“ไปอยู่กับฉันไหม...” เอวาในตอนนี้เกิดความงุนงงเป็นอย่างมากกับประโยคเมื่อสักครู่ เธอเงยหน้ามองคลาสอย่างไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฟรานและเรียวตะก็งงกับประโยคที่เพื่อนพูดออกไป
“ว่ายังไง” คลาสยังใช้สายตากดดันและถามย้ำเอวาต่อ “เอ่อ คือหนู” “ฉันแค่ถูกชะตากับเธอเท่านั้น” “เธอเหมือน.... น้องสาวของฉันที่หายไป” เอวาที่ได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองคลาสที่ตอนนี้แววตาของเค้านั้นฉายความเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน “ฉันไม่บังคับ ถ้าอยากมาอยู่กับฉันในฐานะน้องสาวเมื่อไหร่ก็ติดติดต่อมา” มือหนาส่งนามบัตรยืนให้เด็กสาวตรงหน้าก่อนจะลุกและเดินออกไปทันที เอวาในตอนนี้เธอยืนมองไปที่ท้องถนนเพื่อเรียกแท็กซี่กลับไปยังห้องพัก ในเวลานี้ผู้คนที่มาเที่ยวยังผับแห่งนี้ก็ต่างพากันกลับ เอี๊ยด.. เสียงรถที่ถูกขับมาจอดตรงหน้าเอวาทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเห็นรถหรูเลื่อนลดกระจกลงให้เห็นคนที่อยู่ในรถ “คุณเคเดน” เอวาที่ตกใจที่อยู่ๆคุณเคเดนก็ขับรถมาจอที่ตรงหน้าเธอ “ขึ้นรถ” เอวาที่เกินความงุนงงก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ไวกว่าความคิดรู้ตัวอีกทีมือหนาก็จับเข้าที่แขนเรียวเล็กแล้ว “ฉันจะไปส่ง ขึ้นรถ”เอวาที่ถูกจับยัดเข้ามาในรถหรูได้แค่นั่งเงียบจนกระทั่งรถเคลื่อนตัว บรรยากาศในรถเงียบจนอึดอัด เอวาที่ไม่ดูจะทำยังไงดีก็เลยเลือกที่จะมองออกไปด้านนอกรถเพื่อหลบตาเคเดน “เธอลืมพกปากมารึไง” น้ำเสียงเข้มยิ่งสร้างความประหม่าให้เอวามากกว่าเดิม “คือหนู ไม่รู้จะพูดอะไรค่ะ” “ทำไม ถึงมาอยู่ที่นี่” “หนูแค่ต้องการมาทำงานหาเงินส่งให้น้องๆค่ะ” เอวาบอกเหตุผลให้คนตัวสูงฟังเพื่อบอกถึงเป้าหมายในการที่เธอมาอยู่ที่นี่ “ที่แม่ฉันบริจาคเงินไป มันไม่พอรึไง” “ไม่ใช่นะคะ แต่หนูแค่ต้องการช่วยแม่ครูรับผิดชอบน้องๆก็เท่านั้น เพราะต่อให้ไม่มีผู้ใหญ่ใจดีหนูก็ยังอยากเห็นรอยยิ้มของน้องๆเหมือนเดิม” คำพูดของเอวาที่บ่งบอกถึงจิตใจของเธอที่ดีมาก รู้จักห่วงคนอื่นทั้งที่การที่เธอเดินออกมาจากบ้านเด็กกำพร้านั่นและไม่ไปกลับไปก็ยังได้ แต่เด็กสาวกลับห่วงใยทุกคนที่นั่นเหมือนดั่งครอบครัวของเธอ “ไปทำงานอยู่กับฉันสิ่ เเล้วสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นจะมีฉันสนับสนุนไปตลอด” “ตกลงค่ะ” เด็กสาวตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เพราะตัวเธอเองก็รักที่นี่มากและตอนนี้ก็เก่าทรุดโทรมลงไปเยอะ หากอะไรที่ทำให้เเม่ครูและน้องๆที่นี่มีชีวิตดีขึ้น เธอจะทำ “ไปกับฉัน ส่วนของใช้เธอฉันจะจัดการเอง” “หนูต้องไปอยู่กับคุณเลยหรอคะ?” เอวาที่ตกใจเพราะเพียงแค่ทำงาน