บทที่ 5: การย้อนเวลา: กำเนิด "ซิค" ปรมาจารย์แห่งอดีต (เสียงน้ำไหลเอื่อย ๆ เสียงนกร้องยามเช้า เสียงใบไม้เสียดสีกันตามลมเบา ๆ) โฮสต์: ตามที่หลายคนรับรู้ ว่าควรจะเป็น... แดเรียสควรจะถูกช่วยไว้โดยชายแก่ปริศนาที่ชื่อ เดอะซิค เพื่อให้เขากลับไปแก้ไขอนาคต... แต่เรื่องนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ! โชคชะตาเล่นตลกกับแดเรียสยิ่งกว่านั้น! แดเรียสลอยไปตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของแม่น้ำแห่งลูปกาลเวลา ร่างกายของเขาบอบช้ำจากบาดแผลที่อากัสฝากไว้ ดาบอาดามันเต้ที่หักก็จมหายไปในกระแสน้ำวน เขาพยายามดิ้นรน เฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ทำให้ร่างกายลอยไปติดกับฝั่งใดฝั่งหนึ่งอย่างอ่อนแรง เขาคลานไปตามพื้นดินที่ชื้นแฉะ มองหาทางออกท่ามกลางความมืดมิดของป่าดึกดำบรรพ์ เมื่อเขาปรากฏตัวออกมาจากความมืดของป่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเมืองแปลกตา... เมืองของเผ่าพันธุ์เดวิลโบราณ ชั้นสูง แต่มันกลับดูเก่าแก่ บ้านเรือนและผู้คนไม่เหมือนในยุคปัจจุบันที่เขาจากมา! มันเป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยการต่อสู้และความดิบเถื่อน (เสียงบรรยากาศเมืองโบราณ เสียงผู้คนพูดคุยแต่สำเนียงแปลกไปเล็กน้อย เสียงตีนม้าวิ่งผ่าน เสียงดาบกระทบกันจากที่ไกล ๆ) โฮสต์: ในสภาพที่แทบจะหมดสติ แดเรียสได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาแฝงแววความดิบเถื่อนของนักรบแห่งยุคโบราณ เขากำลังเดินตรวจตรา ชายผู้นั้นชื่อ มลาด! ผู้ทรยศเผ่าพันธุ์ที่ถูกกล่าวขานในประวัติศาสตร์! (เสียงสนทนาจำลองระหว่างแดเรียส (ซิค) กับมลาด) มลาด (เสียงเป็นมิตร แต่แฝงความระแวง): "นายบาดเจ็บหนักนี่ ไม่รู้มาจากไหน... แต่อยู่ในสภาพแบบนี้คงไม่รอดแน่... ฉันช่วยเอง" มลาดค่อย ๆ พยุงร่างแดเรียสขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แดเรียส (เสียงแหบแห้ง เจ็บปวด สับสน): "ที่นี่... ที่นี่มัน... ที่ไหนกัน?" มลาด: "นี่คือดินแดนของเรา ดินแดนของปีศาจชั้นสูงในยุคนี้... ยุคแห่งความขัดแย้งที่ยังไม่รู้จักจบสิ้น ไม่ใช่ที่ที่คนบาดเจ็บอย่างนายควรอยู่" โฮสต์: แดเรียสพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ที่เขาเคยได้ยินจากจาเจอ ทำให้รู้ว่าเขาลงมายังอดีต โลกที่เขาไม่เคยคิดถึง ว่าจะย้อนกลับไปได้ มลาดเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แม้ทุกอย่างจะดูมืดมน เขาจึงคอยช่วยเหลือแดเรียสในทุกข้อ ทุกปัญหา ความสงสัยของแดเรียสในการย้อนเวลากลับมาทำให้เขาเริ่มสำรวจและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ แดเรียสยังได้เรียนรู้ความจริงที่ทำให้การเดินทางของเขาน่าสนใจมากขึ้น การเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคตโดยผ่านประสบการณ์ที่มีคุณค่าจากมลาด ด้วยความช่วยเหลือจากมลาด แดเรียสค่อย ๆ ฟื้นตัว และเรียนรู้เรื่องราวของโลกในอดีต ปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ และในที่สุด เขาก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนตายของมลาด พวกเขาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันราวกับพี่น้อง... หรือแท้จริงแล้ว มลาดก็คือปู่ของเขาเอง! โฮสต์: