"เหวอ! " ร่างสูงโปร่งสะดุดล้มลงทันทีเพราะมีมือหนามาจับเอาไว้ที่ข้อเท้า
"คุณลูกค้าจะทำอะไรครับเนี่ย! ผมเจ็บนะ" ถึงจะโกรธแต่ก็ต่อว่าไม่ได้ ยังไงเขาก็เป็นหนึ่งในแขกที่มาพักที่รีสอร์ทของครอบครัว
"ผมไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว"
ร่างสูงเริ่มปล่อยโฮออกมาแล้วพูดหลายอย่างแต่เพราะร้องไห้ไปพูดไปด้วยเลยไม่รู้ว่าพูดอะไรไปบ้าง มาแนวนี้แปลว่าอกหักมาแหงๆ แต่จินฮวนมาเป็นผู้ดูแลที่นี่ชั่วคราวเท่านั้น หากเปิดเทอมก็ต้องกลับไปเรียนหนังสือเหมือนเดิม หวังว่าพวกเราจะไม่เจอกันอีกนะ! หน้าตายังไม่ได้โตมากมาย กลัวว่าจะมาเจอกันในชั้นเรียนเสียนี้
"ไม่ร้องนะครับ ยังไงเดี๋ยวคุณก็หาผู้หญิงดีๆ ได้สักคนเองนะ"
"ก่อนอื่นช่วยปล่อยขาของผมก่อน ผมจะกลับไปนอนที่ห้อง" มือขาวพยายามดึงมือของอีกฝ่ายออกแต่มันไม่ได้ผล ทำยังกับเอากาวมาติดไว้ชนิดที่ว่าทำยังไงก็ไม่ออกซะอย่างงั้น
ดวงตาคมที่เยิ้มจากการดื่มอย่างหนักมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย ตกลงแล้วคนตรงหน้าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ รูปร่างสูงโปร่งแต่กำยำ เสียงพูดจาน่ารักแต่ไม่ได้ถึงกลับน่าเกลียด ถึงจะมองเห็นไม่ชัดแต่สัมผัสได้ว่าไม่ใช่คนน่ากลัวและไว้ใจได้
"ผมจะไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะยอมจดทะเบียนสมรสกับผมก่อน" ไคชาร์ส่งใบทะเบียนจดสมรสมาให้โดยที่เจ้าตัวลงมือเซ็นก่อนที่จะส่งให้กับอีกฝ่ายที่เป็นใครไม่รู้แต่อยากให้อีกคนจดด้วย
สีหน้าลำบากใจของใบหน้าหล่อเหลานั้นปิดไม่มิด มีอย่างที่ไหนกัน ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่มาขอให้จดทะเบียนสมรสด้วย ถึงจะจดที่นี่ไปก็ไร้ความหมายเพราะว่าจะต้องไปขึ้นทะเบียนหรือไปจดใหม่กับประเทศหรือรัฐที่กฎหมายรองรับแล้วเท่านั้น หากไม่ใช่สถานที่ดังกล่าวแล้ว....จดไปก็ไร้ความหมาย เป็นลูกค้าที่เอาใจยากเสียจริง
"ผมเป็นพนักงานของโรงแรมและเป็นผู้ชาย คงจะช่วยเหลืออะไรคุณไม่ได้หรอกครับ"
"ไม่ ฮึก! คุณต้องจดทะเบียนกับผมก่อน" น้ำตาของไคชาร์เริ่มไหลพรากขึ้นมาอีกครั้งเพราะไม่ได้ดั่งใจ มีคนกล่าวไว้ว่าคนเมารับมือยากเห็นทีจะจริง และยังไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายอายุเท่าไหร่ น่าจะหักเงินเดือนพนักงานคนนั้นมากกว่านี้อีก จะได้เข็ดเรื่องการเช็คอายุเสียที
"แต่ว่า..." ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากอะไรออกไป ใบหน้าหล่อเหลาที่แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้ามาใกล้จนแทบจะโดนริมฝีปากแต่หยุดไว้เพียงเท่านั้น ดวงตาคมมองเข้ามาเพื่อกดดันอีกฝ่ายให้ตอบรับมากกว่าปฏิเสธ ช่างเป็นปฏิกิริยาลูกหมาน้อยที่เหมือนโดนเจ้านายทิ้งแล้วถ้าเกิดไม่มีเจ้านายคนใหม่มารับเลี้ยงจะเสียใจจนขาดใจตาย
