และสุดท้ายไรอันก็ดื้อจนถึงที่สุด เมื่อตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้ก็สามวันแล้วที่คุณไบรอันต้องรอคำตอบจากบุตรชาย เมื่อไรอันไม่ยอมกลับไปกับเขาแถมยังตีเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดจอห์นที่พยายามแล้วก็ยังไม่สำเร็จแถมโดนไรอันโกรธเข้าให้อีกคน
“ไรอันไปไหน”
“อยู่ห้องทำงานครับนาย”
“อืม ไปบอกมาหาฉันที่สระน้ำหลังคาสิโนหน่อยไป”
“ครับ”
พอสั่งเสร็จก็เดินกลับเข้าห้องทำงานไป เมื่อนี่คงเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำให้ไรอันกลับไปกับคุณไบรอันแล้ว ส่วนไรอัน เมื่อลูกน้องเดินไปบอกว่าจอห์นให้ไปพบเขาก็แทบอยากหนีออกจากคาสิโนไป แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อหนีไปไหนก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี เลยตัดสินใจเดินออกไปหาบิดาตามที่สั่งมา
“ลูกว่าอะไรนะ! คุณแม่...คุณแม่หกล้มเข้าโรงพยาบาลเหรอ! แล้วตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง! งั้นเดี๋ยวพ่อจะบินกลับไปวันนี้เลย ใจเย็นๆแล้วคอยรายงานพ่อ ไม่นานพ่อคงถึง โอเคๆ”
“คุณแม่...คุณแม่เป็นอะไร...”
ไรอันที่เดินเข้ามาเหมือนกับคนละเมอ เมื่อเขาได้ยินที่คุณไบรอันคุยโทรศัพท์เมื่อกี้
“แกสนใจด้วยเหรอ ตั้งแต่แกหนีออกจากบ้าน แม่แกก็ร่างกายย่ำแย่ไม่แข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ตอนนี้ฉันหมดเวลาที่นี่แล้ว ถ้าแกไม่กลับไปกับฉันก็อยู่ที่นี่ไปละกัน”
“ไม่...”
ไรอันทำหน้าสับสนเมื่อคำพูดของบิดาช่างทำร้ายจิตใจของเขาเหลือเกิน ถึงแม้ว่าจะโกรธที่บิดาทำกับเขามากมายขนาดไหน แต่กับมารดานั้นเขาไม่เคยโกรธเลยสักนิด และทุกครั้งที่นึกถึงมารดามาเฟียหนุ่มนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบเสียใจที่หนีมาอย่างนั้น แต่ไม่นึกว่ามารดาจะต้องมาล้มป่วยเพราะสิ่งที่เขาทำ พอได้ยินบิดาพูดออกมาเหมือนกับยิ่งถาโถมความเสียใจเข้ามาในใจของเขามากไปกว่าเดิม
“ผมจะกลับด้วย...แต่ถ้าคุณแม่หายดีแล้วผมจะกลับมาที่นี่”
“เฮ้อ ตามใจแกเลย แกโตพอที่จะตัดสินใจเองได้แล้วนี่”
คุณไบรอันพูดออกมาพร้อมกับเดินออกไปเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ และจากนั้นไม่นานสองพ่อลูกก็อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ตลอดทางไรอันเอาแต่ก้มหน้ากุมมือตัวเองแน่น เมื่อสิบปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอมารดาและน้องสาวฝาแฝด ไม่รู้ป่านนี้ทั้งสองจะยังจำเขาได้ไหม ชายหนุ่มเอาแต่คิดไปต่างๆนานาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
“แกโอเครึเปล่า”
จากมาดมาเฟียหนุ่มผู้หยิ่งผยอง ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความวิตก ก่อนที่ไรอันจะยืดตัวขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา
“ผมอยากเจอคุณแม่”
“อืม ตามฉันมา”
จากนั้นคุณไบรอันก็เดินนำเข้าไปในโรงพยาบาลที่อีกไม่นานไรอันก็จะต้องเข้ามาทำงานที่นี่ต่อจากเขา เพราะบุตรสาวของเขานั้นขอเป็นเพียงหมอของที่นี่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงาน เขาเลยต้องไปตามบุตรชายกลับมาเพราะมีอีกหลายโรงพยาบาลในเครือต้องดูแล แถมธุรกิจอื่นๆอีก เขาคนเดียวคงดูแลไม่ไหวและอีกไม่นานเขาก็วางแผนจะวางมือจากทุกอย่างแล้ว
“ไร...ไรอัน...”
และพอเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยวีไอพี เสียงแหบพร่าสั่นเครือของคุณมิรันก็เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งน้ำตาแห่งความดีใจไหลพรากออกมาราวกับเขื่อนแตก เมื่อไม่คิดไม่ฝันว่าบุตรชายจะยอมกลับมา ร่างเล็กผอมแห้งพยายามจะลุกเดินเข้ามาหาจนเกือบล้มพับไปกับพื้นห้องดีที่คุณไบรอันสังเกตเห็นรีบเข้ามาช้อนกอดก่อนร่างภรรยาจะล้มลงไป ทำเอาไรอันที่มองอยู่ถึงกับสะท้านในอก ตาคมแดงก่ำอย่างแสนเสียใจ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาใกล้
“ผมขอโทษครับคุณแม่”
“ฮือๆๆๆ ไรอัน ฮือๆๆ ลูกจริงๆด้วย ลูกกลับมาหาแม่แล้ว ฮือๆๆ ไรอันลูกแม่ ฮือๆ”
ร่างผอมโผเข้ากอดบุตรชายทันทีก่อนจะปล่อยเสียงร้องไห้ออกมา ทำเอาคุณไบรอันอดเอ่ยขอโทษภรรยาในใจไม่ได้ ถ้าวันนั้นเขาไม่ใจร้อนแล้วฟังเหตุผลของลูกชายสักนิด ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้
“เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูงานที่ห้องทำงานก่อนนะ”
คุณไบรอันรีบเดินเลี่ยงออกมา เมื่ออยากให้ภรรยาได้อยู่กับบุตรชายสองคน
“อ่าว คุณพ่อ! กลับมาแล้วเหรอคะ แล้วพี่ไรอัน...”
พอเดินออกมาจากห้องพักคนไข้ คุณไบรอันก็เจอเข้ากับร่างอรชรของบุตรสาวสุดที่รัก ไรอา บุตรสาวฝาแฝดน้องสาวของไรอันกำลังมองมาที่บิดาอย่างคาดหวัง ตากลมที่เหมือนกับของพี่ชายไม่มีผิดเพี้ยนกำลังมองเลยบิดาไปด้านหลังเพื่อหาใครอีกคนที่เธอแสนคิดถึง แต่ก็มีแต่ความว่างเปล่า ก่อนหน้าเรียวจะสลดลงทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่จางหาย
“เจอพ่อแล้วมันผิดหวังขนาดนั้นเลยเหรอ หืม?”
“โธ่ ไรอาแค่หวังว่าพี่ไรอันจะกลับมาด้วยนี่คะ แล้วนี่คุณพ่อเข้าไปดูคุณแม่มาแล้วเหรอคะ คุณแม่ตื่นรึยังคะ”
“ตื่นแล้ว”
“อ้อ งั้นเดี๋ยวไรอาเอาน้ำเกลือไปเปลี่ยนให้คุณแม่ก่อนนะคะ ท้องเสียแบบนั้นใส่อีกสักถุงน่าจะดี”
“เดี๋ยวๆๆๆ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”
“อ่าว...”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบร่างบางก็ถูกบิดาลากให้เดินตามไปด้วย เมื่อเขาอยากให้ภรรยาทำให้บุตรชายใจอ่อนยอมอยู่ที่นี่ ทำเอาไรอาถึงกับสับสน สองมือยังถือถึงน้ำเกลือเอาไว้ในมือ แต่สุดท้ายก็เดินตามบิดาไป
“คุณแม่...เป็นยังไงบ้างครับ”
พอคุณมิรันเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ไรอันจึงถามถึงอาการป่วย พร้อมกับมองสำรวจร่างเล็กที่ผอมกว่าครั้งล่าสุดที่เขาเคยเจอเมื่อสิบปีก่อนเป็นอย่างมาก
“ก็ดีขึ้นแล้ว โรคคนแก่ธรรมดาน่ะ”
“แต่คุณแม่ดูไม่ค่อยแข็งแรงเลยนะครับ ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณแม่ต้องล้มป่วยแบบนี้ ผม...”
“อย่าไปพูดถึงมันเลยนะลูก แค่ลูกกลับมาแม่ก็ดีใจมากแล้ว อย่าทิ้งแม่ไปไหนอีกนะ”
คุณมิรันโอบกอดร่างใหญ่ไม่ยอมปล่อย เธอไม่นึกว่าเขาจะกลับมาด้วยซ้ำ เมื่อไรอันช่างใจแข็งและเด็ดเดี่ยวได้ถึงสิบปีแถมไม่ยอมติดต่อมาหาเธอเลยสักครั้ง
“สัญญาสิว่าลูกจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนอีก”
“แต่ผมมีงานต้องทำ...แต่ก็มาหาคุณแม่ได้...”
“......................”
คุณมิรันถึงกับเงียบไปทันที ก่อนจะปล่อยอ้อมกอดออกจากร่างใหญ่แล้วนอนหันหลังให้ ไรอันได้แต่มองมารดาอย่างหมดหนทาง เมื่อเขาก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นลูกไม่น่ากลับมาแต่แรกเลย...”
เสียงที่บ่งบอกถึงความผิดหวังและไหล่ที่สั่นไหว ทำเอามาเฟียใจแข็งเป็นหินอย่างไรอันถึงกับแทบไปไม่เป็น
“ผมขอโทษครับคุณแม่...”
“กลับไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก...ปล่อยแม่ตายอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้แหละดีแล้ว อีกไม่นานแม่ก็คงไม่อยู่ในโลกใบนี้...”
ไรอันถึงกับหมดแรง เมื่อไม่เคยมีใครที่ทำร้ายจิตใจเขาได้เลยสักคนนอกจากคนที่นอนอยู่บนเตียงในตอนนี้ เขารู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดเพียงไม่กี่คำของมารดาจนแทบก้าวขาไม่ออก
“ผมขอโทษครับคุณแม่...”
ไรอันเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาแต่กึกก้องในหัวใจของคุณมิรันก่อนที่จะได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง น้ำตาที่พึ่งหยุดไหลของคุณมิรันหลั่งไหลออกมาอีกรอบเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องนี้เพียงลำพังเสียแล้ว
ส่วนไรอันที่ตัดสินใจเดินออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หยุดไหลมาเป็นเวลาสิบปีกลับหลั่งรินอย่างหนัก ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่ทำ แต่เขาไปไกลเกินกว่าจะกลับมาอยู่ในจุดนี้ได้แล้ว ค่าหัวของเขาอาจแพงกว่าค่าหัวของผู้บริหารประเทศใดประเทศหนึ่งก็เป็นได้
“ได้ข่าวว่าแกจีบลูกสาวเจ้าของโรงบาลติดเหรอวะ ฮ่าฮ่าฮ่า คิดยังไงยอมคบกับคนอย่างแกวะเนี่ย”“โธ่ หล่อๆแบบฉันหายากนะเว้ย”“ฉันก็เข้าใจ แต่ผีพนันอย่างแก มีหวังยัยนั่นได้หมดตัวในหนึ่งเดือนแน่”“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่หรอก แกรู้ไหมว่าครอบครัวไรอารวยขนาดไหน ฉันรู้มานะว่ารวยแบบโคตรๆ รวยจริงรวยจังแถมเธอยังเป็นลูกคนเดียวอีกนะเว้ย คิดดูสิถ้าฉันได้มาเป็นเมียนะ สบายไปทั้งชาติ”“อ่าวไหนบอกมีพี่ชาย”“ตายไปแล้วมั้ง ไม่เคยมีใครเห็นนี่ สงสัยตายไปแล้วล่ะ”“!!!!!!”ขณะที่ไรอันกำลังจะเดินไปทางบันไดหนีไฟ เขากลับได้ยินการสนทนาที่แค่ได้ยินก็รู้ได้ทันทีเลยว่ากำลังพูดถึงครอบครัวของเขาอยู่ ชายหนุ่มหยุดฟังจนกระทั่งทนไม่ไหวก่อนจะเดินเข้าไปยืนต่อหน้าของทั้งสองคน ทำเอาคนที่กำลังพูดอยู่ถึงกับตกตะลึงตาค้างเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่ม“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไร”ไรอันกดเสียงต่ำพร้อมกับกัดฟันแน่น จับจ้องไปที่ผู้ชายสองคนที่มองมาที่เขาอย่างตะลึงงัน เมื่อมาเฟียหนุ่มนั้นมีหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับน้องสาวฝาแฝดไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแค่ส่วนสูงและทรงผมเท่านั้นที่ต่างกัน“ฉันถามว่าพวกแกพูดว่ายังไง!”ไรอันตะโกนถามอย่างไม่สนใจว่าที่นี่คือที่ไหน สองขาก้าวเข้า
“อืม ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ฉันจัดการได้”“ครับ ผมคงต้องอยู่นี่นานหน่อย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็โทรมาเลยนะผมจะได้ขึ้นไป”“อืม พ่อของแกน่ะ ยกโทษให้ได้แล้ว แกลงโทษเขามานานมากพอแล้วนะไรอัน”“มันก็นานพอกับที่ผมลงโทษตัวเอง งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องจัดการอีกหลายอย่าง ไว้เดี๋ยวผมจะโทรหาอีกที”ไรอันกดวางสายทันทีที่พูดจบเมื่อไม่อยากฟังที่จอห์นบ่น ก่อนจะหันมาหาหาเตชิน ที่พาลูกน้องอีกสี่ห้าคนตามมาคอยปกป้องไรอันตามที่จอห์นสั่งเอาไว้“ไปหาซื้อคอนโด เอาที่ปลอดภัยและกว้างขวางพอที่จะอยู่ได้หมดนี่ ฉันคงต้องอยู่ที่นี่นานหน่อย”“ครับนาย เดี๋ยวผมจัดการให้เลย น่าจะไม่เกินพรุ่งนี้”“ต้องได้วันนี้”“ครับ...”เตชินรีบรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไปทันที ส่วนไรอันตอนนี้เขาคงต้องคอยรับมือกับอีกหลายเรื่อง เมื่อยังไงก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่วันต่อมา ไรอันก็เข้ามาทำงานที่สำนักงานใหญ่ของโรงพยาบาล ที่แยกออกมาตั้งอยู่ที่ตึกสูงเสียดฟ้าไม่ไกลจากโรงพยาบาลใหญ่เท่าไหร่นัก“อะไรนะ! ลูก...ลูกชายของท่านประธานอย่างนั้นเหรอ? ไหนใครว่าตายไปแล้ว ไหนว่า...”“อย่าพูดออกมานะครับท่าน เห็นว่าเมื่อวานมีคนโดนซ้อมเพราะดันไปโม้ว่ากำลังคบกับค
