LINE ~ Calling LILIN
(ว่าไง หึหึ..ที่โทรกลับมาเนี่ยพร้อมทำงานแล้วใช่มั้ย?)
ปลายฝนเม้มปากบางๆของเธอ และหลับตาสงบสติอารมณ์ที่แทบอยากจะระเบิดออกมาใส่คนปลายสาย
"ไม่ต้องขู่ฉันเรื่องพี่ณภัทรหรอกค่ะ เขาไม่ใช่แฟนฉัน"
(อ้าวเหรอ? ตลกจังได้ข่าวแว่วๆว่าเขาเป็นคู่หมั้นเธอนี่ คล้ายๆฉันกับพี่ติณห์ไง โถ่ๆไม่ต้องเขินหรอก..ไหนๆเราก็มีแฟนเหมือนกันเธอควรจะเข้าใจฉันนะ)
"ทำไมคุณลิลินไม่สั่งลูกน้องของคุณพ่อคุณล่ะคะ?"
(นี่! พูดมาได้ ถ้าสั่งลูกน้องพ่อฉันพี่ติณห์ก็ไหวตัวทันน่ะสิ แต่ตอนนี้เขายังไม่ง้อฉัน..และฉันก็เริ่มมั่นใจมากๆว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล งั้นพรุ่งนี้เธอเริ่มงานซะ ฉันจะส่งไกด์ไลน์ไปให้ แค่นี้ล่ะ สวัสดี)
LILIN ~วางสาย
ไม่ปีศาจ ก็นางมารร้ายชัดๆ! ปลายฝนหงุดหงิดมาก ตั้งแต่เกิดมาจนโต ไม่เคยมีใครทำให้เธอประสาทเสียเท่านี้มาก่อน นางมารลิลินคนนี้เป็นคนแรก!
และมันก็ยังไม่จบแค่นี้!
ตึ้ง!~ LINE -LILIN
LILIN : 1. สะกดรอยตามพี่ติณห์เช้าเที่ยงเย็นจนเขากลับบ้าน 2. ถ่ายรูปผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา เท่านี้ล่ะไว้ฉันคิดออกจะบอกอีกที เริ่มที่สำนักงานสายการบินเวลฟายแปดโมงเช้าเลยนะ
PLAIFON: ค่ะ
LILIN : ตอบแค่นี้?!
PLAIFON: คุณลิลินจะให้ฉันตอบว่าอะไรล่ะคะ?
LILIN : บ้าจริง เธอมันบ้า!
ใครกันแน่ที่บ้า ปลายฝนอ่านข้อความแชทสุดท้ายและลอบถอนหายใจออกมา ก่อนเธอจะลุกจากเตียงลงไปช่วยแม่บุญธรรมทำกับข้าวรอคุณหมอณภัทรเช่นเคย
ปลายฝนเป็นเด็กน่ารัก ประหยัด ถ่อมตัว และเธอจะย้ำกับตัวเองเสมอว่าอยู่ในบ้านหลังนี้ฐานะอะไร ฉะนั้นอะไรหยิบจับได้เธอก็จะช่วย
จนเธอรู้ดีว่าหมอณภัทรชอบอะไรเป็นพิเศษ และกิจวัตรแต่ละวันเขามีอะไรบ้าง
"วันนี้แม่ทำขนมจีนน้ำยาปูของโปรดพี่ณภัทรอีกแล้วเหรอคะ^^"
ปลายฝนชะเง้อถามแม่บีมแม่บุญธรรมของเธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปที่โต๊ะเพื่อช่วยเตรียมผักให้
"ใช่จ้ะ ปลายฝนฝึกทำไว้นะ...แต่งงานไปจะได้ทำให้พี่เขาทาน^^"
ได้ยินคำว่าแต่งงานทีไร ปลายฝนก็ชะงักทุกที แต่เอาเถอะ..ยังไงก็ต้องแต่ง หลังจากนี้เธอจะพยายามทำตัวให้ชินก็แล้วกัน
"ค่ะ เหลือแค่ขนมจีนน้ำยาปูยังไม่ได้ฝึกทำ ว่าแต่พ่อหมอไปไหนคะ? "
"ก็ไปโรงพยาบาลน่ะสิ สองพ่อลูกเอาแต่หมกตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เอ้อ!ปลายฝนมานี่ๆ..แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"คะ? มีอะไรเหรอคะ?" ปลายฝนกับแม่บุญธรรมเดินไปในนั่งที่โซฟาพร้อมกัน ทั้งคู่ปล่อยน้ำแกงปูของโปรดหมอณภัทรเดือดปุดๆอยู่แบบนั้น
ก่อนที่คนเป็นแม่จะถามว่า..
"หลายปีมานี้..มันยังมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับลูกมั้ยปลายฝน?"
ปลายฝนตกใจ เพราะเหตุการณ์นั้นมันผ่านมานานมาก และแม่เธอที่เห็นเหตุการณ์ก็ยังไม่ลืม
"แม่คะไม่มีอะไร แม่อย่าคิดมากเลยค่ะ อาจจะเป็นเจ้าที่อำแม่เล่นๆก็ได้^^"
ปลายฝนบอกและลูบมือที่จับมือเธอด้วยความเป็นห่วง แต่แม่บีม..แม่บุญธรรมของเธอ ท่านไม่สบายใจเอาซะเลย ท่านเอาแต่ขมวดคิ้วมองหน้าลูกสาวคนนี้หาความจริง
ว่าลูกของเธอกำลังโกหกอยู่หรือเปล่า..
"ปลายฝน...แต่แม่ไม่สบายใจเลย ลูกก็อยู่ที่นี่มาตั้งนาน ทำไมเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับลูกได้ "
ปลายฝนยิ้ม พยายามข่มใจไม่ให้เผลอพูดความจริงออกมา ว่าสิ่งที่เธอพบเจอมาตั้งแต่เด็ก...ตอนนี้มันกำลังจะทวงอะไรบางอย่างจากเธอ
และนั่นก็อาจจะหมายถึงชีวิต
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แม่อย่าคิดมากเลยนะคะ^^"
"ไม่ให้คิดได้ยังไง..ตั้งแต่วันนั้นแม่ใจไม่ดีเลย มันหวิวๆในใจ ปลายฝน..ลูกแต่งงานกับณภัทรเลยได้ไหม ไม่ก็ออกไปอยู่ด้วยกันก่อน แม่ร้อนใจยังไงไม่รู้ มันแปลกๆอยากให้หนูแต่งงานกับณภัทรเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี"
ปลายฝนก้มมองมือที่กุมอยู่ เพราะคนกุมบีบย้ำๆอย่างร้อนใจ ราวกับล่วงรู้ว่าปลายฝนกำลังถูกเจ้ากรรมนายเวรทวงชีวิตคืนยังไงอย่างงั้น
ขอโทษนะแม่ที่ต้องโกหก...
แต่เรื่องนี้แม่ไม่รู้มันดีที่สุดแล้ว
ปลายฝนคิดในใจและยกมือว่างๆอีกข้างกุมมือแม่เธออีกครั้ง เมื่อแม่เธอเป็นกังวลกับเรื่องนั้นมากและสักวันมันต้องมาถึง
ปลายฝนจึงเริ่มคิดหาวิธีอื่น..ที่จะเลี่ยงไม่ให้แม่เธอเห็นชายกำยำคนนั้นอีก
"ถ้ายังไม่แต่ง หนู..ก็ย้ายไปอยู่ที่คอนโดพี่ณภัทรก่อนได้ใช่มั้ยคะ"
แม่ของเธอพยักหน้ารัวๆ และยิ้มกว้างทันทีเมื่อปลายฝนถามแบบนั้น เพราะส่วนนึงครอบครัวก็ต้องการให้ทั้งสองลงเอยกัน จะได้ทันเห็นหลานตัวน้อยๆก่อนตาย
"ได้สิจ๊ะ ที่คอนโดมีสองห้องนอน ไปลองใช้ชีวิตด้วยกันดูก่อน..ค่อยแต่งก็ได้ ไม่ดียังไงจะได้ปรับเปลี่ยนทัน"
ถึงแม่บุญธรรมจะเสนอ แต่ในใจท่านไม่ได้คิดเช่นนั้น คนเป็นแฟนกันถ้ามีโอกาส..ยังไงๆก็ไม่มีทางแยกห้องนอนกันอยู่ดี
"ปรับเปลี่ยนคือยังไงคะ? เปลี่ยนเจ้าบ่าวไม่ต้องแต่งกับพี่ณภัทรแล้วแบบนี้ใช่ไหม?" ปลายฝนเอียงคอถาม หวังคำตอบในใจลึกๆว่าใช่
แต่ทว่า..
