แชร์

ตอนที่ 3 บ้านหลังใหม่ 1

ผู้เขียน: มายารัตติกาล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-08 03:24:29

การเดินทางสิ้นสุดลงในเช้าอีกสองวันถัดมา เติ้งเว่ยหมิงหิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบ ส่งสายตาให้ภรรยาพร้อมกับทำหน้าพยักเพยิดบอกให้เธอลงจากรถไฟ

ซุยหลันซีใช้สายตางงงวยมองตอบเขา อ้าปากเป็นคำพูดถามว่า ‘ลงที่นี่เหรอ?’ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา พร้อมกับพยักหน้ารับรู้

เธอหยิบกระเป๋าถือขึ้นมาแล้วเดินตามชายหนุ่มไปเงียบๆ

ในช่วงการเดินทางบนรถไฟ ระหว่างพวกเขาสองคนแทบจะไม่มีบทสนนาอะไรกันมากนัก เพราะต่างคนต่างก็จดจ่ออยู่กับความคิดของตนเอง

สำหรับเติ้งเว่ยหมิงแล้ว เขาเห็นว่าคุณหนูผู้เอาแต่ใจแปลกไป เธอรู้จักขอบคุณ มีความอดทน ไม่โวยวายที่ต้องอุดอู้อยู่บนรถไฟตลอดสองวันมานี้ และที่สำคัญไม่กลั่นแกล้งเขาอย่างแต่ก่อน

ชายหนุ่มพาหญิงสาวออกมาจากชานชลา แล้วเรียกรถรับจ้างให้ไปส่งยังที่พัก ซุยหลันซีก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ เช่นเคย แต่ใช้สายตากวาดมองสำรวจด้วยความตื่นตาตื่นใจ ความแปลกใหม่ของยุคสมัยนี้ สถานที่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้ซุยหลันซีรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเธอในตอนนี้

หลังจากใช้เวลาเดินทางประมาณสี่สิบห้านาที รถรับจ้างก็พาทั้งสองคนมาถึงจุดหมายปลายทาง จอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าตึกอาคารขนาดห้าชั้นสภาพกลางเก่ากลางใหม่หลังหนึ่ง

เติ้งเว่ยหมิงจ่ายเงินค่ารถแล้วหิ้วกระเป๋าเดินทางออกเดินดุ่มไม่พูดไม่จาพาซุยหลันซีเดินขึ้นบันไดไปหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่งตรงสุดทางเดินของชั้นสอง

เขาล้วงกุญแจออกมา เปิดประตูห้องเข้าไป ซุยหลันซีก้าวเท้าเข้าไปในห้อง แต่ก็ไม่ได้ก้าวไปมากกว่านั้น เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหลังบานประตูอยู่อย่างนั้น

“คุณหนู บ้านของผมคับแคบ ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนที่บ้านของคุณหนู คุณหนูพักที่ห้องนอน ผมจะนอนที่เก้าอี้ยาวเอง แต่ว่าตู้เสื้อผ้าไม่มีที่วาง ผมอาจจะต้องเข้าไปใช้ในห้องด้วยกัน เราแบ่งกันใช่คนละฝั่ง ห้องน้ำอยู่ทางนี้ นี่เป็นห้องครัว ระเบียงหลังบ้านเอาไว้ตากผ้า ส่วนนี่เป็นห้องเก็บของ สุดท้ายนี่เป็นกุญแจบ้านสำรอง คุณหนูเอาไปใช้ได้เลย”

สายตาของซุยหลันซีมองสำรวจภายในห้องไปทีละจุดตามที่เติ้งเว่ยหมิงแนะนำ ห้องนี้เหมาะสำหรับพักอยู่คนเดียว หากอยู่กันสองคนก็ดูเหมือนจะคับแคบไปสักหน่อย

