พอมุดช่องขยะหมาลอดเข้ามาได้ กลุ่มแก๊งค์เพื่อนสาวก็เจอโต๊ะกลมตัวหนึ่งที่มีเก้าอี้วางรอบอยู่ 3 ด้าน เหล้า , โซดา , น้ำแข็งวางให้พร้อม ท่ามกลางกลุ่มโต๊ะตัวอื่น ๆ ที่ถูกลากไปกองไว้ริมห้อง มีการนำเชือกฟางมาขึงกั้นบริเวณ พร้อมกับป้ายกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ห้ามเคลื่อนย้าย รอการฆ่าเชื้อ" ตอกย้ำว่าโต๊ะตัวนี้เป็นอะไรที่พิเศษจริง ๆ ถ้ามิวท์ไม่ลงทุนอ่อยเด็กเฝ้าร้านหน้าง่อยก็คงไม่ยอมทำให้ขนาดนี้
.
ชายคนดังกล่าวมูล์ฟตัวเองไปหลบอยู่หลังเคาเตอร์ เขาจ้องมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดไว้บนฝาตลอด เป็นนัยว่าใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิวเมื่อไหร่จะไล่ 3 คนนี้ออกไปทันทีโดยไม่สนหน้าอินน์หน้าพรหม
.
"เชิญครับ! , ผมจัดทุกอย่างไว้ให้แล้ว ขอติปพิเศษด้วยล่ะตามที่ตกลงกันไว้!"
.
"ย่ะ! รู้แล้วๆ! เหล้าก็เหล้าฉัน! เต๊ะท่าอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ.. ไอ้บ้านนอก!"
พีมองบนใส่พลางใช้ฝ่ามือปัดตามตัว เอาคราบสกปรกจากเศษขยะออก
.
ทำให้มิวท์ต้องรีบเข้ามาฉุดกระชากแขน เธอช่างแสนดีเหลือเกิน บอกตามตรงว่าถ้าวัดกันแค่ไม่กี่ตอนที่ผ่านมา มิวท์ยังเหมาะจะเป็นนางเอกมากกว่าแพรวซะอีก เธอดุนหลังเพื่อนให้รีบไปนั่งที่โต๊ะขณะเดียวกันก็หันมาโค้งศีรษะให้เด็กเฝ้าร้านคนเดิม
.
บรรยากาศมาคุเกิดขึ้นในชั่วขณะจิต เมื่อแพรวผมแดงใช้หลังเท้าเกี่ยวเอาขาเก้าอี้เข้ามานั่ง หล่อนตวัดทีเดียวก้นงอน ๆ ก็ประจำจุด เท้าแขนทุบโต๊ะโครม ๆ จนถังน้ำแข็งกระเพื่อม
.
"มันสารเลวจริง ๆ นะ! ไอ้พี่เปรมเนี่ยะ! พวกแกรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้มันทำอะไรกับฉันบ้าง!"
"หึ....ฮือ....ฮือ....อ...อ....อ...อ"
.
"กรอดๆๆๆ"
พูดไปพลางน้ำตาหยดติ๋ง ๆ แต่ครานั้นก็ยังกัดกรามแน่น
.
"แกก็เว่อร์เกินไป.. บางทีแกอาจจะคิดเองเออเองก็ได้.. พี่เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับแกตั้งแต่แรก แบบนี้ยังไม่นับว่าอกหักหรอก"
พีพูดพลางพยายามจะหย่อนตูดลงตรงเก้าอี้
.
ทว่ากลับโดนมิวท์ห้ามเอาไว้!
.
หล่อนพ่นสเปร์ยแอลกอฮอล์อีกที แล้วก็ฉีดพ่นใส่ตามโต๊ะเก้าอี้รวมไปถึงฝ่ามือของทุกคนด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยที่มีการตรวจเช็ดซ้ำอีกรอบ ด้วยการบีบเหล็กตรงสันจมูกให้แน่น ๆ
.
"ยิ่งนั่งร่วมโต๊ะกันยิ่งต้องระวัง กันไว้ดีกว่าแก้เน๊อะทุกคน^^"
.
ยิ้มตาหยีน่ารักเช่นเดิมก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสุดท้าย จัดแจงรินโซดาเทเหล้าแล้วก็ผสมจ่ายแจกเพื่อน ๆ ทำให้พีเกิดความประทับใจจนต้องพูดบางอย่างออกมา
.
"เนี่ยะเห็นไหม! ก็เพราะแกไม่หัดทำตัวดี ๆ เหมือนมิวท์เขาไง วัน ๆ แกเอาแต่กระแทกแดกดันคนอื่น พอมีคนมาทำดีด้วยก็คิดว่าเขาแอบชอบ.. หลงตัวเองชะมัด!"
