บทที่ 6: การทรยศที่แสนเจ็บปวด และชะตากรรมของมลาด (เสียงดนตรีประกอบที่เริ่มเข้มข้นขึ้น มีความตึงเครียดและอึมครึมแฝงอยู่) โฮสต์: ความสุขของมลาดและซาร่าดำเนินไปได้ไม่นานนัก เมื่อสถานการณ์สงครามเริ่มยืดเยื้อ จักรวรรดิแห่งงูยักษ์ที่เคยอยู่ในเงามืดเริ่มแผ่ขยายอำนาจ เมื่อ คอมุน ราชาจากเผ่าพันธุ์งูยักษ์ที่กระหายเลือดขึ้นมีอำนาจ เขาต้องการครอบครองสังสารวัฏทั้งหมด ทีเรี่ยน คนแคระผู้ฉลาดเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของราชาแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ ซึ่งเขาคือผู้ที่จะต้องจำใจสังหารหลานชายของตัวเองในอนาคต หากแผนการนี้ไม่สำเร็จ เขาเข้าใจชะตากรรมที่โหดร้ายและพร้อมจะเสียสละทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ราชาเผ่าพันธุ์ปีศาจ ผู้เป็นพ่อของมลาด พบภัยคุกคามที่มาถึงหน้าประตู เขาเรียกประชุมเหล่าขุนนางและผู้ไว้ใจ เพื่อวางแผนการที่เสี่ยงที่สุดในชีวิต แล้วตัดสินใจให้มลาดแทรกซึมเข้าไปในเผ่าพันธุ์ของคอมุนจากภายใน! (เสียงกระซิบ เสียงปรึกษาหารือ ไหว้หา ยกไม่หายใจ) โฮสต์: แต่เพื่อทำให้คอมุนไว้ใจมลาด มลาดต้องทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำที่สุด... นั่นคือ การฆ่าล้างบางตระกูลของตัวเอง! การฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเขาเอง... มลาดเสียดายจนร้องไห้ เขาลงมือฆ่าผู้ที่เขารัก แต่ต้องจำใจเพื่ออนาคต มลาดถูกตราหน้าว่าเป็น "ผู้ทรยศเผ่าพันธุ์"... ในวันปฏิบัติการอันแสนโหดร้าย ท้องฟ้ามืดมิดราวกับร้องไห้ตาม... และมลาดกลั้นน้ำตา มือสั่นระริก แต่ลงมือฆ่าคนในครอบครัว เลือดสด ๆ ไหลอาบพื้น ทำให้เขาต้องกลายเป็น "มลาด ผู้ทรยศเผ่าพันธุ์" ตามที่ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ แต่ซิคไม่รู้เรื่องแผนการนี้ เขาเห็นเพียงภาพของเพื่อนรักที่กำลังสังหารคนในครอบครัว! เขารู้สึกถูกทรยศ และเข้าขัดขวางมลาด ทั้งสองเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด! ถ้ามลาดเอาจริง ซิคจะตาย แต่เขาไม่ทำ เพราะรักเพื่อน! (เสียงต่อสู้ของมลาดและซิคที่ดุเดือดแต่แฝงความเจ็บปวด เสียงดาบปะทะกัน เสียงกรีดร้องที่แผ่วเบาของฝ่ายทั้งสอง) โฮสต์: สุดท้าย มลาดหนีไปพร้อมกับฝ่ายศัตรูตามแผนการ แต่ซิคได้ทิ้งแผลเป็นขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าของมลาด เป็นรอยแผลที่จะไม่มีวันลบเลือน ทำให้มลาดต้องสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไปตลอดชีวิต และโดนตราหน้าว่าเป็นกบฏที่แสนต่ำช้าไปตลอดกาล...
