“ฮัลโหลสวัสดีค่ะแม่”
“เป็นยังไงบ้างสบายดีไหมยายดาวแม่ว่าช่วงหยุดปีใหม่นี้แม่กับพ่อเลี้ยงแกจะกลับไปเที่ยวที่บ้านซักสองสามวันนะ”
“งั้นก็ดีเลยค่ะดาวจะได้บอกคุณยายไว้เห็นคุณยายบ่นอยู่เหมือนกันว่าบ้านอื่นเค้าลูกเต้ากลับมาเยี่ยมเยียนพ่อแม่แต่บ้านเราเงียบเหงามาก”
“งั้นก็บอกยายแกเอาไว้เลยเดี๋ยวยังไงถ้าแม่เคลียร์เรื่องที่ทำงานตรงนี้เสร็จเดี๋ยวแม่ก็กลับเลยก็แล้วกัน”
“โอเคค่ะเดินทางปลอดภัยนะคะแม่”
พูดจบหญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่ก็วางสายจากลูกสาวที่เธอฝากไว้ให้ยายเลี้ยงได้ปีกว่าจนตอนนี้เธออายุ สิบเก้าย่างเข้ายี่สิบปีเต็มแล้ว พิมพ์ดาวเป็นหญิงสาวสวยพ่อของเธอหน้าตาคมคายแต่ว่าเสียชีวิตไปด้วยโรคร้ายก่อนวัยอันควร ทิ้งให้เธอและแม่อยู่กันตามลำพัง
แต่หลังจากที่เขาด่วนลาจากโลกนี้ไปได้ไม่นานกานดาผู้เป็นภรรยาหรือแม่ของพิมพ์ดาวก็ได้พบรักกับชายวัยกลางคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคใต้ซึ่งทั้งสองได้พบกันโดยบังเอิญจากการที่กานดาได้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหลังจากที่เสียอกเสียใจกับการจากไปของสามีเธอทำให้ได้พบรักกับ สาธิต
เขาเป็นคนที่ใครๆ ก็เรียกว่าพ่อเลี้ยง ..จัดว่ามีฐานะพอสมควรทั้งสองเคยเจอกันก่อนแล้วและการพบกันครั้งแรกนั้นก็ทำเอาพิมพ์ดาวไม่อาจลืมภาพความจำติดตาเหล่านั้นไปได้เลย
“แม่มึงจะกลับมาเหรออีดาว”
“เออเห็นว่าปีใหม่จะกลับ”
“แล้วพ่อเลี้ยงมึงมาด้วยหรือเปล่าถ้าพ่อเลี้ยงมึงมาบอกกูด้วยนะกูอยากเห็นพ่อเลี้ยงมึง กูละอยากเป็นมึงจริงๆ มีพ่อเลี้ยงแซ่บขนาดนี้กูจะอ้อนแดดดี้ขาๆ ทั้งวันเลย”
“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแจง มโนเก่งงง”
“แหมหวง..เดี๋ยวนี้มึงหวงกับเพื่อนเหรอ หรือว่ามึงจะเก็บไว้ดูคนเดียว”
“ดูบ้าบออะไรล่ะนั่นมันพ่อเลี้ยงกูนะ”
“ไม่จริงอ่ะกูว่ามึงต้องคิดบ้างแหละ”
เมื่อจุ๊บแจงเพื่อนสนิทของตนเองพูดอย่างนั้นก็ทำให้พิมพ์ดาวนึกถึงภาพในอดีตขึ้นมา
ความคิด
“ดาวเอาถุง ในรถขึ้นไปให้พ่อเลี้ยงมึงสิคงลืมถือไปไม่หมดนั่นน่ะ “
“แล้วแม่ล่ะ ทำไมไม่ให้แม่เอาขึ้นไป”
“แม่มึงยังไม่กลับเลยมันบอกว่าลืมซื้อของอะไรก็ไม่รู้ออกไปอีกรอบก่อนฝนจะตกแล้ว”
คนเป็นยายเรียกพิมพ์ดาวให้ไปหยิบของในรถที่สาธิตหยิบขึ้นไปไม่หมด แล้วเดินหายขึ้นชั้นสองของบ้านไป
