/พี.. มีเจ้าหน้าที่บุกขึ้นไปบนตึก/
แพรวส่งข้อความแชทมาทางโทรศัพท์
.
/เออ..กูเห็นล่ะ/
ปลายนิ้วบิ๊กเบิ้มแต่พิมพ์ตอบได้เร็วเป็นจรวด กระเทยหนุ่มเครียดจัด
.
/มึงอยู่ไหน?/
.
/หลังห้อง.. ตรงระเบียง/
.
/รีบหนีด่วน ด้านล่างมีกระเทยกับทอมโดนจับเข้ารถผู้ต้องขังเพียบ พวกเขาจะเอาไปขังต่อที่ไหนไม่รู้ น่ากลัวมาก!/
.
สิ้นสุดข้อความนี้แพรวก็ยืนก้มหน้าจ้องจอสมาร์ทโฟนอยู่นาน สลับกับการแหงนหน้ามองไปยังห้องของพีที่อยู่ชั้นบนสุด แน่นอนว่าเธอมองเห็นระเบียงก็จริง แต่ด้วยความที่ตึกอพาร์ทเม้นท์นั้นสูงลิบตามาก ร่างหนาของเพื่อนจึงมิอาจสังเกตเห็น
.
ประกอบกับเมื่ออยู่นานเข้าเจ้าหล่อนเองก็ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย กล่าวคือมีเจ้าหน้าที่ในชุด PPE เข้ามาสอบถามว่าเหตุใดเธอถึงมายืนด่อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงนี้ ประชาชนคนอื่นเขาอยู่ในเคหะสถานล็อคดาวน์หนีการติดเชื้อกันหมด แต่ด้วยความที่แพรวมีไหวพริบปฏิภาณดีเลิศบวกกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือ สัญชาตญาณจึงบอกทันทีว่าจะให้เจ้าหน้าที่เห็นบทสนทนาในแชทไม่ได้เป็นอันขาด ทางออกของเธอจึงเป็น..
.
“ฮัลโหล.. แม่เหรอคะ? ใช่ค่ะ! ใช่แม่..แป๊บนะเดี๋ยวหนูรีบเข้าไป”
.
“ค่ะแม่! เดี๋ยวนี้แหละ ตอนนี้เลยอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว”
.
แสร้งทำเป็นรับสายมันซะดื้อ ๆ ด้วยท่าทางที่ต้องยกโทรศัพท์แนบหูไว้ตลอดเวลา บวกกับอาการลุกลี้ลุกลนคล้ายกำลังรีบเจ้าหน้าที่เลยปล่อยผ่าน สบช่องให้เจ้าหล่อนรีบเดินเลี่ยงไปทางอื่น ตั้งใจว่าให้ไกลจากที่นี่ได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะมือถือของเธออาจจะเป็นเบาะแสที่นำไปสู่ความชิบหายของพีได้
.
กระทั่งผ่านไปพักใหญ่ ในซอกตึกเปล่าเปลี่ยวรกร้างผู้คน ที่นี่ถือเป็นสถานที่ ๆ เหมาะมากที่จะใช่ติดต่อสื่อสารกันแบบลับ ๆ แพรวตัดสินใจเช็คข้อความที่คุยค้างกันเอาไว้ ก่อนที่เธอจะได้พบกับความจริงที่ว่าพีไม่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งไปหลังจากนั้นอีกเลย เผิน ๆ เขาอาจจะปิดเครื่องไปแล้วด้วยซ้ำ
.
“เวรล่ะ!”
“อย่าบอกนะว่ามึงโดนจับ! ไม่นะ! อีพี! ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย”
.
ไม่มีใครหาคำตอบให้นิสิตสาวได้สักคน ทุกอย่างรอบตัวทึบตันดุจดั่งผนังตะไคร่ขึ้นที่ล้อมกรอบเธอเอาไว้ในซอกตึก แพรวเป็นห่วงเพื่อนจับใจ หรืออาจจะเป็นเพราะลึก ๆ แล้วเป็นเพราะพีปล่อยใน ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผัวนอกคอลเล็กชั่นของเธอก็มิอาจทราบ
.
.