เธอไม่เห็นว่าจะต้องไปอยู่กับเค้าเลย “งานของเธอคือดูแลฉัน ก็ต้องไปอยู่กับฉัน” “แต่..” “เดือนละ 1 แสนเงินเดือนของเธอ” เอวาที่ไม่คิดว่าเคเดนจะให้เงินเดือนเธอมากขนาดนี้ถึงกับตาโตด้วยความตกใจ “จะ จริงหรอคะ คุณไม่ได้หลอกหนูใช่ไหมคะ” “ฉันดูเหมือนพวกพูดเล่นงั้นหรอ” สายตาดุหันมามองเด็กสาวด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด “ไม่ ไม่นะคะ ขอบคุณค่ะ” เอวาในตอนนี้รู้สึกดีใจที่เธอจะหาเงินได้มากขนาดนี้และมีเงินส่งให้แม่ครูพักพิงไปดูแลน้องๆ “แล้วงานที่ผับล่ะคะ หนูยังสามารถไปทำได้ไหมคะ” เอวายังคงถามถึงงานที่เธอพึ่งไปทำได้แค่เพียงสองวัน หากจะลาออกก็เห็นใจเจ้ทั้งสองที่ช่วยเหลือหางานนี้ให้เธอ “ฉันจะจัดการเอง” เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับเอวาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก ทำได้เพียงแค่เงียบปากลงเพียงเท่านั้น เอวาที่ระหว่างทางเอาแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ที่คลาสชวนเธอไปอยู่ด้วย ไหนจะเคเดนที่ให้เธอมาทำงานด้วยอีกจนลืมไปว่านี่ไม่ใช่ทางกลับยังห้องพักของเธอ รู้ตัวอีกทีตอนนี้รถคันหรูเข้ามาจอดยังชั้นที่มีป้ายติดว่า VIP เรียบร้อย “เอ่อ คุณจะไปส่งหนูไม่ใช่หรอคะ?” เอวาถามคนร่างสูงที่ตอนนี้ได้ดับเครื่องยนต์รถและเตรียมจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ “ทำงานกับฉัน เธอก็ต้องมาอยู่กับฉันวันนี้” เคเดนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเปิดประตูก้าวลงจากรถทันที โดยไม่ได้สนใจเอวาแม้แต่น้อย เอวาที่เห็นแบบนั้นก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยและก้าวลงกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามคนตัวสูงไป “ทำไม ขาเค้ายาวขนาดนี้นะ” ร่างสูงขาเรียวยาวราวกับนายแบบก้าวไปเดินจนคนตัวเล็กที่พยายามรีบเดินตามเกือบหอบ ร่างหนาก้าวเดินเข้าไปยังลิฟและหันกลับมามองคนตัวเล็กที่รีบเดินตามเค้าด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ พรางยกยิ้มมุมปากกับท่าทีของเธอ บรรยากาศภายในลิฟตอนนี้เงียบมาก ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาหยุดยังชั้น 39 ทั้งชั้นมีเพียงห้องเดียวเมื่อเดินตามเคเดนเข้ามาด้านใน เอวาที่มองไปยังกระจกใสก็เห็นกับวิวยามค่ำคืนในตอนนี้ เอวาคิดในใจที่มีคนบอกว่ากรุงเทพคือเมืองที่ไม่เคยหลับใหลคือเรื่องจริงสิ่นะ บนท้องถนนยังคงมีรถวิ่งไปมาอยู่ถนน และมีดวงไฟมากมายที่ยังคงเปิดอยู่ราวกำลังผู้คนจะใช้ชีวิตในช่วงเวลานี้เสียมากกว่าช่วงกลางวันด้วยซ้ำ “ทำอย่างกับไม่เคยเห็น” เคเดนพูดพร้อมกับส่ายหน้าที่เอวานั้นดูตื่นเต้นจนออกนอกหน้า “ใช่ค่ะ หนูไม่เคยเห็นเลย” “ตั้งแต่ที่หนูจำความได้ก็อยู่ที่บ้านเด็กกับพร้ากับแม่ครูแล้ว” เอวาบอกไปตามจริงเพราะเธอเองก็เข้ามาที่กรุงเทพเป็นครั้งแรก “เธออยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เกิดงั้นหรอ” เคเดนที่ถามเธอออกไปตรงๆ อย่างน้อยเอวาเองก็ต้องมีประวัติก่อนจะไปอยู่ที่นั่น อย่างน้อยก็พ่อแม่ของเธอเป็นใครแล้วหายไปไหนทำไมถึงเอาเธอไปไว้ที่นั่น แต่เปลกตรงที่เอวานั้นไม่มีประวัติใดๆให้ตรวจสอบได้เลย ราวกับเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อน แล้วเรื่องการลบเลือนประวัติต่างๆจนไม่เหลือซากที่ให้เค้าได้หาเจอแม้แต่น้อยก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ หนึ่งในนั้นก็คือพ่อของเคเดนเอง “ใช่ค่ะ แม่ครูบอกหนูแค่นั้น” “เธอไปพักเถอะ นั่นห้องของเธอ” เอวาหันมองตามเคเดนก็เห็นห้องนอนขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ “แล้วไม่มีใครอยู่อีกเลยหรอคะ” “งานที่คุณให้หนูมาทำ คืออะไรหรอคะ” “ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้” พูดจบเคเดนก็เดินปลีกตัวไปยังห้องของเค้าทันที เอวาที่มองไปรอบๆที่นี่หรูหราและใหญ่มากราวกับบ้านเป็นหลังเลย แต่ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานแล้วเธอจึงเลือกเดินไปยังห้องพักของเธอทันที เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จตอนนี้เอวานั่งเช็ดผมตัวเองที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งราคาแพงภายในกระจกสะท้อนให้เห็นตัวเองในตอนนี้ที่โตขึ้นมากแล้ว เธอนั้นรู้ดีว่าพ่อแม่ของเธอนั้นตายไปแล้วเธอมีเพียงแค่แม่นมพักพิง ที่พาเธอหนีจากความตายรอดมาได้ เธอถูกทำร้ายหัวแตกและเรื่องราวในอดีตของเธอหายไปบางส่วน ถึงตอนนี้มันเริ่มกลับมาบ้างแล้วเพียงแค่เธอไม่ได้อยากนึกถึงและเล่าเรื่องราวที่โหดร้านในคืนนั้นให้ใครฟัง ภาพที่เห็นพ่อและแม่ของตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตามันยังคนฝังลึกในใจของเธอ มีเพียงแค่หน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เธอพยายามนึกว่าคือใครแต่ก็นึกไม่ออกสักที แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรอีกที่เธอจะต้องพยายามไปรื้อฟื้นอดีต สุดท้ายแล้วความจริงก็คือตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าเท่านั้น...กลับมาปัจจุบัน...