ณ บ้านพักตากอากาศบนดอยบ้านพักหลังเดิมที่เป็นสถานที่แรกในการฮันนีมูนของทั้งสองคนและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทุกปีที่เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานพวกเขาก็ต้องมาที่นี่ เป็นที่ที่เธอมากี่ครั้งก็ชอบทุกครั้งและไม่เคยรู้สึกเบื่อ ทั้งอากาศร่มรื่นสายลมโกรกเย็นสบาย ไร่ชาและสวนดอกไม้ที่รักไม่มีที่ไหนที่ถูกใจเธอได้มากกว่าที่นี่แล้ว"เดี๋ยวหนูไปเตรียมของว่างให้นะคะ""ครับ" น้ำฝนบอกกับสามีที่กำลังอุ้มเด็กน้อยวัยสามขวบที่หลับคาอกคนเป็นพ่อไปแล้ว โดยเธอแยกเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมของว่างให้สามีที่ขับรถมาไกล ในขณะที่เขาพาลูกสาวคนเล็กเข้าห้องนอน เหลือคนเป็นพี่ชายที่แยกออกไปรับลมที่ระเบียงในยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน"เวคินมาทานผลไม้ลูก" เสียงหวานเดินมาพร้อมกับจานผลไม้ที่เตรียมให้สามีและลูกชาย ยังไม่ทันที่เวคินจะขานตอบคนเป็นพ่อที่ไปส่งลูกสาวก็เดินออกมารับลมที่ระเบียงด้วย"แม่ครับ ทำไมเราถึงต้องมาที่นี่ทุกปีเหรอครับ" เวคินถามขึ้น เป็นคำถามที่ทำให้น้ำฝนปรายตาไปมองพ่อของเขา ก่อนที่จะยิ้มตอบคำถามที่ลูกสงสัย"เพราะที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้แม่ตกหลุมรักป๊าของลูก""ดังนั้นป๊าก็เลยซื้อที่นี่ไว้เพราะแม่ชอบมาบ่อย ๆ
"เวคินลูกเสร็จหรือยัง?" เสียงหวานคนเป็นแม่เปิดประตูเข้าห้องลูกชายพร้อมเอ่ยถาม ก่อนที่จะเจอเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดลำลองสุดเท่ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบที่เตรียมไว้พร้อม"เสร็จแล้วครับแม่""ลูกชายแม่หล่อมาก""ผมหล่อได้ป๊า" เด็กน้อยเข้าใจพูด ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าทั้งหน้าและนิสัยได้พ่อมาเต็ม ๆ ในขณะที่ลูกสาวนั้นได้แม่มาทั้งหมด รวมไปถึง…"แม่ขาา!!!" นิสัยสุดแสบที่ถอดแบบมาเต็ม ๆ"เวนิสแม่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าจะเข้าห้องเฮียต้องเคาะประตู" น้ำฝนดุลูกสาวเบา ๆ เพราะเล่นพรวดพราดเข้าห้องพี่ชายที่หวงความเป็นส่วนตัวจนเจ้าของห้องต้องคิ้วขมวด"ขอโทษค่ะ" ร่างเล็กยกมือไหว้ขอโทษตาปริบ ๆ"ขอโทษเฮียค่ะ ไม่ใช่ขอโทษแม่""ขอโทษค่ะเฮียคิน เวนิสไม่ได้ตั้งใจ" น้ำฝนได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของลูกสาว เพราะเธอกำลังทำหน้าเศร้าสร้อยตาละห้อยเพื่อไม่ให้พี่ชายโกรธ จนสุดท้าย…"อืม ไม่เป็นไร" มันก็ได้ผลทุกที เวคินกับวอร์มไม่ต่างอะไรกันเลยแพ้ลูกอ้อนสาว ๆ ในบ้านกันทั้งนั้น"งั้นเรารีบไปโรงพยาบาลกันดีกว่าไหมคะ ป่านนี้ปาป๊าคงรอทานข้าวแย่แล้ว""ไปกัน!" เวนิสตื่นเต้นใหญ่ เพราะวันนี้ทั้งครอบครัวไม่ได้จะไปแค่โรงพยาบาลเพื่อไปหาคนเป็นพ่อ