.
"อีพี! นี่ฉันให้แกมาปลอบฉันนะ! แกจะมาวิจารณ์ฉันเพื่อ?!"
.
"พรวดดดดด!"
"อึก! , อึก! , อึก! , อึก!"
กระดกซดพรวดเดียวหมดแก้ว สุรานี่ไหลอาบหน้าหยาดเยิ้มลงเต็มหน้าอก
.
"ช้า ๆ ก็ได้แพรว.. มิวท์เป็นห่วง.."
เพื่อนตัวเล็กยกมือขึ้นปราม
.
"ไม่เป็นไรหรอก~ แค่นี้สบายมาก มันต้องดื่มเยอะ ๆ จะได้เล่าสนุก ๆ , ขออีกแก้ว!"
.
"อึกๆ ๆ , อึก ๆ ๆ"
.
ความมุมมามลามปามไปถึงผู้อื่นที่ต้องเดือดร้อน มิวท์ลงทุนควักกระเป๋าอีกทีคราวนี้ได้เป็นกระดาษทิชชู่ห่อหนึ่ง ก่อนจะนำมาเช็ดทำความสะอาดเสื้อที่เปื้อนให้
.
"ใจเย็น ๆ นะ จะระบายหรือพูดอะไรก็ปลดปล่อยออกมาเถอะ.. มีมิวท์อยู่ทั้งคน.. มิวท์จะเป็นกำลังใจให้แพรวเอง.. สู้สู้ ^^"
.
"อืม.. ขอบใจจ่ะ"
พยักหน้าให้เพื่อนสาวแต่หันไปเบ้ปากใส่กระเทยคิงคองแทน ต่อด้วยการเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเปรมรุ่นพี่ที่คณะออกมา
.
ซึ่งพอสรุปเป็นใจความสั้น ๆ ได้ว่า แพรวคิดว่าเปรมกำลังจีบเธอ สิ่งที่ทำให้คิดก็คือพฤติกรรมของเขาที่ทำมาตลอดหลายเดือนหลัง นับตั้งแต่ตอนต้อนรับน้องใหม่ ตอนนั้นแพรวยังเป็นเฟรชชี่แล้วก็ยังมีเพื่อนแค่ไม่กี่คน ประกอบกับทุกคนที่เรียนสาขาวิชานี้ก็เหมือนจะเป็นคนที่มีบุคลิกโลกส่วนตัวสูงกันหมด แต่ละคนคงง่วนกับการท่องจำสูตรยาหรือผลิตแคปซูลสมุนไพรอะไรเทือกนั้น แพรวเองก็เช่นกัน! เธอแทบไม่มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อยู่ในหัวสมองเลย
.
จนกระทั่งเปรมปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นรุ่นพี่ปี 3 ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล แพรวปลื้มเขาตั้งแต่แรกเห็น แค่สบตากันในแถวระเบียบเชียร์ใจเธอก็เต้นแรงผิดปกติ เธอรู้เลยว่าฮอร์โมนตัวเองกำลังปั่นป่วน มันครั่นเนื้อครั่นตัวราวกับได้เห็น Idol เกาหลีกระโดดออกมาจากจอไอแพด เปรมคือสเปคผู้ชายที่เธอชอบ ตัวสูงผิวขาวหน้าตาคมกริบ แถมยังฉลาดเป็นกรด แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในใจพลางอธิษฐานว่าวันไหน ๆ ก็ขอให้ได้เจอพี่คนนี้อีกเรื่อย ๆ
.
แต่ที่ไหนได้คำขอนั้นกลับมากกว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อจู่ ๆ เปรมก็ตรงเข้าหาเธอเอง เขาทักทายอย่างมีมารยาทแถมยังอาสาไปรับไปส่งแพรวแทบจะทุกวัน ทุกคืนเขาจะต้องโทรหาแพรวทุกครั้งพร้อมกับเล่านิทานให้ฟังอย่างกับเด็ก ๆ ตอนเช้าเวลาแพรวตื่นจะมีขนมจำพวกเค้กหรือเบเกอรี่ที่ชอบมาแขวนไว้ตรงหน้าห้องเสมอ พร้อมกับกระดาษโน๊ตที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ส่งจากรุ่นพี่ที่อยากเป็นมากกว่าพี่ชาย"
.
