/ แฟนตาซี / Before The Fall / Before The Fall ก่อนถึงฤดูใบไม้ร่วง Chapter 5 ร่องรอยแห่งบาดแผล

공유

Before The Fall ก่อนถึงฤดูใบไม้ร่วง Chapter 5 ร่องรอยแห่งบาดแผล

작가: MR.K
last update 최신 업데이트: 2025-07-18 17:55:29

เสียงของฝนตกกระทบหลังคาเก่า ๆ ดังก้องอยู่ในหูของแดเรียส ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง — สถานที่ที่เขาและราฟาเอลใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมลับ ๆ หลังเหตุการณ์ปะทะกับอสูรก่อนหน้านี้

โลกภายนอกเย็นเยียบ ราวกับสะท้อนความรู้สึกในใจเขา

"อีกครั้ง"

เสียงราฟาเอลดังก้องในความทรงจำ — เสียงที่ทั้งเข้มงวดและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน

ราวกับถูกพัดพา แดเรียสจำได้ว่าเมื่อหลายวันก่อน — หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ครั้งล่าสุด ราฟาเอลไม่ได้เลือกพาเขาไปหาหมอธรรมดา หากแต่เลือกสอนบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า: การ "เยียวยาตนเอง"

แฟลชแบ็ค – โรงพยาบาลร้าง, กลางคืน

"หลับตา" ราฟาเอลสั่งเบา ๆ ในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์รำไร "ฟังเสียงเลือดของตัวเองให้ดี"

แดเรียสกำหมัดแน่น ร่างกายเขาสั่นด้วยพิษไข้และบาดแผลที่ไม่หายซักที ความเจ็บแสบแล่นทั่วร่าง ทว่าเขาก็ทำตาม — หลับตาลง กัดฟันกรอด

ราฟาเอลนั่งคุกเข่าข้าง ๆ วางมือเบา ๆ บนบ่าของเด็กหนุ่ม

"ความเจ็บปวดคือสัญญาณ ไม่ใช่ศัตรู จำไว้นะเด็กน้อย" เขากระซิบ

แดเรียสรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง…เหมือนพลังงานอ่อน ๆ กำลังค่อย ๆ ไหลเวียนในตัว ร้อนวูบขึ้นมาจากกลางอก แล้วแผ่ออกไปตามเส้นเลือด

แต่พริบตาต่อมา ทุกอย่างกลับกลายเป็นความเจ็บแสบที่ทวีคูณขึ้น เขาทรุดฮวบลงกองกับพื้น หอบหายใจหนัก

"ไม่ต้องฝืน" ราฟาเอลยังคงพูดอย่างสงบ "ยอมรับมัน กอดมันไว้เหมือนเพื่อนสนิท เจ้าไม่ได้ต่อสู้กับความเจ็บ…เจ้ากำลังยอมให้มันเป็นส่วนหนึ่งของเจ้า"

กลับสู่ปัจจุบัน

แดเรียสยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา ดูรอยแผลเป็นจาง ๆ ที่ยังหลงเหลือบนท่อนแขนของตัวเอง ความทรงจำนั้นเหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน

'ยอมรับ…ไม่ต่อต้าน'

เขายิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเองก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ฝ่ามือที่แตะบาดแผลเริ่มปล่อยไออุ่นจาง ๆ ออกมา

เสียงสายฝนยังคงโปรยปรายไม่หยุด ราวกับบรรเลงเป็นบทเพลงบำบัดใจให้เขา

ในห้วงนิทราที่ไร้เสียง แดเรียสรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไป—

บางสิ่งที่กำลังตื่นขึ้นในตัวเขา

บางสิ่งที่มากกว่า "ฮีลลิ่ง"

บางสิ่งที่เชื่อมโยงเขาเข้ากับสิ่งมีชีวิตทั้งมวล..."

กลางดึก วันเดียวกันนั้น

ในห้วงความฝันอันไร้กาลเวลา แดเรียสยืนอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

สายลมเย็นเยียบพัดกรรโชกอย่างไร้ทิศทาง ท้องฟ้าเหนือศีรษะเขาเป็นสีเทาหม่น ไร้แม้แต่แสงดาว

เบื้องหน้า...

มีเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ในม่านหมอก — ร่างสูงโปร่งในชุดเกราะสีดำที่เหมือนดูดกลืนแสงทุกหยาดหยด

"ใครน่ะ..." แดเรียสพึมพำเสียงแผ่ว ขณะก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล

เมื่อเข้าใกล้มากขึ้น ดวงตาแดงฉานคู่หนึ่งก็ลืมขึ้นกลางความมืด —

ทั้งคุ้นเคยและแปลกแยกในเวลาเดียวกัน

"แดเรียส..."