"ไม่ใช่ เจ้าบ่าวยังคนเดิมจ้ะ..แม่หมายถึงปรับเปลี่ยนนิสัย จูนกันให้ติดทำนองนี้"
"อ๋อค่ะ นึกว่า.."
"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ แม่ไปดูแกงปูก่อน^^"
ปลายฝนยังไม่ทันพูดประโยคในใจ แม่บุญธรรมของเธอก็รีบเบรคไว้แล้วลุกขึ้นจากโซฟาไปในครัวทันที
จนตอนนี้เหลือแค่ปลายฝนที่นั่งอยู่ และเธอก็กำลังกังวลเรื่องชายกำยำคนนั้น
เพราะเรื่องมันผ่านมาแล้วเป็นสิบๆปี ทำไมแม่ของเธอไม่เคยลืม แถมยังมาพูดเอาป่านนี้
มันคือลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า?
หลังจากช่วยงานในครัวจนรับประทานอาหาร...ปลายฝนก็เอาแต่นั่งเงียบ เธอเครียดกับเวลาครบกำหนดที่มันผ่านมาแล้วตั้งสองปี
และถ้าชายกำยำคนนั้นโผล่มาในบ้านหลังนี้ ต่อหน้าแม่เธออีกจะทำยังไง ?
แม่คงไม่สบายใจ แม่คงเครียด หรือไม่..ก็คิดว่าเธอเป็นตัวอะไรสักอย่างที่สิงอยู่ในบ้าน เหมือนผีไร้ญาติทำนองนั้น
"กินน้อยจังฝน แถมพูดก็น้อยมีอะไรไม่สบายใจรึป่าว? เพิ่งได้งานนะ..ร่าเริงหน่อยสิ^^"
พี่หมอณภัทรของปลายฝน ไม่ว่าจะเหนื่อยจากงานแค่ไหนเขาก็คอยเป็นห่วงเธอเช่นเดิม และมันก็ทำให้เธอลำบากใจมากขึ้นที่จะปฏิเสธผู้ชายคนนี้
"คะ..เอ่องานค่อนข้างไม่ตรงสายน่ะค่ะ มีออกนอกพื้นที่ ฝนลำบากใจนิดหน่อย"
"อ้าว..เป็นเลขาก็มีตามติดเจ้านายออกไปนอกสถานที่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เชื่อพ่อเถอะอีกหน่อยก็ชินไม่ต้องคิดมาก^^"
เมื่อพ่อบุญธรรมแสนใจดีบอกมาแบบนั้น ปลายฝนก็ต้องยอมรับในงานที่ตัวเองเลือก แต่จริงๆเธอกลุ้มใจเรื่องแม่มากกว่า ที่มารับรู้้ความลับจนท่านคิดมากถึงมาปัจจุบัน
เธอจึงนั่งเงียบๆยิ้มๆคิดคนเดียวอยู่แบบนั้น และประติดประต่อความน่าจะเป็น ที่ชายกำยำจะปรากฏตัวออกมา
สถานที่ไหนบ้าง ที่เธอพอจะเลี่ยงไม่ให้แม่รับรู้..?
