เรื่องราวความรักระหว่างธามนิธิรองประธานบริษัทเบียร์ชั้นนำของเมืองไทย กับน้ำขิงนักศึกษาฝึกงานเรียนอยู่ชั้นปีที่4 คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ความรักเกิดขึ้นเมื่อเธอต้องรับบทบาทเป็นผู้ช่วยจำเป็นของท่านรองฯมือใหม่ เขาเกรี้ยวกราดไม่อ่อนโยนสักนิด ซ้ำยังดูถูกว่าเธอเป็นแค่นักศึกษาฝีกงานคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้ช่วยของเขาได้ น้ำขิงจึงพิสูจน์ตัวเองให้เขารู้ว่าเธอมีความสามารถ เมื่อทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นจึงเกิดเป็นความรักขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
View Moreสวมบทนักศึกษาฝึกงาน
"สายแล้ว สายแล้ว" ฉันยกข้อมือซ้ายดูเวลาอีกครั้งพอลงจากรถเมล์ได้ก็ใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต
แฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก! วิ่งหอบจนลิ้นห้อย แต่ใจสู้สุดชีวิตมองหาจุดหมายอยู่ที่ลิฟต์
"รอด้วยค่า รอด้วยค่า..."
ฉันใช้พลังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางทำให้ลิฟต์เปิดออกในทันที รีบยื่นขาขาวๆเข้าไปในลิฟต์โดยไม่ลืมขอบคุณผู้มีพระคุณในเช้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉันจึงพนมมือไหว้รอบทิศทางทั่วทุกคนได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกัน แล้วพ่นลมหายใจหอมสดชื่่นออกมาจนผมหน้ามาปลิวไสว
พรืด...
"ขอบคุณค่ะ..."
นิ้วเรียวกดปุ่มลูกศรขึ้นทันทีมองดูที่ตัวเลข 5 แสดงว่ามีคนขึ้นไปชั้นเดียวกัน คราวนี้ลิฟต์ปิดอีกครั้งทุกคนอยู่ในความสงบ มีสายตาหลายคู่แอบเหล่มองมาที่ฉันแล้วเลื่อนสายตาไปที่บัตรพื้นสีฟ้าตัวหนังสือสีดำที่คล้องคออยู่
นักศึกษาฝึกงานที่มีทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นพร้อมรูปแบบเก๋ไก๋ของฉันแล้วอมยิ้มเอ็นดูในความน่ารัก
สร้างสีสันเล็กๆ แหละ...
ฉันไม่รู้ว่ามะโนไปเองหรือเปล่า ว่าหลายคนแอบอิจฉาในความขาวใส ผิวขาวอมชมพูเห็นเลือดฝาดดูมีสุขภาพดีที่ฉันได้มาจากว่านหางจรเข้ จากกระถางหลังห้องที่ใส่ปุ๋ยรดน้ำเอาใจใส่อย่างกับลูกในอก บางวันก็เปิดเพลงให้ฟังด้วยจะได้งามๆโตเร็วๆ
ฉันขยับตัวหลบพวกพี่ๆเขาออกจากลิฟต์จนถึงชั้นที่ 5 บนสุดเหลือเพียงฉันกับผู้ชายตัวโตที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งด้านซ้ายมือ ตัวฉันยืนติดกับแผงควบคุมแอบเหล่มองเขาดูจากเงาแล้วน่าจะหล่อ
เขาสวมสูทแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงโชยเข้าจมูก ฉันแอบคิดในใจคิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวที่โดนแอบมองแบบนี้
โดยไม่ทันเห็นยิ้มเย็นที่มุมปาก เด็กสมัยนี้...
ตึ๊ง!..ลิฟต์จอดที่ชั้น5 ประตูเปิดออกอัตโนมัติฉันจึงหันหน้ามองไปทางเขา "เชิญครับ..."
เขาผายมือให้และกดปุ่มเปิดไว้ให้อีกอย่างสุภาพบุรุษ ฉันจึงพุ่งตัวออกมาทันทีกลัวลิฟต์ปิดจนกระโปรงพลีทแทบโบยบิน เดี๋ยวเขาจะมาด่าฉันว่าเงอะงะ...