เสียงก้องลึกแว่วมา ราวกับดังจากหลายภพหลายชาติ "…เจ้าจะต้องเลือกระหว่างแสงสว่างกับเงามืด"

ก่อนที่แดเรียสจะทันตอบ เงานั้นค่อย ๆ ยกมือขึ้น — บนฝ่ามือของมัน มีบางสิ่งเปล่งแสงวาบอยู่

มันคือ "ดวงตา"

ดวงตาสีทองสลัว กำลังส่องประกายราวกับมีชีวิต

"ดิอาย"

ทันใดนั้นเอง ภาพทั้งหมดก็กระจายเป็นเสี่ยง ๆ

ทุ่งหญ้าถล่มลงกลายเป็นเหวลึก เสียงกรีดร้องของลมหอบเอาแดเรียสตกลงไปในห้วงอเวจี

ฉึบ!

เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อชุ่มตัว หอบหายใจรัวราวกับวิ่งหนีฝันร้ายมาทั้งคืน

แต่ภาพในหัว — ดวงตาสีทอง ดวงตานั้น — ยังคงลอยวนอยู่ในความทรงจำเขาไม่เลือนหาย

รุ่งเช้า – ฐานฝึกของกลุ่มปฏิวัติ

แดเรียสเดินโซซัดโซเซไปยังลานฝึก ฝืนร่างกายที่ปวดระบมจากการฝึกหนักหลายวันติดกัน

เจซซี่ยืนกอดอกมองเขาอยู่ก่อนแล้ว

"วันนี้ไม่ฝึกเบาให้หรอกนะ"

เสียงของเจซซี่ฟังดูติดตลก แต่แววตาเธอกลับแข็งกร้าว

แดเรียสพยักหน้าเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร เขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีที่ให้เขา 'หนี' ได้อีกแล้ว

ลานฝึก – วันสุดท้ายของการฝึกก่อนสู้จริง

เช้าตรู่ของวันสุดท้าย

หมอกสีเทาหนาแน่นปกคลุมไปทั่วลานฝึก — อากาศเย็นยะเยือกเหมือนมีบางสิ่งกดทับอยู่บนไหล่ของทุกคน

กลุ่มปฏิวัติเงียบผิดปกติ ทุกคนรู้ดีว่าวันนี้จะเป็นวันตัดสิน

ไม่ใช่แค่ฝึก...แต่เป็นบทพิสูจน์ "ว่าจะรอด" หรือ "จะตาย" ในสนามรบจริงที่กำลังจะมาถึง

แดเรียส ยืนตัวตรงกลางลานฝึก ดวงตาแดงเข้มมองตรงไปข้างหน้า

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการฝึกตลอดหลายวัน ทว่าท่าทีกลับนิ่งสงบผิดวิสัย

ด่านแรก – หมัดของนิว

เสียงรองเท้าทหารกระทบพื้นอย่างหนักแน่น

นิว เข้ามาเผชิญหน้า เขายิ้มเย็น ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ

"ถ้าเอาแต่ใช้สมองคิดว่าควรหลบยังไง เจ้าจะโดนฆ่าก่อนทันขยับ"

พั่ก!!

หมัดแรกฟาดเข้าเต็มเบ้าตาแดเรียส

โลกหมุนคว้างในชั่ววินาที

แต่ครั้งนี้...แดเรียสไม่ล้ม

เขากัดฟันแน่นจนได้กลิ่นเลือดในปาก ดวงตาเบิกโพลง แรงกระแทกทำให้สัญชาตญาณปะทุขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หมัดที่สองมา — เขาไม่ทันคิด สมองไม่ได้สั่ง

ร่างกายขยับเอง — ก้มต่ำ หันไหล่ขวา หลบพ้นเฉียดเส้นผมอย่างเฉียดฉิว

เสียงหัวใจเต้นกระหน่ำในอก

ทุกอย่างรอบตัวช้าลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจตัวเองกับแรงขับในอกที่เหมือนสัตว์ป่าเพิ่งตื่นจากการจำศีล

"อย่าใช้หัว! ใช้หัวใจ!!" นิวตะโกนก้อง

แดเรียสคำรามในลำคอ กำหมัดแน่น — สัญชาตญาณแห่งการอยู่รอดได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

ด่านสอง – แบกหินวิ่ง

วากาบ้าแบกก้อนหินขนาดเท่าตัวคนมาวางตรงหน้าแดเรียส

"หนึ่งรอบฐานให้ทันสิบห้านาที — ไม่งั้นโดนตื้บ"

แดเรียสไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

เขายกหินขึ้นจนหลังแทบขาด เส้นเอ็นตามข้อมือปูดเป่งจากแรงกด

ขาเริ่มวิ่ง

ก้อนหินหนักเหมือนภูเขา แผ่นหลังแสบไปด้วยหยาดเลือดจากการเสียดสีกับผิวหินหยาบ

หายใจเข้า — โลกหมุนคล้ายกำลังจะสลบ

หายใจออก — หัวใจบีบแน่นจนแทบแตก

แต่แดเรียสกัดฟันลากเท้าไปข้างหน้า

หนึ่งก้าว

สองก้าว

สิบก้าว

ความเจ็บปวดไม่ใช่ศัตรูอีกต่อไปแล้ว มันกลายเป็น "เชื้อเพลิง"

ตึง! ตึง! ตึง!