ตัดภาพมาที่อพาร์ทเม้นท์ ณ ห้องชั้น 5 ที่ประตูถูกวางพิงไว้เฉย ๆ
.
บรรดาคณะแพทย์ยังคงขะมักเขม่นในการค้นหาสัญญาณชีพ ของสิ่งมีชีวิตผิดเพศที่เซ็นเซอร์แจ้งเตือน ทั่วทั้งพื้นที่ 45 ตรม. ของห้องแห่งนี้มีประตูอยู่ 4 บานด้วยกัน หนึ่งคือประตูหน้าที่พัง , สองคือประตูห้องน้ำ , สามคือประตูห้องนั่งเล่น , แล้วก็สี่ประตูที่ระเบียง ซึ่งถ้าไม่นับประตูตู้เสื้อผ้าแล้วล่ะก็ 3 บานแรกเรียกได้ว่าถูกรื้อค้นจนหมดสิ้นแล้ว ทีมงานคนสุดท้ายเพิ่งก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำเมื่อครู่ พร้อมกับถ้อยคำรายงานที่แสนจะผิดหวัง
.
“ไม่มีครับหัวหน้า ในอ่างอาบน้ำก็ไม่มี!”
.
“งั้นเปิดเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนเลย สวมแว่นซะแล้วแสกนหาเป้าหมายให้เจอ ไม่เห็นให้มันรู้ไปสิวะ! อุปกรณ์ของเราไม่เคยผิดพลาดเลยสักครั้งบัดโถ่!”
เจ้าหน้าที่หนุ่มออกคำสั่งเข้ม เขายังคงรู้สึกอับอายทุกครั้งเวลาที่หันไปเห็นโซฟาบุ๋ม ๆ อันเป็นสังเวียนสังวาสที่บังเอิญไปนั่งทับเข้า แม้จะยังไม่ชินแต่ก็นับว่ามากพอที่จะทำให้เขาฉุดคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่
.
“เดี๋ยวนะ! แล้วประตูเลื่อนตรงนั้นล่ะเช็คกันรึยัง?”
ปลายนิ้วชี้หันไปทางทิศที่มีประตูระเบียงอยู่
.
“เช็คแล้วครับ แต่มันเป็นกำแพงที่ถูกฉาบทับด้วยกระดาษลังเก่า ๆ ที่เห็นก็แค่ของหลอก ๆ เป็นวอล์เปเปอร์รูปประตูที่ใช้ติดเพื่ออำพรางสายตาให้ห้องดูกว้างเท่านั้นครับ”
.
“หืม.. แบบกระจกเงาตามร้านฟิตเนสน่ะเหรอ?”
.
“คิดว่าใช่ครับ ผู้รับเหมากับเซลล์มักจะหลอกขายคอนโดด้วยวิธีนี้ สมัยนี้แค่ถ่ายรูปสวยไม่ต้องเห็นของจริงคนก็ตัดสินใจซื้อกันแล้ว”
.
“คลิก!”
เสียงหัวหน้าหน่วยสวมใส่แว่นตรวจจับความร้อน
.
“คลิก!” , “คลิก!” , “คลิก!” , “คลิก!”
ตามหลังมาติด ๆ จากการสวมใส่ของทีมสืบสวนโรคเชิงรุกคนอื่น ๆ
.
อุปกรณ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติในการทำให้พวกเขา มองเห็นวัตถุที่มีความร้อนสูงกว่าหรือเท่ากับ 37 องศาได้ มองเห็นเป็นรูปร่างพลังงาน ซูมเข้าซูมออกได้ รวมไปถึงสามารถมองทะลุผ่านกำแพงได้เช่นกัน การจะยืนยันว่ามีคนอยู่ในห้องนี้หรือไม่จึงเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก
.
หัวหน้าหน่วยสวมมันและเริ่มมองไปรอบ ๆ แน่นอนว่าเขาเห็นคลื่นความร้อนเป็นเปลวออร่าของลูกน้องตัวเอง แล้วก็เห็นอีกด้วยว่ามีอีกกลุ่มก้อนพลังงานหนึ่งที่อยู่หลังกำแพงลังกระดาษ ตอกย้ำว่าวอล์เปเปอร์ปลอม ๆ คงจะไม่ใช่อย่างที่ลูกน้องรายงานไว้ในตอนแรก
.
