LOGINเดย์เดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยรอยยิ้มกว้าง มองทางไหนก็เป็นสีชมพูไปหมด เขาโคตรมีความสุขเลย 10นาทีสำหรับการนั่งเบียดชิดร่างเล็ก ทั้งที่รู้ว่าเธอเกร็งแต่เขาก็ไม่ขยับหนี อยากให้หญิงสาวได้ชินกับการใกล้ชิดกับเขา เพราะหลังจากนี้อาจจะได้แนบชิดกันมากยิ่งขึ้น เดย์อมยิ้มกับความคิดตัวเอง ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้างแฝดน้อง
“ไปแดกข้าวเที่ยงโรงอาหารมนุษย์กัน” เดย์ถามไปโดยไม่คิดอะไรและไม่ได้รู้ถึงความตรึงเครียดรอบกายด้วย “กูจะกินที่นี้” ไนท์ตอบในขณะที่พยายามปรับน้ำเสียงไม่ให้แข็งมาก พร้อมพยายามย้ำกับตัวเองว่าเดย์ไม่รู้ว่าเขาชอบไอญดา เขาจะโทษพี่ชายตัวเองไม่ได้ ผิดที่เขาไม่จีบเธอเอง มันไม่ใช่ความผิดของเดย์เลย…. “กูอยากไปเจอไอ” เดย์บอกความต้องการของตัวเองที่ชวนไปทานข้าวไม่ใช่ว่าเขาอยากกินข้าวที่นั้น แต่เขาอยากไปหาแฟนตัวเองต่างหาก ไปคนเดียวก็เหงาไปเลยชวนเพื่อนไปด้วย “เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน ให้ไอ้เรนกินกับไอ้ไนท์แล้วกัน” ชินที่นั่งถัดจากไนท์อีกฝั่งรีบเสนอตัว เพราะไม่อยากให้เดย์กดดันไนท์ “โอเคคร้าบเพื่อนชิน… ว่าแต่มึงเถอะเป็นอะไร ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” เดย์ตอบชินแล้วกลับมาสนใจคนข้างๆ อีกครั้งเพราะพึ่งสังเกตเห็นสีหน้าตึงเครียดของไนท์ “เปล่า” “มีอะไรก็คุยกับกูได้ มึงก็รู้” ถึงจะกวนตีนกันตลอด แต่ถึงเวลามีปัญหาเขาสองคนก็เป็นที่ปรึกษาและอยู่เคียงข้างกันและกันเสมอ เพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน! “อืม แต่กูไม่ได้เป็นอะไร” “โอเคๆ” เดย์พอดูออกว่าไนท์ดูไม่ค่อยสบอารมณ์กับอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่อยากรบเร้าต่อเพราะรู้ดีถ้าไนท์ไม่ยอมเปิดปากแสดงว่ายังไม่พร้อมจะเล่า @ร้านนั่งชิว “ทำไมมานั่งดื่มที่นี่” “....” “เปลี่ยนบรรยากาศ?” เรนจิถามซ้ำอีกครั้งเมื่อคนที่ชวนเขามาดื่มด้วยไม่ตอบคำถามแรก เขาแปลกใจที่ไนท์มานั่งร้านนี้ที่พวกเขาเคยมานับครั้งได้ เพราะไม่ใช่สายนี้ ที่จะมานั่งฟังเพลงอกหัก จิบเหล้าเคล้าบรรยากาศเศร้าๆ ปกติพวกเขามักจะไปดื่มที่ร้านประจำอย่าง EDM PUB “....” “หรือมาทำตัวเป็นพระเอกเอ็มวี?” ถามดีๆ เสือกไม่ตอบ ชอบให้แทงใจดำ ซึ่งมันได้ผลจริงๆ นัยน์ตาคมดุคู่นั้นตวัดใส่เขาอย่างฟาดฟันทันที แล้วไง ใครกลัว! “ถ้าจะกวนตีนก็กลับไป” “หึๆ คนอกหักนั่งคนเดียวมันเศร้านะ มึงไม่รู้เหรอ” เรนจิกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน “ช่างเลือกร้านเนาะ เพลงแม่งเข้ากับคนอกหักอย่างมึงฉิบหาย