เข้าสู่ระบบฉันยืนขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้าประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าหาหมายเลขห้องว่าถูกต้องหรือเปล่า ก็คิดว่าไม่ผิดแน่ ๆ แถมฉันยังแตะคีย์การ์ดเข้ามาได้อีกด้วย แม้ว่าประตูด้านหน้าจะมีสองระบบเป็นกดรหัส แตะคีย์การ์ดก็เถอะ
เมื่อแน่ใจแล้วว่าห้องนี้เป็นห้องที่พี่ชายเช่าให้ไม่ผิดแน่ ๆ จึงกระแทกประตูให้เสียงดังสนั่น เพื่อหวังว่าคนที่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่นั้นจะรู้ตัวแล้วก็เลิก
แต่...
“อื้อ...ตับ ตับ ตับ...อื้อ...”
ไม่ได้ผลแฮะ...หรือว่าสองคนนั้นเมามันจนหูดับไม่ได้ยินเสียงรอบตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันจึงนั่งรอที่โซฟาเพื่อหวังว่ากิจกรรมเข้าจังหวะน่าจะเป็นเจ้าของห้องคนเก่าที่ยังไม่ได้ย้ายออกไปจะเสร็จโดยเร็วพลัน
นานเกือบห้านาทีแต่ก็ยังไร้วี่แววที่จะหยุด เท่านั้นยังไม่พอ เสียงยิ่งทวีดังขึ้นจนฉันเริ่มเดือดแล้ว ทั้งที่คิดว่าไม่ควรขัดขวางความสุขใครในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มเช่นนี้
แต่เมื่อนึกถึงไอ้พี่ยชนามันก็ทำให้ฉันเดือดปุด ๆ ในอกก่อนจะลุกขึ้นเดินหน้าตึง ๆ เข้าไปยังที่มาของเสียง และก็เห็นว่าอีกคนนั้นเป็นผู้ชายร่างสูง หุ่นกำยำในกางเกงยีนกับเสื้อชอปที่ยังไม่ถอดออกด้วยซ้ำ
ต้องรีบขนาดนั้นเลยหรือไง กลางวันแสก ๆ เงี่ยนไม่รู้เวลาเลย แล้วนั่นผู้หญิงก็อยู่ในชุดนักศึกษา ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงแบบนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้คงจะเป็นผู้หญิงที่ชอบอ่อยผู้ชายนั่นเอง และพากันมาทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่ห้องคนอื่นแบบนี้ มารยาทอยู่ที่ไหนวะ
ฉันยืนกอดอกมองด้วยสีหน้าเอือมระอา แต่ก็เห็นว่าผู้ชายที่ยืนกระแทกบั้นเด้าเข้าหาอีกคนที่เพียงถกกระโปรงขึ้นนั้น มองไปยังกระจกที่ส่องสะท้อนเงาของฉัน แต่ทว่าอีตาบ้านั่นกลับยิ้ม
“นี่...รอต่อคิวหน่อยนะ...เกือบเสร็จแล้ว”
ฉันขมวดคิ้ว...คำว่าต่อคิวทำให้ฉันปรี๊ดแตกขึ้นมา ไอ้บ้านี่คิดบ้าอะไรอยู่ ถึงคิดว่าฉันจะมาต่อคิวทำกิจกรรมเข้าจังหวะ
ต่อให้ฉันมีแฟนไปเรื่อย แต่ฉันก็เลือกนะถ้าจะนอนกับใครสักคน
“ใครต่อคิว?” ฉันถามเสียงเดือดพร้อมกับมองอย่างเอาเรื่อง แต่เลือกจะมองไปที่กระจกที่เห็นเงาราง ๆ ของอีกคนที่ยิ้มมาให้
แต่เป็นรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเสียจนฉันอยากหากระบองฟาดสักที
“ถ้าไม่ต่อคิวแล้วเข้ามาห้องนี้ทำไมครับ...อ๊า...อย่าตอดสิโอ๊ย...เสียวฉิบ”
เชื่อเลยแทนที่ไอ้คนบ้านั่นจะหยุด กลับยืนต่อล้อต่อเถียงฉันในขณะที่เอาผู้หญิงอีกคนไปด้วย สาบานเลยผู้ชายแบบนี้ฉันไม่เอาทำผัวเด็ดขาด
