สายตี๊ดเซ็กซี่ขยี้ใจ
"ต่อไปให้เรียกคุณธามก็พอ” ฉันยิ้มกว้าง
"ได้ค่ะ คุณธาม"
ครืด...ครืด สมาร์ทโฟนของฉันสั่นอีกแล้วต้องเป็นไอ้กอล์ฟแน่ๆ
"กอล์ฟ"
"เพื่อนโทรมาแล้วค่ะ”
ฉันรับสายแล้วรีบรวบรวมกระเป๋าใบเล็กใบน้อยเตรียมพร้อมจะลงรถ ฉันมองไปทางท่านรองฯเห็นเขาทำทีไม่สนใจแต่แอบตะแคงข้างมาทางฉันแบบเนียนๆ
"ฮัลโหล"
"แกอยู่ไหนวะน้ำขิง"
"อยู่หน้าเซเว่น"
"เออ ทำไมไม่เห็นมีเลยวะ"
"อยู่บนรถ เดี๋ยวไป"
ฉันวางสายจากกอล์ฟ กวาดตามองหาโดยรอบเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดอยู่ ไอ้กอล์ฟลงจากรถแล้วมองหาฉันเหมือนกันท่านรองฯก็มองตามสายตาฉันในทันที เขาพยักหน้าแล้วชี้ไปที่เพื่อนฉัน
"นั่นใช่ไหม?เพื่อนคุณ"
"ใช่ค่ะ น้ำขิงไปก่อนนะคะ"
"นั่งรถดีๆล่ะ"
อื้อ...เขาเป็นห่วงฉันด้วย เขานี่นะจะห่วงฉัน
"ค่ะคุณธาม"
ฉันเหลือบมองเขาอีกครั้งอยากจะโบกมือบ๊าย...บายก็ไม่กล้า จึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วลงจากรถทันที
ไอ้กอล์ฟเพื่อนฉันถึงกับตาค้าง นักศึกษาสาวสวยลงจากรถของใครก็ไม่รู้และคนขับมันก็ไม่เคยเห็น
ดูสายตามันสิ...
มันมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เดินตรงมาหาคว้ากระเป๋าไปจากมือแล้วเอาไปสะพาย วาดขายาวๆของมันคร่อมรถทันทีเตะขาตั้งแล้วสวมหมวกกันน๊อคให้ฉัน ยื่นเสื้อหนังแขนยาวให้อีกตัว
"ใส่ซะ" มันมองฉันตาขวาง
ฉันทำผิดอะไร?...
ฉันรับเสื้อมาแล้วสวมใส่อย่างรวดเร็ว ส่วนมันสตาร์ทรถรอ เรียบร้อยแล้วฉันก็โหย่งตัวซ้อนท้ายมันด้วยความยากลำบาก(กระโปรงมันสั้น) กอล์ฟมันรอฉันจัดระเบียบตัวเองจนเสร็จ
"ไปได้..."
ฉันกอดเอวไอ้กอล์ฟแน่นกลัวหล่นและก็กลัวกระโปรงเปิดด้วย
"นั่งดีๆ เดี๋ยวตก" มันเตือนอีกเห็นฉันเอาแต่ปิดกระโปรง
ส่วนรถท่านรองฯเคลื่อนตัวออกทันทีขับตามไล่หลังมาติดๆ ฉันอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเขาเห็นเขาใช้สายตามองมาเหมือนกัน เราก็มองกันตลอดทางจนฉันโดนไอ้กอล์ฟต่อว่าหลายครั้ง
"บอกให้นั่งดีๆ"
@ เซอเคิลซูเปอร์คลับ
เซอเคิลซูเปอร์คลับเป็นคลับเล่นดนตรีสดสลับกับเปิดเพลงจากแผ่นสไตล์ EDM ย่านทองหล่อ ฉันลงจากรถมอเตอร์ไซค์อย่างยากลำบาก ขาแข้งสั่นไปหมดเหน็บพาลจะกินอยู่รอมร่อ
"เห้อ! มาถึงซักที"
"นึกว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งซะแล้วแม่จ๋า”
ฉันรำพึงรำพันขณะถอดหมวกกันน็อคออกแล้วถอดเสื้อคลุมยื่นให้มันไป
"เออ รถเรามันจะเหมือนปอร์เช่ได้ไง"
มันยังทำตาขวางใส่ ฉันคิดในใจว่าทุกวันนี้ทำไมผู้ชายเมืองนี้มันดุแท้วะ...
