LOGINคนเป็นผัวรีบถลาตัวเข้ามาดูอาการ พีสอดแขนเข้าที่แผ่นหลังพยุงให้แพรวชันกายขึ้นมาได้ ก่อนจะวางมือข้างที่ว่างลงบนหน้าท้องอันแบนราบ ซึ่งยังคงเกร็งสะบั้นจนขึ้นเป็นรอนเลขสิบเอ็ด
.
หุ่นแพรวดีเหลือเกิน มันสวยราวกับนางแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสาร หรือไม่ก็หุ่นของพวกนางงามที่ถ่ายภาพโชว์สัดส่วนลงในไอจี ลำตัวด้านข้างทรงตัว s สอดรับกับฝ่ามือกร้านของกระเทยหนุ่มที่โคตรจะกลมกลึง เพียงแค่พีลูบคลึงผ่านลงมาช้า ๆ เขาก็สัมผัสได้ว่าแกนแข็งของตัวเองนั้นชักจะตื่นตัวขึ้นมาอีกคำรบ ไหนจะกลิ่นน้ำหอมที่แพรวฉีดพรมลงมาอีก เสียงครางหอบหายใจจากความเจ็บปวด ช่างเป็นอะไรที่ทำให้ฉุดคิดถึง ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนมีเซ็กส์กันเหลือเกิน
.
“เหี้ย!”
“แม่งต้องเป็นเพราะเสปิร์มที่กูปล่อยในใส่มึงแน่ ๆ กูว่าเราต้องรีบแล้วล่ะแพรว ลืมเรื่องพ่อกูสักพักแล้วหายาคุมแดกก่อน!”
“เผิน ๆ กูว่ามึงอาจจะต้องฉีดเลยด้วยซ้ำ ชนิดกินอาจจะไม่ทันเวลาแล้ว!”
พีตั้งข้อสังเกตเขาเองก็เรียนคณะเภสัชมาเหมือนกัน จึงพอจะมีความรู้อยู่บ้าง แม้จะไม่เก่งเท่าเปรมแต่ถ้าเป็นเรื่องคุมกำเนิดแล้วล่ะก็ ยุคนี้สมัยนี้เพศชายดูจะช่ำชองกว่าเพศหญิงซะอีก
.
พูดไม่พูดเปล่ายังอุตส่าห์โอบเอาร่างบางขึ้นมาแนบนาบตัว พลันชำเลืองสายตาลงมองชายเสื้อของฝ่ายหญิงที่เผยอสูงขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เคราะห์ดีที่ต่างคนต่างใส่หน้ากากเอาไว้ แพรวก็เลยไม่ทันสังเกตว่ากระเทยควายเพื่อนซี้กำลังจู๋แข็งใส่เธออยู่ อาการเธอค่อนข้างหนักจึงสนใจเพียงอัตราการปวดท้องของตัวเอง ว่ามันมักจะมาแบบแป๊บ ๆ หยุด ๆ หาย ๆ ไม่ได้ปวดแบบต่อเนื่อง ทำให้ต้องวินิจฉัยโรคด้วยตัวเองผ่านการจับมือของพีที่อยู่ใกล้ ๆ สอดเข้ามาใต้ชายเสื้อแล้ววางนาบคาไว้บนเนินท้อง
.
"หมับ!"
.
“อ่า.. า.. า.. า~!”
“อืม.. ม.. ม.. ม~!”
“ช่วยเช็คกูทีพี ลองกดท้องกูหน่อยว่าใช่การบวมน้ำรึเปล่า ยาคุมที่มีส่วนผสมแอสเตอรอยด์จะต้องใช้น้ำในร่างกายทำปฏิกิริยา เวลาไปซื้อกูจะได้แจ้งกับเภสัชกรประจำร้านได้ถูก”
.
“เออได้สิ! กูจะเช็คให้หนำมือเลยล่ะ”
พีตอบเสียงเข้มแม้จะผ่านการร่วมรักกันมาแล้ว แต่สถานที่และเวลาแบบนี้ก็ช่างเย้ายวนใจให้เกิดอารมณ์ดีเหลือเกิน
.
ไม่รอช้าให้เสียเวลาร่างหนารีบใช้เอ็นอุ่นอันแข็งโด่ของตัวเอง ดันแผ่นหลังเรียบ ๆ ของแพรวให้เชยขึ้นมาอยู่ในท่านั่งเหยียดขา โดยมีตัวเขาเองประกบนาบอยู่ด้านหลัง ตามติดมาด้วยการเคลื่อนฝ่ามือคลึงไปตามจุดเสียวใต้ร่มผ้าของแพรว เขาลูบผ่านลำตัวด้านข้าง เค้นคลึงรอนหน้าท้อง สไลด์ความกิ่วโค้งของเอวภู่ระหงส์ จนเกิดอาการสั่นกระตุกนิด ๆ ของสาวเจ้าขึ้นมา ซึ่งบ่งชี้ว่าพีมาถูกทางแล้ว เขาลูบมือขึ้นมาจนถึงบริเวณด้านล่างชายเสื้อชั้นใน และเตรียมจะสอดนิ้วเข้าไปใต้ฐานหน้าอกระหว่างซอกร่อง
.
