“โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. โฮ่.. โฮ่!”
.
ภาพในจินตนาการคือทาซานมาโผล่กลางกรุง แม้รูปร่างตัวเองจะเหมือนกับสัตว์ป่ามากกว่าคน แต่พีก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว อะดรีนาลีนหลั่งยิ่งกว่าตอนมีเซ็กส์ จับทุกสิ่งทุกอย่างมาผูกรวมกันด้วยเงื่อนพิรอด อันเป็นศัพท์แสงจากวงการลูกเสือที่เคยเรียนมาเมื่อครั้งเป็นเด็ก
.
“ซ้ายทับขวา.. ขวาทับซ้าย.. แล้วก็ดึง.. สติพี! สติ! อย่าล่กใจเย็นเข้าไว้!”
“ชื่อมันก็บอกว่าเงื่อนพิรอด เราต้องรอดสิวะจะมิรอดได้ไง!”
.
บ่นพึมพำกับตัวเองโดยไม่แคร์ว่าใครจะได้ยินไหม ณ ตอนนี้กล่องลังเบียร์เริ่มจะยุบ มองเข้าไปเห็นแม้กระทั่งดวงตาของคุณหมอที่ส่องทะลุเลนส์แว่นตรวจจับความร้อนสวนออกมา พวกเขาเห็นพีเต็ม ๆ เห็นชัดแจ่มแจ้ง แถมยังวิทยุรายงานเป็นพัลวันว่ามีคนบ้าแก้ผ้าอยู่ตรงระเบียง
.
“ว๊ายยยย!”
“ไม่! เราไม่มีเวลากรี๊ดดด! เราต้องรีบเหวี่ยงตัวลงไปก่อนจะถูกจับ”
.
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา กระเทยหนุ่มจัดแจงทิ้งปลายเชือกที่ทำขึ้นจากเสื้อผ้าทั้งหลายลงไปยังระเบียงห้องเด็กด้านล่าง พลางบรรจงใช้ปลายอีกด้านมัดกับราวเหล็กกันตกของห้องตัวเอง โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเจ้าสิ่งนั้น
.
“กางเกงในชายของฉัน! ฉันเลือกนายแล้วนะ!”
.
พีอธิษฐานเขาคิดเช่นนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาหวังจะใช้ขอบยางยืดของมันเป็นตัวรับน้ำหนัก กะว่าถ้าเชือกที่มัดเกิดยาวไม่พอขี้นมา ถ้าออกแรงขย่มนิดหน่อยขอบยางย้วย ๆ ก็น่าจะขยายจนขาของเขาเอื้อมไปแตะถึงพื้นระเบียงด้านล่างได้โดยสวัสดิภาพ
.
“ฮึบ! เอาล่ะไปกันเลย!”
.
“สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!!!”
.
"ย๊ากกก!!!"
.
ชั่วเสี้ยวอึดใจร่างทั้งร่างพร้อมทั้งความเปล่าเปลือยอันสุดแสนจะวิตถาร ก็ทะยานพ้นออกไปจากนอกระเบียงชั้น 5 ตัวของเขาหล่นตุบลงมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก็ถือว่าเร็วพอดิบพอดีกับที่กล่องลังเบียร์พังครือลงมา ค้อนปอนด์ระดมทุบ หัวไหล่ช่วยกันดันประมาณสิบกว่าครั้ง ระเบียงห้องด้านนอกก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าคุมพื้นที่ แต่ก็เหมือนจะช้าเกินไป!
.
เมื่อจู่ ๆ ก็มีชายผ้าหลายผืนถูกลมตีพัดขึ้นมาจากด้านล่าง แล้วพอพวกเขาพากันชะโงกหน้าลงไปมอง ก็พบแต่ราวตากผ้าเปล่า ๆ ที่ล้มระเนระนาดกระจัดกระจาย มิหนำซ้ำยังได้ยินเสียงเด็กร้องดังระงม ตามติดมาด้วยเสียงของคนเป็นแม่ที่กรี๊ดซะจนดังสนั่น ตอกย้ำว่าข้อสันนิษฐานของหัวหน้าหน่วยไม่น่าจะผิด เขารีบชะโงกหน้ากลับคืนมาพลางสั่งการให้ลูกทีมวิ่งลงไปเช็คด้านล่าง เป้าหมายน่าจะอยู่ที่นั่นและนำหน้าพวกเขาไปแล้วก้าวหนึ่ง
.
