กำมือถือเอาไว้พอหลวม ๆ พียังคงรู้สึกสำนึกบุญคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าที่เตือนสติเขาให้ปิดเครื่องได้ทันเวลา เพราะเสียงข้อความเพียงเล็กน้อย ก็มากพอที่จะเปิดเผยสถานที่ซ่อนลับของเขาให้เป็นที่ประจักษ์ได้
.
“อีแพรว! อีห่า! เกือบทำกูงานเข้าแล้วไหมล่ะ?”
กระเทยควายพร่ำบ่นกับตัวเอง ในขณะที่หัวใจก็สั่นรัวราวกับกลองชุด
.
เรียกได้ว่างานนี้ถ้าไม่ได้ทักษะการเป็นนักดื่มตัวยงช่วยไว้เขาคงไม่รอด เพราะประตูทึบตันที่เจ้าหน้าที่เคยบอกแท้ที่จริงก็คือกล่องลังเบียร์จำนวนมาก ที่พีดื่มแล้วก็โยนขวดทิ้งไว้ตรงระเบียงด้านหลัง ดูจากตาเปล่าน่าจะมีมากถึง 1,000 - 2,000 ขวด เขาจับขวดเหล่านั้นยัดใส่กล่องแล้วก็วางเรียงไว้เป็นชั้น ๆ โดยหวังว่าสักวันจะเรียกคุณลุงซาเล้งค้าของเก่าขึ้นมาขนไปขาย
.
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นพวกมันนี่เองที่พีใช้ลากมาขวางประตู ปริมาณที่มากบวกกับรูปทรงที่สอดรับกัน ทำให้เกิดสภาวะทึบตันตรงทางเข้าระเบียง จากอีกฝั่งพวกเจ้าหน้าที่จะเห็นเป็นเพียงกำแพงกระดาษสีน้ำตาลเท่านั้น ครั้นพอคิดที่จะผลักหรือดันเข้าไปกลุ่มลังบรรจุขวดก็จะพากันเซ็ตตัวนิ่งตรึงติดแน่น อันเป็นผลพวงมาจากรูปแบบการเรียงซ้อนที่ชิดกันสุด ๆ ชิดจนไม่เหลือช่องว่างบนพื้นระเบียง แพ็ทเทิร์นการเรียงคือ ประตู , กล่องลังเบียร์ , กล่องลังเบียร์ , กล่องลังเบียร์ , กล่องลังเบียร์ ๆ ๆ ๆ แล้วถึงค่อยเป็นราวระเบียงกันตกที่ค้ำอยู่อีกฝั่ง
.
ลองเป็นแบบนี้ต่อให้ช่วยกันดันด้วยพลังช้างสาร กำแพงลังกระดาษที่ยัดไส้ขวดเบียร์เต็มพิกัดก็ยังต้านทานไหว ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมตัวพีถึงเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำนั้น คำตอบก็อยู่ในมืออีกข้างของเขานั่นเอง
.
“บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง!”
.
นับเป็นเสียงเทเหล้าออกจากขวดที่แสนแผ่วเบาแต่เศร้าโศกหัวใจเป็นที่สุด เสียดายก็เสียดายแต่ทางเลือกของพีก็ไม่ได้มีมากอะไรนัก หลังจากที่เขาได้ยินเต็มสองรูหูว่า ทีมตรวจโรคเชิงรุกกำลังจะใส่แว่นตรวจจับอุณหภูมิความร้อน
.
นี่คือเทคโนโลยีของบริษัท AP ที่พัฒนามาเพื่อใช้แทนปืนวัดไข้ ทว่าตอนนี้กลับถูกนำมาใช้เพื่อเช็คที่อยู่ของกระเทยควาย ผ่านการอ่านค่าอุณหภูมิที่เกินกว่า 37 องศา
.
“บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง!”
.
“จำเป็นล่ะวะ! ไม่ตายก็หาใหม่ได้เว่ย เทลงไป! เทลงไป!”
.
“บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง! , บุ๋ง!”
.
ช่างเป็นความบังเอิญที่เข้าทาง ที่หลังระเบียงห้องไม่ได้มีแต่ขวดเปล่า พียังมีสต็อกเบียร์กับไวน์ชั้นดีอีกเป็นแกลลอน เขามีแม้กระทั่งโหลยาดอง , สมุนไพรสำหรับดองเหล้า , ยาดองเหล้าตราเก้าเหรียญสูตรเสือสิบเอ็ดตัว , โซดา , ว็อดก้า , เตกีล่า , บาคาร์ดี้ ฯลฯ เรียกได้ว่าขาดแค่เฮโรอีนกับกาวทินเนอร์เท่านั้นที่ไม่มีอยู่หลังห้องแห่งนี้
.
และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมในแว่นตาจับความร้อนของพวกเจ้าหน้าที่ ถึงอ่านค่าพลังงานด้านหลังได้เป็นสีแดงเถือก อุณหภูมิสูงลิ่วที่มากเกิน 37 องศาแห่งความเป็นคน ล้วนเป็นผลมาจากปฏิกิริยาความร้อนของแอลกอฮอล์ในเหล้าที่ทำกับแสงแดดภายนอก ผนวกรวมกับความรัดกุมอันสุดบ้าคลั่งของพี ที่ราดรดทุกอย่างลงหัวตัวเองไปพร้อมกันด้วย ทำให้ร่างกายของเขากลืนไปกับอุณหภูมิ แว่นตรวจจับก็เลยไม่สามารถสร้างคลื่นความร้อนเป็นออร่ารูปร่างของคนขึ้นมาได้
.
รอฟังคำสั่งการให้ยกเลิกอย่างจดจ่อ กระเทยหนุ่มทรุดตัวลงนั่งลุ้นด้วยความตื่นเต้น เขาพยายามจะไม่ทำให้ตัวเองใจเย็นเพราะไม่ต้องการให้ร่างกายเย็นลงกว่านี้
.
“แค่สั่งการออกมา.. โถ่เอ๊ย! แค่พูดออกมาว่ากลับกันได้แล้วเท่านี้ก็หมดเรื่อง ฉันอุตส่าห์ลงทุนทำขนาดนี้แล้วนะ"
กัดกรามกรอดเกร็งกำปั้น ลุ้นกดดันราวกับฟังผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
.
แต่โชคก็ไม่เป็นใจ ไม่ต่างอะไรจากการซื้อ 92 แล้วออก 66 คือไม่เฉียดเลยสักนิด เปล่าเลย! กำแพงลังกระดาษไม่ได้พังทลายลงมา แว่นตาก็ไม่ได้ทะลึ่งกลับมาอ่านค่าได้ หากแต่เป็นที่ตัวหัวหน้าชุดที่ไม่ยอมลดราวาศอกเลยต่างหาก แกยังคงดันทุรังให้ลูกทีมออกค้นหาต่อไป ค้นทุกซอกทุกมุมรื้อกระจุยกระจาย จนอพาร์ทเม้นท์ของพีแทบจะมีสภาพเหมือนถูกยกเค้า หมอเหมือนโจรนอกเครื่องแบบ พวกเขาเหมือนองคุลิมาลที่สวมชุดปลอดเชื้อ และพร้อมจะเชือดเหยื่อทุกคนที่ประสบพบเห็น
.
“พยายามต่อไปมันต้องอยู่ที่นี่แหละ! ถ้าต้องทุบกำแพงข้ามไปฝั่งโน้นฉันก็จะทำ จะต้องมีอะไรอยู่หลังกำแพงนั่นแน่ ๆ !”
.
“แต่หัวหน้าครับ.. เราไม่มีอำนาจ?”
.
“มีดิ! ทำไมจะไม่มี! เรามีพรก.ฉุกเฉินภายใต้สถานการณ์อันไม่ปกติไง ไปเอาค้อนปอนด์มา! ขวานหรืออะไรก็ได้! ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าคลื่นความร้อนด้านหลังนั่นคืออะไร?"
"ทีมเราจะแพ้ทีมอื่นไม่ได้เป็นอันขาด! รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นจะเอาหน้าไปไว้ไหนถ้าจับได้แค่แมวตุ๊ด ๆ ตัวหนึ่ง ฉันรับไม่ได้หรอกนะ!”
.
“ครับ! รับทราบครับ!”
.
“ตุบ ๆ , ตุบ ๆ , ตุบ ๆ , ตุบ ๆ ”
.
ทุกสำเนียงเสียงสนทนาพีได้ยินหมด เขาได้ยินแม้กระทั่งเสียงฝีเท้ากระทบพื้นที่คล้ายกับการออกวิ่ง คราวนี้จึงเป็นอะไรที่หน้าสิ่วหน้าขวานยิ่งกว่าเก่า ภายในใจรุ่มร้อนดั่งขุมนรก แดดส่องแรงขึ้นกลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นหึ่งฉุนโพรงจมูก หากจะกล่าวว่าถึงทางตันแล้วก็คงไม่ผิดอะไร
.
“เอาไงดีวะกู?”
ปากขยับแต่ไม่มีเสียง
.
