Se connecter@ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
-วันเกิดลูกพีช
ดวงตากลมโตจ้องมองภาพของสองเพื่อนสนิทที่กำลังหยอกล้อกันด้วยความรักตรงอย่างไม่ละสายตาก่อนที่ริมฝีปากบางจะบ่นทั้งคู่ด้วยท่าทีหมั่นไส้อย่างไม่จริงจังนักเรียกความสนใจจากลูกพีชให้หันกลับมาหาเธออีกครั้ง
"โอ๊ยย นี่ฉันอิจฉาได้ไหมเนี่ย สรุปจะนัดมาฉลองวันเกิดหรือนัดมาเดตสองคนกันแน่"
"ของเธอก็น่าอิจฉาเหมือนกันนั่นแหละ ฉันเห็นเขาดูแลเธอดีจะตาย"
"คนนั้นฉันเลิกคุยแล้วย่ะ"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"ฉันแค่รู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกันน่ะ พี่เขาดูจะคาดหวังไว้มากเลย ฉันก็เข้าใจนะว่าเขาต้องการอะไร แต่ฉันอยากให้มันค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า พอมากดดันกันแบบนี้ฉันก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน" มัดหวายตัดสินใจเล่าเรื่องของเธอกับมาร์ชออกมาให้เพื่อนทั้งสองคนฟังอย่างไม่ปิดบังพลางลอบถอนหายใจไปด้วย ถึงมาร์ชจะรักเธอมากแต่เธอก็ยังคงรู้สึกอึดอัดอยู่ดีเวลาเขาต้องการอยากจะเป็นมากกว่าสถานะคนคุย สำหรับมัดหวายแล้วเธอยังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจคบหากับใครเพียงเพราะการที่เพิ่งพูดคุยกันได้ไม่กี่เดือน หากมั่นใจว่าจะอยู่ในสถานะคนรักแล้วย่อมต้องมีความคาดหวังว่าจะคบกันยืนยาวและไม่มองหาคนใหม่ที่ดีกว่าอีก ทำให้เธอเลยจริงจังกับการให้สถานะเหล่านั้นมากๆ แต่มาร์ชกลับเร่งรีบที่จะต้องการแสดงความเป็นเจ้าของกับเธอ
"เฮ้อ~ แล้วแบบนี้ฉันจะได้มีแฟนกับเขาไหมเนี่ย" มัดหวายถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วบ่นโอดออกมาอย่างไม่จริงจังนักเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากหญิงสาวอีกคนได้ไม่ยาก ก่อนดวงตาสวยจะเหลือบไปเห็นร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรกับชุดสูทที่เป็นระเบียบเข้ากับบุคลิกของเขากำลังเดินเข้ามาในร้านที่เธอนั่งอยู่
"เดี๋ยวฉันหาให้ก็ได้...อ๊ะ! พี่พิชญ์"
"พีชไม่คิดว่าพี่พิชญ์จะมาด้วยนะเนี่ย" หญิงสาวเอ่ยแซวคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในขณะที่พิชญ์หย่อนตัวนั่งลงทางฝั่งตรงข้ามของเธออย่างถือวิสาสะจนทำให้มัดหวายต้องขยับตัวหลบด้วยอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากเธอและเขาค่อนข้างใกล้ชิดกันพอสมควร เธอนั่งฟังทั้งคู่พูดคุยกันอยู่พักใหญ่โดยไร้ซึ่งการออกความเห็นแบบก่อนหน้าจากการที่มีอีกคนเข้ามาเพิ่ม ถึงแม้ก่อนหน้านี้มัดหวายจะอยากทำความรู้จักกับพิชญ์มากพอสมควรแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้คิดแบบนั้นจากการกระทำที่ผ่านมาจึงทำให้เธอไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าหาเขาแบบที่ต้องการ