ไม่ถือสา ไม่ถือสา ฉันท่องไว้ในใจทำให้จิตใจสงบลงได้โดยไม่ไปแยกเขี้ยวใส่มัน
ดูมัน ไอ้เพื่อนวายร้ายมันสะบัดหน้าใส่ฉันด้วย
ฉันยกแขนซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือแล้วกระชับกระเป๋าเตรียมตัวเข้างาน
"เฮ้ย! จะทุ่มแล้วเราไปก่อนนะ"
ฉันรีบวิ่งจากมาในทันทีเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงานซึ่งเริ่มมีนักดนตรีเข้ามากันบ้างแล้ว
"สวัสดีดีค่ะ พี่เอ็ม พี่พอร์ซ พี่ต้าร์"
ฉันยกมือไหว้เมื่อเดินผ่านห้องแต่งตัวของผู้ชาย อีกห้องเป็นของผู้หญิงซึ่งยังไม่มีใครมามีแต่ฉันคนเดียว
"วันนี้ขออาบแห้ง”
จะบอกว่าวันนี้ฉันเสียเหงื่อไปเยอะมากกับการเดินสำรวจโรงงานกับท่านรองฯเนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ แต่ดีที่ยังไม่ถึงกับเปรี้ยว 555...
(หลังจากทดลองดมกลิ่นของตนเอง)
"อืม...พอได้"
วันนี้หวังว่าจะไม่มีแขกVIP อยากคุยด้วยหรอกนะ
เหม็นตัวเองเป็นบ้าเลย...
หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำแล้วบิดพอหมาดเช็ดตามเนื้อตัวในร่มผ้า ส่วนที่โผล่พ้นชายเสื้อก็เปิดน้ำก็อกล้างกันไปเลย ส่วนน้องสาวของฉันนั้นให้ความไว้วางใจกับสบู่เหลวสำหรับน้องสาวสูตรอ่อนละมุน
เพื่อความมั่นใจ...
"อืม ค่อยยังชั่ว"
เทแป้งเด็กปะตามเนื้อตัวให้ตัวลื่น เปลี่ยนชุดชั้นในตัวใหม่แล้วสวมเสื้อกล้ามครึ่งตัวสีขาวเอวลอย แมทซ์กับกางเกงขาสั้นสีขาวเข้าชุดกัน สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เก่ง(วันนี้คุมโทนสีขาว)
"เซ็กซี่มากจร้าแม่..." ฉันพอใจกับลุคส์นี้ ยืนมองตัวเองอยู่นาน
"หน้าอกมันเล็กไปหรือเปล่า"
"ไม่หรอกขนาดกำลังดี เซ็กซี่ม๊าก" พี่โอปอล์พี่ดีเจอีกคนเสริม
"เหรอคะ"
"จ้า...เร็วเข้า ไปแต่งหน้าให้ดูเซ็กซี่อีกนิด"
"รับรองเลยวันนี้น้องฉันคือที่สุด"
ฉันเก็บข้าวของแล้วเข้าไปห้องแต่งหน้าบรรจงแต่งอย่างสุดฝีมือ ผับเปิดเวลาสองทุ่มเริ่มมีลูกค้าทะยอยมาบ้างแล้ว คิวของฉันเรื่มที่สามทุ่มหลังจากได้เจรจาขอสลับคิวกับพี่โอปอล์
แต่งหน้าเสร็จแล้วฉันก็หิ้วโน๊ตบุ๊คไปที่โซนเวทีของดีเจ ด้านหลังมีจอแอลอีดีขนาดยักษ์ ซึ่งจะมีฉันเป็นนางเอกบนจอ อีกไม่นานช่างไฟในตำนานของผับกำลังเช็คระบบไฟเครื่องยิงเอฟเฟกต์บนเวทีระบบเลเซอร์แสงสีกันให้วุ่น
จากนั้นเชื่อมต่อโปรแกรมมิกซ์เพลงกับเครื่องเล่น DDJ เสร็จแล้วฉันก็ปรับเพลงปรับโน่นนี่นั่นจนลงตัวแล้วกวาดสายตามองลงไปด้านล่างอีกครั้ง
วันนี้ลูกค้าแน่นร้านตั้งแต่สามทุ่ม หลายคนเป็น Fcของฉันตั้งแต่เริ่มมาเป็นดีเจที่นี่หลังจากนั้นฉันก็ได้เจอกับพวกเขาทุกวันหยุด
"น้ำขิง"
เขาตะโกนเรียกชื่อฉัน ซึ่งฉันก็ยิ้มตอบกลับไปหลายคนพาแฟนสาวมาด้วยฉันก็ยิ้มให้แฟนเขาด้วยเท่าๆกัน พยายามเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดกลัวแฟนเขามาดักตบ
"วี๊ดวิ้ววววววว" เสียงทักทายมาอีกระลอก
ฉันเริ่มเปิดเพลงแล้วทักทายพวกเขา
"สวัสดีค่า..."