ยายเฟื่อง อายุมากแล้วไม่ชอบที่จะขึ้นบันไดไปชั้นสองเพราะด้วยความ แก่ชราและสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้กว่าจะก้าวขาเดินขึ้นบันไดได้แต่ละขั้นนั้นยากลำบากเอาเสียเหลือเกินไม่ว่าจะยังไงคนแก่กับบันไดก็ไม่เคยถูกกันอยู่แล้ว
ส่วนพิมพ์ดาวเองที่กำลังนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่ก็เอ่ยถามสวนขึ้นมาทันทีเพราะเธอก็กำลังสนุกอยู่กับเกมของเธอเช่นกันแต่เมื่อได้ฟังคำตอบของผู้เป็นยายอย่างนั้นก็ต้องจำใจลุกขึ้นทำตามอย่างที่ผู้เป็นยายเอ่ยปากสั่งด้วยท่าทางกระด้างกระเดื่องไม่ค่อยจะเต็มอกเต็มใจสักเท่าไหร่นัก
“เอาขึ้นไปให้เขาเร็วๆ เผื่อเป็นของสำคัญกว่าแม่มึงจะมา ฝนตกอย่างนี้คงจะอีกนานแหละกว่าจะกลับ”
“รู้แล้วน่ายายกำลังไปอยู่นี่ไง”
กล่องกระดาษสีทึบที่มีขนาดใหญ่อยู่ในถุงใบใหญ่อีกชั้นหนึ่งซึ่งทุกอย่างดูปกติไม่ได้สะดุดตาอะไรมากนัก
มือเล็กๆ คว้าหยิบแล้วรีบเดินขึ้นชั้นสองไปปากบางก็เอ่ยเรียกชื่อของพ่อเลี้ยงไปพร้อมๆ กัน
“พ่อ ..พ่อ.. พ่อลืมของ ดาวเอาขึ้นมาให้ .. พ่ออยู่ห้องไหนได้ยินดาวหรือเปล่า”
ไร้เสียงตอบรับหรือไม่แน่ใจว่าเพราะเสียงฝนที่เทกระหน่ำลงมานั้นดังเกินไปกันแน่ ทำให้หญิงสาวไม่ได้ยินเสียงใดๆ ขานรับตอบมาเลย
สองเท้าก็ยังคงเดินขึ้นไปเรื่อยๆ สายตาก็มองสอดส่องแต่ก็ไม่เห็นใครจึงตัดสินใจเดินเข้าไปที่ห้องนอนของ พ่อเลี้ยงและแม่ของเธอ
มือเล็กๆ เคาะประตูสองสามครั้งพร้อมกับ เปิดประตูเข้าไปในทันที
“พะ… อึก!!”
“ดาว..”
สองขาของหญิงสาวหยุดชะงักพร้อมกับใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่หันมาสบตาเธอเข้าอย่างจังพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยความตกใจก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบนิ่งเป็นปกติอย่างเดิม
“ดะ ดาว เอาของขึ้นมาให้ค่ะ ดาวไม่ได้ตั้งใจดาวไปก่อนนะคะ”
หญิงสาวมือไม้สั่นสายตาของเธอไม่อาจจะละไปจากภาพที่เห็นตรงหน้าได้เลยราวกับว่าเธอถูกตรึงสะกดเอาไว้
ภาพอะไรน่ะเหรอ…
ภาพตรงหน้าเธอนั่นคือ....
ภาพตรงหน้าเธอนั่นคือภาพของพ่อเลี้ยงที่เปลือยเปล่า ล่อนจ้อนไร้เสื้อผ้าบดบัง นอนรูดชักแท่งเอ็นใหญ่โตของตัวเองอยู่ด้วยอุปกรณ์บางอย่างในมือที่เธอนั้นไม่เคยเห็น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัดมันความหื่นกระหาย อย่างที่เธอไม่เคยเห็นเค้าในมุมนี้ มาก่อน
“เดี๋ยวสิ..”
