“วางถุงกาวแล้วตั้งสติ” ถ้าเป็นวลีฮิตสมัยก่อนต้องใช้คำนี้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องบอกเลยว่าพลาดที่ไม่ได้ใส่ถุง แพรวลุกขึ้นพรวดจากโซฟาเธอเดินไปเก็บเสื้อผ้า ค่อย ๆ ทยอยสวมใส่ทีละชิ้นด้วยความใจเย็น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าใส่ไปก็มีแต่รอยขาดจากการถูกกระชากก็ตามที
.
“……”
เงียบเป็นเป่าสาก สาวเจ้าสวมเสื้อนอกตัวบางเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่หน้าประตู
.
“มึงจะไปไหน?”
พีถาม เขาถูฝ่ามือขยี้หน้าตัวเอง
.
กระเทยควายอยู่ในอาการจิตตกขั้นสุด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เซลล์อสุจิงอกอยู่ในช่องคลอดเพื่อน แพรวจึงโพล่งคำขึ้น
.
“ก็ไปหาทางแก้ปัญหาไง! กูขอถอนคำพูดที่ว่าไม่เป็นไรนะพี!”
“ไอ้พวกผู้ชายสารเลว หน้าไหนก็ไม่ต่างจากหมา ตอนเอาก็ทำรุนแรงพอเลยเถิดทำเรื่องแดง แม่งเห็นมีแต่ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละที่เดือดร้อน!”
“เหี้ยเอ๊ย! ทำไมมึงปล่อยในวะ อีสัด..ด..ด..ด!”
กำหมัดแน่นแถมยังกัดกรามเค้นเสียงสั่นในลำคอ ดูทรงแล้วแพรวคงจะโกรธมากจริง ๆ
.
แข้งขาเธออ่อนยวบยาบไปหมด แค่นึกถึงกลีบผกาก็สั่นไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันไหมแต่เหมือนแพรวจะรู้สึกว่าจุดซ่อนเร้นข้างในนั้นช่างชุ่มแฉะ โกรธจนหยาดน้ำเสียวเล็ดซึมออกมาตามอูมร่อง มันไหลเรี่ยโคนขาอ่อนพลันหยดร่วงลงพื้น ให้ชอกช้ำใจในวินาทีที่คิดถึงเรื่องเก่า
.
“ไม่ ๆ ๆ ไม่เด็ดขาด! เราจะพลาดเสียตัวให้อีพีแค่หนเดียวเท่านั้น”
“สิ่งที่ต้องทำคือเรื่องเร่งด่วน เกิดพลาดท้องขึ้นมาจะน่ากลัวกว่าการติดโควิดซะอีก!”
สาวเจ้าคิดในใจ ก่อนจะทำการออกแรงสุดกำลังเพื่อทำลายแถบเทปกาวที่พีปิดผนึกประตูเอาไว้
.
“แคว๊กกก!! , แคว๊กกก!! , แคว๊กกก!!”
.
สบช่องให้กระเทยหนุ่มได้ตะโกนสวน
.
“อีห่า! กูซีนไว้กันเชื้อโรคเข้ามึงอยากตายเหรอ? สมองแพรว? สมอง? มึงใจเย็นหน่อยดิวะ!?”
พูดพลางสปริงตัวขึ้นจากโซฟา ตาจดจ้องเป้าหมายไม่ห่างส่วนมือก็ควานหาเสื้อผ้ามาใส่กันโป๊
.
ทว่าแพรวก็เลือกที่จะเถียงสู้
.
“สมองพ่องมึงสิอีตุ๊ด! กูจะฆ่าเด็กในท้องทิ้งด้วยซ้ำถ้าเกิดท้องขึ้นมา!”
.
“นั่นลูกเรานะ?”
.
“ลูกมึงนี่ไม่ใช่ลูกกู!”
.
“อีแพรว! อีสัด!”
.
“สัดก็สัดดิ! ใครใช้ให้มึงยัดดุ้นเข้าแคมกูมิทราบ!”
.
เกิดเป็นการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในอีกหลายนาทีต่อมา สารพัดถ้อยคำหยายคายพุ่งประหัตประหารกันราวกับไม่ใช่เพื่อนกันมาก่อน ต่างคนต่างโกรธ ต่างคนต่างกลัว และจนแล้วจนรอดก็กลายเป็นฝ่ายชายที่พุ่งตัวเข้าไปประกบติด เปล่าหรอก! พีไม่ได้สติหลุดจนพลั้งมือทำร้ายร่างกาย หากแต่เป็นเขาเองที่เพิ่งคิดได้ว่าแพรวน่าจะออกไปที่ไหน เจ้าตัวก็เลยต้องรีบปรี่เข้าไปหาเพื่อถามเช็คดู
.
“หมับ!”
.
