แชร์

บทที่5.ก้อนเมฆสีเทา

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 05:17:48

ยามสายของวันจันทร์ในรั้วมหาลัยแห่งหนึ่ง

ในห้องสี่เหลี่ยม อีฟนั่งหลังงอมือซ้ายเท้าคางสายตาของเธอมองดูก้อนเมฆสีเทาเกาะกลุ่มอยู่ด้านนอกหน้าต่างกระจกพลางนิ้วยาวจับปากกาค้างไว้ แนนซี่ชำเลืองมองด้วยความสงสัย ดูอีฟไม่มีสมาธิและตั้งใจฟังการบรรยายของอาจารย์ที่ถือไมค์อยู่หน้ากระดานไวท์บอร์ดเลย ... จนจบชั่วโมงเรียน

“เป็นไรป้าว อีฟ” แนนซี่เอ่ยถาม ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมลุกออกจากห้อง

“เปล่า แนนซี่” อีฟตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“ได้ข่าว ว่าใครบางคนแถวนี้หมดตัวออกไปรับจ๊อบกลางคืนดึกๆ ดื่นๆ สงสัยไปเป็นหญิงบำเรอ จนแฟนเก่าทนไม่ไหวต้องไปหาหญิงดีที่เพียบพร้อมอย่างลิซซี่”

เสียงนินทาดังมาจากกลุ่มเพื่อนของลิซซี่ที่อยู่ห่างไปแค่ไม่กี่ก้าวพลางชายตามาที่อีฟตั้งใจให้อีฟและแนนซี่ได้ยินทำให้เข้าใจได้ชัดเจนว่ากำลังสื่อถึงใคร

คำพูดเหล่านั้นไม่เข้าหูของแนนซี่ยิ่งนัก สาวพลัสไซซ์หันมองด้วยสายตาไม่พอใจเมื่อได้ยิน ยกแขนเสื้อขึ้นเหนือไหล่เตรียมจะเดินไปหากลุ่มปากหมาพวกนั้น

อีฟเห็นท่าทีของเพื่อนจึงรีบลุกจากเก้าอี้ไปฉุดแขนออกจากห้อง

“ไปเถอะแนนซี่”

“เธอจะดึงฉันทำไม ปล่อยให้มันว่าเธอทำไม”

“เอาน่า ไม่เป็นไรเพื่อน ไม่กี่เดือนก็ไม่ได้เจอพวกหล่อนละ ฉันไม่แคร์หรอกเรื่องแค่นี้เอง”

อีฟกับแนนซี่เดินออกมาด้วยอาการหัวเสียนิดหน่อย มาเจอไอวายืนเป็นสง่ารอลิซซี่ที่กำลังตรงไปหาเขา อีฟมองเขาด้วยสายตาเคืองเพราะยิ่งตอกย้ำคำพูดของกลุ่มเพื่อนของลิซซี่เมื่อสักครู่ให้คิด แต่เธอก็ไม่คิดจะเข้าไปติเตียนไอวา เพราะเธอก็เจ็บมาพอสมควรกับผู้ชายแบบเขา

“อีฟ” แนนซี่เรียกด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“ถ้าเธอไม่อยากทำงานกับเจ๊แตงแล้วหรือรู้สึกไม่ชอบงานนั้น ลองหางานอื่นดูไหมเพื่อน”

อีฟละสายตาที่มองไอวาเลื่อนตาลงตอบแนนซี่อย่างไม่แน่ใจ

“อืม กำลังหาอยู่เหมือนกัน”

ในขณะที่กลุ่มเพื่อนของลิซซี่ยังเกาะกลุ่มใบหน้าหัวเราะพลางปากขยับ ชายตามาที่ทั้งสองราวเรื่องยังไม่จบ อีฟจ้องกลับไปในใจคิดว่าอะไรกันหนา แต่เลือกที่จะไม่แคร์

“เราไปกันเถอะแนนซี่” ..

……….

บนคอนโดสูงวิวเมืองบนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยเอกสารตารางแพลนงาน แซมนั่งหน้าเครียดจ้องหน้าโน้ตบุ๊ก ช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจของหนุ่มโปรแกรมเมอร์ ทุกอย่างไม่ค่อยราบรื่นเท่าไรนักด้วยเงินลงทุนเหลือก้อนสุดท้ายที่มีน้อยนิดแต่ธุรกิจของแซมใช้สมองมากกว่าเงินทุน เริ่มต้นเวลายังไม่ลงตัว ทำให้พอยังมีเวลาที่จะคบกับใครสักคน นิ้วคลึงขมับคิ้วขมวดดวงตาจ้องบนกระดาษ เลื่อนมือขยำกระดาษโยนทิ้งลง ลุกขึ้นไปพิมพ์ข้อความถึงใครสักคนช่วยให้ชื่นบาน

“Hi eve”

“How are you today?” (สบายดีไหม)

“Can we meet this evening?” (เย็นวันนี้ เราเจอกันได้ไหม)

….

