เฟอร์รารี่รถคันหรูหักเลี้ยวเข้าจอดในช่องที่จองไว้โดยเฉพาะสำหรับวีไอพี ภายในตัวตึกของคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง ก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จะดับลงทิ้งไว้เพียงความเงียบและบรรยากาศเย็นเฉียบ
คนขับปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยท่าทางสบายๆ ตรงกันข้ามกับเจียร์ที่ยังคงนั่งนิ่ง สายตามองไปตรงหน้า ราวกับยังไม่ทันตั้งตัวกับสถานที่ที่ถูกพามา
“ลงจากรถ” เสียงทุ้มต่ำของร่างหนาบนเบาะคนขับดังขึ้น
เจียร์กลืนน้ำลายลงคอ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือที่สั่นระริกปลดเข็มขัดนิรภัยและเปิดประตูลงจากรถ
“พา….พาเจียร์มาที่นี่ทำไมคะ” เสียงหวานสั่นเล็กน้อยและแผ่วเบา ราวกับไม่แน่ใจว่าควรจะถามหรือไม่
ร่างสูงที่เดินนำหน้าไม่ได้หยุดรอ ทำเพียงแค่เหลือบสายตาหันมามองเพียงครู่เดียว แววตานิ่งและเย็นชาจนเจียร์อ่านความคิดไม่ออก
เขาไม่ได้พูด ปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบแทน เจียร์เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องพามาที่นี่
เจียร์ได้แต่ก้มหน้าเดินตามไปอย่างเงียบๆ กระทั่งเข้าลิฟต์บรรยากาศระหว่างเธอและเขายิ่งชวนให้อึดอัดกระอักกระอ่วน เรียวนิ้วที่จิ้มไปยังตัวอักษร vip เหนือปุ่มตัวเลขทั้งหมด ดวงตาคู่สวยจ้องมองตัวเลขดิจิตอลที่ปรากฏให้เห็นว่าตัวลิฟต์ได้เคลื่อนผ่านชั้นที่เท่าไรด้วยใจจดจ่อ
ทันทีที่ประตูลิฟต์เลื่อนเปิด ล่าแทรกตัวออกไปเดินนำตามทางเดิน ผิดกับร่างเล็กที่มองรอบๆ ด้วยความแปลกตา เจียร์รู้ว่าที่นี่คือคอนโดแน่ๆ แต่น่าแปลกที่ชั้นนี้ทั้งชั้นกลับมีประตูเพียงแค่สองห้อง
กึก! มัวแต่มองไปรอบๆ ไม่ทันดูตรงหน้าว่าคนที่เดินนำหยุดเดินกะทันหัน ทำให้กระแทกเข้ากับแผ่นหลังอย่างไม่ตั้งตัว คนตัวสูงไม่พูดอะไรเพียงแค่ก้มลงมามองด้วยสายตาตำหนิ
“จะ…จะบอกได้หรือยังคะว่าพาเจียร์มาที่นี่ทำไม”
คำถามของเจียร์ยังคงไร้คำตอบเช่นเคย เธอมองการกระทำของเขาอย่างไม่เข้าใจ มือหนาล้วงหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะยกขึ้นแตะบนเครื่องสแกน ไม่นานก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้น ก่อนที่ล่าจะเปิดประตูเข้าไป ไม่ลืมหันมาบอกกับร่างเล็กที่กำลังมองด้วยความงุนงง
“เข้ามาในห้อง”
แม้จะยังไม่ได้คำตอบใดๆ แต่เจียร์ก็ยอมเดินเข้าไปในห้องตามคำสั่งราวกับถูกสะกด เธอทั้งหวาดกลัวและสงสัยปะปนกันในความรู้สึก
ภายในห้องเผยให้เห็นพื้นที่กว้างขวางและการตกแต่งที่บ่งบอกถึงรสนิยมและความหรูหรา ผนังสีเข้มตัดกับเฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ด้านหนึ่งของห้องเป็นกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน มองออกไปเห็นวิวเมือง
“ไปนั่งตรงนั้น” มือหนาผายไปยังโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้า ในตาคมจ้องมองการเคลื่อนไหวของร่างเล็กที่ค่อยๆ เดินไปนั่งตามคำสั่งของตัวเองอย่างว่าง่าย