"วันนี้เจอกันเร็วหน่อยนะคะ"
"พรุ่งนี้เวลาเดิม"
เสียงดนตรีดังขึ้นฉันปรับบีทให้สนุกขึ้นอีกบรรยากาศเริ่มครึกครื้น ผสมกับแอลกอฮอล์ที่ไหลลงคอ บนเวทีดีเจสาวยืนเต้นที่สเตจอย่างสนุกสนานด้วยสไตล์เพลงEDMแล้วโยกไปตามจังหวะอย่างสุดมันส์ ปลุกเร้าอารมณ์ให้ผู้คนด้านล่างมีอารมณ์ร่วมไปกับฉันได้ไม่ยาก การรีมิกซ์อย่างเหนือชั้นดำเนินต่อไป
"วันนี้ใครใส่เสื้อสีขาวบ้างคะ"
ฉันกรอกเสียงลงในไมโครโฟนอีกครั้งก่อนจะมีเสียงตอบรับกลับมาพร้อมกับแสงไฟที่รับกับจังหวะอย่างรู้ใจ หลายคนใส่เสื้อสีขาวเขาก็ได้เฮฮาสมใจ
"ถ้าใส่มา"
"แสดงว่าเราใจตรงกัน”
มุขเดิมๆเสี่ยวๆแต่ใช้ได้มาทุกยุคทุกสมัย วันนี้ก็ยังไม่เลิกเล่น
"ฮิ้ววววววว"
ฉันเห็นชายหนุ่มหลายคนบ้าคลั่ง พอใจกับวลีของฉันจากนั้นฉันจึงจัดท่าเต้นที่แสนจะเซ็กซี่ไปให้อีกหนึ่งชุดโดยไม่รู้ว่าอีกสถานที่หนึ่ง มีคนที่เพิ่งจากมากำลังมองหญิงสาวตาค้าง
@ ห้องVip
"เฮ้ย! คุณธาม เป็นไงบ้างวะผับฉัน"
ธามนิธิทายาทนักธุรกิจหนุ่มแทบจะไม่ละสายตาจากสเตทดีเจ จนเพื่อนเขาซึ่งเป็นเจ้าของผับเรียก
"หืม..."
"น้องน้ำขิง แกสนใจเหรอวะ"
"เปล๊า...ฉันแค่รู้สึกว่าเขาเล่นเพลงดี"
"น้องน้ำขิงดีเจดังผับฉัน" โน๊ตเจ้าของผับโอ้อวด
"เหรอ..."
คราวนี้เป็นเสียงของกรณ์เพื่อนอีกคนซึ่งเปิดสำนักงานทนายความโด่งดัง
"โน๊ต แกก็เรียกน้องเขามาคุยหน่อยสิวะ"
"ได้...เดี๋ยวฉันแจ้งผู้จัดการร้านให้"
ธามนิธิกำลังจะห้ามแต่ไม่ทัน "ไม่...ไม่ต้อง"
"ได้ไงวะนานๆทีแกจะมาร้านฉัน"
ธามนิธิใบหน้าร้อนผ่าวคิดในใจ
"ถ้ายัยน้ำขิงมาเราจะทำหน้ายังไงดีนะ"
เหงื่อพาลจะไหลออกมาเป็นทางเขาจึงหยิบกระดาษทิชชู่มาซับให้ตนเอง
"อะไรวะแค่นี้เหงื่อแตกเลยคุณธาม"
พวกแกไม่รู้อะไร...
