 LOGIN
LOGIN~Chapter 3~
-เวลาต่อมา-
“พาย!! ”
“ห้ะ! ”
“แกเหม่ออีกแล้วพาย แกเหม่อแบบนี้เรียนไม่รู้เรื่องนะ”
“ก็…” ฉันพูดได้แค่นั้นก่อนที่ดวงตาของฉันจะแอบบชำเลืองสายตามองดูน้ำเหนือ กับเฌอรีน ซึ่งมันกวนใจฉันมากจนฉันไม่มีสมาธิในการเรียนเลคเชอร์ในภาคเช้าเลย
“แกคงสงสัยเรื่องเหนือใช่ปะ แต่ตั้งใจเรียนก่อนดีไหม ค่อยถามช่วงพักเที่ยง” ฉันหันหน้าไปมองปลายฝนก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าให้กับเธอ
“ว่าแต่วาโยโดดเลคอีกแล้วเหรอ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้กับปลายฝน ซึ่งเธอก็ส่ายหน้าเบา ๆ
“เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าของโรงบาลอย่างนั้นใช่ไหม ถึงทำอะไรก็ได้ เห้อ…ฉันล่ะไม่ชอบเขาเลย” ฉันอยากเอามืออุดปากปลายฝนไว้ เธอพูดออกมาแบบนี้ถ้าวาโยมาได้ยินคงเสียใจแย่
“ก็นะ ฉันมันจนนี่ก็ต้องตั้งใจเรียนเพื่อจะได้ไม่ต้องหลุดทุน แถมยังเป็นทุนโรงพยาบาลของวาโยอีก” ก็วาโยนั่นแหละให้ทุนเธอ ฉันพูดได้แค่ในใจ ปลายฝนเธอก็บ่นไปตามภาษาเธอนั่นแหละเพราะมันอยู่ในช่วงพักครึ่งในภาคเข้า
“ฝน ฉันกลัวเหนือคบกับเฌอ…”
“ฉันว่าชัวร์” นั่นสิเพราะปกติเฌอรีนต้องมานั่งเรียนกับเรา พอเจอแบบนี้มันอดคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
อีกอย่างพอเห็นแบบนี้มันทำให้ฉันหวนนึกถึงวันแรกที่ฉันได้เจอเฌอรีนก่อนที่เราจะได้มาสนิทกันแบบนี้ วันนั้นเป็นวันรับน้องฉันยังจำได้แม่นเลยว่าเฌอรีนอยากได้ไลน์เหนือ ซึ่งตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเหนือเป็นแฟนฉัน ไม่แปลกที่เธอจะพูดแบบนี้เพราะหลายคนยังมาขอไลน์เขาจากฉันเลย แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เฌอรีนรู้ว่าฉันเพิ่งเลิกกับเหนือได้ไม่ถึงปีเลย เธอจะมาคบต่อจากฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันทำใจไม่ได้หรอก
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ขณะที่ฉันนั่งร้อนรนใจจนไม่เป็นอันเรียน หลายครั้งที่ฉันเอี่ยวใบหน้าหันหลังไปมองน้ำเหนือที่นั่งอยู่เก้าอี้เลคเชอร์ท้ายห้อง มีหลายครั้งเหมือนกันที่เขาตวัดสายตามองฉัน
“เห้อ…ปล่อยเลทอย่างนี้จะได้กินไหมข้าว” ปลายฝนบ่นอุบอิบขณะที่เก็บไอแพดเข้ากระเป๋า อยากกระซิบบอกว่าไอแพดเครื่องนี้วาโยก็เปย์ปลายฝนโดยที่เธอไม่รู้ตัว และเธอก็นึกว่าเธอกำลังดวงดีซึ่งมันไม่ใช่
พรึ่บ!
“แกจะไปไหนน่ะพาย ไม่กินข้าวเหรอ! ” เสียงของปลายฝนดังไล่หลังฉันเมื่อฉันตัดสินใจลุกขึ้นยืนและวิ่งตามแผ่นหลังของน้ำเหนือไป
หมับ!
