LOGINปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง
.
ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง
.
"ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!"
.
แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!
.
"เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!"
"เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา.."
"เอือกกกก.. อึก..ก..ก..ก "
"อย่านะ.. อย่าทำร้ายเขา! เขายังเด็กอยู่เลย!"
.
ด้วยความสัตย์จริงว่ามิวท์จำเจนิสไม่ได้หรอก แต่ทว่าจิตใต้สำนึกของเธอย่อมรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป ศพพี่พลขับนั่นไงคือประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ความเละเทะตะกละตะกลามของเศษชิ้นส่วนอวัยวะ จะถูกยกไปประดิษฐานบนเรือนร่างของเจนิสแน่หากโควิดยึดร่างมิวท์เอาไว้ได้ สถานการณ์จึงมีแต่แย่ลงไปทุกที
.
"ฟึบบบ!"
นิ้วหลุดออกจากรูจิ๋ม ส่วนมืออีกข้างที่พยายามแกะกระดุมเสื้อออกก็หลุดผล็อยตามมาเช่นกัน
.
ดูท่าประธานสาวน่าจะช้าเกินไป เธอเริ่มสูญเสียสัมปัชชัญญะไปทีละภาคส่วน แม้แต่การมองเห็นหรือการกรอกลูกตายังทำไม่ได้ ดวงเนตรเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดง มิวท์ถูกบังคับให้ก้มหน้าลงมามองก่อนจะเริ่มเห็นนิ้วมือข้างที่หลุดออกจากรูเสียวเมื่อครู่งอกเงยออกมาเป็นกงเล็บ!
.
เมือกยางหยดย้อยซึมออกมาจากใต้ร่อง สีของมันข้นขลักน้ำตาลอมดำไม่ใช่สีใสเหมือนน้ำเงี่ยนตอนมีเพศสัมพันธ์ แล้วหลังจากนั้นเล็บที่ผ่านการทำสปามาอย่างดีก็ค่อย ๆ งอกยาวออกมาราวกับอาวุธของวูล์ฟเฟอรีนในหนังเรื่องดิเอ็กซ์เมน มันทั้งแหลมแล้วก็คมตะปบทีเดียวพื้นโลหะแกร่ง ๆ ยังถึงกับเกิดเป็นประกายไฟลุกพรึบ!
.
"แคล๊งงง!!!"
.
"โคร่งงงงง!!! , กรรรรร!!! , โคร่งงงงง!!!"
.
ในที่สุดมันก็ออกมาจนได้ มิวท์ไม่เหลืออำนาจที่จะควบคุมเรือนร่างอันอุบาทว์ของตัวเองได้อีกต่อไป กางเกงไม่ใส่เสื้อตัวบางก็กระดุมหลุดลุ่ย มิหนำซ้ำแขนอีกข้างก็เริ่มงอกกงเล็บออกมาด้วยเช่นกัน เธอยืนขึ้นโอนเอนราวกับซอมบี้ การเคลื่อนที่แต่ละก้าวแช่มช้าเพราะที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น มิวท์ยังไม่ใช่ผู้กลายพันธุ์แบบเต็มขั้นนัก เพราะถ้าไปถึงขั้นนั้นจริงตัวพ่ออย่างเปรมที่ควบคุมทุกอย่างอยู่ที่เมืองหลวงก็คงจะเชื่อมต่อกับเธอได้
.
แต่นี่เธอยังคงก้ำกึ่งอยู่! เปรียบเป็นคนก็คงไม่ต่างจากคนที่เมากึ่ม ๆ รู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้างลูกผีลูกคน แต่ก็มีแววจะค่อนไปทางชิบหายซะมากกว่า
.
"โคร่งงงงง!!! , โคร่งงงงง!!! , โคร่งงงงง!!!"
เรียวขาขยับก้าวเดินไปข้างหน้า โดยมีพิกัดเป้าหมายเป็นประตูทางออกเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ตรงส่วนท้ายของลำ ฮ.
.
