LOGINผลัวะ!
ไนท์ร้องเสียงหลงตอนท้ายเมื่อถูกคนหน้าม่อฟาดฝ่ามือเข้ากลางหัวเสียงดังป๊าป แต่ไม่ได้แรงมากนัก เพราะเดย์ไม่ได้ตั้งใจให้น้องชายตัวเองเจ็บ แค่หยอกกันตามประสาเด็กผู้ชาย
ไม่แตก ไม่โน แต่ก็ชาๆ
“หายหัวไม่ได้ แอบด่ากูลับหลังตลอด” เดย์ทรุดนั่งอีกฝั่งตรงข้ามคนที่พึ่งแจกฝ่ามืออรหันต์ให้ ถึงปากจะต่อว่าแต่นัยตาย์กลับยิ้มแย้ม
ผลัวะ!
เบิกบานใจได้ไม่ถึงนาทีเดย์ก็ต้องยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองปรอยๆ เพราะถูกคนเป็นน้องเอาคืนโดยไม่ทันตั้งตัว แถมยังแรงกว่าที่เขาตบเป็นเท่าตัว
“ตบมาทำซากอะไร” พอเอาคืนปุ๊ปก็ว่าพี่ชายปิดท้ายก่อนนั่งลงเหมือนเดิม
“พวกมึงดูดิ มันไม่เคยเคารพกูเลย” เดย์ว่าพลางลูบหัวด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่หาย ทั้งที่ไม่ได้เจ็บแล้ว แค่สำออยฟ้องเพื่อนอีกสองคนให้เห็นอกเห็นใจก็เท่านั้น
“ตบมาตบกลับ แฟร์ๆ” ไนท์ยักไหลเปะปากบอกเดย์ เขารู้ว่าพี่ชายกำลังทำตัวสำออย ไม่ได้ตีแรงขนาดนั้นเสียหน่อย
“แฟร์เหี้ยอะไร มึงตบกูแรงกว่าที่กูตบมึงอีก แถมยังด่ากูหน้าม่อด้วย”
“ก็มึงหน้าม่อจริงอ่ะ! เจอผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้รีบส่อยหางกระดิกๆ ระริกระรี้เข้าไปหาเขา”
“ไอ้ห่าไนท์ ไอ้น้องเวร ถ้ามึงจะด่ากูขนาดนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าพี่แล้ว"
"แล้วกูเคยเรียกมึงพี่ด้วยเหรอ"
“ไอ้ไนท์!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชินกับเรนจิหัวลั่นให้กับศึกระหว่างพี่น้องที่มีให้เห็นทุกวันจนชินตา แต่พวกเขารู้ดีว่าทั้งสองแค่หยอกกันเล่นเท่านั้น มันเป็นการแสดงความรักระหว่างผู้ชายอกสามศอกที่เติบโตมาด้วยกัน ที่เป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนในเวลาเดียวกัน จะให้ทั้งสองพูดจาหวานหยอดใส่กันคงเป็นไปไม่ได้
@EDM PUB
ที่เก่าเวลาเดิม ผับประจำของสี่หนุ่ม เสียงเพลงEDM ดังสนั่น ผู้คนในผับต่างวาดลวดลายกันด้วยความสนุกสนานจากเสียงเพลงและแอลกอฮอล์ที่กรอกเข้าไปในร่างกาย
ชินยืนเกาะราวกั้นโซนวีไอพีโยกตัวตามจังหวะพร้อมกวาดสายตาหาเหยื่อ ซึ่งปกติแล้วจะมีเดย์ยืนอยู่เคียงข้างล่าเหยื่อไปด้วยกัน ทว่าวันนี้เสือตัวพ่อเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ในมือ นิ้วเรียวก็กดพิมพ์หยุกหยิกอยู่ตลอดเวลาเหมือนกำลังแชทคุยกับใครอยู่