“เหนือ พายขอคุยด้วยหน่อยสิ” ฉันถือวิสาสะคว้าข้อมือหนาของเขาไว้ ก่อนที่สายตาคม ๆ ของเขาจะเลื่อนลงมองที่ฝ่ามือของฉันมันทำให้ฉันค่อย ๆ คลายฝ่ามือออกอย่างช่วยไม่ได้
“น่ารำคาญ”
“เหนือคบกับเฌอเหรอ” ฉันไม่สนคำพูดของเขา ฉันสนแค่คำตอบที่เขาจะตอบฉันหลังจากนี้ ใจของฉันมันเต้นแรงขึ้นมาก เพื่อลุ้นว่าเขาจะตอบอะไร
“กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกูมั้ย” ใช่ มันเรื่องของเหนือ แต่ฉัน…
“อย่าคบกับเฌอได้ไหมเหนือ เหนือ…”
“อ้าว! พายนึกว่าไปกับฝนซะอีก” ไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรจบ เฌอรีนก็เดินมาจากไหนก็ไม่รู้
“คือ พอดีฉันมีเรื่องคุยกับเหนือน่ะ…”
“คุยเรื่องไรเหรอ เหนือเลิกกับพายแล้วหนิ” คำพูดของเฌอรีนทำให้ฉันจุกมาก แต่มันก็ไม่จุกเท่า…
“ยัยนี่บอกว่าไม่ให้ฉันคบกับธอ” ฉันอึ้งที่อยู่ ๆ น้ำเหนือก็พูดออกมาแบบนี้ มันก็จะทำให้เฌอรีนมองฉันไม่ดีน่ะสิ
“_” ฉันแอบเห็นใบหน้าของเฌอรีนที่ตึงขึ้นมา ซึ่งมันก็แค่แวบหนึ่งเท่านั้น
“หึ” น้ำเหนือแค่นหัวเราะออกมาก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินออกไป แต่แล้ว…
“เจอแล้วค่า~ สำหรับมือกีตาร์โซโล่ของวงสกายแบรนด์ตามที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ น้ำเหนือค่า~” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น ซึ่งชื่อน้ำเหนือก็ทำให้เจ้าของชื่อหยุดชะงักฝีเท้า เขาหันไปมองวีเจสาวคนนั้น ก่อนที่น้ำเหนือจะตวัดสายตามามองฉัน
“สวัสดีค่า จำพี่ได้ไหมเอ่ย…”
“ทำไมกูต้องจำด้วยวะ” ฉันมองดูสถานการณ์ตรงหน้าที่เริ่มมาคุขึ้นเมื่อน้ำเหนือไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด มันก็เลยทำให้ฉันต้องเดินไปตรงนั้น
“เอาใหม่ ๆ ” พี่วีเจคนนี้เธอหันไปบอกกับตากล้องเหมือนจะเริ่มถ่ายใหม่
“เอ่อ…เดี๋ยวฉันให้สัมภาษณ์แทนดีกว่านะคะ” น้ำเหนือเขาหันมามองฉัน ซึ่งมันยิ่งทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“ค่ะ แต่พี่เพิ่งสัมภาษณ์น้องไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนะคะ พี่ขอสัมภาษณ์น้ำเหนือเล็กน้อยได้ไหมคะ”
“สัมภาษณ์แบบไม่ต้องถ่ายน่าจะได้นะคะ” ฉันยิ้มให้พี่วีเจก่อนที่ฉันจะหันไปหาน้ำเหนือที่ตอนนี้เขาขมวดคิ้วมองฉันอยู่
“กูบอกกูไม่เล่น”
“เอ๊ะ? พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย”
“ค่ะ น้ำเหนือแค่หยอกเล่นน่ะค่ะ ฮ่า ๆ ” ฉันหัวเราะกลบเกลื่อนการเสียหน้าในครั้งนี้ ก่อนที่น้ำเหนือเขาจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาและเดินจากไป
“ยังไงคะเนี่ยน้อง น้ำเหนือพูดงี้หมายความว่าไง” พี่วีเจอหันมาถามฉัน ซึ่งฉันก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