และอีกนานแค่ไหนนะที่จะถึงเวลา..เพราะที่นี่มันเสี่ยงมาก ยี่สิบสี่ชั่วโมงของแม่มีแต่บ้านหลังนี้เท่านั้น
พอคิดไปคิดมา..ปลายฝนก็พลันคิดถึงที่ๆนึงที่ได้ยินมาหมาดๆ ก็คือคอนโดหมอณภัทรที่ซื้อไว้เป็นเรือนหอ และมันก็เหมาะซะเหลือเกิน
เพราะหมออย่างเขาไม่ค่อยมีเวลาอยู่ที่นั่นบ่อยๆหรอก และเธอเองก็แยกนอนคนห้อง..ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อตัดสินใจได้ ปลายฝนก็รีบหันควับไปจับมือหมอณภัทรไว้ จนเขาสะดุ้งตกใจมองมือของเธอทันที
"มีอะไรเหรอฝน?"
"พี่ณภัทรคะ เราย้ายออกไปอยู่ด้วยกันมั้ย?"
ทุกคนบนโต๊ะอาหารเงียบและมองหน้ากัน ตกใจสุดๆที่ปลายฝนโผงผางขึ้นมาแบบนั้น
ก็ปกติเธอปฏิเสธมาตลอด อยู่ๆเป็นคนออกปากชวนซะเองใครจะไม่ตกใจล่ะ!
"คิดอะไรอยู่หึปลายฝน อยากแต่งงานแล้วใช่มั้ย^^" พ่อหมอถาม และคำถามนั้นก็ทำหมอณภัทรถึงกับอมยิ้ม
"คือ...ยังก่อนค่ะ แต่วันนี้หนูลองคุยๆกับแม่ แม่บอกว่าอยากให้เราไปทดลองอยู่ด้วยกันและปรับจูนกันก่อน พ่อกับพี่ณภัทรว่าไงคะ ถ้า..มันจะเป็นแบบนั้น-///-"
"ได้สิ คอนโดใกล้โรงพยาบาลด้วยสะดวกณภัทรออก ใช่ไหมณภัทร^^"
"ครับพ่อ สะดวกมาก"
"งั้นปลายฝนพร้อมเมื่อไหร่ก็ย้ายของไปอยู่เลยแล้วกัน ลองใช้ชีวิตกันสองคนดู..ขาดเหลืออะไรก็บอกพ่อกับแม่ อีกอย่างบ้านพี่ปลายฟ้าก็อยู่ไม่ไกลด้วย พ่อแม่ไปหาจะได้สะดวก^^"
ปลายฝนพยักหน้าเบาๆตอบพ่อหมอ ซึ่งพี่ปลายฟ้า ที่ท่านพูดถึงคนนี้...ก็คือพี่สาวคนโตที่อายุห่างจากปลายฝนประมาณสองรอบ
เธอมีลูกสามคน ลูกชายคนแรกเป็นหมอ ลูกสาวฝาแฝดสองคนเป็นดารากับนักร้อง และเธอคนนี้ล่ะที่แต่งงานกับพี่นาวา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล..ที่เป็นลุงของติณห์
และที่ต้องเรียกพี่ก็เพราะศักดิ์ทางเครือญาติ แต่ทั้งสองอายุอานามระดับน้าๆได้เลย เพราะพ่อแม่บุญธรรมของปลายฝน มีพี่หมอณภัทรเป็นลูกหลงตอนอายุมากแล้ว
หมอณภัทรเขาจึงอายุห่างจากพี่สาว..จนตกมาอยู่รุ่นราวคราวเดียวกันกับหลานของตัวเอง
นั่นก็คือณเพชร ที่เป็นหมอคนนั้น
ซึ่งปลายฝนเองก็ไม่ได้เจอเขาง่ายๆหรอก เพราะรายนั้นเขาจะหมกตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เตรียมขึ้นเป็นผู้อำนวยการแทนพ่อ
และว่างก็ไม่เคยมาเยี่ยมตายายหรอก เอาแต่เที่ยวตามเต๊าะหญิงตามฉบับหมอคาสิโนว่า ที่สาวๆหมายปอง