“เฮ้! มีคนอยู่หลังกำแพงนั่น ฉันเจอเขาแล้ว!”
“แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งโถมเข้าไปนะฉันว่ามันแปลก ๆ ”
.
จริงอย่างที่เขาพูด เพราะแม้แต่ลูกทีมเองก็เห็นพ้องต้องกันว่าออร่าความร้อนที่อยู่หลังกำแพงนั้นมีความพิสดารเป็นอย่างสูง ทุกคนต่างค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ไม่มีใครต้องการให้เหยื่อรู้ตัว แต่ทว่ายิ่งใกล้ในแว่นตาก็ยิ่งแปลกเพราะดันไม่เห็นเป็นรูปร่างของคน ที่ด้านหลังนั่นทุกคนเห็นแต่มวลคลื่นสีแดงฉานที่แผ่กระจายฟูฟ่องเป็นวงกว้างเต็มระเบียง
.
“แล้วคนอยู่ตรงไหนวะ? , มันใช่คนรึเปล่าเหอะ?”
หนึ่งในลูกน้องกระซิบบ่น
.
เจ้าหน้าที่รายนี้สัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัย อุปกรณ์ไม่เคยพลาดสักครั้งก็จริง แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่มีโอกาสผิดสักหน่อย เขาถึงกับขึ้นไกปืนยิงลูกดอกอาบยาสลบรอเอาไว้
.
.
เปลี่ยนมุมกล้องสลับฝั่งไปหากระเทยควายผู้หัวหมอ ดูเหมือนศึกระหว่างเภสัชกรหนุ่มกับแก๊งค์แพทย์วัยรุ่นจะจบยกแรกลงด้วยชัยชนะของฝั่งยา พีอยู่ในสถาพที่ชุ่มโชก เนื้อตัวเขาเปียกปอนและเหม็นคลุ้งไปด้วยสสารเหลวที่บรรจงหยิบยกมาใช้ได้อย่างทันท่วงที ว่าแต่มันคืออะไรกันล่ะ? เรื่องนี้คงต้องตามอ่านกันในตอนต่อไป
/พี.. มีเจ้าหน้าที่บุกขึ้นไปบนตึก/แพรวส่งข้อความแชทมาทางโทรศัพท์./เออ..กูเห็นล่ะ/ปลายนิ้วบิ๊กเบิ้มแต่พิมพ์ตอบได้เร็วเป็นจรวด กระเทยหนุ่มเครียดจัด./มึงอยู่ไหน?/./หลังห้อง.. ตรงระเบียง/./รีบหนีด่วน ด้านล่างมีกระเทยกับทอมโดนจับเข้ารถผู้ต้องขังเพียบ พวกเขาจะเอาไปขังต่อที่ไหนไม่รู้ น่ากลัวมาก!/.สิ้นสุดข้อความนี้แพรวก็ยืนก้มหน้าจ้องจอสมาร์ทโฟนอยู่นาน สลับกับการแหงนหน้ามองไปยังห้องของพีที่อยู่ชั้นบนสุด แน่นอนว่าเธอมองเห็นระเบียงก็จริง แต่ด้วยความที่ตึกอพาร์ทเม้นท์นั้นสูงลิบตามาก ร่างหนาของเพื่อนจึงมิอาจสังเกตเห็น .ประกอบกับเมื่ออยู่นานเข้าเจ้าหล่อนเองก็ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย กล่าวคือมีเจ้าหน้าที่ในชุด PPE เข้ามาสอบถามว่าเหตุใดเธอถึงมายืนด่อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงนี้ ประชาชนคนอื่นเขาอยู่ในเคหะสถานล็อคดาวน์หนีการติดเชื้อกันหมด แต่ด้วยความที่แพรวมีไหวพริบปฏิภาณดีเลิศบวกกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือ สัญชาตญาณจึงบอกทันทีว่าจะให้เจ้าหน้าที่เห็นบทสนทนาในแชทไม่ได้เป็นอันขาด ทางออกของเธอจึงเป็น...“ฮัลโหล.. แม่เหรอคะ? ใช่ค่ะ! ใช่แม่..แป๊บนะเดี๋ยวหนูรีบเข้าไป”.“ค่ะแม่! เดี๋ยวนี้แหละ ตอนน