“ถ้าน้ำเหนือไม่ขึ้นแสดงช่องพี่ก็ซวยน่ะสิ พี่ลงข่าวน้ำเหนือไปแล้วนะว่าเขาจะขึ้นประกวดด้วยปีนี้ ไม่ใช่แค่ข่าวในมอนะ นอกมอเขาก็พูดกัน” ฉันพยายามควบคุมความรู้สึกตัวเองให้ได้มากที่สุดในตอนนี้
“แสดงว่าข่าวลือวงแตกเพราะน้องก็จริงน่ะสิ ว้า…คะแนนนิยมต่ำแน่”
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ” ฉันปฏิเสธออกไปถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่ภาพลักษณ์ของวงฉันควรรักษาไว้
“น้ำเหนือเขาอาจจะกำลังหงุดหงิดอะไรมาน่ะค่ะ ยังไงเดี๋ยวค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่ดีกว่านะคะ เดี๋ยวพายจะสัมภาษณ์ไปให้ค่ะ งั้นพายของสคริปต์หน่อยนะคะ” พี่วีเจเธอยิ้มให้ฉันก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษหนึ่งแผ่นมาให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่วาโยล่ะคะน้อง”
“อ้อ อยู่ห้องสมุดค่ะไม่น่าจะสะดวกคุย” ตกนรกสิบแปดขุมแน่ฉัน โกหกเก่งขนาดนี้
“อ้อ แล้ว…”
“พี่พอตเตอร์กับน้ำชาน่าจะอยู่ที่คณะค่ะ”
“โอเค งั้นพี่ไปก่อนนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่เขาก่อนที่เธอจะเดินจากไป เพราะว่ามหาลัยของเราเป็นมหาลัยชื่อดังไม่ว่าจัดกิจกรรมอะไรก็มักได้รับความนิยม ไม่ใช่แค่ในมอเท่านั้น แต่มันถึงขนาดออกทีวีเลยก็ว่าได้ ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกฉันพ่นออกอย่างแรงจากปลายจมูก จะเอายังไงดีกับบทสัมภาษณ์ในมือนี้ดี เหนือไม่ยอมแน่ ๆ
“ให้ฉันช่วยอะไรในวงมะ” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงพูดของเฌอรีน จริงสิเธออยู่ตรงนี้ตลอดเลย ฉันลืมไปได้ไง
“ไม่เป็นไรหรอกเฌอ เกรงใจน่ะ” ฉันยิ้มให้เธอบาง ๆ ก่อนที่เฌอรีนจะพยักหน้าเข้าใจ
“เฌอเมื่อคืน แกไปนอนกับเหนือมาเหรอ”
“หือ? เปล่าสักหน่อย”
“แต่…” ฉันล้วงฝ่ามือเข้าไปในกระเป๋าเคียง ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือของเฌอรีนออกมา
“อุ้ย! แก…รู้เหรอ” อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมน้ำเหนือถึงฝากกระเป๋าของเฌอรีนมากับฉัน ทั้ง ๆ เขาจะต้องเจอเธออยู่แล้ว
“แก…คบกับเหนือเหรอ”
“เปล่า แกอ่ะคิดมาก” เฌอรีนมีสีหน้ายิ้มแย้มตามสไตล์สาวเฟรนลี่
“ฉันไม่อยากให้แกคบกับเหนือเลย คือ…เฌอรีน แกก็รู้ว่าที่ฉันเลิกกับเหนือมันเป็นความผิดพลาด”
“แต่แกก็ไม่มีสิทธิมาห้ามฉันป่ะวะ” ฉันรู้สึกไปเองหรือเปล่าที่เสียงของเฌอรีนมันห้วน ๆ ผิดปกติ
“เฌอคือ ฉันยังตัดใจไม่ได้” ฉันตัดสินใจพูดออกไป แม้ว่ามันจะเป็นการเห็นแก่ตัวของฉัน แต่ฉันยังคงทำใจไม่ได้จริง ๆ นี่หน่า แต่แล้ว
“แกไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้าฉันคบกับเหนือให้รู้ไว้ว่าฉันคงไม่ใช่คนเริ่ม” คำพูดของเฌอรีนก็ทำให้ฉันนิ่งงันทันที ทำไมเฌอรีนถึงพูดแบบนี้ ถ้าพูดแบบนี้เหมือนจงใจจะบอกฉันเลยว่าน้ำเหนือเป็นคนเริ่ม ทำไมถึงไม่เห็นใจฉันบ้าง…เหนือใจร้ายชะมัด
____________________________
ฝากคอมเม้นท์ด้วยน่าา

~Chapter 9~แม้ภายในใจจะบอบช้ำเพียงใดกับการปฏิเสธของเขา แต่เธอก็พยายามที่จะยิ้มออกมา เรียวแขนเล็กค่อย ๆ คลายออกจากลำคอแกร่งก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นสบสายตากับดวงตาคมที่มองหน้าเธอไม่ละสายตาเช่นเดียวกัน“เวลาเหนือมีอะไรกับเฌอรีน เหนือป้องกันหรือเปล่า” เสียงเล็ก ๆ ของเธอมันทำให้เขาหงุดหงิด พระพายจับชายเสื้อยืดของตัวเองก่อนจะถอดออกอย่างอ้อยอิ่ง“กลัว? กูต่างหากที่ต้องกลัว”“พายไม่ได้ทำอะไรกับใครมาเหมือนเหนือสักหน่อย” เธอพูดเสียงเบา ๆ พร้อมกับฝ่ามือบางที่ยกขึ้นปลดตะขอบราเซียร์สีหวานออก มีผลให้หน้าอกอวบอิ่มเกินขนาดดีดเด้งออกตามแรงโน้มถ่วงทันทีพรึ่บ!พระพายยกฝ่ามือขึ้นกอบกุมความอวบอิ่มนั้นไว้ในอุ้งมือเมื่อถูกสายตาคมหลุดโฟกัสมองมันอย่างลืมตัวหมับ!“อ๊ะ! ” ฝ่ามือหนาคว้าหมับที่ต้นแขนเล็กก่อนจะพลิกขึ้นมองเข็มยาคุมที่ยังคงฝังอยู่บนต้นแขนของเธออยู่ ขณะที่พระพายเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่บิดต้นแขนอย่างแรง รอยยิ้มมุมปากของเขาบ่งบอกว่าเขาเองพึงพอใจที่เธอยังไม่ได้เอาออกแม้ว่าจะเลิกกันนานแล้ว“ก็เหนือชอบเข้าห้องพายมาทำอะไรพายหนิ” หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นแม้ว่าเขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา“หึ” น้ำเห
~Chapter 8~หลายนาทีต่อมา…แกร็ก~“ฉันว่าควรตั้งกฎห้ามวาโยดื่มเหล้า…” เสียงของน้ำชาดังขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังเดินออกจากห้องของวาโยหลังจากที่ช่วยกันแบกวาโยกลับมาที่บ้าน อยากถ่ายคลิบไปอวดในกลุ่มของวงเพื่อให้สาว ๆ ของวาโยตาสว่างสักที“ฉันเข้าห้องก่อนนะ” แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้นแต่ว่าขาของฉันกลับเดินไปยังโซนนั่งเล่นซะงั้น“ห้องอยู่ทางนั้นหรือเปล่า”“อ้อ พอดีรอพี่พอตเตอร์น่ะ”“พี่พอตเตอร์ไม่กลับบ้านวันนี้ ฉันโทรถามแล้ว” ฉันทำหน้าเลิกลั่กทันที แต่ก็รีบพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาเพราะดูแล้วน้ำชาคงดูออกว่าฉันจะเดินไปโซนนั่งเล่นทำไม“ถ้าจะรอพี่เหนือน่ะ อย่ารอเลย” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเลี่ยงน้ำชาเพื่อเดินไปยังห้องของตัวเอง“ฉันโอเคนะ ถ้าพี่จะย้ายออก”กึก!น้อยครั้งนักที่น้ำชาจะเรียกฉันว่าพี่ มันทำให้ฉันค่อย ๆ หันหน้ากลับมามอง เธอก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ เพราะแค่นี้น้ำชาคงเข้าใจว่าฉันอยากอยู่ที่นี่“พี่วิลล์จะกลับมา สุดท้ายพ่อแม่ก็ต้องรู้ วิลล์กับพี่เหนืออยู่ด้วยกันไม่ได้ พี่เข้าใจใช่ปะ”“อืม วิลล์กลับมาตอนไหน”“เห็นพ่อบอกว่าเทอมหน้า” ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหันหน้ากลับไปเปิดประตูห้องตัวเองแ
