Se connecter@ห้างสรรพสินค้า
"พี่มาร์ชหนักไหมคะ ให้หวายช่วยดีกว่า" เสียงหวานหันกลับไปถามคนที่เดินอยู่ด้านข้างที่กำลังถือของอยู่แล้วทำท่าจะเอื้อมมือไปช่วยแต่มาร์ชกลับเบี่ยงตัวหลบแล้วตอบกลับมาเสียงอบอุ่นเพื่อคลายความกังวลให้อีกฝ่าย "ของแค่นี้เองจะหนักได้ยังไง หืม?" "แต่มันก็เยอะ..." "พี่เป็นผู้ชายนะ แค่นี้ไม่ได้หนักอะไรสำหรับพี่เลย อีกอย่างถ้าแค่นี้ยังช่วยหวายไม่ได้แล้วต่อไปจะดูแลหวายได้ยังไงล่ะ" มาร์ชคลี่ยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไรแต่คำพูดของเขากลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดไม่น้อยเพราะหลายวันที่ผ่านมามาร์ชมักจะพูดทำนองนี้อยู่เสมอแม้เธอจะเพิ่งเปิดโอกาสให้เขาได้ไม่ถึงสามเดือนเท่านั้น เขามักจะวางแผนอนาคตร่วมกันไว้จนมัดหวายรู้สึกอึดอัดหากจะไม่สามารถทำตามที่ชายหนุ่มต้องการได้ "อีกอย่างพี่เป็นคนอาสาจะมาช่วยหวายเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากนะครับ" ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาลูบศีรษะทุยเล็กด้วยความเอ็นดูตอนที่เห็นอีกฝ่ายเงียบไป เพราะความจริงแล้วเขาเป็นคนเสนอตัวจะมาช่วยมัดหวายเลือกซื้อของในวันนี้เองเนื่องจากเมื่อคืนตอนที่คุยกันเธอได้บอกว่าจะมาซื้อของให้กับพ่อของตัวเองในวันคล้ายวันเกิด เขาจึงเสนอตัวที่จะมาช่วยหญิงสาวถือของด้วยเป็นห่วงว่าคนตัวเล็กอาจจะต้องถือของหนักและอาจจะเดินได้ไม่สะดวกเท่าไรนัก "งั้นพี่ว่าเราไปที่ร้านต่อไปเลยดีไหม เดี๋ยวพ่อของหวายจะเป็นห่วงนะ" รุ่นพี่หนุ่มเสนอขึ้นแล้วหลีกทางให้มัดหวายได้เดินนำไปยังอีกร้าน "สวัสดีครับ" ทันทีที่เข้ามายังร้านนาฬิกาแบรนด์หรูพนักงานหนุ่มในชุดสูทดูดีก็รีบเดินเข้ามาทำการต้อนรับทั้งคู่อย่างรู้งานจากนั้นจึงเดินนำมัดหวายและมาร์ชไปยังด้านในของร้าน "ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีรุ่นที่สนใจหรือยังครับ" "เอ่อ รุ่นนี้ค่ะ" มัดหวายหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแบรนด์เนมแล้วยื่นให้กับพนักงานตรงหน้าดู ซึ่งพนักงานหนุ่มก็พยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วจึงเดินไปหยิบนาฬิการุ่นที่หญิงสาวสนใจมาให้กับเธอ "พ่อกับแม่ของหวายต้องดีใจแน่ๆ เลยที่มีลูกสาวน่ารักแบบนี้" "ตั้งแต่ที่มาด้วยกันพี่มาร์ชชมหวายไม่รู้กี่รอบแล้วนะคะ" "ก็เพราะหวายน่ารักไงพี่เลยต้องชม" มัดหวายยกยิ้มบางๆ กลบเกลื่อนความเขินอายแทนการตอบกลับไป ถึงจะอึดอัดไปบ้างในช่วงหลังๆ เวลาอยู่ด้วยกันแต่มาร์ชก็ยังคงเป็นคนที่อบอุ่นสำหรับเธอเสมอนั่นจึงทำให้หญิงสาวเลือกที่จะไม่ปฏิเสธชายหนุ่มแล้วยังคงลองดูใจกันต่อไป ดวงตาคมเข้มจ้องมองที่ใบหน้าหวานสลับกับมือเล็กอย่างชั่งใจเพราะตลอดเวลาที่ศึกษาดูใจกันมาเขาไม่เคยล่วงเกินอะไรมัดหวายเลยจะมีเพียงแค่การลูบหัวด้วยความเอ็นดูเท่านั้น สุดท้ายมาร์ชก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปจับยังมือเล็กที่วางอยู่ซึ่งมัดหวายเองก็มีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออกทำให้เรียกรอยยิ้มจากอีกคนได้อย่างง่ายดาย "ขอบคุณนะครับ" "ค่ะ" มัดหวายยิ้มตอบกลับอย่างไม่ได้คิดอะไรในขณะที่อีกฝ่ายกระชับมือให้แน่นขึ้นเมื่อรู้ว่ารุ่นน้องสาวไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนมาร์ชจะยกมือที่จับกับมัดหวายขึ้นมาเพื่อจะประทับจูบลงบนมือเรียว