มลาดเป็นคนอารมณ์ดี แม้ดูห้าวหาญในฐานะนักรบผู้เก่งกาจ เขามักเรียกแดเรียสว่า "ซิค" เพราะเขาชอบเลข 6 และเรียกเพื่อนรักว่า "ซิค" ซึ่งหมายถึง "คนที่หก" ที่มาพร้อมโชคลาภ... นั่นคือที่มาของชื่อ "ซิค" หรือ "เดอะซิค" ชายแก่ปริศนาที่เราได้ยินในตำนาน! ซิค (แดเรียส) กับมลาดเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ต่อสู้ในสมรภูมิรบมากมาย สร้างตำนานบทใหม่ในยุคสมัยนั้น เป็นที่หวาดกลัวของศัตรู และเป็นที่รักของมิตร... จนกระทั่งมลาดพบรักกับหญิงสาวชื่อ ซาร่า ผู้มีจิตใจงดงาม ทั้งคู่รักกันมาก และก็ตั้งครรภ์! เตรียมพร้อมที่จะสร้างครอบครัวเล็ก ๆ ในความวุ่นวายของสงคราม (เสียงบรรยากาศชีวิตของซิคและมลาดที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความสุข และความรักที่ก่อร่างสร้างตัว เสียงหัวเราะเบา ๆ)
นี่คือเรื่องราวก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มขึ้น บทนำ: กำเนิดของผู้สร้างและคำสาปแห่งอสูร ในห้วงอวกาศอันว่างเปล่า "ธรรมชาติผู้สร้าง" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งๆ หนึ่งที่เขาเรียกว่า "เด็กแห่งจินตนาการ" ผู้สร้างได้สรรค์สร้าง "สังสารวัฏ" ซึ่งเป็นวัฏจักรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และสรรพสิ่งทั้งมวลขึ้นมาด้วยพลังอำนาจอันไร้ขีดจำกัด แต่ในความเดียวดายนั้นเอง เขาก็ปรารถนาที่จะมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง จึงได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกนามว่า แอสมาดิอุส แต่สิ่งที่ควรจะเป็นความสุขกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม เพราะด้วยความผิดพลาดบางอย่าง ผู้สร้างได้มอบชีวิตให้แก่บุตรชายที่มีจิตใจที่มืดมิดและโหดเหี้ยม แอสมาดิอุส เติบโตขึ้นมาเป็นปีศาจร้ายที่ไร้ซึ่งเมตตา เขาทำลายทุกอย่างที่ผู้สร้างสร้างขึ้นมา และพยายามที่จะลอบสังหารผู้เป็นบิดาของตนเอง ด้วยพลังอำนาจที่มากเกินไป ผู้สร้างจึงจำต้องใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อกักขังจองจำแอสมาดิอุสไว้ในคุกที่มืดมิดและลึกที่สุดในสังสารวัฏ แต่ผู้สร้างก็รู้ดีว่า สักวันหนึ่งแอสมาดิอุสจะต้องหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ เขาจึงได้ให้กำเนิดบุรุษและสตรีคู่แรกขึ้นมานามว่า ฟาเธอร์ และ มาเธอร์ เพื่อหวังว่าในอนาค
บทที่ 13: กำเนิดนิวเวิลด์: ยูโทเปียแห่งสังสารวัฏ (เสียงเพลงแห่งความสงบสุข ความหวัง และการเริ่มต้นใหม่ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เสียงเหมือนจักรวาลกำลังก่อร่างสร้างตัว) โฮสต์: หลังจากสงครามอันยาวนานจบลง... ผู้ที่เคยเข้าร่วมกับอากัสก็ถูกจับเป็นนักโทษ รวมถึง เวอร์เม้า พี่ชายฝาแฝดของแดเรียสด้วย ซึ่งเขาถูกส่งไปคุมขังในคุกมิติที่เข้มงวดที่สุด เพื่อรอวันที่จะได้รับการตัดสินและไถ่บาปในสิ่งที่ได้ทำลงไป และด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากการร่วมมือกันโค่นล้มแอสมาดิอุส ธรรมชาติผู้สร้าง ที่เฝ้ามองทุกสิ่งมาตลอด จึงได้สร้าง นิวเวิลด์ หรือโลกใหม่ขึ้นมา! เป็นโลกที่เป็นยูโทเปียอย่างแท้จริง! เพื่อเป็นที่อยู่ของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏ! นิวเวิลด์มีลักษณะเป็นดวงดาวทรงกลมที่สวยงาม ส่องประกายระยิบระยับในห้วงอวกาศ มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่กว่ากาแล็กซีทางช้างเผือก หรือ มิวกี้เวย์ หลายเท่า มีเขตเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสถาปัตยกรรมที่งดงาม เขตหนาวจัดที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง เขตร้อนจัดที่เต็มไปด้วยป่าฝนเขียวขจี ทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อุณหภูมิเยือกแข็งที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ได้ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่
บทที่ 14: คำทำนายสุดท้าย: บุรุษสีแดงและการสิ้นสูญ (เสียงเพลงปิดที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม เสียงคล้ายคำทำนายที่ดังแผ่วเบาและสะท้อนก้อง) โฮสต์: ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยความสุขในโลกยูโทเปียแห่งนิวเวิลด์... สังสารวัฏเข้าสู่ยุคแห่งสันติสุขที่ยั่งยืน... แต่เรื่องราวนี้ยังคงมีปริศนาอีกอย่างที่รอคอยการเปิดเผย... ปริศนาที่จะกำหนดชะตากรรมของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏในอนาคตอันไกลโพ้น... คำทำนายของเด็กหญิงตาบอด โซฮี ผู้เป็นธิดาของนักทำนายผู้ล่วงรู้ ได้ทำนายเอาไว้ว่า: (เสียงเด็กหญิงพูดช้าๆ เสียงสะท้อนเล็กน้อย เหมือนเสียงก้องมาจากอดีตหรืออนาคต) "อีกหลายแสนกัปข้างหน้า... โลกใหม่จะถึงจุดตกต่ำ... และจะถูกทำลายล้างทั้งสังสารวัฏ... ด้วยน้ำมือของบุรุษสีแดงผู้ถูกพันธนาการด้วยดาบที่หัก... เมื่อถึงวันนั้น... มังกรยักษ์จะหมดลมหายใจล้มลงใส่ต้นไม้... เลือดของมังกรจะไหลออกไปจนถึงอีกโลกธาตุ... และทุกอย่างจะสิ้นสูญ... และจะถือกำเนิดขึ้นใหม่จากเลือดของบุรุษสีแดง..." (เสียงเพลงปิดพอดแคสต์ที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม ค่อยๆ เฟดลง) โฮสต์: คุณผู้ฟังครับ... เรื่องราวของแดเรียส มลาด อากัส และตำนานแห่
บทที่ 12: สงครามที่บานปลายและการไถ่บาปครั้งสุดท้าย (เสียงบรรยากาศแห่งสงครามโลกครั้งใหญ่ เสียงปะทะของกองทัพขนาดมหึมาที่โหมกระหน่ำไม่หยุด เสียงคำรามของปีศาจ เสียงพลังงานมหาศาลที่ปะทุขึ้นทั่วทั้งสังสารวัฏ) โฮสต์: การกระทำของอากัสทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านก่อกบฏมากมายทั่วสังสารวัฏ โดยมี เจซซี่ หญิงสาวผู้แข็งแกร่ง และ ราฟาเอล องครักษ์ผู้พ่ายแพ้ในอดีต เป็นหัวหน้าผู้นำในการต่อสู้กับอำนาจของอากัส แต่อากัสก็ส่งคนไปกำจัดตลอด และเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาชิ้นส่วน 5 อันที่เหลือให้ครบเพื่อปลุกแอสมาดิอุส ระหว่างช่วงเวลาแห่งสงครามอันยาวนานนี้เอง... ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความมืดมิด... อากัสก็ได้เจอรักแท้อีกครั้ง! เป็นหญิงสาวที่ชื่อ ลอเลน เทพแห่งสงคราม! เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจเขา ยอมรับในความมืดในใจของเขา และได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เดวิน ผู้ที่ภายหลังแดเรียสจะนำไปเลี้ยงดู! (เสียงเพลงรักที่เศร้าหมอง แต่มีความหวังเล็กๆ เสียงหัวใจอากัสที่เต้นผิดจังหวะเมื่ออยู่กับลอเลน) โฮสต์: อากัสเชื่อว่าการปลุกแอสมาดิอุสจะนำไปสู่การชำระล้างครั้งยิ่งใหญ่ และสร้างโลกใบใหม่ที่บริสุทธิ์ในแบบที่เขาต้องการ แต่ในสงครามสุดท้าย...