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมามากกว่า 3 เดือนนับตั้งแต่ที่แพรวเข้ามาใช้ชีวิตในมหาลัย ไม่สิ! มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอพบกับเปรมเลยด้วยซ้ำ! เขาจีบเธอก่อนที่เธอจะรู้จักกับพีแล้วก็มิวท์ซะอีก แต่ครานั้นเธอก็ยังเล่นตัว แพรวมักจะบอกว่าเปรมเป็นแค่พี่ชาย เป็นพี่ที่กินข้าวด้วยกันเฉยๆ เสมือนทุกอย่างยังคงแทงกั๊ก
.
กระทั่งผ่านไปครึ่งปีมันก็สุกงอมเข้าขั้น คิดได้ดังนั้นแพรวก็เลยชิงบอกรักกับเปรมก่อน แต่ทว่า! สิ่งที่ชายหนุ่มตอบกลับมาดันกลายเป็นคำปฏิเสธที่โคตรจะไร้เยื่อใย "พี่ไม่ได้คิดกับแพรวแบบนั้น" คือสิ่งที่เขาบอก มิหนำซ้ำยังพูดขึ้นมากลางร้านกาแฟอันเป็นสถานที่ ๆ มีความสำคัญสำหรับคนทั้งสองอีกต่างหาก
.
แพรว อิสรา ก็เลยเดือดอย่างที่เห็น เธออาละวาดพลางแผดเสียงอย่างไม่ไว้หน้าใคร ความรักคืออะไร? มันคือตับ , ไต , ไส้ , พุง , หรือกางเกงที่นุ่ง ให้เธอถอดออกแล้วนอนกับเขาเลยก็ได้ ไม่ใช่มาปฏิเสธและหักหน้ากันแบบนี้ จากรักกลายเป็นเกลียดแพรวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ ไม่ชอบก็น่าจะบอกมาหลอกทำดีให้กันทำไม
.
"พี่เปรมแม่งเป็นคนใจร้าย.. เขาไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลย.. ฉันมันไม่สวยตรงไหนวะ?!"
กระดกเหล้าลงคอไปอีกแก้ว กลืนแก้วได้ทั้งใบคงทำไปแล้ว แพรวหันมามองหน้ามิวท์ตาแดงก่ำ
.
"อะ...เอิ่ม..ม..ม"
เพื่อนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง มิวท์เหมือนจะเริ่มกลัว
.
"เฮ่ย! อีดอก! อีเหี้ยแพรว! มึงอย่าพาลใส่เพื่อนดิวะ.. กูว่ามึงอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แบบ.. สื่อสารกันผิดพูดกันคนละเรื่อง"
พีตั้งขอสังเกตก่อนจะกำน้ำแข็งโยนใส่แก้วเพื่อนอีกที สำทับด้วยมิวท์ที่ชงเหล้าลงไปตาม
.
"สำหรับกูนะ.. พี่เปรมแม่งไม่ได้แย่อย่างที่มึงว่าสักนิด! "
.
"ไม่จริงอ่ะ!?"
.
"ไม่จริงเหี้ยไร! มึงต่างหากที่ไม่รู้เรื่อง! กูจะบอกมึงก็ได้ว่าสิ่งที่เขาทำให้มึงน่ะจิ๊บจ๊อยมากกกกก เพราะพี่เขาก็ทำให้กูเหมือนกัน!"
.
"ห๊ะ!!"
.
.
คราวนี้ทั้งแพรวทั้งมิวท์ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน ต่อด้วยการเล่ารายละเอียดของพี ว่าเปรมเข้ามาทำดีด้วยยังไง..
