“มึงเป็นไงบ้างแพรว กูห่วงมึงแทบแย่! พ่อกูได้ทำอะไรมึงไหม? แกเมารึเปล่า? แล้วพูดอะไรกับมึงบ้าง? มึงอย่าเชื่อแกเชียวนะเว๊ย!”
ลิ้นพันกันเป็นระวิงพียิงคำถามใส่แพรวแบบไม่มีเว้นวรรค พลางจับหัวไหล่เธอเขย่าโครม ๆ
.
ทำเอาสาวเจ้าถึงกับต้องออกปาก ภายใต้หน้ากากกันแก๊ซกับหน้ากากครอบแก้วจากบริษัท AP ที่พีสวมอยู่ ศีรษะพวกเขาแทบจะโขกกัน เห็นแต่ดวงตาจึงเดาไม่ถูกว่าต่างคนต่างเก็บอะไรไว้ในใจบ้าง ฝ่ายหญิงจึงได้โพล่งคำออกไปก่อน
.
“กูไม่เป็นไรหรอก! พ่อมึงเมาชิบหาย! กูก็เลยปล่อยให้แกหลับคาโต๊ะกินข้าวอยู่ในห้องใต้ดินโน่น!”
.
“ห้องใต้ดิน?! มึงลงไปแล้วเหรอ?!"
.
“อ่า~! กูรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวมึงหมดแล้ว ว่าแต่มึงเหอะไม่เป็นไรใช่ไหม? กูถามพี่เจ้าหน้าที่มูลนิธิคนหนึ่งเขาบอกว่าหน่วยคัดกรองโรคตรวจหากระเทยกันเข้มมาก กูล่ะเสียวมึงจะโดนจับ!”
.
พีเป่าปากถอนใจเฮือกใหญ่ แววตาเขาดูมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับห้องใต้ดินมาก จึงรีบเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองให้แพรวฟัง เพื่อที่เสร็จแล้วจะได้รีบถามเธอกลับไปว่า ที่บอกว่ารู้ความจริงน่ะคือรู้เรื่องอะไร ไปรับสาส์นมาแบบบิดเบือนข้อเท็จจริงรึเปล่า
.
แล้วภาพเหตุการณ์ก็ถูกฉายซ้ำผ่านการขมุบขมิบของริมฝีปากพี เขาเล่าเหตุการณ์อย่างรวบรัดฉับไว จนกระทั่งไปสะดุดอยู่ตรงกระบวนการขั้นสุดท้ายอย่างการวัดขนาดองคชาติ ให้ตายเถอะ! แพรวเดาผิดไปนิดเดียวที่คิดว่าไอ้จ้อนของพีน่าจะแยงแผ่นกระดานเจาะรูสำหรับวัดขนาด จนหักเป็นสองซีก
.
แต่ที่ไหนได้เพราะกระดานดังกล่าวแทบจะไม่ถูกใช้งานเลยด้วยซ้ำ วินาทีที่กระเทยหนุ่มปลดกางเกงลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เพียงแค่เขาเอาดุ้นผงาดอันใหญ่ย้ำค้ำโลกวางพาดลงบนโต๊ะ โต๊ะทั้งโต๊ะก็เหมือนถูกคลุมทับด้วยเงาสีดำขนาดใหญ่ ที่แผ่สยายความมืดจนบดบังทุกสรรพสิ่ง ด้วยเหตุนี้พีจึงรอดมาได้ แล้วพอเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัยกลุ่มใหญ่เตรียมจะเดินทางมาทำงานแถวละแวกบ้านพอดี เขาก็เลยไม่รอรีที่จะขออาศัยติดรถมาด้วย แม้จะต้องแลกกับการโหนกระจกข้างมาประหนึ่งทาซานผจญภัยก็ไม่เกี่ยง พีเป็นห่วงแพรวที่เป็นเพื่อนสนิทมากกว่า
.
“โอเคจบ! กูเล่าเรื่องของกูแล้ว"
"ทีนี้ตามึง! จากการมีเซ็กส์กันครั้งล่าสุดตอนนี้ก็ผ่านไป เอิ่ม.. ม.. ม”
.
กระเทยหนุ่มเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือ พลางแหงนหน้านึกย้อนความหลัง
.
“8 ชั่วโมง! กูเดาว่ามึงยังไม่ได้แดกยาคุมสักเม็ดเลยใช่ไหมแพรว?”