“นั่นนมกูพี! นมไม่ใช่ท้องนะอีเวร!”
.
“เออกูรู้หรอกน่า แค่อยากได้แบบมึงบ้างไม่ได้รึไง? ก็กูไม่มีเหมือนมึงนี่นา?”
สาวประเภทสองแสร้งทำเป็นพูดเล่น ทว่าท่วงท่าการปฏิบัติการนั้นคือการแยงนิ้วเข้าไปใต้เสื้อชั้นในแบบโทง ๆ แถมยังบดบี้ขยี้ยอดถันอย่างโจ่งแจ้งอีกต่างหาก
.
“ยิก ๆ ๆ , ยิก ๆ ๆ , ยิก ๆ ๆ”
.
โดนไม่โดนแพรวก็ถึงกับส่งเสียงครางออกมาเลยทีเดียว ความเจ็บปวดบนหน้าท้องเหมือนจะบรรเทาลงด้วยความเสียวของจุกถัน ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ปลายเท้าเหยียดเกร็งร้อนผ่าวไปหมด แพรวเสียอาการจนคอนโทรลไม่อยู่ เธอทั้งเสียวทั้งดิ้นพล่านพลางพลิกตัวหนีสุดกำลัง แต่ก็ไปไหนได้ไม่ไกลเกินกว่าวงแขนล่ำของพีที่กอดเอาไว้ เธอนั่นแหละที่จะกลายเป็นของเล่นสำหรับเขา เป็นหญิงสาวบำเรอกามที่เสียตัวให้แก่ผัวหนุ่มกระตุ้งกระติ้ง
.
พอเห็นว่าแพรวเริ่มสั่นมากขึ้น พีก็เลยกระแอมถามพลันชักมือออกจากใต้เสื้อ
.
“วู้ววว!”
“ที่มึงพูดมาก็มีเหตุผลว่ะแพรว พิสูจน์ดูแล้วกูว่ากูจู๋แข็งจริง ๆ ด้วย หุ่นมึงแม่งทำให้กูขึ้น นมมึงก็โคตรนุ่มมันสู้มือกูตลอดเวลาเลย แต่ครั้นจะให้มีเซ็กส์กันอีกคงไม่แคล้วท้องนอกมดลูกแน่ เพราะงั้นกูว่าเราควรหยุดไว้เท่านี้”
.
พูดเสร็จก็ดันหลังแพรวให้พุ่งออกไปข้างหน้า ทำให้ร่างบางของเธอพุ่งปลิวออกไปแบบไร้หลักหัวคะมำเกือบล้มหน้าทิ่ม
.
“อีพี! อีห่า! มึงทำบ้าอะไรของมึง!”
.
“บ่นกูได้งั้นก็แปลว่ามึงหายเจ็บท้องแล้วสิ?”
.
“เออว่ะ.. หายแล้วจริงด้วยแฮะ”
แพรวตอบพลางคลำที่หน้าท้องตัวเองดู
.
สวนทางกับพีที่เลือกใช้สองมือคลำลงที่หน้าอกตัวเอง เขายังคงทำมือเป็นกงเล็บโค้ง ๆ อูม ๆ ให้ขนาดและรูปทรงนั้นเท่ากับหน้าอกของแพรวที่เพิ่งบีบจับไปเมื่อครู่
.
“หยุดนะอีลามก! มึงคิดจะทำอะไรของมึง! เลิกเอานมกูไปเทียบกับนมมึงได้แล้ว มึงยังไม่ได้เฉาะแล้วก็ยังไม่ได้ผ่าอะไรทั้งสิ้น แล้วมึงก็แมนพอจะเอากับผู้หญิงมาแล้วด้วย มึงมันกระเทยปลอม! กระเทยก็อปเกรดมิลเลอร์!”
“แบร่!”
.
แลบลิ้นปลิ้นตาใส่แบบไม่เกรงใจอายุ ขวบปีนี้ก็เข้าสู่วัย 20 แล้วแต่แพรวก็ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ เธอไม่ได้เจตนาอย่างที่พูดหรอกแต่เธอแค่อยากบอกและย้ำเตือนให้พีรู้ ถึงสิ่งที่เธอได้รับทราบมาว่าเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ตุ๊ด
.
ซึ่งพีเองก็ได้สวนคืนกลับไป
.
“กูไม่ได้คิดอย่างที่มึงว่าสักหน่อย!”