“ถ้าแกจะมายืนในตำแหน่งของฉัน ขอร้องว่าอย่าพึ่งสร้างปัญหาหรือศัตรู”ทางด้านคุณไบรอัน พอเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วก็อดว่าไรอันออกมาไม่ได้ เมื่อนี่แค่วันแรกยังสร้างปัญหาถึงขนาดนี้ แล้วคนพวกนั้นจะยอมรับในตัวของไรอันได้ยังไงกัน“โธ่ ก็แค่พูดความจริง แล้วนี่ท่านประธานตาบอดหรือหูหนวกกันถึงให้พวกนั้นโกงกินได้ถึงขนาดนี้”“หุบปากของแกซะถ้าไม่รู้เรื่องอะไร”“หึ! รู้แต่ทำอะไรไม่ได้สินะ เป็นประธานแต่ไร้อำนาจจัดการ แล้วจะเป็นไปทำไมกัน”“ไรอัน!!! ถ้าแกเก่งขนาดนั้นก็ลองจัดการพวกนั้นให้สิ้นซากเองเลยสิ ทำได้ไหม!”“ก็ได้! มาดูกันว่าผมจะทำได้ไหม แล้วคอยดูให้ดีๆ ผมทำได้ดีกว่าประธานคนเก่าแน่นอน!”ไรอันตะโกนออกมาพร้อมกับเดินหันหลังหนีออกไปทันที ทำเอาคุณไบรอันที่ก่อนหน้านี้โกรธหน้าดำหน้าแดงค่อยๆยกยิ้มออกมาซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ถอดแบบบุตรชายของเขามาแป๊ะๆ“เหยื่อกินเบ็ดจนได้สินะ หึหึหึ แกเป็นลูกส่วนฉันเป็นพ่อ ขิงอ่อนหรือจะสู้ขิงแก่ หึหึหึ”ส่วนทางด้านไรอันที่เดินโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาเจอเข้ากับตราดาที่บอกว่าจะพาไปที่ห้องทำงาน ซึ่งก็อยู่อีกทางฟากหนึ่งของชั้นบนสุดแห่งนี้ซึ่งมีห้องทำงานเพียงสองห้อง คือห้องของคุณ
“อะไรนะคะ! ที่พี่ไรอันทำร้ายพวกนั้น...”“อืม พวกนั้นดูถูกเราน่ะ แล้วเราไปรู้จักพวกเลวพวกนั้นได้ยังไงล่ะ”“พวกนั้นเหรอคะ ไรอาว่าไรอาไม่เคยรู้จักนะคะ คนพวกนี้เป็นใครก็ไม่รู้”ไรอาบอกออกมาตามความเป็นจริง เพราะคงเป็นพวกที่เข้ามาจีบเธอนั่นแหละและมันก็เยอะจนนับไม่ถ้วนจะให้เธอจำได้หมดคงไม่มีทาง“ต่อไปนี้ก็ระวังหน่อยล่ะ เราโตเป็นสาวแล้วนะ ระวังพวกผู้ชายเอาไว้ให้ดี คนดีๆหายากนะ จะคุยหรือคบกับใครก็บอกพ่อก่อน เข้าใจไหม”“ค่ะคุณพ่อ แหมหวงลูกสาวเหรอคะ ถ้าหวงก็หาให้เองเลยไหมคะ เอาหล่อๆ ล่ำๆ เหมือนพี่ไรอันนะคะ อิอิอิ ไม่ต้องรวยก็ได้ เพราะไรอารวยม๊ากกกกกมากค่ะ”คุณไบรอันยิ้มให้กับความขี้เล่นของบุตรสาว ก่อนจะอดนึกไปถึงบุตรชายไม่ได้ เมื่อตอนนี้เรื่องหนักใจที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของไรอัน เขาจะทำยังไงให้ไรอันเป็นที่ยอมรับของคนที่บริษัท“แล้วคุณแม่เป็นยังไงบ้าง”“ดีขึ้นเหมือนกับได้น้ำทิพย์มาชโลมจิตใจเลยค่ะ เอาแต่พูดถึงพี่ไรอันจนไรอาอดอิจฉาไม่ได้ ตอนเย็นพี่ไรอันก็แวะเข้ามาหาคุณแม่นะคะ คุยกันนานสองนานก่อนจะกลับไปทำเอาคุณแม่นี่ยิ้มแก้มแทบแตก”“เรานี่นะ แล้วเรื่องที่นี่เป็นยังไงบ้าง ตอนไหนจะเลิกเป็นหมอแล้วไปช่
“อื้อออ พอแล้ว...ฉันเริ่มเมาแล้ว ไม่ไหวๆ เธอดื่มบ้างสิ”กลับมาทางด้านเพชรพราวกับไรอัน เสียงอ้อแอ้ของไรอันบอกขึ้น เมื่อตอนนี้เขาดื่มไปมากจากฝีมือการชงเหล้าของเพชรพราว หญิงสาวเอาแต่ให้เขาดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าเพื่อที่เขาจะได้ไม่สงสัยว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน“เพชรก็เมาแล้ว งั้นเรา...กลับห้องกันเถอะนะคะ คืนนี้เพชรจะบริการคุณเอง”“อื้อ”ไรอันตอบรับด้วยเสียงอันอ้อแอ้คอพับคออ่อนก่อนจะลุกขึ้นตามการพยุงของเพชรพราว พอเดินออกไปพวกลูกน้องที่รออยู่ต่างรีบวิ่งเข้ามาอย่างเป็นห่วง“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันพยุงเขาออกไปเอง พวกนายไปเตรียมรถเถอะ คืนนี้เขาบอกให้ฉันบริการ...ทั้งคืน”“อ้อ ครับ งั้นเดี๋ยวเราไปเอารถมารอหน้าผับเลย”ลูกน้องของไรอันรีบบอกออกมาพร้อมกับวิ่งออกไปเอารถส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คอยยืนเฝ้าไม่ห่างร่างของเจ้านายหนุ่ม จากนั้นไม่นานก็มาถึงคอนโดที่ซื้อเอาไว้ เมื่อไรอันพักอยู่ชั้นบนสุดและพวกลูกน้องของเขาพักอยู่ชั้นถัดมา“เราช่วย...”“ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการได้ พวกนายไปพักเถอะ แล้วอย่ามาขัดจังหวะของเราด้วย”“แต่ว่า...”“ทำตามที่เธอบอก...ถ้าฉันไม่เรียกก็ไม่ต้องมา เข้าใจไหม...”พอมาถึงห้อง เพชรพราวก็บอก