.
“ก็กูติดอยู่ข้างล่างกับพ่อมึงสองต่อสอง จะเอาเวลาไหนไปซื้อ”
สาวเจ้าสวนกลับ
.
ส่งผลให้พีมีปฏิกิริยาทันที เขาแทบจะพุ่งเข้ามาประชิดตัวเธอ พลันใช้หน้ากากครอบแก้วชนกับหน้ากากกันแก็ส กัดฟันกรอด ๆ สลับกับพ่นถ้อยคำออกจากลำคอช้า ๆ กึ่งกระซิบกระซาบ
.
“ชู่ววว.. เงียบ.. อย่าเสียงดัง! ย้ายไปคุยกันที่ระเบียงหน้าบ้านดีกว่า กูไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้”
.
.
บรรยากาศมาคุก่อตัวขึ้นทันที สองเพื่อนซี้ในชุดกันเชื้อเดินต้วมเตี้ยมตามกันเข้าไปยังส่วนหน้าของตัวบ้าน แต่ไม่ถึงกับเข้าไปด้านใน โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากมายทำงานงก ๆ เป็นฉากหลัง เสียงเจาะถนน เสียงทุบค้อนปอนด์ใส่ปูนซีเมนต์ รวมถึงเสียงโอดโอยของผู้ประสบเหตุ ไม่อยู่ในสายตาของทั้งสองคนเลย พวกเขาแคร์แค่เรื่องของตัวเอง คนที่เสือกเรื่องคนอื่นมาก็อยากเล่า ส่วนคนที่กลัวความลับของตัวเองจะหลุดก็อยากฟัง พีกับแพรวจึงนั่งลงที่บันไดไม้ขั้นเตี้ย ๆ ที่หน้าทางขึ้นบ้าน
.
“เร็วเลย! มึงรีบบอกมาว่ามึงรู้อะไรบ้าง? ตอนนี้ยาคุมสำคัญสุดกูขอย้ำ!”
พีชิงตัดบทตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
.
ซึ่งแพรวก็สวนกลับทันควันด้วยการควักสมาร์ทโฟน โชว์หลักฐานประกอบคำอธิบาย
.
“มึง.. ไม่.. ใช่.. กระเทย!”
“พ่อมึงคิดถึงแม่มึงมาก จนยัดเยียดโครโมโซมเพศหญิงผ่านระบบยีนเข้ามาในตัวมึง ทำให้มึงมีสภาพเป็นยอดชายนายสายเหลือง กระเทยเป็นแค่เรื่องสมมุติ และมึงไม่จำเป็นต้องหลบหนีการตามล่าของหน่วยสืบสวนโรคก็ได้”
“กูมีหลักฐานพร้อม ภาพในห้องแล็บใต้ดินของพ่อมึงจะพิสูจน์เองว่ากูไม่ได้โกหกแม้แต่นิดเดียว!”
“เอ้านี่! ลองดูเองสิ!”
.
“ฟึบ!”
รีบกระชากโทรศัพท์ออกจากมือเพื่อนเป็นการด่วน พีถึงกับพูดไม่ออกดวงตาเขาแทบจะถลนออกนอกเบ้า เขาเช็ดน้ำตาที่เหมือนจะคลอแล้วพูดขึ้น
.
“บะ.. บ้าน่า เรื่องแบบนี้มัน.. น.. น.. ชีวิตกูไม่ควรจะแฟนตาซีขนาดนี้หรอกแพรว”
“มึงได้ของแบบนี้มาได้ยังไง? พ่อไม่เคยให้กูเข้าโซนห้องแล็บเลยสักครั้ง แม้แต่ลงไปข้างล่างก็เถอะ! เต็มที่กูยังใช้ชีวิตอยู่แค่ชั้นบนเอง แต่นี่มึงถึงกับบุกเข้าไปในห้องแล็บใต้ดินที่เป็นความลับของครอบครัวกูได้ กูว่ามันชักจะแปลก ๆ ”
“มึงทำอะไรกับพ่อกูรึเปล่าแพรว มึงวางยาแกหรอ?! ”
.
แพรวอึ้งไปสามวิกับท่าทีที่ค่อนข้างเซอร์ไพรต์ของพีที่แสดงออก หล่อนจึงลองกระเซ้าดู
.
“กูแค่ยั่วเขาด้วยหุ่นของกู~!”
