“เมีย” อชิพึมพำคำนี้ออกมาแล้วก็นึกขำกับโชคชะตาของตัวเอง ที่อยากจะหนีเพลงขวัญให้ไกลแสนไกล สุดท้ายกลับต้องมาอยู่กับเธอยังสถานที่ที่ไกลแสนไกล ไกลแบบไม่รู้ว่าอยู่พิกัดไหนของประเทศไทยอีกต่างหาก สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ได้ มันช่างตรงกันข้ามเสียเหลือเกิน“เออ...นั่นเมียเอ็งไม่ใช่เหรอ ทำหน้ายังกับเจอผี” จ้อยส่ายหน้าให้คนมีเมียแต่กลับทำท่าทางเหมือนไม่อยากจะมี“ใช่จ้ะพี่ นั่นเมียฉันเอง” เอ่ยจบอชิก็ยิ้มให้คนข้างๆ เวลานี้อชิดูเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี นั่นเพราะเขาพูดง่าย ใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ได้ทำตัวให้มีปัญหาให้คนที่นี่เขม่น อยู่ในป่าก็ทำตัวกลมกลืนไปจนกว่าจะกลับก็คงไม่เสียหาย แม้จะอดนึกห่วงสวัสดิภาพของตัวเองรวมไปถึงของเพลงขวัญ แต่เท่าที่ได้สัมผัสคนที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และที่เห็นปลูกฝิ่นปลูกกัญชา อาจมีเบื้องหลังหลบซ่อนอยู่ ใครจะไปรู้“เอ้า! พี่โตเรียกแล้ว ไปสิ ยืนยิ้มเป็นคนบ้าอยู่ได้”เมื่อเห็นอชิยังไม่หือไม่อือราวกับไม่ได้ยิน จ้อยจึงเอ่ยขึ้น“ไปไหน”
“อ้อ...ที่แท้คุณก็แช่งตัวเอง มิน่าถึงได้ถูกจับกันมาจริงๆ สมใจแล้วสิ”“ใครมันจะไปรู้ล่ะครับ ว่าเรื่องมันจะกลายมาเป็นแบบนี้”“เหอๆ เราสองคนก็ดั้นบังเอิญหายกันมาทั้งคู่ประจวบกับคุณทิ้งข้อความไว้แบบนั้นอีก เรื่องใหญ่แน่นอน” เพลงขวัญถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ ป่านนี้แม่คงร้องไห้ฟูมฟายมากแค่ไหนแล้วนะ เธอได้แต่เอ่ยขอโทษในใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจอยากให้เรื่องมันเลยเถิดมาแบบนี้จริงๆ“ก็ดีแล้ว เขาจะได้ตามหาตัวเราพบเร็วๆ”“สาธุ...ขอให้มันเป็นแบบนั้นเถอะ” น้ำเสียงนิ่งๆ ของเพลงขวัญเอ่ยรับ แต่สีหน้าดูวิตกอย่างเห็นได้ชัด อชิเองก็พอจะมองออกว่าเธอกังวล“จะว่าไป กับข้าวชาวป่าหน้าตาออกธรรมดาๆ ข้าวหอมๆ เพราะใช้ไม้ไผ่มาเป็นภาชนะแบบนี้ก็อร่อยแถมยังครีเอทดี” อชิจงใจเปลี่ยนเรื่องคุยอีกครั้ง นั่นเพราะนั่งจิตตกด้วยเรื่องที่ยังหาทางออกไม่ได้ก็เสียเวลาเปล่า“ใช่มั้ย กลิ่นข้าวไหม้ กลิ่นเยื่อไผ่หอมติดจมูกเชียว” ขณะพูดเพลงขวัญก็สูดกลิ่นข
“นั่นไง ว่าแล้วเชียวว่าไม่ได้เรื่อง” กระแตมองบนใส่เพลงขวัญอีกหน“ฉันขอโทษจ้ะ” เพลงขวัญตอบเศร้าๆ เพราะเธอเองก็หวังไว้สูงว่าจะต้องยิงหมูป่าให้ได้“เอ็งทำดีที่สุดแล้ว” แสงจันทร์ให้กำลังใจ เพราะเท่าที่เธอเห็นลูกธนูที่เพลงขวัญปล่อยออกไปนั้นเฉียดหมูป่าไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง ถือว่าเพลงขวัญมีพรสวรรค์ อาศัยฝึกฝนอีกสักหน่อยก็คงยิงแม่นได้ไม่ยาก“ทำดีอะไรกันพี่แสงจันทร์ หมูป่าหนีไปทั้งตัว น่าเสียดาย” กระแตยังคงไม่ยอม เธอพยายามหาพวก แต่คนอื่นๆ กลับไม่สนใจและเลือกที่จะเดินแยกย้ายไปทำงานของตัวเองต่อ“ดีที่ยังมีความกล้า”“แต่ยิงมั่วๆ แบบนี้ใครก็ทำได้ เชอะ!” เอ่ยจบกระแตก็สะบัดหน้าให้เพลงขวัญแล้วเดินจ้ำออกไปอย่างอารมณ์ไม่ดี นั่นเพราะเธออยากกินหมูป่าใจจะขาด อยากเอามันมาย่างให้หนังกรอบๆ เนื้อนุ่มๆ แค่คิดกระแตก็น้ำลายสอ“อย่าไปสนใจกระแตมันเลย คงแค่เสียดายหมูป่าเท่านั้นแหละ”“จ้ะ” เพลงขวัญคอตกเอ่ยรับขึ้น ใช่ว่ากระแตจะเสียดายคนเดียว เธอเองก็เสียดายมาก
วันเวลาค่อยๆ ก้าวผ่านไปอย่างช้าๆ นับๆ ดูแล้ววันนี้ก็ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าที่อชิและเพลงขวัญจำต้องใช้ชีวิตอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ทุกๆ วันพวกเขาพูดคุยกันมากขึ้น นั่นพลอยทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ รู้จักกันมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นอชิจะยังคงต้องนอนนอกมุ้งบริจาคเลือดให้ยุงในทุกๆ คืนและตื่นมาพร้อมรอยจ้ำแดงในตอนเช้า จนโตสงสารแกมเวทนาผัวเมียคู่นี้ที่สามวันดีสี่วันทะเลาะ อนาคตลูกคงดกแน่นอน เขาจึงหามุ้งมาให้อีกหลัง เพราะกลัวชายหนุ่มจะเป็นไข้ป่าเอาเสียก่อนวันนี้ทุกคนในหมู่บ้านดูจะรีบเร่งทำงานกันแต่เช้าตรู่ นั่งลับมีดกันทั่วทุกมุมก็ว่าได้ พลอยทำให้อชิและเพลงขวัญสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“พี่แสงจันทร์ เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ” เพลงขวัญตรงเข้าไปถามแสงจันทร์ทันทีที่เห็นหน้า เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะเข้ามาช่วยเก็บใบยาสูบที่ตากไว้ใส่ถุง แต่ดูเหมือนทุกคนจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าเรื่องนี้“เดี๋ยวเอ็งก็รู้เอง เพราะคงต้องขอแรงด้วยนี่มีดของเอ็งกับผัว ลับไว้ให้แล้ว”“จ้ะ” เพลงขวัญรับมีดมาด้ว
วันเวลาค่อยๆ ก้าวผ่านไปอย่างช้าๆ นับๆ ดูแล้ววันนี้ก็ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าที่อชิและเพลงขวัญจำต้องใช้ชีวิตอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ทุกๆ วันพวกเขาพูดคุยกันมากขึ้น นั่นพลอยทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ รู้จักกันมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นอชิจะยังคงต้องนอนนอกมุ้งบริจาคเลือดให้ยุงในทุกๆ คืนและตื่นมาพร้อมรอยจ้ำแดงในตอนเช้า จนโตสงสารแกมเวทนาผัวเมียคู่นี้ที่สามวันดีสี่วันทะเลาะ อนาคตลูกคงดกแน่นอน เขาจึงหามุ้งมาให้อีกหลัง เพราะกลัวชายหนุ่มจะเป็นไข้ป่าเอาเสียก่อนวันนี้ทุกคนในหมู่บ้านดูจะรีบเร่งทำงานกันแต่เช้าตรู่ นั่งลับมีดกันทั่วทุกมุมก็ว่าได้ พลอยทำให้อชิและเพลงขวัญสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“พี่แสงจันทร์ เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ” เพลงขวัญตรงเข้าไปถามแสงจันทร์ทันทีที่เห็นหน้า เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะเข้ามาช่วยเก็บใบยาสูบที่ตากไว้ใส่ถุง แต่ดูเหมือนทุกคนจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่าเรื่องนี้“เดี๋ยวเอ็งก็รู้เอง เพราะคงต้องขอแรงด้วยนี่มีดของเอ็งกับผัว ลับไว้ให้แล้ว”“จ้ะ” เพลงขวัญรับมีดมาด้วยสีหน้างุนงง อชิที่