เดี๋ยวก็ได้แดกน้ำตาแทนเหล้ากันพอดี” “ไอ้สัดเรน!” ไนท์กระแทกเสียงเรียกเพื่อนสนิทบ่งบอกว่าอารมณ์ได้คุกรุ่นจากการโดนอีกฝั่งกวนใส่ไม่หยุด เพื่อนเหี้ย! “หรือกูพูดผิด?” “จะแดกเหล้าหรือแดกตีน?” ไนท์เงยหน้าถามด้วยสีหน้าเอาเรื่อง “ไม่น่าถาม” เรนจิเลิกคิ้วอย่างกวนๆ ตอบ แล้วหยิบแก้วมาเทเหล้าใส่เติมโซดาหย่อนน้ำแข็งลงไป เขาทำทุกอย่างใจเย็นภายใต้สายตาแข็งก้าวของไนท์ “อย่างหลังสินะ” “อย่างหลังพ่อง! เห็นอยู่ว่ากูกำลังชงเหล้า แดกเหล้าดิวะ” เรนจิชูแก้วเหล้าของตัวเองแล้วแกว่งไปมาด้วยสายตาเย้าแหย่ก่อนกระดกดื่มเหล้ารวดเดียวหมดแก้ว “กวนตีน!” “แล้วมึงยิ้มทำห่าอะไร” คนกวนตีนถามยิ้มๆ เหมือนรู้คำตอบนั้นอยู่แล้ว “....” นั้นดิ เขาจะยิ้มทำซากอะไร ทั้งที่ท่าทางของเรนจิทำให้เขาคันตีนยุบยิบ เหมือนอยากเต๊ะปากคน แต่อีกในความรู้สึกหนึ่งกลับรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้ต่อปากต่อคำกับเรนจิ ที่รู้ใจเขายิ่งกว่าใครและเป็นคนที่เขารู้สึกสบายใจที่จะคุยเสมอ นั่งดื่มกับมันก็ดีกว่านั่งดื่มคนเดียวละวะ! “แล้วนึกยังไงมานั่งร้านนี้” “อยากนั่งดื่มเงียบๆ” “ไม่นั่งแดกที่ห้องล่ะ” “เงียบไปไอ้สัด” เรนจิตอบรับด้วยการยกยิ้มขำไม่ต่างจากไนท์ ไนท์เองก็ไม่ถนัดแนวนั่งชิวเท่าไหร่ ปกติชอบเสียงเพลงบรีทหนักดังอึกกระทึกเวลาดื่มมากกว่า ทว่าวันนี้กลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย อยากหาที่นั่งดื่มที่เงียบสงบกว่านั้น เลยเลือกมานั่งที่ร้านนั่งชิว มันก็ไม่ได้แย่ บรรยากาศเอย เพลงเอย เศร้าเหี้ยๆ “แล้วมึงจะเอาไงต่อ?” เรนจิเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีแววยียวนเหมือนก่อนหน้านี้ “เอาไงล่ะ” “ตัดใจ?” “ถามเหมือนกูมีทางเลือกอื่น” “ถ้าเป็นคนอื่น กูคงยุมึงทำแย่งเขามา แต่นี้ดันเป็นไอ้เดย์ พี่มึงอีกด้วย” “แล้วกูแย่งมันไม่ได้เหรอ?” “ไม่ได้!!!!” “หึๆ กูก็ไม่ได้เหี้ยขนาดนั้น…..แต่ก็ไม่ได้รู้สึกยินดีกับมันตอนนี้” เขาอิจฉาเดย์ อิจฉาที่เดย์ได้ใจเธอไปครอบครอง…. แต่เขาจะทำอะไรได้ พี่ชายกำลังมีความรักครั้งใหม่ เขาอยากยินดีกับเดย์ แค่ตอนนี้มันยังรู้สึกแบบนั้นไม่ได้จริงๆ “ชอบน้องเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ” “อืม” ไม่คิดเหมือนกันว่าจะชอบเธอได้มากขนาดนี้ เธอเป็นเหมือนรักแรกพบ หัวใจมันกระตุกไม่มีสาเหตุตั้งแต่แรกเห็น และคงเป็นเพราะชอบเธอมากเขาเลยไม่กล้าเข้าหา ไม่กล้าจีบ ได้แต่เฝ้ามอง กลัวผิดหวัง กลัวจีบเธอแล้วโดนปฏิเสธ กลัวแม่งมันไปทุกอย่าง สุดท้ายเขาเลยแดกแห้ว….“พี่ไนท์เกี่ยวอะไรด้วยคะ” เธอช้อนตามองเดย์อย่างไม่เข้าใจ ที่อยู่ๆ เขาก็ลากบุคคลที่สามเข้ามา ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะเขา เพราะเขาทั้งนั้น!