“ข้างล่างคราวนี้ชัวร์! เร็ว! รีบไป!”
.
“แล้วเหล้านองพื้นพวกนี้ กับสถานที่เกิดเหตุล่ะครับ?”
.
“ช่างมัน! เรามีอำนาจตามพรก.ฉุกเฉินอยู่ อีกเดี๋ยวหน่วยเก็บกวาดจะเข้ามาเคลียร์เอง เร็วเข้า! อย่ามัวแต่ถามเซ้าซี้!”
.
“ครับ!”
.
กลับหลังหันเก็บเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ ก่อนที่ทั้งหมดราว 5 - 6 ชีวิตจะมูฟตัวเองออกจากห้องของพีไปด้วยความรวดเร็ว พวกเขาทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้เพียบ
.
.
3 นาทีผ่านไป
.
ใครจะเชื่อว่าศึกครั้งนี้พีจะเป็นผู้ชนะอีกครั้ง หลังแพทย์เชิงรุกทั้งหน่วยได้ถูกนักศึกษาเภสัชแหกตาเข้าอีกหน เพราะแท้จริงแล้วพียังคงห้อยโตงเตงอยู่ที่เดิม เขาไม่ได้โรยตัวลงไปเหยียบพื้นระเบียงห้องด้านล่าง ไม่ได้มีการทำลายข้าวของหรือบุกเข้าไปในห้องเด็กอ่อน ที่มีการตากผ้าอ้อมไว้ด้านหลังแต่อย่างใด
.
สิ่งที่ทำก็แค่เหยียดปลายเท้าไปสะกิดเขี่ยเอาผ้าอ้อมเด็กให้ปลิวละล่อง ลมแรง ๆ จากด้านล่างพัดผ้าผืนบางให้กระพือขึ้นไปรบกวนสายตาของเจ้าหน้าที่ ทำให้พวกเขาเข้าใจผิด ประกอบกับโมเมนตัมจากการแกว่งไกวที่ส่งลำขาไปพาดเข้ากับราวตากผ้าโดยบังเอิญ ทำให้ทั้งราวล้มครือลงมาเสียงดัง “โครมมมม!" จนเบบี๋น้อยเจ้าของห้องต้องคลานออกมาดูแล้วก็ร้องตามประสาเด็ก
.
“อุแว้! , อุแว้! , อุแว้! , แงงงง! , แงงงงง! , อุแว้!”
.
สาบานได้ว่าสงสารเด็กจับใจ เกิดมาเป็นคนทั้งทีทำไมต้องมาเห็นความอนาจารเช่นนี้ตั้งแต่แรกเกิด หนูน้อยมองเห็นร่างเปลือยล่อนจ้อนกำลังกระเถิบขากระดืบ ๆ กลับขึ้นไปสู่มาตุภูมิด้วยความทุลักทุเล ด้วยความสัตย์จริงว่าพีไม่มีเสื้อผ้าสักตัว เขาโป้หมดเปลือก แถมยังโคตรกลัวที่ต้องมาฝากชีวิตตัวเองไว้กับขอบยางยืดของกางเกงในตัวเก่า
.
“อย่าขาดน่ะเว๊ย~! อย่าขาดเชียวนะ~!”
“แต่ก็ดี! ร้องเข้าเจ้าหนู! ร้องดัง ๆ ช่วยล่อเจ้าหน้าที่ให้ออกไปจากห้องฉันหน่อย”
พีคิดในใจ ในขณะที่สองมือก็ออกแรงดึงตัวเองขึ้นไปด้วย
.
“นี่ถ้ามีแม่เธอโผล่มาด้วยจะดีมากเลย คงช่วยฉันได้มาก!"
"ฮึบ! , ฮึบ! , อึบ! , ฮึบ!”
.