ท่ามกลางบรรยากาศเย็นเฉียบ ความเงียบเข้าปกคลุมแทนเสียงสนทนา เจียร์ไม่รู้จะวางสายตาไว้ที่ตรงจุดไหนจึงเอาแต่ก้มหน้า เสียงขยับตัวของคนตัวสูงทำให้ร่างเล็กบนโซฟาสะดุ้งเฮือก ดวงตาคู่สวยสั่นระริกก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองด้วยความระแวง พลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ในเวลาต่อมาเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ก้าวขามาทางนี้แต่เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง
มือเล็กประสานเข้าหากันและบีบแน่น เจียร์กำลังถกเถียงกับความคิดของตัวเองไปต่างๆ นาๆ เธอพยายามคิดว่าสถานะของตัวเองในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร หากมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นมันเป็นสิ่งที่ต้องทำตามสัญญาที่เพิ่งเซ็นไป
ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ร่างสูงยืนสูบบุหรี่ด้านนอกระเบียง เพราะเจียร์เอาแต่ก้มหน้าคิดมากมายในหัวจึงไม่สังเกตว่าอีกคนได้กลับเข้ามาในห้องแล้ว เสียงคำถามทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง
“ชอบหรือเปล่า”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามแฝงไว้ด้วยความหมายบางอย่างที่ยากจะคาดเดา ขณะที่มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงโดยสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยบนโซฟา
“ค่ะ” เจียร์พยักหน้า เธอพยายามเก็บท่าทางตื่นกลัวเอาไว้ไม่แสดงออกมาถึงแม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เลยก็ตาม
ร่างสูงก้าวขาเดินเชื่องช้าไปใกล้ ‘ของเดิมพัน’ ที่กำลังนั่งหลังตรงตัวแข็งทื่อ ล่าแสยะยิ้มก่อนจะเค้นหัวเราะในลำคอเบาๆ ทำลายความเงียบที่บรรยากาศชวนกดดันไปทั่วห้อง
“ต่อไปนี้มันเป็นของเธอจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งปี”
“ของ…เจียร์หรอคะ” เสียงหวานถามแผ่วเบาราวกระซิบ ทั้งชีวิตเจียร์ไม่เคยนอนในที่ที่มีราคาแพงอย่างนี้มาก่อน แม้ห้องจะกว้างขวางและหรูหรามากขนาดไหนแต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย ภายใต้ดวงตาคู่สวยกลับเต็มไปด้วยความกังวลตลอดเวลา
“เธอจะต้องมาอยู่ที่นี่ ฉันให้เวลาย้ายของไม่เกินหนึ่งอาทิตย์” ล่าบอกสีหน้านิ่งเฉยแต่น้ำเสียงเน้นชัดไปด้วยการบังคับที่เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
“ทะ…ทำไมถึงปุ๊บปั๊บอย่างนี้ละคะ” เสียงที่ถามนั้นสั่นไหวอย่างชัดเจน เธอมองไปยังร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋าตรงหน้า
ล่าไม่ได้ตอบในทันทีเขายังคงยืนด้วยท่าทางสบายๆ เอียงคอเล็กน้อย พลางยิ้มแต่แววตากลับเย็นชา
“หืม?” เขาลากเสียงต่ำ ดวงตาจับจ้องอย่างไร้ปรานี “เธอลองนับดูสิว่าจากวันที่ฉันลงแข่งจนมาถึงตอนนี้มันนานเท่าไรแล้ว ตอนเซ็นสัญญาเธอน่าจะได้ยินชัดเจนไม่ใช่?”
