พรึบ!
'Strike!' เสียงเครื่องโบว์ลิงดังขึ้นหลังจากที่แพทริคสามารถโยนลูกโบว์ลิงเข้าไปทำให้พินที่วางอยู่ล้มลงทั้งหมดภายในครั้งเดียว
'หึ' เจ้าของใบหน้าหล่อหมุนตัวกลับยกยิ้มใส่ร่างบางที่นั่งเบะปากอยู่ท่าทางชวนหมั่นไส้
'เหอะ' พราวดาวก็ได้แต่ทำเสียงออกมาด้วยความหัวเสียที่ไม่ว่าจะเล่นกี่รอบ ๆ ก็แพ้เพื่อนตัวสูงอยู่ดี ทั้งที่ก็ใช้เบอร์ลูกโบว์ลิงเท่ากัน
'อ่อน'
'หุบปากไปเลยแพทริค!'
'ขี้แพ้'
'นี่!'
'...' คนตัวสูงก็ยังคงยักไหล่ตอบกลับด้วยท่าทีกวนประสาทเช่นเดิม พราวดาวจึงเบะปากหันหน้าหนีไปอีกทาง ทว่าก็ไม่ได้จริงจังอะไร แค่รู้สึกหมั่นไส้ในท่าทางของเพื่อน
พรึบ
อยู่ ๆ มือหนาก็หยิบแก้วเครื่องดื่มของตัวเองยื่นไปที่ร่างเล็ก
'อะไร' เรียวปากบางถาม
'ไปเอาน้ำมาให้หน่อย ขนมด้วย'
'นี่! พนักงานก็มี...'
'แต่ฉันอยากใช้คนแพ้ไง' สิ้นเสียงแพทริคเอ่ย พราวดาวก็ได้แต่ใช้สายตาเฉี่ยวของตัวเองจ้องมองหน้าคนตรงหน้านิ่งแววตาเต็มไปด้วยความหัวเสียอยากบีบคออีกคน ทว่าสุดท้ายคนตัวเล็กก็ต้องยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งเดินหยิบแก้วตรงไปยังบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ที่มีพนักงานคอยบริการให้แก่ลูกค้าวีไอพีอยู่พร้อมทั้งสั่งน้ำรวมถึงขนมตามที่แพทริคต้องการ ใช้เวลาไม่นาน พราวดาวก็เดินถือทั้งแก้วน้ำและขนมหมายจะตรงกลับไปยังเพื่อนตัวสูงที่นั่งรออยู่ แต่แล้วในตอนนั้นเอง...
'หวัดดี' เสียงใครบางคนเดินเข้ามาเอ่ยทักทายยังคนตัวเล็กขึ้น ใบหน้าเรียวสวยมองหน้าคนที่เดินเข้ามาขวางทางตัวเองอยู่นิ่ง
'มีอะไรเหรอ' ริมฝีปากบางขยับถาม
'เธอ ชื่ออะไร'
'พราวดาว'
'อ้อ ฉันเป้นะ'
'อืม แล้ว?' เจ้าของใบหน้าเรียวสวยมองหน้าถามร่างสูงตรงหน้า
'คือว่า...'
