ในทะเลสาบที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา มีร่างบอบบางของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังดีดตัวผลุบขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ แขนตะเกียกตะกายตีน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนเรี่ยวแรงที่มีจะค่อยๆ หมดลงไปในขณะที่ร่างบอบบางนั้นจะจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาปในเวลาต่อมาร่างใหญ่กำยำที่ไม่รู้มาจากไหนพุ่งตัวลงไปในน้ำ แหวกว่ายดำลึกลงไปควานหาผู้หญิงคนนั้น ก่อนคว้าเอวคนที่กำลังหมดลมหายใจทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือน้ำได้ทันเวลาพอดิบพอดี“พิมาลา ฟื้นสิ พิมพ์ อย่าตายนะ อยู่กับฉันก่อน”ชายหนุ่มบีบจมูกของเธอแล้วผายปอด สลับกับปั๊มหัวใจอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องเรียกชื่อของสาวโชคร้ายผู้นั้นราวกับคนเสียสติสุดท้ายสวรรค์ก็เข้าข้างเมื่อคนตัวบางที่ใบหน้าซีดเซียวราวกับไร้ชีวิตสำลักน้ำแล้วค่อยๆ ลืมตาฟื้นคืนสติ“คุณเพลิง..”เขาผวาคว้าคนตัวบางขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวจะขาดใจ ดวงตาคมกริบแสนเศร้าจนผู้คนที่ยืนมุงดูอยู่ไกลๆ โดยรอบต้องลอบปาดน้ำตาด้วยความสะเทือนใจ“คัท...ดีมาก พัชร์ พี่โอเคเลย”สิ้นเสียงสั่งหยุดการแสดงของผู้กำกับมือดี ทีมงานก็รีบวิ่งเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไปคลุมให้ความอบอุ่นกับพระเอกนางเอกของเรื่องที่ตัวเปียกโชก ริมฝีปากขาวซีดเพร
ธพัชร์ขับรถวนไปวนมาอย่างไร้จุดหมาย หลังจากที่ได้รับรู้ว่าเธอตั้งใจจะหนีเขาจึงขอไปนอนกับผู้จัดการส่วนตัว เขาจึงออกมานั่งดื่มเหล้าคนเดียวจนดึก แม้จะเมาไม่น้อยแต่ก็ไม่ยอมกลับห้องเสียทีในตอนที่เขากำลังจะถอดใจขับรถกลับห้องเพื่อไปพักผ่อนเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว มยุรี ผู้หญิงที่เขาเพิ่งเขี่ยทิ้งก็โทรเข้ามาหา แม้จะไม่อยากรับสายเธออีกแล้ว แต่ก็อดรำคาญเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ไม่ได้ จึงตัดใจรับไปให้มันจบๆ“มีอะไรอีกยุรี”“พี่พัชร์ พี่อยู่ไหนคะ ยุรีไปหาที่ห้องเรียกพี่แทบตายพี่ก็ไม่ยอมมาเปิดประตู”“เธอไปที่ห้องพี่ทำไม บอกแล้วไงว่าถ้าไม่เรียกไม่ต้องเสนอหน้ามา”“ยุรีก็มาหาพี่ไง ทำไมพูดแบบนี้ เราเป็นผัวเมียกันนะ”“เธอเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องไปทุกทีแล้วนะ อย่าทำตัวน่ารำคาญ บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ชอบ อย่ามาอินได้ไหม ท่องจำให้ขึ้นใจว่าเราแค่เอากัน ไม่ได้คบกัน แล้วตอนนี้พี่ก็ไม่อยากเอาเธออีกแล้ว เรื่องของเราจบแค่นี้เถอะ เบื่อว่ะ รีบกลับห้องเธอไปซะ”“พี่พัชร์..”“แค่นี้นะ สายไหมโทรมา”“พี่พัชร์ ยุรีจะรอพี่อยู่ที่นี่ จนกว่าพี่จะมาคุยกับยุรีให้รู้เรื่อง”“ถ้าอยากเป็นข่าวว่านั่งเฝ้าหน้าห้องผู้ชายจนเช้าก็เอาเลย คืน