เจียร์สะอึก ในตาคู่สวยสั่นระริกริมฝีปากขยับแต่ไร้คำพูด ก่อนจะกัดเม้มจนขึ้นสีช้ำ เธอก้มหน้าลงแม้อยากขัดขืนแต่ทำไม่ได้จึงต้องยอมจำนนเพราะสถานะ ‘ของเดิมพัน’ ตีตราอยู่บนหน้าผาก
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ร่างเล็กพยายามกลั้นความกังวลให้ลึกลงไปในความรู้สึก รับรู้ได้ถึงไอเย็นที่ไล้ผ่านผิวกาย ไม่แน่ใจว่ามาจากอากาศหรือมาจากสายตาเย็นชาของคนตรงหน้ากันแน่
“คีย์การ์ดห้อง พร้อมเมื่อไรเธอเข้ามาที่นี่ได้เลย”
เขากำลังเล่นบทสัตว์นักล่าที่ไล่ต้อนเหยื่อให้จนมุมเรื่อยๆ จนไร้หนทางดิ้นหนี
ดวงตากลมกำลังไล่ดูรูปถ่ายที่อยู่ในอัลบั้ม รอยยิ้มบางๆ เผยออกมาบนมุมปากสวย เมื่อเห็นภาพในวันที่เธอเรียนจบ ความทรงจำนั้นยังชัดเจน ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานล่าเล่นใหญ่ด้วยการซื้อกุหลาบให้หนึ่งพันช่อ พร้อมกับคุกเข่าขอแต่งงานในวันนั้น ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาหลายคนที่ร่วมแสดงความยินดี เธอยังจำความสุขในวันนั้นได้ รอยยิ้ม คำมั่นสัญญาทั้งน้ำตา ‘พี่จะรักหนูไปชั่วชีวิต’ เวลาผ่านไปปีกว่า ชีวิตหลังแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่น และในตอนนี้เจียร์กำลังมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้อง หลังจากเธอเรียนจบได้เพียงหนึ่งเดือน ยังไม่ได้แม้แต่จะไปเที่ยวรอบโลกอย่างที่ล่าให้คำสัญญาเอาไว้เลยด้วยซ้ำที่น่าขำจนเธอยังอดยิ้มไม่ได้ทุกครั้งที่นึกถึง ก็คือตอนอัลตร้าซาวด์เพศลูก พอรู้ว่าได้ลูกสาว หัวคิ้วของล่าก็ขมวดเข้มทั้งที่น้ำตายังไหลอาบแก้ม ภาพนั้นเธอจำไม่ลืม และอีกความทรงจำที่ยังตราตรึงตอนนั้น ที่ล่ารู้ว่าเธอท้อง เขานั่งคุกเข่าร้องไห้ออกมานานนับชั่วโมงโชคดีที่เธอไม่ได้แพ้ท้องเลย เพราะคนที่แพ้คือล่า เขากินอะไรไม่ได้อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะยัดอะไรเข้าไปก็อ้วกออกมาทั้งหมด จนผอมซีดไปเลย“เจียร์อยากพาพี่ล่าไปหายายกับพ่อจังเลย
หลายเดือนต่อมา…ร่างสูงในแว่นดำยืนถือดอกไม้ช่อโตไว้ในอ้อมแขนอย่างสะดุดตา ไม่สนใจนักศึกษาที่เดินผ่านไปมา เนื่องในโอกาสครบรอบ ล่าจึงดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ วันนี้เขามารอตั้งแต่ร่างเล็กยังเรียนไม่เสร็จด้วยซ้ำ เสียงซุบซิบของคนที่เดินผ่านไปมาต่างสงสัยว่าผู้ชายเจ้าของใบหน้าฟ้าประทานคนนี้คือใคร บ้างก็รู้ว่าเขาคือคู่หมั้นของสาวสวยที่เรียนอยู่คณะนี้ แม้จะรู้ว่ามีเจ้าของแต่พวกเธอก็อดส่งสายตาทอดสะพานไม่ได้ ทว่า ล่าที่รักเดียวและแน่วแน่ ไม่แม้แต่จะชายสายตามองหญิงคนไหนเลย ตอนนี้เขากำลังนับเวลารอคนรักอย่างจดจ่อ หลังจากอาจารย์สอนเสร็จ บรรยากาศในคลาสก็พลันคึกคักขึ้น เมื่อเพื่อนร่วมชั้นเริ่มส่งเสียงซุบซิบกันอื้ออึง ไม่นานนัก ไผ่ก็เดินตรงเข้ามาหาเจียร์ ที่เอาแต่ก้มหน้าเก็บของอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว“เจียร์ว่าคนนี้คุ้นๆ ไหม” ไผ่ยื่นโทรศัพท์ไปให้ ร่างเล็กจึงหยุดนิ่งพลางมองบนหน้าจอ มันคือโพสต์ช่องคนดังของเพจมหาวิทยาลัย มักจะอัปโหลดรูปนักศึกษาหน้าตาดี ซึ่งเธอเองก็ถูกถ่ายภาพไปลงนับครั้งไม่ถ้วน แต่วันนี้ต่างออกไป ภาพที่ทางเพจโพสต์ลงนั้นไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นคนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี“เหมือนคู่หมั้นเจี
ทริปฮันนีมูน เป็นทริปเล็กๆ สี่คืนห้าวัน ที่จัดขึ้นหลังงานหมั้นจบลง ทั้งสองเลือกไปจังหวัดใกล้กรุงเทพ เพราะไม่อยากเหนื่อยกับการเดินทางในเวลาสั้นๆ สุดท้ายจึงตัดสินใจไปเที่ยวที่เขาใหญ่ ในจังหวันครราชสีมาห้องพักเป็นบ้านเดี่ยวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมพื้นที่ที่ถูกจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดประตูเข้าไปจะพบกับห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอน และเมื่อเดินผ่านประตูด้านหลังออกไป ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำส่วนตัว เบื้องหน้าเผยให้เห็นวิวภูเขาเขียวขจี เรียงซ้อนกันอย่างสวยงาม“บรรยากาศดีขนาดนี้ เรามาปั้มลูกกันเลยไหมหนู”แปะ!! ทันทีที่ร่างสูงเอ่ยคำหยอกล้อออกมาก็ถูกมือเล็กฟาดลงบนท่อนแขนไปหนึ่งที พร้อมถูกจ้องตาดุ แต่โดนขนาดนั้นเขาก็ยังยิ้มสู้ “เดี๋ยวเถอะนะ ทีเมื่อก่อนนะ ยังให้เจียร์ฝังยาคุมอยู่เลย” เธอยกแขนขึ้นกอดอก จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ไม่ได้ตั้งใจจะจริงจัง พอนึกย้อนกลับไปเจียร์เองก็รู้สึกแปลก แต่มันแค่แวบเดียวเท่านั้น ความรักที่เกิดขึ้นมาทำให้เธอไม่หวนไปนึกถึงแล้ว แม้จะหยิบยกมาพูดบ้างบางครั้งก็ตาม“คนที่เคยเลวคนนี้ กลายเป็นหมาน้อยของหนูแล้วนี่ไง”“ไม่รู้สึกแปลกหรอคะ
ในที่สุด วันที่ทั้งสองเฝ้ารอคอยก็มาถึง เจียร์และล่ากำลังแต่งตัวอยู่ภายในห้องสวีทสุดหรูของโรงแรม ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานหมั้น บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นของทั้งสองคน“พี่ขอออกไปสูบบุหรี่ก่อนนะครับ” ร่างสูงเดินตรงมาหาว่าที่คู่หมั้นที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบเบาๆ บนหน้าผากของเธอ ท่ามกลางสายตาของเหล่าช่างแต่งหน้าทั้งห้าคนที่มองภาพนั้นด้วยความอิจฉาและเอ็นดูในวินาทีนี้ คงไม่มีใครไม่อิจฉาวาสนาของเธอ ที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นสะใภ้คนกลางแห่งตระกูลทรัพย์หิรัญสกุล ที่ครอบครองทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นับไม่ถ้วน“อย่าสูบเยอะนะคะ” เจียร์ไม่เคยห้ามเรื่องที่อีกฝ่ายสูบบุหรี่เลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดเป็นห่วงสุขภาพของเขาไม่ได้“ถ้าหนูมีลูก พี่จะเลิกขาดเลยครับ” ล่ายื่นคำมั่นสัญญา แววตาของเขาไม่เคยโกหกเธอ“อื้อ สัญญาแล้วนะ” เมื่อถามย้ำแล้วแววตาคู่สวยก็เฝ้าคอคำยืนยันอีกครั้ง“ครับ พี่ไม่เคยโกหกหนูอยู่แล้ว”ระหว่างทางขึ้นดาดฟ้า จู่ๆ ร่างสูงก็ต้องหยุดนิ่ง เมื่อเห็นลูกสาวแม่บ้านเดินสวนผ่านหน้าไป เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตา คงไม่ได้มองว่ากำลังเดินผ่านใค