ในขณะที่พิชญ์ที่พอจะเดาท่าทีของมัดหวายออกก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเขาไม่มีความจำเป็นที่จะมาสนใจผู้หญิงแบบเธอแม้เธอจะเป็นเพื่อนของลูกพีชก็ตาม ชายหนุ่มเลือกที่จะสั่งเครื่องดื่มมาดื่มฆ่าเวลาแทนการรับประทานอาหารร่วมกันเนื่องจากเขาไม่ค่อยชอบการที่ต้องมากินปิ้งย่างแบบนี้เท่าไรจากช่วงวัยของตัวเองและกลิ่นควันอาหารที่ติดตามตัว ซึ่งลูกพีชที่พอจะรู้จักนิสัยของพี่ชายก็ได้เสนอที่จะเปลี่ยนเป็นร้านอาหารธรรมดาแล้วแต่พิชญ์เลือกที่จะปฏิเสธเนื่องจากไม่อยากทำให้ลูกพีชต้องหมดสนุกในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะมานั่งฉลองวันเกิดกับเธอเงียบๆ โดยให้เวลาเธอได้มีความสุขกับเพื่อนและคนรักแทน
ตึก ตึก ตึก
เสียงสองเท้าหนักดังขึ้นยังบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งพร้อมกับดวงตาคมเข้มที่กวาดสายตามองหารถของตัวเองไปด้วย พิชญ์ยกมือขึ้นมานวดคลึงขมับเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาลูกน้องของตัวเองที่พักอยู่ใกล้ๆ ไปด้วย เนื่องจากวันนี้เขาค่อนข้างที่จะเมาและรู้สึกว่าร่างกายตัวเองอ่อนเพลียพอสมควร ดังนั้นหากฝืนไปอาจจะไม่ปลอดภัยต่อคนอื่นที่ใช้ถนนได้ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พิชญ์คำนึงถึงมากที่สุดในเวลาที่ตัวเองขับรถเอง เขาจะไม่มีทางใช้ชีวิตมักง่ายให้คนอื่นต้องเดือนร้อนแบบที่พ่อและแม่เขาต้องเจอ
"พี่พิชญ์!" ทว่าในจังหวะที่กำลังจะกดโทรหาลูกน้องจู่ๆ ร่างสูงก็เซไปเล็กน้อยก่อนเขาจะรู้สึกถึงมือเรียวที่มาประคองเขาเอาไว้พร้อมกับเสียงเล็กที่เรียกชื่อราวกับสนิทสนมซึ่งเธอก็คือ'มัดหวาย'คนที่เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
"เป็นอะไรไหมคะ" มัดหวายถามพี่ชายของเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วงโดยที่ยังคงไม่ปล่อยมือออกไปจากร่างหนาจนเผลอสบตากับอีกคนจึงทำให้เธอได้สติ เท้าเล็กถอยออกมาอัตโนมัติเพื่อเว้นระยะห่างพร้อมกับร่างกายที่แข็งทื่อด้วยความประหม่า เนื่องจากตอนแรกเธอเพียงแค่เป็นห่วงเขาตามประสาเพื่อนมนุษย์เท่านั้นแต่ดูเหมือนสายตาของพิชญ์ที่มองเธอจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
"ฉันไม่เป็นอะไร" พิชญ์ตอบกลับไปอย่างเย็นชาแล้วทำท่าจะเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไร้ซึ่งคำขอบคุณจากริมฝีปากหนาทว่าเสียงของคนด้านหลังกลับเรียกความสนใจจากเขาได้อีกครั้ง
"พี่เกลียดหวายเหรอคะ"
"..."
"หวายไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ ทำไมพี่ถึงทำเหมือนรังเกียจทำเหมือนไม่อยากรู้จักกับหวายแบบนี้" มัดหวายรวบรวมความกล้าแล้วตัดพ้อด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เธอสบตากับชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวในตอนที่พิชญ์หันกลับมา เธอเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าตัวเองทำอะไรผิดทำไมพิชญ์จึงได้ไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจนถึงตอนนี้ที่ความเกลียดชังของเขาก็ดูไม่ลดน้อยลงไปเลย
"หึ ทำไมงั้นเหรอ?" แต่แล้วคำถามนั้นกลับไร้ซึ่งความเห็นใจจากอีกคน เขาไม่ได้รู้สึกสงสารเธอเลยแม้ตอนนี้ขอบตาของหญิงสาวจะเริ่มแดงก่ำอย่างชัดเจนซึ่งบ่งบอกถึงความรู้สึกของมัดหวายในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี พิชญ์ก้าวเข้าไปใกล้ร่างบางมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจ้องมองใบหน้าเรียวใสอย่างยากจะคาดเดาและไร้ซึ่งความดุดันแบบที่ผ่านมาแต่นั่นกลับยิ่งทำให้มัดหวายรู้สึกกลัวได้อย่างน่าประหลาด
ภายใต้ท่าทีที่สุขุมเหล่านั้นเธอไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ว่าชายหนุ่มจะทำอะไรต่อไป หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความกลัวแล้วทำท่าจะถอยออกมาแต่แขนเรียวกลับถูกฝ่ามือใหญ่กระชากเข้าหาตัวอย่างแรงจนร่างเล็กเซไปแนบชิดแผงอกแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว
"ปะ..ปล่อยหวายนะคะ"
"ตอนแรกเธออยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทำไมฉันถึงเกลียดเธอ งั้นตอนนี้ก็ไม่ควรจะหนีนะ"
"ไม่ค่ะ หวายไม่อยากรู้แล้ว โอ๊ย!" มัดหวายหลุดเสียงร้องออกมาเมื่ออีกคนเพิ่มแรงบีบมากขึ้นจนคนตัวเล็กเบ้หน้า เธอออกแรงจิกที่ข้อมือหนาอย่างแรงเพื่อให้อีกคนยอมปล่อยมือออกแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอไม่สามารถที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับอีกฝ่ายได้ พิชญ์โน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆ กับอีกคนจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจของชายหนุ่มก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะเอ่ยความรู้สึกตัวเองออกมา
"ถ้าอยากรู้ก็ควรจะรอฟังคำตอบก่อนนะ"
"ปะ..ปล่อย"
"เพราะเธอเป็นตัวซวยของน้องสาวฉันไง"
"สวยจัง..." ร่างบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหลุดปากออกมาตอนได้เห็นวิวของเมืองหลวงและบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมกับโต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เด่นอยู่ตรงกลาง ทำให้เธอนึกถึงตอนได้มาเดตกับพิชญ์ครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนที่บรรยากาศทุกอย่างก็ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักแบบนี้ราวกับทุกอย่างไม่ได้หายไปตามกาลเวลาที่ยาวนานของทั้งคู่"เชิญครับ" พิชญ์ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วพาคนตัวเล็กให้เดินไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ด้วยกันก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้แล้วรวบผมยาวสลวยให้เธออย่างอ่อนโยน"ขอบคุณนะคะ""หวายนึกถึงวันแรกที่เรามาเดตกันเลย แต่ไม่คิดว่าแด๊ดดี๊จะจำได้""พี่จำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา" ไม่ว่าจะวันที่เจอกันวันแรก วันครบรอบที่เขาขอเธอเป็นแฟน หรือวันที่แต่งงานกันพิชญ์ล้วนจดจำมันได้ทั้งหมดถึงแม้ตลอดระเวลาที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาแต่เขากลับไม่ลืมความทรงจำที่ได้ใช้ร่วมกับหญิงสาวเลยแม้แต่วินาทีเดียว"ตอนแรกหวายเห็นแด๊ดดี๊เฉยๆ ก็คิดว่าจะลืมแล้ว...""แล้วทำไมไม่เตือนพี่ล่ะ""ก็เพราะหวายไม่อยากเป็นคนงี่เง่าไงคะ แด๊ดดี๊ทำงานเหนื่อยแล้วต้องเลี้ยงลูกอีก ถ้าจะลืมเร