ร่างสูงโปร่งถอยกลับมาด้วยความหนักใจอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นแววตาลูกหมาก็ทนไม่ได้จึงจำใจเซ็นเอกสารดังกล่าวไป มือทั้งสองข้างจิกทึ้งหัวตัวเองจนอยากจะให้มันหลุดออกจากบ่าตอนนี้เลย ทำไมถึงตอนมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย อยากจะบ้า อยากตายเหลือเกิน มือหนาลากเข้าหาตัวเองแล้วอุ้มไปยังห้องนอนแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด
"อะไรกันเนี่ย มันยิ่งกว่าผีอำอีกนะ"
จินฮวนขยับตัวไม่ได้เลยสักนิดเพราะถูกสวมกอดเอาไว้แถมยังกอดแน่นอีกต่างหาก นี่มันมือคนหรือเชือกกันแน่! แน่นขนาดนี้เนี่ย หลังจากพยายามแกะแล้วแกะอีกมาตลอดสามชั่วโมง จนในที่สุดเขาก็ยอมแพ้และจำใจนอนหลับไปทั้งแบบนั้น อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าโดนทำอะไรที่มันมากกว่านั้นก็แล้วกัน
วันรุ่งขึ้น
แสงแดดที่เล็ดลอดออกมาจากผ้าม่านยามเช้านั้นเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ที่สดใส อาการเมาค้างยังคงเหลืออยู่ทั้งหมดแต่ว่าทำไมเหมือนมีอะไรนุ่มนิ่มมาอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ กะพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตาให้มองเห็นชัดมากขึ้น ทำไมถึงมีหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้ล่ะ มันหมายความว่ายังไงกัน แล้วไหนจะหลับทั้งชุดสูท หมายความต้องถูกเขารั้งตัวเอาไว้ถึงได้มีสภาพแบบนี้ ขนาดตอนหลับยังน่ารักขนาดนี้ แล้วตอนตื่นล่ะจะน่ารักขนาดไหน
ความทรงจำเริ่มย้อนเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ ว่าไคชาร์ได้ทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืน อายจนไม่รู้จะทำยังไงดี ทำไมถึงกล้าเอาทะเบียนสมรสที่กะจะจดในวันแต่งงานไปให้ใครที่ไหนเซ็นก็ไม่รู้ จะขยับตัวก็ไม่กล้ากลัวอีกฝ่ายจะตื่น ทำได้เพียงรอจนกว่าจะตื่นเท่านั้นสินะ เสียงโทรศัพท์ดังมาไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวมากนัก อาจจะอยู่ในกระเป๋ากางเกงหรือเปล่า
ตรู๊ด... ตรู๊ด...
(ไคชัวร์)
"ฮัลโหล แกอยู่ไหนกันแน่เนี่ย! ตอนนี้เขาออกตามหากันให้วุ่นไปทั้งบ้านแล้ว ลืมไปแล้ว เหรอว่าตัวเองเป็นใคร หา! ลูกชายคนรองของตระกูลหายตัวไปแบบนี้มันมีผลกระทบกับคนในครอบครัวนะเว้ย! กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้! ไอ้เวร"
ไคชัวร์ด่าเป็นชุดโดยไม่ได้ฟังคำพูดจากแฝดน้องเลยแม้แต่น้อย ใครมันจะไปยอมไหวกัน จู่ๆ หายตัวไปแบบนั้น ตามจากจีพีเอสก็ไม่ได้ วุ่นวายกันมาทั้งคืนแล้ว หากภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงยังตามตัวไม่ได้เรื่องจะต้องรู้ถึงพ่อแม่อย่างแน่นอน
"ใจเย็นๆ ก่อนนะ ตอนนี้ฉันสบายดีเดี๋ยวส่งโลเคชั่นไปให้ โอเคไหม"
"สบายดีก็ดีแล้ว พวกฉันจะได้หยุดตามหากันสักที เพราะแกคนเดียวทำให้พวกฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันสักคน"
"ขอโทษด้วยแล้วกัน เดี๋ยวกลับไป"
"จะอยู่อีกกี่วัน จะได้บอกพ่อกับแม่"
"ไม่เกินสามวันจะกลับบ้าน โอเคไหม"
"โอเค งั้นพวกฉันไปนอนล่ะ เลิกค้นหาได้! ไอ้ชาร์ติดต่อกลับมาแล้ว"