“โครมมม!”.“หึ! ทำไมประตูบานนี้พังเข้ามาง่ายจัง เหมือนแค่วางพิงไว้เฉย ๆ เลย?”เจ้าหน้าที่ผู้ถือวิทยุหันมาคุยกับเพื่อน พวกเขาทำแบบนี้กับทุกห้องและล่าตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงที่เป็นชาวสีม่วงผิดเพศ ลงไปกักขังไว้ด้านล่างได้หลายรายแล้ว.“ระวังตัวด้วยล่ะ อาจจะเป็นกับดักก็ได้ คนข้างในอาจจะมีอาวุธ”เสียงทีมที่มาด้วยกันร้องเตือน.“อืม..จริง ทุกคนระวังตัวด้วยนะ!”เขาตะโกนบอกทุกคนพลางกระชับวิทยุไว้จนมือเปียก โดยทุกคนที่พูดถึงนั้นก็มีทั้งกระสอบป่าน , ปืนช็อตไฟฟ้า , แล้วก็ลูกดอกอาบยาสลบ.ประหนึ่งรู้มาก่อนกาล ว่าที่นี่คือห้องของพีกระเทยควายรูปร่างสูงโปร่งแห่งทุ่งบางกะปิ ผู้ซึ่งบัดนี้กำลังหมดแรงอ่อนล้าหลังเพิ่งผ่านการถ่างขาสังวาชกับเพื่อนสาวมาหยก ๆ.“สองคนทิศ 12 นาฬิกา อีกคนมากับฉัน! ชิดกำแพงไว้! เราจะโอบจากด้านข้าง!”.“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”.ฝ่าเท้าโหมกระหน่ำโรมรันไม่มีการย่องเบาแบบภารกิจสายลับใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม ส่วนหนึ่งก็เพราะอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแขน ที่มีการแจ้งเตือนอย่างแน่ชัดว่าในห้องแห่งนี้มีชาวรักร่วมเพศอาศัยอยู่ เลือดของพวกเขากำลังเป
จ้วงขาออกไปพร้อมกับการเชิดหน้า บานประตูกลายเป็นที่รองตีนให้เหยียบย่ำ ประดังความแค้นสุมทรวงทำให้แพรวแสดงออกเช่นนี้ เธอหยุดเจรจาพาทีมุ่งหน้าออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้โดยเร็ว และถึงแม้ว่าพีจะพยายามตะโกนไล่หลังพลันวิ่งเปลือยท่อนบนออกมาตาม แพรวก็ไม่สนอีกแล้ว.“อีแพรวเดี๋ยว! ชุดมึงมันไม่เรียบร้อย มึงจะโนบลาออกไปเดินโทง ๆ ไม่ได้!”.เห็นแต่แผ่นหลังเดินลงบันไดไปไกลลิบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงตามสไตล์ของคนที่เพิ่งเสียตัว พีหยุดแล้วแต่แพรวไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้วแพรวก็ไม่ใช่องคุลีมาล ไม่มีทางที่จะตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง กระเทยหนุ่มเลยต้องปล่อยเลยตามเลยเดินวกกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับยกบานประตูทั้งบานเอาไปประกบไว้คืนที่เดิม.“อีห่า! ค่าส่วนกลางกูก็ต้องจ่ายอีก! ขอให้มึงไม่ท้องอย่าให้กูต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการแต่งมึงเป็นเมียเลยอีแพรว!”..ตัดภาพมาที่หญิงสาวเพื่อนสนิท เธอยังคงมุ่ยหน้าเดินเหวี่ยงลงบันไดมาด้วยความหงุดหงิด ห้องของพีอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 5 ซึ่งไม่สูงพอที่จะทำให้อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีลิฟท์ไว้อำนวยความสะดวก สาวเจ้าจึงได้แต่เดินแล้วก็เดิน เดินไปคิดไปว่ายังไงซะสถานที่ ๆ จะไปก็คงไม่พ้