'ถ้าไม่มีอะไร ขอตัวก่อนนะ' ว่าแล้ว คนตัวเล็กก็ทำท่าจะเดินออกไป ทว่าเป้ก็ไม่ยอม
'เดี๋ยวสิ' ชายหนุ่มถือวิสาสะคว้าแขนเล็กไว้ ทำเอาพราวดาวรีบกระตุกแขนสะบัดออก มองหน้าคนตรงหน้าแววตาไม่พอใจ
'มีอะไรกัน' เสียงแพทริคเดินเข้ามาเอ่ยถามขึ้นเสียงนิ่งทำให้เป้ยอมผละออกจากพราวดาวอย่างง่ายดาย ขณะเดียวกัน พราวดาวก็พยายามส่งสายตาบอกคนเป็นเพื่อนให้ช่วยเธอ แพทริคที่เห็นแบบนั้นจึงเอื้อมมือแกร่งลงไปโอบเข้าที่เอวเล็กแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าชายหนุ่มอีกคน เป้ที่เห็นแบบนั้นก็นึกคิดว่าทั้งสองน่าจะเป็นแฟนกัน จึงรีบสาวเท้าเดินออกไปอย่างไม่อยากที่จะมีเรื่อง โดยทันทีที่ชายหนุ่มเดินออกไป แพทริคก็หัวเราะล้อเลียนเพื่อนตัวเล็ก
'หึ ฮอตจังเลยนะ'
'หุบปากไปเลย'
'พูดดี ๆ กับผู้มีพระคุณหน่อย' ใบหน้าหล่อแกล้งเอ่ยบอกคนเป็นเพื่อนด้วยท่าทีจงใจกวน
'ผู้มีพระคุณบ้านนายดิ! เหอะ แล้วกว่าจะเสด็จเดินมา ต้องรอให้หมอนั่นลากฉันไปก่อนเลยไหม'
'หมอนั่นคงลากเธอไหวหรอก'
'พูดงี้ หมายความว่าไง' พราวดาวมองหน้าถามเพื่อนตัวสูงตาเขียว ซึ่งแพทริคก็เงียบไม่ตอบแต่เลือกที่จะแสยะยิ้มบีบเข้าที่เอวเล็ก
'เอวเธอ...หนาขึ้นนะ'
'อะ...ไอ้แพทริค!!' ขณะที่สองคนกำลังจะเปิดศึกทะเลาะกัน
ครืดดด ~
เสียงโทรศัพท์ของแพทริคก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อผละสายตาเหลือบลงไปมองยังหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วดวงตาคมก็ต้องชะงักไป
'ณิชา...' ร่างสูงไม่รอช้าที่จะกดรับสายในทันที
ติ้ด
'ว่าไงณิ...'
'ฮะ! แล้วตอนนี้อยู่ไหน'
'ใจเย็น ๆ ก่อน เดี๋ยวแพทรีบไป' ทันทีที่พูดจบ มือหนาก็กดวางสายโทรศัพท์หันไปเอ่ยบอกเพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่
'เธอกลับเองนะวันนี้ เดี๋ยวฉันต้องไปบ้านณิชา พ่อเขาไม่สบาย' สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย สองเท้าหนักก็รีบสาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างไม่คิดจะรอคำตอบจากพราวดาวแม้แต่น้อย ดวงตากลมสวยก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่เพิ่งเดินออกไปนิ่งแววตาเริ่มฉายออกมาถึงความวูบสั่นไหวกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ
พราวดาวเลือกที่จะไม่พูดหรือเอ่ยอะไร หญิงสาวค่อย ๆ เดินออกไปจากลานโยนโบว์ลิงด้วยท่าทีปกติ แม้ว่าภายในใจ...มันจะรู้สึกเริ่มจุกแน่นขึ้นมาแค่ไหนก็ตาม
@บ้านพราวดาว
ขณะที่ร่างบางกำลังเดินตรงเข้าไปภายในบ้านด้วยหัวใจที่เหม่อลอย
เคล้ง!~
เสียงอะไรขวดกระทบกับอะไรบางอย่างดังขึ้นทำให้ใบหน้าเรียวสวยชะงักได้สติหันไปมอง ก่อนจะเดินตรงไปตามเสียงด้วยความรู้สึกข้องใจอยากรู้ ทว่าในตอนนั้นเอง พราวดาวก็ได้เจอเข้ากับพ่อของตัวเองที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ในสภาพมึนเมา
'พ่อ' เรียวปากสวยเอ่ยเรียกคนเป็นพ่อขึ้น อภิชัยเงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกสาวเพียงคนเดียว
'พราว...' ชายวัยกลางคนอยู่ในสภาพมึนเมาพอสมควร แต่ก็ยังคงพอมีสติ
'...พ่อไม่เป็นไร แกไปนอนเถอะ'
'แต่...'
'ไปเถอะน่า พ่ออยากดื่มคนเดียวเงียบ ๆ ' เมื่อได้ยินแบบนั้น สุดท้ายพราวดาวก็ยอมเดินออกไปปล่อยให้พ่อตัวเองนั่งดื่มแอลกอฮอล์คนเดียวตามที่เขาต้องการ ภายในบ้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่นี้มีเพียงอภิชัยกับพราวดาวอาศัยอยู่ด้วยกันแค่สองคนเท่านั้น เนื่องจากพราวดาวเป็นลูกสาวคนเดียวที่เขามี ส่วนภรรยาของเขาได้เสียไปด้วยโรคร้ายตั้งแต่พราวดาวยังเด็ก ทำให้อภิชัยเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูลูกสาวเพียงลำพังมาโดยตลอด และไม่คิดที่จะมีรักครั้งใหม่
'อึก...' ชายวัยกลางคนเอาแต่ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นกระดกดื่มไม่หยุด พร้อมกับภายในหัวที่มีเรื่องที่ทำให้คิดไม่ตกแทรกเข้ามา...
