเขาจะพูดบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับปากกรกฎ จนกระทั่งในคืนที่เจ็ด เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่มียังคงฝันซ้ำๆ เช่นนี้ รู้สึกเอะใจ คิดว่าน้องชายน่าจะต้องการให้เขาไปจัดการเรื่องที่กรุงเทพฯ และเริ่มมั่นใจว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับน้องชาย“พี่ช่วยมาดูแลห้องพักให้ผมที พี่จะขายหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่พี่เลยครับ”ธันวาเดินเข้ามาหากรกฎที่ยืนมองเขาด้วยแววตาที่อาลัยอาวรณ์ เขาคิดว่าน้องชายมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากจะพูด“กฎมีอะไรจะบอกกับพี่หรือเปล่า นี่พี่ฝันเรื่องเดิมๆ แบบนี้ติดกันเจ็ดวันแล้วนะ”กรกฎยิ้ม แต่ใบหน้าของเขายังคงเศร้าหมองอยู่“ผมอยากให้พี่ไปกรุงเทพฯ จัดการเรื่องทรัพย์สินของผมครับ ถ้าพี่ไปที่โน่น คุณนิรมลจะช่วยจัดการเรื่องให้พี่เอง ผมขอร้องนะครับ”ธันวานิ่งเงียบ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาคิดวนเวียนอยู่ว่าควรจะไปดีไหม จนไม่ได้สังเกตว่ากรกฎกลับค่อยๆ ถอยห่างออกไปจากเขา กระทั่งได้ยินเสียงกรกฎดังแว่วมาจากที่ไกล“พี่ไปกรุงเทพฯ ให้ได้นะครับ ผมหมดเวลาแล้ว”ธันวาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขานึกเอ

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 15-1-หาจนเจอ (1)

    นิรมลและทีมทำงานที่จังหวัดกาญจนบุรีเพียงสองสัปดาห์ พวกเขาก็ได้ผลงานเกินเป้าหมายที่วางไว้ ลูกค้าที่ไปนำเสนอสินค้าพากันซื้อจนสินค้าที่เอาไปไม่เพียงพอ“ผมคุยกับทางท่านประธานแล้ว ท่านบอกว่าทีมเราทำงานกันได้ดีมาก และอนุญาตให้พวกเราหยุดพักผ่อนกันได้ ถ้าใครไม่มีงานด่วนก็กลับไปทำงานวันจันทร์ หรือจะอยู่เที่ยวแถวนี้ก่อนก็ได้นะ”“ไชโย!”ทุกคนร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ โดยเฉพาะชมพูนุทที่หันมาคุยกับนิรมลและเอกภพ“วันพรุ่งนี้ได้กลับบ้านแล้ว”นิรมลนิ่งเงียบ ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว ส่วนเอกภพเขาหันไปพูดกับทุกคน“ผมว่าพวกเรามาเก็บของกันดีกว่า วันพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางตั้งแต่เช้า ดีไหมครับหัวหน้า ดีไหมนิว ชมพู”ทุกคนพยักหน้าเห็นดีด้วย โดยเฉพาะนิรมลที่ไม่ได้พยักหน้าเฉยๆ แต่กลับดึงมือชมพูนุทให้ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน“ไปเถอะชมพู ของแกเยอะด้วย กว่าจะเก็บเสื้อผ้า เก็บเครื่องสำอางต่างๆ ของแกอีก”............................................เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ และทยอยขนกร

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 14-2-แถบชายแดน (2)

    หลังจากที่ชมพูนุทและหัวหน้าขึ้นรถตู้ออกไปแล้ว นิรมลกดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง“พวกเขาไปแล้ว พี่กล้ามารับนิวกับหนึ่งได้เลยค่ะ”เพียงครู่เดียว รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งก็วิ่งมา มันเป็นรถกระบะสีดำมีแคปให้นั่ง เอกภพมองรถแล้วพยักหน้าบอกกับนิรมลให้เข้าไปนั่งที่แคปด้านหลังจะดีกว่า“อำเภอสังขละบุรีนี่ไกลไหมคะพี่กล้า”“ไปอีกประมาณห้าสิบกิโลเมตร หรืออาจจะไปไกลกว่านั้นเพราะต้องไปแนวตะเข็บชายแดน ถ้ายังไงคุณลองเปิด GPS ด้วยก็ได้ จะได้รู้ว่าเราหลงกันหรือเปล่าด้วย”เอกภพที่นั่งด้านหน้าคู่กับคนขับรถจึงต้องเป็นคนที่เปิด GPS เพื่อช่วยเพชรกล้าดูทางตามที่อยู่ตามที่หญิงสาวจดมา“ตอนนี้หาบ้านเลขที่ตามสมุดนี่ไม่เจอเลยนิว เอายังไงดีครับ”เอกภพถามแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ดู ในขณะที่รถยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ เพชรกล้าขมวดคิ้ว เขากำลังนั่งนึกถึงสถานที่ที่กำลังจะไปว่าควรจะไปที่ไหนดี“ถ้าอย่างนั้น สถานที่ที่ง่ายที่สุด หาง่ายที่สุด น้องลองเลือกสถานที่เป็นที่ว่าการอำเภอสังขละบุรีก่อนก็ได้ ตอนนี้ไปให้ถึงก่อน แล้วค่อยว่ากันเรื่องบ้านเลขที่นี้ว่ามันมีไหมดีกว่านะน้องนิว”

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 14-1-แถบชายแดน (1)