“ที่กูทำมือบีบ ๆ แบบนี้ก็เพราะกูเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่ากระเทยในประเทศเกินกว่าร้อยละ 80 แม่งแดกยาคุมให้นมใหญ่กันทั้งนั้น สารในตัวยาจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล สะโพกจะผายแล้วนมก็จะใหญ่ ยาคุมจึงเป็นทางเลือกที่ทำให้สรีระแมน ๆ ของพวกเราเปลี่ยนแปลงได้”
“โธ่เอ๊ย! ทำไมเพิ่งมาคิดออกวะ กูนี่โง่เขลาโข่งควายทุยซะจริง!”
.
“แล้วไง? มึงจะบอกว่ามึงมียาคุมพกติดตัวอยู่งั้นหรอ?”
.
ส่ายหัวปลดปลงพีถึงกับต้องรีบลุกยืนขึ้น พลางส่งมือมาให้แพรวจับ
.
“ไม่เฉียดเลยสักนิดแพรว กูไม่มีหรอก ของพรรณนั้นเขาไม่ขายให้พวกกูอีกต่อไปแล้ว กฎหมายใหม่เพิ่งออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงไหมนะ แต่ตอนที่มาที่นี่กูเพิ่งได้คุยกับพวกพี่ ๆ มูลนิธิมา เขาบอกว่าทีมแพทย์เชิงรุกต้องการตัวกระเทยจำนวนมาก และวิธีที่ดีที่สุดก็คือการล่อพวกกูออกมาจากที่ซ่อน เพราะงั้นที่ด่านตรวจจึงมีกระเทยถูกสุ่มตรวจเยอะมาก”
.
“แล้วไง! ไม่เห็นจะเข้าใจ มันเกี่ยวกับยาคุมตรงไหนมิทราบ?"
แพรวปัดตูดสองสามที หลังออกแรงฉุดมือพีให้ตัวเองลุกขึ้นยืนตาม
.
“เอ้า! ก็อาการข้างเคียงของคนกินยาคุมไงอีโง่! ความหงุดหงิดอารมณ์แปรปรวนนี่อันดับหนึ่งเลย ข้างกล่องเขาถึงระบุว่าห้ามผู้ป่วยซึมเศร้าแดกเป็นอันขาด ยิ่งเป็นผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศเต็มเปี่ยมอย่างพวกกูด้วยแล้ว พอไม่ได้แดกยาคุมเพื่ออัพขนาดนมก็จะหงุดหงิด อยู่เฉยไม่ได้ ซ่อนตัวอยู่ในที่พักอาศัยไม่ได้ มีแต่ต้องออกไปหาซื้อยาตามร้านขายยาต่าง ๆ”
“ทีมแพทย์เคลื่อนที่จึงนำจุดนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ พวกเขาออกร่างกฎหมายใหม่ภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อันมีเนื้อหาสาระหลักคือ ห้ามร้านขายยาทุกร้านจำหน่ายยาคุมให้แก่ผู้ชายเป็นอันขาด!”
.
“ถ้างั้นก็..?”
.
“ใช่! ตามนั้นแหละกระเทยก็เลยต้องออกจากที่ซ่อน ออกจากบ้านเรือน ออกมาเดินเพ่นพ่านหายากินกัน หน่วยแพทย์เชิงรุกก็แค่ใช้ปืนตาข่ายไล่ยิงทีละคนสองคน แป็บเดียวก็โดนจับตรวจกันหมด งานพวกเขาก็จะง่ายขึ้นเยอะ”
.
“โหดร้าย..!”
.
“กูยังไม่เห็นกับตาหรอกนะ นี่ก็แค่ฟังพี่ ๆ มูลนิธิเขาเล่ามา แต่ในด่านตรวจกระเทยก็เยอะจริงจนหนาตาเลยล่ะ กูว่าบางทีข้อมูลนี้ก็มีมูลความจริงอยู่มาก”
.
“แล้วเราจะเอาไงต่อดี?”
.
แพรวถามแต่พีไม่ตอบ เขาเดินสวนตัวแพรวเข้าไปในบ้าน ไม่ได้แวะห้องใต้ดิน ไม่ได้สนใจพ่อขี้เมาด้วยซ้ำ พีเดินตรงไปที่วงกบประตูก่อนจะคว้าเอากุญแจมอเตอร์ไซต์ที่แขวนไว้มาใช้ เขาเดินทะลุออกทางหลังบ้านไปเอารถคู่ใจออกมาจอดเบิ้ลน้ำมันรอแพรวที่ด้านนอก
.
“บรึ๊นนน! , บริึ๊นนน! , บรื้นนน!”
.
“ขึ้นมาแพรวกูมีแผน ในเมื่อคาดว่าร้านขายยาจะเป็นแหล่งรอดักซุ่มของพวกทีมแพทย์ งั้นเราก็บุกไปที่ตึกแม่ของบริษัท AP ไปเลย โรงงานยาของที่นั่นผลิตยาได้ทุกตำรับในโลก”
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