@ ห้องกรรมการผู้จัดการ
ฉันเดินผ่านห้องรองประธานกรรมการที่ทุกวันปิดไฟมืด แต่วันนี้มาแปลกในห้องเปิดไฟสว่างไสว หันไปมองเพียงแว่บเดียวแล้วเดินเลยมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
"สวัสดีค่ะพี่อร"
ฉันยกมือไหว้พี่อรซึ่งเป็นเลขาเก่าแก่ของคุณธนัท กรรมการผู้จัดการใหญ่แล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตนเองวางถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ไว้ให้พี่อรหนึ่งชุดแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หวีผมใหม่ให้เรียบร้อย ตบแป้งเพิ่มอีกนิดหยิบลิปกลอสที่ได้จากไลฟ์สดเมื่อวานทาบางๆ
"อืม...ลิปกลอสเขาดีจริง"
แก้มไม่ต้องปัดเพราะอมชมพูอยู่แล้ว ฉันหันซ้ายหันขวาสำรวจจนแน่ใจว่าดูดีจึงออกจากห้องน้ำกลับไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง
หย่อนก้นลงไปนั่งยังไม่ถึงห้านาที
"น้ำขิง...คุณธนัทเรียกจ๊ะ"
"ค่ะ พี่อร" ฉันรีบลนลานลุกจากโต๊ะรีบเดินตรงเข้าในห้องทันที
ก็อกๆๆๆ ฉันเคาะประตูห้องตามมารยาท
"เชิญครับ"
"สวัสดีค่ะคุณธนัท" ฉันพนมมือไหว้แล้วนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณธนัท
คุณธนัทเป็นผู้มีพระคุณที่เอ็นดูฉันมากที่สุดรองจากพ่อกับแม่
คุณธนัทคือผู้ที่ฉันช่วยจากอาการโรคหัวใจกำเริบ ในงานมอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้ว (อาการท่านมากำเริบที่หน้าบูธพอดี) คุณธนัททิ้งนามบัตรไว้ให้ และได้ไลน์จากฉันไป วันนั้นฉันก็ยังงงๆอยู่ว่าให้ไลน์ไปได้ยังไง
"หนู ถ้ามีอะไรให้อาช่วยก็บอกได้นะ" เสียงทุ้มอบอุ่นกอปรกับใบหน้าของคนใจดีทำให้ฉันรู้สึกดีเหมือนมีพี่พึ่ง
ใครมันจะไปรู้...
จากนั้นคุณธนัทซึ่งรู้ว่าฉันต้องทำงานส่งตัวเองเรียน ก็เรียกใช้ฉันตลอดจนขึ้นปีสี่ เมื่อถึงเวลาต้องหาที่ฝึกงานที่ให้ประสบการณ์ที่ดี จนฉันได้มาฝึกงานที่นี่ในฐานะนักศึกษาฝึกงานกับบริษัทผู้ผลิตเบียร์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งรับนักศึกษาฝึกงานยากมากจนถึงมากที่สุด
คนดีพระย่อมคุ้มครอง...
หลังจากที่ฉันไปบนบานศาลเจ้าที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ให้ได้ฝึกงานที่นี่แต่เหตุการณ์มาพีคตอนแก้บนนี่สิ
โอ๊ย...วันนั้นฉันอายเขาไปทั้งตึก
สไบเฉียงของฉันปลิวไสว ท่ามกลางเสียงเพลงไทยเดิม ดังก้องไปทั้งตึกโดยได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม ภาพของหญิงสาวสไบเฉียงจึงถูกบันทึกไว้ในเฟสบุ๊ค ของอพาร์ทเม้นท์เป็นที่เรียบร้อยนับจากนั้นสืบมา
"สวัสดีค่ะ คุณธนัท" ฉันนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณธนัท
"คุณธนัทมีอะไรให้น้ำขิงรับใช้คะ"
"หนูน้ำขิงมาฝึกงานได้กี่วันแล้ว?"
