Masukฉันอมยิ้ม หลุบตาหลบเล็กน้อย ในตอนที่รู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินแต่ มันก็ยัง...แอบเขินอยู่ดี แล้วเขาก็ยังเอาแต่จ้องมองไม่ลดละ
“อย่ามองนะ” ฉันว่าพลางยกมือขึ้นปิดตาคู่คม แต่เขาเอี้ยวตัวหลบ
“ทำไมอ่ะ นานๆ จะเห็นเมียเขินขนาดนี้”
แก้มฉันถูกบีบเบาๆ ทั้งสองข้างจากความหมั่นเขี้ยวของผู้ชายที่ทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด
และตอนนี้ฉันก็รักเขามากที่สุดด้วย
...
ช่วงค่ำของวัน…
หลังจากที่เฮียแม็กซ์พาฉันไปดูความเสียหายของเรืองขจรที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าตำรวจสรุปเป็นการวางเพลิง ส่วนไอ้คนทำก็ได้รับผลกรรมทั้งหมด
ตอนแรกฉันก็กังวลว่าแม่จะรู้สึกยังไง แต่ท่านกลับบอกว่าสบายใจที่ตัดผู้ชายคนนั้นออกจากชีวิตไปได้ เพราะงั้นฉันจึงไม่มีเรื่องอะไรที่หนักใจอีกแล้ว
และก็มาถึงจุดจบของโจทย์สุดท้ายสักที
ฉันหยุดยืนมองผู้ชายที่ถูกมัดไปกับเสากลางโกดังล้างแห่งหนึ่งแถวชานเมือง โดยมีทุกคนในแก๊งของเฮียแม็กซ์ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ไม่ไกล
“ให้เฮียจัดการให้ไหม”
@คอนโด G19:00 น.แป๊ก!“เอ้า…” ฉันกดสวิสไฟขึ้นลงอีกสองสามครั้งแป๊ก!…แป๊ก!!“ไฟเสียเหรอ” ฉันขมวดคิ้วมองหลอดไฟเพดานด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไฟฉายส่องเดินตรงเข้าไปลองกดเปิดสวิสในห้องครัว แต่ก็ไม่ติดเช่นกัน จะว่าไฟดับก็ไม่ใช่ข้างนอกยังสว่างโล้อยู่เลยเฮียแม็กซ์ลืมจ่ายค่าไฟรึไงนะ...บ้าจริง คนยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ฉันวางของไว้บนเคาน์เตอร์ครัวก่อนเดินส่องไฟฉายไปทางห้องนอน เผื่อไฟในห้องนอนจะใช้ได้“Happy birthday to you…”เสียงร้องเพลงดังขึ้นทันทีที่ประตูถูกเปิดส่งผลให้ฉันหยุดชะงักด้วยความตกใจร่างที่คุ้นตาย่างกายเข้าหาฉันพร้อมกับเค้กในมือ เพียงแค่แสงพลิ้วไหวจากเทียนไม่กี่เล่มก็ทำให้เห็นรอยยิ้มเด่นชัดได้และฉันก็ยังเผลอยิ้มออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ เขาลงทุนโกหกฉันเพื่อสิ่งนี้สินะ…ร้ายกาจมาก“Happy birthday to you Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you🎶🎶”เขาหยุดยืนตรงหน้าฉันก่อนที่เพลงจะจบลงในเวลาต่อมา 
หนึ่งเดือนต่อมา…@เรืองขจรกรุ๊ปพอปัญหาทุกอย่างถูกเคลียร์เรียบร้อย ฉันก็ตัดสินใจเข้ามาทำงานในบริษัทที่ป๊าสร้างไว้ให้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ยังไม่กล้ารับตำแหน่งที่แม่จะยกให้ เพราะคิดว่าตังเองยังอ่อนประสบการณ์อยู่มาก อยากเรืองขจรกลับมาอยู่ในจุดคงที่กว่านี้ก่อนซึ่งมันก็ค่อนข้างยากพอตัว เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับฉันมากๆ แต่ถ้าผ่านงานนี้ไปได้ บอร์ดบริหารทุกคนก็จะยอมรับในตัวฉันมากขึ้น ไม่ใช่ว่าได้มาเพราะเป็นทายาทสืบสกุลแค่นั้นตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉันแทบจะทุ่มทั้งร่างกายและวิญญาณให้กับเรืองขจร เรียกได้ว่าอีกนิดก็จะกินนอนที่บริษัทแล้วแหละก๊อกๆๆๆ“เข้ามาค่ะ” ฉันตอบรับหลังจากที่ได้ยินเสียงสัญญาณจากผู้มาเยือนด้านนอก แต่ยังไม่ละสายตาจากโปรแกรมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่บนโต๊ะทำงาน“พักบ้างก็ได้มั้ง” เสียงทักทายที่คุ้นหู ถึงฉันจะไม่ต้องหันมองก็รู้ว่าเป็นใคร“ก็อยากพักนะคะ แต่มันยังค้างคา หนูอยากทำให้เสร็จก่อน” ฉันว่าพลางเหลือบมองผู้เป็นแม่ที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาโดยมีลูกสาวคนเล็กในอ้อมกอด
“เฮียคิดว่าความตายมันเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอ” ฉันหันไปถลึงตาใส่เขาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบที่แฝงไปด้วยความอำมหิต“อุ๊ย!” รอยยิ้มทะเล้นหายวับไปกับตา ก่อนที่เขาจะรีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง“หยอกน่า” เขาว่า ขณะดึงฉันเข้าไปกอด“แล้วสรุปคือ” ฉันดันเขาออกก่อนจะเลิกคิ้วถาม ทำไมเขาต้องเลี่ยงที่จะตอบคำถามฉันอยู่ได้หวี๊ดดด…ปังฉันสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดอกไม้ไฟถูกยิงขึ้นไประเบิดเป็นวงกว้าง จนสว่างวาบไปทั่ว และหมุนตัวหันไปทางตำแหน่งที่ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นมาอย่างเผลอไผล ฉันลืมทุกอย่างก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันสวยมากๆ ยิ่งพอได้เห็นในจุดที่สูง ไม่มีอะไรบดบัง มันยิ่งดูสวยงามเป็นพิเศษ หัวใจหลายดวงแตกระยิบระยับกลางอากาศนานหลายนาทีเดี๋ยวนะ…หัวใจงั้นเหรอฉันเหลือบมองสามีตัวเองเล็กน้อยก่อนที่ไหล่หนาจะถูกยกขึ้นแทนเป็นคำตอบและเรียกรอยยิ้มจากฉันได้ไม่น้อยเลยทีเดียวตอนแรกก็คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ไหนได้เป็นฝีมือเขาต่างหาก ถึงว่าอยู่ดีๆ จะขึ้นม
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูออกมาเห็นแผ่นหลังบางของมิณยืนล้างหน้าอยู่ที่อ่างล้างมือ“มิณ”เธอหยุดชะงักและเงยหน้าขึ้นมองฉันผ่านกระจก ก่อนจะฝืนยิ้มให้“โอเครึเปล่า”“โอเคค่ะ” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมา เด็กอนุบาลก็ยังดูออกว่าเธอไม่โอเคฉันเดินไปหยุดยืนข้างเธอ ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เธอเบาๆ“ไม่เป็นไรแล้วนะ” ฉันไม่มีสกิลในการปลอบโยนคนสักเท่าไหร่ แทบจะไม่เคยทำเลยด้วย สมองมันก็ตื้อไปหมด ไม่รู้ต้องพูดประโยคไหน หรือต้องแสดงกิริยาแบบไหน“ค่ะ ตอนนี้มิณโอเคแล้ว ต้องขอบคุณพี่เลยนะที่ยอมแต่งงานกับเฮียแม็กซ์” มิณว่า