เสียงหัวใจเขาดังดุจเสียงกลองสงคราม — เต้นเป็นจังหวะบ้าคลั่งเร้าให้ไปต่อ

ในห้วงวินาทีนี้...แดเรียสเริ่มหลอมรวมร่างกาย-ใจ-จิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว

ด่านสาม – การล่าในเงามืด

ฐานฝึกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบจนมองไม่เห็นแม้แต่ปลายนิ้วตัวเอง

ริดม่อน และ ริคค่อน แอบแฝงอยู่ที่ไหนสักแห่ง พร้อมจะโจมตีเขาแบบไม่ทันตั้งตัว

แดเรียสหลับตา

ปล่อยเสียงรอบตัวทะลุผ่านเข้าโสตประสาท

ฟัง...เสียงรองเท้าบดกรวด เสียงลมหายใจแผ่ว เสียงเนื้อเสียดสีผ้า...

ฟึบ!

เงาดำพุ่งมาเบื้องหลัง — แดเรียสเบี่ยงตัวเฉียดคมมีดปลายแหลมไปได้เสี้ยววินาที

ฉึบ!

อีกเงาหนึ่งมาจากด้านข้าง เขาหันตัวหลบตามสัญชาตญาณบริสุทธิ์ ไม่ต้องใช้ตาคิด ไม่ต้องคาดเดา

— มีเพียง "ความรู้สึก" ล้วน ๆ

แดเรียสเริ่มรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจาง ๆ ใต้ฝ่าเท้า มองเห็นเงาในความมืดด้วยสัญชาตญาณที่กำลังแหลมคมยิ่งกว่าที่เคยเป็น

ด่านสี่ – สู้ภายใต้ความกดดัน

เท็น ขว้างปืนพกมาให้

"กระสุนมีแค่สามนัด ศัตรูมีห้า"

รอบตัวแดเรียสจำลองสนามรบ — มีศัตรูจำลองแฝงอยู่ทั้งในซากอาคาร ผนังพัง และเงามืด

เขาต้องยิงให้ได้ก่อนถูกฆ่า

แต่...ปืนกระสุนติดขัดตั้งแต่นัดแรก

"ชิบหาย..."

แต่แดเรียสไม่ลังเล

เขาสไลด์ลูกเลื่อนอัตโนมัติ แก้ไขการติดขัดในเสี้ยววินาทีเหมือนสัญชาตญาณของนักรบที่มีประสบการณ์สิบปี

ปัง!

ยิงศัตรูตัวแรกเข้าขมับ

หมอบ!

ยิงศัตรูที่ซุ่มอยู่ในเงาตึก

ปัง! ปัง!

กระสุนหมด — แต่แดเรียสไม่หยุด

เขาขว้างปืนเข้าใส่ศัตรูตัวสุดท้ายแล้วพุ่งประชิดตัว ปักศอกกระแทกเข้าที่ลำคออย่างแม่นยำ

ร่างปลอมของศัตรูร่วงลง

เงียบสนิท

หอบหายใจถี่ ร่างกายเหมือนจะพังลงไปตรงนั้น แต่ในดวงตาของแดเรียส...

เปลวเพลิงในจิตวิญญาณได้ถูกจุดขึ้นแล้ว

ท้ายลานฝึก — ขณะพระอาทิตย์ตกดิน

ทุกคนในกลุ่มปฏิวัติเงียบกริบ มองเด็กหนุ่มตรงกลางลานฝึกที่ยืนอยู่ท่ามกลางรอยเลือด เหงื่อ และเศษซากหักพัง

แดเรียสยืนหยัดตรงกลาง —

เลือดไหลจากหางคิ้ว

แขนซ้ายเจ็บปวดร้าว

ขาขวาแทบขยับไม่ได้

แต่...ไม่มีแววอ่อนแอในแววตานั้นอีกแล้ว

ราฟาเอลยิ้มบาง ๆ พลางพูดเบา ๆ ราวกับคำสาบาน

"เจ้ากำลังเปลี่ยนไปแล้ว, แดเรียส..."

"จากเด็กน้อย...กลายเป็นนักสู้ที่แท้จริง"

จบฉาก ลานฝึกวันสุดท้าย

ตอนพักสั้น ๆ

แดเรียสยกน้ำขึ้นดื่ม มือสั่นเทา ขาทั้งสองข้างแทบยืนไม่ไหว แต่ในแววตา...

"ไม่มีความลังเลอีกต่อไป"

ราฟาเอลเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ พลางส่งผ้าเย็นมาให้

"เจ้าฝันถึงมันแล้วสินะ" เขาพูดขึ้นโดยไม่ต้องถาม

แดเรียสหันขวับมอง "ฝันถึง...ใครกันแน่?"

ราฟาเอลถอนหายใจเบา ๆ แววตาเศร้าเจือเจ็บปวดเล็กน้อย

"ไม่ใช่แค่ใคร..."

"แต่คือ 'สิ่งที่เจ้าต้องเผชิญ' ในวันที่เจ้าเลือกจะเป็นตัวของตัวเอง"

แดเรียสมองท้องฟ้าไกลโพ้นที่เริ่มเรืองแสงสีทองสลัวของรุ่งอรุณ ในใจเขาไม่ได้มีเพียงแค่ความกลัวอีกต่อไป

แต่มีบางสิ่งที่แข็งแกร่งกว่านั้น — ความเชื่อมั่นอันนิรันดร์

"ไม่ว่าฉันจะเป็นใคร..."