ในช่วงเย็นบนถนนรถติดหนัก อีฟยืนเบียดกับแนนซี่อยู่บนรถเมล์ที่คนแน่นเพื่อกลับห้องสองสาวขยับตัวไม่ได้เลยใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงที่พัก

“อีฟ แนนซี่”

เสียงตะโกนเรียกของเจ๊แตงที่ยืนผัดอาหารอยู่หน้าเตาพลางกวักมือ

“ค่ะ” ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน

“แวะหาเจ๊แตงกันก่อน” อีฟพูดพลางก้าวไปหาเจ๊แตง

“นั่งเลยจ้ะ สาวๆ” เจ๊แตงเตรียมยกกับข้าวมาเสิร์ฟให้ทั้งสอง

“ทานข้าวกันก่อนนะ เจ๊ทำอาหารเหนือเผื่อด้วยจ้าวันนี้” เจ๊แตงเป็นคนใจดีมีน้ำใจคอยช่วยเหลือทั้งสองตลอดและ เป็นคนจังหวัดเดียวกันกับอีฟที่ภาคเหนือ

บนโต๊ะเจ๊แตงได้จัดเรียงจานอาหารให้ทั้งสองหลังจากที่พึ่งผ่านการเดินทางที่น่าเบื่อบนท้องถนน อีฟก็ได้นั่งพักผ่อนคลาย พลางหยิบมือถือขึ้นมาดู ตาจ้องบนข้อความของแซม คิดยังลังเลในใจ เสียงของเจ๊แตงก็เอ่ยขึ้น

“คืนนี้ไปทำงานไหมอีฟ”

“อือ..คิดว่ายังค่ะเจ๊ พรุ่งนี้มีเรียนรอบเช้า อีกวัน” อีฟตอบเจ๊แตงสายตาคงมองอยู่ที่หน้าจอมือถือ แล้วนิ้วเรียวก็พิมพ์ตอบตามสิ่งที่เป็นจริง

“I’m near my apartment right now and I don't’ think I be going to the club tonight” (ตอนนี้ฉันอยู่ใกล้อะพาร์ตเมนต์และคิดว่าคืนนี้คงไม่ได้ไปที่คลับ)

แซมที่กำลังหัวหมุนอยู่กับแพลนงานที่ไม่ลงตัวสายตาเลื่อนมองจอมือถือตามเสียงข้อความ

“eve”

แซมอ่านข้อความ แต่เสียงหัวใจเรียกร้องว่าอยากเจอเธอ

“Is it possible I can go see you now?”

“ใครอะ อีฟ” แนนซี่เงยหน้าถามอีฟที่กำลังจ้องแต่มือถือโดยยังไม่เริ่มทานเลย

“แซม หนุ่มแดนนอกเจอกันวันก่อน อยากมาหา”

“มาสิ อยากเห็น” แนนซี่ที่ไม่ค่อยชอบไอวาหนุ่มเพลย์บอยเป็นทุนเดิมอยากให้เพื่อนได้ลองคบคนอื่น

“แซมจะมาเหรอ มาสิๆ มาได้นะอีฟยินดีต้อนรับเลยจ้า” เจ๊แตงพูดเสริมขึ้นเมื่อได้ยิน

อีฟนั่งนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ไม่มีอะไรต้องปิดบังก็มาได้เลยตามหัวใจ

“Yes” (ตกลงค่ะ)

แซมที่ยังรอคำตอบของอีฟเมื่อได้อ่านคำ ว่า "ตกลง" เขาพับหน้าจอโน้ตบุ๊กเตรียมออกไปตามโลเคชั่นที่อีฟส่งมา

มอไซค์พาหนุ่มหล่อมาส่งหน้าอะพาร์ตเมนต์ตรงตามหมุดที่ปักไว้ตามเวลาที่นัด เสื้อผ้าฟรีสไตล์บนรองเท้าแตะหนู่มสูงยาวขาวสะอาด เดินยิ้มมาหาอีฟที่ยืนรอรับอยู่หน้าร้านเจ๊แตง