เดชะบุญเพราะหล่อนดันออกมาจริง ๆ เจตนาก็คงจะเป็นการเดินออกมาดูลูกว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า เพราะเมื่อสักครู่คุณแม่ก็เพิ่งได้ยินเสียงของล้ม ซึ่งผลที่ตามมาก็แน่นอน! กรี๊ดสนั่นบ้านแตก! เสียงแผดร้องดังสยดสยองมาก! จนนำมาสู่การวิ่งกรูลงไปดูของเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ตามที่เห็น
.
“ฮึบ!”
“อ่าาา..ใกล้ถึงแล้ววว"
.
“อึบ!”
“อีกนิดเดียววว~!”
.
“เยส!”
"ถึงแล้วเ! รอดตายไปที!”
.
ไม่แม้แต่จะหยุดพักหรือซับเหงื่อพีรีบยิ่งกว่าสิ่งใด เขาจัดแจงหาเสื้อผ้ามาสวมใส่พลันหยิบโทรศัพท์ยัดลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะวิ่งผ่านประตูหน้าห้องที่พัง แล้วเลี้ยวไปทางขวามุ่งตรงดิ่งไปยังอีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นทางหนีไฟของอพาร์ทเม้นท์
.
“แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ ถ้าเป็นที่นั่นเราต้องรอดออกไปได้แน่ แฮ่กๆ แฮ่กๆ ”
“สร้างมาเป็นสิบปีไม่เคยมีใครใช้ทางหนีไฟตรงนี้สักคน คงไม่มีเจ้าหน้าที่ไปดักหรอก!”
กระเทยหนุ่มวิเคราะห์ ในขณะจ้วงเท้าวิ่งหนีไปด้วย
.
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังรัวรันพอ ๆ กับเสียงหัวใจ ชะตากรรมของเขากำลังจะได้พบกับแสงสว่างภายในไม่ช้า เพราะวิ่งลงบันไดนั้นไม่เหนื่อยเท่าตอนวิ่งขึ้น เผลอแป๊บเดียวด้วยความมุมานะเขาก็ทะยานเอาตัวเองออกมาสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พีทำได้ทั้ง ๆ ที่กลุ่มหมอมากมายยังคงวุ่นวายกับการสอบสวนคุณแม่บนชั้น 4
.
.
“แฮ่ก ๆ เฮ้อ~! เอาล่ะคราวนี้ทำไงต่อดี?”
หนุ่มข้ามเพศทอดสายตาไปรอบ ๆ แล้วก็ถึงกับต้องย่อตัวลงซ่อนตัวโดยพลัน เพราะสิ่งที่แพรวแช็ทมาเตือนนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด จากมุมมองหลังพุ่มไม้ตรงนี้ พีมองเห็นกระเทยกับทอมถูกจับขังกรงราวกับสัตว์ป่า พวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถผู้ต้องหาแบบเดียวกับที่นักโทษอุกฉกรรจ์ได้รับ
.
“ชิ! คงต้องโทรหาอีแพรวสินะ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้วเราต้องให้มันช่วย!”
.
“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน! ไม่ได้สิ! ขืนโทรไปก็จะมีเสียงเกิดขึ้น ถ้าพวกนั้นได้ยินเข้าเราก็จบ! ต้องใช้การแชทเราต้องหาที่เหมาะ ๆ พอที่จะหลบหน้ากลุ่มคนพวกนี้ไปให้ได้ก่อน”
.
พูดกับตัวเองเสร็จสายตาก็เริ่มทำงาน พีพยายามสอดส่องมองหาอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท AP เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน สิ่งนั้นมีหน้าตาคล้ายกับตู้กดน้ำอัดลมแบบหยอดเหรียญ ต่างกันแค่ภายในมีไว้สำหรับขายหน้ากากอนามัยแบบครอบแก้ว ไม่ได้มีไว้ขายเครื่องดื่มเหมือนเช่นปกติ
.
