LOGINเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ของผู้คนหลากหลายหน่วยยังคงอึกทึก รอบตัวมั่วซั่วโกลาหลวิ่งกันให้วุ่นจนพีแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ชุด PPE ปลอดเชื้อสีเขียวกระจายตัวอยู่กลาดเกลื่อน แล้วก็เป็นความจริงที่ว่าจากที่ซ่อนด้านหลังพุ่มไม้ตรงนี้ สายตากระเทยหนุ่มแทบมองไม่เห็นพลเมืองคนอื่นเลย ทุกคนคงล็อคดาวน์ตัวเองและขังตัวตนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อกันหมด และขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปสภาวะเสี่ยงสูงจากการโดนจับก็คงตกเป็นของเขา
.
“แหงล่ะ! ก็ฉันมันสาวประเภทสองนี่นา~! เช๊อะ!”
ชายหนุ่มพยายามใช้คำที่สุภาพเมื่อพูดกับตัวเอง เขาให้เกียรติเพศสภาพตัวเองเสมอ แม้ตอนนี้เพื่อนร่วมอุดมการณ์จะถูกจับใส่กรงไม่ต่างจากหมาแลกกะละมังที่เห็นกันตามชนบท
.
“จริงสิคิดออกแล้ว! บริษัท AP เขามีแอพพลิเคชั่นด้วยนี่นา ถ้าเรากดเข้าไปในแอพจะมีสินค้าของบริษัทวางขายแบบออนไลน์ แล้วในโหมดแผนที่ก็จะมีที่ตั้ง shop ต่าง ๆ อยู่ ที่นั่นมีตู้หน้ากากหยอดเหรียญวางอยู่ด้านหน้าเสมอ”
“โป๊ะเช๊ะ! นี่แหละใช่เลย!”
.
สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ ประหนึ่งแสงแห่งชัยชนะพุ่งเสยออกมาจากกอไม้ พีดีใจมากพลันชะเง้อคอมองซ้ายแลขวาเช็คว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ ก่อนจะควักโทรศัพท์ปาดนิ้วหาแอพพลิเคชั่นดังกล่าว
.
ช่างเป็นแผนการอันไร้ซึ่งความซับซ้อน เจตนาของพีก็แค่ต้องการจะออกจากพื้นที่โดยไม่ให้ใครรู้ว่าตนเป็นกระเทย เขาซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ได้ไม่นานนัก หน่วยแพทย์เชิงรุกคงกำลังไล่ตามหลังลงมาหลังรู้ว่าห้องเด็กบนชั้น 4 เป็นแค่ตัวหลอก ไหนจะอากาศที่แสนบัดซบนี่อีก ทั้งคราบควันสกปรกทั้งเชื้อไวรัสที่ไม่รู้ว่าจะคร่าชีวิตเขาไปในตอนไหน
.
จนในที่สุดแอพก็เริ่มประมวลผล หน้าจอบนสมาร์ทโฟนจัดแจงพอร์ตจุดบนแผนที่ให้เองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะพบว่าเจ้าเครื่องขายหน้ากากที่ตามหา ดันอยู่ตรงหน้าถัดจากรถควบคุมผู้ต้องหาที่จอดอยู่ด้านหน้านี่เอง!
.
ด้วยตัวถังอันใหญ่โตมโหฬารของรถคันนั้นได้บดบังทัศนวิสัยเอาไว้หมด พีก็เลยมองไม่เห็นเขาไม่ได้พลาดแต่อย่างใด แต่ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ เขาจะฝ่ากองกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปได้ยังไงโดยไม่โดนจับ นี่สิโจทย์ยากที่สาว LGBTQ อย่างเขาต้องใช้สมองคิด
.
“ปลอมตัวเป็นหมอ?”
พีรำพึงในใจ
.
“พ่องมึงสิ!”