ทว่าหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างแล้วรีบดึงมือกลับด้วยความตกใจเมื่อเผลอเหลือบไปเห็นร่างสูงของคนที่คุ้นเคยกำลังจ้องมองมายังเธออยู่เช่นเดียวกัน "พี่พิชญ์" ริมฝีปากบางขยับเรียกชื่อพี่ชายของเพื่อนสนิทอัตโนมัติด้วยความตกใจ จู่ๆ ก้อนเนื้อด้านซ้ายก็เต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่พิชญ์กลับมีท่าทีปกติราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่ต้องมาเจอเธอที่นี่เลยแม้แต่น้อย ดวงตาคมกริบปรายตามองร่างบางในชุดนักศึกษาและชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่เพียงนิดจากนั้นจึงเดินไปหย่อนตัวนั่งลงด้านข้างของหญิงสาวเพื่อที่จะซื้อของที่ต้องการ "สวัสดีครับคุณพิชญ์" การทักทายที่คุ้นเคยบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพิชญ์เข้ามาซื้อของที่นี่บ่อยขนาดไหน พนักงานมากกว่าสองคนรีบเดินเข้ามาดูแลลูกค้าวีไอพีทันทีเช่นเดียวกับทางด้านมัดหวายที่พนักงานได้หยิบนาฬิกามาให้เธอได้เลือกดูทว่าหญิงสาวกลับไม่สามารถให้ความสนใจต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้เลย ดวงตากลมยังคงเหลือบมองซีกหน้าคมคายของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่เป็นระยะด้วยความประหม่า สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจทักทายอีกคนออกไปตามมารยาทหลังจากเลือกสินค้าเรียบร้อยแล้ว "เอ่อ พี่พิชญ์มาซื้อนาฬิกาเหมือนกันเหรอคะ" เจ้าของใบหน้าคมคายชะงักไปเล็กน้อยตอนได้ยินเสียงเล็กของคนด้านข้างที่เอ่ยทักทายมาซึ่งหากเขาสังเกตเธอสักนิดก็คงจะเห็นมือเล็กที่กำกระโปรงแน่นซึ่งขัดต่อรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหวานอย่างสิ้นเชิง "คือ..หวานเป็นเพื่อนสนิทของพีชนะคะ ไม่รู้ว่าพี่จะจำได้ไหม แต่เราเคยเจอกันที่มหา'ลัยหน้าตึกคณะครั้งหนึ่ง" มัดหวายรีบแนะนำตัวเองออกไปเมื่อยังคงได้รับความเงียบตอบกลับมา เธอคิดว่าคงเป็นเพราะการที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งเดียวเลยทำให้พิชญ์จำเธอไม่ได้และสิ่งที่จะทำให้เรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ก็คงจะเป็นการแนะนำตัวที่เกี่ยวข้องกับลูกพีชน้องสาวเพียงคนเดียวที่เขารักและหวงแหนมากที่สุด แต่แล้วคำพูดแรกจากริมฝีปากหยักได้รูปกลับสร้างความงุนงงให้กับเธอไม่น้อยจนรอยยิ้มหวานจางหายไป "หึ เพื่อนงั้นเหรอ" พิชญ์เค้นหัวเราะในลำคอราวกับเจอเรื่องขบขันนักหนาแล้วละสายตาจากสิ่งของตรงหน้าเพื่อหันกลับมาสบตากับอีกคนด้วยแววตาแข็งกร้าวจนมัดหวายเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะท่าทางของเขานั้นดูไม่ได้เป็นมิตรต่อเธอเลยแม้แต่น้อย พิชญ์ปรายตามองคนอายุน้อยกว่าตรงหน้าอย่างพิจารณาโดยไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นทว่ามัดหวายกลับรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉยของเขา "จัดการด้วย" พิชญ์ละสายตาจากใบหน้าหวานแล้วหันกลับไปออกคำสั่งกับลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังเสียงเรียบพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินออกจากร้านไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบบัตรเครดิตให้กับดีแลนไปด้วยก่อนออกไป