Se connecterไนต์ปรายตามองตามเสียงเรียกที่กำลังเดินมาหาไซซีด้วยความสงบ นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เขาจำได้ว่ามันเคยเดินกับเธอในวันแรกที่เธอกล้าเมินหน้าหนี
“คราม ขอโทษที จะกลับตอนนี้แหละ”
“งั้นไปเลยไหม เหมือนเราสองคนจะออกมานานแล้ว”
“พี่ไนต์มาทำอะไร? ดูดบุหรี่เหรอพี่”
ระหว่างนั้นครามเลยเอ่ยทักทายรุ่นพี่ที่เขาพอจะรู้จัก แต่ไนต์ไม่ตอบก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้บุหรี่บนพื้นและเดินออกจากบริเวณนั้นไปทำให้ไซซียิ้มแห้ง
“ขอโทษนะ พี่เขาคงรีบ นายไม่ได้โกรธพี่ไนต์ใช่ไหม” แม้จะแอบหมั่นไส้เขาแต่เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนมองเขาไม่ดี
“ไม่ ฉันจะโกรธสุดที่รักของเธอได้ยังไง”
“เออพูดถูกใจมาก ปะกลับกันเถอะ”
“อืม”
หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาที่ช็อปเพื่อทำงานเพราะได้คิวใช้อุปกรณ์พอดิบพอดี เมื่อมาถึงก็โดนซินเซียบ่นที่หายไปไม่บอก ก่อนจะลากแขนไซซีให้ไปทำงานด้วยกัน ส่วนครามก็แยกตัวไปหาเพื่อนสาขาตัวเอง
“เหม่ออะไรยัยซี ทำไมไม่ใส่แว่นป้องกันเดี๋ยวสะเก็ดไฟก็กระเด็นเข้าตาหรอก แม้จะมีผ้ากันสะเก็ดแล้วก็ตาม” ซินเซียเท้าเอวเอ่ยเสียงดุทำให้ไซซียิ้มแห้งและรีบทำตามทันที
“เปล่า ๆ ใส่ตอนนี้แหละ” เธอกุลีกุจอหยิบแว่นมาใส่ทันที เดี๋ยวโดนดุอีก
“แล้วหายไปนานมากเวอร์ ฉันนั่งรอตั้งนาน”
“ขอโทษ ไปเจอพี่ไนต์พอดี”
“ตลอดแหละแกน่ะ”
“อย่าบ่นเยอะได้ไหมเล่า”
“วอแวมากกับพี่ไนต์เนี่ย จับเขามอมเหล้าแล้วลากเข้าห้องไปเลยไหมจะได้จบ ๆ เผื่อได้สมใจแล้วจะหายอยาก”
“พูดจาอะไรน่าเกลียด ถึงว่าเฮียโซ่ชอบบ่นว่าแกพูดไม่น่ารักตั้งแต่มีแฟน”
“หรือแกไม่คิด”
เพื่อนยกยิ้มร้าย เห็นไหมซินเซียไม่เคยใส แผนการนางชั้นสูงมาก
“ก็เอ่อ มีคิดแหละ” ไซซีตอบอ้อมแอ้ม
“เอาดี ๆ”
“เออ อยากได้ ชอบเขา จะเอา จบไหม!”
“ก็แค่เนี้ย เอาหูมานี่เดี๋ยวบอก”
ไซซีเอียงหูเข้าไปหาเพื่อนสาวก่อนแผนการบางอย่างจะไหลเข้าสู่โสตประสาท พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของเธอ
เหลือเวลาไม่มากแล้วจะทำอะไรก็รีบทำ!
เพราะคำพูดของซินเซียทำให้ฉันนั่งถอนหายใจแล้วร้อยรอบ วันนี้เป็นวันเสาร์ไม่มีเรียน เพื่อนออกไปหาแฟนรวมถึงบรรดาเฮียด้วย ทุกคนมีแฟนกันหมด
“เสี่ยวไป๋ ซินเซียก็เอาไปด้วย ชีวิตสาวโสดแบบฉันมันเหงาจังเลย หรือจะไปไหว้แม่ลักษมีดีเผื่อจะประทานพี่ไนต์ใส่พานมาให้”
ฉันโพสต์รูปลงในโซเชียลก่อนจะเลื่อนไปดูของคนอื่น จนกระทั่งเจอบทความหนึ่งที่น่าสนใจในเฟซบุ๊กเลยกดเข้าไปดู
“จิตวิทยาจีบผู้ชาย ไหนดูซิ”
เพียงกดเข้ามาในเว็บไซต์รอยยิ้มของฉันพลันเหือดแห้งขึ้นมาทันที เพราะแต่ละข้อที่กล่าวมามันสวนทางกับสิ่งที่ทำลงไปมาก อย่างข้อแรกอย่าออกตัวแรงให้ค่อย ๆ พูดคุยอย่าพึ่งแตะตัว…ฉันยิ่งกว่าแรงอีกนะ เอะอะแตะมือแตะศอก!!