หกปีต่อมา..."จะกลับกี่โมง" เสียงแพทริคมองหน้าถามภรรยาตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า"ยังไม่รู้เลยอะ ทำไม""เดี๋ยวลูกถามหา""อย่าเวอร์ อยากมีนักไม่ใช่เหรอ เลี้ยงเองสิ" เจ้าของใบหน้าเรียวสวยตอบกลับคนรักไปด้วยความประชดประชันหมั่นไส้ไม่จริงจัง"..." แพทริคก็นิ่ง"ไปละ ดูลูกให้ดีด้วย แล้วก็อย่าตามใจลูกให้มาก" พูดจบ พราวดาวก็เดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงที่คนรักเพิ่งซื้อให้ใหม่ได้ไม่กี่เดือน ขับออกไปจากบ้านหลังใหญ่ด้วยความรวดเร็ว โดยมีสายตาของแพทริคที่มองตามรถหรูไปนิ่ง ซึ่งวันนี้พราวดาวได้มีนัดออกไปเจอกับวาเลนเพื่อนสนิทของเธอ"ป๊า! พิมพราวปีนต้นไม้อีกแล้ว" เสียงพีร์พูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีร่างน้อยของเด็กสาววัยสี่ขวบกว่ากำลังปีนเล่นอยู่ แพทริคที่ได้ยินก็รีบเดินเข้าไปดูด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเห็นร่างน้อยของลูกสาวคนเล็กของตัวเองกำลังปีนเล่นอยู่บนต้นไม้ด้วยความซุกซนโดยมีพีร์คนเป็นพี่ชายยืนมองหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"พิมพราว! ให้ตายเถอะ" ชายหนุ่มที่ตอนนี้อายุแตะเลขสามพึมพำด้วยสีหน้าปลงไปกับความดื้อซนของคนเป็นลูก เขากับพราวดาวมีลูกทั้งหมดสองคน ซึ่งก็คือพีร์อายุห้าขวบกว่า และพิมพราวที่อา
หนึ่งปีต่อมา...@ปารีส"จะไปไหน" เสียงแพทริคเอ่ยถามคนรักขึ้นหลังจากที่คนตัวเล็กทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงนอนเมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามา โดยตอนนี้ทั้งสองได้มาพักผ่อนท่องเที่ยวยังต่างประเทศตามความต้องการของพราวดาว"ฮ ฮะ...กะ ก็จะไปอาบน้ำไง""ยังไม่ต้องอาบ""ทำไมล่ะ""ก็ยังไม่ได้เอากันเลย จะรีบอาบไปทำไม เดี๋ยวก็ต้องเลอะ" คำพูดตรง ๆ ของคนเป็นสามีเอ่ย ทำเอาร่างเล็กที่นั่งอยู่ชะงักไป ตอนนี้ทั้งสองได้แต่งงานจดทะเบียนกันแล้วเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่เรียนจบปริญญาโทได้ไม่กี่เดือน"..." พราวดาวนั่งนิ่งเผลอแสดงสีหน้าบางอย่างออกมา"สีหน้าแบบนั้น คืออะไร" แพทริคก้มลงถาม คนตัวเล็กที่ได้ยินจึงได้โอกาสรีบเอื้อมมือไปคว้าแขนหนาของอีกคนเข้ามาออดอ้อน"ที่รัก~""..." เจ้าของใบหน้าหล่อก็นิ่งเหลือบสายตาลงมองไปยังคนรัก"เรายังไม่ต้องทำกันได้ไหมอะ เขาขออีกปะ..." ยังไม่ทันที่เรียวปากเล็กจะพูดจบ"จำคำพูดฉันได้ไหมที่บอกเธอไว้""ฮะ""ถ้าถัดอีกปี จะโดนอะไร""อ อึก..." ร่างบางเม้มปากแน่นกลืนน้ำลายลงคอไปทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน"...ตะ แต่...""ปีนี้เราเที่ยวกันเยอะมาก ฉันใช้วันหยุดที่มีในการพาเธอท่องเที่ยวไปเกือบทุกโซนแล้วพร