“คะ… คะ “
ยิ่งเห็นท่าทางสั่นเทาของหญิงสาวและ สายตาของเธอที่เอาแต่จ้องมองมาอย่างชัดเจนนั้นมันทำให้เขาผุดความคิดบางอย่างขึ้นมาได้ในทันที
“มาก็ดีแล้ว พ่อกำลังอยากได้อยู่พอดีเลยแกะกล่องให้พ่อหน่อยสิ”
“ตะ แต่ว่าดาว…”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า พ่อไม่ทำอะไรหนูหรอก”
สาธิตพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำเป็นปกติอย่างที่เคยพูดกับพิมพ์ดาวและยังคงยิ้มอ่อนโยนให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กลับเป็นพิมพ์ดาวเอง ที่อึกอักจะพูดก็พูดไม่ออกจะเดินไปข้างหน้าหรือจะไปข้างหลังอะไรก็ทำตัวไม่ถูก นี่มันใช่ที่ที่เธอควรอยู่แน่หรือ
แล้วเชื่อได้ไงว่าเค้าจะไม่ทำอะไร แต่ที่นี่ก็คือบ้านของเธอเค้าจะกล้าทำอย่างนั้นหรือ
หลากหลายความคิดตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัวของหญิงสาวซึ่งไม่รู้อะไรดลใจให้เธอปิดประตูแล้วเดินตรงไปหาพ่อเลี้ยงของเธอพร้อมกับทำตามที่เค้าเอ่ยปากสั่งอย่างว่าง่าย
“อืม…ซี้ดด”
เสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่ม ครางกระเส่าออกมาเบาๆ สองมือของเขาก็จับอุปกรณ์บางอย่างที่สวมกับแท่งเอ็นของตัวเองเอาไว้แล้วรูดชักขึ้นลง ช้าๆ อยู่อย่างนั้นราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
มีเพียงพิมพ์ดาวที่ค่อยๆ แกะกล่องในมือนั้นด้วยหัวใจที่เต้นรัวจนไม่อาจจะควบคุมจังหวะลมหายใจให้เป็นปกติได้ ให้ตายเถอะความรู้สึกนี้มันอะไรกันเขาทำแบบนี้ได้โดยไม่รู้สึกอายเลยหรือ ..
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นอวัยวะเพศชายครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา แถมยังเป็นอวัยวะเพศชายของพ่อเลี้ยงเธออีกต่างหาก
มันดูแข็งและนุ่มนิ่มในเวลาเดียวกันแถมมันใหญ่พอๆ กับแขนของเธอเลยทีเดียวหรืออาจจะเป็นเพราะว่าพ่อเลี้ยงของเธอตัวสูงใหญ่กันแน่นะเจ้าสิ่งนี้ก็เลยมีขนาดใหญ่และยาวถึงขนาดนี้แถมสีของมันก็ยังเข้มมากเสียด้วยยามที่เขา รูดขึ้นลงก็เห็นเส้นเลือดที่นูนขึ้นมาให้เห็นจนเธอต้องเผลอไปมองอยู่หลายครั้งให้ตายเถอะ…
ตายแน่อีดาวถ้าแม่รู้มีหวังโดนตีตายแน่ๆ เลย
มือเล็กๆ ของพิมพ์ดาวแกะกล่องบางอย่างตามที่พ่อเลี้ยงของเธอสั่งด้วยสองมือที่สั่นและเงอะงะจนเขาเองที่ชำเลืองมองมาที่เธอแล้วก็อดที่จะอมยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ สายตาที่อยากรู้อยากเห็นของเธอนั้นคอยรอบมองมาที่แท่งเอ็นแข็งขืนของตัวเองเป็นครั้งคราวแต่ก็ยังพยายามประคองสติแกะกล่องของเล่นในมือตนเองไปพร้อมๆ กันช่างดูไร้เดียงสาเสียจนทำให้ชายหนุ่มยิ่งเกิดอารมณ์ความต้องการพุ่งกระฉูดเข้าไปใหญ่..
อันที่จริงเขาไม่เคยคิดที่จะทำแบบนี้กับเธอเลยตลอดเวลาที่ผ่านมาระหว่างเขาและพิมพ์ดาวมีเพียงความเอ็นดูต่อกันเพียงเท่านั้น
แต่ในวันนี้เมื่อความบังเอิญทำให้เขาและเธอได้ใกล้ชิดกันและก่อเกิดเป็นความรู้สึกที่นอกเหนือไปจากความเอ็นดูอย่างที่ควรจะเป็น….เขาเองก็คงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้
ถ้าเดาไม่ผิดจากท่าทางของพิมพ์ดาวในตอนนี้เขาคิดว่าเธอนั้นน่าจะยังบริสุทธิ์อยู่แน่ๆ แล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
สายตาอยากรู้อยากเห็นของพิมพ์ดาวเองก็เป็นคำตอบได้อย่างดี…
“อันนี้มันคืออะไรเหรอคะพ่อ”
พิมพ์ดาวหยิบไข่สั่นสีชมพูออกมาจากกล่องกระดาษด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ดาวอยากรู้จริงๆ เหรอลูกว่าสิ่งนี้คืออะไร”
.....