“ให้มันได้อย่างงี้สิวะ พอจะใช้ดันหาไม่เจอ! คอยดูเถอะถ้าเจอเมื่อไหร่เราจะยัดหัวเข้าไปให้ไวเลย โผล่ออกมาจะได้ไม่มีใครจำเราได้ แล้วอะไร ๆ ก็จะง่ายขึ้นเยอะ"
“โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. โฮ่.. โฮ่!”.ภาพในจินตนาการคือทาซานมาโผล่กลางกรุง แม้รูปร่างตัวเองจะเหมือนกับสัตว์ป่ามากกว่าคน แต่พีก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว อะดรีนาลีนหลั่งยิ่งกว่าตอนมีเซ็กส์ จับทุกสิ่งทุกอย่างมาผูกรวมกันด้วยเงื่อนพิรอด อันเป็นศัพท์แสงจากวงการลูกเสือที่เคยเรียนมาเมื่อครั้งเป็นเด็ก.“ซ้ายทับขวา.. ขวาทับซ้าย.. แล้วก็ดึง.. สติพี! สติ! อย่าล่กใจเย็นเข้าไว้!”“ชื่อมันก็บอกว่าเงื่อนพิรอด เราต้องรอดสิวะจะมิรอดได้ไง!”.บ่นพึมพำกับตัวเองโดยไม่แคร์ว่าใครจะได้ยินไหม ณ ตอนนี้กล่องลังเบียร์เริ่มจะยุบ มองเข้าไปเห็นแม้กระทั่งดวงตาของคุณหมอที่ส่องทะลุเลนส์แว่นตรวจจับความร้อนสวนออกมา พวกเขาเห็นพีเต็ม ๆ เห็นชัดแจ่มแจ้ง แถมยังวิทยุรายงานเป็นพัลวันว่ามีคนบ้าแก้ผ้าอยู่ตรงระเบียง.“ว๊ายยยย!”“ไม่! เราไม่มีเวลากรี๊ดดด! เราต้องรีบเหวี่ยงตัวลงไปก่อนจะถูกจับ”.ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา กระเทยหนุ่มจัดแจงทิ้งปลายเชือกที่ทำขึ้นจากเสื้อผ้าทั้งหลายลงไปยังระเบียงห้องเด็กด้านล่าง พลางบรรจงใช้ปลายอีกด้านมัดกับราวเหล็กกันตกของห้องตัวเอง โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเจ้าสิ่งนั้น.“กางเกงใ
กำมือถือเอาไว้พอหลวม ๆ พียังคงรู้สึกสำนึกบุญคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าที่เตือนสติเขาให้ปิดเครื่องได้ทันเวลา เพราะเสียงข้อความเพียงเล็กน้อย ก็มากพอที่จะเปิดเผยสถานที่ซ่อนลับของเขาให้เป็นที่ประจักษ์ได้ .“อีแพรว! อีห่า! เกือบทำกูงานเข้าแล้วไหมล่ะ?”กระเทยควายพร่ำบ่นกับตัวเอง ในขณะที่หัวใจก็สั่นรัวราวกับกลองชุด.เรียกได้ว่างานนี้ถ้าไม่ได้ทักษะการเป็นนักดื่มตัวยงช่วยไว้เขาคงไม่รอด เพราะประตูทึบตันที่เจ้าหน้าที่เคยบอกแท้ที่จริงก็คือกล่องลังเบียร์จำนวนมาก ที่พีดื่มแล้วก็โยนขวดทิ้งไว้ตรงระเบียงด้านหลัง ดูจากตาเปล่าน่าจะมีมากถึง 1,000 - 2,000 ขวด เขาจับขวดเหล่านั้นยัดใส่กล่องแล้วก็วางเรียงไว้เป็นชั้น ๆ โดยหวังว่าสักวันจะเรียกคุณลุงซาเล้งค้าของเก่าขึ้นมาขนไปขาย.ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นพวกมันนี่เองที่พีใช้ลากมาขวางประตู ปริมาณที่มากบวกกับรูปทรงที่สอดรับกัน ทำให้เกิดสภาวะทึบตันตรงทางเข้าระเบียง จากอีกฝั่งพวกเจ้าหน้าที่จะเห็นเป็นเพียงกำแพงกระดาษสีน้ำตาลเท่านั้น ครั้นพอคิดที่จะผลักหรือดันเข้าไปกลุ่มลังบรรจุขวดก็จะพากันเซ็ตตัวนิ่งตรึงติดแน่น อันเป็นผลพวงมาจากรูปแบบการเรียงซ้อนที่ชิดกันสุด ๆ ชิดจนไ