พรวิเศษที่ตัวเองได้มา เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ โม้กับปาป๊าว่าตัวเองเก่งที่สามารถช่วยอันอันไม่ให้วิ่งชนโต๊ะได้จนกลับมาจากเกาะของครอบครัว ลิลินก้พาพร้อมไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้มันจะเป็นพรวิเศษที่ได้มา...แต่เธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี "หนูกังวลอะไรอยู่เหรอ?" เมื่อถวายสังฆทานเสร็จ พระสงค์ที่รับไปก็ไถ่ถามขึ้นมา ทั้งที่ลิลินเอง..ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกชายเธอเลยด้วยซ้ำ"คะ?..ถามหนูเหรอคะ?" หญิงสาวถามและชี้ที่ตัวเองงุนงง"ใช่ หนูนั่นแหละ""ค่ะกังวลนิดหน่อย คือ..อยู่ๆลูกชายหนูก็แปลกๆ เขาหายตัวได้ ไม่สิ..หนูไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะหลวงพ่อ พูดไม่ถูก""หลวงพ่อรู้แล้ว ถึงได้ถาม..ว่าทำไมหนูต้องกังวลกับเรื่องนี้ ลูกชายหนูเป็นคนดี วาสนาดีและมีบุญมหาศาล เขาได้พรวิเศษนั้นมา มันจะช่วยปกป้องเขาและคนอื่นๆอีกมาก"ลิลินเม้มปากบางๆของเธอแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะพนมมือขึ้นอีกครั้ง และตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอกำลังอัดอั้นกับหลวงพ่อ"แต่หนูห่วงว่าเขาจะแวบไปตรงนู้นตรงนี้ แล้วเกิดอันตราย ถ้าเลือกได้...หนูอยากให้ลูกชายเป็นคนธรรมดาปกติ หลวงพ่อพอจะช่วยได้มั้ยคะ?""ไ
3 ปีต่อมา..เสียงคลื่นกระทบฝั่ง แสงแดดยามเช้า กลิ่นอายของทะเลที่พัดเข้ามากระทบหน้าตามแรงลม ทำให้หญิงสาวที่นอนกินลมชมบรรยากาศ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลิลินทอดมองไปที่ทะเลกว้าง...มองไปที่เกลียวคลื่นกระทบฝั่ง...ซ่า ซ่าแต่ระหว่างนั้นหางตาของเธอ ก็มองลูกชายและหลานๆ ที่กำลังนั่งก่อกองทรายกันริมหาดด้วย"ห้ามโยนทรายนะลูก ยังไม่ทานมื้อเช้าเลย เดี๋ยวอาบน้ำใหม่นะ-_-""ได้เลยๆมาม๊า^^"แหมะ! หมดกัน ไม่ทันขาดคำ..ลินินก็กุมขมับ และลุกขึ้นจากเตียงชายหาดทันที เพราะพอบอกจบเท่านั้น..ลูกชายวัยสามขวบของเธอ ก็ปั้นทรายก้อนโต โปะ!เข้าที่หัวสาวๆที่นั่งเล่นอยู่จนหมอณัทร..ที่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน เห็นหญิงสาวก้าวสามขุมไปหาลูก เขารีบตะโกนตามหลังทันที"ลิน! ไม่ว่าลูกนะ..ค่อยๆสอน~~""รู้แล้วหมอ! โอ๋กันจริงๆเลย" ลิลินบ่นอิบ ก็เดินไปหยุดที่ลูกชายและหลานสาว ก่อนที่ทั้งสามจะเงยขึ้นทำตาปริบๆมองลิลินราวกับเธอเป็นนางพันธุรัตน์ "พร้อม เล่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะลูก ไปแกล้งอันอันกับปลายฝันได้ยังไง ม๊าบอกเมื่อกี้ไม่ได้ยินใช่มั้ย>ลิลิน ไม่ดุลูก~" หมอณภัทรตะโกนบอกอีกครั้ง"เออ รู้แล้วหมอ! ไม่ได้ดุ!""ก็..ก็มาม๊าบอกช้