“มึงกลับห้องเถอะเดย์ ถ้าจะมาดื่มแล้วเอาแต่สนใจโทรศัพท์แบบนี้ วันหลังไม่ต้องมานะ” ชินกระแทกตัวนั่งลงข้างเรนจิ ต่อว่าเดย์ด้วยสีหน้าสุดเซ็ง ที่เพื่อนไม่คิดสนใจสิ่งรอบข้างเลยนอกจากโทรศัพท์ในมือ ขนาดเขาด่ายังไม่ทักท้วงซักคำ เพราะเอาแต่โฟกัสกับการแชทเลยไม่ได้ยินที่เขาพูด ยิ่งทำให้ชินหัวเสียยิ่งกว่าเดิม “นั่งยิ้มเหมือนคนบ้า พูดห่าอะไรด้วยก็ไม่ตอบ”
“มึงงอนที่มันคุยกับสาวเหรอ” เรนจิแหย่คนหน้างอคอหัก
“จะงอนทำเหี้ยอะไร กูไม่ใช่เมียมันเสียหน่อย แต่ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาป่ะ มาเที่ยวกับเพื่อนก็ต้องสนใจเพื่อนสิวะ”
“เดย์! รีบง้อเมียมึงดิ หน้าบูดเป็นตูดหมา” ไนท์ที่นั่งข้างเดย์เต๊ะไปที่เท้าของอีกฝ่ายเป็นการเรียก
“ไอ้สัสไนท์ กูบอกว่าไม่ได้งอน” ชินท้วงเสียงดัง
“โอ๋ๆ เพื่อนชิน” เดย์กดปิดหน้าจอหลังบอกฝันดีกับคนที่เขานั่งแชทด้วยเกือบสองชั่วโมงได้ จนโดนเพื่อนงอน “อยากแดกเหล้ากับกูใช่ไหม จัดมาเล้ย อีกขวดไหมกูเลี้ยงเอง คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ”
“ใครอยากแดกกับมึง กูจะกลับละ” ชินบอกเสียงสะบัด ทำให้อีกสามหนุ่มหลุดขำกับท่าทีแง่งอนนั้น
“งอนเป็นเมียกูไปได้ ชงเหล้าดิ โต๊ะไหนเดี๋ยวกูไปส่ง” ชินฉีกยิ้มร่าทันทีเมื่อได้ยินประโยคแสนรู้ของเดย์ ประโยคที่เขารอคอยมาเกือบสองชั่วโมง
นี้สิคู่หูล่าเหยื่อของเขา!
“ไปส่งกูเฉยๆ จริงดิ เพื่อนน้องเขาก็เด็ดนะ สเปคมึงเลย”
“ช่วงนี้ปวดเอวว่ะ คงต้องพักก่อน” เดย์ว่าขณะลุกขึ้นยืนจับไปที่บั้นเอวตัวเองแล้วบิดไปมา
“ปวดเอวหรือมึงแอบไปมีเมีย” เรนจิถามคนที่ยืนบิดเอวไปมาเหมือนปวดจริงจัง
“กูปวดจริง สงสัยช่วงก่อนหักโหมไปหน่อย ส่วนเมียยังไม่มีโว้ย แค่คุยเล่นๆ พอดีคนนี้คุยถูกคอ”
“แน่นะมึง” ไนท์เค้นอีกคน นั่งแชทไม่สนใจสิ่งรอบข้างสองชั่วโมงเต็มๆ ไม่น่าแค่คุยถูกคอแล้วมั้ง
“แต่ถ้ามี กูจะรีบมาบอก….ป่ะ ชินเพื่อนรัก ไปล่าเหยื่อกันเถอะ” เดย์เข้าไปกอดคอชินแล้วพากันเดินลงไปที่โซนยืนข้างล่างที่พื้นต่ำลงไปประมาณหนึ่งเมตรได้
“มึงกับกูเป็นหมาเฝ้าโต๊ะอีกตามเคย” เรนจิว่าหลังจากชินกับเดย์เดินหายเข้าไปในกลุ่มคนที่กำลังเต้นบดเบียดกันอยู่ข้างล่าง
“ฮึๆ พวกมันไม่น่ากลับมาแล้วแหละ กลับป่ะ กูเพลียๆ ว่ะ ดื่มติดกันหลายคืนแล้ว” ไนท์ว่าอย่างรู้สถานการณ์ล่วงหน้า ก่อนเสยผมด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
“เอ่อ กลับดิ กูก็ง่วงจะตายห่า”