"แม่ ๆ ~" เวนิสชี้ไปที่หน้าจอทีวีที่ปรากฏตัวแม่ของเธอกำลังแสดงละครเรื่องสุดท้ายหลังจากที่ประกาศอำลาจากวงการบันเทิง วันนี้ทั้งครอบครัวตั้งหน้าตั้งตารอดูกันพร้อมหน้า แถมยังเป็นตอนจบของละครอีก เป็นกิจกรรมในครอบครัวที่ดีเลยทีเดียว"โตขึ้นหนูอยากเป็นแบบแม่ไหมคะ?" น้ำฝนเอ่ยถามเด็กน้อยที่นั่งบนตักคนเป็นพ่อ จนเธอพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมตาที่เป็นประกาย"งั้นหนูก็ต้องมั่นใจในตัวเองนะคะ หนูทำได้" เธอแค่ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจออย่างที่เธอเคยเจอ ถ้าวันนั้นไม่มีวอร์มที่เดินเข้ามาปลอบเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป คงจะโทษตัวเองไปอีกนาน…"แม่ครับ ผมง่วงแล้ว" เวคินที่นั่งคั่นกลางระหว่างน้ำฝนกับวอร์มก็พูดขึ้นต่ออีกคน พร้อมสายตาที่งัวเงียใกล้จะหลับเต็มที"งั้นลูกขึ้นไปนอนนะคะ เดี๋ยวแม่ไปเป็นเพื่อน""ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้""ฝันดีนะคะลูกรัก""ฝันดีครับแม่ ฝันดีครับป๊า" ว่าจบเวคินก็เดินขึ้นบันไดกลับห้องตัวเอง เช่นเดียวกับเวนิสที่เริ่มเคลิบเคลิ้มบนหน้าอกแกร่งของคนเป็นพ่อ"ใกล้หลับแล้ว" น้ำฝนกระซิบเสียงเบาบอกกับสามี มือหนาจึงลูบแผ่นหลังเล็กเพื่อกล่อมนอน ในขณะที่มืออีกข้างก็ดึงภรรยามาโอบพร้อมกับดูล
"ปาป๊าขา ~" เจ้าของเสียงใสวัยสามขวบรีบวิ่งไปเกาะขาคนเป็นพ่อหลังจากที่คุณหมอใหญ่ของโรงพยาบาลออกเวรก็บึ่งตรงกลับบ้านในทันทีทันใด"เวนิสสวัสดีหรือยังคะ" ภรรยาสาวที่เดินตามมาเอ่ยขึ้น เด็กน้อยจึงปล่อยแขนจากคนเป็นพ่อแล้วพนมมือไหว้สวย ๆ อย่างที่คนเป็นแม่เคยสอน"สวัสดีค่ะปาป๊า""สวัสดีค่ะคนสวย" หมอวอร์มยกยิ้มกว้างกับความน่ารักของลูกสาวช้อนตัวมาอุ้มพร้อมกับหอมแก้มนุ่มยกใหญ่ ไม่วายที่จะเอื้อมไปกอดแล้วหอมแก้มภรรยาสาวด้วยยืนไม่นานเสียงอีกคนที่มาใหม่ก็ดังขึ้น"ไม่มีวันไหนที่ผมกลับมาแล้วป๊ากับแม่ไม่สวีทกัน" เวคินเอ่ยเสียงเรียบ เขามักเห็นภาพนี้จนชินแต่ก็ไม่เบื่อที่จะบ่นอุบอิบตามประสา"งั้นลูกก็มาให้แม่กอดด้วยสิคะ" น้ำฝนเอ่ย"ไม่ล่ะครับ ผมโตแล้ว""ลูกโตแค่ไหนก็กอดแม่ได้""ผมให้แค่กอดนะครับ" เวคินขยับเข้ามาให้น้ำฝนกอดอย่างถนัด น้ำฝนถึงกับหลุดยิ้มกับความเขินอายต่อการแสดงความรักของลูกมาก"โตเกินวัยไปนะเรา" มือบางขยี้หัวเล็กเบา ๆ จนคนในอ้อมกอดเริ่มจะหน้าแดงจึงค่อย ๆ ผละคนเป็นแม่แล้วรีบหยิบกระเป๋าที่แบกกลับจากโรงเรียนวิ่งขึ้นชั้นบนห้อง"ผมจะไปอาบน้ำแล้วจะลงมาดูละครเป็นเพื่อนแม่นะครับ" ว่าจบเวคินก็วิ่งเข้า
"ขอบคุณสำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่มอบให้ฉันถึงสี่ปีซ้อน เป็นเวลาสิบปีแล้วที่ฉันโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงที่เป็นงานที่ฉันรัก ทั้งงานแสดงงานอีเวนต์รวมไปถึงงานโฆษณา ขอบคุณทุกคนทั้งแฟนคลับและเพื่อนร่วมงานที่ผลักดันให้ฉันน้ำฝนมายืนอยู่ตรงนี้ได้ และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือครอบครัวของฉัน"ดาราสาวที่ยืนถือถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศของการเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังกล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่เธอได้รับสิทธิ์นั้นมาถึงสี่ปีซ้อน ดวงตากลมโตกวาดมองเพื่อนนักแสดงหลายคนรวมไปถึงแฟนคลับของเธอที่ต่างแห่กันมาเป็นแรงใจเพื่อส่งถึงเธอ รวมไปถึงคนสุดท้ายที่เธอไม่มองไม่ได้นั้นก็คือ...วอร์มสามีของเธอหมอหนุ่มยกยิ้มเบา ๆ อย่างเป็นกำลังใจภรรยา ในยามที่เธอทำตามฝันก็มักจะมีแสงสว่างออกมาจากตัวของเธอให้เปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มกว้างมีความสุขของคนบนเวทีนั้นพลอยทำให้เขามีความสุขไปด้วย"วันนี้ฉันยินดีที่จะประกาศอย่างยิ่งว่าฉันน้ำฝนอยากจะวางมือจากวงการอย่างถาวร" สิ้นเสียงหวานเอ่ยเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง สิ่งที่น้ำฝนกำลังพูดต่างทำให้ทุกคนตกใจอย่างไม่คาดคิดรวมไปถึงสามีของเธอที่ชะงักเบา ๆ เพราะเรื่องนี้เธอ
ครืดดดดด!ลิลิน : ส่งตำแหน่งที่ตั้งลิลิน : ทุกอย่างพร้อมแล้วเจ๊มาตามโลเคชั่นที่ฉันส่งไปได้เลยน้ำฝนก้มมองข้อความที่ส่งมาจากลิลินน้องรักของเธอ ก่อนที่จะปรายไปมองกระจกเพื่อดูความเรียบร้อยชุดของตัวเองเพื่อจะออกจากบ้าน วันนี้เธอตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เรื่องท้องให้สามีรับรู้ แต่เอาเข้าจริงเธอเองก็ไม่รู้แผนการณ์อะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นลิลินเป็นคนวางแผนเสียหมด รวมถึงเลือกเสื้อผ้าให้ใส่แล้วนัดกันไปเจอทีเดียวถึงจะระแวงว่าลิลินจะทำอะไรแผลง ๆ อยู่บ้างแต่ถึงตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว จึงเดินไปที่ลานจอดรถคนของเฮียวอร์มก็เตรียมรถรอเธออยู่ก่อนแล้ว"ไปตามโลเคชั่นนี้นะคะ" น้ำฝนยื่นตำแหน่งที่ลิลินส่งมาให้คนขับรถ"ผมรู้จักที่นี่ครับ" ได้ยินดังนั้นเธอก็เข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้เมื่อนึกภาพตอนที่สามีรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อคน เขาคงมีความสุขน่าดูมือบางลูบหน้าท้องแบนราบที่มีเจ้าก้อนตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอและเขา เด็กคนนี้กำลังเข้ามาเติมเต็มให้ความรักของเธอสมบูรณ์ขึ้นเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกอย่างที่เขาตั้งใจณ ร้านอาหารริมแม่น้ำรถหรูเคลื่อนมาจอดหน้าร้านอาหารริมแม่น้ำก