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงและเกิดอะไรขึ้น โปรดกดติดตามและเป็นกำลังใจให้แก่กันด้วยนะครับ ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครที่คุณรักไปด้วยกัน แล้วพบกันใหม่ ในบทต่อไปนะครับนี่คือเรื่องราวก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มขึ้น บทนำ: กำเนิดของผู้สร้างและคำสาปแห่งอสูร ในห้วงอวกาศอันว่างเปล่า "ธรรมชาติผู้สร้าง" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งๆ หนึ่งที่เขาเรียกว่า "เด็กแห่งจินตนาการ" ผู้สร้างได้สรรค์สร้าง "สังสารวัฏ" ซึ่งเป็นวัฏจักรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และสรรพสิ่งทั้งมวลขึ้นมาด้วยพลังอำนาจอันไร้ขีดจำกัด แต่ในความเดียวดายนั้นเอง เขาก็ปรารถนาที่จะมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง จึงได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกนามว่า แอสมาดิอุส แต่สิ่งที่ควรจะเป็นความสุขกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม เพราะด้วยความผิดพลาดบางอย่าง ผู้สร้างได้มอบชีวิตให้แก่บุตรชายที่มีจิตใจที่มืดมิดและโหดเหี้ยม แอสมาดิอุส เติบโตขึ้นมาเป็นปีศาจร้ายที่ไร้ซึ่งเมตตา เขาทำลายทุกอย่างที่ผู้สร้างสร้างขึ้นมา และพยายามที่จะลอบสังหารผู้เป็นบิดาของตนเอง ด้วยพลังอำนาจที่มากเกินไป ผู้สร้างจึงจำต้องใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อกักขังจองจำแอสมาดิอุสไว้ในคุกที่มืดมิดและลึกที่สุดในสังสารวัฏ แต่ผู้สร้างก็รู้ดีว่า สักวันหนึ่งแอสมาดิอุสจะต้องหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ เขาจึงได้ให้กำเนิดบุรุษและสตรีคู่แรกขึ้นมานามว่า ฟาเธอร์ และ มาเธอร์ เพื่อหวังว่าในอนาค
บทที่ 13: กำเนิดนิวเวิลด์: ยูโทเปียแห่งสังสารวัฏ (เสียงเพลงแห่งความสงบสุข ความหวัง และการเริ่มต้นใหม่ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เสียงเหมือนจักรวาลกำลังก่อร่างสร้างตัว) โฮสต์: หลังจากสงครามอันยาวนานจบลง... ผู้ที่เคยเข้าร่วมกับอากัสก็ถูกจับเป็นนักโทษ รวมถึง เวอร์เม้า พี่ชายฝาแฝดของแดเรียสด้วย ซึ่งเขาถูกส่งไปคุมขังในคุกมิติที่เข้มงวดที่สุด เพื่อรอวันที่จะได้รับการตัดสินและไถ่บาปในสิ่งที่ได้ทำลงไป และด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากการร่วมมือกันโค่นล้มแอสมาดิอุส ธรรมชาติผู้สร้าง ที่เฝ้ามองทุกสิ่งมาตลอด จึงได้สร้าง นิวเวิลด์ หรือโลกใหม่ขึ้นมา! เป็นโลกที่เป็นยูโทเปียอย่างแท้จริง! เพื่อเป็นที่อยู่ของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏ! นิวเวิลด์มีลักษณะเป็นดวงดาวทรงกลมที่สวยงาม ส่องประกายระยิบระยับในห้วงอวกาศ มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่กว่ากาแล็กซีทางช้างเผือก หรือ มิวกี้เวย์ หลายเท่า มีเขตเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสถาปัตยกรรมที่งดงาม เขตหนาวจัดที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง เขตร้อนจัดที่เต็มไปด้วยป่าฝนเขียวขจี ทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อุณหภูมิเยือกแข็งที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ได้ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่
บทที่ 14: คำทำนายสุดท้าย: บุรุษสีแดงและการสิ้นสูญ (เสียงเพลงปิดที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม เสียงคล้ายคำทำนายที่ดังแผ่วเบาและสะท้อนก้อง) โฮสต์: ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยความสุขในโลกยูโทเปียแห่งนิวเวิลด์... สังสารวัฏเข้าสู่ยุคแห่งสันติสุขที่ยั่งยืน... แต่เรื่องราวนี้ยังคงมีปริศนาอีกอย่างที่รอคอยการเปิดเผย... ปริศนาที่จะกำหนดชะตากรรมของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏในอนาคตอันไกลโพ้น... คำทำนายของเด็กหญิงตาบอด โซฮี ผู้เป็นธิดาของนักทำนายผู้ล่วงรู้ ได้ทำนายเอาไว้ว่า: (เสียงเด็กหญิงพูดช้าๆ เสียงสะท้อนเล็กน้อย เหมือนเสียงก้องมาจากอดีตหรืออนาคต) "อีกหลายแสนกัปข้างหน้า... โลกใหม่จะถึงจุดตกต่ำ... และจะถูกทำลายล้างทั้งสังสารวัฏ... ด้วยน้ำมือของบุรุษสีแดงผู้ถูกพันธนาการด้วยดาบที่หัก... เมื่อถึงวันนั้น... มังกรยักษ์จะหมดลมหายใจล้มลงใส่ต้นไม้... เลือดของมังกรจะไหลออกไปจนถึงอีกโลกธาตุ... และทุกอย่างจะสิ้นสูญ... และจะถือกำเนิดขึ้นใหม่จากเลือดของบุรุษสีแดง..." (เสียงเพลงปิดพอดแคสต์ที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม ค่อยๆ เฟดลง) โฮสต์: คุณผู้ฟังครับ... เรื่องราวของแดเรียส มลาด อากัส และตำนานแห่
บทที่ 12: สงครามที่บานปลายและการไถ่บาปครั้งสุดท้าย (เสียงบรรยากาศแห่งสงครามโลกครั้งใหญ่ เสียงปะทะของกองทัพขนาดมหึมาที่โหมกระหน่ำไม่หยุด เสียงคำรามของปีศาจ เสียงพลังงานมหาศาลที่ปะทุขึ้นทั่วทั้งสังสารวัฏ) โฮสต์: การกระทำของอากัสทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านก่อกบฏมากมายทั่วสังสารวัฏ โดยมี เจซซี่ หญิงสาวผู้แข็งแกร่ง และ ราฟาเอล องครักษ์ผู้พ่ายแพ้ในอดีต เป็นหัวหน้าผู้นำในการต่อสู้กับอำนาจของอากัส แต่อากัสก็ส่งคนไปกำจัดตลอด และเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาชิ้นส่วน 5 อันที่เหลือให้ครบเพื่อปลุกแอสมาดิอุส ระหว่างช่วงเวลาแห่งสงครามอันยาวนานนี้เอง... ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความมืดมิด... อากัสก็ได้เจอรักแท้อีกครั้ง! เป็นหญิงสาวที่ชื่อ ลอเลน เทพแห่งสงคราม! เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจเขา ยอมรับในความมืดในใจของเขา และได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เดวิน ผู้ที่ภายหลังแดเรียสจะนำไปเลี้ยงดู! (เสียงเพลงรักที่เศร้าหมอง แต่มีความหวังเล็กๆ เสียงหัวใจอากัสที่เต้นผิดจังหวะเมื่ออยู่กับลอเลน) โฮสต์: อากัสเชื่อว่าการปลุกแอสมาดิอุสจะนำไปสู่การชำระล้างครั้งยิ่งใหญ่ และสร้างโลกใบใหม่ที่บริสุทธิ์ในแบบที่เขาต้องการ แต่ในสงครามสุดท้าย...