สองปีผ่านไป...(มีรูป)"รูปน่ารักจัง..." เสียงพราวดาวยิ้มเอ่ยขณะที่กำลังนั่งดูรูปวาดในมือที่ได้มาเป็นของขวัญวันเรียนจบปริญญาโทจากวาเลนเพื่อนสนิทของเธอ โดยวันนี้เป็นวันรับปริญญาโทของเธอกับแพทริค หลังจากที่ทั้งสองหมั้นหมายกัน พราวดาวก็ตัดสินใจชวนคนรักเรียนต่อเพื่อที่จะนำความรู้ที่ได้มาในการทำหน้าที่การงานให้ดียิ่งขึ้น แถมใบปริญญายังสามารถทำให้แพทริคดูดีมีความภูมิฐาน ซึ่งคนตัวสูงก็ไม่ได้ขัดอะไรคนตัวเล็ก ทั้งสองต่างทำงานและช่วยกันค้นคว้าความรู้จนในที่สุดก็ได้บรรลุเป้าหมายไปอีกขั้น"...เรียนจบเพราะนายเลยนะเนี่ย" พราวดาวยิ้มบอก อย่างที่หลายคนรู้ ในเรื่องการเรียนนั้น พราวดาวไม่ได้เก่งสักเท่าไร โชคดีที่มีแพทริคคอยช่วยคอยดูและอธิบายให้ ทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี"หึ" เจ้าของใบหน้าหล่อที่ถูกคนรักชมเชยก็หัวเราะยิ้มออกมา ซึ่งสองปีหลังมานี้ แพทริคค่อนข้างที่จะสุขุมขึ้นเนื่องจากงานที่เขารับผิดชอบอยู่ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไป ทว่าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปซะหมด ในเวลาที่อยู่กับพราวดาวสองต่อสอง เขาก็ยังคงเป็นแพทริคคนเดิม เพียงแค่ว่าไม่ได้ดูขี้เล่นเท่าเมื่อก่อน พราวดาวเองก็เข้าใจแถมยังรู้สึกชอบ
สองเดือนต่อมา...@งานหมั้นงานหมั้นของหนุ่มสาวถูกจัดขึ้นเล็ก ๆ เรียบง่ายภายในบ้านหลังใหญ่ของเจ้าสัวทรงอิทธิพล โดยมีบรรดาแขกคนสนิทของทั้งสองเท่านั้นที่เข้ามาร่วมงาน"สวยจัง" เสียงทุ้มของแพทริคหันไปเอ่ยชมคนรักสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลไม่ปกปิด"เก็บอาการหน่อย" พราวดาวยิ้มกระซิบบอกคนตรงหน้า"ทำไมต้องเก็บด้วย ก็เมียฉันสวย""โอ๊ย! รำคาญ" แม้ปากจะบอกไปแบบนั้น ทว่าแก้มใสก็แดงระเรื่อขึ้นมาในทันที ก็คู่หมั้นหนุ่มเล่นเอ่ยชมกันต่อหน้าขนาดนั้น ร่างบางจะไม่รู้สึกเขินอายได้ยังไง"เฮ้ย ไอ้เจ้าบ่าวหนุ่มครับ เก็บทรงหน่อย" เสียงมอสที่ยืนอยู่เอ่ยแซวคนเป็นเพื่อน"..." แพทริคก็ไม่สนใจยังคงจ้องมองไปยังคนรักไม่หยุด กระทั่งสองคนต้องเข้าพิธีการไหว้ผู้ใหญ่ โดยมีสุรชัย นภา แล้วก็อภิชัยต่างนั่งกันอยู่ตรงหน้า คู่หมั้นบ่าวสาวก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปไหว้ยังอภิชัยที่นั่งอยู่ก่อน"ขอให้ทั้งสองมีความสุขมาก ๆ กับคู่ชีวิตที่เลือก ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไร ก็ให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี...""...ฝากดูแลพราวด้วยนะแพทริค แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็งมาก แต่พราวดาวก็ไม่ได้เข้มแข็งมากขนาดนั้น""..." พราวดาวก็ก้มหน้าน้ำตาคลออีกครั้ง ก่อนจะถ