“วางถุงกาวแล้วตั้งสติ” ถ้าเป็นวลีฮิตสมัยก่อนต้องใช้คำนี้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องบอกเลยว่าพลาดที่ไม่ได้ใส่ถุง แพรวลุกขึ้นพรวดจากโซฟาเธอเดินไปเก็บเสื้อผ้า ค่อย ๆ ทยอยสวมใส่ทีละชิ้นด้วยความใจเย็น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าใส่ไปก็มีแต่รอยขาดจากการถูกกระชากก็ตามที.“……”เงียบเป็นเป่าสาก สาวเจ้าสวมเสื้อนอกตัวบางเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่หน้าประตู.“มึงจะไปไหน?” พีถาม เขาถูฝ่ามือขยี้หน้าตัวเอง .กระเทยควายอยู่ในอาการจิตตกขั้นสุด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เซลล์อสุจิงอกอยู่ในช่องคลอดเพื่อน แพรวจึงโพล่งคำขึ้น.“ก็ไปหาทางแก้ปัญหาไง! กูขอถอนคำพูดที่ว่าไม่เป็นไรนะพี!”“ไอ้พวกผู้ชายสารเลว หน้าไหนก็ไม่ต่างจากหมา ตอนเอาก็ทำรุนแรงพอเลยเถิดทำเรื่องแดง แม่งเห็นมีแต่ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละที่เดือดร้อน!”“เหี้ยเอ๊ย! ทำไมมึงปล่อยในวะ อีสัด..ด..ด..ด!”กำหมัดแน่นแถมยังกัดกรามเค้นเสียงสั่นในลำคอ ดูทรงแล้วแพรวคงจะโกรธมากจริง ๆ.แข้งขาเธออ่อนยวบยาบไปหมด แค่นึกถึงกลีบผกาก็สั่นไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันไหมแต่เหมือนแพรวจะรู้สึกว่าจุดซ่อนเร้นข้างในนั้นช่างชุ่มแฉะ โกรธจนหยาดน้ำเสียวเล็ดซึมอ
ภายใต้ผนังห้องที่ทึบตันอับทึบแสง แดดจะแยงยังยากลำบาก มิหนำซ้ำยังถูกพอกทับด้วยกระดาษกาวนานาชนิดที่ปิดผนึกทุกอย่างเอาไว้กันเชื้อโรค ให้ตายเถอะถ้าไม่ขาดใจตายก็มีแต่จะร้อนตายกันเท่านั้น เพื่อนซี้ที่เพิ่งได้กันเลยค่อย ๆ เผยอเปลือกตาสะลึมสะลือขึ้น.แพรวลุกขึ้นได้ก่อนเธอเห็นทุกอย่างขาวพร่าดวงตายังไม่โฟกัส แต่สติยังอยู่ดีไม่ได้ความจำเสื่อม กลีบผกายังคงแสบเสียวสะท้อนให้เห็นว่ากระเจี๊ยวที่แยงแหย่นั้นเร่าร้อนขนาดไหน.“ซีดดด.. มึนหัวจัง”พูดพลันเอื้อมมือไปคว้าเอาเสื้อยืดตัวบางมาสวมใส่แบบโนบลา ก่อนจะนั่งลงห้อยขาโน้มตัวมาด้านหน้าทำสีหน้าเศร้า.“มึงเป็นไงบ้างพี..?”.ร่างใหญ่ตวัดพลิกดีดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเนื้อตัวดำกร้านของเขากลืนไปกับบรรยากาศห้องที่มืดหม่น เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เอามือผสานกันวางไว้ที่ตักแบบเดียวกับที่แพรวทำ.“ครือ..อ..อ..อ..อ~!”เสียงแอร์ดังกลบทุกสรรพสิ่ง ราวกับว่าต่างคนต่างรอให้อีกคนมีปฏิกิริยาก่อน .“เราได้กันแล้ว..”พีเปิดประเด็น.“กูขอโทษ~ กูไม่เมาหรอก~ กูไม่~ แบบ..บ..บ..บ”“เหี้ยเอ๊ย! แม่งทำอะไรลงไปวะ?”ตีอกชกตัวทำทุกอย่างที่มีความรุนแรง แต่ใบหน้าดำคล้ำ
ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก.“หนีทำไม?”เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก.“…….”แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา.“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”.ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่