“หลังจากคุณหนูหายดี นมก็พามาอยู่ที่นี่และก็เปิดบ้านพักเด็กกำพร้านี้ขึ้นมา” ใบหน้าของแม่ครูพักพิงยังคงเปื้อนไปด้วยน้ำตา ต่อให้เรื่องราวจะผ่านมา 10 กว่าปี แต่เหตุการณ์ทุกอย่างยังคงชัดเจนจนเธอไม่มีวันลืมได้“นมขอโทษนะคะคุณหนู ที่พามาลำบากแบบนี้”“ไม่ค่ะ หนูไม่ได้ลำบากเลย หนูยังอยู่ตรงนี้ก็เพราะนมนะ ย่าโทษตัวเองเลย” เอวาตอนนี้เธอพยายามเข้มแข็งเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เธอยอมรับว่าเจ็บปวดอย่างมาก แต่เธอเองก็กลับไปแก้ไขหรือทำอะไรไม่ได้เช่นกัน“แล้วหนู มีพี่ชายไหมคะ” เมื่อนึกถึงคำพูดของคลาสที่บอกว่าเธอเหมือนน้องสาวที่หายตัวไป ถ้าเป็นความจริงนมก็ต้องบอกเธอได้“มีค่ะ” พักพิงพยักหน้าตอบกลับ“เค้าชื่ออะไรแล้วยังไม่ตายใช่ไหมคะ”เอวาถามต่อทันที“ชื่อคลาส อัครวัช เอกราชกุล ค่ะคุณหนู”“แต่ตอนนั้นคุณคลาสถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศหลังจากที่ทุกคนถูกฆ่าตาย ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวคุณชายอีกเลยค่ะ”เมื่อเอวาได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจและรีบเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรของคลาสที่เคยให้ไว้ขึ้นมา ใช่จริงๆ คลาสคือพี่ชายของเธอจริงๆเคเดน...ผมนั่งมองจอที่แสดงชัดเจนว่าตำแหน่งของเอวาตอนนี้เธออยู่ที่บ้านพักเด็กกำ
เอวาฉันนั่งมองออกไปนอกกระจกทำให้เห็นวิวอย่างชัดเจน ผู้ชายคนที่เธอฝันถึงบ่อยๆคือเคเดนงั้นหรอแล้วเรื่องราวทุกอย่างในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นทำไมเค้าถึงได้อยู่ในสภาพแบบนั้น เอวาพยายามประติดประต่อเรื่องราวทุกอย่างจนเกิดอาการปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง ร่างบางทรุดลงที่พื้น มือทั้งสองข้างกำที่ผมแน่นอาการปวดหัวของเธอและภาพที่ไหลเข้ามาในหัวไม่หยุดทำให้เธอกัดปากแน่นจนมีเลือดซึม ภาพในหัวหมุนย้อนเข้ามาไม่หยุด“เอวา!!!” เคเดนเปิดประตูเข้ามาก็เห็นวาเธอนั้นนอนอยู่ที่พื้น มือทั้งสองข้างยกคงจิกผมตัวเองแน่น ปากมีแผลเลือดไหลซึมออกมา“ฉันอยู่นี่แล้ว ใจเย็นๆ จะไม่มีใครทำอะไรเธอได้” ฝ่ามือหนาค่อยๆลูบผมของเธออยางเบามือ เวลาในตอนนี้เธอนิ่งและค่อยคลายมือออกจากผมและมองหน้าเคเดนเรียบเฉยพรึ้บ สองแขนของเคเดนสอดเข้าไปใต้ร่างเล็กก่อนจะอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวและก้าวเท้าไปยังห้องนอนของเค้าเอง ก่อนจะค่อยๆวางร่างเล็กลงบนที่นอนสีดำคลับอย่างเบามือ“อย่าไปนะคะ” เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกำลังจะหันหลังไปมือเรียวเล็กก็รีบคว้าแขนไว้ราวกับกลัวว่าจะถูกทิ้งไป“ฉันไปอาบน้ำ ไม่นาน”“จะรีบมานอนกับเธอ ดีไหม” เคเดนพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าทุกค