“ระหว่างเรา มันมีอะไรไม่เกี่ยวกับพี่ไนท์เลย”“แน่ใจเหรอ? หลังๆ มานี้พี่ว่าไอสนิทกับไอ้ไนท์เกินไปนะ” เดย์เลิกคิ้วถาม“แล้วที่เราต้องมาสนิทกันไม่ใช่เพราะพี่เดย์เหรอ? เมื่อคืนพี่เดย์ก็เป็นคนทิ้งไอไว้กับพี่ไนท์เอง ตอนเช้าที่ไอต้องแบกหน้าไปขอพี่ไนท์ไปส่งก็เพราะพี่เดย์เมาจนตื่นไม่ไหว อ้อ! ไม่ใช่แค่เมื่อเช้าสิ ก่อนหน้านี้อีกด้วย ที่เราต้องเจอกันหลายๆ ครั้งก็เพราะพี่เดย์ทั้งนั้น” ไอญดาสวนกลับทันควันเมื่อเดย์พูดเหมือนเธอกับไนท์มีซัมติงกันและเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเลิกกับเขา ทั้งที่มันไม่ใช่เลย!“…” เดย์หลุบสายตามองพื้น มือเสยผมขณะครุ่นคิดก่อนจะถามตัวเองในใจ'เพราะเขางั้นเหรอที่ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน?'“อย่าโทษใครเลยค่ะ เราก็แค่ไปด้วยกันไม่ได้ เรามันต่างกันเกินไป กลับไปใช้ชีวิตที่พี่เดย์ต้องการเถอะนะคะ”“ไอไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” เดย์ส่ายหัวมองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อปกติเธอว่านอนสอนง่าย บอกอะไรก็เชื่อ ไม่เคยแข็งข้อกับเขาสักครั้ง แต่ทำไมอยู่ๆ ถึงเ
@All night Pubเธอไม่รู้หรอกนะว่าการมาดื่มจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นไหม แต่เห็นใครๆ ก็ชอบมาดื่มตอนเศร้า เสียใจหรืออกหัก เลยอยากลองบ้าง ประจวบเหมาะกับเพื่อนชวนมาหลายครั้งแล้วและเธอก็ปฏิเสธมาตลอด ครั้งนี้เลยไม่อยากปฏิเสธอีก จึงตกลงกันว่าจะมาลองผับเปิดใหม่ที่คนเขาล่ำลือกันว่าเพลงดี มิกเซอร์ฟรี ดีเจหล่อ! ตามคำแนะนำของขาเที่ยวอย่างเอิงเอยทว่าจะยังไม่ทันได้เข้าไปสัมผัสแสงสีเสียงข้างใน ร่างสูงคุ้นตาที่เธอหลบหน้า ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบแชทเขามาทั้งวันก็เดินเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน“พี่เดย์”“ไปคุยกันก่อนได้ไหม” จากปกติที่มักจะเจอเดย์พร้อมกับรอยยิ้มเสมอ ทว่าวันนี้ใบหน้าที่เคยสดใสกลับตึงเครียดและเขาไม่แม้แต่จะเอ่ยทักทายเพื่อนของแฟนสาวเมื่อเห็นแววตาขอร้องอ้อนวอนของเดย์ ไอญดาจึงหันไปบอกเพื่อนๆ ให้เข้าไปข้างในก่อน เอิงเอยกับคิมเดินเข้าไปด้วยสีหน้างุนงงกับสถานการณ์ตึงๆ ระหว่างไอญากับเดย์ ด้านนานิที่เดินรั้งท้ายได้ส่งยิ้มเจื่อนๆ เชิงขอโทษขอโพยให้เพื่อนสนิท ไอญดาจึงเข้าใจทันทีว่าที่เดย์โผล่มาที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ทำไมไอไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบแชทพี่เลย รู้ไหมพี่เป็นห่วงแค่ไหน” ทันทีที่พาไอญดาแยกออกมาท