“ดูเสื้อผ้าหน้าผมมึงสิ ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด แค่โผล่หัวออกไปขี้คร้านจะโดนจับตั้งแต่แรกเห็น”
“เอาไงดีวะกู?.. คิดสิพี.. คิด ๆ ๆ !”
.
ยิ่งนานสถานการณ์ยิ่งวิกฤต เชื้อไวรัสที่แพร่ในอากาศเล่นงานได้ทุกสรรพสิ่งหากไม่มีอุปกรณ์ปกป้อง คราวนี้ลองจินตนาการถึงหน้าโล้น ๆ ของกระเทยควายรายนี้ดูสิ เขาติดเชื้อแน่ถ้าไม่รีบ มิหนำซ้ำยังเริ่มไอค๊อกแค๊ก ๆ ออกมาแล้วด้วย ส่งผลให้พุ่มไม้มีการกระเพื่อมไหนจะเสียงที่ลอดผ่านกอออกมาอีก เจ้าหน้าที่สืบสวนโรครายหนึ่งจึงเดินปรี่เข้ามาตรวจสอบ
.
“เหี้ยแล้ว!"
“พุทโธ.. ธัมโม.. สังโฆ.. สติพี! สติ! ต้องตั้งสติ!”
.
สายตาลอกแลกฉับไวสมองประเมินผลปรู๊ดปร๊าดราวกับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ก่อนที่สุดท้ายนิสิตเภสัชจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
.
เอาวะ! เอาก็เอา! ตายเป็นตายเว๊ย!”
“บุกไปแม่งตรง ๆ นี่แหละ!”
.
“พรวดดดดดด!!!”
.
ลุกพรวดแหวกกอไม้หน้าอพาร์ทเมนต์ออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ด้วยความสัตย์จริงว่าเขาอีโก้สูงเกินกว่าที่จะเก๊กแมนตบตาใครได้ พีรับไม่ไหวหรอกหากจะต้องทรยศต่อเพศสภาพของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าตัวจะยื่นแขนออกไปให้จับแต่โดยดี เขาไม่ได้โง่แล้วก็ไม่มีวันให้จับไปเป็นหนูทดลองที่ไหนด้วย
.
“หยุด! แสดง ID การ์ดด้วยครับ มาทำอะไรตรงนี้มิทราบ?”
เสียงเจ้าหน้าที่พูดผ่านหน้ากากกันแก๊สที่ติดมากับชุดยูนิฟอร์มปลอดเชื้อ เขาผายมือขึ้นห้ามโดยตั้งใจที่จะหยุดพีไว้อย่างชัดเจน
.
ทว่าสิ่งที่พีทำกลับกลายเป็นการไอเข้าใส่! เขาไอค๊อก ๆ แค๊ก ๆ ค๊อก ๆ แค๊ก ๆ สลับกับการแกล้งจามเป็นระยะ พลางรีบสาวเท้าเดินหลบฉากไปในทิศทางอื่น
.
“คุณครับไม่ได้นะครับ!”
.
“แค๊ก ๆ , แค๊ก ๆ , ฮัดเช่ย! , ฮ๊าดดดด.. เช๊ยยย!”
.
“อี๋!!!”
.
น้ำลายยืดเป็นยาง น้ำมูกย้อยแทบจะติดกับฝ่ามือออกมา สารภาพจากใจจริงว่าอุบาทว์ลูกตาโคตร ๆ แต่มันก็ได้ผลอย่างชะงักงัน เมื่อเจ้าหน้าที่รายนั้นถึงกับสปริงตัวหลบ เขารีบใช้เสปรย์แอลกอฮอล์ที่เหน็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาฉีดพ่นตามตัวพร้อมกับใช้มือปัด
.
ไม่รู้ล่ะ! พีก็เลยอาศัยจังหวะเล็ก ๆ ตรงนี้รีบวิ่งหลังค่อม ๆ ค่อย ๆ ย่อง ค่อย ๆ โค้งลัดเลาะหลบสายตาผู้คน เพื่ออ้อมรถควบคุมผู้ต้องหาไปยังฝั่งตรงข้ามให้ได้
.