"เอาลูกของเธอมาให้ฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมกลับ""พอเลยพอกันทั้งคู่เลยแกกับพีชเนี่ย ฉันไม่ใช่แม่แมวที่จะคลอดลูกออกมาให้พวกแกเลี้ยงเล่นนะ""อ้าว ทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ฉันแค่เลี้ยงหลานของฉันเองนะ""อีกหน่อยฉันจะติดป้ายไม่ให้พวกเธอสองคนเข้าบ้าน"เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นบริเวณห้องโถงของบ้านทำให้ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากการทำงานต้องชะงักฝีเท้าก่อนจะเห็นว่าภรรยาของตัวเองกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนสนิททั้งสองของเธออยู่พร้อมกับลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ภายในเปล มุมปากหนาเผลอยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพความอบอุ่นตรงหน้าก่อนเขาจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว"เหนื่อยไหมคะ?" และแน่นอนว่ามัดหวายเองหันมาถามเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างเช่นทุกครั้ง มือเรียวลูบตามกรอบใบหน้าหล่อแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆ แบบที่ชอบทำโดยมีเสียงลอบถอนหายใจของสองหนุ่มสาวที่ดังออกมาอย่างเอือมระอา"นี่! ทีพวกเธอหวานกันต่อหน้าฉันยังไม่ทำขนาดนี้เลยนะ" มัดหวายหันไปแหวใส่เพื่อนรักทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในขณะที่พิชญ์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นบ่อยจนเคยชิน"ทะเลาะกันเหมือนเด็ก""ก็พวกนั้นแกล้งหวายก่อน""แ
"มะ..." เสียงของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่เอ่ยเรียกคนเป็นแม่ราวกับต้องการอะไรบางอย่างก่อนมัดหวายจะหันมาพูดกับลูกชายคนเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรู้ว่าเวสตินต้องการอะไร"หนูอยากกินนมเหรอคะ เดี๋ยวรอให้พี่วินกินอิ่มก่อนได้ไหมแล้วตินค่อยกินนะ""ยม..." แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยเข้าใจที่คนเป็นแม่บอกเท่าไรนัก เขาจัดการคลานเข้ามาหาแม่และพี่ชายของตัวเองที่นั่งอยู่ไม่ไกล"ติน! ดะ..แด๊ดดี๊ ลูก..." ทว่าการกระทำต่อมาก็ทำให้คนเป็นแม่ต้องเอ่ยเรียกสามีเสียงสั่นเมื่อลูกน้อยพยายามที่จะดันร่างเล็กของตัวเองขึ้นก่อนเท้าเล็กจะทำการก้าวไปข้างหน้า แม้จะเป็นเพียงก้าวสั้นๆ ก่อนเวสตินจะล้มลงไปแต่กลับสร้างความตื้นตันให้กับคนเป็นแม่ไม่น้อยกับก้าวแรกของลูก"แด๊ดดี๊ ลูกเดินได้แล้วค่ะ เมื่อกี้แด๊ดดี๊เห็นไหม" มัดหวายหันไปถามสามีที่กำลังยืนอยู่นิ่งซึ่งพิชญ์เองพยักหน้ารับแล้วคลี่ยิ้มออกมาไม่ต่างกัน"เก่งมากเลยลูก หนูเก่งมากๆ เลยนะ" พิชญ์ที่เพิ่งได้สติก็วางจานขนมในมือลงแล้วเดินไปอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบกับแผงอกแกร่งแล้วพาเข้าไปหามัดหวายเนื่องจากในตอนนี้เธอกำลังให้นมกับมาร์วินอยู่เลยทำให้ไม่สามาร
@สามปีต่อมา"นอนนะครับ คืนนี้อยู่กับอาพีชก่อนนะ" พิชญ์เอ่ยกับลูกน้อยที่กำลังนอนอยู่ในเปลภายในห้องนอนลูกพีชเสียงอ่อนโยน พวงแก้มป่องสีแดงระเรื่อที่คล้ายกับมัดหวายเวลาร้องไห้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปลูบเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวแทนการอุ้มลูกชายมาหอมโดยตรงเนื่องจากตอนนี้ทั้งคู่ได้กินนมอิ่มหลับไปแล้ว"พี่พิชญ์ไม่ต้องห่วงนะ คืนนี้พีชจะดูแลเจ้าตัวแสบเอง รับรองว่าจะไม่เข้าไปขัดแผนการของพวกเราอย่างแน่นอน" ลูกพีชเอ่ยบอกกับพี่ชายของตัวเองอย่างมั่นใจในขณะที่กำลังถือขวดนมและของเล่นไปด้วย