/พี.. มีเจ้าหน้าที่บุกขึ้นไปบนตึก/แพรวส่งข้อความแชทมาทางโทรศัพท์./เออ..กูเห็นล่ะ/ปลายนิ้วบิ๊กเบิ้มแต่พิมพ์ตอบได้เร็วเป็นจรวด กระเทยหนุ่มเครียดจัด./มึงอยู่ไหน?/./หลังห้อง.. ตรงระเบียง/./รีบหนีด่วน ด้านล่างมีกระเทยกับทอมโดนจับเข้ารถผู้ต้องขังเพียบ พวกเขาจะเอาไปขังต่อที่ไหนไม่รู้ น่ากลัวมาก!/.สิ้นสุดข้อความนี้แพรวก็ยืนก้มหน้าจ้องจอสมาร์ทโฟนอยู่นาน สลับกับการแหงนหน้ามองไปยังห้องของพีที่อยู่ชั้นบนสุด แน่นอนว่าเธอมองเห็นระเบียงก็จริง แต่ด้วยความที่ตึกอพาร์ทเม้นท์นั้นสูงลิบตามาก ร่างหนาของเพื่อนจึงมิอาจสังเกตเห็น .ประกอบกับเมื่ออยู่นานเข้าเจ้าหล่อนเองก็ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย กล่าวคือมีเจ้าหน้าที่ในชุด PPE เข้ามาสอบถามว่าเหตุใดเธอถึงมายืนด่อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงนี้ ประชาชนคนอื่นเขาอยู่ในเคหะสถานล็อคดาวน์หนีการติดเชื้อกันหมด แต่ด้วยความที่แพรวมีไหวพริบปฏิภาณดีเลิศบวกกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือ สัญชาตญาณจึงบอกทันทีว่าจะให้เจ้าหน้าที่เห็นบทสนทนาในแชทไม่ได้เป็นอันขาด ทางออกของเธอจึงเป็น...“ฮัลโหล.. แม่เหรอคะ? ใช่ค่ะ! ใช่แม่..แป๊บนะเดี๋ยวหนูรีบเข้าไป”.“ค่ะแม่! เดี๋ยวนี้แหละ ตอนน
“โครมมม!”.“หึ! ทำไมประตูบานนี้พังเข้ามาง่ายจัง เหมือนแค่วางพิงไว้เฉย ๆ เลย?”เจ้าหน้าที่ผู้ถือวิทยุหันมาคุยกับเพื่อน พวกเขาทำแบบนี้กับทุกห้องและล่าตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงที่เป็นชาวสีม่วงผิดเพศ ลงไปกักขังไว้ด้านล่างได้หลายรายแล้ว.“ระวังตัวด้วยล่ะ อาจจะเป็นกับดักก็ได้ คนข้างในอาจจะมีอาวุธ”เสียงทีมที่มาด้วยกันร้องเตือน.“อืม..จริง ทุกคนระวังตัวด้วยนะ!”เขาตะโกนบอกทุกคนพลางกระชับวิทยุไว้จนมือเปียก โดยทุกคนที่พูดถึงนั้นก็มีทั้งกระสอบป่าน , ปืนช็อตไฟฟ้า , แล้วก็ลูกดอกอาบยาสลบ.ประหนึ่งรู้มาก่อนกาล ว่าที่นี่คือห้องของพีกระเทยควายรูปร่างสูงโปร่งแห่งทุ่งบางกะปิ ผู้ซึ่งบัดนี้กำลังหมดแรงอ่อนล้าหลังเพิ่งผ่านการถ่างขาสังวาชกับเพื่อนสาวมาหยก ๆ.“สองคนทิศ 12 นาฬิกา อีกคนมากับฉัน! ชิดกำแพงไว้! เราจะโอบจากด้านข้าง!”.“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”.ฝ่าเท้าโหมกระหน่ำโรมรันไม่มีการย่องเบาแบบภารกิจสายลับใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม ส่วนหนึ่งก็เพราะอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแขน ที่มีการแจ้งเตือนอย่างแน่ชัดว่าในห้องแห่งนี้มีชาวรักร่วมเพศอาศัยอยู่ เลือดของพวกเขากำลังเป