.
“นั่นไง!?”
.
“เปล่า ๆ ๆ ๆ ! ไม่ใช่! กูล้อเล่นอีบ้า! พ่อมึงอ่ะเมาแล้วเห็นกูเป็นคุณนุช กูต่างหากที่เกือบจะโดนปล้ำ!”
.
“What คุณนุช?!”
“No! ไม่ใช่ล่ะ! แม่ที่ทิ้งพวกเราไปมีผัวใหม่อ่ะนะ ผู้หญิงพรรค์นั้นแม้แต่ชื่อพ่อกูยังไม่ให้กูเรียกเลย แกเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ กูว่ามึงแต่งเรื่องหลอกกกูแล้วล่ะแพรว"
“หลบซิ! กูจะลงไปดูข้างล่าง เช็คให้ละเอียดว่ามึงทำอะไรกับพ่อกูไว้”
.
พีกระทืบเท้าโครม ๆ สวนทางกับแพรวที่พยายามเถียงสุดฤทธิ์ เธอให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ว่าคลิปและรูปถ่ายที่ถ่ายมานั้นเป็นของจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะพ่อรักคุณนุชมากการเสียชีวิตของเธอจึงถูกปกปิดไว้ บางทีแกอาจจะไม่ต้องการให้พีเสียใจก็ได้ สู้ให้รู้ว่าแม่จากไปเพราะมีผู้ชายคนใหม่ยังดีกว่ารู้ว่าแม่ตาย
.
และอีกประการก็คือพ่อจะให้พีรู้ไม่ได้ว่าเขานั้นคือร่างทดลองที่เกิดจากความผิดพลาด พ่อเจตนาจะแปลงสภาพพีให้กลายเป็นคุณนุชคนใหม่ เป็นผู้หญิงเรียบร้อย , สวย , โอบอ้อมอารีย์ , และเป็นแม่ที่ดีของลูก แต่ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็น ร่างทดลองหมายเลขหนึ่งมีความเป็นผู้หญิงขึ้นก็จริง แต่ออกมาในรูปแบบของกระเทยควายหรือคิงคองผสมกับก็อตซิลล่า แล้วนับวันก็มีแต่จะร้อง กรี๊ด! , กรี๊ด! , กรี๊ด! แล้วก็ กรี๊ดดดด!
.
“นี่คือเหตุผลที่เขาไม่บอกมึงเว๊ยพี มึงพิจารณาดูสิว่ามันสมเหตุสมผลขนาดไหน!”
“มึงไม่ต้องเชื่อกูก็ได้ แต่มึงควรดูหลักฐานทางเทคโนโลยี ของแบบนี้แม้แต่ข้อกฎหมายเขาก็รับรอง!”
แพรวลุกขึ้นยืนกางแขน พลันพร่ำบ่นบิดตัวเอียงไปมา เพื่อขวางทางเข้าประตูหน้าบ้านเอาไว้
.
แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผลไม้ซีกงัดไม้ซุงดี ๆ นี่เอง แพรวสู้แรงพีไม่ไหวด้วยประการทั้งปวง โดนชนทีเดียวร่างบางก็ถึงกับร่วงกราวลงกับพื้น
.
“ผลั่ก!”
.
“อย่าขวางกูแพรว! นี่มันเรื่องครอบครัวกูนะ! กูรู้ว่ามีงชอบสอดแต่เรื่องนี้กูขอเถอะวะ!”
.
“แพรว!”
.
“อีแพรววว!”
(ทำไมเงียบไปล่ะ)
.
พอเห็นว่าเพื่อนสาวไม่ยอมส่งเสียงเหมือนเคย พีจึงต้องละสายตาออกจากบานประตูแล้วสะบัดหน้าหันย้อนกลับ ก่อนจะพบว่าอิริยาบถของเธอนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว แพรวนั่งราบเหยียดขาออกมากับพื้น สองมือกุมหน้าท้องอันแบนราบแต่ร้องโอดโอยทุรนทุรายเจ็บปวด
.
“ช่วยด้วยพี~ กูปวดท้อง~~”
“ปวดเหมือนปวดท้องเมนเลยอ่ะ.. อือ.. โอ๊ยย~~!”
.