“หรือเข้าห้องผิด”
คนที่เข้าห้องผิดสมควรเป็นคนที่ถามมากกว่านะ ฉันว่าคำถามนี้ควรเป็นของฉัน
“ฉันสิต้องถามคุณ”
“ขอเอาให้เสร็จก่อนได้ไหม”
โอ้โห...เหี้ยกว่าไอ้พี่ยชนาก็ไอ้คนนี้นี่แหละ และมั่นใจว่าคนที่ไม่มีคีย์การ์ดย่อมเข้ามาไม่ได้แน่ ๆ เว้นเสียแต่เจ้าของห้องที่ปล่อยเช่า คนเก่าน่าจะคืนคีย์การ์ดไปแล้ว
หรือฉันคิดว่าควรโทรบอกพี่ชายให้ยกเลิกสัญญาเช่า ฉันเลยยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ก่อนจะส่งไปให้พี่ชายและรอพี่ชายตอบกลับ แต่ทว่าอีกคนดันโวยวาย
“เฮ้ย...ถ่ายรูปได้ไง นี่มันส่วนตัวนะ หากภาพหลุดไปฉันฟ้องเธอแน่ เข้าห้องผิดก็ออกไปดิวะ หรือชอบจนอยากร่วมวงด้วยก็เดินมาดี ๆ”
โอ๊ย...ไอ้เวรนี่...มันคิดว่ามันเป็นใครถึงได้พูดจาบ้า ๆ แบบนี้ ยิ่งเสื้อชอปนี้รุ่นพี่ที่คณะแหง ๆ อยากโพสต์เข้ากลุ่มเอนจิเนียร์จริง ๆ อยากรู้ว่าญาติใครช่วยมาเก็บไปหน่อย
“ฉันไม่ได้เข้าห้องผิด”
“โอ๊ย...ไม่ต้องเลย เดี๋ยวเดินออกไปหน้าประตูแล้วบอกโทษทีนะ...ไม่ได้ดูเลขที่ห้องเลขมันคล้ายกัน”
เอาเข้าไป...จินตนาการล้ำเลิศไม่เหมาะกับเรียนวิศวะสักนิด น่าจะเหมาะกับพวกนิเทศสายเขียนบทภาพยนตร์ละครอะไรเทือกนั้น
ฉันยืนเงียบขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกประสาทกลับ แต่พี่ชายก็ยังไม่ตอบกลับเหมือนกัน แทนที่เห็นว่าน้องส่งข้อความไปจะใส่ใจเปิดอ่านเป็นคนแรก ๆ กลับเฉยเมยนี่มันน่าฟ้องพ่อกับแม่จริง ๆ
แต่สุดท้ายเสียงกระแทกตับ ๆ หยุดลงพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกัน ฉันได้ยินเสียงถอดถอนตัวตนออกมาดังลามกมาก จนจักจี้แก้วหูชอบกล
ต่อให้ไม่เคยนอนกับใคร แต่ว่าหนังโป๊ฉันก็ดูไม่ขาดแถมดูทุกคืนเพื่อศึกษาเอาไว้ เผื่อฉุกเฉินจะได้มีประโยชน์ แต่พอได้ยินเสียงชัดแบบฟูลเฮชดีแบบนี้ก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ต้องฮึบคีปลุคดูดีเอาไว้ ไม่ให้ไอ้รุ่นพี่คนนั้นมันล้อเอาได้ว่าเผลอคิดเรื่องอย่างว่า
"มุกเข้าห้องผิดนี่คิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ"
ไอ้รุ่นพี่คนนั้นพูดขณะที่กำลังดึงถุงยางออกพร้อมกับโยนลงถังขยะ และฉันเห็นทุกการกระทำพร้อมรู้สึกขยะแขยงนิด ๆ
"ไม่!"
“ก็รู้นี่...แล้วยังจะตามฉันมาอีก”
"ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องใส่ใจ แล้วนี่ลุงหลงตัวเองมากเลยดิ...หน้าตาเหมือนเห็บหมา...แล้วยังชอบเอาท่าหมาอีก...เหอะ คิดว่าคนแบบนี้น่าคบมากมั้ง...ฉันก็คิดว่าห้องเช่านี้มีผีเลยเดินมาดู แล้วก็จริง มีผีกำลังจับหัวเลย เซ็งชะมัด"
ฉันเหลืออดแล้วเช่นกัน ใส่ยับไม่ยั้งปากสักนิด เพราะอีกเดี๋ยวก็จะไม่ได้เจอกันแล้ว
“อยากให้ลองจับหัวกระแทกดูไหมล่ะ?”