“อื้อออออ ไอ้บ้าเอ้ย! ไปตายอดตายอยากมาจากไหน อ๊ะ! เจ็บ อื้อ เจ็บกว่าตอนฝึกอีก”เช้าวันต่อมา เพชรพราวที่พึ่งรู้สึกตัวหลังจากรองรับบทรักหนักหน่วงของมาเฟียหนุ่มทั้งคืน ค่อยๆลุกขึ้น เมื่อวันนี้เธอต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทวันแรก อุตส่าฝ่าฟันมาจนถึงวันนี้ ถ้าเสียโอกาสนี้ไปคงไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้อีกแล้ว“นี่มันกี่โมงแล้วห๊ะ! ทำไมยัยพราวยังไม่โผล่หัวมาอีก!”ทางด้านคุณมนัส ที่ตอนนี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อเพชรพราวยังไม่โผล่มาที่บริษัททั้งๆที่สัญญาเอาไว้ว่าจะเข้ามาทำงานวันนี้ และตำแหน่งที่เธอขอเขาก็อุตส่าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แต่นี่เกือบเที่ยงยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มา“ผมพยายามติดต่อแล้วครับท่าน แต่คุณหนูปิดเครื่อง หรือว่าคุณหนูจะเปลี่ยนใจ...”“ไม่มีทาง ฉันรู้จักลูกสาวฉันดี ถ้าบอกว่าจะทำแล้วยัยพราวไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน”“ครับ...”คุณมนัสบอกขึ้นพร้อมกับคิดหาทางออก เพราะปกติแล้วเพชรพราวไม่ใช่คนเหลวไหลแบบนี้ที่หายเงียบไปโดยไม่รับผิดชอบ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ร่างบางที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนาก็โผล่มา“ยัยพราว! นะ...นี่แกมาทำไมเวลานี้ห๊ะ!”“อ่าว ไม่ให้ทำแล้วเหรอคะ นั้นพราวกลับเลยแล้วกัน”
“คุณหมอคะ คือว่าคุณ...”“สวัสดีครับที่รัก ผมเจ็บอีกแล้ว เจ็บตรงนี้ๆๆ”ยังไม่ทันที่นางพยาบาลจะได้แจ้ง ร่างสูงใหญ่ของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มก็โผล่เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มมั่นใจที่ทำเอาพวกพยาบาลสาวแทบละลายไปพร้อมๆกันแต่กลับไม่ได้ผลกับคุณหมอสาว ที่พอเห็นหน้าเขาเธอก็ถอนหายใจออกมาทันที“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละครับที่รัก หรือว่าคุณก็ป่วย ให้ผมช่วยรักษาไหม ผมฉีดยาได้นะ...ฉีดเก่งด้วย”“นี่คุณ! คุณจะมาทำไมนักหนา เมื่อเช้าก็มาแล้ว นี่เที่ยงก็มาอีก ไม่มีงานทำรึไง”ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ไรอาก็ถามขึ้นเสียงดัง เมื่อคิดว่าดาราหนุ่มต้องการจะแกล้งที่เธอไปจูบเขาต่อหน้าสาธารณะชนในวันนั้นจึงทำแบบนี้กับเธอ“พอดีผมพักกองคิดถึงก็เลยแวะมาหา ขอกอดทีนึงนะที่รัก”“หยุด! ฉันทำงานอยู่นะคุณ นี่คุณเลิกแกล้งฉันได้แล้ว ฉันบอกแล้วไงว่าขอโทษๆๆๆๆๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น แต่...”ไรอาพูดออกมาอย่างเหลืออดเมื่อเขาทำให้เธอแทบไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดเรื่องของเขาทั้งคืน แถมพอมาทำงานก็ไม่เป็นอันทำงานอีก“แต่ผมไม่ได้พูดเล่น แล้วคุณก็ตกลงเองว่าจะเป็นของผม เดี๋ยวเย็นนี้ผมมารับ ถ้าคุณหนีออกไปก่อนละก็ รับรองว่าผมตามไปถึงคอนโดริมแม่น้ำสุดหร