"ฉันจะสร้างเส้นทางของตัวเอง"

คืนนั้น หลังจบวันสุดท้ายของการฝึก

ทุกคนหลับไปด้วยความอ่อนล้า — แต่แดเรียสถูกเรียกตัวโดย แรนดี้

เสียงเท้าเปล่า กระทบพื้นหินเย็นเฉียบ

เขาตามแรนดี้ลงไปยัง "ห้องลับ" ใต้ฐาน — ลานกว้างที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่โลกยังไม่ถล่ม

ไฟคบเพลิงสว่างริบหรี่ตามแนวผนังหินเก่า ๆ

บรรยากาศรอบตัวหนาหนักจนหายใจแทบไม่ออก เหมือนก้าวข้ามผ่านกำแพงของโลกแห่งวิญญาณเข้าไป

กลางห้อง — มีว5งเวทโบราณสลักไว้ด้วยอักษรประหลาด ราวกับหายใจได้เอง

แรนดี้ยืนเท้าสะเอว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ติดอยู่บนใบหน้า

"เจ้าพร้อมหรือยัง ไอ้หนู?"

"พร้อมจะรู้จักตัวเอง...จริง ๆ น่ะ?"

แดเรียสเงียบ

แม้ใจเต้นรัวเหมือนกลองศึก แต่แววตากลับนิ่ง — เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขา "ต้องการ" รู้คำตอบนี้จริง ๆ

พิธีปลุกพลัง

แรนดี้กระชากเสื้อคลุมออก — เผยรอยสักเวทโบราณทั่วร่างกาย บางเส้นเรืองแสงสีทองจาง ๆ

เขาเดินวนรอบแดเรียส ช้า ๆ เหมือนหมาป่ากำลังประเมินลูกหมูที่ยังไม่ได้ลืมตา

ปากพร่ำถ้อยคำโบราณที่ทำให้แม้แต่หินบนพื้นยังสั่นสะท้าน

แสงไฟคบเพลิงมืดดับทีละดวง

เหลือเพียง "วงเวท" ใต้เท้าแดเรียสที่เปล่งแสงสีแดงสด

"ตอนนี้..."

เสียงแรนดี้หนักแน่นราวกับมาจากทั่วทุกทิศ

"ปล่อยหัวใจของเจ้าออกมา — อย่าคิด อย่าเก็บกด...จงเป็นเพลิงดิบที่แท้จริง!"

สัมผัสแรกของธาตุ

แดเรียสหลับตา

ปล่อยมือ ปล่อยใจ

ปล่อยภาพทุกอย่างที่เคยกักขังเขา — ความเจ็บปวด ความกลัว ความอ้างว้าง...

จากจุดเล็ก ๆ ใต้กระดูกอก — ไออุ่นเริ่มก่อตัว

มันเริ่มจากประกายเล็กจิ๋ว...

ก่อนจะปะทุเป็น เปลวเพลิงสีแดงเข้ม พวยพุ่งออกจากกลางอก!

บึ้ม!

แรงอัดกระแทกกระจายออกจากร่างแดเรียส

วงเวทใต้เท้าเรืองแสงจ้า ผนังหินสั่นสะเทือนจนเศษฝุ่นปลิวว่อน

ร่างกายเขาถูกย้อมด้วยเปลวไฟ

แต่เขาไม่รู้สึกร้อน — กลับรู้สึกเหมือน "กลับบ้าน" เป็นครั้งแรก

หัวใจ...ราวกับหลอมรวมเป็นเปลวเพลิง

การทดสอบสุดท้าย

แรนดี้ยิ้มกว้างขึ้น

"อย่าเพิ่งดีใจ — จงควบคุมมัน!!"

แดเรียสลืมตา

ร่างกายเขาเปล่งแสงแดงสว่าง ทว่าเปลวไฟเริ่มคลุ้มคลั่ง รุกลามไปรอบตัวราวกับจะเผาทุกสิ่งที่ขวางหน้า

เขากัดฟันแน่น — ดึงสมาธิทุกเส้นกลับมา

แทนที่จะ "กด" ไฟไว้ — เขาเลือก "โอบกอด" เปลวเพลิงนั้น

ไฟที่เคยป่าเถื่อน...เริ่มหดกลับเข้าอกอย่างเชื่องๆช้าๆ ตอนนี้แดเรียสทำได้แล้ว ไฟตอบรับตัวเขา และเป็นครั้งแรกที่เขา ยอมรับไฟในตัวของตัวเอ

ภายในห้องหินลับใต้ฐาน — ไฟคบเพลิงที่มอดดับค่อย ๆ ปะทุขึ้นใหม่อย่างแผ่วเบา

แดเรียสยืนนิ่งอยู่กลางวงเวท

เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่ขาดวิ่นจากแรงระเบิดของพลังดิบ

ผิวหนังบางส่วนมีรอยไหม้เล็กน้อย แต่แปลกประหลาด — ไม่เจ็บ ไม่ลึก...เหมือนถูก "แต้ม" เครื่องหมายใหม่ลงบนเนื้อหนัง