@บ้านแพทริคตึกตึกเสียงแพทริคกับพราวดาวเดินตรงเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าท่าทีปกติ โดยมีแม่บ้านวัยกลางคนคอยยืนให้การต้อนรับลูกชายคนรองของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี"พ่ออยู่ไหน" เรียวปากหนาถาม"โต๊ะอาหารค่ะ" หลังจากที่แม่บ้านตอบกลับ ร่างสูงก็เดินตรงไปยังห้องอาหารทันที ก่อนจะเห็นว่าทุกคนต่างนั่งกันอยู่ครบ"อ้าว แพทริค" นภายิ้มทักทายยังชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่พร้อมกับทำท่าจะเชิญชวนร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน ทว่า..."ผมมีเรื่องจะมาบอก" เสียงทุ้มพูดขึ้น ทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่หันมองยังเจ้าของเสียง"มีอะไร" สุรชัยถาม"ผมจะแต่งงานกับพราวดาว" คนตัวสูงบอกออกไปด้วยความไม่สนใจอะไร เขาต้องการมาเพื่อที่จะให้ทุกคนรับรู้เท่านั้น"ว่าไงนะ" เจ้าสัวใหญ่มองหน้าถามคนเป็นลูกเสียงเข้ม"ผมจะแต่งงาน...""ใครอนุญาตแก""ผมนี่แหละ อนุญาตตัวเอง""ไอ้แพทริค!""ผมจะแต่ง" ปากหนายังคงย้ำบอกพ่อตัวเองออกไปท่าทางไม่แคร์อะไรแม้แต่น้อย แถมแววตายังเต็มไปด้วยความดื้อรั้นตามประสา โดยท่าทีพวกนั้นทำเอาสุรชัยโมโหทำท่าจะลุกขึ้นมาจัดการคนเป็นลูก ทว่าก็ต้องถูกนภาเอื้อมมือไปแตะข้อมือสามีตัวเองไว้"คุณคะ อย่า...""..." สุรชัยก็นั่งหอบหายใ
สามวันต่อมา..."พ่อ..." พราวดาวเดินเข้าไปหาพ่อตัวเองที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บริเวณหน้าบ้าน"ยัยพราว" อภิชัยก็หันไปยิ้มทักทายลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยแซว"แต่งตัวแบบนี้ ไม่เหมือนเป็นแกเลยนะ" ชายวัยกลางคนหัวเราะบอก ซึ่งเขาพอจะรู้มาจากพราวดาวแล้วว่าคนตัวเล็กได้เปลี่ยนงานจากการทำงานกลางคืนไปเป็นเลขาให้เพื่อนสนิทอย่างแพทริค อภิชัยรู้แค่นั้น แล้วก็ไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง"อาชัย สวัสดีครับ" แพทริคเข้ามาทักทายพ่อคนรัก"อืม กินอะไรกันมาหรือยัง" อภิชัยเอ่ยถามสองคนที่ยืนอยู่"ยังเลย พราวรอมากินพร้อมพ่อ" ว่าแล้ว คนตัวเล็กก็ชี้ไปที่อาหารมากมายที่แพทริคกำลังถืออยู่"พราว แล้วแกทำไมให้แพทริคถือคนเดียว" อภิชัยทำท่าจะเดินเข้าไปช่วย"ไม่เป็นไรครับอาชัย เดี๋ยวผมเอาไปไว้ในบ้านเลยนะครับ" แล้วคนตัวสูงก็เดินถือถุงอาหารเข้าไปภายในบ้านตามปกติ โดยมีอภิชัยที่หันไปเอ็ดใส่คนเป็นลูก"ทำไมถึงให้แพทเป็นคนทำล่ะ เขาเป็นเจ้านายแกนะ ถึงจะเป็นเพื่อนก็เถอะ""เพื่อนอะไรกันล่ะพ่อ""..." ชายวัยกลางคนทำหน้างุนงงมองหน้าลูกสาว"นั่นอะแฟนหนู""ฮะ!?""ฮ่า ๆ กำลังจะแต่งงานกันด้วย ถูกขอแต่งงานแ