แม้มันจะถูกล็อคอย่างแน่นหนาด้วยมือของเธอเองในตอนที่เป็นคน แต่ตอนนี้เจตจำนงที่เธอตั้งใจจะขังตัวเองไว้ไม่ให้ออกไปทำร้ายคนอื่น ดูเหมือนจะต้องถูกทำลายลงเสียแล้ว!
.
"ฟับ!!! , ฟับ!!!"
.
"ชิ้งงง!!! , ชิ้งงง!!!"
ผ่าทแยงมุมเป็นรูปกากบาทโคตรแม่มมึงอะไรจะง่ายดายปานนั้น เมื่อเหล็กประตู ฮ. หนา ๆ นี่ถึงกับขาดสะบั้นทะลุออกไปเลย โควิดในร่างมิวท์ถีบฝาประตูกระเด็นออกไปอัดกระแทกกับซอกผา มันแผดเสียงร้องคำรามออกมา แต่ทว่ามิวท์ก็ยังสู้นั่นจึงทำให้เดซิเบลกับคีย์เสียงคำรามหนนี้ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย
.
"กรี๊ดดดดดดดดดด!!!"
เป็นเสียงร้องของเธอที่แผดออกมาเป็นเฮือกสุดท้ายแทน มิวท์หมดแรงแล้วเธอไปต่อไม่ไหวแล้ว ไม่ได้ถูกเอาแต่การร้องเมื่อครู่นั้นช่างเหมือนเสียงครางเวลาเสร็จกิจ
.
เป็นไปได้สูงว่ามิวท์อาจจะกลับออกมาไม่ได้อีก แต่ก็ถือเป็นโชคดีอย่างที่เสียงร้องเมื่อกี้ก็ได้ทำให้เจนิสที่ปีนกระจกอยู่ด้านหน้าได้ยินเข้าเช่นกัน
.
.
"เอ๊ะ! เมื่อกี้เสียงอะไรอ่ะ? เหมือนเสียงผู้หญิงกรี๊ดเลย?"
เจนิสสะบัดหน้าไปมา เธอหันรีหันขวางโดยใช้มือข้างหนึ่งป่ายปีน ส่วนมืออีกข้างก็ยังถือแท่งไฟส่องสว่างอยู่
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ
"ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค
เหงื่อนองท่วมร่างกาย กะบังลมเคลื่อนตัวเทียวหดเทียวขยายหอบแฮ่ก ๆ กันทั้งสองคน ลำควยยังคงปักเสียบอยู่ในหี เวลาผ่านไปร่วมหนึ่งนาทีเมือกคาวสีขาวขุ่นอันเกิดจากน้ำเชื้อแห่งการผสมพันธุ์ ก็ซึมทะลักออกมาตามช่องว่างระหว่างอวัยวะเพศ."แหมะ! , แหมะ!".มันหลากล้นออกมาเปื้อนพุ่มไหมดงแมกไม้ของพี่พลขับเต็มไปหมด แต่ครานั้นนวลนางผู้คร่อมร่างอยู่ข้างบนก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง มิวท์นิ่งราวกับโดนถอดปลั๊ก! เธอยังคงชูแขนพับข้อศอกอยู่ในท่ามัดผม พลันหลับตากัดริมฝีปากแล้วก็ค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น จนพี่เขาชักจะประหลาดใจ."นี่คุณเล่นมุกอะไรของคุณเนี่ยะคุณมิวท์?""แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ "เขาลองตวาดถามดูอีกครั้งถามแม่งทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่หายเหนื่อย และการหอบหายใจสั่นรัวดังกล่าวก็ทำเอาร่างบางที่คร่อมอยู่มูฟตัวเองโยกโยนตามไปด้วย."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ หนอยแน่! ดีล่ะ! ถ้าจะเล่นแบบนี้ล่ะก็..""ผมก็จะง้างปากคุณด้วยแท่งควยของผมเอง..""ให้มันรู้ไปสิว่าคุณจะนิ่งต่อไปได้ ถ้าโดนควยกระทุ้ง!"."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ ""ฮึบ!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ!".กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมดส่งจากปลายตีนขึ้นมาถึงบั้นเด้า พี่เขาเอาจริงไม่