ตอนนี้รอยยิ้มของติณห์กำลังจางหายไป เพราะน้ำตาลูกผู้ชายของเขา..กำลังเอ่อออกมาท่วมท้นพิธีกร : เห็นมั้ยคะ..ว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความสวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะคะ คุณติณห์คะ..ว่าไงบ้าง^^แล้วปลายฝนก็ส่งไมค์ให้ทันที ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของซีอีโอหนุ่มดูซิ คุณซีอีโอเขาอ่อนไหวอีกแล้ว...ร้องไห้อีกแล้ว..ติณห์ : ผมก็..อยากขอบคุณปลายฝนที่ให้โอกาสผม แล้วผมสัญญาครับ ผมจะรักษาโอกาสนี้ให้ดี...หลังจากวันนี้จะไม่มีใครมาแทนที่ปลายฝน และผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะรักและดูแลเธอคนนี้จนแก่เฒ่า ขะ..ขอบคุณครับมีคำพูดมากมายที่เขาอยากพูด แต่หลังๆเสียงติณห์เริ่มสั่นเครือจวนไม่ไหว เขาจึงรีบตัดบทไว..ทิ้งท้ายด้วยคำขอบคุณพิธีกร : หวานชื่นมากเลย อิจฉา~ แต่งานวันนี้มีโยนช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพื่อนเจ้าสาวคนไหนอยากได้ช่อดอกไม้บ้างเอ่ย^^ไม่มีใครตอบ เพราะเพื่อนเจ้าสาวที่มาก็ท้องกันหมด และถ้าได้มาแย่งชิงช่อดอกไม้ของปลายฝน มีหวังได้ล้มตึงกันแน่ แต่เมื่อช่อดอกไม้ ถูกยื่นให้เจ้าสาวอย่าปลายฝนโยนเท่านั้นแหละเธอก็ถือมันเด
"เกี่ยวอะไรกับลีออง!" คนเป็นแม่ถามลูกทั้งสอง แต่ไม่มีใครตอบ เพราะติณห์กับอันติงเอาแต่จ้องหน้ากันตั้งแต่เกิดมาจนโต ทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยด้วยซ้ำ...ครั้งนี้ครั้งแรก และที่ผ่านมา..ติณห์รักน้องห่วงน้องแค่ไหน..ใครๆก็รู้"ไม่ใช่มัน แล้วจะเป็นใคร?! อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ! ว่าอันติงชอบมัน"อันติงเบิกตากว้าง มองหน้าพี่ชายตกใจมาก แต่สักพักก็รีบเก็บอาการ โดยยกมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นทันที"ทำไมคะ?! แค่เคยชอบเคยปลื้มเท่านั้น! แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน พี่ติณห์คิดว่าชีวิตหนูจะไม่มีผู้ชายคนอื่นเลยรึไง ไม่ได้ลีอองผู้ชายคนอื่นก็มีตั้งเยอะ!""อันติง!!"เสียงตวาดลั่น ทำให้หญิงสาวที่ยืนกรานเถียงถึงกับนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจหรอก แต่ใครดุด่าว่ายังไง..มันก็ไม่รู้สึกปวดใจเท่ากับพี่ติณห์ของเธอจนตอนนี้อันติงน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม และค่อยๆลดมือสองข้างไปกำแน่นข้างลำตัวเธอเหนื่อยกับปัญหาเหลือเกิน และมันจะไม่ไหวแล้ว"ฮึกๆอันติงขอโทษ...อันติงคิดว่ามันแค่สนุก ขำๆ ฮือๆแต่ทั้งหมดอันติงป้องกันนะคะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไง อันติงขอโทษค่ะพี่ติณห์ ขอโทษนะคะ ฮือๆ"หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายสะอื้นไห้ตัวงอ จนซีอีโอหนุ่มที่เดือดดาลเริ่มใจอ
