LOGINทิตย์ต่อมา….
ณ หน้าตึกคณะวิศวกรรมในช่วงบ่ายของวัน นักศึกษามากหน้าหลายตาในชุดเสื้อช็อปสีแดงกำลังนั่งจับกลุ่มคุยเล่น เม้ามอย หรือแม้กระทั่งนินทาชาวบ้านระหว่างรอเข้าเรียนในภาคบ่าย ซึ่งสี่หนุ่มฮอตเจ้าของฉายาเจ้าชายวิศวะก็เป็นหนึ่งในกลุ่มก้อนนั้นเหมือนกัน และวันนี้ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย ทั้งที่ปกติแล้วนักเดินสายอย่างชินกับเดย์มักจะวาปไปเต๊าะสาวคณะอื่นอยู่เป็นประจำ ทว่าช่วงหลังๆ มานี้สองหนุ่มแทบจะไม่ไปไหนเลย ซึ่งเรนจิกับไนท์ก็สงสัยในความเปลี่ยนแปลงของพ่อหนุ่มขี้เต๊าะทั้งสองคนไม่น้อย
“ทำไมช่วงนี้พวกมึงไม่ไปไหนเลยวะ” เรนจิถามทั้งสองหนุ่มที่นั่งก้มหน้าก้มตากับโทรศัพท์ในมือ
“แดดมันร้อน” ชินตอบอย่างขอไปทีโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา
“ปกติไม่เห็นดิน ฟ้า อากาศ จะเป็นปัญหากับมึงเลย” ไนท์เอ่ยด้วยสายตาจับผิด มองชินกับเดย์สลับไปมา
ไม่สบตา มีพิรุธ!
“ขี้เกียจ” เดย์รีบออกตัวเมื่อชินเงียบไป
“หรือพวกมึงแอบไปมีเมียกันแน่” เรนจิคาดคั้นต่อ
“ไม่มี้”
“....”
“เสียงสูงมากไอ้สัด โคตรมีพิรุธ” เรนจิมองชินที่เริ่มมีอาการร้อนรน
“พิรุธอะร้าย”
“ยิ่งแก้ตัวยิ่งมีรุธ” ลนลานเก็บอาการแทบไม่อยู่ยังมีหน้ามาถามว่าพิรุธอะไร
“ไอ้คนที่เงียบกริบนั้นไม่พิรุธกว่าเหรอ” เหมือนยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งเข้าเนื้อชินจึงรีบโยนขี้ให้เพื่อนรักคู่หูคู่ใจอย่างเดย์ทันที
“เออ มึงอ่ะ สรุปยังไง” ซึ่งเรนจิก็เล่นตามที่ชินส่งมา หันมาซักฟอกเดย์ที่เอาแต่เงียบแทน
“พวกมึง…. กูมีเรื่องจะบอก” เดย์เกริ่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทำให้อีกสามหนุ่มหันเขาเป็นตาเดียวอย่างไม่ได้นัดหมาย
“มีอะไร?” เรนจิถาม
“ข่าวดีข่าวร้ายวะ ทำไมมึงต้องหน้าซีเรียสด้วย” ชินแสดงสีหน้าไม่สู้ดีเพราะกลัวว่าจะเป็นข่าวร้าย
“ข่าวดีโว้ย จะทำหน้าซีเรียสกันเพื่อ” เดย์ว่าด้วยรอยยิ้มร่า หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งเพื่อน ต่างจากคนถูกแกล้งที่กำลังกลอกตาใส่พร้อมความรู้สึกคันมือหยิกๆ อยากโบกหัวคนขี้แกล้งสักทีสองที
“ไอ้สัดเดย์!! กูนี้ใจหายวูบนึกว่ามึงไปทำใครเขาท้องเข้า” ชินโวย
“มึงก็คิดไปไกลเกิ้น แล้วถ้ากูจะโง่ปล่อยให้ตัวเองพลาดละก็ ตอนนี้คงมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองไปหมดแล้ว” เขาป้องกันเสมอ คิดจะรักสนุกก็ต้องป้องกัน อย่าสักแต่จะมุดอย่างเดียว ไข่เรี่ยราดขึ้นมาเมื่อไหร่ชีวิตจบเห่ อีกอย่างสงสารเด็กที่จะเกิดมาด้วย
“สรุปเรื่องอะไร จะพูดอะไรก็รีบพูดมา” ไนท์เร่ง เริ่มรำคาญท่าทางลีลาของพี่ชาย
“กูมีแฟนแล้ว!”
หลายวันต่อมา….ไนท์กลับเข้าห้องมาหลังจากลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสส่วนกลางของคอนโดหนึ่งชั่วโมงเต็มๆปกติไนท์จะออกกำลังกายกับเดย์ที่คอนโดของทั้งสอง แต่หลังจากไนท์คบกับไอญดาชายหนุ่มก็มาค้างที่คอนโดแฟนสาวเสียส่วนใหญ่ เลยถือโอกาสใช้ฟิตเนสส่วนกลางที่นี่เสียเลย โดยไม่ต้องลำบากขับรถกลับคอนโดตัวเองเพียงเพราะไปออกกำลังกายให้เสียเวลาเดินทางร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดจากข้างแฟนสาวที่ยืนหันหลังให้อยู่ในตรงไอส์แลนด์ห้องครัว ก่อนกดจมูกโด่งหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่เป็นการทักทาย“อุ๊ย!”“พี่ทำให้เราตกใจเหรอ” เลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจเมื่อคนในอ้อมกอดสะดุ้งตัวโหยงอย่างตกใจเขาคิดว่าเธอได้ยินเสียงประตูแล้วเสียอีก เลยเดินเข้ามากอดหอมโดยไม่ได้พูดทักทายก่อน“นิดหน่อยค่ะ” ไอญดาเอียงหน้าตอบ“เป็นอะไรรึเปล่า เห็นเหม่อๆ ใจลอยๆ คิดอะไรอยู่เหรอ?” ไนท์จับคนตัวเล็กหมุนมาเผชิญหน้าจึงเห็นว่าไอญดาดูไม่ค่อยสดใสเช่นปกติ“เปล่าค่ะ ไอก็แค่..คิดเรื่องสอบควิซพรุ่งนี้นะคะ” ไอญดาตอบติดตะกุกตะกักตอนต้นประโยค ก่อนฉีกยิ้มหวานให้ไนท์แล้วยกมือเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กตามขมับให้“ติดตรงไหนรึเปล่า เอามาให้ดูได้นะ เผื่อพี่อาจจะช่วยดูให้ได้” ถ้าเรื่องภ
ไนท์กดริมฝีปากพรมจูบตามลาดบ่า แอ้งคอ ก่อนจะขบเม้มเนื่ออ่อนตามลำคอพร้อมส่งลิ้นสากไล้เลียตามผิวขาวเนียน ต่ำลงมาที่เนินอก ก็เริ่มรู้สึกถึงอาการเกร็งของร่างมากขึ้นเรื่อย แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากห้าม“ทำต้องฝืนตัวเองด้วย”“....” ไอญดาลืมตาขึ้นมาสบตาไนท์ด้วยความรู้สึกผิด“ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ทำไมต้องฝืนตัวเองด้วย พี่ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย บอกแล้วไงว่ารอได้ แต่มันก็มีหลุดๆ บ้าง คราวหลังถ้ายังไม่พร้อมก็ถีบได้เลย”“ไอขอโทษนะคะ”“ขอโทษทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่หื่นเกินไป”“....”“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่รอได้จริงๆ” ไนท์บอกแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะช่วยจัดแจงเสื้อผ้าคนตัวเล็กให้กลับมาเหมือนเดิมแล้วตลบผ้าห่มคลุมให้ “พี่ขอตัวไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”“เอ่อ ค่ะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจัดการตัวเองของไนท์หมายถึงอะไร นัวกันมาขนาดนี้แล้วเขาก็คงมีอารมณ์ไม่น้อยเพราะไอ้ความแข็งขืนมันขูดกับขาเธอไปหมาดๆ แล้วผงาดพร้อมใช้งานขนาดนี้แล้วถ้าไม่ได้ปลดปล่อยเขาคงไม่สบายตัว“ไอนอนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่” เพราะเขาคงต้องใช้เวลาสักพักในห้องน้ำ ไข่แข็งตึงเปรี๊ยะจนไม่มีรอยย่นรอบเดียวไม่น่าจะ