“!!!” สามหนุ่มทำสีหน้าตกตะลึงเหมือนเป็นเรื่องสุดแสนแปลกใจ“มึงพูดจริงป่ะเนี่ย?” ชินถามซ้ำ“เออสิวะ ช่วง2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมามึงเห็นกูเต๊าะใครไหม” ชินครุ่นคิดชั่วอึดใจก่อนส่ายหัว แล้วที่ไปตึกสถาปัตย์เดย์ก็แค่ไปส่งชินไปหาเพื่อนสมัยมัธยม ไม่ได้ไปเต๊าะสาวอย่างที่ไนท์กับเรนจิคิดเลย “เห็นกูกลับกับใครไหม”“ก็ไม่อ่ะ…. ถึงว่าช่วงนี้มึงแปลกๆ แดกเหล้าเสร็จกลับห้อง เป็นคนดีแปลกๆ”“กูจะถือว่าเมื่อกี้มึงชมก็แล้วกันนะ” เดย์บอกชินทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเพื่อนชมหรือด่า แต่คนเป็นคนคิดบวก คิดซะว่าเมื่อกี้นี้เพื่อนชมแล้วกัน“คนนี้มึงจริงจัง?” เรนจิถาม“ เป็นแฟนแล้วก็ต้องจริงจังดิ คุยกันมาซักพักแล้ว น้องเขาน่ารักว่ะ น่ารักจนใจเจ็บ”“โว้ เป็นเอามากนะมึง” ชินกลอกตาหมั่นไส้กับท่าทางกุมหัวใจเหมือนถูกกามเทพยิ่งลูกศรปักหัวใจของเดย์ อะไรจะขนาดนั้น!“แล้วมึงล่ะไอ้น้องชายไม่ยินดีกับกูด้วยเหรอ พี่ชายมีแฟนแล้วนะโว้ย” ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไนท์เงียบกริบแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เดย์ก็ยังคะยั้นคะยอเอาคำยินดีจากคนเป็นน้อง ก็แค่อยากจะแกล้งแฝดน้องเล่นเท่านั้น“เออ ยินดีด้วย” เขาดีใจกับพี่ชายมันแน่อยู่แล้ว เพราะเดย์ไม่ให้สถานะนี้ก
ทิตย์ต่อมา….ณ หน้าตึกคณะวิศวกรรมในช่วงบ่ายของวัน นักศึกษามากหน้าหลายตาในชุดเสื้อช็อปสีแดงกำลังนั่งจับกลุ่มคุยเล่น เม้ามอย หรือแม้กระทั่งนินทาชาวบ้านระหว่างรอเข้าเรียนในภาคบ่าย ซึ่งสี่หนุ่มฮอตเจ้าของฉายาเจ้าชายวิศวะก็เป็นหนึ่งในกลุ่มก้อนนั้นเหมือนกัน และวันนี้ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย ทั้งที่ปกติแล้วนักเดินสายอย่างชินกับเดย์มักจะวาปไปเต๊าะสาวคณะอื่นอยู่เป็นประจำ ทว่าช่วงหลังๆ มานี้สองหนุ่มแทบจะไม่ไปไหนเลย ซึ่งเรนจิกับไนท์ก็สงสัยในความเปลี่ยนแปลงของพ่อหนุ่มขี้เต๊าะทั้งสองคนไม่น้อย“ทำไมช่วงนี้พวกมึงไม่ไปไหนเลยวะ” เรนจิถามทั้งสองหนุ่มที่นั่งก้มหน้าก้มตากับโทรศัพท์ในมือ“แดดมันร้อน” ชินตอบอย่างขอไปทีโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา“ปกติไม่เห็นดิน ฟ้า อากาศ จะเป็นปัญหากับมึงเลย” ไนท์เอ่ยด้วยสายตาจับผิด มองชินกับเดย์สลับไปมาไม่สบตา มีพิรุธ!“ขี้เกียจ” เดย์รีบออกตัวเมื่อชินเงียบไป“หรือพวกมึงแอบไปมีเมียกันแน่” เรนจิคาดคั้นต่อ“ไม่มี้”“....”“เสียงสูงมากไอ้สัด โคตรมีพิรุธ” เรนจิมองชินที่เริ่มมีอาการร้อนรน“พิรุธอะร้าย”“ยิ่งแก้ตัวยิ่งมีรุธ” ลนลานเก็บอาการแทบไม่อยู่ยังมีหน้ามาถามว่าพ