หลังเลิกเรียนไอญดาขอให้นานิไปส่งที่คอนโด ทั้งที่ปกติเดย์จะมารับเธอไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันหรือแวะมาทานด้วยกันที่โรงอาหารคณะมนุษย์ก่อนที่เขาจะเข้าเรียนในช่วงบ่าย ทว่าวันนี้เธอชิ่งกลับก่อนเพราะยังโกรธแฟนหนุ่มเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอยังไม่อยากคุย ไม่อยากเจอเขาตอนนี้ทันทีที่ถึงห้องก็ปล่อยกายแสนเหนื่อยล้าบนเตียงนุ่ม เธอเหนื่อยจนไม่มีแรงอาบน้ำหรือแม้แต่เปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนี้แค่อยากนอนแล้วไม่ต้องคิดอะไรเลย พอหัวถึงหมอนก็เข้าสู่นิทราไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากนอนน้อยและมีเรื่องให้คิดทั้งวันเหนื่อยทั้งกายและใจจนหลับยาวหลายชั่วโมงจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังมือเล็กกดปิดนาฬิกาปลุกแล้วลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทานข้าวเย็นกับผู้เป็นแม่ที่ได้นัดมายกันไว้เมื่อช่วงกลางวัน“ทำไมมาคนเดียวล่ะ ไม่เอาแฟนมาอวดแม่ด้วยเหรอ” ภวิกาทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมถามถึงแฟหนุ่มของลูกสาวสุดที่รักที่เจ้าตัวเคยส่งรูปมาอวดเธอบ่อยๆเธอไม่ได้เป็นคุณแม่หัวโบราณ เข้าใจว่าวัยของลูกสาวกำลังเป็นวัยอยากรู้อยากลอง โดยเฉพาะเรื่องความรัก แล้วเนื่องจากเธอพูดคุยกับลูกอย่างเปิดเผยอยู่ตลอด ไอญดาจึงค่อนข้างเปิดอกเปิดใจบอกเล่าเร
ไอญดาพลู่ลมหายใจขณะทรุดตัวนั่งข้างนานิเมื่อเห็นว่าอาจารย์ประจำคลาสยังไม่มา แถมยังพอมีเวลาหาอะไรรองท้องเสียหน่อยก่อนเข้าเรียน “ไอกินอะไรมารึยัง”“ยังเลย แต่พกขนมปังกับนมมาด้วย” ว่าพร้อมชูถุงผ้าเล็กใบเล็กที่บรรจุด้วยขนมปังหนึ่งห่อและนมหนึ่งกระป่องที่ไนท์ให้เธอเอาทานเป็นข้าวเช้า“เอาซื้อแซนวิสด้วยไหม เราซื้อมาหลายอันเลย”“เอาๆ แซนวิสร้านนี้อร่อย ขอบใจนะ” ไอญดารับแซนวิสน่าตาน่ากินจากนานิไปแกะทานอย่างรีบๆ เรียนตั้งสามชั่วโมงต้องหาอะไรรองท้องเสียหน่อย“คุณนายเช้าเสมอมาถึงกันนานรึยัง” เสียงทักสดใสจากคิม ผู้ชายร่างบางผิวขาวเนียน ท่าทางอ้อนแอ้นที่เดินถือกาแฟแก้วใหญ่เข้ามากับเพื่อนสนิทอย่าง เอิงเอย คิมและเอิงเอยเป็นเพื่อนใหม่ของไอญดากับนานิ ทั้งสี่เริ่มสนิทกันตอนทำรายงานกลุ่มที่ผ่านมา พอได้จับกลุ่มทำรายงานด้วยกัน ได้แชทปรึกษาเรื่องงาน ได้คุยเล่นกันตอนไปหาข้อมมูลด้วยกันเลยทำให้ทั้งสี่สนิทกันมากขึ้น กลายเป็นกลุ่มเพื่อนที่เริ่มแฮ้งเอ้าท์ด้วยกัน ไปทานข้าว ไปเดินเที่ยวเล่นตลาดนัดด้วยกัน“เราพึ่งมาถึง ส่วนนานิมาได้ซักพักแล้ว”“เช้าตลอดทั้งที่คอนโดอยู่ไกลกว่าเพื่อน”“ออกก่อนรถจะได้ไม่ติด มีเวลาแวะซื