จุ๊ฟ! จุ๊ฟ!ทันทีที่ประตูเปิดออกไอญดาก็ถูกจู่โจมด้วยจูบหนักๆ หลายที จนคนถูกจูบต้องเบี่ยงหน้าหนี แล้วถามที่มาของจูบพวกนั้น “หือ? ทำไมอยู่ๆ ถึงมาขโมยจูบกันปุ๊บปั๊บคะเนี่ย”“คิดถึงครับ” ไนท์โอบล้อมเอวเล็กแล้วบอกคิดถึงพร้อมรอยยิ้มบาง“คิดถึงแล้วทำไมมาสาย” สายเป็นชั่วโมงเลย ไอญดายู่ปากต่อว่าไม่จริงจังนัก“ไอ้ดำมันดื้อนิดหน่อย” เอาไอ้เจ้าบิ๊กไบค์คันโตมาอ้างเพราะไม่อยากบอกเธอว่าจริงๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา“แล้วพี่ไนท์กลับยังไง เอาน้องไปซ่อมรึยัง” ไอญดาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย“ควบมันมานั่นแหละ ไม่ได้เอาไปซ่อม ซ่อมเอง ลองถอดนั่นเสียบนี่ มันก็ดีเอง” ไนท์ตอบติดตะกุกตะกักนิดหน่อย เขาไม่ชินกับการโกหกสมองเลยคิดไม่ค่อยทัน“ซ่อมเองแน่นะคะ” เอียงคอถามอย่างไม่เชื่อ“ดูถูกหนุ่มวิศวะเหรอ” บอกแล้วปล่อยมือข้างหนึ่งที่โอบเอวเธอมาบีบจมูกเล็กอย่างมันเขี้ยวที่หรี่ตาลงจับผิดเขา“พี่ไนท์เรียนโยธานะ ไม่ใช่เครื่องยนต์”“รู้ทันอีก แต่ซ่อมเองจริงๆ มันเป็นแบบนี้บ่อยแล้ว คิดจะขับพวกนี้ต้องมีสะกิลช่างติดตัวบ้าง” อันนี้ความจริงไม่ได้โกหก เขาซ่อมได้จริงๆ แต่แค่พื้นฐาน ถ้าต้องเปลี่ยนอะไหล่จริงจังเลยไม่ได้ เพราะเรียนการโคร
หลายวันต่อมา….กริ๊งๆ!!เสียงออดหน้าห้องดังไอญดาจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม เธอมีนัดดูหนังกับไนท์เย็นนี้ แต่ไม่ได้เป็นการไปดูหนังที่โรงหนัง แค่นั่งดูกันที่ห้องแล้วก็สั่งข้าวเย็นมากินด้วยกันอยู่ๆ กิจกรรมนี้ก็กลายเป็นกิจกรรมวัตรประจำวันของเธอกับเขา นอกเหนือจากนี้ก็มีไปทานข้าวข้างนอกกันบ้าง หาร้านกาแฟใหม่ๆ ชิมบ้าง แล้ววันศุกร์หรือเสาร์ไนท์ก็จะออกเที่ยว ถ้าไม่เที่ยวก็มาคลุกตัวอยู่กับแฟนสาวแกร๊ก!!พอเปิดประตูออกมารอยยิ้มหวานค้างตึงก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อคนที่มากดกริ่งไม่ใช่ไนท์แต่เป็นคนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอที่หน้าห้องตัวเองอีกพึ่บ!“พี่เดย์!” ไอญดาเรียกชื่อเดย์ด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูออกป๊บเดย์ก็โผล่เข้ากอดเธอปั๊บ แถมยังกอดรัดเธอจนเธอแทบจะขยับตัวไม่ได้“พี่คิดถึงไอ” เดย์พึมพำบอกเสียงเบา ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่กว่าเดิม เมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นคลุกคลักและพยายามดันตัวเขาออก“พี่เดย์ไม่มีสิทธิ์มากอดไอแบบนี้นะ ปล่อยไอเดี๋ยวนี้เลย”เดย์ส่ายหัวปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ก่อนพร่ำคำขอร้องอ้อนวอน “กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมไอ กลับมารักพี่เหมือนเมื่อก่อนได้ไหม ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวอีกครั้งนะไ