ซึ่งบอดี้การ์ดหนุ่มที่รับรู้ในท่าทีของเจ้านายก็จัดการเลือกซื้อนาฬิกาตามแบบที่พิชญ์ชอบอย่างรู้งานโดยไม่ได้ให้ความสนใจกับอีกคนที่นั่งอยู่แม้เธอจะอ้างว่าเป็นเพื่อนของลูกพีชก็ตาม ในขณะที่มัดหวายกำลังนั่งหน้าเสียไปกับสิ่งที่พี่ชายเพื่อนสนิทปฏิบัติกับเธอซึ่งมาร์ชที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่ปล่อยให้หญิงสาวต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้นนาน เขาดึงมือเธอมาจับประสานไว้แล้วโน้มลงไปประทับจูบที่หลังฝ่ามือด้วยความแผ่วเบาก่อนจะชวนมัดหวายพูดคุยถึงเรื่องอื่นเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น เพียงแต่ในใจของหญิงสาวยังคงได้แต่เกิดคำถามว่าทำไมพิชญ์ถึงได้มีท่าทีราวกับเกลียดชังเธอขนาดนี้ เมื่อไม่สามารถถามไถ่จากใครได้มัดหวายจึงได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจแล้วเลือกที่จะมองข้ามไปเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ซึ่งหลังจากวันนั้นมัดหวายก็ไม่ได้เจอกับพิชญ์อีกเลย จนกระทั่ง..."สวยจัง..." ร่างบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหลุดปากออกมาตอนได้เห็นวิวของเมืองหลวงและบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมกับโต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เด่นอยู่ตรงกลาง ทำให้เธอนึกถึงตอนได้มาเดตกับพิชญ์ครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนที่บรรยากาศทุกอย่างก็ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักแบบนี้ราวกับทุกอย่างไม่ได้หายไปตามกาลเวลาที่ยาวนานของทั้งคู่"เชิญครับ" พิชญ์ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วพาคนตัวเล็กให้เดินไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ด้วยกันก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้แล้วรวบผมยาวสลวยให้เธออย่างอ่อนโยน"ขอบคุณนะคะ""หวายนึกถึงวันแรกที่เรามาเดตกันเลย แต่ไม่คิดว่าแด๊ดดี๊จะจำได้""พี่จำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา" ไม่ว่าจะวันที่เจอกันวันแรก วันครบรอบที่เขาขอเธอเป็นแฟน หรือวันที่แต่งงานกันพิชญ์ล้วนจดจำมันได้ทั้งหมดถึงแม้ตลอดระเวลาที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาแต่เขากลับไม่ลืมความทรงจำที่ได้ใช้ร่วมกับหญิงสาวเลยแม้แต่วินาทีเดียว"ตอนแรกหวายเห็นแด๊ดดี๊เฉยๆ ก็คิดว่าจะลืมแล้ว...""แล้วทำไมไม่เตือนพี่ล่ะ""ก็เพราะหวายไม่อยากเป็นคนงี่เง่าไงคะ แด๊ดดี๊ทำงานเหนื่อยแล้วต้องเลี้ยงลูกอีก ถ้าจะลืมเร
"เอาลูกของเธอมาให้ฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมกลับ""พอเลยพอกันทั้งคู่เลยแกกับพีชเนี่ย ฉันไม่ใช่แม่แมวที่จะคลอดลูกออกมาให้พวกแกเลี้ยงเล่นนะ""อ้าว ทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ฉันแค่เลี้ยงหลานของฉันเองนะ""อีกหน่อยฉันจะติดป้ายไม่ให้พวกเธอสองคนเข้าบ้าน"เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นบริเวณห้องโถงของบ้านทำให้ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากการทำงานต้องชะงักฝีเท้าก่อนจะเห็นว่าภรรยาของตัวเองกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนสนิททั้งสองของเธออยู่พร้อมกับลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ภายในเปล มุมปากหนาเผลอยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพความอบอุ่นตรงหน้าก่อนเขาจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว"เหนื่อยไหมคะ?" และแน่นอนว่ามัดหวายเองหันมาถามเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างเช่นทุกครั้ง มือเรียวลูบตามกรอบใบหน้าหล่อแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆ แบบที่ชอบทำโดยมีเสียงลอบถอนหายใจของสองหนุ่มสาวที่ดังออกมาอย่างเอือมระอา"นี่! ทีพวกเธอหวานกันต่อหน้าฉันยังไม่ทำขนาดนี้เลยนะ" มัดหวายหันไปแหวใส่เพื่อนรักทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในขณะที่พิชญ์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นบ่อยจนเคยชิน"ทะเลาะกันเหมือนเด็ก""ก็พวกนั้นแกล้งหวายก่อน""แ
"มะ..." เสียงของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่เอ่ยเรียกคนเป็นแม่ราวกับต้องการอะไรบางอย่างก่อนมัดหวายจะหันมาพูดกับลูกชายคนเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรู้ว่าเวสตินต้องการอะไร"หนูอยากกินนมเหรอคะ เดี๋ยวรอให้พี่วินกินอิ่มก่อนได้ไหมแล้วตินค่อยกินนะ""ยม..." แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยเข้าใจที่คนเป็นแม่บอกเท่าไรนัก เขาจัดการคลานเข้ามาหาแม่และพี่ชายของตัวเองที่นั่งอยู่ไม่ไกล"ติน! ดะ..แด๊ดดี๊ ลูก..." ทว่าการกระทำต่อมาก็ทำให้คนเป็นแม่ต้องเอ่ยเรียกสามีเสียงสั่นเมื่อลูกน้อยพยายามที่จะดันร่างเล็กของตัวเองขึ้นก่อนเท้าเล็กจะทำการก้าวไปข้างหน้า แม้จะเป็นเพียงก้าวสั้นๆ ก่อนเวสตินจะล้มลงไปแต่กลับสร้างความตื้นตันให้กับคนเป็นแม่ไม่น้อยกับก้าวแรกของลูก"แด๊ดดี๊ ลูกเดินได้แล้วค่ะ เมื่อกี้แด๊ดดี๊เห็นไหม" มัดหวายหันไปถามสามีที่กำลังยืนอยู่นิ่งซึ่งพิชญ์เองพยักหน้ารับแล้วคลี่ยิ้มออกมาไม่ต่างกัน"เก่งมากเลยลูก หนูเก่งมากๆ เลยนะ" พิชญ์ที่เพิ่งได้สติก็วางจานขนมในมือลงแล้วเดินไปอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบกับแผงอกแกร่งแล้วพาเข้าไปหามัดหวายเนื่องจากในตอนนี้เธอกำลังให้นมกับมาร์วินอยู่เลยทำให้ไม่สามาร
@สามปีต่อมา"นอนนะครับ คืนนี้อยู่กับอาพีชก่อนนะ" พิชญ์เอ่ยกับลูกน้อยที่กำลังนอนอยู่ในเปลภายในห้องนอนลูกพีชเสียงอ่อนโยน พวงแก้มป่องสีแดงระเรื่อที่คล้ายกับมัดหวายเวลาร้องไห้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปลูบเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวแทนการอุ้มลูกชายมาหอมโดยตรงเนื่องจากตอนนี้ทั้งคู่ได้กินนมอิ่มหลับไปแล้ว"พี่พิชญ์ไม่ต้องห่วงนะ คืนนี้พีชจะดูแลเจ้าตัวแสบเอง รับรองว่าจะไม่เข้าไปขัดแผนการของพวกเราอย่างแน่นอน" ลูกพีชเอ่ยบอกกับพี่ชายของตัวเองอย่างมั่นใจในขณะที่กำลังถือขวดนมและของเล่นไปด้วย ซึ่งในตอนนี้บ้านของเธอก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาสองคนภายในระยะเวลาสองปีกว่า ซึ่งก็คือ'มาร์วิน'ที่เป็นพี่ชายคนโต และ'เวสติน'ที่ในตอนนี้ยังคงเป็นน้องคนเล็กอยู่ แต่สถานะนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอกับพิชญ์ได้วางแผนการที่จะหาน้องคนเล็กอีกคนมาแทนที่ในตำแหน่งลูกคนเล็กเพิ่ม เนื่องจากพิชญ์อยากได้ลูกสาวแต่ไม่ว่าจะพยายามขอมัดหวายอย่างไรเธอก็ยังคงไม่ยอมใจอ่อนสักที ทำให้เขาต้องทำการล่อลวงคนตัวเล็กให้มาติดกับดักในคืนนี้ให้ได้"ฝากด้วยนะพีช""ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะพีชเลี้ยงเจ้าตัวแสบมาแทบจะมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันอีก พี