ซึ่งในตอนนี้บ้านของเธอก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาสองคนภายในระยะเวลาสองปีกว่า ซึ่งก็คือ'มาร์วิน'ที่เป็นพี่ชายคนโต และ'เวสติน'ที่ในตอนนี้ยังคงเป็นน้องคนเล็กอยู่ แต่สถานะนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอกับพิชญ์ได้วางแผนการที่จะหาน้องคนเล็กอีกคนมาแทนที่ในตำแหน่งลูกคนเล็กเพิ่ม เนื่องจากพิชญ์อยากได้ลูกสาวแต่ไม่ว่าจะพยายามขอมัดหวายอย่างไรเธอก็ยังคงไม่ยอมใจอ่อนสักที ทำให้เขาต้องทำการล่อลวงคนตัวเล็กให้มาติดกับดักในคืนนี้ให้ได้"ฝากด้วยนะพีช""ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะพีชเลี้ยงเจ้าตัวแสบมาแทบจะมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันอีก พี
"มัดหวายอย่าวิ่ง!" เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เจ้าสาวคนสวยต้องหันหน้ากลับไปมอง เธอสบตากับสามีของตัวเองด้วยรอยยิ้มเจื่อนตอนเห็นพิชญ์มองมาอย่างคาดโทษ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่ถือชายกระโปรงให้กับชุดเจ้าสาวตัวยาวของเธออยู่"พี่พิชญ์จะดุพี่สะใภ้ของพีชทำไมเนี่ย เดี๋ยวหลานก็เครียดหรอก" ลูกพีชเดินเข้ามาดุพี่ชายของตัวเองเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือของมัดหวายทำเอาชายหนุ่มลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ตอนเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปเพื่อหาของกินมาให้ภรรยาสาวซึ่งวันนี้ได้ทำพิธีแต่งงานเกือบทั้งวัน"พีชอยู่เป็นเพื่อนหวายก่อน เดี๋ยวพี่จะไปเอาน้ำกับของกินมาให้" "รับทราบค่ะ""หวายเป็นยังไงบ้างลูก" วิรดาเดินเข้ามาถามลูกสาวของตัวเองพลางลูบที่ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ระหว่างนั้นเธอก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ว่าหญิงสาวจะแพ้ท้องหรือไม่ แต่โชคดีที่พิธีการทุกอย่างได้จบลงแล้วจนตอนนี้เหลือเพียงแค่การไปทักทายแขกบางคนเท่านั้น"วันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ดื้อเลยค่ะ หวายไม่มีอาการอะไรเลย""หึ หลานของแม่เก่งเหมือนลูกแม่อยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวหวายทักทายแขกใน
"กอดแบบนี้ไม่เมื่อยเหรอคะ?" มัดหวายเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังสวมกอดเธอเอาไว้อย่างนึกเอ็นดูเพราะตั้งแต่ที่กลับมาบ้านพิชญ์ก็เอาแต่กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเลย"ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลดีใจมากเกินไปหน่อยเลยลืมกอด""พี่พิชญ์ปล่อยเพื่อนของพีชได้แล้ว พีชเองก็อยากกอดหลานบ้างนะ" ลูกพีชที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มงอแงเมื่อชายหนุ่มเอาเพื่อนรักของเธอไปกอดไว้อยู่คนเดียวโดยไม่ปล่อยให้เธอได้สัมผัสมัดหวายเลยแม้แต่ปลายเล็บ แต่แทนที่พิชญ์จะสนใจเสียงของเธอเขากลับยังคงกอดมัดหวายไว้อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งวิรดาเดินเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ในมือ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยคนรักให้เป็นอิสระ"พอรู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะหวาย ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งช่วงแรกๆ ยิ่งต้องระวังเลย""หมอบอกว่าให้ลดของหวาน...""ใช่ พวกของหวานหรือของที่มีรสจัด มีการปรุงแต่งเยอะหวายควรงด หรือแม้แต่ผลไม้ก็ต้องเลือกดีๆ ให้มีประโยชน์และมีน้ำตาลน้อยที่สุด""แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจ้างเชฟกับนักโภชนาการที่คอยให้คำแนะนำมาแล้ว ส่วนในบ้านก็คิดว่าจะติดลิฟต์เพิ่มและปรับปรุงบางอย่างเพื่อความปลอดภัยด้วย แล้วเรื่องการบำรุงทั่วไปผมค