“พี่ปิ่น คืนนี้มิตาไปนอนด้วยนะ”หลังจากเลิกกองและเตรียมที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน มิตาก็พูดกับผู้จัดการส่วนตัวด้วยเสียงที่ไม่เบานัก หวังให้อดีตเพื่อนรักได้ยิน เพราะไม่แน่ใจว่าคืนนี้เขาจะแอบย่องมาหาเธอที่คอนโดเหมือนอย่างเมื่อคืนอีกหรือเปล่าเธอไม่ควรใจอ่อน ไม่ควรใกล้ชิด ไม่ควรอยู่ตามลำพังกับเขาสองต่อสองอีกแล้ว แม้เมื่อคืนไม่ได้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แต่ผู้หญิงกับผู้ชายที่เคยมีค่ำคืนร้อนแรงกันมาก่อน ควรอยู่ให้ห่างกันเอาไว้ดีที่สุดยิ่งเกิดเหตุการณ์ที่เขาปล้ำจูบเธอไปเมื่อตอนบ่าย ทำให้เธอต้องคิดหาทางหนีทีไล่เพราะไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว ซึ่งทางเดียวที่เธอจะรอดจากเขาไปได้คือในช่วงนี้เธอต้องหอบเสื้อผ้าไปนอนกับผู้จัดการส่วนตัวผู้เป็นที่พึ่งที่สุดท้าย“เอาสิ เดี๋ยวพี่พาไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้อง”มิตามั่นใจเลยว่าผู้จัดการส่วนตัวต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อบ่ายอย่างแน่นอน เพราะไม่มีคำถามใดหลุดออกมาจากปากสักคำ ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลที่เธอต้องย้ายเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยมันคืออะไรกันแน่“ไม่ต้องหรอกค่ะ มิตามีกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ในรถอยู่แล้ว เดี๋ยวขับตามพี่ไปที่บ้านเลยนะ”“อืม ตามนั้น”“เรื่องมันเป็นยังไง มิต
เพียะ!! ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงตบ สองร่างหอบหายใจสะท้าน รสจูบหยาบโลนรุนแรงทำเอาหัวใจสองดวงเต้นผิดปกติ และเธอจำต้องเรียกสติตัวเองด้วยการหยุดเขาให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป“ถ้าแกยังกล้าแตะต้องฉันอีก ฉันจะถอนตัวจากละครเรื่องนี้”ดวงตาคมดุวาบขึ้น มองใบหน้าสวยงามของผู้หญิงที่เขากลับไปรู้สึกแค่เพื่อนไม่ได้อีก แล้วแค่นยิ้มหยัน เขารู้ว่าคนอย่างเธอไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ๆ แต่ก็กล้าเอามาขู่ ทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยของคนอย่างเขา“เธอไม่ทำแบบนั้นแน่ มิตา”“อย่ามาดูถูกฉัน ตอนนี้ฉันไม่ใช่มิตาคนเดิมแล้ว แกไม่รู้หรือไงว่าผัวฉันเป็นใคร แค่ถอนตัวจากละครเรื่องนี้มันง่ายมาก”“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าถ้าเธอจะถอนตัว แป้งจะรู้สึกยังไง”“อย่าเอายัยแป้งมาขู่ฉัน”เพราะละครเรื่องนี้เป็นโปรเจคของเพื่อนรักที่ส่งน้องชายมาดูแลแทน หากเขาหรือเธอถอนตัวไปกลางคัน ทั้งปุณณดาและปิ่นต้องรู้ถึงความผิดปกตินี้ และแน่นอนว่าเธอกับเขาอาจโดนซักฟอกชุดใหญ่ เธอไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องผิดพลาดเหล่านั้นอีกแล้ว และไม่ต้องการให้เรื่องราวเหล่านั้นส่งผลให้เธอทำงานเสียหาย ทำคนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว มันแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งมันไม่ใช่เ