ออนไรท์
จุดเริ่มต้นของคนคลั่งรักธามนิธิที่ทำแต่งานใช่ว่าเขาไม่เคยมีความรักเสียเมื่อไหร่ แต่มันนานเสียจนลืมไปแล้วว่าเนื้อสาวมันนุ่มขนาดไหน จนได้พบกับนักศึกษาฝึกงานที่เจอกันแวบแรกในลิฟท์ก็ทำเอาเขาใจสั่น แต่ต้องเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ต้องรักษามาตรฐานท่านรองประธานไว้ให้มั่น"คุณเก็บของแล้วตามผมมา" นั่นแหละคือเสียงที่เขาตั้งใจให้มันดุมันเข้มเพื่อปกปิดส่วนลึกในใจ ความใกล้ชิดในหลายวันทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่า ไม่อาจปล่อยมือจากสาวน้อยที่สดใส มีลักยิ้มทรงเสน่ห์และผมม้านั่นอีก รวมๆแล้ว เขาอาจจะบ้ารักหรือคลั่งรักไม่ได้หลับได้นอนอยากมาทำงานแต่เช้าทุกวัน เพื่อให้ได้พบหน้าได้ใกล้ชิดนิดหน่อยก็ยังดี หากได้ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ เขาจะบริการทุกระดับให้ประทับใจเปย์ได้เขาก็จะเปย์ ในวันนั้นที่หญิงสาวแกล้งเขาโดยจงใจวางมือน้อยๆ บนหน้าขาของเขา จนสะดุ้งสุดตัวรีบขยับขาหนีนี่เธอไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าผู้ชายเขาถือแต่เธอก็รีบหดมือกลับทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจแล้วพูดว่า "ขอโทษค่ะ"พูดแล้วยังแกล้งแอ๊บใสซื่อหดมือกลับอีก ไม่รู้อะไรใช่ไหมว่าปลุกเสือให้ตื่นแล้ววิ่งหนีกลับมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกแม่สาวน้อยหน้าม้า มาให้พี่กินซะดีๆแล้
หลานปู่หลานตาหลานยายคฤหาสถ์ของคุณปู่หลังกลับจากทริปมัลดิฟส์ ฉันกับคุณธามก็วนมาลูบเดิมคือทำงานเพิ่มเติมคือความหวานที่หมั่นเติมให้กันทุกวัน ที่เตียงนุ่มฉันกำลังไถสมาร์ทโฟนดูคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมหลังจากที่ได้ลงรูปทริปมัลดีฟส์ไปหมาดๆ ก็จะมีเพื่อนน้ำของฉันที่เข้ามาคอมเม้นท์ทันที"อยากเห็นหน้าหลานแล้ว" น้ำฝนฉันรีบตอบคอมเม้นท์นั้นไปว่า "คิดถึง" แล้วส่งรูปหัวใจไปหนึ่งดวงส่วนFCที่รักกันแน่นหนึบเหนียวแน่นก็ไม่ทิ้งไม่หนีหายไปไหน เข้ามากดหัวใจเข้ามาคอมเม้นท์กันสนุกสนาน"ลูกได้เวลาฟังเพลงก่อนนอนแล้วที่รัก" คุณธามที่ออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงมาที่เตียงแล้วหยิบสมาร์ทโฟนของเขาติดมือมาปิดไฟห้องนอนเหลือเพียงไฟหัวเตียงสีเหลืองนวล แล้วคุณธามก็เข้ายูทูปเปิดเพลงโมสาร์ทเปียโนอันไพเราะให้ลูกสาวตัวน้อยในท้องฟัง ส่วนฉันก็เคลิ้มเคลิ้มไปกับเสียงเปียโนแผ่วเบา "แม่นอนก่อนนะลูก" ฉันบอกลูกแล้วปิดตาลงคุณธามก็สอดมือเข้ามาโอบฉันเช่นเคยโดยไม่ลืม Good night kiss ก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน"รักนะคะที่รัก" สามเดือนผ่านไปตอนนี้ฉันใกล้จะเก้าเดือนแล้วก็ได้แต่พักผ่อนอยู่กับบ้าน ช่วงนี้อยู่ในช่วงลาคลอด คุณธามออกไปทำงานแต่เช้า