จินตนาการถึงสาวประเถทสองผู้โดดเดี่ยวท่ามกลางดงขวดเหล้า พีกลับมาเพ่งเล็งที่โทรศัพท์อีกครั้งแต่ก็ไม่กล้าเปิดเครื่องเพราะกลัวเสียงจะทำให้คนข้างในรู้ตัว ด้วยความสัตย์จริงว่าเขากำลังจะตายด้วยน้ำมือตัวเอง ลองคิดดูสิว่าระเบียงที่ไหนในโลกจะมีทางออกสองทางบ้าง ทุกที่ล้วนเข้าออกได้ทางเดียวหมด ลังขวดเบียร์นับพันที่ขวางประตูอยู่จึงเหมือนกรรมที่ตามสนอง มันขวางคนไม่ให้เข้ามาได้ก็จริง แต่มันก็ขวางพีไม่ให้หนีออกไปได้เช่นกัน
.
ทุกอย่างตีกันอีรุงตุงนังไปหมด แล้วทันใดนั้นเอง! ใบหูก็เริ่มได้ยินเสียงอีกฝั่งกำลังเริ่มกระบวนการทุบ
.
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม!”
.
“แม่งเอ๊ย!?”
พีรีบชะเง้อตัวลงไปมองห้องด้านล่างที่ชั้น 4 นั่นสูงชิบเป๋ง! และเขาก็บอกกับตัวเองโดยพลันว่าต่อให้เป็นเฉินหลงที่ได้กับจา พนม ก็ไม่มีใครกล้ากระโดดออกไปจากชั้น 5 ตรงนี้แน่
.
“สูงมากอ่ะ! ถ้าพลาดตกลงไปได้ตายแบบศพไม่สวยชัวร์!”
.
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”
ผนังเริ่มสั่นกล่องลังเริ่มเขยื้อน นั่นยิ่งทำให้สติกระเจิดกระเจิงขึ้นไปอีก
.
“ไม่! ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้โดนจับเด็ดขาด! แพรวเพิ่งแชทมาบอกว่าพวกเขาจะล่ากระเทยไปทำอะไรก็ไม่รู้ กระเทยมีศักดิ์ศรีเว่ย! การเก๊กแมนตบตาขายผ้าเอาหน้ารอดก็ไม่ใช่ทางออก เพราะงั้นยอมตายซะยังดีกว่า! , ฮึ่ยยย!”
.
สิ้นสุดการตัดสินใจเฮือกสุดท้าย สาวประเภทสองก็ได้ชะโงกหน้าลงไปมองระเบียงห้องด้านล่างใหม่อีกที คราวนี้พีลงรายละเอียดมากขึ้นเขาเห็นราวตากผ้าที่เต็มไปด้วยผ้าอ้อมเด็ก มีกาละมังซักผ้าที่มีขวดนมแช่เอาไว้ และที่สำคัญมีพื้นที่มากพอให้เขาเหวี่ยงตัวลงไปแลนด์ดิ้ง
.
“ข้างล่างน่าจะเป็นห้องของเด็ก ถ้าเราเหวี่ยงตัวเข้าไปในนั้นได้ประตูมุ้งลวดบาง ๆ ตรงระเบียงคงไม่คณามือ พอลงไปถึงก็ค่อยรีบเผ่นออกไปทางบันไดหนีไฟ ใช่! เป็นไปได้อยู่!”
.
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”
“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”
.
“หัวหน้าครับ! ข้างนอกมีแสงสว่าง มีกลิ่นเหล้าด้วยครับ!”
.
“เยี่ยม! เรามาถูกทางแล้วทุบต่อไปอย่าหยุดนะ!”
.
“ครับ!”
.
ฝั่งข้างในก็ช่างเร่งเร้าประเมินจากสถานการณ์คาดว่าอีกไม่เกิน 5 นาที สิ่งที่พีใช้กีดขวางไว้ก็คงจะสิ้นสภาพ จุดซ่อนเร้นที่ไม่ใช่จิ๋มของเขาคงจะถูกเปิดเผย เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ควรรีบทำ ถ้าไม่รีบล่ะก็เขาได้หมดอนาคตแน่
.
“เหี้ย! เอาวะตายเป็นตาย! เราแค่ต้องหาอะไรยาว ๆ ที่คล้ายเชือกมาใช้โรยตัวสักหน่อย"
.
หันซ้ายแลขวาดันมีแต่ขวดเหล้า ยาวสุดที่เห็นคงจะเป็นเชือกรองเท้าแต่มันจะพอเหรอ?
.
“พอสิ! ถ้าเอาทุกอย่างมามัดรวมกัน”
.
พีทำเหมือนหันมาพูดกับคนเขียน แต่ก็ช่างเถอะ! เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นน่าสนใจกว่ามาก เขาถอดรองเท้าออกแกะเชือกรองเท้าออกมา , ถอดถุงเท้าออก , ถอดกางเกงออก , ถอดเสื้อออก , ถอดสร้อยคอ , ถอดแม้กระทั่งสิ่งที่ไม่ควรถอดอย่างกางเกงในชาย เปลี่ยนกระเทยร่างควายให้คล้ายกับกอลิล่าเปลือยตามป่าธรรมชาติ
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่
เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ
เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็