8 ชั่วโมง 45 นาที คือเวลาที่นับจากการโดนหลั่งในครั้งล่าสุด เวลานั้นกระชั้นชิดมากแล้ว และบางทีพอโดนแรงกระแทกเมื่อครู่เข้าไป เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรถ์ก็อาจจะอยากทักทายคนเป็นแม่บ้างล่ะมั้ง
“มึงเป็นไงบ้างแพรว กูห่วงมึงแทบแย่! พ่อกูได้ทำอะไรมึงไหม? แกเมารึเปล่า? แล้วพูดอะไรกับมึงบ้าง? มึงอย่าเชื่อแกเชียวนะเว๊ย!”ลิ้นพันกันเป็นระวิงพียิงคำถามใส่แพรวแบบไม่มีเว้นวรรค พลางจับหัวไหล่เธอเขย่าโครม ๆ.ทำเอาสาวเจ้าถึงกับต้องออกปาก ภายใต้หน้ากากกันแก๊ซกับหน้ากากครอบแก้วจากบริษัท AP ที่พีสวมอยู่ ศีรษะพวกเขาแทบจะโขกกัน เห็นแต่ดวงตาจึงเดาไม่ถูกว่าต่างคนต่างเก็บอะไรไว้ในใจบ้าง ฝ่ายหญิงจึงได้โพล่งคำออกไปก่อน.“กูไม่เป็นไรหรอก! พ่อมึงเมาชิบหาย! กูก็เลยปล่อยให้แกหลับคาโต๊ะกินข้าวอยู่ในห้องใต้ดินโน่น!”.“ห้องใต้ดิน?! มึงลงไปแล้วเหรอ?!" .“อ่า~! กูรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวมึงหมดแล้ว ว่าแต่มึงเหอะไม่เป็นไรใช่ไหม? กูถามพี่เจ้าหน้าที่มูลนิธิคนหนึ่งเขาบอกว่าหน่วยคัดกรองโรคตรวจหากระเทยกันเข้มมาก กูล่ะเสียวมึงจะโดนจับ!”.พีเป่าปากถอนใจเฮือกใหญ่ แววตาเขาดูมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับห้องใต้ดินมาก จึงรีบเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองให้แพรวฟัง เพื่อที่เสร็จแล้วจะได้รีบถามเธอกลับไปว่า ที่บอกว่ารู้ความจริงน่ะคือรู้เรื่องอะไร ไปรับสาส์นมาแบบบิดเบือนข้อเท็จจริงรึเปล่า.แล้วภาพเหตุการณ์ก็ถ
ความสงสัยใคร่รู้อันเป็นนิสัยประจำตัวมิอาจหยุดยั้งได้ ขนาดเสือกไดอารี่ของคนอื่นยังทำได้ ประสาอะไรกับการถามใครสักคนถึงเรื่องที่อยากทราบ แพรวตรงดิ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวนั้น.“พี่คะทำไมพวกพี่มากันน้อยจังเลยอ่ะ รถชนกันมากมายเสาไฟฟ้าก็ล้ม แล้วแบบนี้กว่าจะกู้สัญญาณต่าง ๆ ได้ไม่ใช้เวลาเป็นวันเลยหรอคะ?”เท้าสะเอวถาม ยืนจังก้าแถมยังไม่เว้นระยะห่าง.“บ้านน้องอยู่แถวนี้เหรอ?”.“อะ.. เอิ่มค่ะ.. บ้านไม้ข้างหลังนี่บ้านหนูเอง หนูจะเอารถออกแต่ถนนดันเละไปหมด ทีมงานพี่ไปไหนหมดคะ?”ขายผ้าเอาหน้ารอดไปพลาง ดีที่แพรวยังหัวไวทำให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิในชุด PPE ต้องเล่าความจริงก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่ให้ฟัง.ว่าสาเหตุที่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาน้อยก็เพราะคณะทำงานทีมสอบสวนโรคเชิงรุก ได้ทำการตั้งด่านตรวจหากระเทยอย่างเข้มข้น พวกเขาเพิกเฉยต่อการตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว แต่มาสนใจวิธีฆ่าเชื้อด้วยการนำสิ่งมีชีวิตผิดเพศไปทดลองในห้องแล็บแทน กระเทยก็เลยเป็นที่ต้องการตัว ใครที่มีบุคลิกเป็นผู้ชายเลยต้องโดนตรวจสอบผ่าน 3 กรรมวิธีสำคัญได้แก่.หนึ่งการตรวจความกว้างของปลายลิ้น กล่าวคือโดยทั่วไปผู้หญิงจะมี