ฉันนั่งนับนิ้วในใจมองไปที่ปฏิทินตั้งโต๊ะ
"ได้ สิบวันแล้วค่ะประมาณสองอาทิตย์ค่ะ"
"เอ่อ...น้ำขิงทำงานไม่ดีเหรอคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย คิดอยู่ในใจว่า ซวยแล้ว คุณธนัทต้องเรียกมาตำหนิแน่เลย สีหน้าฉันย่ำแย่เต็มทน
"เปล่า เปล่า... " คุณธนัทคลี่ยิ้มออกมาสายตาอบอุ่นมากทำให้ฉันคิดถึงพ่อขึ้นมาในทันที
"ตาธามลูกชายอา"
"ค๊ะ!..." ฉันกรอกตาไปมาอย่างไม่เข้าใจธามคือใครเพิ่งเคยได้ยินชื่อก็วันนี้
"ธามนิธิ ตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ"
"เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอา เขาจะเข้ามารับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการในวันนี้"
"อาเรียกเขากลับมาจากโรงงานที่นครปฐม"
ฉันนั่งฟังอย่างตั้งใจพอดีกับประตูห้องถูกเคาะอีกครั้ง
ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งฉันเหลียวไปมองตามเสียงนั้นอย่างตั้งใจ
"ผมธามครับ"
"เข้ามาได้..."
สิ้นเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นแต่ฟังแล้วเหมือนคนไร้อารมณ์เย็นชาซะมากกว่า จากนั้นประตูเปิดออกโดยเขาผู้ที่เจอกันในลิฟต์ ตอนนี้ถอดสูทออกแล้ว เขาหล่อระเบิดเท่ห์อย่างกับนายแบบ
เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าเนื้อดีน่าจะราคาแพงผูกเนคไทดูมีคลาส ฉันประเมินด้วยสายตาของแม่ค้าออนไลน์ สายตาเขายังมองมาที่ฉันอีกด้วยแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ฉันกำลังจะยกมือไหว้เขาก็มองเลยไปที่คุณธนัทซะงั้น ฉันเลยค้างกลางอากาศเอามือลงแทบไม่ทัน
เอิ่ม...หยิ่งซะด้วย
"สวัสดีครับพ่อ" เขาพนมมือไหว้แล้วนั่งที่เก้าอี้อีกตัวใกล้ๆกัน
"ไง ตาธาม กลับมาเมื่อไหร่ไม่เห็นเข้าบ้านเลย"
ฉันผู้เป็นส่วนเกินพยายามที่จะไม่ฟังพ่อลูกเขาคุยกัน ทำทีมองไปทางอื่น เก็บมือไว้บนตักอย่างสุภาพ
"ผมออกจากโรงงานเมื่อวานตอนเย็น ถึงคอนโดประมาณสามทุ่มครับ"
เออ...คนรวยนี่ก็แปลกบ้านออกจะหลังใหญ่หลังโตไม่ชอบอยู่ เป็นฉันหน่อยไม่ได้แม่จะนอนตากแอร์สบายใจเฉิบ
ขนาดไม่อยากฟังฉันก็จับใจความได้ทุกเม็ด
"เดินทางไกล ผมเพลียเลยไม่ได้เข้าไปหาพ่อครับ"
ฉันแอบเบ้ปากฟอร์มชัดๆ ก็เห็นอยู่สงสัยไปนอนกับเมียมากกว่าทรงนี้
คุณธนัทระบายใบหน้าอ่อนโยนอีกครั้ง แล้วจึงเข้าเรื่อง
"นี่หนูน้ำขิง" ฮะ! ฉันหันขวับตามเสียงเมื่อถูกพาดพิง
"สวัสดีค่ะ" คราวนี้ฉันรีบพนมมือไหว้ทันทีกลัวว่าเขาจะไม่มองอีกเป็นครั้งที่สอง
"เป็นนักศึกษาฝึกงานที่พ่อรับมา"
"ครับ..." ใบหน้าคมยกคิ้วขึ้นมองมาทางฉันอย่างสงสัย
"ให้หนูน้ำขิงไปช่วยงานนะ"
คราวนี้ท่านรองประธานมองมาทางฉันที่นั่งเอ๋อทำสีหน้างง เขาชักสีหน้าไม่พอใจมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่องทันที
"ผมไม่เอานักศึกษาฝึกงาน"
"ผมต้องการผู้ช่วยมืออาชีพ" เสียงเขาที่ทุ้มนุ่มในตอนแรกช่างเสียดแทงเข้ากลางใจจนฉันแทบตกเก้าอี้
ใช่ล่ะสิ ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานแล้วจะยังไง? ฉันอยากถลึงตาใส่ท่านรองนักแต่ไม่กล้าพอเกรงใจคุณธนัท เดี๋ยวจะหาว่าฉันก้าวร้าวนิสัยไม่ดี ภาพลักษณ์ฉันยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย
ตอนนี้รู้สึกได้ว่าบรรยากาศอึดอัดพอสมควร
คุณธนัทผ่อนลมหายใจมือประสานกันบนโต๊ะ
"หนูน้ำขิงเขาเก่ง เนี่ยว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเชียวนะ"
"วันนี้เขายังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน"
"ต่อไปเขาอาจจะเป็นที่ปรึกษาการลงทุน"
"ที่เราต้องแย่งตัวมาก็ได้” อุตส่าห์ยกแม่น้ำทั้งห้ามาก็แล้วท่านรองฯก็ไม่สนองตอบทำสีหน้าไม่พอใจใบหน้าหล่อยับยู่ยี่ ต่อรองกับท่านประธานด้วยสายตา
คุณธนัทเหมือนจะรู้ว่าฉันอึดอัดจึงพยักหน้าให้ฉันออกจากห้องไปก่อน
ฉันรู้ชะตากรรมของตนเองดีจึงลากขาทั้งสองออกมาด้วยความหดหู่ แต่ก็แอบโกรธเขาอยู่บ้าง
"ชิ...เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน"
"แล้วไง?"
