เจ้าของเรือนร่างสูงนั่งอยู่ที่โซฟาปลายเตียงด้วยความใจเย็น เขาจับแก้วไวน์ราคาแพงควงไปมาแล้วตวัดสายตามองร่างเล็กที่นอนสั่นคลอนอยู่บนเตียงนอนกว้างของห้องนอนหรู ไม่มีทีท่าจะเข้าไปทำเรื่องอย่างว่า เพียงแต่นั่งดื่มชิลล์ๆ จนอีกฝ่ายเบือนใบหน้ามามอง
"อะ ไอ้โรคจิต ชอบดูคนทรมานเหรอ? อื้อ~"
"…" เงียบ
"อะ อ่าส์ ยะ อย่าหวังว่าจะได้แตะตัวฉัน" หญิงสาวพยายามตั้งสติแล้วค่อยๆ ตะเกียกตะกายลงมาจากเตียง เธอใช้แรงที่มีอันน้อยนิดค่อยๆ คลานเข่าเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่ชายหนุ่มยังคงควงแก้วไวน์จ้องมองการกระทำของคนบนพื้นโดยไม่คิดจะทำอะไร
ความพยายามดันให้เธอเข้ามาในห้องน้ำจนสำเร็จ ร่างบางเอื้อมมือไปเปิดฝักบัว รอให้น้ำเย็นๆ ไหลผ่านโดนร่างกายเพื่อพยายามลดความร้อนรุ่มของฤทธิ์ยาให้ออกไปจากตัวให้หมด
ซ่าาาา!
"อะ อื้อ~" ในขณะที่เธอเหมือนจะคิดผิด น้ำเย็นๆ ไม่ได้ช่วยทำให้ความต้องการเรื่องอย่างว่าลดลงได้เลย มันยิ่งทวีความต้องการจนมือบางเริ่มอยู่ไม่สุข เลื่อนมาบีบเคล้นสองเต้าอวบอั๋น ก่อนที่ใช้มืออีกข้างเลื่อนมาล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์ขาสั้นที่สวมใส่แล้วไม่รอช้าที่จะคลึงเคล้าสามเหลี่ยมหวงแหนจนตัวเองเผยอปากร้องครางออกมา
สายน้ำยังไหลผ่านร่างกายจนเสื้อผ้าเปียกปอน ดีเจสาวพยายามช่วยตัวเองตามอารมณ์ความอยากที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ มือเล็กเปลี่ยนจากคลึงเคล้าเป็นสอดนิ้วเข้าไป กางเกงที่เริ่มเป็นปัญหาถูกถอดออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
ซ่า ซ่า!
"อะ อื้ออ~"
"ระ ร้อน อื้อ~"
ตึก
ตึก
ขณะที่อารมณ์ความต้องการเริ่มพุ่งขึ้นสูง มือบางนวดคลึงเคล้าเร้าอารมณ์ ตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักของคนด้านนอกที่เดินเข้ามา ยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงหลุบมองการกระทำของคนตัวเล็กด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ มุมปากเหยียดยิ้มราวกับพึงพอใจในอะไรบางอย่างแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร
"อะ ออกไป!" ดีเจสาวเบือนหน้าไปมองยังคนมาใหม่ เธอช้อนสายตากลมโตตอบขณะที่มือก็หลุบเข้าหลุบออกทางช่องหลืบอย่างสนใจไม่สายตาใคร
เพราะเธอหยุดมันไม่ได้…
"อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์~" ดีเจสาวเร่งมือที่กำลังช่วยตัวเอง ก่อนที่จะครางหวานร้องในลำคอเมื่อได้แตะขอบสวรรค์หัวโล่งด้วยความรู้สึกดีโดยที่การกระทำทุกอย่างกลับอยู่ในสายตาของร่างสูงที่ยืนนิ่ง
เธอตวัดสายตาไปมองร่างสูงที่ยืนไม่ห่าง นิ้วมือเรียวของเธอยังไม่สามารถทำให้อารมณ์ความต้องการหายไป เธออยากระบายออกมากกว่านี้ และคนที่จะช่วยเธอได้ก็คือ…
เขา!