เวลาผ่านไปกระทั่งเกือบถึงวันหมั้น ล่าและเจียร์ค่อนข้างยุ่ง เขาต้องรีบเคลียร์งานเพื่อจะไปฮันนีมูนหลังงานหมั้น ส่วนร่างเล็กก็ต้องเคลียร์งานที่มหาวิทยาลัยเอาไว้เช่นเดียวกัน โชคดีที่ไผ่บอกว่าจะคอยเก็บชีทเอาไว้ให้ในระหว่างที่เธอไม่มาเรียน ทำให้หมดห่วง เรื่องฮันนีมูนทั้งสองคุยกันแล้วว่าจะไปแค่สามสี่วัน เพราะมีเวลาไม่มาก เอาไว้ร่างเล็กเรียนจบและแต่งงานเมื่อไร เขาให้คำมั่นสัญญาสัญญาว่าจะพาเธอไปเที่ยวรอบโลก แม้จะฟังดูเกินไปหน่อย แต่เจียร์เชื่อว่าล่าจะทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน แถมเขายังคุยโม้กับพ่อเอาไว้ ว่าให้รออุ้มหลานได้เลย ทั้งที่เหลือเวลาอีกนานนับปีกว่าเธอจะเรียนจบ “พี่อยากแต่งกับหนูเลย เปลี่ยนเป็นงานแต่งดีไหม” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ล่าเอ่ยแบบนั้น พักหลังเขามักพูดเรื่องอยากแต่งงานออกมาบ่อยแทบตลอดเวลา ต้นเหตุมาจากวันที่ได้เห็นเธอในชุดที่จะใส่ในวันหมั้น ตอนนั้นหัวใจของเขาสั่นไหว อยากให้เธอกลายเป็นภรรยา ไม่ใช่แค่เพียงคู่หมั้นอีกต่อไป“แค่หมั้นกะทันหันคุณท่านก็ตกใจแล้ว ถ้าบอกแต่งต้องช็อคแน่เลย”“หืม? ทำไมเรียกท่าน พี่บอกแล้วไงครับว่าให้เรียกพ่อ”“…เจียร์ยังไม่ชิน” ร่างเล็กเม้มริมฝีปากเบาๆ เพราะยัง
@อีกฝากทางฝรั่งเศสล่าขมวดคิ้วแน่น มองหน้าจอโทรศัพท์ในมือ ใจแทบขาดเมื่อนึกถึงเธอที่ไม่ยอมให้โทรหา และแม้เขาจะพยายามโทรไปกี่ครั้งเธอก็ไม่รับ สายตาคมตวัดจากหน้าจอขึ้นไปมองน้องชายตัวดีที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างกันอย่างหงุดหงิด“แผนเหี้ยอะไรของมึง เมียกูงอนแล้วไอ้เวร!!”“อ้าวพี่ชาย มึงทำตามเองนะ จะมาโทษกูได้ยังไง”“แม่ง”“ไฟลท์บินกลับตีสี่ กว่าจะถึงไทยคงเกือบเย็น ใจขาดแน่มึง” คลื่นพูดเย้ย เขาหลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าคิดไม่ตกของพี่ชาย ที่เอาแต่ก้มมองจอมือถือสลับกับสูบอัดบุหรี่อย่างคิดมาก“กูจะเลื่อนไฟลท์ รอไม่ได้แล้วไอ้เหี้ย โทรไปไม่รับสายเลย” เพียงแค่เธอไม่ยอมรับสาย ล่าก็ลนลานจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ความกระวนกระวายแผ่ซ่าน จิตใจร้อนรุ่ม ว้าวุ่นจนแทบจะระเบิดออกมา“กูยังไม่จัดกระเป๋าเลยล่า”“เรื่องของมึง กลับทีหลังแล้วกัน”“ควาย! กลับไปดีๆ ก็สิ้นเรื่อง อุตส่าห์เร่งงานเพื่อเธอ เสือกอยากเซอร์ไพรส์ เป็นยังไง สมใจมึงไหม”“แผนมึงไอ้คลื่น”“มึงเชื่อกูเองนะ แค่พิมพ์บอกความจริงไปตอนนี้ก็สิ้นเรื่อง”“โง่! ให้กูบอกตอนนี้กลับไปกูจะได้เข้าห้องหรือไง”“หมา! ติดเมียฉิบหาย สภาพเมื่อก่อนกับตอนนี้น่ะนะ เอาเสื้อเม