วันถัดมา...เอวาในตอนนี้เธอนั่งนิ่งอยู่ในห้องนอนเธอนั้นทำตัวไม่ถูกในเรื่องของเธอและเคเดน ในตอนนี้ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปหลายๆอย่างรวมถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเจ้านายและลูกน้อง“เฮ้ออ...” เอวาที่นั่งอยู่หน้ากระจกมองตัวเองและถอนหายใจออกมาอย่างดัง ในใจของเธอตอนนี้คิดเพียงแค่จะต้องทำตัวอย่างไรเมื่อต้องเจอหน้าเคเดน“ทำไงดีนะ” เอวาที่นั่งพูดคนเดียวด้วยความคิดที่กังวลเพราะวันนี้เคเดนจะให้เธอนั้นไปทำงานด้วย“เสร็จรึยัง” น้ำเสียงคุ้นหูพูดขึ้นจากด้านหลังขอร่างเล็ก“สะ เสร็จแล้วค่ะ” เมื่อเอวาได้ยินก็รีบลนลานหยิบของทันที“มาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ” เอวาพูดด้วยเสียงที่เบาเพราะเธอนั้นมัวแต่คิดจนไม่ได้ยินเสียงเคเดนที่เข้ามาในห้องเลยภายในรถเอวาที่นั่งข้างเคเดนตอนนี้ทั้งสองคนต่างคนต่างเงียบ มีเพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศภายในรถเท่านั้น ก่อนที่โทรศัพท์ของเอวาจะแผดเสียงร้องเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา มือเล็กหยิบขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นคลาสที่โทรเข้ามา เมื่อหันไปก็เห็นว่าเคเดนมองเธออยู่ก่อนแล้วในแววตามีเพียงความน่ากลัวที่แผ่ออกมา“หนูขออนุญาตรับโทรศัพท์ได้ไหมคะ” เอวาเลือกที่จะถามคนตัวสูงก่อน เพราะเกรงว่าเค้านั้นจะรำคา
เคเดนตอนนี้ผมคิดเรื่องของเอวากับไอ้คลาสอยู่ในหัว มันกับเอวาจะมองดีๆก็มีส่วนคล้ายกันอยู่ แต่มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอระหว่างรอที่ลูกน้องผมไปสืบประวัติให้คลาสอย่างละเอียดผมต้องไปผับไอ้เลโอก่อน เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ที่พวกผมจะทำร่วมกับพวกมันตอนนี้ผมมาถึงผับไอ้เลโอแล้ว เปิดเปิดประตูเข้าไปยังห้อง VVIP ที่ปกติพวกผมจะใช้คุยงานกันเสมอ ก็เจอไอ้เลโอเจ้ของที่นี่ ไอ้เพทาย และไอ้พายุนั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมจึงไปหย่อนสะโพกที่โซฟาข้างๆไอ้เพทาย“ไงมึงได้เด็กกูไป หายหน้าหายตา” ไอ้เลโอเป็นคนพูดขึ้นมาทันทีเมื่อผมนั่งลง“เด็กมึง งั้นเหรอ” ผมเพียงแค่ยกยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น“ใครวะเด็กมึง” ไอเพทายหันมาถามผม นิสัยขี้เสือกของมันนี่แก้ยังไงก็ไม่มีทางหาย“เอวาไง เด็กที่ทำงานที่นี่”“อยู่ ๆ มันก็มาบอกว่าเอวาจะไม่มาทำงานที่นี่อีก”“พวกมึงว่ามันแปลกไหมวะ” ไอ้เลโอยังคงพูดจากวนตีนผมต่อ จนไอเพทายกับไอ้พายุหันมามองที่ผม“สรุป พวกมึงจะคุยงานหรือจะเสือกเรื่องของกู”“เออๆ มึงก็พูดมา” ไอ้พายุที่ดูจะจริงจังสุดก็พูดขึ้น“เรื่องราคา กูส่งให้พวกมึงแล้ว”“มันบอกว่าถ้าพวกเราตกลง ของทั้งหมดจะมาถึงไทยภายในสัปดาห์หน้า”“พวก