“นายจะไม่บอกนายน้อยจริงๆเหรอครับ แต่เรื่องนี้มีแค่นายน้อยที่จัดการได้...”“เงียบปากของพวกแกไป แล้วไปบอกคนอื่นด้วยว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูไรอัน รับรองฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่”“ครับนาย!”ทางด้านจอห์นที่ตอนนี้คาสิโนกำลังมีปัญหาจากพวกผิดกฎหมายที่พยายามใช้ที่นี่เป็นแหล่งกบดานและทำความผิด เขาพยายามให้คนคอยตรวจสอบและจับตาดูพวกที่ไม่หวังดีแต่ก็มีมากจนตอนนี้เริ่มจับตาดูได้ไม่ทั่วถึง เมื่อพวกนั้นมาแบบครบวงจร ทั้งค้าอาวุธเถื่อน ยาเสพติด ค้าประเวณีและอีกสารพัดอย่างและใช้คาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงินอีก ตอนนี้เขายังควบคุมสถานการณ์ได้ แต่อีกไม่นานพวกตำรวจคงได้กลิ่นและตามพวกนี้มาแน่นอน“บอกให้คนไปสืบหาข้อมูลของพวกนั้นมา เอาให้ละเอียดยันคนสั่งการและหัวหน้าพวกมันด้วย”“ครับนาย”พอสั่งเสร็จก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ตอนนี้เขาแก่เกินกว่าจะลงไปดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว ได้แต่คอยรับฟังรายงานและนั่งสั่งการอยู่ที่นี่เพราะปกติแล้วไรอันจะเป็นคนทำทั้งหมดแทน แต่ตอนนี้เขาปล่อยให้ไรอันได้กลับไปยังที่ๆควรอยู่แล้วและก็ไม่อยากดึงให้กลับมาที่นี่อีก เพราะมันอันตรายเกินไปสำหรับคนใจร้อนและบ้าดีเดือดอย่างไรอัน“ของครบแล้วใช่ไหม คืน
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เพชรพราวก็ต้องพาเด็กๆบินกลับประเทศไทย เมื่อไรอันถูกบังคับให้กลับไปทำงานหลังจากสองอาทิตย์แรกที่เด็กๆเกิดมา เพราะมันร่วมเดือนแล้วที่ชายหนุ่มบินไปที่อเมริกา และเมื่อไรอันบินกลับมา คุณปู่ คุณย่าและคุณตาก็อาสาอยู่เลี้ยงเด็กๆอยู่ที่โน่นจนกระทั่งกลับมาประเทศไทยพร้อมกันในวันนี้ เพราะคุณพ่อลูกสามทนคิดถึงลูกๆไม่ไหว ขู่เช้าขู่เย็นว่าจะลาออกจากบริษัทจนสุดท้ายเพชรพราวทนคำรบเร้าไม่ไหวพาเด็กๆบินกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย“อ๊าย!!! นี่มันพี่ไรอันตอนเด็กๆนี่คะ มาให้คุณอาอุ้มหน่อยสิหนุ่มๆ โอ๊ย อุ้มใครดีเนี่ย เหมือนกันไปหมดเล้ยยยย”พอมาถึงบ้าน ไรอาที่รอรับอยู่ถึงกับกรี๊ดกร๊าดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอโดดงานที่โรงพยาบาลมารออยู่บ้านร่วมชั่วโมงแล้ว ก่อนจะวิ่งไปรับเอาหนึ่งในสามมาอุ้มอย่างแสนตื่นเต้นดีใจที่สุดท้ายก็ได้เจอหลานๆตัวจริงๆสักที“หึหึหึ ไรอันก็เหมือนไรอานั่นแหละน่า ทำเป็นพูดไป ถ้าเอารูปมาเทียบกันแม่นึกว่าแฝดห้าเลยล่ะ&rd
“อ่าว คุณมนัสครับ จะรีบร้อนไปไหนครับนั่น”“อ่าวคุณไบรอัน! มาทำอะไรครับ ขอโทษทีพอดีผมรีบ เมื่อกี้ยัยพราวโทรมาบอกว่าคลอดลูกแล้ว”“อะไรนะ!!! หนูพราวคลอดลูก!! แล้วนี่กำลังจะไปโน่นเหรอครับ ผมไปด้วยๆ เดี๋ยวโทรบอกให้ภรรยาผมออกมาเลย แล้วไปยังไงครับ”“ผมจองตั๋วเอาไว้หนึ่งทุ่ม”“ไม่ต้องๆเอาเครื่องส่วนตัวไปเลยเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้ โอ๊ย นี่พึ่งคลอดเหรอครับ”“เดี๋ยวไปคุยกันบนรถดีกว่าครับ”ทั้งคุณปู่และคุณตาแทบทำอะไรกันไม่ถูก เมื่อตื่นเต้นดีใจจนเนื้อเต้นพากันรีบเดินตรงไปที่รถของคุณไบรอันที่คนขับยังจอดรออยู่หน้าตึก ดีที่เขากับภรรยาพึ่งไปเที่ยวมาเมื่อสองเดือนก่อนแต่ทำวีซ่ายาวเป็นปีเลยไม่จำเป็นต้องทำวีซ่าใหม่กัน