เติ้งเว่ยหมิงเห็นเธอยืนมองไปรอบๆ อย่างนิ่งๆ เขาจึงยกกระเป๋าเดินทางของซุยหลันซีเอาไปวางไว้ให้ที่ในห้องนอน กะว่าจะให้หญิงสาวได้จัดข้าวของส่วนตัวของเธอก่อน ส่วนของตัวเองค่อยทำทีหลัง ขณะกำลังจะหันหลังกลับออกมาจากห้องนอน ก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตามเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

 พอเห็นว่าเขากำลังจะเดินกลับออกไป เสียงหวานๆ ของเธอก็ดังขึ้น “เดี๋ยวค่ะพี่เว่ยหมิง ขอฉันคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ?” ซุยหลันซีรีบเรียกชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเห็นเขากำลังจะผละตัวออกจากห้องไป เติ้งเว่ยหมิงชะงักก่อนจะหันมาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“พี่เว่ยหมิง?”

“ใช่ค่ะ พี่เว่ยหมิง ไหนๆ พวกเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน มาทำข้อตกลงกันก่อนดีไหมคะ? ที่ฉันไม่ได้คุยตอนอยู่บนรถไฟก็เพราะทำตัวไม่ถูกค่ะ”

การที่ซุยหลันซีบอกให้เขาได้รับทราบความคิดของเธอ ทำให้เติ้งเว่ยหมิงแปลกใจไม่น้อย เขาเก็บความสงสัยเอาไว้ พยักหน้าตกลง พร้อมกับเดินออกไปที่ห้องรับแขก ซุยหลันซีจึงได้เดินตามออกไป ทั้งคู่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวห่างกันคนละฝั่ง

“พี่เว่ยหมิง ตอนนี้พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว แต่บอกพี่ตามตรง ฉันยังรู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง เรื่องเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันตั้งตัวไม่ทัน พวกเราแต่งงานกันแต่ในนามแบบนี้ไปก่อน ถ้าในอนาคตพี่เว่ยหมิงมีคนที่ชอบ หรือว่าฉันมีคนที่ชอบ สักปีสองปีพวกเราก็มาหย่ากันเถอะ

อีกอย่างพี่เรียกฉันว่าคุณหนู มันฟังดูพิกล ตอนนี้พี่ก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คุณหนูอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อฉันตอนนี้ฉันเป็นภรรยาของพี่ พี่ก็เรียกฉันว่าหลันหลันเถอะ ฉันจะเรียกพี่ว่าพี่เว่ยหมิง แบบนี้พี่เห็นว่าเป็นไง?”

ซุยหลันซีบอกสิ่งที่เธอคิดมาตลอดสองวัน การอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็ต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไปก่อน มันคงดูประหลาดที่สามีจะเรียกภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น แบบนี้คนทั่วไปจะนินทาเอาได้

ในสถานการณ์ที่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรในยุคสมัยนี้ การมีคนให้พึ่งพิงได้น่าจะดีที่สุดแล้ว อีกอย่างดูท่าทางคนตรงหน้าก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ร้ายกาจและเอาแต่ใจเช่นร่างนี้แน่

ซุยหลันซีได้แต่หวังว่าเธอจะคิดไม่ผิด

“เอาตามที่คุณพูดมาก็ได้ ผมไม่มีปัญหา ผมจะให้เงินเดือนคุณเอาไว้สำหรับใช้จ่ายในบ้านห้าสิบหยวน คุณคิดว่าจะพอไหม อ้อ! อีกอย่าง ที่นี่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกเหมือนที่คฤหาสน์ตระกูลซุย เสื้อผ้าต้องซักมือ เตาก็ยังเป็นเตาถ่าน ถ้าทำไม่เป็นก็รอผมกลับมาจากทำงานก่อน”

“ได้! ว่าแต่พี่ทำงานอะไร บอกฉันได้ไหม?” ซุยหลันซีเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“ผมทำงานที่โรงงานสิ่งทอจินเซิงนั่งรถโดยสารไปไม่ถึงสิบนาที”

“ฉันไปทำงานที่นั่นด้วยได้ไหม หรือพี่พาฉันไปดูที่ทำงานของพี่ก่อนก็ได้”