“โอ๊ย! อะไรอีกล่ะจะมาจับมือกูทำไม? แล้วถ้าจะไม่ช่วยก็กรุณาถอยไปด้วย แม่งจะติดห่าอะไรเยอะแยะไอ้กระดาษกาวซังกะบ๊วยเนี่ยะ!”
.
“กูรู้แล้วว่ามึงจะไปไหน?”
.
“ก็ต้องรู้สิเพราะมึงเรียนเภสัชมาเหมือนกูไงอีควาย!”
.
พีแทรกตัวเข้ามายืนขวางหน้าประตู เขาใช้ร่างกายอันกำยำดันแพรวให้ถอยห่างออกไป
.
“ยาคุมฉุกเฉินเหรอ?”
.
“เออ! ยาที่แดกหลังมีเซ็กซ์ 24 ชั่วโมงแล้วจะไม่ท้องนั่นแหละ ฉลาดขึ้นแล้วนี่! ทีนี้ยังคิดจะขวางกูอยู่ไหม?!”
.
“ไม่ล่ะ”
สิ้นสุดคำพูดนี้ร่างหนาก็ย่อตัวลงชันเข่า พีพลิกหันหน้าเข้าประตูก่อนจะใช้เพียงติ่งของนิ้วก้อยสะกิดเขี่ยชายเทปกาวให้เผยอออกเล็กน้อยพอให้จับได้ แล้วจากนั้นก็
.
“แคว๊กกกกก!!!”
“พรืดดด..!, พรืดดด..! , พรืดดด..! , พรืดดดด..!”
“แคว๊กกกกก!!!”
“พรืดดดดดด!!!”
.
หลุดออกทั้งยวงหลุดแบบไม่มีอะไรกั้น สิ่งที่แพรวสู้อุตส่าห์ออกแรงทำอยู่ตั้งนานดันกลายเป็นพีที่ใช้เพียงปลายเล็บ บานประตูเริ่มเผยอออกทั้งสองมองเห็นแสงสว่างจากภายนอกอยู่รำไร พีจึงพูดต่อ
.
“มึงรีบไปให้เร็วที่สุดเลยนะ แต่ก่อนจะไปกูมีคำถามต้องถามมึงข้อหนึ่ง”
.
“อะไรอีกล่ะ อย่าลีลาน่ะมึง?”
.
“มึงจะไปหาซื้อยาคุมที่ไหนในเมื่อบ้านเมืองภายนอกรกร้างขนาดนั้น ถนนคอนกรีตแตกเป็นเสี่ยง แผงเหล็กกั้นทางหลอมละลาย แล้วมึงคิดว่าจะมีของอย่างยาคุมกำเนิดขายอยู่เหรอ?”
.
“เอิ่ม..ม..ม..เรื่องนั้นมันก็.. อืม..ม..ม~!”
.
เสียอาการหนักทีเดียวหญิงสาวอึ้งกิมกี่ไม่คาดฝันว่าจะเจอโจทย์ยาก คำพูดของพีช่างทำลายความหวังสุด ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็อาจจะเป็นพ่อคนจากการประมาทร่วม มิหนำซ้ำยังเดินอาด ๆ อ้อมมาด้านข้าง ราวกับจะท้าทายให้แพรวรีบผละตัวออกไปจากห้องเร็ว ๆ
.
“ว่าไง? ไหนคำตอบ?”
.
“กูไม่รู้!!!”
.
ส่ายหน้าปลดปลงพีถอนหายใจยาว พลางวางมือลงบนหัวไหล่แพรวอย่างนวลนุ่ม
.
“เฮ้อ~!”
“เอางี้! กูคิดออกที่หนึ่ง เป็นที่ ๆ ใหญ่ที่สุด มีครือข่ายค้ายาใหญ่โตครอบคลุมทั่วประเทศ โชคดีมากที่ร้านสาขาเขาอยู่ใกล้กับมหาลัยเรา แล้วก็ใกล้หอพักแห่งนี้ด้วย”
.
“ที่ไหนวะ?”
.
“ร้านพี่เปรม”
.
“อีเหี้ย!”
.
“ตูมมมมมมม!!!”
พลังฝ่าตีนพิทักษ์โลก เคยได้ยินแต่แรงบันดาลใจเพิ่งรู้ว่าการบันดาลโทสะก็ย้ายลงสู้ส้นตีนได้เช่นกัน หมดกันกระดาษกาวที่อุตส่าห์แกะออก ด้วยฤทธิ์ของความโกรธแพรวแม่งกระโดดถีบพรวดเดียว บานประตูถึงกับหักครึ่งปลิวทะลุออกไปด้านนอก
.
“โครมมมมมม!!! , โครมมมมมม!!!”
ใช้หลังตีนเขี่ยเคลียร์เศษซากอีกสองสามที ก่อนจะก้าวขาออกไปแพรวหันกลับมาบอกพีในลุคหม่น ๆ ว่า
.
.
“มึงอย่าพูดชื่อนี้ให้กูได้ยินอีกนะ!”
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่
เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ
เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็