“พราว!!! เธอ...ทำไมเธอไม่โทรบอกฉันเลยยัยเพื่อนบ้า ฮึก รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแทบแย่ ฮือ...”สองวันหลังจากที่เพชรพราวคลอดลูก เจสิก้าที่พึ่งได้รู้เรื่องจากแอนนารีบกลับมาทันทีเมื่อพยายามติดต่อเพชรพราวเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย เลยโทรมาหาแอนนาและก็ได้รู้ว่าเพชรพราวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเลยหนีงานกลับมาทันที“เจสซี่...มาได้ยังไงไหนว่าไปอีกสองอาทิตย์ไง”เพชรพราวที่ยกมือขึ้นโอบกอดร่างของเพื่อนสนิทที่โถมเข้าหาพร้อมกับถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ“ก็ฉันโทรหาเธอแล้วไม่ยอมรับสายเลยโทรหาแอนนาน่ะสิ แล้วเป็นยังไงบ้าง หลานๆของฉันด้วย”“ปลอดภัยดี คุณพยาบาลพึ่งพากลับไปที่ห้อง น่าจะพามาอีกทีหกโมงเย็นน่ะ”“ฮือๆๆ ฉันเป็นห่วงจนแทบบ้ารู้ไหม...เจ็บมากไหม”“อือ แต่ตอนนี้ไม่เจ
“อ๊ะ! อื้อ...ทำไมวันนี้ดิ้นแรงนักล่ะลูก ตื่นเต้นที่ได้เจอคุณปู่กับคุณย่าเหรอครับ อู้ย...”พอวางสายจากบิดาไป เพชรพราวก็ต้องครางออกมาอย่างรู้สึกเจ็บเมื่อลูกๆของพากันพร้อมใจกันดิ้นจนหน้าท้องนูนเด่นขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวพยายามลูบท้องเพื่อให้เด็กๆสงบลงเหมือนทุกครั้ง แต่ดูท่าจะไม่ฟังกันเลย เมื่อยิ่งดิ้นหนักเข้าไปใหญ่ จนเพชรพราวแทบทนไม่ไหว ตอนนี้เธอเจ็บจนเหงื่อแตกไหลอาบลงตามไรผมเมื่อเริ่มเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ“ระ...ไรอัน อื้อออออ ไรอัน อ๊ะ! อื้อ ไรอัน...ระ...ไรอัน...”เสียงแหบโหยโรยแรงพยายามร้องเรียกไรอันที่ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็นให้เธอ เมื่อเธอบอกว่าอยากทานสปาเก็ตตี้ฝีมือเขาอีกไรอัน...ขอร้อง...เข้ามาที เพล้ง!!!!เพชรพราวที่เจ็บจนหมดแรงพยายามภาวนาให้ไรอันเข้ามาเร็วๆก่อนที่เธ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“คุณว่าอะไรนะ! สะ...สาม ไรอันมีลูกแฝดสามเนี่ยนะ!!!!”กลับมาทางด้านคุณมิรันหลังจากที่ไรอันบินไปหาเพชรพราว เธอพยายามติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจบอกผู้เป็นสามีถึงความลับที่เธอเก็บเอาไว้ เพื่อปรึกษาว่าควรทำยังไงต่อดี และพอคุณไบรอันได้ฟังในทีแรกถึงกับลุกขึ้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นจนไรอาที่พึ่งเดินเข้าบ้านเพราะมารดาโทรตามก็รีบวิ่งเข้ามาตามเสียงของบิดา“มีอะไรคะคุณพ่อ! เสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย เป็นอะไรกันคะ!”“กะ...ก็แม่ของลูก...แม่ของลูกบอกว่ามีแฝดสาม...”“ห๊ะ!! คุณแม่ท้องแฝดสามเลยเหรอคะ!!! เป็นไปได้ยังไง...ไหนว่าประจำเดือนหมดไปแล้ว...”คุณมิรันถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับกับความเหมือนของสองพ่อลูกคู่นี้ ก่อนจะยกมือห้ามเสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาให้รำคาญหัวใจอีก
“อื้ออออ อึดอัด...”เช้าวันต่อมา เพชรพราวที่รู้สึกรำคาญดิ้นไปมาก่อนจะนิ่งไปอีกครั้งเมื่อไรอันค่อยๆยกแขนที่เขากอดเธอเอาไว้ออก ร่างใหญ่ลุกออกจากเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน พอเสร็จชายหนุ่มก็เดินออกไปที่ครัวเพื่อดูว่ามีอะไรที่สามารถเป็นอาหารให้เขากับเธอได้ ก่อนจะเจอเส้น ที่ใช้ทำสปาเก็ตตี้และวัตถุดิบทุกอย่างครบครันเขาเลยลงมือทำทันที เพราะแต่ก่อนเขาก็ทำกินเองบ่อยๆเมื่อตอนไปเรียนที่อังกฤษตุ๊บ!!!“คุณเป็นใคร! เข้ามาในนี้ได้ยังไง!”แอนนาที่พึ่งเข้ามาทำงานตกใจถึงกับปล่อยนมบำรุงครรภ์ที่ซื้อติดมือมาหล่นลงพื้นเมื่อเจอเข้ากับไรอันในร่างเกือบเปลือย มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ ร่างอวบมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้องนอนของเพชรพราวและพบว่าเธอยังปลอดภัยดีก็ถอนหายใจออกมา“ตกลงคุณเป็นใคร เข้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเข้ามาได้ยังไง”แอนนาถามออกมาชุดใหญ่ เมื่อมองดูรอบๆพบว่ามันไม่ได้มีอะไรหายไปหรือแตกหัก แสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย ส่วนไรอันก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเขาลืมไปเสียสนิทว่าแอนนาต้องเข้ามาทำงานที่นี่“เอ่อ คือ...ผม เอ่อ...”“อ่าว สวัสดีค่ะแอนนา มีอะไรกันรึเปล่าคะ”