“ไม่เห็นจะได้เรื่อง...เลิกอ่าน ๆ” ฉันบ่นพึมพำอย่างอารมณ์ไม่ดี ก่อนจะวางมือถือแล้วพลิกตัวนอนหงายบนเตียงอย่างเอาแต่ใจ
ใคร ๆ ก็ไม่โสด ซินเซียมีแฟน พวกเฮียมีแฟนหมดเว้นเฮียติณณ์กับเฮียซันก่อน สองคนนั้นถึงไม่มีก็โดนป้า ๆ หาเมียให้อยู่แล้ว เหลือแต่คนสวยแบบฉันที่ต้องเหี่ยวเฉา
จ๊อกกก ~
“ข้าวก็หิวจะกินคนเดียวก็เหงา ลองชวนเจ๊เมษาดีกว่า” ไม่รู้จะว่างไหมเพราะวันหยุดแบบนี้คนขยันแบบเจ๊ก็คงจะช่วยงานที่บ้าน ต่างจากฉันที่นอนสบายไปวัน ๆ
[ว่าไง?]
“เจ๊กินข้าวกัน ไปไหม? หรือทำงานที่บ้าน” เมื่อเจ๊เมษารับสายฉันก็เอ่ยชวนเสียงหวานด้วยความเคยชินเวลาจะอ้อนเอาอะไร
[พอดีเจ๊อยู่ร้านน่ะ วันนี้เข้ามาเช็กสินค้า]
“ซีไปรอได้นะ...” แต่ปลายสายกลับเงียบไปก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน
[เอ่อ...โอเคได้/แล้วฉันล่ะเมษา เธอเอาฉันไปไว้ที่ไหน อุตส่าห์มานั่งรอแต่เช้า] ยังไม่ทันได้ดีใจเสียงที่แทรกเข้ามาในสายก็ทำฉันชะงัก ลืมไปได้ยังไงว่าพี่เพทายกำลังง้อพี่เมษาอยู่
โอ๊ย แม้จะเหงาแต่ก็ไม่อยากไปเป็น กขค คนอื่นนะ
“เจ๊ วันหลังก็ได้ค่ะ”
[แหะ ขอโทษนะซี รอบหน้าเจ๊เลี้ยง]
“ได้ค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้หนุ่มตามเฝ้าไม่ห่างเลยนะคะ”
[ตามเหมือนหมาน่ะสิ/เฮ้ย เธอแอบนินทาฉันเหรอ”
“ฮ่า ๆ งั้นแค่นี้นะคะ ไม่ขัดเวลาคนสวีตกันแล้ว”
“สวีตอะไรไม่ใช่”
ติ๊ด!
ฉันยื่นมือถือออกห่างก่อนจะมองหน้าจอที่สายถูกตัดไป ทั้งที่เจ๊เมษายังพูดไม่จบก็คงจะมีคนเดียวแหละที่ทำแบบนี้
“เซ็ง ไปกินข้าวคนเดียวก็ได้”
ช่วงนี้จิตใจว้าวุ่นมากอาจเพราะอาการเหงากำเริบ ไหนแม่บอกคนสวยจะไม่เหงา ทำไมตัวฉันยังโดดเดี่ยวแบบนี้ พูดแล้วก็ถอนหายใจ อาบน้ำแต่งตัวดีกว่า
เจ้าสมุทร Talk ผมเกิดและเติบโตในตระกูลมาเฟีย ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องแข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ มีอำนาจ และห้ามอ่อนแอตอนเด็กคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านที่ร้อนราวกับไฟ มีเพียงผู้หญิงใจดีคนหนึ่งคอยมาดูแลและเล่นกับผม พ่อให้เรียกเธอว่า ‘แม่เล็ก’ ซึ่งผมในวัยเด็กก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม่เล็กเป็นผู้หญิงจิตใจดี ท่านดูแลผมจนกระทั่งอายุเจ็ดขวบ แม่อีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาและยื้อแย่งผมไปดูแลแม่คนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากแม่อีกคนโดยสิ้นเชิง เพราะท่านทั้งบังคับ เข้มงวด ดุด่าและกดดัน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยไปขอร้องพ่อว่าต้องการอยู่กับแม่เล็ก แต่คำตอบของท่านทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน“แม่เล็กกับน้องชายจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เล็กต้องไปจากผม แล้วน้องชายคือใครทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากเพราะหลังจากกลับมาถึงห้อง แม่ก็ยืนกอดอกรออยู่ด้วยสีหน้าดุดัน ไม่รู้อะไรทำให้ผมเอ่ยปากถามแม่ออกไป“แม่เคยรักหมุดบ้างไหม”ไม่รอให้แม่ตอบอะไรผมก็รู้คำตอบของท่านจากแววตาร้ายกาจนั้นแล้ว แม่มักใช้มองผมอยู่ตลอดเวลา มองเหมือนกับว่า ‘ไม่ใช่ลูก’ ทำเหมือนกับผมเ