ฮันนีมูนที่แปลว่าดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หลังจากงานแต่งงานที่ขอนแก่นผ่านพ้นไป ตามด้วยงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างเลิศหรูอลังการสมกับที่เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย จัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร จากนั้นฉันกับคุณธามก็ได้ย้ายสำมโนครัว จากคอนโดหรูของคุณธามสู่คฤหาสต์หลังใหญ่ แต่ก็ยังทิ้งเสื้อผ้าไว้บางส่วนเผื่อว่าจะแอบมาหวานกันสองคนในบางโอกาส แล้วยังมีคอนโดนอีกแห่งที่ได้จากคุณนัท ห้องนั้นตั้งใจเอาไว้ให้น้ำมนต์เผื่อเขามาเรียนกรุงเทพฯ แต่ระยะนี้ถ้าวันไหนอยากหวานเราก็แอบไปดูผืนน้ำเกลียวคลื่นเมื่อเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่านไปผ่านมา และไฟสวยๆของสะพานพระรามแปดยามค่ำคืนกันสามคนพ่อแม่ลูก หนึ่งเดือนต่อมาพรุ่งนี้ฉันก็จะได้ไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปเมืองนอก ฉันตื่นเต้นมากนอนไม่หลับมาหลายคืน คุณธามกับฉันก็ลุยงานเคลียร์คิวเพื่อเตรียมตัวไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยของน้ำทะเลหาดทรายขาวสะอาด พอถึงตอนนี้ก็ไปมันทั้งที่ท้องโย้นี่ล่ะ ตอนนี้อายุครรภ์ก็ห้าเดือนแล้วถือว่าได้พาลูกไปเที่ยวในตัว"ลูกสาวคะเราจะได้ไปเที่ยวกันแล้วนะ" คุณธามลูบไล้หน้าท้องนูนหลังจากจบกิ
ยกเสาลงหลุม บ้านเตชะทรัพย์วันนี้เป็นวันแต่งงานที่แสนจะชื่นมื่น แขกเหรื่อมากันมากจนรับแขกกันไม่ไหว อาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทำท่าจะไม่พอรองรับ เมื่อFCของดีเจน้ำขิงตามมาสมทบจำนวนมาก เดือดร้อนถึงเจ๊ท๊อฟฟี่และเพื่อนเจ้าสาวอย่างน้ำฝนที่วิ่งวุ่นกันทั้งงานตั้งแต่เช้า"น้ำขิงนะ น้ำขิง FC หล่อนเกือบจะฆ่าเรากับเจ๊ท๊อฟฟี่แล้วรู้ไหมยะ""ใจเย็นๆนะคุณน้องค่อยๆแก้ไปค่ะ""ดีนะคะที่มีห้องน้ำในปั๊ม ไม่งั้นเราแย่แน่ค่ะ""จริงด้วยค่ะ เจ๊เห็นด้วย"งานแต่งของน้ำขิงและธามนิธิที่เน้นเรียบง่าย การ์ดแจกแต่เฉพาะแขกคนสำคัญญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ทั้งพ่อและแม่ของหญิงสาวเป็นคนมีหน้ามีตาไม่น้อยจึงเป็นอย่างที่เห็นคนต่างจังหวัดมักให้ความสำคัญกับสินสอดทองหมั้น แต่เมื่อเปิดพานสินสอด บรรดาญาติผู้ใหญ่แทบเป็นลมด้วยแสงเพชรวาววับจนแสบตา และยังจะเป็นโฉนดที่ดินและเงินอีกกองใหญ่ที่คุณธนัทกับธามนิธิทุ่มเทพิธีการทางศาสนาอัดแน่นตั้งแต่เช้า จนร่างกายเมื่อยขบปวดร้าวระบมไปทั่วร่างกาย เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็โดนเหน็บกินไปหลายรอบ จวบจนพิธีรดน้ำสังข์เสร็จสิ้นถึงได้ออกไปทักทายผู้มาร่วมงานด้านนอก"เฮ้ย...เจ้าบ่าวไหวไหมวะคืนนี้" คุ