ภายใต้ผนังห้องที่ทึบตันอับทึบแสง แดดจะแยงยังยากลำบาก มิหนำซ้ำยังถูกพอกทับด้วยกระดาษกาวนานาชนิดที่ปิดผนึกทุกอย่างเอาไว้กันเชื้อโรค ให้ตายเถอะถ้าไม่ขาดใจตายก็มีแต่จะร้อนตายกันเท่านั้น เพื่อนซี้ที่เพิ่งได้กันเลยค่อย ๆ เผยอเปลือกตาสะลึมสะลือขึ้น.แพรวลุกขึ้นได้ก่อนเธอเห็นทุกอย่างขาวพร่าดวงตายังไม่โฟกัส แต่สติยังอยู่ดีไม่ได้ความจำเสื่อม กลีบผกายังคงแสบเสียวสะท้อนให้เห็นว่ากระเจี๊ยวที่แยงแหย่นั้นเร่าร้อนขนาดไหน.“ซีดดด.. มึนหัวจัง”พูดพลันเอื้อมมือไปคว้าเอาเสื้อยืดตัวบางมาสวมใส่แบบโนบลา ก่อนจะนั่งลงห้อยขาโน้มตัวมาด้านหน้าทำสีหน้าเศร้า.“มึงเป็นไงบ้างพี..?”.ร่างใหญ่ตวัดพลิกดีดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเนื้อตัวดำกร้านของเขากลืนไปกับบรรยากาศห้องที่มืดหม่น เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เอามือผสานกันวางไว้ที่ตักแบบเดียวกับที่แพรวทำ.“ครือ..อ..อ..อ..อ~!”เสียงแอร์ดังกลบทุกสรรพสิ่ง ราวกับว่าต่างคนต่างรอให้อีกคนมีปฏิกิริยาก่อน .“เราได้กันแล้ว..”พีเปิดประเด็น.“กูขอโทษ~ กูไม่เมาหรอก~ กูไม่~ แบบ..บ..บ..บ”“เหี้ยเอ๊ย! แม่งทำอะไรลงไปวะ?”ตีอกชกตัวทำทุกอย่างที่มีความรุนแรง แต่ใบหน้าดำคล้ำ
ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก.“หนีทำไม?”เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก.“…….”แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา.“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”.ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่
เทปกาวหลายขนานปิดทับช่องว่างใต้ประตู ขอบหน้าต่างอัดแน่นไปด้วยกาวยางซิลิโคน ชนิดที่แม้แต่แมลงวันสักตัวก็แทรกผ่านเข้ามาไม่ได้ แอร์ถูกปิด เปิดเพียงระบบฟอกอากาศพอให้ได้ใช้หายใจ และถ้าหากฆ่าแพรวที่มีส่วนร่วมในการแย่งหายใจทิ้งได้ พีก็คงทำไปแล้ว.“มึงเว่อร์อ่ะอีพี!”แพรวตะโกนบอก ขณะนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา.“ช่างมึงสิ! ก็นี่มันห้องกู ๆ จะทำอะไรก็ได้ มึงไม่เห็นสิ่งที่มิวท์ทำเหรอ? มึงเห็นกับตาแล้วมิใช่รึไงว่าข้างนอกนั้นเป็นยังไงบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะมึง!”ร่างหนาดั่งหมีป่าแบกตู้กับข้าวโครม ๆ พีลากมันมากั้นประตูหน้าห้องเอาไว้ เขากลัวเชื้อไวรัสขึ้นสมองจนต้องรีบกลับมารีโนเวทห้องตัวเอง ให้เป็นดั่งห้องปิดตายอย่างที่เห็น.“เฮ๊อะ! ตื่นตูมชะมัด! ต่อให้มีโคนัน 10 คนก็ไขเข้ามาไม่ได้หรอกถ้ามึงทำขนาดนี้”แพรวประชด.“ไม่ช่วยก็อย่าพาลดิ กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ในหัว ทำเป็นกลบเกลื่อนความเสียใจใช่ไหมล่ะ? ตอนซ้อนมอไซต์กูกลับมามึงถึงไม่พูดไม่จาสักคำ”.เจอประโยคนี้เข้าไปเล่นเอาสาวเจ้าถึงกับจุก แพรวเสยผมหนึ่งทีถึงรู้ว่าใบหน้าที่เคยขาวเด้งบัดนี้มีแต่คราบน้ำตา พีแทบไม่อยากเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห
เปรมที่ยืนอยู่บนท้ายกระบะพร้อมอยู่แล้ว เริ่มมีการขยับแข้งขาให้เข้าที่ ด้านหลังเขาคือตู้ตรวจเชื้อกระจกใส แต่ด้านหน้าคือฝูงชนมากมายที่ทยอยกันเข้ามาแออัดเนืองแน่น ส่วนหนึ่งต้องชมเจ้าหน้าที่ด้วยที่ทำงานได้อย่างขมีขมัน พวกเขากวาดต้อนผู้คนได้ครบจนเกือบหมด ไม่เช่นนั้นภาพที่ออกมาคงไม่คลาคล่ำขนาดนี้.หัวหน้าหน่วยเป่าปากพรูส่วนมือก็เริ่มมีการขยับ เปรมเริ่มหมุนจุกก๊อกตรงกลางฝ่ามือออกทั้งสองข้าง พลันทิ้งฝาปิดลงกับพื้นแล้วทันใดนั้นเอง กลุ่มก๊าซสีแดงฉานก็ลอยเอ่อออกมาจากรู บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง..~!.“พร้อมแล้วทีนี้ก็เข้ามาเลย! พ่อจะพ่นให้ร่วงเป็นยุงหน้าฝนเลยคอยดู ไอ้ไวรัสสารเลว ฮึ่ย~!".คิดได้ดังนั้นการลงมือก็บังเกิด สายละอองก๊าซลอยคละคลุ้งเป็นมุมเสยขึ้นไปบนฟากฟ้า อาศัยว่ายืนอยู่บนจุดที่สูงกว่ามวลก๊าซก็เลยโค้งปกคลุมลงมาโดนศีรษะของผู้ติดเชื้อแบบครบทุกคน แดงฉานบานสะพรั่ง ใครใส่เสื้อสีขาวมาเจอละอองแห่งการรักษานี้เข้าไปมีสิทธิ์กลายเป็นหนึ่งในแกนนำนปช.ได้ในทันที.แม้กระบวนการจะดูนอกคอกไปนิด แต่ก็ได้ผลดีเหมือนเช่นทุกหน ไม่มีประชาชนคนไหนคิดจะหลบหนีเลย พวกเขาต่างรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำคืออะไร ใ
จักรกลสี่ล้อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกันเป็นกลุ่มราว 3 - 4 คัน กลุ่มคาราวานนี้เคยเป็นรถกระบะใหม่เอี่ยมมาก่อน หากแต่ตอนนี้ได้แปรสภาพให้ด้านหลังมีลักษณะคล้ายกับตู้กระจก ภายในมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE หนึ่งคนนั่งประจำอยู่ งานของบุคลากรรายนี้คือการสวนโพรงจมูกชาวบ้านแล้วเอาสารคัดหลั่งมาตรวจสอบหาเชื้อในห้องแล็บ.เปรมนั่งอยู่ในห้องโดยสารของรถคันหน้าสุด คาราวานสืบสวนโรคจะเคลื่อนที่ไปทางไหนจะซ้ายหรือขวา ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาทั้งสิ้น ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้การมีสกิลแห่งการรักษาอยู่บนฝ่ามือทำให้ทุกคนยอมทำตาม เปรมจึงกลายเป็นบุคคลที่แสนจะ VIP ไปเลย.“เอาไงดีครับคุณเปรม ให้ผมขับไปทางไหนดี?”พี่คนขับถามขึ้น แกอยู่ในชุดคลุมปลอดเชื้อบนหัวสวมใส่หน้ากากครอบแก้วเสร็จสรรพ.เปรมสอดหนังสือคำสั่งจากทางภาครัฐและพับเอกสารคู่มือการใช้ฝ่ามือเข้าไปเก็บในเก๊ะหน้ารถ ก่อนจะหันมาโฟกัสกับเจ้าของน้ำเสียง .“ไม่ต้องคิดมากพี่ที่ไหนก็ได้แบบที่เราเคยทำ เอาที่ ๆ คนเยอะ ๆ ผมพร้อมเสมอแหละ”.“งั้นเอาเป็นซอยข้างหน้าเลยนะครับ ตรงนั้นเคยเป็นถนนคนเดินเมื่อตอนที่เชื้อยังไม่ระบาดผู้คนจากทั้งย่านชอบไปเดินซื้อของกันที่
เกรียวฝาจุกหลุดร่วงลงกระทบพื้น เปรมยื่นฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้าเล็งให้ตรงกับลุงขอทาน ทันใดนั้นกลุ่มก๊าซปริมาณมหาศาลสีแดงเหมือนเลือดก็พ่นออกมาจากฝ่ามือ.“ฟู่!!!”.โอ้แม่เจ้า! สสารดังกล่าวย้อมทุกสรรพสิ่งรอบบริเวณให้คละคลุ้งฟุ้งกระจาย คุณหมอผมสีดอกเลาถึงกับต้องรีบเผ่นหนี ระหว่างหนีก็ยังใช้มือถือตวัดหันกลับมาถ่ายคลิปเก็บข้อมูลหลักฐานเอาไว้ แม้จะไม่ชัดมากแต่ก็เห็นพอลาง ๆ ว่าเปรมยังคงยืนเด่นเป็นสง่า เขาไม่มีทีท่าจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย มิหนำซ้ำยังใช้อุปกรณ์ที่เพิ่งได้รับมาได้อย่างคล่องแคล่ว.“ได้ผลจริงด้วยพวกเราทำสำเร็จแล้ว! การผ่าตัดฝังจักรกลลงอวัยวะบรรลุผล! การที่ร่างทดลองสามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์เป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเขา ชิ้นส่วนเหล็กกล้าเข้าไปแทนที่กระดูกกับเส้นเลือดได้อย่างหมดจด หมดความกังวล”“จบการ