~Chapter 7~-พระพาย-ฉันใช้เวลาในการไปเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินทางมาผับแห่งนี้นานพอสมควร ฟรายเดย์เป็นผับที่ใหญ่มาก และก็มีผู้คนเยอะมาก ด้วยความที่มันเป็นศูนย์กลางความเจริญในเมืองนี้ มันตั้งอยู่บนถนนข้าง ๆ มหาลัย และไม่ไกลกับโรงพยาบาลของวาโยสักเท่าไร สถานที่แห่งนี้จึงแออัดไปด้วยผู้คนตอนนี้ฉันกำลังเดินไปโซนวงดนตรีที่อยู่ลึกเข้าไปภายในผับ เสียงเพลงร็อคที่ดังกระหึ่มเข้ามาในโสตประสาทและเสียงหวานใสที่ดังเข้ามาพร้อมกันนั้น ฉันจำได้ดีว่าเป็นเสียงร้องเพลงของใครฉันหลงใหลในเสียงดนตรี เสียงทุ้มของกลองชุดที่ดังเป็นจังหวะพานทำให้ใจของฉันมันกระหน่ำเต้นตามไปด้วย เสียงดนตรีพวกนี้มันทำให้ฉันรู้สึกหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องราวการเติบโตของพวกเรากึก!“เหนือ…” ฉันพึมพำออกมาเมื่อเดินเข้ามาในโซนวงวนตรีแล้วก็พบกับน้ำเหนือ และเฌอรีนที่เดินมาจากหลังผับพร้อมกัน ฉันเข้าใจดีว่าตอนไหนที่คนในผับจะเดินไปหลังผับแบบนั้น มีไม่กี่อย่างหรอก ถ้าไม่ไปเข้าห้องน้ำ ก็ไปทำเรื่องอย่างว่ามา แต่ช่วยบอกฉันทีว่าเหนือแค่บังเอิญไปเข้าห้องน้ำพร้อมกันกับเฌอรีนฉันส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อในหัวฉันกำลังคิดว่าฉันควรเดินไปถาม แต่ก็เพิ่งนึกได้ว
~Chapter 6~“ฝน แกรู้ปะ ถ้าฉันไม่ได้เลิกกับเหนือ ปีนี้ก็จะคบ 7 ปีแล้วที่ฉันได้ใช้คำว่าแฟนกับเหนือ” ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถเมล์กับปลายฝน เธอไม่ได้ตอบกลับอะไรฉัน เพราะฉันก็พูดแบบนี้มาเกือบ 10 เดือนแล้วตั้งแต่ที่เลิกกับเหนือมา“ในชีวิตหนึ่งเราไม่ได้ถูกกำหนดให้รักได้แค่คนเดียวหรอกนะพาย มีคนเข้ามาแล้วก็มีผ่านไป…เหนือก็เหมือนกัน” ฉันยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำพูดของปลายฝน“แต่ฉัน…รักเหนือมาก” ฉันอิงศีรษะลงที่ไหล่ของปลายฝนพร้อมกับหลับตาพริ้มลง“แต่เราก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้วนะ ฉันก็ไม่อยากพูดถึงมัน เพราะแกก็ไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง”“ใจที่มันพังไป มันกลับคืนมาไม่ได้หรอก ฉันรู้ ฉันไม่ได้อยากให้เหนือกลับมาคบกับฉัน…ฉันแค่ทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เห็น กับสิ่งที่รู้ ฉันทำใจไม่ได้เลยฝน ฮือออ~”ติ๊ง!อยู่ ๆ เสียงแจ้งเตือนไลน์ในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ฉันสูดน้ำมูกพร้อมกับเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นน้ำชาเองที่เป็นคนส่งไลน์มาหา“อยู่ไหน”“กำลังกลับ”ติ๊ง!“มาฟรายเดย์ จะให้ดูอะไร”“คือ…พายไม่อยากไป” ฉันพิมพ์ตอบกลับน้ำชาทันที เพราะฉ