แต่งค่ะ"น้ำขิงท้อง" แล้วคุณธามก็ยิ้มดีใจยื่นมือมาลูบที่ท้องของฉันเบามือ"ลูกของเรา..." "เอาล่ะพี่ธามรอเกรซแพรบเดียวนะคะ" แล้วคุณเกรซก็หายวับไปหลังร้าน จากนั้นคุณเกรซก็ออกมาพร้อมไวน์หนึ่งขวด ถือแก้วมาด้วยสองใบแล้วชำเลืองตามองมาทางฉัน"คนท้องห้ามดื่มค่ะ" ฉันก็ปล่อยให้เขาฉลองกันแล้วเข้าไป ลองชุดออกมาอีกทีคุณธามก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึง "คุณธามเมาแล้วค่ะกลับบ้านกันเถอะค่ะ" "ยัง...ผมยังไม่เมา" คนที่บอกว่าไม่เมาแต่เสียงอู้อี้มือไม้เปะปะบนตัวฉัน"กลับก่อนเถอะน้ำขิงพรุ่งนี้ค่อยมาลองใหม่" "แล้วอย่าลืมไปฝากท้องนะ จะได้เอายาบำรุงครรภ์มากิน""ค่ะคุณเกรซ ขอบคุณมากค่ะ" "คุณธามกลับบ้านกันค่ะ" @ คอนโดของธามนิธิเป็นความยากลำบากมากที่กว่าคนตัวโตจะอาบน้ำแล้วนอนอย่างเงียบสงบลมหายใจสม่ำเสมอ ตัวฉันพอรู้ว่าตนเองท้องก็มีความรู้สึกหนึ่งวิ่งเข้าสู่หัวใจคือความรักที่ไม่มีกฏเกณฑ์ ก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว"ลูก...แม่รักหนูนะ" มือน้อยลูบที่หน้าท้องแผ่วเบาอย่างหวงแหน จำเป็นต้องระมัดระวังตนเอง ทะนุถนอมร่างกายให้ดีที่สุดนับจากนี้ รุ่งเช้าคุณธามวันนี้ดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นพาฉันไปโรงพยาบาลแต่เช้า ตัวเขาเองยังได้ยา
แต่งค่ะ"แม่น้ำขิงจะรีบไปไหนไม่รู้นะคะ กลัวลูกสาวจะขายไม่ออกหรือไง"จู่ๆคนตัวโตที่นอนหมดสภาพ ก็ดีดตัวขึ้นอย่างเร็วนั่งหลังตรงสายตาคมจ้องเขม็งมาที่ฉันดวงตากระหายรู้ "แล้วจะแต่งไหม?" เขาถามเหมือนข่มขู่อยู่ในที"แต่งค่ะ"ฉันฉีกยิ้มหวานเอาใจยื่นมือลูบไปที่ใบหน้าหล่อนวลใสน่ากัดน่ากินหญิงสาวถึงแม้จะมีเวลา สำหรับการเตรียมใจยอมรับเรื่องการแต่งงานตั้งแต่ครั้งที่เขาตามไปขอนแก่นคราวนั้นการทาบทามสู่ขอเกิดขึ้นกระทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เหมือนสองคนพ่อลูกได้นัดแนะกันไว้แล้ว แม้ในใจลึกๆยังอยากใช้ชีวิตเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเขาในฐานะคู่รักอยู่ก็ตามจู่ๆจากที่ลำตัวพิงอยู่กับหัวเตียง เขาก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักของฉันอย่างออดอ้อน มือหนาจับมือซ้ายที่สวมแหวนวงน้อยนั้นไว้ลูบตัวแหวนนั้นไปมาอย่างใช้ความคิด"ไม่ต้องกลัวนะที่รัก แหวนแต่งงานเพชรต้องใหญ่กว่านี้แน่นอน" "อย่าลืมนะคะน้ำขิงเป็นมนุษย์นิ้วสั้น ไม่อยากได้ใหญ่มากนะคะแค่ซัก 5 กะรัตก็พอค่ะ""ตามใจที่รักหมดเลย" คนเห่ออยากแต่งงานคิดโน่นนี่นั่นในหัวสมองเต็มไปหมด แล้วพรั่งพรูออกมาอีก"พรุ่งนี้เข้าไปหาเกรซเรื่องการ์ดแต่งงานกันดีกว่านะที่รัก"เขาเองที่สุดแสน