ผลัวะ!ไนท์ร้องเสียงหลงตอนท้ายเมื่อถูกคนหน้าม่อฟาดฝ่ามือเข้ากลางหัวเสียงดังป๊าป แต่ไม่ได้แรงมากนัก เพราะเดย์ไม่ได้ตั้งใจให้น้องชายตัวเองเจ็บ แค่หยอกกันตามประสาเด็กผู้ชายไม่แตก ไม่โน แต่ก็ชาๆ“หายหัวไม่ได้ แอบด่ากูลับหลังตลอด” เดย์ทรุดนั่งอีกฝั่งตรงข้ามคนที่พึ่งแจกฝ่ามืออรหันต์ให้ ถึงปากจะต่อว่าแต่นัยตาย์กลับยิ้มแย้มผลัวะ!เบิกบานใจได้ไม่ถึงนาทีเดย์ก็ต้องยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองปรอยๆ เพราะถูกคนเป็นน้องเอาคืนโดยไม่ทันตั้งตัว แถมยังแรงกว่าที่เขาตบเป็นเท่าตัว“ตบมาทำซากอะไร” พอเอาคืนปุ๊ปก็ว่าพี่ชายปิดท้ายก่อนนั่งลงเหมือนเดิม“พวกมึงดูดิ มันไม่เคยเคารพกูเลย” เดย์ว่าพลางลูบหัวด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่หาย ทั้งที่ไม่ได้เจ็บแล้ว แค่สำออยฟ้องเพื่อนอีกสองคนให้เห็นอกเห็นใจก็เท่านั้น“ตบมาตบกลับ แฟร์ๆ” ไนท์ยักไหลเปะปากบอกเดย์ เขารู้ว่าพี่ชายกำลังทำตัวสำออย ไม่ได้ตีแรงขนาดนั้นเสียหน่อย“แฟร์เหี้ยอะไร มึงตบกูแรงกว่าที่กูตบมึงอีก แถมยังด่ากูหน้าม่อด้วย”“ก็มึงหน้าม่อจริงอ่ะ! เจอผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้รีบส่อยหางกระดิกๆ ระริกระรี้เข้าไปหาเขา”“ไอ้ห่าไนท์ ไอ้น้องเวร ถ้ามึงจะด่ากูขนาดนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าพี่แล้ว""แ
ไอญดาและนานิสองสาวเพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น กำลังนั่งคุยเล่นที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะระหว่างรอเข้าเรียนในภาคเช้า ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสเจ้าของเรือนผมสีดำขลับยาวสลวยก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากตึกตรงข้ามหรือตึกคณะวิศวะที่อยู่ห่างกับตึกมนุษย์เพียงแค่ลานเกียร์กั้นอยู่ตรงกลาง“นานิๆ เราว่าพี่ไนท์อะไรนั้นกำลังมองเราอยู่” ไอญดาสะกิดบอกเพื่อนสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นหรือนานิที่นั่งถัดจากเธอ“ที่ร้านกาแฟพี่เขาก็มองไอตาไม่กระพริบเลย”“ไหนพี่เขาบอกว่าไม่เป็นไรไง แล้วทำไมถึงมองเราแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกันอ่ะ” ไอญดาว่าอย่างคนคิดไม่ตกวันนั้นทั้งเธอและเขาต่างฝ่ายต่างเดินชนกัน แต่โชคร้ายที่มีแค่เขาคนเดียวที่ซวยโดนนมชมพูเครื่องดื่มโปรดของเธอหกใส่เลอะทั้งเสื้อช็อปและเสื้อยืดตัวข้างใน ซึ่งตอนนั้นไอญดาตกใจมากเพราะคิดว่าต้องโดนคนหน้าดุแน่ๆ ทว่าเขากลับบอกเพียงว่าไม่เป็นไร แถมตอนเย็นวันนั้นยังส่งข้อความผ่านทางโซเซียลมาขอโทษอีกด้วย เธอจึงคิดว่าเลิกแล้วต่อกันไปแล้วทว่า….หลังจากวันนั้น อยู่ๆ โลกของเธอกับเขาก็เหวี่ยงเข้าหากันจนน่าแปลกใจ จากที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน กลับได้เ