หาจนล้าแต่นี่ไวรัสนะไม่ใช่หาเห็บหมาออกจากหลังสุนัขจรจัด ที่จะได้เจอกันง่าย ๆ ไม่ใช่ความโชคร้ายเลวทรามอะไรหรอก หากแต่เป็นการไม่เจียมตัวและประเมินกำลังตัวเองผิดไปของแพรวมากกว่า ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นการล้มเหลวอย่างพังพินาศ ไม่พบไวรัสคร่าชีวิตตามที่บันทึกเขียนบอก และต่อให้เจอแพรวก็ดูไม่ออกอยู่ดีว่ายาที่เห็นใช้สิ่งที่ต้องการหรือไม่ เจ็บใจแต่ไม่เจ็บปวด เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ทำเพื่อพีแล้ว แม้ภารกิจสุดท้ายจะไม่สำเร็จ แต่หากนับปริมาณรูปถ่ายกับหน่วยความจำเมมโมรี่ในโทรศัพท์ที่พร่องลงไป ก็นับว่าได้การณ์อยู่พอตัว แพรวมีข้อมูลหลักฐานมากพอที่จะทำให้พีเชื่อได้ว่าพ่อนักวิทยาศาสตร์ของเขา มีส่วนสำคัญในการทำให้เพศสภาพลูกเป็นแบบนี้.“เอาล่ะถ้างั้นก็ถึงเวลาออกจากที่นี่สักที”หญิงสาวปาดเหงื่อพลันบ่นกับตัวเองในใจ .“ฉันล้อเล่นหรอกน่าใครจะเป็นบ้ามุดท่อระบายน้ำใต้ตะแกรงเหล็กนี่ออกไปกัน ขี้คร้านเชื้อโรคจะเยอะกว่าโควิดข้างนอกซะอีก ฉันมีอีกวิธีหนึ่งที่เพิ่งคิดออกสด ๆ ร้อน ๆ เลย มาลองดูกันเถอะ!”.ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็จัดแจงเดินทะลุออกมาจากโซนห้องแล็บแล้วตรงเข้าไปในครัว เธอกระเถิบร่างบางผ่านโต๊ะกินข้าวที่มีพ่อฟุบหลับ
“จะไปยากอะไรในเมื่อไม่มีลิมิตว่าให้ใส่รหัสได้กี่ครั้ง เราก็ใส่สุ่ม ๆ เดา ๆ จนกว่าจะถูกไปเลยสิ”.ว่าแล้วมือเรียวก็จ่อนิ้วไปที่แป้นกดทัชสกรีน สีของหน้าจอยังคงแดงฉานประหนึ่งสัญญาณเตือนว่าจะไม่ยอมให้ใครออกไปจากห้องเก็บตัวอย่าง DNA นี้ได้ง่าย ๆ .“หนึ่ง , เก้า , เก้า , เก้า" "1999 เอ้า! เอาปี ค.ศ.แรกที่เขียนไว้ในสมุดไดอารี่นี่แหละ มี 4 ตัวพอดีลองดูซิว่าใช่รึเปล่า?”.“ติ๊ด! , ติ๊ด! , ติ๊ด! , ติ๊ด!”เกิดเสียงสัญญาณดังขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่ลงน้ำหนักนิ้ว ฟังผ่าน ๆ เหมือนกับเสียงแป้นตัวเลขตามตู้ ATM หน้าธนาคาร.แต่ใครจะสนล่ะในเมื่อมันถูก! คุณพระช่วย! บอกแพรวทีว่าเธอฟลุ๊คหรือเธอฟลุ๊คกันแน่ เมื่อหน้าจอแดง ๆ ขนาดเกือบฟุตเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียวพร้อมกับคำว่า “Open” ที่สว่างโพลงขึ้นมาแจ่มแจ้ง จากนั้นตัวล็อคสปริงข้างในก็ได้คลายตัวออก ทำให้ประตูเหล็กทั้งบานแง้มเปิดออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีควันฟุ้งแบบอลังการ มีแต่เศษขี้ฝุ่นของความปิดไว้นานที่กระจายพรมลงบนหัวแพรวพร้อมกับรอยยิ้ม.“อ่าฮ่ะให้มันได้อย่างงี้สิ! ทีเดียวผ่านเลยลำดับต่อไปก็แค่หาทางออกจากบังเกอร์นี้ให้ได้ก่อนที่พ่อจะตื่นขึ้นมา เป็น