“ถึงแม้ว่าผมจะจน ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคุณ แต่แค่คุณคนเดียวผมเลี้ยงไหว อีกอย่างผมก็ไม่คิดว่าคุณจะทำงานหนักแบบนั้นได้ ขอโทษ ผมไม่ได้ดูถูกคุณ แต่ว่างานที่นั่น คุณทำไม่ถึงครึ่งวันก็คงขอลาออกแล้ว”

แม้จะมีคำว่า ‘ขอโทษ’ แต่ยังสัมผัสได้ถึงความดูถูกในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา ทำให้ซุยหลันซีรู้สึกโกรธ กำลังจะอ้าปากเถียง ความคิดดีๆ ก็แล่นเข้ามาให้หัวเสียก่อน เธอจึงทำเป็นพยักหน้าเห็นด้วยแทน

“ก็จริงนะ ฉันเป็นคุณหนู ไม่เคยทำงานหนัก ในเมื่อพี่เป็นสามีก็ต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูฉันอยู่แล้ว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 18 ผู้ชายกินจุ

    เวลาบ่ายสองโมง เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นทำให้เติ้งเว่ยหมิงรีบวางผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลงในกะละมังแล้วลุกไปเปิดประตู ปรากฏว่าหลี่ชิงหรง เพื่อนบ้านยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าประตู“อาหมิง หลันหลันอยู่บ้านไหม พี่มีเรื่องจะมาบอก”“อยู่ครับ แต่ว่าตอนนี้หลันหลันน่าจะไม่สะดวกพบพี่นะครับ” เติ้งเว่ยหมิงแจ้งด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ไม่สะดวกเจอ หลันหลันเป็นอะไรหรือเปล่า”หลี่ชิงหรงถามกลับด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เป็นไข้ครับ ผมเลยให้นอนพัก”“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ตอนเช้าพี่มาเคาะประตูรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีใครออกมาเปิด เลยมาอีกทีตอนบ่าย พี่อุตส่าห์เตือนแล้วเชียวว่าอย่าหักโหมทำงานหนัก เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน อาจจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ไม่เป็นไร รอให้หลันหลันหายดีก่อนก็แล้วกัน ฝากบอกหลันหลันด้วยละกันว่าพี่มาหา” หลี่ชิงหรงบ่นอุบอิบถึงเพื่อนบ้านรุ่นน้องที่เธอก็รักไม่ต่างกับน้องสาวตนเองจริงๆ“ครับแล้วผมจะบอกให้ ถ้าหลันหลันค่อยยังชั่วแล้วจะให้ไปหาพี่ชิงหรงนะครับ”“ได้ งั้นพี่กลับบ้านก่อนละกัน”หลี่ชิงหรงกลับไปแล้ว เติ้งเว่ยหมิงจึงปิดประตูเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ทรุดตัว

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 17 เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม

    เช้าวันรุ่งขึ้นซุยหลันซีตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเติ้งเว่ยหมิง หญิงสาวถึงกับเขินอายและทำตัวไม่ถูก เธอรีบลุกออกไปจากเตียงเงียบๆ โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มผู้ที่ตกลงว่าจะเป็นสามีแต่เพียงในนามของเธอนั้นตื่นก่อนเธอนานแล้ว แต่เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจระหว่างพวกเขา ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นยังไม่ตื่นซุยหลันซีตบหน้าเรียกสติตนเองอยู่สองสามทีก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองเหมือนทุกวันที่ผ่านมา นั่นก็คือทำอาหารและเตรียมของให้เติ้งเว่ยหมิงไปทำงานทั้งคู่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่บรรยากาศกลับไม่ได้น่าอึดอัดอย่างที่คิด เติ้งเว่ยหมิงมีรอยยิ้มแต้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ส่วนซุยหลันซีก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าอย่างเงียบๆหลังจากที่ชายหนุ่มออกไปทำงาน ซุยหลันซีถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มลงมือทำงานบ้าน ซักผ้าแล้วไปปลุกเด็กชายเล่อเล่อ ล้างหน้าให้เด็กชาย ดูแลให้เด็กน้อยกินอาหารเช้า เสร็จแล้วก็มานั่งทำงานออกแบบลายผ้าเล่อเล่อนั่งเล่นคนเดียวอย่างเงียบๆ เด็กชายชินแล้ว เขาจะไม่เข้าไปกวนเวลาพี่สาวคนสวยทำงาน เพราะแม่ของเขาสั่งมาว่าห้ามกวนพี่สาวคน