"ชะ ช่วยฉันด้วย…" ดีเจสาวเริ่มเปลี่ยนสายตาเป็นหวานเยิ้ม ความหยิ่งยโสในตอนแรกหายไป กลับกลายเป็นสาวดาวยั่วกัดปากยั่วยวนพร้อมกับบีบสองเต้าอวบต่อหน้าเขา หมดความจองหองในตัวเองอย่างสิ้นเชิง
"…" เงียบ
"นะ นายช่วยฉันด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว อ่าส์~"
"ให้ฉันช่วยอะไร?" ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมพูดออกมา เขาเอ่ยถามเสียงเรียบทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวต้องการให้ช่วยอะไร
"ชะ ช่วยเอาฉัน เอาฉันหน่อย"
"หึ"
"ขะ ขอร้อง…ช่วยเอาฉันหน่อย เอาฉันแรงๆ ฉันทนไม่ไหวแล้ว~" ร่างบางเอ่ยเสียงสั่นเครือ น้ำจากฝักบัวเริ่มทำให้เรือนร่างบางหนาวสั่น ในขณะที่ภายในกลับร้อนระอุต้องการที่ระบายอารมณ์เต็มที
"ได้…ฉันจะช่วยเธอ" ชายหนุ่มค่อยๆ เดินเบี่ยงเพื่อปิดน้ำจากฝักบัว ก่อนที่จะก้มลงไปอุ้มเรือนร่างสวยในท่าเจ้าสาวแล้วเดินออกจากห้องน้ำทันที
"หอม~" ระหว่างทางร่างเล็กก็อยู่ไม่สุข เธอเลื่อนมือไปคล้องคอร่างสูงไว้ ดันใบหน้าเข้าใกล้ต้นคอ แล้วกดฝังจมูกสูดดมกลิ่นอย่างหื่นกระหาย เรียวปากบางจึงพูดออกมาตามความจริง กลิ่นกายของเขาหอมฟุ้งจนเธอเป็นผู้หญิงยังอาย ความหอมของเขายิ่งทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ กดท้ายทอยคนตรงข้ามให้ก้มมาจูบเธอทันที แอลกอฮอล์อ่อนๆ จากปากหนาเริ่มสร้างความกระสันให้พลุกพล่าน ดีเจสาวบดขยี้เรียวปากหนาเงอะงะ มันเป็นจูบแรกของเธอ ไม่แปลกเลยที่จะทำให้คนที่กำลังอุ้มผละใบหน้าออกอย่างเร็ว ขมวดคิ้วติดกันเป็นปม
"ฉันจูบไม่เป็น นะ นายจูบฉันหน่อย"
"…"
"จะ จูบฉันหน่อย ฉันต้องการนาย" เมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงนิ่ง เธอก็จัดการกดท้ายทอยเขาอีกครั้ง ทว่าเรียวปากหนายังคงไร้การตอบโต้ แถมยังพยายามดันใบหน้าตัวเองออกห่าง พยายามเบือนออกทั้งที่อีกฝ่ายกำลังโหยหาความต้องการ
"ถ้านายไม่ทำก็ปล่อยฉันลง ฉันจะได้ออกไปให้คนอื่นทำ" ดีเจสาวเริ่มมีอารมณ์โมโห เขามัวแต่มองใบหน้าเธอนิ่งโดยไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง ในขณะที่อารมณ์ความต้องการทางเพศของเธอพุ่งสูงปรี๊ด อยากระบายอารมณ์แต่เขากลับไม่สนองตอบเธอเลย
แต่แล้วดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้าง เมื่ออยู่ๆ คนที่แข็งเป็นหินกลับก้มลงมาบดขยี้เรียวปากโดยที่เธอไม่ต้องพยายามเอง ดีเจสาวเริ่มเคลิ้มหลับตาพริ้ม เขาจูบเก่งกว่าเธอเป็นไหนๆ แถมตอนนี้ลิ้นสากก็เริ่มรุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก หญิงสาวไม่รอช้าที่จะเปิดปากรับ ปล่อยให้เขาตวัดลิ้นทักทายเต็มที่
"อ อ๊ะ" เธอร้องครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากล่างถูกขบเม้มด้วยฟันแข็งแรง แต่มันเป็นความเจ็บที่เธอกลับรู้สึกชอบ รู้สึกถึงความเค็มเล็กๆ ที่ปลายลิ้นยิ่งเพิ่มความต้องการที่สูงกว่าเดิม
