พอมุดช่องขยะหมาลอดเข้ามาได้ กลุ่มแก๊งค์เพื่อนสาวก็เจอโต๊ะกลมตัวหนึ่งที่มีเก้าอี้วางรอบอยู่ 3 ด้าน เหล้า , โซดา , น้ำแข็งวางให้พร้อม ท่ามกลางกลุ่มโต๊ะตัวอื่น ๆ ที่ถูกลากไปกองไว้ริมห้อง มีการนำเชือกฟางมาขึงกั้นบริเวณ พร้อมกับป้ายกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ห้ามเคลื่อนย้าย รอการฆ่าเชื้อ" ตอกย้ำว่าโต๊ะตัวนี้เป็นอะไรที่พิเศษจริง ๆ ถ้ามิวท์ไม่ลงทุนอ่อยเด็กเฝ้าร้านหน้าง่อยก็คงไม่ยอมทำให้ขนาดนี้
.
ชายคนดังกล่าวมูล์ฟตัวเองไปหลบอยู่หลังเคาเตอร์ เขาจ้องมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดไว้บนฝาตลอด เป็นนัยว่าใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิวเมื่อไหร่จะไล่ 3 คนนี้ออกไปทันทีโดยไม่สนหน้าอินน์หน้าพรหม
.
"เชิญครับ! , ผมจัดทุกอย่างไว้ให้แล้ว ขอติปพิเศษด้วยล่ะตามที่ตกลงกันไว้!"
.
"ย่ะ! รู้แล้วๆ! เหล้าก็เหล้าฉัน! เต๊ะท่าอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ.. ไอ้บ้านนอก!"
พีมองบนใส่พลางใช้ฝ่ามือปัดตามตัว เอาคราบสกปรกจากเศษขยะออก
.
ทำให้มิวท์ต้องรีบเข้ามาฉุดกระชากแขน เธอช่างแสนดีเหลือเกิน บอกตามตรงว่าถ้าวัดกันแค่ไม่กี่ตอนที่ผ่านมา มิวท์ยังเหมาะจะเป็นนางเอกมากกว่าแพรวซะอีก เธอดุนหลังเพื่อนให้รีบไปนั่งที่โต๊ะขณะเดียวกันก็หันมาโค้งศีรษะให้เด็กเฝ้าร้านคนเดิม
.
บรรยากาศมาคุเกิดขึ้นในชั่วขณะจิต เมื่อแพรวผมแดงใช้หลังเท้าเกี่ยวเอาขาเก้าอี้เข้ามานั่ง หล่อนตวัดทีเดียวก้นงอน ๆ ก็ประจำจุด เท้าแขนทุบโต๊ะโครม ๆ จนถังน้ำแข็งกระเพื่อม
.
"มันสารเลวจริง ๆ นะ! ไอ้พี่เปรมเนี่ยะ! พวกแกรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้มันทำอะไรกับฉันบ้าง!"
"หึ....ฮือ....ฮือ....อ...อ....อ...อ"
.
"กรอดๆๆๆ"
พูดไปพลางน้ำตาหยดติ๋ง ๆ แต่ครานั้นก็ยังกัดกรามแน่น
.
"แกก็เว่อร์เกินไป.. บางทีแกอาจจะคิดเองเออเองก็ได้.. พี่เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับแกตั้งแต่แรก แบบนี้ยังไม่นับว่าอกหักหรอก"
พีพูดพลางพยายามจะหย่อนตูดลงตรงเก้าอี้
.
ทว่ากลับโดนมิวท์ห้ามเอาไว้!
.
หล่อนพ่นสเปร์ยแอลกอฮอล์อีกที แล้วก็ฉีดพ่นใส่ตามโต๊ะเก้าอี้รวมไปถึงฝ่ามือของทุกคนด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยที่มีการตรวจเช็ดซ้ำอีกรอบ ด้วยการบีบเหล็กตรงสันจมูกให้แน่น ๆ
.
"ยิ่งนั่งร่วมโต๊ะกันยิ่งต้องระวัง กันไว้ดีกว่าแก้เน๊อะทุกคน^^"
.
ยิ้มตาหยีน่ารักเช่นเดิมก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสุดท้าย จัดแจงรินโซดาเทเหล้าแล้วก็ผสมจ่ายแจกเพื่อน ๆ ทำให้พีเกิดความประทับใจจนต้องพูดบางอย่างออกมา
.
"เนี่ยะเห็นไหม! ก็เพราะแกไม่หัดทำตัวดี ๆ เหมือนมิวท์เขาไง วัน ๆ แกเอาแต่กระแทกแดกดันคนอื่น พอมีคนมาทำดีด้วยก็คิดว่าเขาแอบชอบ.. หลงตัวเองชะมัด!"
.
"อีพี! นี่ฉันให้แกมาปลอบฉันนะ! แกจะมาวิจารณ์ฉันเพื่อ?!"