"มัดหวายอย่าวิ่ง!" เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เจ้าสาวคนสวยต้องหันหน้ากลับไปมอง เธอสบตากับสามีของตัวเองด้วยรอยยิ้มเจื่อนตอนเห็นพิชญ์มองมาอย่างคาดโทษ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่ถือชายกระโปรงให้กับชุดเจ้าสาวตัวยาวของเธออยู่"พี่พิชญ์จะดุพี่สะใภ้ของพีชทำไมเนี่ย เดี๋ยวหลานก็เครียดหรอก" ลูกพีชเดินเข้ามาดุพี่ชายของตัวเองเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือของมัดหวายทำเอาชายหนุ่มลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ตอนเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปเพื่อหาของกินมาให้ภรรยาสาวซึ่งวันนี้ได้ทำพิธีแต่งงานเกือบทั้งวัน"พีชอยู่เป็นเพื่อนหวายก่อน เดี๋ยวพี่จะไปเอาน้ำกับของกินมาให้" "รับทราบค่ะ""หวายเป็นยังไงบ้างลูก" วิรดาเดินเข้ามาถามลูกสาวของตัวเองพลางลูบที่ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ระหว่างนั้นเธอก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ว่าหญิงสาวจะแพ้ท้องหรือไม่ แต่โชคดีที่พิธีการทุกอย่างได้จบลงแล้วจนตอนนี้เหลือเพียงแค่การไปทักทายแขกบางคนเท่านั้น"วันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ดื้อเลยค่ะ หวายไม่มีอาการอะไรเลย""หึ หลานของแม่เก่งเหมือนลูกแม่อยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวหวายทักทายแขกใน
"กอดแบบนี้ไม่เมื่อยเหรอคะ?" มัดหวายเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังสวมกอดเธอเอาไว้อย่างนึกเอ็นดูเพราะตั้งแต่ที่กลับมาบ้านพิชญ์ก็เอาแต่กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเลย"ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลดีใจมากเกินไปหน่อยเลยลืมกอด""พี่พิชญ์ปล่อยเพื่อนของพีชได้แล้ว พีชเองก็อยากกอดหลานบ้างนะ" ลูกพีชที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มงอแงเมื่อชายหนุ่มเอาเพื่อนรักของเธอไปกอดไว้อยู่คนเดียวโดยไม่ปล่อยให้เธอได้สัมผัสมัดหวายเลยแม้แต่ปลายเล็บ แต่แทนที่พิชญ์จะสนใจเสียงของเธอเขากลับยังคงกอดมัดหวายไว้อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งวิรดาเดินเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ในมือ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยคนรักให้เป็นอิสระ"พอรู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะหวาย ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งช่วงแรกๆ ยิ่งต้องระวังเลย""หมอบอกว่าให้ลดของหวาน...""ใช่ พวกของหวานหรือของที่มีรสจัด มีการปรุงแต่งเยอะหวายควรงด หรือแม้แต่ผลไม้ก็ต้องเลือกดีๆ ให้มีประโยชน์และมีน้ำตาลน้อยที่สุด""แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจ้างเชฟกับนักโภชนาการที่คอยให้คำแนะนำมาแล้ว ส่วนในบ้านก็คิดว่าจะติดลิฟต์เพิ่มและปรับปรุงบางอย่างเพื่อความปลอดภัยด้วย แล้วเรื่องการบำรุงทั่วไปผมค