ขณะใช้กระดาษซับน้ำบนใบหน้า“....” ฉันเงียบและหันไปล้างมือในอ่างข้างๆ ไม่รู้จะตอบรับน้องว่ายังไงก็ส่วนหนึ่ง แต่สำคัญคือไม่เคยคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้จะทำประโยชน์ได้มากขนาดนี้“ถ้าไม่มีพี่เข้ามาในครอบครัวของพวกเรา มิณคงไม่มีวันหาตัวมันเจอ” มิณพูดต่อ ในตอนที่ฉันเดินไปหยิบกระดาษมาเช็ดมือ“ต้
@ผับเฮียแม็กซ์ไม่ได้พาฉันกลับคอนโดในทันที แต่พามาที่ผับของดิน เขาบอกว่าทุกคนนัดเจอกันที่นี่ ก็พอเข้าใจได้นะ พวกเขาคงอยากปาร์ตี้ สังสรรค์ หลังจากผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย โดยเฉพาะสามีฉันเนี่ยแหละ รู้สึกเหมือนเขาแทบจะไม่ได้ผ่อนคลายแบบนี้มาสักพักแล้ว“ทำไมมากันเร็วจังค่ะ” เฌอณารีนทักขึ้นทันทีที่เราเปิดประตูเขามาในห้อง VIP ประจำแก๊ง ก่อนจะหันมายิ้มให้และฉันก็ยิ้มตอบตามมารยาท รวมถึงโรสที่นั่งๆ ด้วยนะ“เสร็จธุระเร็วอะ” เฮียแม็กซ์ตอบ ขณะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามทั้งสองคนส่วนฉันก็นั่งลงข้างสามีตัวเอง ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องและพยักหน้าเบาๆ ยอมรับให้กับความรักพวกพ้องของเจ้าของผับนะเขาตั้งใจทำห้องนี้ให้เป็นห้องสำหรับแก๊งเขาจริงๆโซฟาหนังชั้นดีถูกวางเรียงกันเป็นตัวยู ฝั่งยาวทั้งสองฝั่งนั่งได้หกคนและตัวปิดที่อยู่ท้ายนั่งได้สองคน นั่งแปลว่ามันจะครบคู่พอดี“เคยมากันแบบครบองค์ประชุมเลยไหม” ฉันเอียงตัวไปถามเฮียแม็กซ์“ปกติก็ครบนะ” เขาตอบพลางเอื้อมไปหยิบแก้วเปล่าสองใบมาคีบน้ำแข็งใส่
ฉันอมยิ้ม หลุบตาหลบเล็กน้อย ในตอนที่รู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินแต่ มันก็ยัง...แอบเขินอยู่ดี แล้วเขาก็ยังเอาแต่จ้องมองไม่ลดละ“อย่ามองนะ” ฉันว่าพลางยกมือขึ้นปิดตาคู่คม แต่เขาเอี้ยวตัวหลบ“ทำไมอ่ะ นานๆ จะเห็นเมียเขินขนาดนี้”แก้มฉันถูกบีบเบาๆ ทั้งสองข้างจากความหมั่นเขี้ยวของผู้ชายที่ทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดและตอนนี้ฉันก็รักเขามากที่สุดด้วย...ช่วงค่ำของวัน…หลังจากที่เฮียแม็กซ์พาฉันไปดูความเสียหายของเรืองขจรที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าตำรวจสรุปเป็นการวางเพลิง ส่วนไอ้คนทำก็ได้รับผลกรรมทั้งหมดตอนแรกฉันก็กังวลว่าแม่จะรู้สึกยังไง แต่ท่านกลับบอกว่าสบายใจที่ตัดผู้ชายคนนั้นออกจากชีวิตไปได้ เพราะงั้นฉันจึงไม่มีเรื่องอะไรที่หนักใจอีกแล้วและก็มาถึงจุดจบของโจทย์สุดท้ายสักทีฉันหยุดยืนมองผู้ชายที่ถูกมัดไปกับเสากลางโกดังล้างแห่งหนึ่งแถวชานเมือง โดยมีทุกคนในแก๊งของเฮียแม็กซ์ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ไม่ไกล“ให้เฮียจัดการให้ไหม”