เสียงถอนหายใจของซินเซียทำให้ฉันหันไปมองเพื่อน และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหม่อลอย“พวกนั้นก็พึ่งแต่งงานไปนี่เอง มีแต่เราที่แต่งงานจนมีลูกก่อนพวกเพื่อน”ฉันนึกไปถึงกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างเรย์ และฝาแฝดอิลแอล หลังเรียนจบแต่ละคนก็ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านวิศวกรแล้วค่อยกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนครองตัวเป็นโสดกันนานมากแต่สาว ๆ ไม่เคยจะขาดมือ จนเมื่อต้นปีนี้เรย์และอิลก็ทยอยแต่งงาน ส่วนแอลได้ยินว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง“นี่ถ้าไอ้สายไม่เลว บางทีความสัมพันธ์ของเพื่อนอาจจะอยู่ยาวนานกว่านี้ก็ได้นะ”เพื่อนอีกคนที่ได้รู้จักเมื่อตอนเข้ามหา’ลัยก็คือสายฟ้า แน่นอนว่าที่กล้าเอ่ยชื่อออกมาเพราะซินเซียไม่ได้อะไรกับหมอนั่นแล้ว ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดถึง ซินเซียก็ไม่รู้สึกอะไร“อืม” สาวสวยผมบลอนด์ครางรับในลำคอก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แม้จะเจอกันบ่อยกว่าคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาได้คุยกันแบบนี้เพราะลูก ๆ ก็ซนกันมาก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายแก่ จีซัสและเซริมก็วิ่งเข้ามาในห้อง“หม่ามี้ จีมาแล้ว”จีซัสวิ่งเข้ามาในห้องตามด้วยเซริมที่ถือหมวกกันน็อกขนาดเล็กไว้ในอ
ร่างสูงกางแขนออกเล็กน้อยเป็นเชิงให้ภรรยาสาวสวยเข้ามาช่วยแต่งตัว เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนอกแกร่ง และเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนน่าหวาดเสียว“พี่จะให้ซีช่วยจริง ๆ เหรอคะ”“...” ไนต์กัดฟันแน่นเมื่อร่างบางเริ่มออกลายซุกซน“ถ้าช่วยจะนานนะ”“ไม่ช่วยมีตายก่อนพอดี เอาหน่อยถือว่ากินข้าวเช้า”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบาง ก่อนจะตวัดแขนโอบรัดร่างเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน และเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่ลืมล็อกประตู“ล็อกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนขัดจังหวะ”เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาก็จัดการอุ้มเธอลงอ่างพร้อมปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดออก จนเผยเรือนร่างบอบบางขาวผ่องอยู่ตรงหน้า“จ้องนานไปแล้ว จะทำไหมคะ?”ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะขยับสะโพกนั่งคร่อมบนตักแกร่งภายในอ่าง แขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอแกร่งไว้ก่อนจะกดให้เขาโน้มหน้าลงมา“ไม่ทำตอนนี้ พี่ได้ขาดใจตายแน่”จบคำนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากัน ต่างฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ เล้าโลมคลอเคลียกันไม่ห่าง จนพายุสวาทโหมกระหน่ำ แก่นกายแข็งร้อนตอกตรึงใส่ร่องสวาทไม่ยั้ง สร้างความรัญจวนใจให้เธอเป็นอย่างมาก แรงกระแทกทำให้น้ำในอ่างสาดกระเซ็นออกมาตามพื้นเ
5 ปีผ่านไป ฉันนั่งมองภาพงานแต่งงานของตัวเองและพี่ไนต์ที่ผ่านมาแล้วห้าปี ตอนนี้เรามีเรือนหออยู่ระหว่างคอนโดเก่าของเขาและคฤหาสน์ชวัลกร แน่นอนว่าที่คฤหาสน์คุณปู่ก็สร้างบ้านให้อีกหลังเพราะคิดถึงหลาน เวลากลับมาจะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากงานแต่งงานเราทั้งคู่ก็ไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเกือบเดือนเลยล่ะ ทุกที่ที่อยากไปเขาไม่เคยอิดออดและยินยอมพาไป นอกจากกิจกรรมที่โลดโผนเพราะฉันยังท้องอยู่หมับ“ทำอะไรอยู่เหรอ”แรงกอดรัดจากข้างหลังมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู ทำให้ฉันเผลอย่นคอหนีคนร้ายกาจ เขาชอบมาคลอเคลียฉันเหมือนกับแมวจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก่อนนี่ตั้งท่ารังเกียจกันเหลือเกิน“ซีกำลังดูรูปภาพในงานแต่งของเราค่ะ นี่! ดูสิมีแก๊งของพี่ครบทุกคนเลย หล่อ ๆ ทั้งนั้น”ฉันชี้ไปที่รูปถ่ายครบทั้งแก๊ง ทุกคนหล่อเหมือนออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบเลยละ ตำแหน่งหนุ่มฮอตคงไม่มีใครมาโค่นลงได้ง่าย ๆ“ไหน ไม่เห็นจะหล่อเลย” เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หล่อสิ โดยเฉพาะคนนี้ หล่อที่สุดในใจของซี”พูดแล้วก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคม เมื่อเอ่ยชมเขาแล้วเลยอยากดูปฏิกิริยา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันเผลอหัวเราะคิกคัก พี่ไนต์ห
กาแฟสวดภาวนาเสียงเบา เธออยากแต่งงานจะแย่แต่ไม่มีทีท่าว่านักรบจะขอเธอแต่งงานเลย จนเธอเรียนจะจบอยู่แล้ว!“ได้แน่นอนค่ะ แล้วพี่ควีนจะลุ้นด้วยไหม”“แต่งไปแล้วไง” ควีนฉีกยิ้มให้ซินเซียจนอีกฝ่ายตาพร่าเมื่อเจอรอยยิ้มหวานหยด“แต่งอีกก็ได้นี่ คิกคิก”“รองานพวกเธอดีกว่า”ควีนพยักพเยิดไปทางกาแฟ พินอิน และซินเซียแทน แต่สาวสวยผมบลอนด์ยกมือปฏิเสธพัลวันเพราะอาจยังไม่พร้อมเท่าไร ก่อนจะฉุกคิดถึงใครบางคน“คิดถึงเจ้เมษามาก” ซินเซียเอ่ยขึ้นมา“นั่นสิ ถ้าไม่ติดสอบเจ้แกมาแล้ว”อิงปิงเอ่ยตอบซินเซียก่อนจะหลบมุมไปยืนข้างมิกิ เพราะเธอไม่มีแฟนเลยไม่รู้จะรอรับช่อดอกไม้ไปทำไม แต่อยู่ ๆ อิงปิงพลันขนลุกซู่เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่“จะโยนแล้วนะคะ”เสียงหวานใสของไซซีเอ่ยขึ้นมาทำให้อิงปิงสะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงนับถอยหลังโยนช่อดอกไม้ เพราะสะบัดหัวแรงไปเลยเซไปชนกาแฟที่ยืนอยู่ด้านข้าง และอีกฝ่ายก็ไปชนมิกิอีกทอดเหมือนโดมิโนล้ม3…2…1…“0.0”ใบหน้าสวยน่ารักเบิกตากว้างเมื่อช่อดอกไม้แสนสวยตกลงมาใส่อกเธออย่างแรง ด้วยความตกใจเลยคว้าไว้ รู้ตัวอีกทีทั้งซินเซีย พี่กาแฟ เจ๊อิงปิง พี่พินอ
เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงคลาสสิกดังคลอไปทั่วทั้งงาน ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ถูกจัดตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ฉากหลังคือทะเลสาบภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ในพื้นที่ร้อยไร่ แขกในงานแบ่งแยกที่นั่งจนเต็ม แม้คนร่วมงานไม่มากเพราะอยากจัดส่วนตัวแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเสียงเพลงต้อนรับขบวนเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี นำโดยเด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารักสองคน หนึ่งถือพระคัมภีร์และหนึ่งโปรยดอกไม้ ตามมาด้วยบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งชุดเดรสสีชมพูอ่อนเรียบง่ายชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ใบหน้าเรียบนิ่งทำให้หลายคนเดาไม่ออกว่าเขาอยากแต่งจริงไหม จนกระทั่งนัยน์ตาคมกริบมองเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานเดินควงแขนบิดาเข้ามา มุมปากของเจ้าบ่าวยกขึ้นและประกายตายินดีอย่างปิดไม่มิดเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบลูกไม้ฟูฟ่อง สวยหวานจนยากจะบรรยาย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน ผมสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นด้วยผ้าลูกไม้เข้าชุดคาดที่ผมอีกทีเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสบตากับเขา ผู้ชายที่ปักใจตั้งแต่ครั้งแรก นัยน์ตากลมโตร้อนผ่าวเมื่อผู้เป็นบิดาวางมือบางลงบนมือของเจ้าบ่าว และมองเธอด้วยสายตามีความสุขจนยากจะบรรยาย“ป๊ามาส่