“มิตา รับโทรศัพท์หน่อย คุณเอกโทรมา”ปิ่นตัดสินใจเดินถือโทรศัพท์เข้าไปยื่นให้ดาราสาวที่หน้าเซตในขณะที่พระนางกำลังต่อบทกันด้วยความเคร่งเครียดเพราะซีนนี้คือซีนอารมณ์ที่เธอต้องทำอย่างนั้นเพราะเอกอนันต์กระหน่ำโทรเข้ามาเป็นสิบสาย แถมยังส่งไลน์มารัวๆ อีกต่างหาก ไม่รู้ว่าหนุ่มสาวคู่นี้มีเรื่องทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า“พี่ปิ่นรับสายเลยค่ะ บอกเขาว่ามิตาเข้าฉากอยู่ เมื่อคืนที่โทรหาเขา มิตาสะดุ้งตื่นมากลางดึกเพราะฝันร้ายค่ะ ไม่มีอะไรหรอก”“จ้ะ”นั่นไง ท่าทางจะมีเรื่องราวระหองระแหงกันจริงๆ สินะ อย่างน้อยๆ น้องสาวของเธอก็คงจะงอนที่เขาไม่รับสาย“หึ คงจะโทรมาง้อ ก็เล่นตัวหน่อยแล้วกัน เผื่อได้แหวนเพชรสักสองสามกะรัตปลอบใจที่มัวแต่เอาคนอื่นจนไม่ยอมรับสายเธอ”“ขอบใจที่บอกนะ แต่ฉันว่าฉันอาจเรียกค่าปลอบใจของฉันได้มากกว่านั้น อยากเห็นไหมล่ะ”คนสวยลอยหน้าลอยตาตอกกลับด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะยกบทขึ้นมาอ่าน ปิดจบบทสนทนาไร้สาระไว้แต่เพียงเท่านี้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี ดอกกุหลาบสีขาวนำเข้าช่อโตจำนวน 88 ดอก จากนักธุรกิจสุดฮ็อตที่สาวๆ หลายคนอยากครอบครองก็ส่งมาถึงมือนางเอกสาว ท่ามกลางสายตาดุดันที่ลอบมองเธอจากระยะไกลเธอ
มิตาตามไปทุบประตูเรียกคนหน้ามึน ตั้งใจจะไล่เขาออกจากห้องให้ได้ก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้ แล้วประตูที่ปิดล็อกแน่นก็เปิดออกกว้าง โดยมีคนรูปหล่อหน้ามึนยืนแก้ผ้าโชว์เรือนร่างเพอร์เฟคสุดเซ็กซี่และอาวุธประจำกายที่ขยายใหญ่โดตั้งโด่ชี้หน้าเธออย่างหน้าไม่อายที่สุดดาราสาวยกมือทั้งสองข้างมาปิดตาแล้วหันหลังกลับทันที แต่ก็ไม่วายก่นด่าคนหน้าไม่อายให้หนำใจ“ไอ้พัชร์ ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิต แกจะมาแก้ผ้าโชว์ฉันทำไม จะอ้วก”ดาราเจ้าสาวทำทีพะอืดพะอมกับ Acting การอาเจียนเสียสมบทบาท ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อมีลมร้อนๆ มาเป่ารดหลังใบหูพร้อมเสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นแผ่วเบา“ยังไม่ทันโดนกระแทกเลย แพ้ท้องแล้วเหรอ”“ไอ้บ้า”พูดจบก็เดินหัวเราะร่วนไปเปิดกระเป๋าของตัวเองแล้วหยิบของใช้ส่วนตัวเดินโทงเทงโชว์ปืนใหญ่สีชมพูเข้าห้องน้ำไป โดยที่คราวนี้เขาทำธุระส่วนตัวทุกอย่างโดยไม่ปิดประตูอีก ถ้าอยากไล่เขาออกจากห้องนัก ก็เข้ามาไล่ให้ถึงที่แล้วกัน จะจับปล้ำในห้องน้ำให้ดูร่างใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวมัดปมต่ำแสนต่ำจนแทบจะเห็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา บนผิวขาวเนียนละเอียดราวผิวผู้หญิงมีหยดน้ำเกราะพราวมุมปากสีแดงสดย