“ฝ่าเท้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขนาด องศาจากการพิมพ์ฟุตปริ้นท์บันทึกการเฉียงได้ที่มุม 37 องศางุ้มปลายส่วนหน้าหันเข้าด้านใน เป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่าสรีระของพีมีการเปลี่ยนแปลง วันนี้ผมจะพอเท่านี้ก่อนผมจะส่งลูกเข้านอนในแบบที่คุณทำกับเขาทุกวัน อีกไม่นานนุช.. พีเริ่มจะคล้ายคุณขึ้นบ้างแล้ว”.“วันที่ 15 มี.ค. ค.ศ. 2000 / กลางวัน / แล็บใต้ดินที่บ้าน”“การลาออกจากบริษัทถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวทีเดียว ผมเอางานที่คุณทำค้างไว้กลับมาสานต่อด้วยนะ แล้วก็ให้ช่างมาทำห้องแล็บลับไว้ที่ใต้ดินด้วย ผมย้ายสิ่งที่ทำบนดินลงมาไว้ที่นี่แล้ว เสียใจจริงที่คุณไม่ได้อยู่ดู พีไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่หรอกเขาบอกว่ามันน่ากลัว ไม่เหมือนปราสาทบนดินที่มีเจ้าหญิง เขียดเส้นใต้คำว่า “เจ้าหญิง” ทีนุช แล้วบอกผมทีว่าหูผมไม่ได้ฝาด ค่ำ ๆ ผมจะลองเช็คคลื่นสมองเขาอีกที ผมว่าตอนนี้จิตใต้สำนึกเขาเริ่มจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงแล้ว”.หยุดเดินลงตรงมุมโต๊ะเครื่องแป้ง แพรวถึงกับชะงัก ร่างบางของเธอชาไปครึ่งซีกพลันกระชับไดอารี่ไว้จนแน่น .“เดี๋ยวนะ! นี่คืออะไรกัน?! ทำไมอ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนพ่อกำลังเปลี่ยนพีให้เป็นผู้หญิงเลยอ่ะ ดูจากตัวเลขปี
“มึงมันเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน โทรศัพท์ขึ้น miss call 20 กว่าสายยังปาทิ้งได้ไม่ใยดี นั่นเมียมึงโทรมานะ ถ้ารู้ว่าพีน้อยอ๊วกเป็นเลือดกูจะไม่มีวันเลือกงานก่อนครอบครัวเลย 22.00 น. หยุดการสังเกตผลแล็บ เก็บของทุกอย่างรีบไปโรงบาล และขอให้รถไม่ติดมาก แต่แม่งก็ติดชิบหายอยู่ดี เมืองหลวงเป็นเหี้ยอะไรวะ ลูกกูจะตายอยู่แล้ว ชีวิตดีที่ลงตัวพ่องมึงสิ ไอ้ส้นตีน! เบื่อว่ะ.. เซ็งโคตร! " .ช่างเป็นการเขียนไดอารี่ที่ฮาร์ดคอร์สะใจมาก ลายมือตวัดรุนแรงราวกับรีบร้อน แพรวผู้ถูกขังยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านแม้เธอจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพีน้อยจะไม่เป็นอะไร และเติบโตขึ้นมาเป็นสาวประเภทสอง แต่ก็ยังอยากรู้เรื่องราวในตอนนั้นอยู่ดี.“ ดึ๋ง ๆ , ดั๋ง ๆ , ดึ๋ง ๆ ”ขย่มเตียงดีดเด้งขยับก้นนั่งให้ถนัด ๆ พลันหลุบสายตาลงไปยังหน้ากระดาษต่อ.“พรึบ!”.“ตอนนั้นกูเครียดมากจริง ๆ พยายามโทรหานุชแล้วแต่เธอคงไม่ว่างรับสาย ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง รถโรงบาลที่บอกว่าเรียกมาแม่งจะฝ่ารถติดหนักกับศุกร์คืนฝนพรำแบบนี้ได้เหรอ ไม่มีทางหรอก! กลัวว่ะ! กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไปบนรถ! กังวลมากด้วย! เลยหักพวงมาลัยปาดคร่อมเลน แล้วเอารถกระบะบริษัทจอดยัดไว้ในจุ