ฉันโกรธเขาที่ดูถูกความสามารถ เดินออกจากห้องมาอย่างพาลๆแล้วนั่งแหมะที่เก้าอี้ ทำปากเบ้ปัดผมหน้าม้าระบายอารมณ์ หยิบแฟ้มรายงานการประชุมออกมาแล้วพิมพ์อย่างคล่องแคล่ว เร่งรีบกดนิ้วลงแป้นพิมพ์แทบพัง
ยังมีงานกองบนโต๊ะอีกมาก ฉันจึงตั้งสมาธิแล้วใส่ใจกับงานให้สมกับที่คุณธนัทอวย นั่งทำงานไปได้สักพักก็รู้สึกได้ว่ามีเงามืดเงาหนึ่งอยู่ด้านหลังและสายตาอีกคู่มองมา
หางตาฉันทำงานได้ดี
"เก็บของแล้วตามผมมา"
เสียงดุ เสียงหนักแน่นจงใจพูดใส่ฉันแต่เพียงผู้เดียว
ฉัน...
เอาแล้วไงชีวิตฉัน
ฉันภาวนาในใจ นับจากนี้คงต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก ช่วยหนูด้วยนะคะ
พลีส...
สาธุ…
"คุณน้ำขิง..."
"ค้าาาาาา..."
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” บทเขาจะมาเอาฉันขึ้นมาก็ใจร้อนเป็นคนคลั่งรักไปได้
ออนไรท์
จุดเริ่มต้นของคนคลั่งรักธามนิธิที่ทำแต่งานใช่ว่าเขาไม่เคยมีความรักเสียเมื่อไหร่ แต่มันนานเสียจนลืมไปแล้วว่าเนื้อสาวมันนุ่มขนาดไหน จนได้พบกับนักศึกษาฝึกงานที่เจอกันแวบแรกในลิฟท์ก็ทำเอาเขาใจสั่น แต่ต้องเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ต้องรักษามาตรฐานท่านรองประธานไว้ให้มั่น"คุณเก็บของแล้วตามผมมา" นั่นแหละคือเสียงที่เขาตั้งใจให้มันดุมันเข้มเพื่อปกปิดส่วนลึกในใจ ความใกล้ชิดในหลายวันทำให้เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่า ไม่อาจปล่อยมือจากสาวน้อยที่สดใส มีลักยิ้มทรงเสน่ห์และผมม้านั่นอีก รวมๆแล้ว เขาอาจจะบ้ารักหรือคลั่งรักไม่ได้หลับได้นอนอยากมาทำงานแต่เช้าทุกวัน เพื่อให้ได้พบหน้าได้ใกล้ชิดนิดหน่อยก็ยังดี หากได้ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ เขาจะบริการทุกระดับให้ประทับใจเปย์ได้เขาก็จะเปย์ ในวันนั้นที่หญิงสาวแกล้งเขาโดยจงใจวางมือน้อยๆ บนหน้าขาของเขา จนสะดุ้งสุดตัวรีบขยับขาหนีนี่เธอไม่รู้จริงๆใช่ไหมว่าผู้ชายเขาถือแต่เธอก็รีบหดมือกลับทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจแล้วพูดว่า "ขอโทษค่ะ"พูดแล้วยังแกล้งแอ๊บใสซื่อหดมือกลับอีก ไม่รู้อะไรใช่ไหมว่าปลุกเสือให้ตื่นแล้ววิ่งหนีกลับมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกแม่สาวน้อยหน้าม้า มาให้พี่กินซะดีๆแล้