บทที่ 10: อากัส: เบื้องหลังความมืดมิดของจอมวายร้าย (เสียงเพลงประกอบที่มืดหม่นและหดหู่ แสดงถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังลึกและก่อร่างสร้างความแค้น) โฮสต์: เราได้รู้ถึงปมในอดีตของแดเรียสและตระกูลของเขาไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาเจาะลึกถึงชีวิตของจอมวายร้ายอย่าง อากัส กันบ้างครับ... บางครั้งความชั่วร้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่มันถูกหล่อหลอมมาจากความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่เขาต้องเผชิญมาตั้งแต่เกิด... ความเจ็บปวดที่ผลักดันให้เขากลายเป็นจักรพรรดิผู้บ้าคลั่ง อากัส เกิดมาเป็นลูกของจักรพรรดิ นูมะ แห่งเผ่าพันธุ์เทวทูตผู้ร่วงหล่น... จักรพรรดิผู้เหี้ยมโหด เห็นแก่ตัว และไร้ซึ่งความเมตตา แต่เขาก็มี มีอา ราชินีผู้แสนใจดี และเป็นมารดาผู้มอบความรักให้ลูกจนวาระสุดท้าย ราชินีมีอา เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของอากัสและฮามัส ชีวิตของอากัสและน้องชายของเขา ฮามัส จึงเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวดครับ พวกเขาถูกพ่อทุบตีทารุณทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ ไม่เว้นแต่ละวัน ถูกบังคับให้ฝึกฝนอย่างหนักจนเกินขีดจำกัด ถูกปลูกฝังความโหดเหี้ยมตั้งแต่ยังเด็ก มีเพียงราชินีมีอาผู้เป็นแม่เท่านั้นที่คอยปลอบโยนทั้งสองเสมอ แม้ว่าตัวท่านเอ
บทที่ 11: การแสวงหาพลังและการแก้แค้นของอากัส (เสียงบรรยากาศที่มืดมิดและน่ากลัวมากขึ้น เสียงเหมือนมีบางสิ่งกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากหลับใหล) โฮสต์: อากัสและฮามัสใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยความเสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อากัสเครียดแค้นผู้เป็นพ่อและนิน่ามากกว่านั้น... ความแค้นนั้นกลายเป็นแรงขับเคลื่อนอันมหาศาล เขาเริ่มศึกษา ศาสตร์มืดโบราณ ที่ถูกกล่าวขานในตำนาน และพยายามค้นหา ชิ้นส่วนทั้ง 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลืออยู่จาก 6 ขุมพลังแห่งแรก ของนีโอ ราชาปีศาจตนแรก ที่ใช้ผนึกแอสมาดิอุส ความมุ่งมั่นของอากัสไม่ใช่แค่การแก้แค้นครับ! เขามีปรัชญาที่บิดเบี้ยวแต่ลึกซึ้ง... เขาเชื่อว่าสังสารวัฏนี้เน่าเฟะเกินจะเยียวยา เขาต้องการที่จะปลุกคืนชีพแอสมาดิอุส ปีศาจแห่งบาปบรรพกาลให้มาเป็นพลังของเขา และใช้พลังนั้นทำลายทุกอย่างที่มันโสมมในสังสารวัฏ! เพื่อให้วัฏจักรแห่งชีวิตและความตายกลับไปสู่ความว่างเปล่า และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! เขาเชื่อว่านี่คือทางเดียวที่จะล้างความสกปรกทั้งหมดที่เขามองเห็น โฮสต์: เขาศึกษาประวัติศาสตร์ของสังสารวัฏอย่างลึกซึ้ง จนรู้เรื่องราวของธรรมชาติผู้สร้าง และสิ่งที่สร้างธรรมชาติมาก่อ