เขาไม่รู้ว่าผ่านมาแล้วกี่นาที หรืออาจจะเป็นชั่วโมง

เขารู้แค่ว่า "หัวใจเขาเปลี่ยนไป"

มันเต้น — แต่ไม่ใช่เพื่อเอาชีวิตรอด

มันเต้น — เพื่อ "มีชีวิตอยู่จริง ๆ" เป็นครั้งแรก

แรนดี้ เดินเข้ามาใกล้

เขามองแดเรียสด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป — ไม่ใช่ในฐานะเด็กที่ต้องปกป้อง แต่เป็นในฐานะ "คนที่จะเปลี่ยนบางอย่าง" ในโลกนี้

"ดีมาก...ไอ้หนู"

เสียงเขาต่ำ แหบพร่า แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

"เจ้าควบคุมมันได้เร็วกว่าที่ข้าคิด...แต่จำไว้นะ — นี่แค่เศษเสี้ยวเท่านั้น"

แรนดี้ยกมือขึ้น นิ้วแตะกลางอกแดเรียส

"พลังที่แท้จริง...อยู่ลึกกว่านี้อีกหลายชั้น"

"แล้วเราจะขุดมันขึ้นมา...ทีละนิด"

การมาถึงของเจซซี่

ขณะที่แดเรียสพยายามตั้งสติจากแรงสั่นสะเทือนในตัวเอง

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นที่ทางเข้าห้อง

เจซซี่ ในเสื้อฮู้ดสีดำ ยืนพิงประตูไม้ผุพัง — เงาสะท้อนในแววตาเขาเหมือนรู้ความลับที่แดเรียสยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

"เสร็จแล้วเหรอ?"

เจซซี่เอ่ยเสียงเรียบ ก่อนเดินเข้ามาใกล้

แดเรียส เงยหน้าขึ้นมอง — สัมผัสได้ถึงออร่าบางอย่างในตัวเจซซี่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เหมือน...เจซซี่เองก็เป็น "บางสิ่ง" ที่ยังไม่เปิดเผย

แรนดี้หัวเราะเบา ๆ

"เจ้าหนูเจซซี่ก็เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว...ต่างกันแค่ — หมอนั่นไม่ได้มีไฟในตัวเหมือนเจ้า"

เขาหันไปสบตาเจซซี่อย่างรู้ทัน

"หรือบางที...เขาอาจจะซ่อนมันเอาไว้ลึกยิ่งกว่าเจ้าด้วยซ้ำ"

บทสนทนาที่เปลี่ยนทุกอย่าง

แรนดี้เดินออกจากห้อง ปล่อยให้สองคนเผชิญหน้ากันตามลำพัง

ประตูไม้ปิดลงด้วยเสียง "ปึง" หนักแน่น

ความเงียบโรยตัว

ไฟคบเพลิงส่องให้เห็นแค่เพียงครึ่งหน้าของเจซซี่

อีกครึ่งหนึ่งซ่อนอยู่ในเงามืด — เหมือนตัวตนจริง ๆ ของเขา

"นายรู้ไหม..."

เจซซี่เอ่ยเบา ๆ

"เลือดในตัวนาย...มันไม่ใช่แค่เลือดมนุษย์ธรรมดา"

"มันคือสายเลือดเก่าแก่ — จากยุคที่โลกยังไม่ถูกปนเปื้อน"

แดเรียส ขมวดคิ้ว

"นายหมายถึงอะไร?"

เจซซี่เดินวนรอบแดเรียส ช้า ๆ

มือหนึ่งลากปลายนิ้วไปตามลวดลายวงเวทเก่า

น้ำเสียงของเขากระซิบเหมือนคำสาป

"อดัม...เอวา...ตำนานที่นายได้ยินมา มันไม่ใช่เรื่องแต่ง"

"พวกเขาคือผู้สร้างโลกใบนี้ขึ้นมา...และก็เป็นต้นกำเนิดของสงครามที่กำลังจะหวนกลับมา"

เจซซี่หยุดตรงหน้าร่างไหม้เกรียมของแดเรียส

สายตาคมกริบเหมือนจะเจาะทะลุเข้าไปในจิตวิญญาณของเขา

"และเลือดของพวกเขา...ก็ไหลอยู่ในตัวนาย"

เปลวไฟใหม่ในหัวใจ

แดเรียสยืนนิ่ง

โลกทั้งใบหมุนวนเหมือนห้องนี้กำลังจะพังทลายลง

เขาไม่เคยคิดว่าตัวเอง "พิเศษ"

ไม่เคยต้องการเป็น "ผู้ถูกเลือก" หรือ "ผู้กอบกู้" อะไรทั้งนั้น

แต่ตอนนี้ — เขาไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว

พลังในตัวเขา...

สายเลือดในตัวเขา...