ไคชัวร์ขานรับพลางตะโกนบอกคนรับใช้ทุกคนให้วางมือแล้วพากันเข้านอน เขาเองก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้ ตอนนี้มารอดูกันว่าคนในอ้อมกอดจะตื่นเมื่อไหร่ เสียงของแฝดพี่ดังขนาดนั้นน่าจะตื่นได้แล้วนะ
"อือ" อีกฝ่ายขยับตัวหนีไปอีกทางเพราะรำคาญเสียงตั้งแต่แรกแล้ว มิน่าล่ะ! ก็ว่าทำไมถึงไม่มีอะไรมาอยู่ใกล้ๆ มือหนาสะกิดคนที่หนีไปทางอื่นหวังให้ตื่นและมือขาวก็มาปัดออกจนเขาทนไม่ไหวกระชากมาทั้งตัวในคราวเดียว ถ้าทำแบบนี้ล่ะก็...ไม่ตื่นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
"จินฮันจะมาทำแบบนี้กับเราไม่ได้นะ เรายังง่วงอยู่" เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา แปลว่าคิดว่าเขาเป็นพี่ของตนเองหรือเปล่านะ
"ผมไม่ใช่คนที่คุณรู้จักนะครับ ที่รัก"
"เอ๊ะ! เอ๋! " จินฮวนตื่นจากภวังค์ทันทีแล้วพยายามขยับหนีไปอีกทางแต่ไม่เป็นผลเลยสักนิดเดียว คนหรืออะไรทำไมแรงเยอะขนาดนี้
"คุณจะมาเรียกผมแบบนี้ไม่ได้ พวกเราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน"
"แต่คุณยอมจดทะเบียนสมรสกับผมแล้ว ก็ถือว่าเป็นที่รักของผมไปแล้ว" หน้าตาหล่อเหลาตอบมาด้วยสีหน้ายียวนกวนประสาทมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถึงจะทำหน้าตาน่าตีขนาดไหนแต่ความหล่อยังไม่ลดลงเลยสักนิด ทำให้จินฮวนแอบหมั่นไส้นิดๆ
"ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ"
"ทำได้ครับ ภรรยาที่รัก"
หลังจากที่เตรียมการมาอย่างดีงานในพิธีก็เริ่มต้นขึ้นเหมือนงานจัดแสดงโชว์ทั่วไป แต่จู่ๆ จินฮานก็มาสะกิดให้เดินตามไป ร่างสูงโปร่งเดินตามออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าธีมงานจัดแสดงเป็นแนวอียิปต์โบราณและชุดเครื่องเพชรที่ใส่แสดงคู่กับนางแบบชุดฟินนาเล่คือตนเอง แล้วจินฮวนก็โดนทีมงานหลายชีวิตรุมจับแต่งตัวด้วยความเร็วแสงโดยที่ไม่ได้ฟังคำพูดใดๆ ของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย"เสร็จแล้วครับคุณชายใหญ่ เป็นยังไงบ้างครับ" ภาพที่ปรากฎแก่สายตาของจินฮวนคือผู้ชายที่สวมชุดสีขาวสะอาดตาแนวโบราณ เสื้อแหวกลงไปถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องเล็กน้อยแต่ด้วยรูปร่างที่ดีอยู่แล้วทำให้ทีมงานพากันมองตาเป็นมันส์เลยทีเดียว"น้องผมหล่อมาก ขอบคุณที่ช่วยแต่งตัวให้ดีขนาดนี้" สายตาอาฆาตถูกส่งมาอย่างชัดเจนว่ากำลังด่าทอในใจมากมายจนรู้สึกได้"ทำไมพี่ฮานทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ จู่ๆ ให้คนมาจับผมแต่งตัวได้ยังไง ถึงผมจะมีกล้ามท้องบ้างนิดหน่อยแต่ไม่ได้เอามาโชว์ให้ใครดูนะ" สีหน้าโกรธนั้นออกมาทั้งแววตา ท่าทางทั้งหมดแต่ในสายตาของจินฮานมันเหมือนแมวกำลังขู่เสียมากกว่าเพราะความน่ากลัวของจินฮวนไม่ได