“Hi, how’s today?” (สวัสดีครับวันนี้เป็นอย่างไร)

“Good” (ดีค่ะ)

สายตาของแซมมองอีฟสวมเสื้อเชิ้ตขาวติดเข็มกลัดบนอกซ้ายกระโปรงดำ ก็พอรู้ว่าแท้จริงแล้วอีฟยังเรียนอยู่ซึ่งเธอยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าเป็นใครมาจากไหน

“Hi, Sam welcome” เจ๊แตงยิ้มยืนต้อนรับแซมเข้ามานั่งที่ในร้าน

แนนซี่ลุกขึ้นเชิญแซมมานั่งร่วมกัน อีฟแนะนำแซมให้รู้จักแนนซี่เพื่อนของเธอ

สายตาหวานพลางม้วนตัวเอ่ยเบาๆ หล่อมากเลยอีฟ เจ๊แตงเดินมาตบไหล่แนนซี่เบาๆ

“เบาๆ มึง”

แซมค่อนข้างจะเป็นหนุ่มชิลชอบทานอาหารไทยมีมิตรสัมพันธ์กับทุกคนได้ง่าย บนโต๊ะอาหารที่ดูจะบ้านๆ แต่บทสนทนาเต็มไปด้วยความจริงใจ

อีฟเอียงหน้าถามแซม

“Would you like a drink?” (คุณอยากดื่มเครื่องดื่มไหม)

“Sure” (ได้สิ)

พลันเสียงฟ้าร้องดังแทรกส่งสัญญาณว่ากำลังจะตก อีฟรีบขอตัวพาแซมไปร้านสะดวกซื้อเพื่อหาเครื่องดื่มก่อนฝนจะมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่18.บทสุดท้าย

    สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องของแซมอาจเพราะด้วยความกดดันของทั้งสองที่ต้องการเพียงระยะห่างเท่านั้นและอีฟก็แค่ตั้งใจจะไปปรึกษาเรื่องงานของเธอกับแซม ยังไม่ทันได้ปริปากพูดถึงมันเลยกลับต้องจบลงแบบนี้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างแต่บทสุดท้ายคือตอนนี้เธอเศร้าใจนัก และคำปลอบใจที่พูดกับตัวเองก็มีเพียงอย่างเดียวคือ ต้องมูฟออน เมื่อถึงห้องเธอก็ไม่รอช้าคว้าโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดแล้วตอบกลับอีเมลงานที่รอคำตอบจากเธอมาหลายวันแล้วด้วยใจที่แน่วแน่มั่นใจและพร้อมเดินทางในวันถัดไปโดยไม่จำเป็นต้องรีรอ วันต่อมา… บางครั้งโชคชะตาก็พลิกผันรวดเร็วเกินตั้งตัวให้เราเดินตามทางที่ถูกกำหนดมาตามเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เธอได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆแพ็กลงกล่องเพื่อจัดการส่งให้กับบริษัทขนส่งที่กำลังจะมารับ หนังสือที่ตั้งวางอยู่ด้านหน้ามือหยิบลงใส่กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับหนังสือเล่มโปรดของเธอแต่แล้วดวงตาต้องสะดุดกับสมุดบันทึกรักที่เคยจดบันทึกไว้เธอหยิบขึ้นมาแล้วเพ่งมองชวนให้นึกถึงและคิดว่าจะเปิดดูและอ่านอีกรอบแต่แล้วทันใดนั้นเสียงประตูหน้าห้องก็ดังแทรก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครคะ?” “แม่บ้านจ้า” เธอตั