กำลังตื่นขึ้น

และมันจะเปลี่ยนโชคชะตาของทุกชีวิตบนโลกใบนี้

ห้องนอนเก่า ๆ ที่มีกลิ่นอับชื้นในฐานลับเงียบสงัด

แดเรียสยืนพิงหน้าต่างแตก ๆ มองออกไปในความมืด

มือข้างหนึ่งกำกำปั้นแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ

เขารู้สึกถึงบางอย่างในตัว — บางอย่างที่ไม่ใช่เขา

มันเหมือนกับสัตว์ร้าย

กรงเล็บของมันข่วนไปทั่วกระดูกและเลือดในตัวเขา

มันอยากออกมา...มันกระซิบกับเขา...

"ยอมรับซะ...เจ้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา"

"เจ้าเกิดมาเพื่อเผาโลกใบนี้"

แดเรียสกัดฟันแน่น พยายามไม่ฟัง แต่ยิ่งปฏิเสธ เสียงนั้นก็ยิ่งดังขึ้น...เหมือนกลองศึก

รุ่งเช้า – ภารกิจสนามจริงครั้งแรก

แดดยามเช้าหม่นมัว

ท้องฟ้าปกคลุมด้วยหมอกดำทะมึน เหมือนลางร้าย

แดเรียสในเสื้อคลุมฝึกฝนสีเทาเข้ม ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักสู้มือใหม่ที่เหลืออยู่

เจซซี่, ราฟาเอล และแรนดี้ยืนอยู่ไม่ห่าง

เบื้องหน้า — คือหมู่บ้านร้างที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตชีวา

ตอนนี้เหลือแต่ซากเผาไหม้ บ้านเรือนที่พังทะลาย และเงาของบางสิ่งที่เคลื่อนไหวในเงามืด

"พวกแกมีเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง"

แรนดี้ประกาศเสียงเข้ม

"เข้าไป กำจัดมัน...หรือไม่ก็โดนมันฉีกกระชาก"

ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีแผนที่ — มีแค่ภารกิจเดียว

"เอาตัวรอด"

นรกเปิดประตู

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่หมู่บ้าน

เสียงคำรามต่ำ ๆ ดังสะเทือนพื้นดิน

ปีศาจตัวแรก ปรากฏตัว — ร่างคล้ายมนุษย์ แต่บิดเบี้ยวผิดรูป หนังเน่าเปื่อย ตาเรืองแสงสีเลือด

มันไม่พุ่งเข้าใส่ทันที...แต่มัน "ยิ้ม" ให้พวกเขา — ยิ้มเหมือนสัตว์ที่กำลังเล่นกับเหยื่อ

"แดเรียส! ด้านซ้าย!"

เจซซี่ตะโกนเตือน

แต่สายไป —

ตู้ม!

หมัดปีศาจฟาดเข้ากลางสีข้างแดเรียสจนกระเด็นชนกำแพงหินแตกละเอียด

โลกหมุนคว้าง

เลือดไหลซึมออกจากปาก

เจ็บ...จนแทบขยับไม่ได้

สัญชาตญาณดิบ – เริ่มตื่น

แดเรียสพยายามยันตัวลุกขึ้น

เสียงหัวเราะของปีศาจดังก้องในหู

ข้างในอก — เปลวไฟเริ่มลุกไหม้

แต่ไม่ใช่เปลวไฟอบอุ่นอย่างที่เขาเคยสัมผัส

มันคือเปลวเพลิงแห่งความบ้าคลั่ง

"ยอมแพ้สิ"

เสียงกระซิบในหัวดังขึ้นอีก

"ปล่อยให้พวกมันตายหมด แล้วเป็นราชาในซากศพซะ..."

ปะทะเลือด

ปีศาจตัวที่สองพุ่งเข้ามา

ร่างของมันแยกออกเป็นเงาหลายสาย — ความเร็วที่ตาเปล่าแทบมองไม่ทัน

แดเรียสยกแขนขึ้นกัน แต่ก็โดนกรงเล็บกรีดขาเป็นทางยาว

เลือดสาดลงพื้นหิน

เจ็บปวด — จิตใจเริ่มแตกหัก

เสียงกรีดร้องจากอดีตที่ฝังลึกในจิตเริ่มแทรกซึมกลับมา

แม่ที่เขาจำหน้าแทบไม่ได้

พ่อที่ไม่เคยเล่าเรื่องจริง

ความเดียวดายที่กัดกินเขามาตลอดชีวิต

ความจริงอันโหดร้าย

ขณะที่เขาทรุดลงกับพื้น

เจซซี่กระโจนเข้ามา ช่วยบังการโจมตีสุดท้ายไว้แทน

เลือดสาดกระจาย

แดเรียสเงยหน้ามองเพื่อนตรงหน้า

ในวินาทีนั้น —

แววตาเจซซี่ส่องประกายเป็นสีทองวูบหนึ่ง...ไม่ใช่มนุษย์

"นาย...ก็ไม่ใช่คน..."

แดเรียสพึมพำทั้งที่หายใจแทบไม่ทัน

เจซซี่ยิ้มจาง ๆ — ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า

"ใช่...ฉันเองก็เป็นครึ่งปีศาจ...เหมือนนาย"

ความจริงที่เขาไม่พร้อมรับ ร่วงหล่นลงมาเหมือนโลกแตกสลาย

เสียงกู่ร้องในหัวใจ

"ฆ่า...ฆ่าพวกมัน...อย่าเชื่อใจใคร...!!"

เสียงในหัวดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ร่างกายของแดเรียสเริ่มร้อนผ่าว

เลือดในตัวเดือดพล่าน

ผิวหนังแตกออก เผยให้เห็นลวดลายสีแดงเรืองแสงใต้ผิว

เปลวเพลิงเริ่มโหมกระหน่ำรอบตัวเขา

แต่แทนที่จะอบอุ่น...มันเหมือนกับนรกที่กำลังปะทุขึ้นมา

ทันใดนั้นเสียงหัวเราะในเงามืดก็เริ่มแผ่ออกมา

โปรดติดตามตอนต่อไป To be continued...

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • Before The Fall   Before The Fall ก่อนถึงฤดูใบไม้ร่วง Chapter 5 ร่องรอยแห่งบาดแผล

    เสียงของฝนตกกระทบหลังคาเก่า ๆ ดังก้องอยู่ในหูของแดเรียส ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง — สถานที่ที่เขาและราฟาเอลใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมลับ ๆ หลังเหตุการณ์ปะทะกับอสูรก่อนหน้านี้ โลกภายนอกเย็นเยียบ ราวกับสะท้อนความรู้สึกในใจเขา "อีกครั้ง" เสียงราฟาเอลดังก้องในความทรงจำ — เสียงที่ทั้งเข้มงวดและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน ราวกับถูกพัดพา แดเรียสจำได้ว่าเมื่อหลายวันก่อน — หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ครั้งล่าสุด ราฟาเอลไม่ได้เลือกพาเขาไปหาหมอธรรมดา หากแต่เลือกสอนบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า: การ "เยียวยาตนเอง" แฟลชแบ็ค – โรงพยาบาลร้าง, กลางคืน "หลับตา" ราฟาเอลสั่งเบา ๆ ในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์รำไร "ฟังเสียงเลือดของตัวเองให้ดี" แดเรียสกำหมัดแน่น ร่างกายเขาสั่นด้วยพิษไข้และบาดแผลที่ไม่หายซักที ความเจ็บแสบแล่นทั่วร่าง ทว่าเขาก็ทำตาม — หลับตาลง กัดฟันกรอด ราฟาเอลนั่งคุกเข่าข้าง ๆ วางมือเบา ๆ บนบ่าของเด็กหนุ่ม

  • Before The Fall   Chapter 4 - ปีกปีศาจและเสียงหัวเราะ

    ในลานฝึกกว้างใหญ่ เนทีรี่ยืนกอดอกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “รู้ไหมว่าพ่อแกมีปีก?” เธอเอ่ยขึ้นลอย ๆ ก่อนที่แดเรียสจะตอบอะไร เนทีรี่ก็จับแขนเขาแล้วพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า“อะไรวะ!? เนทีรี่! ปล่อย!”“อยากบินไหม?” เธอหัวเราะแล้วปล่อยเขาดิ่งลงมา แดเรียสร้องลั่น ลมปะทะใบหน้า ร่างของเขาร่วงผ่านก้อนเมฆลงมาสู่แม่น้ำข้างล่าง...ก่อนจะถูกโฉบขึ้นอีกครั้ง“นี่มันทรมานกันชัด ๆ!”“ไม่หรอก! แกบินได้ แค่ยังไม่รู้ตัว!”การฝึกวันแรกเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะของเนทีรี่เพียงแค่คนเดียว แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของแดเรียสก็ถูกบังคับให้แสดงศักยภาพสูงสุด นี่คือการเรียกสายเลือดปีศาจที่อยู่ในตัวเขาให้ตื่นขึ้นเสียงเหล็กกระทบดังก้องกลางลานฝึกที่เปียกชื้นจากฝนตกเมื่อตอนเย็น แดเรียสหอบหายใจหนัก มือทั้งสองกำดาบไม้จนสั่น ก่อนจะพุ่งเข้าหาเป้าหมายตรงหน้าอีกครั้งด้วยแรงฮึดสุดท้ายเพี๊ยะ!ด้ามดาบของเจซซี่บิดรับก่อนพลิกตีกลับอย่างแม่นยำ ร่างของแดเรียสถูกสกัดลงพื้น เสียงล้มกระแทกดินดังสนั่น เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บ แต่ก่อนจะทันได้ตั้งตัว เสียงเย็นเยียบก็ดังขึ้น