เรือนร่างเล็กค่อยๆ ถูกวางบนเตียงนอนอย่างอ่อนโยน ขณะที่เรียวปากของทั้งสองก็ไม่คิดที่จะถอดถอนออกจากกัน คราวนี้กลับกลายเป็นว่าเขาที่กำลังขึ้นคร่อมร่างเธอไว้ แล้วมือบางที่กำลังซุกซนก็เริ่มช่วยเขาปลดกระดุม รูดซิบลงช้าๆ แล้วร่นกางเกงแสลคของชายหนุ่มลงจนถึงหัวเข่าเร็วไว
ในขณะที่ปากกำลังปนเปรออย่างเร่าร้อน มือเล็กๆ ก็ควักท่อนเอ็นออกมาผงาดด้านนอก
"ต้องการขนาดนั้น?" ชายหนุ่มผละใบหน้าออกห่าง เขาหลุบตาไปมองความเร็วมือของคนตัวเล็กที่กำลังสาวเล่นความใหญ่โตเกินขนาดคนทั่วไป
"ต้องการ ฉันอยากให้นายกระแทกเข้ามาในตัวฉันเลย…"
"ฟิลิปส์มานอนได้แล้วครับ""ค้าบ~" เด็กชายตัวน้อยรีบวิ่งขึ้นมานอนบนเตียงกว้างหลังจากที่ฉันเอ่ยเรียก ฟิลิปส์นอนแยกห้องกับฉันตั้งแต่สองขวบ เมื่อฉันพาเข้านอนเสร็จก็จะกลับห้องตัวเอง ซึ่งเป็นแบบนั้นทุกวันจนเขาชินไปแล้ว"วันนี้ให้หม่ามี้อ่านเรื่องไหนดีคะ?" กิจกรรมก่อนนอนของเขาคือการให้ฉันอ่านนิทานให้ฟัง เพื่อกล่อมให้เขานอนเร็ว อีกอย่างก็เป็นการเสริมพัฒนาการของเขาในตัวด้วย"ผมอยากให้ปาป๊าอ่าน" เด็กน้อยเงยหน้ามองฉันพร้อมกับสีหน้าออดอ้อน"วันนี้ปาป๊ายังทำงานไม่เสร็จเลย ให้หม่ามี้เล่าให้ฟังเนอะ""ก็ได้ครับ" ใบหน้าเล็กเศร้าลงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ยอมฉันแต่โดยดีจนกระทั่ง…แอด ~"ปาป๊า~" บานประตูห้องนอนของลูกถูกเปิดออกพร้อมกับสามีของฉันที่เดินเข้ามาในชุดนอนพร้อม วันนี้เขาบอกว่าจะอยู่ปั่นงานจนถึงดึก ฉันก็นึกว่าเขาจะจมอยู่กับกองงานจนรอเจออีกทีก็พรุ่งนี้เสียแล้ว"ทำไมยังไม่นอนหื้ม…" ร่างสูงล้มตัวนอนอีกฝั่งของลูกชาย มือหนาก่ายขึ้นมาโอบฉันไว้โดยที่มีฟิลิปส์นอนอยู่ตรงกลาง"ปาป๊าเล่านิทานได้ไหมครับ?" เด็กชายรีบออดอ้อนอีกครั้ง"อยากให้ป๊าเล่าให้ฟังเหรอ?""ผมอยากฟังเรื่องนี้" ฟิลิปส์หยิบหนังสือนิทานโดยไม่
สามปีผ่านไป"ไปไหนกันมาคะ ทำไมถึงเหงื่อซกกันทั้งสองคนแบบนี้" ฉันปรายตาไปมองสองพ่อลูกที่จับมือกันเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดเต็มกรอบหน้า วันนี้หายออกจากบ้านไปทั้งพ่อลูกเกือบค่อนวัน ฉันให้การ์ดตามหาก็หากันไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันที่ไหน ปิดเรื่องเงียบทั้งพ่อทั้งลูก"ฟิลิปส์…ป๊าพาไปอาบน้ำ" พี่ฟีนิกซ์ทำเมินคำถามของฉัน ก้มลงไปอุ้มเจ้าลูกชายแสนซนหมายจะเดินผ่านหน้าฉันขึ้นไปชั้นสอง"พี่ฟีนิกซ์พาลูกไปทำอะไรแปลกๆ หรือเปล่าคะ?" เชื่อใจไม่ได้หรอก พี่ฟีนิกซ์ตามใจลูกเสียทุกอย่าง ไม่ว่าฟิลิปส์จะขออะไรก็ทำให้ได้หมด ตามใจจนลูกถามหาแต่เขาอยู่คนเดียว"เปล่า แค่ไปวิ่งเล่นกัน" เรียวปากหนาเอ่ยตอบ แต่ท่าทางดูมีพิรุธฉันว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ"ฟิลิปส์ บอกหม่ามี้มาค่ะว่าไปทำอะไรกันมา" ในเมื่อถามหาเรื่องจากฝั่งพ่อไม่ได้ก็มาเค้นลูกชายแทน เด็กโกหกไม่เป็นอยู่แล้ว"ป๊าพาไปวิ่งเล่นครับ" ฟิลิปส์รีบตอบทันที ขณะที่ฉันกำลังจดจ้องเพื่อเค้นความจริง พี่ฟีนิกซ์ก็รีบอุ้มลูกเดินหนีฉันไปเฉยเลย"อย่าให้รู้ว่าไปแอบเล่นอะไรพิเรนทร์มานะคะ" ฉันตะโกนไล่หลังสองพ่อลูก ตอนนี้เหมือนมีลูกสองคนเพราะพี่ฟีนิกซ์เหมือ