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่17.ถึงเวลาต้องเลือกทางเดิน

    ที่ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊แตงอีฟและแนนซี่ได้ทยอยขนของลงมาไว้บ้างแล้วเพื่อรอครอบครัวของแนนซี่จะมารับในไม่ช้า บนโต๊ะอาหารทุกคนนั่งรับประทานอาหารพร้อมสนทนากันไปพลางๆพลันสายตาหลายคู่ต้องหันมองไปทางเดียวกันเพราะรถเบนซ์คันหรูที่ดูคุ้นตาและนานๆจะมีเข้ามาที่อะพาร์ตเมนต์ราคาประหยัดเช่นนี้ซึ่งดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นน่าจะเป็นคันเดียวกันที่เคลื่อนเข้าเมื่ออีฟและแนนซี่จ้องมองไปยังแผ่นป้ายทะเบียนนั้นแล้วก็ตรงเป๊ะและคิดว่า “ต้องใช่!หล่อนแน่ๆ”แต่วันนี้กลับมีสาวสวยสวมแว่นดำเดินออกมาจากรถมันเงาเพียงลำพังไร้เงาชายหนุ่มข้างกาย ลิซซี่ยืนบนรองรองเท้าส้นแหลม คอหันซ้ายหันขวาแล้วสายตาสะดุดเห็นอีฟและแนนซี่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆหอหล่อนจึงรีบเดินดุ่มๆมาแล้วเอ่ยถาม “อีฟเจอไอวาไหมฉันตามหาเขาอยู่เขาพยายามหลบหน้าหลบตาฉัน”เธอพูดด้วยเสียงที่กระซิกๆคล้ายกับจะร้องไห้ใต้แว่นดำแต่ไร้ซึ่งหยดน้ำตาต่อให้ลิซซี่จะสวยเพอร์เฟกต์แค่ไหนแต่หล่อนก็เป็นคนเอาแต่ใจให้ได้มาซึ่งทุกอย่างตามประสาลูกคนรวยที่ถูกสปอยล์แต่ตอนนี้เสียงของหล่อนที่พูดกับอีฟได้อ่อนปวกเปียกต่างจากเมื่อก่อนเพียงเพื่อต้องการให้ได้สิ่งที่หล่อนต

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่16.ความสัมพันธ์เหินห่าง

    ในห้องสี่เหลี่ยมที่บรรยากาศอึมครึมเพราะชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นและจริงจังตอนนี้เขาได้เก็บตัวปิดประตูสังคมนั่งหน้าดำคร่ำเครียดปล่อยหนวดเครายาวสมองหมกมุ่นหนักกับงานที่ไม่ลงตัว แม้แต่อีฟคนที่กำลังคบหาเขาก็ไม่ได้สนใจตอบข้อความของเธออย่างเช่นเคยเพราะตอนนี้เขาแทบจะถวายชีวิตให้กับงานเลยก็ว่าได้ สามารถยอมแลกได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จแต่เขาอยากระบายออกมาบ้างในบางครั้งแล้วเสียงของชายหนุ่มได้ตะโกนลั่นปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดจากสมองพลางมือขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วปามันติดกำแพงผนัง..ที่อะพาร์ตเมนต์ในที่พักอาศัยของอีฟและแนนซี่ ตอนนี้ทั้งสองกำลังยุ่งกับการเก็บข้าวของ แนนซี่มองดูรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือเป็นภาพของเธอกับอีฟในชุดนักศึกษาสมัยปีหนึ่งที่ถ่ายคู่กันด้วยความสนิทสนมด้วยความปลาบปลื้มที่มีเพื่อนดีๆเช่น อีฟ แล้วเก็บใส่กล่องสี่เหลี่ยมส่วนตัวของเธอ ข้าวของเครื่องใช้ที่แพ็กไว้เรียบร้อยพร้อมขนย้ายเพื่อเตรียมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างถาวร ในขณะที่อีฟมือแพ็กกล่องสลับหยิบมือถือขึ้นมาดูเป็นระยะๆเพื่อเช็กข้อความแซมที่จะตอบกลับเธอ“มีอะไรหรือเปล่าอีฟ เช็กมือถือตลอดเลย”แนนซี่เอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าอีฟพะวงดูมื

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่15.เฉลิมฉลอง

    หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าของวันที่อากาศสดใสปลอดโปร่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ สองสาวใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียนและมีความผูกพันกับสถานที่เรียนแห่งนี้ก็มาถึงช่วงท้ายสุดของชีวิตนักศึกษา นักศึกษามากมายหลายคนต่างยื่นหน้าจ้องบนกระดาษที่แปะไว้ที่บอร์ดของคณะพลางนิ้วไล่เช็กรหัสของตัวเอง “อีฟฉันผ่านแล้ว”แนนซี่กระโดดกอดอีฟด้วยความดีใจเมื่อเห็นรหัสประจำตัวและชื่อของตัวเองติดอยู่ว่าสอบได้และอีฟยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำสำเร็จเมื่อเห็นชื่อของเธอว่าสอบผ่านด้วยเช่นกันและตัวเธอเองจะไม่โอเคแน่ๆถ้าต้องเสียเวลาสอบใหม่อีกรอบเพราะฐานะการเงินที่ฝืดเคืองไม่สามารถประคองชีวิตต่อไปได้อีกหลายเดือนหากยังไม่มีงานประจำทำแล้ววันนี้เธอก็ทำสำเร็จซึ่งเธอก็ภูมิใจกับตัวเองอยู่ไม่น้อย สองสาวที่แพลนเอาไว้เป็นเดือนแล้วว่าจะรวบรวมเงินกันจัดงานฉลองเล็กๆกันที่ร้านข้างหอถ้าสอบผ่านและสำเร็จทั้งสองคน “แนนซี่ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊แตงนะเราต้องเฉลิมฉลองกันตามที่เราได้สัญญากันไว้แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปก่อนนะเพื่อนมีนัดกับแซมไว้เจอกันเย็นนี้นะ ” อีฟพูดพลางก้าวถอยหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่แจ่มใสและเธอก็ยิ้มไม่หุบระหว่างการเดินทางไปหาชายหนุ่มที่คบแล