"ปลอมมาก-_-^""อะไรเหรอคะ? เพชรปลอมเหรอคะ?" เมื่อปลายฝนถาม ลิลินก็วางมือถือที่เปิดแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คลงบนโต๊ะ ก่อนเธอจะเขี่ยมันด้วยปลายนิ้วชี้ จนโทรศัพท์จนไถล~ฟรึบ! ไปหยุดตรงหน้าปลายฝนแล้วตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็งุนงง หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยอ๋อ รูปถ่าย..หมอณภัทรกับติณห์ ที่ทำตัวเผลอๆและอุ้มตุ๊กตาเด็กอาบน้ำที่โรงพยาบาล"เธอดูสิ..ปลอมมาก ทำเป็นเผลอถ่าย..แต่อัพรูปลงเฟสตัวเอง หึหึ-_-" ลิลินบอกย้ำแล้วหัวเราะเบาๆออกมาจนปลายฝนเงยขึ้นถามว่า.."ถ้าไม่ปลอม..มันจะเป็นยังไงเหรอคะ?" "เธอเนี่ย ไม่ทันผู้ชายเลยนะ..ฉันน่ะแปลกใจตั้งแต่ท้องแล้ว หมอณภัทรเคยลงรูปที่ไหน? แต่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ลง แถมยังอ้อนฉันว่าอยากมีลูกตั้งสี่คนอีก! ""สี่คน!! พี่ณภัทรที่โลภมากขนาดนั้นเลยเหรอคะO_O""ระวังไว้เถอะ สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน..ต้องย้ายมาอยู่อุดมการ์ณเดียวกันแน่ ฉันสี่คนเธออาจจะแปด เพราะพี่ติณห์เวอร์จะตาย"เวอร์...เวอร์....สุดจะเวอร์เลย แค่เห็นรูปที่ลิลินให้ดูไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อปลายฝนเลิกงานกลับถึงบ้านติณห์ เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในห้องโถงลังสีน้ำตาลเกือบยี่สิบกล่องวางเรียงเป็นตับ! ขณะที่แม่
เมื่อได้รับอนุมัติจากธนาคารประจำบ้าน ติณห์ก็จัดการดิวบริษัทแอร์บัสทีี่ฝรั่งเศษทันที ซึ่งบริษัทแอร์บัสนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ จากการรวมทุนของกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป ซีอีโอหนุ่มสั่งเครื่องบินเพิ่มสองลำ เป็นเครื่องบินAirbus-A320(-200) รุ่นฮิตบินภายในประเทศหรือแถบเอเชีย Rangeหรือพิสัยการบินราวๆ6,150 กิโลเมตร แลนด์ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นได้สบายซึ่งติณห์วุ่นวายเจรจากับบอร์ด และบริษัททางฝรั่งเศสจนถึงเย็น ก่อนที่จะสั่งให้โรงงานพ่นสีพิเศษที่เขาจะทำเซอร์ไพรส์ปลายฝนอีกด้วย"เรียบร้อย! ช่วยก็อปปี้เอกสารสั่งซื้อส่งให้บอร์ดบริหารทุกคนด้วยนะ^^""ได้ค่ะคุณติณห์^^" เลขารับแฟ้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปหลังจากมีเป้าหมาย..ทุกๆวันของติณห์ก็ทำงานอย่างหนัก อาจจะมีแพ้ท้องบ้างเวียนหัวบ้าง แต่อาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา เมื่อเขามองผ่านและพยายามอุดอู้อยู่กับงานอย่างเดียวและที่เป็นแบบนี้ ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เฉยเมยต่อลูกและเมียอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากให้ของขวัญปลายฝนกับลูก และเร่งทุกอย่างให้เสร็จทัน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึงนี้"เหนื่อยชิบ" ทันทีที่ติณห์ถึ