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 16 จับผิดภรรยา

    ในเย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อย เติ้งเว่ยหมิงช่วยซุยหลันซีเก็บจานล้างทำความสะอาด โดยบอกให้เธอไปอาบน้ำส่วนตัวเขานั่งรออยู่บนเตียง ใบหน้าตึงเครียด คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาหญิงสาวอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ เดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ใช้สายตามองชายหนุ่มผ่านทางกระจกบรรยากาศช่างน่าอึดอัดและเงียบจนซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม“พี่เว่ยหมิง พี่เป็นอะไรไปหรือเปล่า? หรือมีปัญหาอะไรที่ทำงานอีกไหม หรือว่าผู้จัดการจางทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจ?” ซุยหลันซีหยุดมือที่กำลังหวีผม หันหน้ามาทางเขาที่นั่งอยู่บนเตียง ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยเติ้งเว่ยหมิงไม่ตอบ เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองหญิงสาวราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าสายตาลุ่มลึกที่มองมาทำให้ซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ ชายหนุ่มก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเติ้งเว่ยหมิงผลักร่างของซุยหลันซี เธอไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปบนเตียงนอนเขาใช้มือข้างหนึ่งจับยึดข้อมือเล็กบางของเธอเอาไว้เหนือศีรษะ มืออีกข้างกดอยู่ที่เอวของเธอ ร่างสูงใหญ่

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 15 ข้อเสนอทางการค้า

    อี้ชุนคุ้นเคยกับเติ้งเว่ยหมิงเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นคนรับชายหนุ่มเข้ามาทำงานด้วยตนเองเนื่องจากเติ้งเว่ยหมิงได้มีโอกาสช่วยชีวิตอี้ชุนขณะที่ถูกคนดักปล้น ซึ่งเป็นช่วงที่เติ้งเว่ยหมิงย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ หลังจากช่วยเหลือกันแล้ว อี้ชุนต้องการตอบแทนบุญคุณ แต่เติ้งเว่ยหมิงปฏิเสธหลังจากพูดคุยกันอยู่พักใหญ่อี้ชุนก็รู้ว่าเขาจบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์มา แล้วยังเคยเป็นทหารมาก่อน และตอนนี้กำลังหางานทำ จึงชวนเติ้งเว่ยหมิงมาทำงานคุมเครื่องจักรในโรงงานของตัวเอง จึงนับว่าทั้งคู่ค่อนข้างมีความสนิทสนมกันอยู่พอสมควร“ซุยหลันซี ภรรยาของผมครับ หลันหลัน คนนี้คือคุณอี้ชุนเถ้าแก่เจ้าของโรงงาน”เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันซุยหลันซีจึงค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนกล่าวทักทาย“สวัสดีค่ะ เถ้าแก่อี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ อาหมิงฉันไม่คิดว่านายจะปิดบังเรื่องแต่งงานกับฉัน แต่เธอสวยงามและเหมาะสมกับนายมาก” เถ้าแก่อี้ค้อมหัวเล็กน้อยทักทายเธอกลับ แล้วหันไปพูดกับเติ้งเว่ยหมิง ตัดพ้อเขาเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมด้วยความจริงใจซุยหลันซ