“เอาเสื้อกูมาใส่ทำไม” ไนท์ถามแฝดพี่ เขารู้ว่าเสื้อนักศึกษาตัวนี้ที่พี่ชายกำลังสวมใส่อยู่คือของตัวเองที่แขวนไว้ในรถ กลิ่นน้ำหอมประจำตัวเขาลอยแตะจมูกชัดเจนขนาดนี้ทั้งสองมีกุญแจรถของกันและกัน แต่ไนท์ไม่เคยยุ่มย่ามของใช้ส่วนตัวของอีกฝ่ายเลย เก็บกุญแจไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น แตกต่างจากเดย์ที่ไม่มีมารยาททางนี้เลยชอบมาหยิบนู่นนี่ในรถไนท์ตลอด“กูไม่ได้กลับห้อง เสื้อสำรองในรถก็หมด กูเลยไปเอาเสื้อมึงมาใส่”“เอาไม่ขอ”“เอาผู้หญิงด้วยกันยังได้วะ แค่ยืมเสื้อตัวเดียวทำเป็นหน้านิ่วใส่กูไปได้” ไนท์จิ๊ปากเบือนหน้าหนีขี้เกียจเถียงกับพี่ชายตัวเอง เพราะสอนเดย์เรื่องมารยาทแบบนี้ไปหลายรอบไม่เห็นจะเข้าหัวสักที“ว่าแต่มึงเถอะ เมื่อคืนที่หายไปเป็นชั่วโมง ไปทำอะไรมา”“...” ไนท์ไม่ตอบแต่ส่งสายตารำคาญให้เดย์ที่กำลังยิ้มกริ่ม ส่วนเดย์รู้อยู่แล้วว่าไนท์ไปทำอะไร แค่อยากจะแกล้งน้องชายตัวเองเล่นเท่านั้น“มึงลืมเก็บซองถุงยางที่ตกใต้เบาะคนขับน่ะ” เดย์ว่าต่อสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วมึงไปก้มดูอะไรใต้เบาะวะ” เรนจิถามเดย์ด้วยความสงสัย ก็อยู่ๆ ใครมันจะไปก้มดูใต้เบาะรถคนอื่น“กูทำไม้แขวนตก ตอนก้มเก็บเสือกเห็นใส่พอดี”“อย่าบอก
เดย์กับไนท์เป็นฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ด้วยบุคคลิกแตกต่างกันคนละขั้ว ทำให้ทุกคนสามารถแยกออกได้ชัดเจนว่าคนไหนคือเดย์ คนไหนคือไนท์เดย์คือเจ้าของรอยยิ้มสดใส เป็นคนร่าเริง เฟรนลี่หรือที่อีกสามหนุ่มเรียกคือ เฟรนลี่เรี่ยราด เดย์เปรียบเสมือนกลางวันที่ ส่องแสงสว่างเจิดจ้า เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เจ้าตัวทำสีอยู่อย่างสม่ำเสมอยิ่งทำให้เขาดูสดใส เป็นมิตร น่าคบหาแตกต่างจากไนท์ ที่เป็นคนพูดน้อย เย็นชา เหมือนยามค่ำคืนที่มีแค่แสงจันทร์ส่องเพียงรำไร เขาไม่ได้หยิ่งยโส แต่ด้วยบุคลิกและนิสัยห่วงความเป็นส่วนตัว ไนท์เลยดูเป็นคนเข้าหายาก บวกกับไอ้ลุคห่ามๆ จากการถูกประทับน้ำหมึกผ่านเข็มสักตรงบริเวณลำคอด้านหน้า หัวไหล่และทั่วทั้งแขนด้านขวาทำให้ดูแบดมาก หน้าตาก็ไม่รับแขก เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาสุงสิงด้วยนักส่วนเดย์ไม่นิยมการสักเพราะสิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือเข็ม ไม่ใช่แค่เข็มฉีดยาเท่านั้นแต่อะไรที่มีปลายแหลมเหมือนเข็มเขาก็กลัวทั้งนั้น ไม่ชอบให้อะไรแหลมๆ มาจิ้มแทงร่างกาย แต่ชอบเอาเข็มแท่งโตของตัวเองไปแทงสาวๆ แทน >_“ถุย เกิดก่อนมันไม่กี่นาทีทำเป็นข่ม” ชินกรอกตากับท่าทางของเดย์ที่ยกมือข