.
"พรวดดดดด!"
"อึก! , อึก! , อึก! , อึก!"
กระดกซดพรวดเดียวหมดแก้ว สุรานี่ไหลอาบหน้าหยาดเยิ้มลงเต็มหน้าอก
.
"ช้า ๆ ก็ได้แพรว.. มิวท์เป็นห่วง.."
เพื่อนตัวเล็กยกมือขึ้นปราม
.
"ไม่เป็นไรหรอก~ แค่นี้สบายมาก มันต้องดื่มเยอะ ๆ จะได้เล่าสนุก ๆ , ขออีกแก้ว!"
.
"อึกๆ ๆ , อึก ๆ ๆ"
.
ความมุมมามลามปามไปถึงผู้อื่นที่ต้องเดือดร้อน มิวท์ลงทุนควักกระเป๋าอีกทีคราวนี้ได้เป็นกระดาษทิชชู่ห่อหนึ่ง ก่อนจะนำมาเช็ดทำความสะอาดเสื้อที่เปื้อนให้
.
"ใจเย็น ๆ นะ จะระบายหรือพูดอะไรก็ปลดปล่อยออกมาเถอะ.. มีมิวท์อยู่ทั้งคน.. มิวท์จะเป็นกำลังใจให้แพรวเอง.. สู้สู้ ^^"
.
"อืม.. ขอบใจจ่ะ"
พยักหน้าให้เพื่อนสาวแต่หันไปเบ้ปากใส่กระเทยคิงคองแทน ต่อด้วยการเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเปรมรุ่นพี่ที่คณะออกมา
.
ซึ่งพอสรุปเป็นใจความสั้น ๆ ได้ว่า แพรวคิดว่าเปรมกำลังจีบเธอ สิ่งที่ทำให้คิดก็คือพฤติกรรมของเขาที่ทำมาตลอดหลายเดือนหลัง นับตั้งแต่ตอนต้อนรับน้องใหม่ ตอนนั้นแพรวยังเป็นเฟรชชี่แล้วก็ยังมีเพื่อนแค่ไม่กี่คน ประกอบกับทุกคนที่เรียนสาขาวิชานี้ก็เหมือนจะเป็นคนที่มีบุคลิกโลกส่วนตัวสูงกันหมด แต่ละคนคงง่วนกับการท่องจำสูตรยาหรือผลิตแคปซูลสมุนไพรอะไรเทือกนั้น แพรวเองก็เช่นกัน! เธอแทบไม่มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อยู่ในหัวสมองเลย
.
จนกระทั่งเปรมปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นรุ่นพี่ปี 3 ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล แพรวปลื้มเขาตั้งแต่แรกเห็น แค่สบตากันในแถวระเบียบเชียร์ใจเธอก็เต้นแรงผิดปกติ เธอรู้เลยว่าฮอร์โมนตัวเองกำลังปั่นป่วน มันครั่นเนื้อครั่นตัวราวกับได้เห็น Idol เกาหลีกระโดดออกมาจากจอไอแพด เปรมคือสเปคผู้ชายที่เธอชอบ ตัวสูงผิวขาวหน้าตาคมกริบ แถมยังฉลาดเป็นกรด แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในใจพลางอธิษฐานว่าวันไหน ๆ ก็ขอให้ได้เจอพี่คนนี้อีกเรื่อย ๆ
.
แต่ที่ไหนได้คำขอนั้นกลับมากกว่าสัมฤทธิ์ผล เมื่อจู่ ๆ เปรมก็ตรงเข้าหาเธอเอง เขาทักทายอย่างมีมารยาทแถมยังอาสาไปรับไปส่งแพรวแทบจะทุกวัน ทุกคืนเขาจะต้องโทรหาแพรวทุกครั้งพร้อมกับเล่านิทานให้ฟังอย่างกับเด็ก ๆ ตอนเช้าเวลาแพรวตื่นจะมีขนมจำพวกเค้กหรือเบเกอรี่ที่ชอบมาแขวนไว้ตรงหน้าห้องเสมอ พร้อมกับกระดาษโน๊ตที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "ส่งจากรุ่นพี่ที่อยากเป็นมากกว่าพี่ชาย"
.
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมามากกว่า 3 เดือนนับตั้งแต่ที่แพรวเข้ามาใช้ชีวิตในมหาลัย ไม่สิ! มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เธอพบกับเปรมเลยด้วยซ้ำ! เขาจีบเธอก่อนที่เธอจะรู้จักกับพีแล้วก็มิวท์ซะอีก แต่ครานั้นเธอก็ยังเล่นตัว แพรวมักจะบอกว่าเปรมเป็นแค่พี่ชาย เป็นพี่ที่กินข้าวด้วยกันเฉยๆ เสมือนทุกอย่างยังคงแทงกั๊ก
.