    หลังจากกลับมาจากตลาดนัดมาบ้านเช่าชั่วคราว นิรมลที่กำลังเดินเข้าบ้านก็ถูกดึงมือเสียก่อน เธอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเอกภพที่เป็นคนดึงมือเธอไว้“มาคุยกันก่อนสิจิ๋ว”เอกภพเดินนำหน้าเธอ เขาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน หน้าเอกภพคิ้วขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องให้คิด ใบหน้าที่เคยอารมณ์ดีหรือยิ้มหัวเราะให้เธอกลับกลายเป็นใบหน้าที่ดูจริงจัง ทำให้นิรมลคิดว่าเขาคงจะเครียดหรือคิดเรื่องอะไรอยู่“บีมีอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาดูจริงจัง จิ๋วทำอะไรผิดหรือเปล่า”“ผู้ชายคนที่คุยด้วยที่ตลาดคือใครเหรอ ทำไมถึงดูสนิทสนมกันจัง”เอกภพถาม หน้าตาดูจริงจัง นิรมลเกือบถอนหายใจ แต่เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองมาแบบต้องการคำตอบ เธอจึงรีบอธิบาย“เขาคือพี่เพชรกล้า สามีของแก้วตาไง คือว่า...จิ๋วมีเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือน่ะ”“ทำไมต้องขอความช่วยเหลือด้วยล่ะ ทำไมมีอะไรไม่เห็นจะเล่าเรื่องให้บีฟังบ้างเลย”นิรมลแอบถอนหายใจไม่ให้เอกภพเห็น หญิงสาวเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟังตั้งแต่ต้นเท่าที่เธอจำได้ รวมทั้งเรื่องราวที่เธอมีสัมผัสพิเศษ แต่เอกภพที่ฟังแล้วกลับยิ่งคิ้วขมวดมากขึ้น เมื่

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 13-2-ไปเมืองกาญจนบุรี (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลเดินออกมาจากห้องพัก พอดีกับที่รติมา แฟนของกรกฎเปิดประตูออกมาจากห้องข้างๆ เช่นกัน นิรมลทักทายอีกฝ่ายทันที“สวัสดีค่ะคุณรติ เมื่อคืนเข้ามาพักที่นี่เหรอคะ นิวไม่รู้เลยว่าคุณมา”“ค่ะ รติเข้ามาที่นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว รติมาเก็บของ ตั้งใจจะไปพักที่บ้านแม่ค่ะ”รติมาพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง นิรมลเดินมาหาอีกฝ่ายเพื่อจะมาปลอบใจ เธอมองอีกฝ่ายถือของเต็มทั้งสองมือจึงอาสาช่วยเหลือ“ถ้าอย่างนั้นนิวช่วยนะคะ กล่องที่วางหน้าห้องนั่นก็ด้วยใช่ไหม”“ขอบคุณค่ะคุณนิว”รติมายิ้มให้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ นิรมลยกกล่องกระดาษขึ้นมา ไม่หนักสักเท่าไรหรอก พอถือไหวในระหว่างที่กำลังลงลิฟต์ นิรมลก็ชวนอีกฝ่ายคุยถึงเรื่องของกรกฎ“ว่าแต่ทำไมคุณรติไม่อยู่ห้องนี้ต่อล่ะคะ ทำไมย้ายออกไป?”“บ้านแม่อยู่ใกล้ที่ทำงานรติมากกว่าค่ะ อีกอย่างรติก็รู้สึกผิดกับกฎมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แล้วก็...”รติมาพูดแล้วหยุดชะงัก เธอลังเลว่าควรจะเล่าดีหรือไม่ นิรมลที่กำลังฟังอยู่จึงซักถามให้อีกฝ่ายเล่าต่อ“ยังไงต่อเหรอคะคุณรติ”“เมื่อคืน

  • 90 วันก่อนฉันเป็นศพ   บทที่ 13-1-ไปเมืองกาญจนบุรี (1)

    เมื่อเข้าห้องพักได้ นิรมลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทร. มาหา แต่ปรากฏว่าหน้าจอโทรศัพท์ไม่มีข้อความหรือสัญญาณสายเรียกเข้าขึ้นมาเลย ทำให้หญิงสาวยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างแต่ภาพที่เห็น...ทำเอานิรมลมือไม้อ่อนจนโทรศัพท์แทบจะหลุดจากมือ ตรงบริเวณประตูห้อง เธอเห็นวิญญาณของกรกฎยืนมองเธออยู่ แต่เขาไม่ได้เข้ามาใกล้มากกว่านี้วิญญาณกรกฎยิ้มให้นิรมล เขาไม่ได้มาหาในสภาพที่น่ากลัวอีก และในวันนี้เขามาบอกรายละเอียดในการตามหาพี่ชายให้หญิงสาวรับรู้ และขอให้เธอช่วยทำอะไรบางอย่างในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำเองได้แล้ว“พี่ชายของผมอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาทำงานอะไร แล้วจะยอมมาดูแลห้องพักให้ผมหรือเปล่า แล้วก็...ผมอยากขอให้ช่วยสืบเรื่องแฟนผมด้วยว่าเธอจงใจหรือตั้งใจทำร้ายผมหรือเปล่า”นิรมลนิ่งเงียบฟังข้อมูลที่กรกฎบอก คิ้วขมวดและนึกอะไรบางอย่าง เธอถามเขาก่อนที่กรกฎจะพูดออกมา“ถ้าอย่างนั้นต้องคิดเรื่องการตามหาพี่ชายของคุณก่อนก็แล้วกัน พี่ชายคุณชื่ออะไรคะ แล้วที่บอกว่าอยู่จังหวัดกาญจนบุรีนี่อยู่ตรงไหน จังหวัดนี้มันไม่ใช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status