หลานปู่หลานตาหลานยายคฤหาสถ์ของคุณปู่หลังกลับจากทริปมัลดิฟส์ ฉันกับคุณธามก็วนมาลูบเดิมคือทำงานเพิ่มเติมคือความหวานที่หมั่นเติมให้กันทุกวัน ที่เตียงนุ่มฉันกำลังไถสมาร์ทโฟนดูคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมหลังจากที่ได้ลงรูปทริปมัลดีฟส์ไปหมาดๆ ก็จะมีเพื่อนน้ำของฉันที่เข้ามาคอมเม้นท์ทันที"อยากเห็นหน้าหลานแล้ว" น้ำฝนฉันรีบตอบคอมเม้นท์นั้นไปว่า "คิดถึง" แล้วส่งรูปหัวใจไปหนึ่งดวงส่วนFCที่รักกันแน่นหนึบเหนียวแน่นก็ไม่ทิ้งไม่หนีหายไปไหน เข้ามากดหัวใจเข้ามาคอมเม้นท์กันสนุกสนาน"ลูกได้เวลาฟังเพลงก่อนนอนแล้วที่รัก" คุณธามที่ออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงมาที่เตียงแล้วหยิบสมาร์ทโฟนของเขาติดมือมาปิดไฟห้องนอนเหลือเพียงไฟหัวเตียงสีเหลืองนวล แล้วคุณธามก็เข้ายูทูปเปิดเพลงโมสาร์ทเปียโนอันไพเราะให้ลูกสาวตัวน้อยในท้องฟัง ส่วนฉันก็เคลิ้มเคลิ้มไปกับเสียงเปียโนแผ่วเบา "แม่นอนก่อนนะลูก" ฉันบอกลูกแล้วปิดตาลงคุณธามก็สอดมือเข้ามาโอบฉันเช่นเคยโดยไม่ลืม Good night kiss ก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน"รักนะคะที่รัก" สามเดือนผ่านไปตอนนี้ฉันใกล้จะเก้าเดือนแล้วก็ได้แต่พักผ่อนอยู่กับบ้าน ช่วงนี้อยู่ในช่วงลาคลอด คุณธามออกไปทำงานแต่เช้า
ฮันนีมูนที่แปลว่าดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หลังจากงานแต่งงานที่ขอนแก่นผ่านพ้นไป ตามด้วยงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสอย่างเลิศหรูอลังการสมกับที่เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย จัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร จากนั้นฉันกับคุณธามก็ได้ย้ายสำมโนครัว จากคอนโดหรูของคุณธามสู่คฤหาสต์หลังใหญ่ แต่ก็ยังทิ้งเสื้อผ้าไว้บางส่วนเผื่อว่าจะแอบมาหวานกันสองคนในบางโอกาส แล้วยังมีคอนโดนอีกแห่งที่ได้จากคุณนัท ห้องนั้นตั้งใจเอาไว้ให้น้ำมนต์เผื่อเขามาเรียนกรุงเทพฯ แต่ระยะนี้ถ้าวันไหนอยากหวานเราก็แอบไปดูผืนน้ำเกลียวคลื่นเมื่อเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่านไปผ่านมา และไฟสวยๆของสะพานพระรามแปดยามค่ำคืนกันสามคนพ่อแม่ลูก หนึ่งเดือนต่อมาพรุ่งนี้ฉันก็จะได้ไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปเมืองนอก ฉันตื่นเต้นมากนอนไม่หลับมาหลายคืน คุณธามกับฉันก็ลุยงานเคลียร์คิวเพื่อเตรียมตัวไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยของน้ำทะเลหาดทรายขาวสะอาด พอถึงตอนนี้ก็ไปมันทั้งที่ท้องโย้นี่ล่ะ ตอนนี้อายุครรภ์ก็ห้าเดือนแล้วถือว่าได้พาลูกไปเที่ยวในตัว"ลูกสาวคะเราจะได้ไปเที่ยวกันแล้วนะ" คุณธามลูบไล้หน้าท้องนูนหลังจากจบกิ