"หนูโอเคขึ้นแล้วจริงๆ ค่ะ" ร่างสูงยังคงจับมือฉันไม่ห่าง หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่แสนลำบากไปได้ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลแล้ว ทั้งฉันและพี่ฟีนิกซ์เราเพิ่งออกจากห้องคลอดมาด้วยกัน เจ้าฟิลิปส์ได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ตัวกลมแก้มแดงเชียว จมูกนิดตาโตเหมือนที่ฉันคิดไว้ว่าต้องเหมือนพ่อของเขาไม่มีผิด และดูเหมือนเจ้าตัวก็ภูมิใจมาก ตลอดการคลอดของฉันมีเขาคอยจับมือเป็นกำลังใจอยู่ตลอด น้ำตาแห่งความสุขของคนเป็นพ่อไหลลงอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าลูก คนไม่เคยเห็นหน้าทั้งสองคนในที่สุดก็ได้เจอกันสักที วันนี้เขาไม่ต้องคุยกันผ่านหน้าท้องของฉันอีกต่อไป เขาจะได้สัมผัสตัวเป็นๆ อย่างที่เขารอมาเนิ่นนานแล้ว"เจ็บตรงไหนบอกฉันนะ" หลังจากที่ออกจากห้องคลอดพี่ฟีนิกซ์ก็ยังดูแลไม่ห่าง มีสลับไปดูลูกในตู้ของโรงพยาบาลบ้าง แต่เมื่อมีคนบอกว่าฉันตื่นแล้วก็รีบกลับมาหาอย่างไวเลยผลออกมาอย่างที่เห็น เขาดูสงสารฉันตลอดเวลา ไม่ยอมเดินออกไปไหนเฝ้าฉันตลอดเวลา ถึงจะมีครอบครัวของฉันคอยอยู่เป็นเพื่อนแล้วก็ตาม"หม่ามี้อยากเห็นหน้าหลานเต็มทีแล้ว" คนอื่นๆ ยังไม่ได้เห็นกันชัดๆ เลย เพราะทางโรงพยาบาลต้องกักตัวลูกไว้ก่อน จึงพากันตื่นเต้นไ
แปดเดือนผ่านไป ~"วันนี้รู้สึกยังไงบ้างลิลิน เจ็บเท้าบ้างหรือเปล่า?" เสียงหวานของคนเป็นแม่เอ่ยถามขึ้นขณะที่ลงมานั่ง ช่วงนี้ฉันอยู่ในช่วงใกล้คลอด อีกไม่กี่สัปดาห์ก็ใกล้กำหนดคลอดที่คุณหมอตั้งไว้แล้ว ระหว่างนี้ก็ถูกพักการทำงานไปก่อน ช่วงว่างๆ ฉันจึงมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง โดยที่มีพี่ฟีนิกซ์มาส่งก่อนไปทำงานและมารับหลังเลิกงานทุกวันเพราะเป็นห่วงกลัวว่าฉันจะเหงาอยู่คนเดียว แถมที่นี่คนยังเยอะกว่าบ้านของพี่ฟีนิกซ์อีก มีหม่ามี้อยู่ด้วยฉันจึงเห็นด้วยที่จะไปๆ มาๆ บ้านของตัวเอง และทุกคนก็ลงความคิดเห็นเหมือนกันหมด"นิดหน่อยค่ะหม่ามี้" ช่วงนี้เท้าฉันเริ่มบวมขึ้น ทำให้เดินแล้วเกิดอาการตึงจึงมักจะเจ็บแปล๊บอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ไม่ได้มาก อยู่ในช่วงที่อดทนได้"อดทนหน่อยนะ อีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้ว""ตั้งแต่มีเจ้าตัวน้อยหนูรักหม่ามี้ขึ้นเยอะกว่าเดิมเลย" ความรู้สึกของคนเป็นแม่เป็นแบบนี้นี่เอง ต้องใช้ความพยายามสูงมากที่จะดูแลคนๆ หนึ่งให้เติบโตจนเขาสามารถดูแลตัวเองได้ ฉันเพิ่งอยู่ระหว่างทางเอง กว่าจะโตจนแต่งงานออกเรือนได้คงต้องเหนื่อยอีกเยอะเลย"เหนื่อยแต่ก็มีความสุข เดี๋ยวหนูก็จะได้สัมผัสกับคำนั้น""ขนาดเขายัง