“จะร้องไห้ไปทำไม เธออยากขายเองไม่ใช่รึไง” เคเดนใช้สายตาเย้ยหยันมองไปที่คนตัวเล็กใต้ร่าง ก่อนหน้านี้ยังปากดีทำไมตอนนี้ถึงร้องไห้“คุณปล่อยหนูนะ หนูขอร้อง” เอวาพูดไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ“หึ ฝันไปเถอะ” พูดจบเคเดนก็กระชากชุดนอนจนขาดวิ่นติดมือเค้าไปทันที ผิวขาวเนียนตอนนี้ที่ไร้เสื้อผ้าปกติ เป็นริ้วรอยแดงจากการถูกผ้าเสียดสีสองเต้าอวบเผยให้เห็นต่อหน้าคนตัวสูงทันที เอวานั้นซ่อนรูปไม่เบาส่งผลให้เคเดนก้มลงดูดเม้นไปทั่วเนินออกของเธอ“อื้อ อย่า...” เอวาพยายามส่งเสียงประท้วงเมือปากของเคเดนดูดเลียที่อกของเธอไม่หยุดจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านความรู้สึกพวกนี้ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตเอวาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเพราะนี่คือครั้งแรกของเธอ“ถ้าเธออยากขายก็ทำให้มันคุ้มกันราคาที่ฉันต้องจ่ายหน่อยสิ่”สายตาเอวาที่มองไปยังคนบนร่างมีแต่ความตัดพ้อและว่างเปล่า“หนูคิดผิดจริงๆ ที่มาอยู่กับคุณ”“งั้นเหรอ ไหน ๆ ก็มาอยู่ในนรกแล้วฉันจะทำให้เห็นว่านรกจริงๆเป็นแบบไหน”พูดจบเคเดนก็ลุกขึ้นรีบปลดเสื้อผ้าของตกเองด้วยมือเดียว เผยในเห็นท่อนเอ็นขนาดใหญ่เส้นเลือดปูดโปนเต็มลำ“มะ ไม่นะ”เอวาที่เห็นท่อนเอ็นขนาดใหญ่นั่น ยังไงก็ไม่มีทางจะเ
เอวาเมื่อเข้ามาในห้องและปิดประตู ร่างเล็กก็ทรุดและร้องไห้ออกมาอย่างหนักราวกับใจจะขาด เธอไม่เคยโดนใครตะคอกใส่แบบนี้มาก่อนของชิ้นนั้นคงสำคัญกับเค้ามาก เธอไม่น่าไปแตะต้องมันเลย เอวาเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป เอวาตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้เธอรู้สึกไม่สดชื่นเลย ตาของเธอบวมปูดเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก และมีอาการปวดหัวราวกับกำลังจะถูกพิษไข้เล่นงานเธอเหนื่อยล้าและเพลียอย่างมาก จึงเลือกที่จะนอนพักต่ออีกหน่อย เวลาล่วงเลยมาช่วงค่ำเอวาลุกขึ้นจากที่นอนและเดินออกไปเพื่อจะหยิบน้ำดื่มเพราะเธอกำลังเป็นไข้จริงๆ เอวาคิดว่าหากทานยาแล้วจะเข้าไปนอนพักต่อร่างกายของเธอตอนนี้ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะทำอะไรทั้งนั้น เมื่อร่างเล็กกำลังหันหลังจะเดินกลับห้อง เคเดนที่พึ่งเดินออกจากห้องก็เดินผ่านคนร่างเล็กไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองเธอ เอวาทำได้แค่ยืนก้มหน้าเมื่อเค้าเดินออกไปร่างเล็กมองออกไปยังวิวด้านนอกและคิดว่าหรือเธอนั้นไม่สมควรที่จะอยู่ที่นี่อีก มือเล็กหยิบนามบัตรของคลาสขึ้นมาเพื่อจะโทรหา “มันจะดึกไปไหมนะ” เอวาที่กลัวว่าจะไปรบกวนคลาสเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว มือเรียวเล็กเลือกที่จะกดโทรอ