"อย่าคิดจะมาแตะต้องตัวชั้นนะ ที่ชั้นยอมแต่งงานกับคุณก็เพราะว่าชั้นถูกยายหลอกมา แล้วอีกอย่างชั้นมีแฟนแล้ว!""นี่ฉันต้องรู้ไหม… ยายเธอกู้เงินฉันไม่มีจะจ่ายเอาบ้านเอาที่ไร่นามาจำนองจนหมดไม่มีจะคืนฉันยอมแต่งกับเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้าเธอไม่ต้องการก็หาเงินมาคืนแค่นั้นก็จบ! ""ชั้นคืนแน่! ""แต่ระหว่างนี้เธอก็ต้องทำหน้าที่เมียให้สมบูรณ์ คิดดูว่าเธอมีแต่ได้กับได้คนที่เสียเปรียบคือฉันต่างหากไม่ใช่หรือไง""ไม่ อย่าเข้ามาใกล้ชั้นนะ! ""ร้องไปเถอะ นี่คืนเข้าหอไม่มีใครมาช่วยเธอได้หรอกนะ""ออกไป ออกไปนะ ไอ้คนบ้า ไอ้คนเลว""ไล่ฉันไปก็เปล่าประโยชน์ยังไงซะเธอก็แต่งงานกับฉันแล้ว ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของฉันเธอก็ต้องทำหน้าที่นั้นจนกว่าเธอจะหาเงินมาคืนฉันได้เข้าใจไหม""คุณมันคนเลว""ฉันก็ไม่เคยป่าวประกาศบอกใครนะว่าฉันเป็นคนดีแต่สิ่งหนึ่งที่เธอควรจำไว้เสมอก็คือฉันเป็นคนจ่ายเงินให้เธอจนเรียนจบถึงแม้ว่าเงินนั้นจะมาจากทรัพย์สมบัติที่ยายของเธอเอามาจำนองไว้ก็เถอะตอนนี้เธอก็ควรจะตอบแทนฉันสิ""ถ้าอย่างนั้นคุณก็รู้ไว้ว่าฉันไม่เคยเต็มใจที่จะมีอะไรกับคุณและไม่ว่านานแค่ไหนฉันก็จะหาเงินมาคืนคุณและหย่ากับคุณ""ฉันจะรอวันนั
“ปะ ..ปลายอึก.. ซี้ดดด / อ้ะ ลึกเกินไปแล้วพ่อคะ.. กรี้ดดดด “เมื่อกำลังจะถึงจุดสุดยอดของอารมณ์พ่อเลี้ยงหนุ่มก็เน้นตอกกระแทกแท่งรักเขาไปให้ลึกที่สุดทุกดอกจนปลายฟ้าดินพล่านแท่งเป็นของเขามันใหญ่มากจนคับแน่นรองของเธอไปหมดยิ่งเขากระแทกเข้ามาลึกๆ มันทำให้เธอรู้สึกมากขึ้นเสียจนร่างกายเหมือนถูกไฟช็อตไปทั้งตัว 2 ขาของเธอฉันเกร็งแข็งค้าง 2 มือของเธอกับผ้าปูที่นอนแน่นจนยับย่นไปหมดเขาโอบกอดเธอไว้แน่นในนาทีสุดท้ายจนรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำอุ่นๆ ที่หวยพุ่งออกมาเต็มถุงยางอนามัยเขาทิ้งทิ้งตัวลงนอนหงายแผ่หลาหอบหายใจอยู่เคียงข้างเธอ แต่มือหนาของเขายังคงวนเวียนบีบขยำนมของเธออยู่ไม่ปล่อยแล้วหลังจากนั้นในทุกๆ วันทุกพื้นที่ทั่วบ้านไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ…ห้องหนังสือ…ห้องรับแขก…ห้องครัว…โรงรถ..หรือแม้แต่จะเป็นระเบียงทุกที่กลายเป็นสถานที่เริงรักของพ่อเลี้ยงหนุ่มและลูกเลี้ยงสาวทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพียงลำพังในทุกๆ วันจะมีเพียงสุดสัปดาห์ที่มีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดเท่านั้น“ซี้ดดพ่อขา ปลายรักพ่ออื้ออ”“ถ่างขากว้างๆ พ่อจะเสร็จแล้ว..ซี้ดด ““ชู่ววว ร้องเบาๆ เดี๋ยวแม่บ้านได้ยิน ..”“ดูดตรงนั้นแรงๆ อีกค่ะ พ่อปลายจะ