บทที่ 10: อากัส: เบื้องหลังความมืดมิดของจอมวายร้าย (เสียงเพลงประกอบที่มืดหม่นและหดหู่ แสดงถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังลึกและก่อร่างสร้างความแค้น) โฮสต์: เราได้รู้ถึงปมในอดีตของแดเรียสและตระกูลของเขาไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาเจาะลึกถึงชีวิตของจอมวายร้ายอย่าง อากัส กันบ้างครับ... บางครั้งความชั่วร้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่มันถูกหล่อหลอมมาจากความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่เขาต้องเผชิญมาตั้งแต่เกิด... ความเจ็บปวดที่ผลักดันให้เขากลายเป็นจักรพรรดิผู้บ้าคลั่ง อากัส เกิดมาเป็นลูกของจักรพรรดิ นูมะ แห่งเผ่าพันธุ์เทวทูตผู้ร่วงหล่น... จักรพรรดิผู้เหี้ยมโหด เห็นแก่ตัว และไร้ซึ่งความเมตตา แต่เขาก็มี มีอา ราชินีผู้แสนใจดี และเป็นมารดาผู้มอบความรักให้ลูกจนวาระสุดท้าย ราชินีมีอา เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของอากัสและฮามัส ชีวิตของอากัสและน้องชายของเขา ฮามัส จึงเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวดครับ พวกเขาถูกพ่อทุบตีทารุณทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ ไม่เว้นแต่ละวัน ถูกบังคับให้ฝึกฝนอย่างหนักจนเกินขีดจำกัด ถูกปลูกฝังความโหดเหี้ยมตั้งแต่ยังเด็ก มีเพียงราชินีมีอาผู้เป็นแม่เท่านั้นที่คอยปลอบโยนทั้งสองเสมอ แม้ว่าตัวท่านเอ
บทที่ 11: การแสวงหาพลังและการแก้แค้นของอากัส (เสียงบรรยากาศที่มืดมิดและน่ากลัวมากขึ้น เสียงเหมือนมีบางสิ่งกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากหลับใหล) โฮสต์: อากัสและฮามัสใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยความเสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อากัสเครียดแค้นผู้เป็นพ่อและนิน่ามากกว่านั้น... ความแค้นนั้นกลายเป็นแรงขับเคลื่อนอันมหาศาล เขาเริ่มศึกษา ศาสตร์มืดโบราณ ที่ถูกกล่าวขานในตำนาน และพยายามค้นหา ชิ้นส่วนทั้ง 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลืออยู่จาก 6 ขุมพลังแห่งแรก ของนีโอ ราชาปีศาจตนแรก ที่ใช้ผนึกแอสมาดิอุส ความมุ่งมั่นของอากัสไม่ใช่แค่การแก้แค้นครับ! เขามีปรัชญาที่บิดเบี้ยวแต่ลึกซึ้ง... เขาเชื่อว่าสังสารวัฏนี้เน่าเฟะเกินจะเยียวยา เขาต้องการที่จะปลุกคืนชีพแอสมาดิอุส ปีศาจแห่งบาปบรรพกาลให้มาเป็นพลังของเขา และใช้พลังนั้นทำลายทุกอย่างที่มันโสมมในสังสารวัฏ! เพื่อให้วัฏจักรแห่งชีวิตและความตายกลับไปสู่ความว่างเปล่า และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! เขาเชื่อว่านี่คือทางเดียวที่จะล้างความสกปรกทั้งหมดที่เขามองเห็น โฮสต์: เขาศึกษาประวัติศาสตร์ของสังสารวัฏอย่างลึกซึ้ง จนรู้เรื่องราวของธรรมชาติผู้สร้าง และสิ่งที่สร้างธรรมชาติมาก่อ