จ้วงขาออกไปพร้อมกับการเชิดหน้า บานประตูกลายเป็นที่รองตีนให้เหยียบย่ำ ประดังความแค้นสุมทรวงทำให้แพรวแสดงออกเช่นนี้ เธอหยุดเจรจาพาทีมุ่งหน้าออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้โดยเร็ว และถึงแม้ว่าพีจะพยายามตะโกนไล่หลังพลันวิ่งเปลือยท่อนบนออกมาตาม แพรวก็ไม่สนอีกแล้ว.“อีแพรวเดี๋ยว! ชุดมึงมันไม่เรียบร้อย มึงจะโนบลาออกไปเดินโทง ๆ ไม่ได้!”.เห็นแต่แผ่นหลังเดินลงบันไดไปไกลลิบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงตามสไตล์ของคนที่เพิ่งเสียตัว พีหยุดแล้วแต่แพรวไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้วแพรวก็ไม่ใช่องคุลีมาล ไม่มีทางที่จะตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง กระเทยหนุ่มเลยต้องปล่อยเลยตามเลยเดินวกกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับยกบานประตูทั้งบานเอาไปประกบไว้คืนที่เดิม.“อีห่า! ค่าส่วนกลางกูก็ต้องจ่ายอีก! ขอให้มึงไม่ท้องอย่าให้กูต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการแต่งมึงเป็นเมียเลยอีแพรว!”..ตัดภาพมาที่หญิงสาวเพื่อนสนิท เธอยังคงมุ่ยหน้าเดินเหวี่ยงลงบันไดมาด้วยความหงุดหงิด ห้องของพีอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 5 ซึ่งไม่สูงพอที่จะทำให้อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีลิฟท์ไว้อำนวยความสะดวก สาวเจ้าจึงได้แต่เดินแล้วก็เดิน เดินไปคิดไปว่ายังไงซะสถานที่ ๆ จะไปก็คงไม่พ้
“วางถุงกาวแล้วตั้งสติ” ถ้าเป็นวลีฮิตสมัยก่อนต้องใช้คำนี้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องบอกเลยว่าพลาดที่ไม่ได้ใส่ถุง แพรวลุกขึ้นพรวดจากโซฟาเธอเดินไปเก็บเสื้อผ้า ค่อย ๆ ทยอยสวมใส่ทีละชิ้นด้วยความใจเย็น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าใส่ไปก็มีแต่รอยขาดจากการถูกกระชากก็ตามที.“……”เงียบเป็นเป่าสาก สาวเจ้าสวมเสื้อนอกตัวบางเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่หน้าประตู.“มึงจะไปไหน?” พีถาม เขาถูฝ่ามือขยี้หน้าตัวเอง .กระเทยควายอยู่ในอาการจิตตกขั้นสุด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เซลล์อสุจิงอกอยู่ในช่องคลอดเพื่อน แพรวจึงโพล่งคำขึ้น.“ก็ไปหาทางแก้ปัญหาไง! กูขอถอนคำพูดที่ว่าไม่เป็นไรนะพี!”“ไอ้พวกผู้ชายสารเลว หน้าไหนก็ไม่ต่างจากหมา ตอนเอาก็ทำรุนแรงพอเลยเถิดทำเรื่องแดง แม่งเห็นมีแต่ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละที่เดือดร้อน!”“เหี้ยเอ๊ย! ทำไมมึงปล่อยในวะ อีสัด..ด..ด..ด!”กำหมัดแน่นแถมยังกัดกรามเค้นเสียงสั่นในลำคอ ดูทรงแล้วแพรวคงจะโกรธมากจริง ๆ.แข้งขาเธออ่อนยวบยาบไปหมด แค่นึกถึงกลีบผกาก็สั่นไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันไหมแต่เหมือนแพรวจะรู้สึกว่าจุดซ่อนเร้นข้างในนั้นช่างชุ่มแฉะ โกรธจนหยาดน้ำเสียวเล็ดซึมอ