วันรุ่งขึ้น“พ่อเหงาไหมคะอยู่คนเดียวแบบนี้ทุกวัน “ปลายฟ้าหันกลับมาถามพ่อเลี้ยงของเธอที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้โยก“มันสงบดีนะพ่อใช้ชีวิตมาเยอะแล้ว ไปมาทั่วโลกที่ ที่มีความสุขที่สุดก็คือที่บ้านนี่เอง ““ไม่ใช่ที่ ที่มีปลายอยู่กับพ่อหรอกกหรอคะ “เธอหันมายิ้มสองมือก็ยังจับสายยางฉีดรดน้ำต้นไม้ไปด้วย “พอได้แล้วอากาศมันไม่ได้ร้อนมากยังไม่ต้องรดน้ำให้พวกมันก็ได้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“ทำไมคะ อยากกอดฟ้าแล้วเหรอ ““หึหึ นี่ในหัวลูกมีแต่อะไรกันแน่เนี่ย”เขาส่ายหัวให้กับคำตอบของลูกสาวแสนดื้อของตัวเองยิ้มๆ ก็นะ.. แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็น่ารักอยู่ดี “มีแต่พ่อไงคะ “หญิงสาวตอบกลับมาด้วยใบหน้าทะเล้นๆ จะป่วยได้ยังไงอากาศดีขนาดนี้แถมตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้าแสงแดดส่องรำไรรำไรเมื่อเห็นอย่างนั้นเธอก็ยกสายยางขึ้นฉีดให้โปรยเป็นเม็ดฝนลงมาเสียเลย “ปลายย ..”บอกตามตรงเขาไม่อาจจะละสายตาไปจากเธอได้เลยปลายอยู่ในชุดนอนผ้าซาตินบางๆ เธอหมุนตัวไปพร้อมกับสายยางที่ฉีดน้ำโปรยปรายลงมาเปียกร่างกายจนโชกชุ่ม ชุดนอนบางๆ เปียกแนบชิดสนิทเนื้อใบหน้าสวยยิ้มร่าหัวเราะชอบใจ.. ไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อไหร่ที่เขาลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่ตรง
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”“มีของมาน้อยจัง ไม่ลืมอะไรแน่เหรอ”“มีเท่านี้แหละค่ะ ของอย่างอื่นไม่สำคัญหรอกค่ะ ตั้งแต่วันนี้ไปดูแลหนูด้วยนะคะ “ในช่วงหน้าร้อนปลายฟ้าได้รับรางวัลจากการตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 รางวัลที่เธอเลือกก็คือการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงเวลาปิดเทอมนั่นเอง…และประเทศที่เธอเลือกจะมานั้นก็คือประเทศที่พ่อเลี้ยงของเธออาศัยอยู่… เป็นเวลากว่าเกือบ 12 ชั่วโมงที่เธอใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังอีกฟากหนึ่งของโลกกลมๆ ใบนี้..ไรอั้น.. พ่อเลี้ยงชาวต่างชาติหัวทองของเธอไม่ได้ปฏิเสธการที่เธอจะมาพักอยู่กับเขาในช่วงปิดเทอมนี้ปลายฟ้าเป็นเด็กน่ารักและตอนนี้เธอก็ไม่ใช่เด็กๆ อีกต่อไปแล้ว… เขาและแม่ของเธอได้ใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปด้วยดีแต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงผูกพันจนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนั่นนานขนาดไหนก็ไม่อ่านที่จะลืมช่วงเวลาอันแสนมีความสุขระหว่างเขาและปลายฟ้าไปได้เลย…เมื่อยขาจะตายอยู่แล้วแถมยังปวดหลังสุดๆ ไปเลย ไหนใครว่าได้เดินทางไปเที่ยวมันสนุกไงคะทำไมฟ้าเหนื่อยขนาดนี้ค่ะพ่อหญิงสาวกระโดดลงบนเตียงกว้างแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาปากก็