~Chapter 5~นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมองดูเวลาก่อนที่สายตาคมของชายวัยกลางคนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งอยู่กลางโรงอาหารคณะแพทยศาสตร์“ชิบหาย พ่อมึงมาเหนือ” วาโยเอ่ยออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นอาจารย์แพทย์ที่กำลังเดินตรงดิ่งมาที่เขาทั้งสอง“ชิบ…” น้ำเหนือสบถออกมาเมื่อเขาเอี่ยวใบหน้าหันหลังกลับไปมองก็พบกับผู้เป็นพ่อที่เดินตรงมาที่เขา มีผลให้ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาเบา ๆ“บางทีคุณคงมีคำตอบที่ดีสำหรับการมานั่งอยู่ตรงนี้นะ” น้ำเหนือลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะค้อมศีรษะให้ผู้เป็นพ่อเล็กน้อย เช่นเดียวกับวาโย“เลทได้สิบห้านาทีครับอาจารย์” วาโยเอ่ยพูดขึ้นแทนเมื่อน้ำเหนือทำหน้าบอกบุญไม่รับ แม้ว่าจะเป็นคนที่คุ้นเคยกันแต่เมื่ออยู่ในสถานศึกษาก็ไม่อาจทำตัวสนิทสนมได้“ฝึกให้เป็นนิสัยหน่อย ชีวิตคนไข้ไม่มีคำว่าเลทได้นะ” น้ำเหนือพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกคมทันทีที่ได้ยินคำพูดของพ่อที่มาในคราบอาจารย์“ครับ เดี๋ยวขึ้น” เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะหันหน้าไปหาวาโยเพื่อส่งซิกให้อีกฝ่ายรีบกินข้าว ซึ่งวาโยก็รีบโดยทันที แต่ทว่า“มีไรหรือเปล่า พ่อ” น้ำเหนือมองใบหน้าของผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงงเมื่อพ่อของเขาจ้
~Chapter 4 ~“…” ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าหากว่าตั้งแต่เกิดมาฉันไม่มีเหนือในหัวใจตั้งแต่แรกฉันก็คงไม่รู้สึกว่างเปล่าได้ขนาดนี้ เพราะว่ามันเหมือนกับว่าฉันได้ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งกับเขา“อึก…” ฉันกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามที่จะส่ายหน้าไปมาเพื่อไม่ให้ใบหน้ารู้สึกร้อนเกินไป ไม่งั้นน้ำตาคงไหลแน่ ๆฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิมแม้นว่าเฌอรีนจะเดินออกไปไกลแล้ว และตอนนี้ก็มีคนกำลังเดินผ่านฉันไปมาด้วยความเร่งรีบเพื่อเข้าคลาสในภาคบ่าย จริงอย่างที่เฌอรีนพูดฉันไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเธอหรือห้ามเหนือ มันต้องเป็นฉันเองในฐานะแฟนเก่าที่ควรจัดการความรู้สึกตัวเองพรึ่บ!“ยัยโง่…”“ฮืออ~” เสียงทุ้มลึกของวาโยทำให้ฉันร้องไห้ออกมา ฉันไม่รู้ว่าวาโยมาตอนไหนแต่พอมาถึงเขาก็รั้งศีรษะฉันเข้าซบที่แผงอกแกร่ง คงเป็นเพราะว่าน้ำตาของฉันที่มันไหลออกมาแน่ ๆ มันก็เลยทำให้วาโยทำแบบนี้“น้ำมูกมึงเปื้อนเสื้อกาวน์กูว่ะพาย” ฉันยังคงสะอื้นไห้ แม้ว่าคำพูดของวาโยจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมา“ฮึก…”“จะเข้าไหมแล็บ กูพาไปเที่ยว” นานพอสมควรกว่าที่เสียงวาโยจะดังขึ้น ฉันก็เลยค่อย ๆ ขยับตัวออกห่างจากวาโย พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ ก่อ