ยกเสาลงหลุม บ้านเตชะทรัพย์วันนี้เป็นวันแต่งงานที่แสนจะชื่นมื่น แขกเหรื่อมากันมากจนรับแขกกันไม่ไหว อาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทำท่าจะไม่พอรองรับ เมื่อFCของดีเจน้ำขิงตามมาสมทบจำนวนมาก เดือดร้อนถึงเจ๊ท๊อฟฟี่และเพื่อนเจ้าสาวอย่างน้ำฝนที่วิ่งวุ่นกันทั้งงานตั้งแต่เช้า"น้ำขิงนะ น้ำขิง FC หล่อนเกือบจะฆ่าเรากับเจ๊ท๊อฟฟี่แล้วรู้ไหมยะ""ใจเย็นๆนะคุณน้องค่อยๆแก้ไปค่ะ""ดีนะคะที่มีห้องน้ำในปั๊ม ไม่งั้นเราแย่แน่ค่ะ""จริงด้วยค่ะ เจ๊เห็นด้วย"งานแต่งของน้ำขิงและธามนิธิที่เน้นเรียบง่าย การ์ดแจกแต่เฉพาะแขกคนสำคัญญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ทั้งพ่อและแม่ของหญิงสาวเป็นคนมีหน้ามีตาไม่น้อยจึงเป็นอย่างที่เห็นคนต่างจังหวัดมักให้ความสำคัญกับสินสอดทองหมั้น แต่เมื่อเปิดพานสินสอด บรรดาญาติผู้ใหญ่แทบเป็นลมด้วยแสงเพชรวาววับจนแสบตา และยังจะเป็นโฉนดที่ดินและเงินอีกกองใหญ่ที่คุณธนัทกับธามนิธิทุ่มเทพิธีการทางศาสนาอัดแน่นตั้งแต่เช้า จนร่างกายเมื่อยขบปวดร้าวระบมไปทั่วร่างกาย เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็โดนเหน็บกินไปหลายรอบ จวบจนพิธีรดน้ำสังข์เสร็จสิ้นถึงได้ออกไปทักทายผู้มาร่วมงานด้านนอก"เฮ้ย...เจ้าบ่าวไหวไหมวะคืนนี้" คุ
แต่งค่ะ"น้ำขิงท้อง" แล้วคุณธามก็ยิ้มดีใจยื่นมือมาลูบที่ท้องของฉันเบามือ"ลูกของเรา..." "เอาล่ะพี่ธามรอเกรซแพรบเดียวนะคะ" แล้วคุณเกรซก็หายวับไปหลังร้าน จากนั้นคุณเกรซก็ออกมาพร้อมไวน์หนึ่งขวด ถือแก้วมาด้วยสองใบแล้วชำเลืองตามองมาทางฉัน"คนท้องห้ามดื่มค่ะ" ฉันก็ปล่อยให้เขาฉลองกันแล้วเข้าไป ลองชุดออกมาอีกทีคุณธามก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึง "คุณธามเมาแล้วค่ะกลับบ้านกันเถอะค่ะ" "ยัง...ผมยังไม่เมา" คนที่บอกว่าไม่เมาแต่เสียงอู้อี้มือไม้เปะปะบนตัวฉัน"กลับก่อนเถอะน้ำขิงพรุ่งนี้ค่อยมาลองใหม่" "แล้วอย่าลืมไปฝากท้องนะ จะได้เอายาบำรุงครรภ์มากิน""ค่ะคุณเกรซ ขอบคุณมากค่ะ" "คุณธามกลับบ้านกันค่ะ" @ คอนโดของธามนิธิเป็นความยากลำบากมากที่กว่าคนตัวโตจะอาบน้ำแล้วนอนอย่างเงียบสงบลมหายใจสม่ำเสมอ ตัวฉันพอรู้ว่าตนเองท้องก็มีความรู้สึกหนึ่งวิ่งเข้าสู่หัวใจคือความรักที่ไม่มีกฏเกณฑ์ ก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว"ลูก...แม่รักหนูนะ" มือน้อยลูบที่หน้าท้องแผ่วเบาอย่างหวงแหน จำเป็นต้องระมัดระวังตนเอง ทะนุถนอมร่างกายให้ดีที่สุดนับจากนี้ รุ่งเช้าคุณธามวันนี้ดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นพาฉันไปโรงพยาบาลแต่เช้า ตัวเขาเองยังได้ยา