“ตรงนี้แหละเหมาะดีจัง”เสียทุ้มต่ำพูดพร้อมกับรั้งร่างกายนุ่มนิ่มตรงหน้าเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่นบอกตรงๆ เลยว่าเขาอดใจไม่ไหวเวลาที่เห็นเธอใส่บิกินี่แบบนี้ แพทซี่เป็นผู้หญิงสวย สู งหุ่นดี ผมดำยาวตรง ตอนนี้เธออยู่ในบิกินี่สีแดง ที่ตัดกับผิวขาวๆ ของเธออย่างชัดเจนแถมหน้าอกหน้าใจก็ยังเต่งตึง สวยพอดีมือเอวคอดสะโพกผาย ให้ตายเถอะแค่คิดก็แทบจะอดใจไม่ไหวแล้วแพทซี่โอบแขนคล้องคอชายหนุ่มเอาไว้ แล้วเผยอปากรับจูบอันแสนหวานเชื่อมจากคนตัวสูงอย่างอ่อนโยนเขาค่อยๆ กระตุกดึงปมบิกินี่ที่ผูกอยู่ด้านหลังของเธอให้หลุดออกช้าๆ แล้วมือหนึ่งก็ขยำเคล้นคลึงทรวงอกสวยของเธอด้วยความหลงใหลอีกมือก็ลูบไล้ไปที่บั้นท้ายกลมกลึงของเธอเต็มฝ่าาามือ จูบของเขาเริ่มดุดันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แพทซี่ค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางของเขาออกก่อนจะล้วงมือเข้าไปทักทายแท่งเอ็นอุ่นๆ ที่มันแข็งตัวอยู่ด้านในรอให้เธอได้สัมผัสด้วยหัวใจที่เต้นรัวอยู่ก่อนแล้ว“ใหญ่จังเลยค่ะ”แพทตี้ผละหน้าออกมาพูดเบาๆ แล้วค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งกับโขดหินจนใบหน้าเธอเสมอในระดับเดียวกับแท่งใหญ่โตของคนตรงหน้าแล้วเริ่มพรมจูบไปตามความยาวก่อนจะรูดอมเข้าออกในปากของเธออย่างเอร็ด
ก้อก ก้อก ก้อก ไร้ซึ่งคำตอบแต่กลับเป็นเสียงเคาะห้องที่ชายหนุ่มยิ้มแก้มปริสายตาคมจ้องมองบานประตูที่ร่างของหญิงสาวค่อยๆ เดินเข้ามาเธอเปลือยเปล่ามีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวที่พันปิดร่างกายเอาไว้เท่านั้น แบบนี้โคตรดี..“ปวดตรงไหนคะ อยากให้นวดตรงไหนดี.. ““ไปที่อ่างกันดีกว่าน้ำอุ่นน่าจะพอดีแล้ว “ชายหนุ่มลุกจากเตียงเดินนำไปตรงระเบียงที่มีอ่างอาบน้ำซึ่งเขาเปิดน้ำรอไว้เรียบร้อยแล้ว เขาโยนผ้าเช็ดตัวที่พันเอวไว้หลวมๆ ออกไปกองกับพื้นยืนตัวเปลือยเปล่าอวดความเป็นชายให้หญิงสาวได้ดูเต็มตาแพทซี่เองก็จ้องมองไปที่แท่งเอ็นใหญ่โตของเขาดวงตาเป็นประกายพร้อมกับรอยยิ้มคนตัวสูงลงไปนั่งในอ่างน้ำอุ่นแล้วจับให้เธอนั่งอยู่บนขอบอ่างอย่างทะนุถนอม“พ่อจะทำอะไรคะ…” ถามไปอย่างนั่นแต่สองขานี่อ้ารอให้อีกคนซุกหน้าเข้ามาแล้ว..“ขอชิมหน่อยนะ “ชายหนุ่มกลางหว่างขาพูดเบาๆ แนบชิดสองกลีบงามจนรับรู้ได้ถึงลมปากอุ่นๆ ที่ตกกระทบมายิ่งชวนให้หญิงสาวขนลุกไปทั้งกาย แพทซี่ขยับสะโพกไปด้านหน้าอีกนิดขยับสองแขนค้ำยันเอนไปด้านหลังหน่อยๆ แล้วก็หลับตาพริ้มรับสัมผัสจากริมฝีปากหนาของคนที่กำลังไล่พรมจูบร่องรักของเธอ “อืมมม เสียวจังค่ะพ่อขาา อ้าา