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 14 จางชุน

    ซุยหลันซีมาถึงโรงงานสิ่งทอจินเซิงที่เติ้งเว่ยหมิงทำงานก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี โรงงานแห่งนี้มีสวัสดิการอาหารกลางวันให้กับพนักงานทุกคนซุยหลันซีเป็นเพียงคนนอกไม่ได้เป็นพนักงานของโรงงาน เมื่อแจ้งความประสงค์ว่าต้องการขอพบสามีแล้วเธอก็เดินออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารกลางวันรับประทาน เพราะต้องรอให้เติ้งเว่ยหมิงกินข้าวกลางวันเสร็จก่อน เสร็จจากมื้อกลางวันก็เดินกลับเข้าไปที่โรงงานอีกครั้งเธอรออยู่ที่ห้องรับรองของโรงงาน ไม่นานเติ้งเว่ยหมิงก็เดินออกมา“พี่เว่ยหมิงมาแล้วเหรอคะ” ซุยหลันซีลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเขา“ทำไมคุณถึงมานี่นี่ล่ะ? แล้วที่โรงงานเฟิงหยุนเป็นยังไงบ้าง สำเร็จไหม?”เติ้งเว่ยหมิงรู้ว่าวันนี้เธอไปที่โรงงานตัดเย็บผ้าเฟิงหยุนจึงถามเช่นนี้ แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมเธอถึงมาหาเขาที่โรงงานหรือว่าเรื่องนี้จะไม่ง่ายขนาดนั้น?เติ้งเว่ยหมิงขมวดคิ้วแน่น“พี่เว่ยหมิง ฝีมือระดับฉันแล้วจะพลาดเหรอคะ ว่าแต่พี่พอจะพาฉันไปพบเถ้าแก่โรงงานของพี่ได้ไหม ฉันมีข้อเสนอเรื่องธุรกิจจะมาคุยกับเขาค่ะ” ซุยหลันซียืดอกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียง

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 13 พันธมิตรคนใหม่

    “คุณซุย ฉันยอมรับว่าชุดที่คุณออกแบบมามันน่าทึ่งมาก คุณสามารถออกแบบชุดเพื่อมาจัดการกับผ้าที่ผลิตผิดพลาดได้ดี ฉันต้องยอมรับในความสามารถของคุณจริงๆ ตั้งแต่ฉันเปิดรับสมัครมาเป็นเวลาสามเดือน มีแบบของคุณซุยนี่แหละที่เข้าตาฉันมากที่สุด” หวงเสี่ยวเหมยเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น“ขอบคุณนะคะที่ชอบชุดของฉัน อันที่จริงที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะต้องการความร่วมมือของคุณค่ะ ฉันใช้ผ้าที่เหลือมาตัดชุดที่ฉันออกแบบ นอกจากชุดที่ฉันตัดมาเป็นตัวอย่างในวันนี้แล้ว ฉันว่าจะออกแบบอีกสักสองสามชุด มีชุดให้ลูกค้าเลือกหลายๆ แบบจะขายได้ง่ายกว่า ร้านค้าส่งที่เป็นคู่ค้าของโรงงานเฟิงหยุนสามารถช่วยขายชุดได้ ฉันเชื่อว่าต้องมีใบสั่งซื้อเพิ่มอีกแน่นอน” ซุยหลันซีโน้มน้าวเถ้าแก่เนี้ยอย่างสุดกำลัง เพราะอยากช่วยแก้ปัญหาให้กับเติ้งเว่ยหมิง นอกจากนี้อาจทำกำไรได้อีกนิดหน่อย“โรงงานเฟิงหยุนยินดีที่จะทำตามที่คุณซุยนำเสนอ แต่ว่าเฟิงหยุนของฉันจะได้อะไรบ้างคะ?” หวงเสี่ยวเหมยแสดงความยินดีที่จะทำตามข้อเสนอของซุยหลันซี แต่ก็ยังคงต่อรองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ สมกับเป็นเถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงงานผู้มากประสบการณ์ ที่ไม่เคยเก็บงำเขี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status