แต่งค่ะ"แม่น้ำขิงจะรีบไปไหนไม่รู้นะคะ กลัวลูกสาวจะขายไม่ออกหรือไง"จู่ๆคนตัวโตที่นอนหมดสภาพ ก็ดีดตัวขึ้นอย่างเร็วนั่งหลังตรงสายตาคมจ้องเขม็งมาที่ฉันดวงตากระหายรู้ "แล้วจะแต่งไหม?" เขาถามเหมือนข่มขู่อยู่ในที"แต่งค่ะ"ฉันฉีกยิ้มหวานเอาใจยื่นมือลูบไปที่ใบหน้าหล่อนวลใสน่ากัดน่ากินหญิงสาวถึงแม้จะมีเวลา สำหรับการเตรียมใจยอมรับเรื่องการแต่งงานตั้งแต่ครั้งที่เขาตามไปขอนแก่นคราวนั้นการทาบทามสู่ขอเกิดขึ้นกระทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เหมือนสองคนพ่อลูกได้นัดแนะกันไว้แล้ว แม้ในใจลึกๆยังอยากใช้ชีวิตเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเขาในฐานะคู่รักอยู่ก็ตามจู่ๆจากที่ลำตัวพิงอยู่กับหัวเตียง เขาก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักของฉันอย่างออดอ้อน มือหนาจับมือซ้ายที่สวมแหวนวงน้อยนั้นไว้ลูบตัวแหวนนั้นไปมาอย่างใช้ความคิด"ไม่ต้องกลัวนะที่รัก แหวนแต่งงานเพชรต้องใหญ่กว่านี้แน่นอน" "อย่าลืมนะคะน้ำขิงเป็นมนุษย์นิ้วสั้น ไม่อยากได้ใหญ่มากนะคะแค่ซัก 5 กะรัตก็พอค่ะ""ตามใจที่รักหมดเลย" คนเห่ออยากแต่งงานคิดโน่นนี่นั่นในหัวสมองเต็มไปหมด แล้วพรั่งพรูออกมาอีก"พรุ่งนี้เข้าไปหาเกรซเรื่องการ์ดแต่งงานกันดีกว่านะที่รัก"เขาเองที่สุดแสน
จุดจบของคนโลภคำว่า เมียเก็บไฮโซมันทำให้ธามนิธิโกรธมากที่บังอาจมารังแกคนของเขา หญิงสาวที่แสนจะบอบบางไม่มีพิษมีภัยกับใคร และยังเป็นคนใจบุญสุนทานยุงแม้สักตัวยังไม่ตบ วันนี้ที่บริษัทของธามนิธิ เจ๊ท๊อฟฟี่หอบหลักฐานทั้งหมดที่มียื่นให้กับทนายดินแดน (ทนายดินแดนจากเรื่องติดบ่วงรัก คุณทนาย)ผู้ที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนต้องมองตามตาละห้อย เขามีชื่อเสียงเรื่องการฟ้องร้องหมิ่นประมาทในวงการบันเทิงมากที่สุดในตอนนี้"ผมรบกวนคุณดินแดนดำเนินการต่อด้วยนะครับ" ธามนิธิที่วางมือประสานกันบนโต๊ะทำงานใบหน้าเคร่งขรึมทนายดินแดนรับเอกสารมาแล้วเปิดดูคร่าวๆ "ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผมจะทำตามขั้นตอนอย่างรัดกุม""ยุงแม้สักตัวก็บินหนีไปไหนไม่รอดแน่นอนครับ” ทนายดินแดนผู้มีภรรยาสวย(ทอตะวัน) มีลูกสาวหน้าตาน่ารักอย่างนายอน(นา-ยอน) จากเรื่อง (ติดบ่วงรักคุณทนายและอุ่นไอรักสะกิดหัวใจ) ที่กำลังโด่งดังในฐานะนางแบบตัวน้อยร้อยล้านในเวลานี้กลับไม่อ่อนโยนสักนิด "ดีครับ ส่วนเรื่องที่ต้องเผชิญกับนักข่าว ผมยกให้เป็นหน้าที่ของเจ๊ท๊อฟฟี่แล้วกันนะครับ""น้ำขิงจะต้องไม่ได้รับผลกระทบ หรือต้องตอบคำถามกับสื่ิอใดๆ""ค่ะ. คุณธาม" เจ๊ท๊อฟฟี่รับคำห