“พรึบ!”
สองฝ่าเท้าประทับลงฟุตบาทฝั่งตรงข้ามอย่างเต็มภาคภูมิ
.
“วู่ววว~! ทุลักทุเลจังวะ!”
“เส้นยาแดงผ่าแปดเลยเรา~! แต่ถ้าเทียบกับการห้อยต่องแต่งบนตึก 5 ชั้นแล้วล่ะก็ เท่านี้ถือว่าจิ๊บ ๆ กระเทยไทยเนเวอร์ดายน์จ้า sorry นะยะถ้าคิดจะจับฉัน~! หึๆ”
.
มั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยมด้วยเพราะตอนนี้ตู้บริการหน้ากากของบริษัท AP ได้มาอยู่ตรงหน้าพีเป็นที่เรียบร้อย แผนการของเขากำลังจะสมบูรณ์ เพียงแค่กดเลือกรูปแบบและลวดลายที่ต้องการ เลือกขนาดของศีรษะ เลือกความแน่นของสายรัดใต้คาง แล้วก็จ่ายเงิน เท่านี้ก็เรียบร้อย
.
“แกร๊ก ๆ , แกร๊ก.. ก.. ก.. ก!”
.
เครื่องพิมพ์สามมิติภายในกำลังสร้างแบบ พร้อมกันกับเลเซอร์ยิงบาร์โค้ดสีแดงฉานที่ยิงแสงเป็นลำออกมาจากตัวเครื่อง มันส่องเข้าไปยังสมาร์ทโฟนของพีเพื่อเช็คยอดเงินในบัญชีว่ามีพอรึเปล่า
.
“แหม! กลัวแต่จะไม่ได้เงินนะยะ บริษัทพ่อแม่เธอนี่มันเขี้ยวลากดินจริง ๆ เลยนะมิวท์!”
“เอ้านี่! อยากได้นักก็เอาไปฉันไม่คิดจะโกงหรอก ฉันก็แค่พลาดได้กับเพื่อนไม่เคยแย่งแฟนใครเหมือนเธอหรอก!”
.
จับเรื่องนั้นผสมเรื่องนี้มั่วซั่วแต่ทันทีที่พียื่นโทรศัพท์ออกไป แสงเลเซอร์ดังกล่าวก็จัดแจงหักเงินออกจากบัญชีพร้อมเพย์ของเขาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกันกับช่องว่างทรงกลมขนาดเท่ากับศีรษะมนุษย์ ที่เผยอกว้างออกมาจากจุดกึ่งกลางเครื่อง มีไฟสีเขียวสว่างโพลงปรากฏขึ้น มันกระพริบวูบวาบรองรับข้อความภาษาอังกฤษที่เขียนว่า “Please insert your head”
.
แล้วหลังจากนั้นพีก็จัดแจงยัดหัวตัวเองเข้าไป โอ้แม่เจ้า! เขาใช้สองมือล็อคตัวเครื่องเอาไว้แน่น ส่วนขาก็ปล่อยลอยดิ้นกระแด่ว ๆ ไปตามธรรมชาติ ไม่มีการฝืน ไม่มีความเจ็บปวด แค่ท่วงท่าอาจจะดูน่ากลัวไปหน่อยก็เท่านั้นเอง
.
“ครืดดด.. ด.. ด.. ด , ครืดดด.. ด.. ด.. ด"
“ครืดดด.. ด.. ด.. ด , ครืดดด.. ด.. ด.. ด”
“ครืดดด.. ด.. ด.. ด , ครืดดด.. ด.. ด.. ด”
.
นุ่มเบาเหมือนเข้าสปาร์ภายในมีแม้กระทั่งเสียงเพลงให้ฟังฆ่าเวลา จนกระทั่ง 3 นาทีถัดมา หัวก็หลุด “พลั๊ว!” ออกมาพร้อมกับกลุ่มควันอันโพยพุ่ง!
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