“ไอ้ชั่ว...ไอ้สันดานหมา...ไอ้เห็บหมา” เหลืออดบอกเลยเหลืออดมาก ๆ
“ถ้าฉันเห็บหมาแล้วเธอเป็นอะไร”
“เป็นคนสวยของวิศวะโยธาไง”
“คิดว่าสวยแล้วจะด่าใครก็ได้งั้นเหรอ”
“ทำไมจะด่าไม่ได้...ปากหมาใส่ฉันก่อนนี่ มีปากคนเดียวหรือไง บอกอะไรให้นะ ฉันได้คีย์การ์ดนี่มาเป็นผู้เช่าคนใหม่ ถ้าเดาไม่ผิดคุณคงเป็นเจ้าของห้อง ถ้าห้องจะเอาไว้ทำกิจกรรมเข้าจังหวะแบบนี้ฉันไม่เช่าแล้ว เอาเงินมัดจำของพี่ชายฉันคืนมา”
แต่หากคิดว่ารุ่นพี่คนนี้จะสลดเนื่องจากตัวเองทำผิด ไม่จริงสักนิด
อีกคนหันมาหลังจากทำตัวเหมือนหมาติดเป้ง แต่แทนที่จะรูดซิปก่อนจะหันมา ดันหันมาโชว์ของต่อหน้าฉันก่อนจะเก็บไอ้ท่อน ๆ เหมือนบ้องข้าวหลามเข้าที่แถมยังมองฉันส่งยิ้มแบบได้ใจอีก
ฉันที่เห็นว่าคู่ขาของเขารีบจัดแต่งเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย จากนั้นก็คว้ากระเป๋าเดินออกไป ก่อนจะหันมายิ้มให้กับอีรุ่นพี่หน้าหื่น พร้อมขยิบตาให้หนึ่งทีส่งประกายวิ้ง ๆ ให้ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้แปลกอะไร กลับทำให้ฉันอยากจะปรี๊ดแตกรอบที่สอง
“เดี๋ยวพี่โอนเงินให้นะจ๊ะโอ๋”
อื้อหือ...ดีลกันต่อหน้าฉันไม่พอ ยังทำหน้าระรื่นไม่ได้รู้สึกผิดอีก ฉันก็เข้าใจดีนะแบบซื้อกินน้ำแตกก็แยกกัน แต่ทำไมรู้สึกขนลุกกับการดีลที่ไร้ยางอายแบบนี้ก็ไม่รู้
ให้ตายสิ
แต่เมื่อหันกลับมาเจอไอ้รุ่นพี่หน้าหื่น มองมาที่ฉันพลันเกิดความรู้สึกหวิว ๆ ในอก กับลางสังหรณ์ที่รู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นแล้ว
“มาคุยกันหน่อยสิเราน่ะ”
ฉันคิดว่าไม่มีเรื่องต้องคุยอะไรกับไอ้รุ่นพี่หื่นกามนี้แล้ว จึงหันหลังลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่กลับ คิดว่าไปนอนบ้านอ้อนพ่อกับแม่ให้ซื้อคอนโดให้ดีกว่า เพราะพี่ชายมันดูแลน้องไม่ได้หรอก
“นี่ชื่ออะไรเราอะ...ฉันบอกให้มาคุยกันหน่อย”
“ไม่จำเป็น” ฉันตอบไป
“จำเป็นสิ...ฉัน...เธอเพิ่งเห็นของลับของฉันไปนี่...ถ้าหากอยากให้หายกัน ก็แค่โชว์ของเธอมาให้ฉันดูก็ได้ ฉันจะปล่อยเธอออกจากห้องไป”
“ไอ้คนหื่น!”
“ขอบใจที่ชมนะ ปกติเคยได้รับคำชมว่าหล่ออย่างเดียว”
กรี๊ดดด! อะไรของไอ้รุ่นพี่บ้านั่นเนี่ย!!?
ผมที่รู้ว่าพ่อแม่ของผมนัดกินข้าวกับพ่อแม่ของน้องไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่าที่ลูกเขยอย่างผมยังไม่เคยได้เข้าไปไหว้คุณพ่อคุณแม่แบบจริงจังสักทีเพราะใครนะเหรอก็เพราะคนตัวนุ่มที่ไม่ยอมพาผมเข้าบ้านสักทีนี่ไงล่ะ “โมจิครับเมื่อไหร่จะพาพี่ไปแนะนำให้คุณพ่อกับคุณแม่รู้จักเป็นทางการสักทีล่ะ”ผมที่นั่งอยู่ในคอนโดหน้าทีวีโดยมีอีกคนนั่งบนตักกอดถังป๊อปคอนดูเน็ตฟลิกอย่างสบายใจ ส่วนผมไม่ค่อยสบายใจเลยเพราะว่าเป็นบ้านผมอย่างเดียวที่ยินดีต้อนรับ ไม่รู้ว่าทางโน้นจะยินดีต้อนรับผมด้วยหรือเปล่า ถามแม่ก็เอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมบอกคล้ายกับจะแกล้งผม “พ่อกับแม่ยุ่งไม่ค่อยอยู่ไทยหรอก อีกอย่างไม่ค่อยชอบให้ใครไปกวนเวลาสวีตกันสองคน” น้องอ้างแบบนี้ตลอดทำให้ผมไม่มั่นใจว่าน้องแอบซ่อนอะไรเอาไว้ที่บ้านหรือเปล่า แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก เพราะก็ไม่น่าจะมีอะไรซ่อนเอาไว้ได้เลย คนที่ต้องกลัวเรื่องนี้แทนที่จะเป็นน้องกลับเป็นผมเสียเอง ก็คนมันเคยผ่านผู้หญิงมาหลายคนกะร่อนปลิ้นปล้อนไปเรื่อยกลัวจะโดนเอาคืนกลับน่ะสิ เรื่องนี้ผมก็เครียดอยู่เหมือนกัน แต่คนที่ชิลล์เหมือนไม่คิดจะจริงจังเรื่องนี้สิทำ
ไอ้เวรนี่ให้ตายเหอะ...มันสรรหาคำมากระแนะกระแหนผมไม่ว่างเว้น แต่พอหันไปเห็นน้องยิ้มให้ก็มีกำลังใจสู้กับมันนิดหน่อยจนกระทั่งตอนที่ผมเถียงเรื่องกลัวผีกับกลัวตุ๊กแกอยู่ ๆ ไอ้สองตัวก็เอ่ยขึ้น“ได้-ทำไมจะไม่ได้” “ไม่ได้”ผมที่เถียงกันไปเถียงกันมาจากนั้นไอ้ยอดรักเพื่อนผมก็เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย ที่วันนี้เหมือนมีคนที่หายไป “มึงเห็นไอ้สกายไหม...ได้ไปกับไอ้หมอเมฆหรือเปล่า”พอยอดรักพูดอย่างนี้ผมก็หันมองทันที วันนี้หลังจากกินข้าวก็ไม่เห็นมัน แล้วผมก็เกิดหึงขึ้นมาหากมันไปอยู่ ใกล้ ๆ กับน้องโมจิเดี๋ยวมันจะไปพูดถึงความหลังครั้งเก่า กลัวน้องจะเคลิ้ม ผมต้องกันเอาไว้ก่อน “ไม่นะ...วันนี้มันบอกจะอยู่ที่โรงเรียนนี่” ไอ้เทมโป้ว่า นั่นทำให้ผมสบายใจ “แต่แยกกันตั้งแต่ตอนที่ไอ้กรณ์วอแวกับโมจิ ก็ไม่เห็นมันเลยนะ...มึงโทรดิมันอยู่ไหน” ผมบอกไอ้เทมเพราะกลัวมันจะไปทำคะแนนกับแฟนของผมพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปถามคนอื่น ๆ ว่าเห็นไอ้สกายหรือเปล่าจังหวะนั้นเอง ไอ้ไทป์ เพื่อนของยอดรักก็วิ่งหน้าตื่น สภาพมันหอบแฮ่ก ๆ จนพูดแทบไม่เป็นคำ แต่สายตาที่มองมาที่ผมกับไอ้เทมโป้เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นปนรีบร้อน“ไอ้ปุณณ์! พี่เทม! มีค
🐯🐯🐯วันที่ผมพาน้องมานอนที่ห้องตัวเองครั้งแรกเพราะว่าเอาหนักจนผ้าปูที่นอนอีกห้องนอนไม่ได้ในใจรู้สึกฟูจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง ตั้งใจว่าจะคุยเรื่องนี้กันหลังจากตื่นแต่ใครจะนึกว่าจะเกิดเรื่องตอนนั้น ผมต้องไปจัดการบางอย่างจนรู้อีกทีคือน้องไม่อยู่รออย่างที่บอกเอาไว้ ตอนนั้นผมอยากจะปลีกตัวออกมาจะแย่แต่ก็ทำไม่ได้ จนสุดท้ายทุกอย่างคลี่คลายผมจึงไปหาน้องและที่เดียวที่น้องอยู่ก็คืออู่ของไมล์ส ที่จริงผมรู้จักที่นี่เพราะเป็นอู่รับซ่อมและแต่งรถยนต์ เรียกได้ว่าในวงการของผู้เป็นเจ้าของรถซุปเปอร์คาร์ต่างรู้จัก แค่ผมไม่ได้สนิทมากเท่าไหร่นักเท่านั้นเอง แต่เมื่อรู้ว่าพี่ไมล์สเป็นเสมือนพี่ชายอีกคนของน้อง ผมก็อยากจะรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับน้องจนได้รู้ว่าน้องเชื่อหมอดูไร้สาระนั่น จนผมหงุดหงิดนิด ๆ กับที่บอกว่า ‘คบกับแฟนเก่าแล้วจะสมหวังในรัก’ นั่นก็แย่แล้ว ใครจะให้เมียตัวเองไปคบกับแฟนเก่าเพื่อที่จะได้คบกันยาว ๆ ล่ะ ผมหวงจะตายไม่รู้หรือไง แต่พี่ไมล์สก็เล่าถึงตอนอกหักน้องน่าสงสารมาก เพราะว่าคนที่รักไม่ใช่ใครก็เป็นคนกันเองทั้งนั้นและยังเป็นเพื่
“โมจิ...มึงบอกว่าผัวมึงจะกลับวันไหนนะ” นังป๊อปถามทั้งมองไปด้านหลังพลางขยี้ตาคล้ายกับคนเห็นภาพลวงตา“โอ้ย...ไปสามสี่วัน...วันนี้เพิ่งวันที่สองเอง คงจับน้องปูอยู่มั้งเห็นเขาแทคกัน” ลิ้นเปลี้ยบอกออกไป แต่ทว่าสายตามองไปทางพี่สกายหวานเชื่อม แล้วเรอออกมาเอิ๊ก~~ฉันยิ้มมองไปทางคนหล่อที่สุดในกลุ่มชายโสดสี่คนก่อนจะเอ่ยด้วยความรู้สึกจากใจจริงนะ “พี่โคตรหล่อเลยวะ...เสียดาย!”“เฮ้ย ๆ...ไอ้โมจิ...ยังไง...มึงจะผัวเผลอเจอกันไม่ได้นะ” พี่ไมล์สรีบห้าม“เดี๋ยวเถอะมึง...ไอ้ปุณณ์ได้ยินเดือดแน่” พี่ยอดพูดบ้าง แต่ว่าฉันแสยะยิ้มใส่“พี่ปุณณ์ไม่อยู้...แต่ถึงอยู่ขย่มสองทีก็เงียบแล้ว...ร้องเป็นแมวหง่าว ๆ เลยแหละ” พอเมาก็พูดอะไรต่อมิอะไรออกมาเรื่อยแม้แต่เรื่องบนเตียงก็ไม่เว้นแล้วพี่ไมล์สตบเข่าฉาด “ให้มันได้อย่างนี้เว้ยไอ้น้องรัก...เราอย่าไปยอมให้ผู้ชายข่มเรา เราต้องขึ้น”“เท่าแขนค้า...เท่าแขนก็อมมาแล้วค่ะ...นี่...เท่านี้” ฉันจับที่แขนตบแปะ ๆ พูดอย่างโอ้อวด ทำให้ทุกคนหัวเราะให้กับความลามกของฉันโดยไม่รู้เลยว่าด้านหลังคนที่คิดว่าจะกลับอีกสองวันนั้นยืนกัดฟันกรอดอยู่แล้ว“โมจิ...พี่ปุณณ์กลับวันไหนนะ” นังน้ำตาลที่น