"ในที่สุดเราก็เจอกันอีกจนได้น้า~" ฉันยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยออกมาเบาๆ ทันทีที่เรียวขายาวได้แตะกับน้ำทะเลสีใสบนเกาะส่วนตัวของพี่ฟีนิกซ์ที่เคยมาในครั้งก่อน มันยังคงสวยเหมือนเดิมแม้กาลเวลาจะผ่านไป ถึงอะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงไปแต่ธรรมชาติที่นี่ก็ยังคงสง่างาม ร่มรื่นอยู่เหมือนเดิม"รีบไปกันเถอะ" ขณะที่คุณชายฟินซ์ทำการผูกเรือเสร็จสรรพเราก็จับมือกันเพื่อเดินไปยังบ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำเองทุกอย่าง เป็นเพราะครั้งนี้การมาเที่ยวทะเลมีเพียงแค่เราสองคนตามสัญญาแต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือเจ้าก้อนเลือดในท้องอีกหนึ่งชีวิตที่คนนี้ฉันไม่สามารถห้ามตามมาขัดจังหวะสวีทหวานของเราได้จริงๆ มันอยู่นอกแผนไปหน่อย แต่ฉันก็ยินดีกับการมาของเขามากๆ เลยฉันและเขาเดินจับมือกันเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ มันสะอาดตาอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่มีใครอยู่ระหว่างนั้นก็ตาม"ทำไมมันถึงไม่มีฝุ่นเลยล่ะคะ?" แต่ก็น่าแปลกใจนะ มันต้องเก่าลงบ้างแหละ แต่ตอนนี้มันช่างดูสะอาดไปหมด สะอาดจนน่าแปลกใจ"ที่นี่ไม่ได้มีแค่บ้านนี้ แต่ยังมีอีกบ้านที่ฉันจ้างมาเป็นแม่บ้านของที่นี่""อ๋อ แล้วทำไมหนูไม่เคยเห็นเลยล่ะคะ?""เพราะเธออยากได้ความเป็นส่วนตัว ให
"อุแหวะ ~" ฉันโก่งคออ้วกอยู่ในห้องน้ำของบริษัทโดยที่มีเลขาสาวอย่างพี่ตาลคอยลูบหลังให้ วันนี้ฉันใช้เวลาในห้องน้ำมากกว่าการนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะเสียอีก เหตุผลคงไม่ต้องถาม ฉันและพี่ฟีนิกซ์แต่งงานกันมาแล้วสามเดือน และเราตกลงกันว่าอยากมีฟีนิกซ์น้อยมาวิ่งเล่นในบ้านหลังใหญ่เร็วๆ ซึ่งวันนี้ก็มาถึง วันที่ฉันกำลังแพ้ท้องลูกของฉันและเขาโดยที่เขายังไม่รู้ตัว"คุณลินไหวไหมคะ?" พี่ตาลช่วยพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวแรงเดินออกจากห้องน้ำ เรียวปากบางซีดเผือกค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาพร้อมกับหยิบยาขึ้นมาดมแก้วิงเวียนและอาการคลื่นไส้"มึนๆ นิดหน่อยค่ะพี่ตาล""คุณลินควรจะพักผ่อนที่บ้านนะคะ""พี่ตาลรู้ด้วยเหรอคะ?" ฉันเก็บความลับนี้เงียบมาคนเดียวหลังจากที่รู้ว่าตัวเองท้องมาได้สองวัน โดยที่ยังไม่ได้บอกใครทั้งนั้นเพราะอยากให้ทุกคนเซอร์ไพรส์พร้อมกันโดยเฉพาะพ่อของลูก"ฉันก็เคยมีอาการคล้ายคุณลินเลยค่ะ คนเคยผ่านมาแล้วดูไม่ยากเลยค่ะ""ยิ่งเป็นแบบนี้ ลินยิ่งไม่อยากอยู่บ้านเลยค่ะ กลัวพี่ฟินซ์จะจับได้" ฉันตั้งใจหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อจะบอกเขา จึงไม่อยากนอนพักที่บ้านเพื่อให้ดูน่าสงสัย อีกอย่างอาการแพ้ท้องสองวันที่ผ่านมาก็ยังไม่หนักเท่า