เมียเก็บไฮโซ@ คอนโดของคุณธามขณะที่ฉันกำลังคิดแค้น อยากเอาคืนเจ้ากรรมนายเวรคนนั้นให้สิ้นซาก เจ๊ท๊อฟฟี่ก็โทรมาพอดี"ฮัลโหลค่ะเจ๊ โทรมามีอะไรคะ""ให้ผัวหล่อนลงมารับฉันหน่อยย่ะรออยู่ข้างล่าง""รอแพรบนะคะ คุณธามกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ""ฉันรออยู่นะไปบอกผัวหล่อนให้เร็วๆหน่อย ฉันปวดฉี่จะราดอยู่แล้ว" "งั้นเข้าข้างล่างเลยค่ะคุณธามเพิ่งเข้าห้องน้ำเองค่ะ""เจริญแล้วฉัน" เจ๊แกสบถอย่างอารมณ์เสีย ถ้าขืนให้เจ๊แกรอคุณธามมีหวังได้ฉี่ราดแน่ๆ ก็รู้กันอยู่ว่าคุณเขาจะขัดสีฉวีวรรณนานขนาดไหน เมื่อคุณธามอาบน้ำเสร็จแล้ว ฉันก็แจ้งว่าเจ๊ท๊อฟฟี่มาหาถึงคอนโดคงมีเรื่องสำคัญ ไม่นานเจ๊แกก็เดินนวยนาดเข้าห้องมาอย่างกับนางพญา หนีบกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่มาด้วย ระยะหลังมานี้แกดูอู้ฟู่น่าดูใบหน้าก็ดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา"สวัสดีค่ะเจ๊ ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้คะ""ก็ลมบ้าหมูน่ะสิยะ คุณนาย" แล้วแกก็ปรับสีหน้าและเปล่งเสียงออกมาเป็นเสียงสามทันที เมื่อหันไปเจอคุณธามที่นั่งข้างๆฉัน "แหมคอนโดคุณธามน่าอยู่จังเลยนะคะ เจ๊อยากสมัครเป็นเมียน้อยอีกซักคนจะได้ไหมคะ" "เอาสิคะเจ๊ จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระ" ฉันหัวเราะต่อกระซิกคิกคักกับเจ๊แ
การเดินทางที่คุ้มค่าของคุณธนัท"ผมหมดห่วงน้ำขิงแล้วฝากคุณสองคนดูแลต่อแล้วกันนะครับ" พ่อกล่าวใบหน้าเปื้อนยิ้มเช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคณะที่ตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางสายบุญไหว้พระ 9วัดตามที่คุณธนัทได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยที่ยกติ่มซำจากร้านดังมาไว้ที่บ้านจัดแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบฉันเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นร้านเพื่อนของธนัท เขาจึงบริการเต็มที่เหมือนไปกินที่ร้าน อิ่มแล้วนั่งย่อยสักพักรถตู้คันเดิมก็มาตามสัญญาคือแปดโมงเช้าไม่ขาดไม่เกินวันนี้เราไปไหว้พระแม่กับฉันจึงนุ่งผ้าซิ่น เสื้อลูกไม้สวยงามแต่งเติมสีสันบนหน้าบางเบา "สวยจังเลยที่รัก" เสียงเข้มกระซิบที่ข้างหูเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคนระหว่างรอให้ผู้ใหญ่ขึ้นรถกันหมดแล้ว เขาจึงจูงมือฉันนั่งที่เดิมคือด้านหลังคนขับตามด้วยน้ำมนต์ที่นั่งข้างฉันสงบเสงี่ยมฉันบอกชื่อวัดที่เราจะไปไหว้พระ คนขับรถก็เสนอให้เราไปที่ใกล้ๆระแวกนี้ก่อน แล้วค่อยขยับออกไปต่างอำเภอจะได้วางแผนการเดินทางได้ดีจังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองธรรมะ มีวัดที่สวยงามล้วนเป็นที่ประทับใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป ฉันเห็นคุณธนัทดูจะมีความตั้งใจมาทำบุญมาก็เห็นคุณธนัทพกเงินมาทำบุญจำนวนในถุงผ้าใบนี้ที่ยัด
Comments