กระทั่งผ่านไปครึ่งปีมันก็สุกงอมเข้าขั้น คิดได้ดังนั้นแพรวก็เลยชิงบอกรักกับเปรมก่อน แต่ทว่า! สิ่งที่ชายหนุ่มตอบกลับมาดันกลายเป็นคำปฏิเสธที่โคตรจะไร้เยื่อใย "พี่ไม่ได้คิดกับแพรวแบบนั้น" คือสิ่งที่เขาบอก มิหนำซ้ำยังพูดขึ้นมากลางร้านกาแฟอันเป็นสถานที่ ๆ มีความสำคัญสำหรับคนทั้งสองอีกต่างหาก
.
แพรว อิสรา ก็เลยเดือดอย่างที่เห็น เธออาละวาดพลางแผดเสียงอย่างไม่ไว้หน้าใคร ความรักคืออะไร? มันคือตับ , ไต , ไส้ , พุง , หรือกางเกงที่นุ่ง ให้เธอถอดออกแล้วนอนกับเขาเลยก็ได้ ไม่ใช่มาปฏิเสธและหักหน้ากันแบบนี้ จากรักกลายเป็นเกลียดแพรวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ ไม่ชอบก็น่าจะบอกมาหลอกทำดีให้กันทำไม
.
"พี่เปรมแม่งเป็นคนใจร้าย.. เขาไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลย.. ฉันมันไม่สวยตรงไหนวะ?!"
กระดกเหล้าลงคอไปอีกแก้ว กลืนแก้วได้ทั้งใบคงทำไปแล้ว แพรวหันมามองหน้ามิวท์ตาแดงก่ำ
.
"อะ...เอิ่ม..ม..ม"
เพื่อนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง มิวท์เหมือนจะเริ่มกลัว
.
"เฮ่ย! อีดอก! อีเหี้ยแพรว! มึงอย่าพาลใส่เพื่อนดิวะ.. กูว่ามึงอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แบบ.. สื่อสารกันผิดพูดกันคนละเรื่อง"
พีตั้งขอสังเกตก่อนจะกำน้ำแข็งโยนใส่แก้วเพื่อนอีกที สำทับด้วยมิวท์ที่ชงเหล้าลงไปตาม
.
"สำหรับกูนะ.. พี่เปรมแม่งไม่ได้แย่อย่างที่มึงว่าสักนิด! "
.
"ไม่จริงอ่ะ!?"
.
"ไม่จริงเหี้ยไร! มึงต่างหากที่ไม่รู้เรื่อง! กูจะบอกมึงก็ได้ว่าสิ่งที่เขาทำให้มึงน่ะจิ๊บจ๊อยมากกกกก เพราะพี่เขาก็ทำให้กูเหมือนกัน!"
.
"ห๊ะ!!"
.
.
คราวนี้ทั้งแพรวทั้งมิวท์ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน ต่อด้วยการเล่ารายละเอียดของพี ว่าเปรมเข้ามาทำดีด้วยยังไง..
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่
เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ
เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็
ฝุ่นตลบอบอวลควันโขมงโฉงเฉง ต่างคนต่างกรี๊ดกันไม่ออกด้วยเพราะถูกแพรวใช้ฝ่ามือปิดปากเอาไว้ 4 ชีวิตรอดตายแบบเฉียดฉิว รอจนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเจือจาง และแสงจันทร์เริ่มจะสาดแสงทุกสายตาถึงเริ่มขยับเขยื้อน แผ่นปูนผืนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านเป็นกำบังให้ ส่วนพวกสาว ๆ เองก็ต่างพยายามจะชะเง้อออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังการถล่มของตึกหลังใหญ่ผ่านพ้น.“เบา ๆ นะระวังด้วย..”แพรวกระซิบเตือน.ความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละที่เป็นทั้งคุณและโทษ มันทำให้เกิดความกระตือรือร้นก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ได้ในคราวเดียวกัน เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือขบวนรถพยาบาลที่วิ่งเข้ามากันอย่างขวักไขว่ สัญลักษณ์ AP บนตัวถังเด่นหลา มีการขนคนเจ็บรายทางออกมา แถมยังมีบางส่วนที่วิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะเพื่อไปเอาคนเจ็บที่ตกค้างออกมาจากสมรภูมิ ไฟไซเรนหมุนติ้ววนวกคล้ายกันกับความสับสนแน่นอก ว่าจะเอายังไงต่อไปดี.พิจารณาแล้วคงเป็นไปไม่ได้หากแพรวจะยังดันทุรังทำตามแผนเดิม ถึงจะไม่รู้ว่าพวก AP กำลังสู้อยู่กับอะไร แต่ยังไงซะถ้าเข้าไปในสภาพแบบนี้ก็เท่ากับไปตายเปล่า แคลนของแพรวจะเอาอะไรไปสู้ ลำพังอาวุธที่มีอยู่ในมือก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเอง