LOGINเกิดมายังไม่เคยถูกใครปฏิเสธสักครั้ง แล้วเขาเป็นใครถึงได้กล้าปฏิเสธเธอหน้านิ่ง ๆ แต่ดันหล่อแบบนี้กัน
View Moreลูกคุณหนูตระกูลผู้ดีอันมีประวัติยาวนานในแวดวงสังคม หญิงสาวที่ถูกจับตามองและเพียบพร้อมไปด้วยฐานะทางสังคม
สวย หุ่นดี มีชื่อเสียง ถูกรายล้อมด้วยผู้ชายที่พากันเข้ามาหยอดคำหวาน นั่นอาจจะเป็นชีวิตที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่ไม่ใช่กับเธอ! “ให้โอกาสธันอีกสักครั้งไม่ได้เหรอครับ” “เราบอกว่าจบก็คือจบไงธัน เธอจะมาเรียกร้องอะไรอีก” “ทำไมล่ะกรีน ธันไม่ดีตรงไหน ทำไมกรีนถึงตัดธันง่าย ๆ แบบนี้” กรีน หรือ กรรณิการ์ สาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ของดีประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดีกรีอดีตดาวมหา’ลัย หญิงสาวรูปร่างอรชรซึ่งมีส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตร ใบหน้าสวยตามแบบฉบับลูกครึ่งสาว เรือนผมถูกย้อมเป็นสีบลอนด์ทอง รับกับรูปหน้าอันโดดเด่นขับให้หญิงสาวดูมาดมั่นและมีเสน่ห์น่าหลงใหล เครื่องหน้ารูปไข่ประดับไว้ด้วยเรียวคิ้วสวยได้รูป ดวงตาเรียวรีซึ่งมีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย ปลายจมูกโด่งรั้นดูน่าหยิก ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีแดงเรื่อ มุมปากสวยยกขึ้นเล็กน้อยดูซุกซน “มันไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี แต่เราก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าเบื่อก็จบ” กรรณิการ์ตอบกลับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตรงหน้าด้วยน้ำเสียงหวานเจือความหงุดหงิด ธันวาเป็นผู้ชายที่เธอเคยควงตอนช่วงเทอมสุดท้ายของปีสอง ซึ่งก่อนที่จะปิดเทอมเธอได้ตัดจบความสัมพันธ์ของการเป็น ‘คนคุย’ กับเขาไปแล้ว ตอนนั้นเธอบอกเขาเพียงแค่ต้องการจบความสัมพันธ์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลเพราะเธอคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นที่ต้องมานั่งอธิบายอะไรให้มากความ จบก็คือจบ ถึงแม้ว่าเขาจะวางตัวดี และรู้สถานะของตัวเองดีพอที่จะไม่ล้ำเส้นเธอจนเกินไป แต่เพราะเธอไม่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาไปมากเกินกว่านี้ จึงได้ตัดสินใจจบความสัมพันธ์ฉาบฉวยนั้นลงอย่างไร้เยื่อใย ซึ่งมันคงทำให้ชายหนุ่มคิดไม่ตก ถึงได้ยังมาตามตอแยเธอไม่เลิกเหมือนในตอนนี้ “แบบนี้มันก็ไม่แฟร์เลยดิ เธอเบื่อธันแล้วก็ขอจบโดยที่ธันไม่ได้เบื่อหรืออยากจบ เธอเห็นแก่ตัวไปไหม” ธันวายังคงโวยวายไม่หยุด เสียงของเขาค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนผู้คนในโรงอาหารต่างเริ่มหันมาให้ความสนใจกัน ใช่ ตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่กลางโรงอาหาร ซึ่งเขาอาศัยจังหวะที่เธอแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนเพื่อซื้อน้ำ เข้ามาซักไซ้วอแวจนถูกสายตาหลายคู่จับจ้องมาอย่างให้ความสนใจ หนำซ้ำวันนี้ยังเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกอีกด้วย กรรณิการ์รู้สึกอึดอัดกับสายตาที่จับจ้องมายังเธอพอสมควร เพิ่งเริ่มต้นชีวิตพี่ปีสามในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ก็ดันมีเรื่องเข้ามาให้ปวดหัวตั้งแต่วันแรกเสียแล้ว แม้ว่าตลอดมาเธอจะเป็นสาวฮอตนักเช็กเรตติ้ง ชอบโปรยเสน่ห์และเปลี่ยนคู่ควงไปเรื่อย ๆ แต่ว่ากันตามตรง ให้มายืนถกเถียงกับผู้ชายท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นแบบนี้เธอก็รู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะเดินหนีไปให้พ้น ๆ หากไม่ติดว่าอีกฝ่ายคอยดักทางเธออยู่อย่างรู้ทัน “จบก็คือจบนะธัน อย่าทำให้เราอึดอัดกับเธอไปมากกว่านี้เลย” รูปประโยคนั้นนับเป็นการเตือนจากเธอแล้ว เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะเลิกคุยกับใครไป แต่เธอก็ยังสามารถทักทายหรือเป็นเพื่อนกับคนเหล่านั้นต่อได้ แต่หากธันวายังเลือกที่จะคาดคั้นต่อ เธอก็คงต้องตัดบัวไม่ให้เหลือใยแล้วจริง ๆ “ก็ได้ แต่ธันไม่ยอมง่าย ๆ หรอกนะ คอยดูเถอะธันจะทำให้เธอกลับมาหาธันให้ได้” ธันวาเอ่ยด้วยท่าทางมาดมั่น เขารอโอกาสที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอมาตลอด จนกระทั่งสามารถขยับสถานะขึ้นมาเป็นคนคุยของหญิงสาวได้ แต่ไม่ถึงสองเดือนก็ถูกเธอเทกันดื้อ ๆ บอกตามตรงว่าเขาหงุดหงิดมาก ในเมื่อเขายังไม่ได้ครอบครองเธอ คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ได้เช่นกัน “ไม่มีทาง” ซึ่งเธอก็ตอบกลับไปอย่างหนักแน่นไม่ต่างกัน ธันวาไม่อาจฝืนตอแยหญิงสาวต่อไปได้ ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องถอยกลับไปตั้งหลักก่อน ทว่าเมื่อเขาเดินจากไป เสียงซุบซิบนินทาก็ดังแทรกขึ้นมาแทนที่ในทันที “ยัยกรีนเทอีกแล้วเหรอ” “ชีเปลี่ยนผู้บ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกอ่ะ ไม่สวยจริงทำไม่ได้นะ” “น้องกรีนเทแล้วว่ะ ต่อไปถึงคิวกูแล้ว” “หยุดมโน มึงดูหน้าคนคุยเก่าน้องแต่ละคน อย่างกับดารา ไอดอลเถอะ” และอีกมากมายที่เธอไม่อยากจะใส่ใจ ใครจะไปคิดว่าแค่ตั้งใจจะมาซื้อน้ำแก้วเดียว ก็ต้องเจอกับเรื่องราวชวนปวดหัวมากมายขนาดนี้ เป็นคนสวยนี่มันเหนื่อยจริง ๆ เลย! กรรณิการ์เปลี่ยนเป้าหมายจากร้านน้ำเป็นเดินเลี่ยงออกมาทางห้องน้ำแทน ร่างเล็กสวมชุดช็อปสีแดงเลือดหมู แม็ทช์กับกางเกงยีนทรงกระบอกสีเทาเข้มก้าวเดินเร็ว ๆ ไปยังห้องน้ำข้างโรงอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับตึกคณะของเธอ ทว่าในจังหวะที่กำลังจะเดินพ้นมุมตึกไปนั้น ร่างทั้งร่างก็ชนเข้ากับบางอย่างจนแทบถลาล้มลงไป ปึก! “อ๊ะ!” เสียงหวานร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมทั้งหลับตาแน่นเมื่อคิดว่ายังไงก็คงได้เจ็บตัวเป็นแน่ แต่กลับผิดคาด เมื่อสัมผัสจากวงแขนแข็งแรงของใครสักคนยื่นเข้ามารั้งเอวบางของเธอไว้ ทำให้ร่างเล็กที่กำลังจะหงายหลังล้มลงไปยังสามารถประคองตัวเองเอาไว้ได้ “เป็นอะไรรึเปล่าครับ”“ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่ไทม์เขาอยากให้ฉันนั่งใกล้นี่นา ฉันฝากแกซื้อข้าวด้วยสิ เอากระเพราหมูกรอบไม่เผ็ดเหมือนเดิมเลย” สาวลูกครึ่งเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิทด้วยสีหน้ายิ้มแย้มซึ่งคุณากรที่ลอบมองอยู่ ก็แอบอยากดุเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่พอคิดว่า ถึงบ่นไปเพื่อนสาวตัวดีก็คงไม่ยอมฟังอยู่แล้ว จึงไม่ได้พูดอะไร ออกมา แต่เลือกที่จะเดินไปซื้อข้าวกับลลิตาด้วยกันสองคนแทน“น้องกรีนสนใจเพื่อนพี่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่ไม่เห็นมันจะมีอะไรน่าสนใจเลยนะ นิ่งเหมือนรูปปั้นขนาดนี้” พอมีโอกาสพชรก็ชิงถามรุ่นน้องสาวคนสวยในทันทีเขาไม่ได้อิจฉาเพื่อนแต่อย่างใด เพียงแค่อยากใส่ใจเรื่องของเพื่อนก็เท่านั้น“แรก ๆ กรีนก็สนใจที่หน้าตาก่อนน่ะค่ะพี่พอร์ช แต่ว่าตอนนี้ก็คงต้องค่อย ๆ ดูไปก่อน ยังมีอีกหลายอย่างที่กรีนยังไม่เคยเห็น คงต้องรอให้พี่ไทม์ถอด อุ้ย หมายถึงเปิดเผยออกมาให้ดูค่ะ” กรรณิการ์ตอบกลับหนุ่มรุ่นพี่อย่างเป็นกันเอง โดยเธอจงใจพูดประโยคเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ ของเขาได้คิดจินตนาการไปเรื่อย และแน่นอนว่ามีเจตนาจะก่อกวนคนที่นั่งอยู่ข้างกันไปพร้อม ๆ กันจากแชตกลุ่มมหา’ลัยเมื่อเช้านี้ ก็ทำให้เธอได้รู้ชื่อของพวกเขาทุกคน เพราะทั้งกลุ่ม
ทัศนัยชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคนั้นของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่าเด็กนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้พูดจาแก่แดดแบบนี้ออกมาได้“คิกคิก ล้อเล่นค่ะ” ก่อนที่เสียงหัวเราะของกรรณิการ์จะดังขึ้น ร่างเล็กสั่นเทิ้มจากการพยายามกลั้นเสียงขำไว้ท่าทางของเขาตอนที่เธอพูดประโยคนั้นไป ทำเอาหญิงสาวรู้สึกขบขันไม่น้อย เธอก็แค่อยากรู้ว่าต้องทำยังไงหน้านิ่ง ๆ แสนหยิ่งของเขาถึงจะเปลี่ยนอารมณ์บ้างแต่ทัศนัยที่รู้สึกคล้ายถูกปั่นหัวนั้นเริ่มมีสีหน้าแววตาอึมครึมลงไม่น้อย เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกมาช้า ๆ ก่อนจะจ้องใบหน้าเนียนสวยของหญิงสาวตัวป่วนไว้คล้ายกำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ ไม่ให้ลุกขึ้นไปจับตัวผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้มาฟาดให้เข็ดหลาบ“เธอต้องการอะไรกันแน่” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอดกลั้นวันนี้ทั้งวันเขารู้สึกชีวิตวุ่นวายมากเสียจนน่าปวดหัว แค่เพราะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวที่เพิ่งเจอกันยังไม่ทันถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ และเพราะผู้หญิงคนนี้ตลอดทั้งวันเขาเลยแทบไม่มีสมาธิเรียน คอยพะวงห่วงกลัวว่าแหวนวงสำคัญจะหายไปแต่ทว่าคำถามนั้นของเขาก็ทำเอาคนตัวเล็กหยุดเสียงหัวเราะลง ดวงตาคู่สวยมองสบนัยน์ตาของรุ่นพี่หนุ่มแล้วคลี่ยิ้ม
ตลอดทั้งวัน ทุกครั้งที่หันไปมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองเธอก็มักจะได้รับสายตาล้อเลียน และท่าทางกลั้นขำเหมือนคนเส้นตื้น จากทั้งสองคนอยู่เสมอ จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเลิกเรียนในคลาสสุดท้ายของวัน“นี่ พวกแกหยุดหัวเราะได้แล้ว มันมีอะไรน่าขำขนาดนั้น?” เรียวคิ้วสวยขมวดมยุ่งอย่างขัดใจ เพราะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ“ก็มันตลกนี่ ปกติแกไม่เคยต้องหัวเสียเพราะเรื่องผู้ชายมาก่อน แล้วดูวันนี้สิ เพิ่งเปิดเทอมแต่แกหงุดหงิดผู้ชายไปแล้วสองคน” ลลิตาพูดพลางกลั้นขำไปด้วยมันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องตลกอะไรมากมาย แต่สำหรับเธอที่เห็นเพื่อนรักปั่นหัวผู้ชายเล่นมาตลอดก็อดรู้สึกตลกไม่ได้ ที่เห็นว่าเพื่อนถูกผู้ชายสร้างเรื่องให้กลุ้มใจบ้าง“นี่ยัยเลิฟ แกเส้นตื้นเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวหน้าลูกครึ่งปรี่เข้าไปตวัดแขนกอดคอของเพื่อนสาวที่ตัวเล็กกว่า แล้วเอ่ยเสียงลอดไรฟันคล้ายกำลังข่มขู่“นี่แกจะฆาตกรรมฉันหรือไง ฮ่าฮ่า” คนถูกกอดรัดยังคงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจแม้จะดูอันตรายไปสักหน่อยที่สองสาวเล่นกันระหว่างเดินลงบันได แต่ด้านหลังของหญิงสาวทั้งสองมีร่างของคุณากรเดินตามมาไม่ห่าง ซึ่งทำให้สองสาวไม่ค่อยระวังตัวมากนัก เพราะเชื่อว่าเพื่อนหน
“เราสนใจนายอ่ะ จีบได้ป้ะ?”คำพูดของกรรณิการ์สร้างความตกตะลึงระคนตกใจให้กับสองหนุ่มที่นั่งฟังอยู่ทั้งพชรและศุภวิชญ์ต่างหันมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างทัศนัยซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าอึ้ง ๆ ปนงุนงงสาวฮอตเป็นฝ่ายรุกว่าอึ้งแล้ว แต่นี่เพื่อนพวกเขายังโดนสาวสวยดีกรีอดีตดาวมหา’ลัยขอจีบซึ่ง ๆ หน้าอีก มันจะหล่อเท่เสน่ห์แรงอะไรเบอร์นั้นแต่คนถูกขอจีบกลับไม่แสดงสีหน้าอาการอะไรออกมาแม้แต่น้อย เขาทำเพียงจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง ๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนจากนิ่งสุขุมเป็นเบื่อหน่ายแทน“ไร้สาระ” เขาเอ่ยเสียงเรียบกรรณิการ์นึกหมั่นไส้ท่าทางไม่สนใจอะไรของชายหนุ่มไม่น้อย แต่เธอก็ยังทำทียิ้มแย้มแล้วตื๊อเขาต่อมาถึงขนาดนี้แล้วเรื่องอะไรที่เธอจะถอยกลับไปมือเปล่า เขาทำเธอหน้าแตกละเอียดชนิดหมอไม่รับเย็บขนาดนั้น เธอคงจะยอมได้อยู่หรอก!“เราจริงจังนะ ถือว่านายอนุญาตก็แล้วกัน งั้นขอไอจีหน่อยสิ แลกกับแหวนวงนี้” หญิงสาวยกเรื่องแหวนเข้ามาเป็นข้อต่อรองทัศนัยนึกเหนื่อยใจอยู่ไม่น้อย เขาไม่เคยเจอผู้หญิงน่ารำคาญขนาดนี้มาก่อน หากเป็นปกติป่านนี้เขาคงลุกหนีไปแล้ว ไม่ยอมนั่งอยู่กับตัววุ่นวายอย่างนี้เป็นแน่แต่เ