เวลาผ่านไปสุดท้ายการปิดเทอมเล็กก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนรู้สึกใจหายเพราะยังอยากนอนขี้เกียจอยู่เลย แต่ที่เปลี่ยนแปลงก็คือฉันได้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของ พี่ ๆ เขาและรู้สึกว่าพวกพี่เขาเป็นคนที่เข้าถึงยากนั้นไม่จริงสักนิด ยิ่งกลุ่มเพื่อนของพี่ปุณณ์นั้นฉันก็เพิ่งรู้ว่ารักกันมากขนาดยอมตายแทนกันด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้อคติเลยสักนิดแม้ว่าฉันจะเป็นคนที่ปากหมามาก ๆ ก็เถอะ ก็โยธานี่เนอะ...ไม่ปากหมาจะสู้พวกผู้ชายปากเสียได้ยังไงล่ะ ตอนนี้ข้าวของทั้งหมดที่เคยอยู่ห้องพี่ปัณณ์คนตัวใหญ่ก็ย้ายเข้าไปห้องตัวเองจนหมด ทำให้ฉันไม่ต้องออกแรงขนด้วยซ้ำ และเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวก็เพิ่มขึ้นเพราะคนที่จับฉันแต่งตัวเอฟเสื้อผ้ามาทุกวัน จนพัสดุที่นิติแทบจะมีชื่อเจ้าของห้องคนเดียว คือ ปุณณภพ วรานันท์ แล้วแต่ละชิ้นที่สั่งก็คือชุดนอนไม่ได้นอน ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นในแบบเซ็กซี่ ชุดครอสเพลย์ จนฉันรู้สึกเขินเวลาลงไปเอากล่องพัสดุ แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่เห็นต้องเขินเดี๋ยวก็ชินไปเอง เขาที่ชินส่วนฉันไม่ชินเลยสักนิด เมื่อมหาวิทยาลัยเปิดแล้วภาพที่แสนชิ
ลำท่อนใหญ่ดันเบา ๆ อยู่ตามรอยแยกตามร่อง ปลายนิ้วโป้งบดขยี้ถี่ ๆ ทำให้ฉันต้องจับบ่ากว้างเอาไว้จนแน่น ยิ่งเขาวาดขึ้นลงถูกไปมาสลับกับดันนิด ๆ แต่ก็ยังอยู่เพียงภายนอกทำให้น้ำใส ๆ ไหลเยิ้มจนกองอยู่เนินหัวหน่าวของเขา ยิ่งดัน... ยิ่งอยากยัดลงไปให้มิดด้าม... ฉันครางเสียงหวานสองมือจิกบ่ากว้างแน่น เขาเองก็ครางงึมงำอย่างพอใจที่ทรมานฉันได้ ทั้งที่ควรเป็นฉันเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายทรมานเขา ทำไมคนเจ็บแซ่บอย่างนี้นะ “ซี๊ดดดด” “หนูอยากหรือยังครับ” “ยะ...อยาก...อยากแล้ว...พี่ปุณณ์...อื้อ...เร็วหน่อยได้ไหม” แต่ใครจะนึกว่าคนตัวใหญ่ไม่ได้ตามใจฉัน จับเรียวขาของฉันตั้งชันขึ้นสองข้าง จนอะไรต่อมิอะไรก็เปิดเผยต่อหน้าเขาทั้งที่ฉันยังใส่กระโปรงอยู่ด้วยซ้ำ ก่อนเขาจะสอดนิ้วกลางเข้าไปในช่องทางคับแคบที่ฉ่ำน้ำ “อื้อ...” ฉันนิ่วหน้าด้วยความแคบแน่นเมื่อเรียวนิ้วกลางที่มีขนาดเล็กกว่าท่อนเนื้อขนาดห้าสิบแปดของเขาสอดเข้า จนเผลอร้องออกมาด้วยความอึดอัด ลมหายใจของฉันติดขัดเล็กน้อย จนทำให้ฉันต้องสูดหายใจแรง ๆ แต่หน้าอกก็กระเพื่อมไหวไปด้วย