“หอบหน้าเซ็งมาอีกละ” ชินบ่นกับเรนจิเมื่อมาถึงห้องเรียนแล้วเห็นเดย์นั่งซึมรออยู่ก่อนแล้ว“อืม วันนี้แย่กว่าคืนนั้นนะ” แย่ลงทุกวัน“สภาพ! ไม่ตายก็ใกล้ตาย” ตรอมใจตาย“แล้วมันไม่ปรึกษามึงอ่ะ”“เหอะ ถามเหี้ยอะไรก็ไม่ตอบ” อยู่ๆ เดย์ก็กลายเป็นคนพูดน้อยเหมือนไนท์ ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะตอบ เริ่มเก็บตัว ไม่รู้เลยว่าเพื่อนเป็นห่วง ถึงจะแอบบ่นแอบด่า แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วง คอยสังเกตอาการเพื่อนตลอด “ไม่รู้วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามันไปทำอะไร ทำไมมันดูซึมยิ่งกว่าเดิมอีกวะ”“....” เรนจิส่ายหัวตอบเพราะเขาเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาเขายุ่งๆ กับที่บ้าน“พวกมึงมาซุบซิบอะไรกันตรงนี้ มาถึงแล้วเข้าห้องอ่ะ” สองคนที่กำลังสุมหัวกันอยู่ผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงผู้มาใหม่ทักใกล้ๆ“ไอสัดมาเงียบๆ กูตกใจหมด” ชินลูบที่หน้าอกตัวเองอย่างคนขวัญอ่อน“แล้วกูต้องแหกปากมารึไง”“ทำไมพึ่งมา” เรนจิขัดขึ้นมาเพื่อห้ามศึกน้ำลาย และก็แปลกใจที่ไนท์มาทีหลังพวกเขาตั้งนานเพราะปกติไนท์จะมาก่อนเสมอ“ก็แวะซื้อกาแฟให้พวก มึง มึง มึง แดกไงครับ”“ใจดีแปลกๆ” ชินรับแก้วกาแฟเย็นไปถือหรี่ตาลงต่ำอย่างจับผิดไนท์ วันนี้พวกเขาไม่ได้ขอนะ แต่เพื่อนซื้อมาให้
หลายวันต่อไป….เสาร์-อาทิตย์นี้ไอญดาไม่ได้กลับบ้านเนื่องจากพ่อต้องไปประชุมที่สิงคโปรแม่เธอเลยตามไปดูแลด้วย ส่วนไนท์กลับไปทำธุระที่บ้านเดี๋ยวตอนเย็นกลับมา ตอนเที่ยงเธอเลยออกมาหาทานเอง พอทานเสร็จก็ขับรถตรงมาซอยหลังมหาลัย เพื่อแวะมาซื้อน้ำหวานกับขนมเค้กเอากลับไปทานที่ห้องร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก คนไม่เยอะเท่าหน้ามหาลัย แถวนี้ไม่ใช่ทำเลทอง ทว่ายังมีคนเวียนเข้าออกร้านอยู่ตลอด ส่วนใหญ่น่าจะลูกค้าประจำ ใครลองขนมที่นี่แล้วต้องติดใจ เพราะเจ้าของร้านใส่ใจคุณภาพและรสชาติมาก เธอเองก็ติดใจเค้กที่นี่จนต้องกลับมาซื้อนับครั้งไม่ได้ มีแต่ช่วงหลังที่หายไปเพราะที่นี่เคยเป็นร้านประจำของเธอกับเดย์หลังเลิกกันใหม่ๆ เธอไม่กล้ามาที่นี่เลย กลัวมันไปสะกิดแผลที่ใจ แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้แบบนั้นแล้ว คิดว่าเธอคงก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว เลยไม่รู้สึกอะไรที่จะมาเห็นบรรยากาศเก่าๆ ความทรงจำเดิมที่เคยมีร่วมอดีตแฟนหนุ่มเพราะมันก็แค่อดีต“น้องครับแฟนน้องทำกระเป๋าตังหล่นเอาไว้ที่นี่เมื่อก่อนเที่ยงน่ะ พี่ลองพิมพ์ไปหาเขาผ่านโซเซียลแล้วแต่เขาไม่ตอบ โชคดีจังที่น้องมาพอดีเลย”“อ่อ ขอบคุณนะคะ” ไอญดารับกระเป๋าสตางค์หนังสีดำมาถือไว้