เช้าวันต่อมา….ไอญดาตื่นนอนด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า เธอนอนไม่เพียงพอ ทั้งนอนดึกและยังโดนคนเมารบกวนกลางดึกอีกด้วย เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนเดย์กลับห้องกี่โมง แต่คิดว่าน่าจะล่วงเลยวันใหม่มาแล้วหลายชั่วโมงเพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาหลับตาได้ก็เกือบตีหนึ่งแล้วดวงตากลมโตที่บวมหน่อยๆ เนื่องจากผ่านการร้องไห้มาก้มลงมองร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงอันเดอร์แวร์ติดตัวกำลังนอนคว่ำกรนเสียงดังอยู่ข้างๆ ก่อนกวาดตามองรอบๆ เห็นเสื้อผ้าที่เดย์ใส่เมื่อคืนถูกทอดทิ้งเรี่ยราด ข้าวของหนังสือชั้นวางของปลายเตียงนอนตกกระจาดกระจายบนพื้นที่มาของเสียงโครมครามเมื่อคืน เธอถอนหายใจดังพรืดพลางโคลงหัวเบาๆ ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียนโดยไม่คิดจะปลุกเดย์ให้เสียเวลา เธอรู้สภาพนี้ปลุกยังไงก็ไม่ตื่นก๊อกๆ แกร๊ก!“ไอ”“พี่ไนท์…ไปส่งไอที่มอหน่อยได้ไหมคะ”“เข้ามาก่อนสิ” ไอญดาเดินตามแรงจูงของเจ้าของห้องไปง่ายๆ เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาช่วยเธอ ไนท์กลายเป็นเหมือนปุ่มฉุกเฉินของเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้เขาก็เป็นคนแรกที่เธอนึกถึง หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอจึงรีบมาเคาะประตูห้องเขาเพื่อขอให้ไปส่งเรียน“เรากินข้าวเ
บนรถ….“ให้พี่ไปส่งที่ไหน คอนโดเราหรือคอนโดมัน?” เขารู้ว่าหลังๆ ไอญดามาอยู่กับเดย์ที่ห้องทุกคืน แต่คืนนี้เดย์ทำตัวไม่น่ารักใส่เธอ เลยไม่แน่ใจว่าหญิงสาวยังอยากกลับไปรอเดย์ที่ห้องหรืออยากกลับห้องตัวเอง“คอนโดพี่เดย์ค่ะ หนังสือเรียนกับชีทงานไออยู่ที่นั่น” ไม่ได้อยากกลับไปที่ห้องเดย์ตอนนี้เลย แต่หนังสือเรียนและชีทงานที่ต้องใช้พรุ่งนี้อยู่ที่ห้องเดย์หมดรวมไปถึงคีย์การ์ดคอนโดเธอด้วย จะไปเอาของแล้วให้ไนท์ขับไปส่งที่คอนโดตัวเอง เธอก็เกรงใจเกินกว่าจะเอ่ยปากขอไนท์“เรามีคีย์การ์ดห้องมันใช่ไหม”“มีค่ะ”“พี่ขอแวะหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อก่อนแป๊บหนึ่งได้ไหม แค่จะซื้อกลับห้อง” เขาไม่ได้หิวหรอกแค่อยากยืดเวลาที่จะได้อยู่กลับเธอก็เท่านั้น ทั้งที่รู้ว่าควรรีบกลับคอนโดเพราะเธอต้องรีบเข้านอน แต่โอกาสอยู่ตรงหน้าเข้าก็ไม่อยากปล่อยมันหลุดมือไป แค่แป๊บเดียวก็ยังดี“เอาสิคะ ไอก็รู้สึกหิวเหมือนกัน”ไนท์เลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันแล้วเข้าจอดหน้าร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนทั้งสองจะแยกย้ายกันไปเลือกซื้อของกินในร้านสะดวกซื้อ“จะกินมาม่า?” ไนท์เดินเข้ามายืนข้างคนตัวเลือกที่กำลังเลือกบะหมี่กึ่งสำเร็จอย