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่14.บททดสอบ

    เวลา10โมงเช้าบรรยากาศในห้องสอบที่เงียบทุกคนต่างเพ่งตาทำข้อสอบอีฟใบหน้าผ่อนคลายอย่างมีสมาธิเธอรู้สึกดีใจที่ถึงวันนี้เสียทีเพราะเท่ากับว่าเธอได้นับเวลาถอยหลังถึงเส้นชัยแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอันรวดเร็วเธอจะผ่านประสบการณ์ทำงานที่แปลกใหม่ในชีวิตจนได้พบกับใครบางคนที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอ พอถึงช่วงเวลาบ่ายหลังจากสอบเสร็จอีฟกับแนนซี่กำลังนั่งเม้าท์กันตามประสาเพื่อนสนิทใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ทั้งสองต้องเหลียวมองตามเสียงผู้หญิงที่กำลังพูดไฟแลบด้วยท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจและนั่นคือ ไอวาและลิซซี่กำลังทะเลาะกัน “สองคนนั้นเขาทะเลาะอะไรกัน” “ฉันว่าสงสัยเจอฤทธิ์หนุ่มแบดบอยเข้าให้ไอวาก็คงทำนิสัยเดิมๆ เจ้าชู้ไปทั่วแหงๆ แต่ว่าสองคนนั้นคบกันแป๊บเดียวเองนะไม่ทันไรก็เผยสันดานออกมาละ สมน้ำหน้า จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรยัยลิซซี่ที่ขี้เหวี่ยงขึ้วีนขนาดนั้น กับคาสโนว่าตัวพ่อ”แนนซี่พูดรัวชุดใหญ่ แต่อีฟเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเฉยๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วอีฟก็มองดูเวลาเพราะเธอได้เวลาต้องไปเปลี่ยนกะที่ร้านขนมหวานกลางเมือง“แนนซี่ ฉันจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านขนมเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นที่ห้องนะ ” “ได้สิ แล้วเจอกัน” แน

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่13.คอนโดสูงกลางเมือง

    หลังจากเจ๊แตงได้จัดการติดต่อหางานพาร์ตไทม์ช่วยอีฟให้ได้ทำงานแล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงานพาร์ตไทม์ในร้านขนมหวานซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ผมยาวถักเปียเรียงซ้อนงามเป็นระเบียบ สาวหุ่นเพรียวในเสื้อยืดสีดำชายเสื้อเข้าในกระโปรงยีนสั้นบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนเดินจัดเสิร์ฟขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งทั้งร้านมีพนักงานสองสามคนสลับกันเข้าออกเป็นกะ เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและอีฟเองก็พึงพอใจกับงานที่ทำและในวันแรกเธอไม่ได้กดดันหรืออึดอัดอะไรเลยดูแล้วงานนี้ก็เหมาะกับเธอด้วยซ้ำแม้รายได้เพียงเป็นค่าอาหารและค่าเดินทางในแต่ละวันซึ่งก็เพียงพอสำหรับเธอในช่วงนี้และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็เสร็จงานของเธอในวันนี้เย็นนี้เธอได้นัดกับแซมไว้ให้มาเจอกันที่หน้าร้านขนมหวานหลังจากเธอเสร็จงาน อีฟยืนก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนมือถือถึงชายหนุ่มที่นัดแล้วเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ“Hi,sam” ทั้งสองสวมกอดทักทายด้วยความคิดถึง “Shall we go? ” (เราไปกันเลยไหม) แซมตั้งใจไว้ว่าจะแวะดูคอมพิวเตอร์เพื่อไว้ใช้สำหรับธุรกิจของเขาที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้แต่นั่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status