"ไม่คิดว่าอาหารของร้านนี้จะหวานขนาดนี้นะ คิดแบบนั้นไหม ไคชัวร์" ไคซีถามน้องชายฝาแฝดคนโตพลางมองไปยังน้องชายฝาแฝดคนเล็ก"ผมเองก็คิดแบบนั้นครับ เหมือนว่าพ่อครัวของที่นี่จะใส่น้ำตาลมากเกินไป""พ่อเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน""แม่เองก็คิดว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยกับทุกคน""ทำไมทุกคนต้องพากันมองมาที่ผมครับ ไม่มีอะไรสักหน่อย" ไคชาร์พูดพลางกินอาหารต่อไป"แกกล้าพูดเหลือเกินนะ ชมเขาซะขนาดนั้น มองดูก็รู้ว่าหลงขนาดไหน""แกก็พูดเกินเหตุไคชัวร์ ฉันไม่ได้ขนาดนั้นไหม""เลิกเถียงกัน ว่าแต่พวกลูกๆ จะกลับกันเมื่อไหร่""ผมว่าจะกลับพรุ่งนี้เลยครับแม่ อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว" ไคชาร์ตอบโดยไม่ได้มองสายตาอาฆาตแค้นมาจากทางด้านหลังเลยแม้แต่น้อย คือมันไม่จำเป็นต้องกลับพร้อมกันก็ได้ไง ถ้าอยากจะนอนตายอยู่ที่นี่ใครจะไปว่าอะไรล่ะ! แต่เขาอยากกลับเกาหลีเพราะมันมีอะไรที่น่าสนุกกว่าการอยู่ที่นี่เยอะเลย แถมตอนกลับมาก็เพื่อมาจัดการธุระทางนี้ให้เรียบร้อ
ตั้งแต่เถียงกันที่ร้านอาหารน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนเลย ทั้งที่พยายามขับรถตามก็แล้ว วิ่งตามเข้าบ้านก็แล้ว ทำทุกอย่างแล้วจนหมดหนทางถึงได้ยืนมองประตูห้องนอนอยู่แบบนี้ เหล่าคนรับใช้หลายคนอยากจะช่วยแต่ดูท่าจะเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เนื่องจากจินฮวนเป็นคนที่โกรธยากและหายยากด้วยเช่นกัน การจะตามง้อได้นั้นต้องมีความอดทนสูงมากทีเดียว คงได้แต่ภาวนาขอให้คุณชายเล็กให้อภัยคุณชายใหญ่โดยเร็วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม จินฮวน"ยังคงไร้เสียงตอบกลับมาเช่นเคย ไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกจากห้องแม้แต่น้อย ยิ่งเงียบยิ่งเดาทางได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนั้น ดวงตากลมโตมองผ่านตาแมวแล้วเห็นว่าพี่ฝาแฝดตนเองทำแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ถึงจะทำแบบนั้นก็ไม่มีทางหายเด็ดขาด คนเราควรรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากยังสำนึกผิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกไม่รู้ว่าคนภายนอกจะมองเขายังไง แต่ตอนนี้เขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือล่วงหน้าเตรียมรับมือกับการเรียนการสอนที่จะมีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ไหนจะงานรับน้องที่
แอ๊ด!"พี่ยังไม่ทันได้ฟังเลย ไหนลองเล่าใหม่ได้ไหม" ไคซี พี่สาวคนโตของตระกูลเพิ่งได้ทางมาจากฝั่งอเมริกาเหนือ ซึ่งต่อให้ใช้เครื่องบินเจ็ท อย่างน้อยก็ใช้เวลานานกว่าสิบสองชั่วโมงอยู่ดี ทำให้มาไม่ทันเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นทั้งหมด"ผมจะเล่าแบบง่ายๆ เลยพี่ซี ไอ้ชาร์ถูกคู่หมั้นตัวเองนอกใจมาเป็นปีแต่ว่าไม่ยอมเลิกกับมันซึ่งเรื่องนี้มีแค่ผมที่รู้ แล้วก็พยายามตามสืบอยู่นานจนมีหลักฐานครบกะจะโทรไปบอกมันแต่มันดันไปเจอช็อตเด็ดเข้าพอดีเลยร้องไห้เสียใจเหมือนอกหักเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนหักหลังมาก่อน เลยร้องไห้เสียใจเรียกแท๊กซี่ไปส่งที่ไหนไม่รู้ หลังจากนั้นให้มันเล่าเองแล้วกัน" ไคชัวร์เล่าไปได้สักพักก็ส่งไม้ต่อให้แฝดน้องแทนเพราะดูท่าเล่าต่อไปอาจจะทำให้ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระอีก"หลังจากนั้นผมเจอแมวที่น่ารักมากและอยากให้มาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเรา แล้วที่สำคัญคือส่งใบทะเบียนจดสมรสอันนั้นไปต่างประเทศในรัฐที่ให้ผู้ชายจดทะเบียนด้วยกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ส่วนพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธผมแบบตรงๆ
"แกเลิกยิ้มแบบนั้นสักทีจะได้ไหม ตั้งแต่วางหูโทรศัพท์มาแกทำตัวแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว บอกตามตรงว่าฉันสยองมาก" ไคชัวร์บอกด้วยท่าทางหวาดผวาน้องชายฝาแฝดตนเอง รู้อยู่ว่าคนเรามีความสุขก็ต้องยิ้มแต่นี่มันยิ้มเหมือนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมายขนาดนั้น"พี่เขาน่ารักมากว่ะ ฉันจะทำยังไงดีวะ""ฉันว่ากลับบ้านไปต้องพาแกไปหาหมอแล้วว่ะ""ทำไมวะ""หน้าแกแดงมากเหมือนคนเป็นไข้เลย ฉันกลัวแกจะน็อคตาย"นี่หน้าของเขาแดงถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตว่าถ้าเวลามีความรักขึ้นมาจะมีสีหน้าแบบนี้ ให้ตายเถอะ! ไคชาร์นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาตลอดการเดินทางเพราะมัวแต่คิดหนักเรื่องความรักรวมถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความจริงควรคิดถึงเรื่องที่โดนเรียกตัวมาในวันนี้เหมือนพี่ชายฝาแฝดแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"ตัวอยู่ไต้หวันแต่ใจอยู่เกาหลีสินะ" ไคชัวร์แซวออกมาทันทีเพราะเห็นน้องชายตนเองเงียบมาสักพักแล้ว แทนที่มันจะห่วงเรื่องทางนี้แต่กลับคิดถึงอีกคน ถ้าที่บ้านรู้จะทำแบ
หลังจากที่เจ้าเด็กห่มหนังแกะพาผมไปนั่นไปนี่ให้เกิดประเด็นต่างๆ มากมายในมหาวิทยาลัย เริ่มมีสายตามากมายมองมายัง จินฮวนว่าเด็กคนนี้คือใคร ทำไมถึงได้มารู้จัก คิวบ์บอยของมหาลัยได้ อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ได้เต็มใจแต่มันบังคับให้มาก็เลยต้องมาด้วยกันพอไม่มาก็ยกเรื่องจดทะเบียนสมรสมาว่าจะรีบมาบอกโดยไม่ทำตามขั้นตอนให้ดี ถามหน่อยว่าการแอบเอาใบทะเบียนไปขึ้นที่ต่างประเทศมันเรียกว่าถูกต้องหรืออย่างไร แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะห้ามอะไรไม่ทัน ได้แต่เลยตามเลยไปเท่านั้น"ลูกแม่! มาแล้วเหรอ ไหนมาหาแม่สิ" แดฮานบอกพลางอ้าแขนออกแล้วอีกฝ่ายก็ต้อนรับด้วยการอ้าแขนรับนั่นเอง เป็นเพื่อนที่หน้าหวานกว่าเขาแต่ไม่ได้รับผลโหวตที่เท่ากันอาจจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ออกสาวจริงแต่นิสัยดุมากเลยทำให้มีความขัดแย้งกันในตนเอง ถึงเขาจะไม่ได้ปากร้ายแบบนั้นแต่ก็พูดตามความสมควรที่ควรจะเป็น ไม่พูดจาไปเรื่อยให้ฟังดูขาดความน่าเชื่อถือ"แกก็ชอบทำเหมือนมันเป็นลูก จนอีกทีฉันคิดว่าแกคลอดมันออกมาแล้วนะ" ซองอึนเห็นแล้วอดแซวไม่ได้ คือไอ้จินฮวนน่ารักน่าเอ็