  • Before The Fall   Chapter 3 – ผู้เฝ้าประตู

    เสียงลมหายใจเงียบงันของกลางคืนคล้ายจะเลือนหายไปในความสงัด เมื่อ “ประตูมิติ” กรีดผ่านผืนอากาศเบื้องหน้าภูเขาสูงชันในป่าทึบ เสียงกรีดร้องของพลังลี้ลับบิดเบี้ยวแสงรอบข้าง บิดผันเป็นรอยแยกสีฟ้าอมม่วงเรืองแสง ลานหินวงกลมกลางป่าซึ่งไม่ปรากฏในแผนที่ใดบนโลกมนุษย์—ที่ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ระหว่างรอยต่อแห่งกาลเวลาจากเงาไม้ทึบ ชายชราผู้สวมผ้าฝ้ายสีดินเก่าขาด เดินออกมาช้า ๆ ไม้เท้าไม้ไผ่ในมือข้างหนึ่งกดลงพื้นเป็นจังหวะ ลมหายใจของเขาหนักแน่นแต่เนิบช้า ลุงจันทร์—ผู้เฝ้าประตู ด่านเชื่อมโลกทั้งสาม ผู้เคยหายตัวไปนานกว่าทศวรรษ ปรากฏตัวอีกครั้งเขาเดินตรงไปยังใจกลางลานหิน ที่ซึ่งมีบุรุษคนหนึ่งนั่งหลับตานิ่ง—อีธาน พ่อของแดเรียส เงาสะท้อนในดวงตาลุงจันทร์บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเมตตา ความเศร้า และความรู้สึกผิดบางอย่างที่ฝังแน่นในใจมานาน“โลกกำลังจะเปลี่ยน...” ลุงจันทร์พูดเบา ๆ ราวกับสายลมพัดพาเสียงผ่าน “เด็กคนนั้น...จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”แสงจันทร์ส่องลอดร่มไม้ ฉาบร่างอีธานไว้ในความสงบ เขาลืมตาช้า ๆ “ผมจำได้ ว่าท่านเคยเตือนผมเรื่องนี้...ตั้งแต่วันแรก”

  • Before The Fall   Chapter 2 : แผนต่อไป

    หลังการต่อสู้ เจซซี่กับราฟาเอลพาแดเรียสกับอีธานหนีไปยังฐานลับแถวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นั่น แดเรียสได้เรียนรู้เรื่อง “กลุ่มปฏิวัติ” ซึ่งต่อต้านสิ่งมีชีวิตจากเงามืดที่กำลังรุกรานโลก และพบเจอกับคนอื่นๆ ทั้งปกติและทั้งรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดเจซซี่กล่าวว่า“เรารู้ว่ามันคือใคร... เราเรียกมันว่า ‘ผู้ร่วงหล่น’ พร้อมเปิดภาพชายมีปีกขนดำสนิทเหมือนในฝัน — นามนั้น คืออากัส ผู้ปกครองของเหล่าเดอะฟอล“มันมี ‘ดิอาย’ หนึ่งในอาวุธโบราณ...” ราฟาเอลเสริมหลังเรื่องราวที่ยังคงวุ่นวาย อีธานกับแดเรียส พ่อลูกนั่งคุยกัน แดเรียสร้องไห้พร้อมขอโทษผู้เป็นพ่อที่เขาเป็นสัตว์ประหลาด แต่อีธานก็ยิ้มแล้วกอดลูกพร้อมบอกว่าลูกไม่ใช่สัตว์ประหลาด ลูกคือคนที่พิเศษต่างหากจากนั้นเจซซี่ก็พาแดเรียสมารู้จักคนอื่นๆในกลุ่มเนทีรี่ ราชินีแห่งโลกมังกร ผมขาว ผิวขาว นิสัยใจดีนิว มาจากเผ่าพันธุ์ไททัน เป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ร่าเริงกาวาบ้า ครึ่งเผ่าพันธุ์เทวรูปครึ่งเผ่าพันธุ์ทะเล ตัวสูงใหญ่นิสัยใจดี รักพวกพ้อง มีเคราเป็นปลาหมึก

  • Before The Fall   Before The Fall Chapter 1: เงาในฝัน

    "ในค่ำคืนหนึ่ง ที่หมอกเย็นกัดผิวและเงามืดกอดกุมมหานคร... ลมหายใจของรัตติกาลพัดผ่านม่านหมอกเหน็บหนาว แดเรียสสะดุ้งตื่นจากความฝันอันลึกล้ำ — ฝันที่ดั่งเปลวเพลิงเผาใจเขาจนแทบมอดไหม้ ในฝันนั้น เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักพัง เงาดำปกคลุมฟ้า อีกาสีดำตัวมหึมาเกาะอยู่บนตึกสูงสุดของมหานคร มันกรีดร้องก้องฟ้า เหมือนประกาศจุดจบของมนุษยชาติ เสียงระเบิด เสียงร้องไห้ และกลิ่นเลือดคละคลุ้ง ทุกอย่างย่อยยับป่นปี้ กลางเมืองย่อยยับนั้น ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ เงาของเขาราวปีศาจจากบาดาล ปีกสีดำปานค้างคาว ปกคลุมด้วยขนนกกา สายตาเย็นชาไร้ความปรานี มองตรงมาที่เขา — แดเรียส เขาตื่นขึ้นมา ใจเต้นโครมคราม เด็กหนุ่มคนหนึ่งสะดุ้งตื่นจากฝันที่คล้ายภาพลางร้าย เขาหอบหายใจ ปวดหัวอย่างรุนแรง "อีกแล้ว... ฝันแบบเดิม... เมืองพัง เงาดำ... แล้วก็... มัน..." ในเช้าวันนั้น แดเรียสนั่งมองออกนอกหน้าต่างรถแท็กซี่ไปยังถนนกรุงเทพที่วุ่นวาย เขามุ่งหน้าไปโรงพยาบาลจิตเวชที่เ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status