“นายครับ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ...”เตชินที่เดินตามไรอันถามขึ้นอย่างแปลกใจกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม หลังจากออกมาจากห้องทำงานของคุณมนัสได้พักใหญ่ๆไรอันก็เดินเหมือนกับว่าไร้วิญญาณในมือถือกรอบรูปอันเล็กเอาไว้จนเตชินที่ทั้งแปลกใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเขากันแน่อดถามขึ้นไม่ได้“นายครับ นั่นมัน เอ่อ ห้องทำงานไปทางนี้ครับ”“หือ? อือ...”“เป็นอะไรของเขาล่ะเนี่ย หรือว่าคุณมนัสพูดอะไรมา แต่ไม่น่าจะทำให้นายเป็นอย่างนี้ได้นี่”ยิ่งคิดเตชินยิ่งสับสน เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นไรอันเป็นแบบนี้ ก่อนไรอันจะเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วบอกไม่ให้ใครรบกวนเป็นอันขาด“มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมเธอถึง...”ชายหนุ่มยกรูปที่ขอยืมมาจากคุณมนัสขึ้นดู มันเป็นเพียง
“จะไม่กลับไปกับพ่อจริงๆเหรอ ท้องโตอย่างนี้แถมไม่มีคนดูแลอีก กลับไปกับพ่อเถอะนะ”“พราวดูแลตัวเองได้ค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เจสซี่ก็อยู่ คุณพ่อน่าจะอยู่เล่นกับหลานๆนานกว่านี้หน่อย ตั้งแต่คุณพ่อมาเด็กๆก็ไม่ค่อยเกเร...คุณตาจะกลับแล้วบอกลาคุณตาสิครับ”“อุ๊ย ดิ้นกันใหญ่เลย ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยวตาจะบินมาบ่อยๆนะ อย่าดื้ออย่าซนให้มันมากนักไอ้เสือน้อยของตา เข้าใจไหมครับ”“ฮึก คุณพ่ออ่ะ อย่าทำให้พราวร้องไห้สิคะ ไม่ต้องกลับได้ไหมคะ พราวคิดถึงคุณพ่อแล้ว”“โธ่ เด็กขี้แย จะเป็นแม่คนแล้ว”คุณมนัสดึงร่างอวบของบุตรสาวเข้ามากอดพลางน้ำตาซึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อในตอนนี้ไม่ใช่มีแค่ลูกสาวเขาคนเดียวแล้วแต่ยังมีหลานน้อยเพิ่มมาอีกสามคน แล้วจะไม่ให้เขาห่วงเพิ่มเป็นทบเท่าทวีคูณได้ยังไง“เดี๋ยวจะถ
หนึ่งวันหลังจากนั้นคุณไบรอันก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่กรุงเทพฯพร้อมกับจอห์นส่วนไรอันต้องสะสางเรื่องที่คาสิโนและต้องให้ความร่วมมือกับพวกตำรวจสากลที่ต้องการตรวจสอบธุรกิจของเขารวมทั้งบริษัทผลิตอาวุธอีก เลยทำให้วุ่นกันไปหมดเพราะพอที่นี่เสร็จต้องบินไปที่อังกฤษอีก ไรอันแทบไม่ได้หยุดพัก เมื่อจอห์นตัดสินใจแล้วว่าจะขายคาสิโนทิ้งเหลือเอาไว้แค่บริษัทที่อังกฤษ ส่วนไรอันตกลงแล้วว่าจะกลับมารับช่วงต่อที่โรงพยาบาล เมื่อไรอาไม่ยอมที่จะขึ้นบริหารที่นั่น ก็คงเหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ต้องกลับไปรับตำแหน่งต่อจากบิดา“นายครับ ทีมงานจากประเทศไทยพึ่งกับมาถึง น่าจะเข้ามาทำงานกันพรุ่งนี้”“อืม แจ้งไปทางตำรวจสากลให้เข้าตรวจพรุ่งนี้ได้เลย ส่วนเรื่องที่ฉันให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง”“ไม่มีข้อมูลหรือข่าวของเธอเพิ่มเติมเลยครับนาย คุณมนัสไม่ได้ติดต่อหรือไปหา ส่วนที่อเมริกาก็ไม่มีครับยากมากที่จะหาข้อมูลของเธอที่นั่น เพราะแทบไม่มีใครพูดเรื่องส่วนตัวกันเลย บอกแค