เพลงขวัญถึงกับอึ้งกิมกี่ จะพูดจะบอกอะไรไปแสงจันทร์หรือคนที่นี่จะเชื่อเธอไหม ว่านั่นคือความรู้ที่ผิดมากถึงมากที่สุด นี่มันยุคไหนสมัยไหนกันแล้ว ทำไมถึงมีคนที่ไม่รู้เรื่องยาเสพติดพวกนี้อีกแต่พอมองดูบ้านที่อยู่ตามป่าตามเขา เดินทางไม่สะดวก ไร้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ใดๆ ด้วยแล้ว เพลงขวัญก็พลอยจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมคนที่นี่ถึงไม่รู้ ถ้าไม่เจอกับตัวเธอคงเถียงชนิดหัวชนฝาแน่นอน ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาอชิ ทันทีที่เห็นเขา เพลงขวัญก็ปลีกตัวจากแสงจันทร์มาหา“คุณ...” อชิมองซ้ายมองขวา ก่อนจะรีบก้าวเข้ามายืนข้างๆ เพลงขวัญ“อะไร” คนกำลังตั้งอกตั้งใจกรีดผลฝิ่นเอ่ยถาม แต่สายตานั้นกลับไม่ได้หันไปมอง เพราะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ“ฉันว่าคนที่นี่ไม่รู้โทษของฝิ่นกับกัญชานั่น”“คุณรู้มาจากไหน” คราวนี้อชิถึงกับวางมือแล้วหันมาคุยกับเพลงขวัญจริงๆ จังๆ“ฉันแอบไปคุยกับพี่แสงจันทร์มาตะกี้ พี่แสงจันทร์ยังบอกอีกว่าคนในเมืองต้องการยางฝิ่นเพื่อเอาไปทำยา&rdq
กระทั่งหมดวัน ทั้งสองคนก็กลับมานั่งมองหน้ากันปริบๆ ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน หิวก็หิวแต่กลับกินกันไม่ค่อยลง คงเพราะอึนกับกลิ่นเหม็นเขียวของผลฝิ่นที่ดมกันมาตั้งแต่เช้า และเพิ่งจะได้หยุดมือก็ตอนใกล้ตะวันตกดินเพลงขวัญขึ้นไปอาบน้ำก่อน เสร็จก็เป็นคิวของอชิบ้าง แต่เพราะยืนสลับนั่งกรีดผลฝิ่นกลางแดดที่ร้อนระอุมาทั้งวัน จึงส่งผลให้ผิวตรงใบหน้าและตามแขนตามขาของเพลงขวัญที่ไม่มีอะไรปกป้องจากแสงแดดเผาจนผิวขาวๆ กลายเป็นผิวสีแทน ตามเนื้อตามตัวของเธอจึงแดงไปหมด และดูเหมือนเจ้าตัวจะแสบเพราะทำหน้ายู่ตลอดเวลา“รอตรงนี้ก่อนนะคุณ”“อ้าว! นั่นคุณจะไปไหน” เมื่อจู่ๆ อชิก็ลุกขึ้นแล้วบอกเหมือนจะไปไหน นั่นทำให้เพลงขวัญรีบถาม“เดี๋ยวผมมา”“เร็วๆ ด้วย ฉันหิวข้าวแล้ว” เพลงขวัญตะโกนตามหลัง นั่นเพราะตอนนี้ท้องเริ่มร้องแล้วนั่นเอง พอหายอึนจากกลิ่นเหม็นเขียวของผลฝิ่น ความหิวก็วิ่งเข้าหาอย่างเร็วอชิรีบเดินจ้ำมายังหมู่บ้านเป้าหมายคือบ้านของย่าใหญ่ ซึ่งวันนี้เขาถือว่าโชคดีที่ได้เจอเจ้าของบ้านเข้า ไม่งั้นคงได้เดินตามหากันให้ทั่
“เป็นอะไรหรือเปล่า”“ฉันฝันร้าย” น้ำเสียงสั่นๆ ของเธอเอ่ยตอบ แต่จะให้อธิบายความฝันที่เกิดขึ้นเธอก็ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก รู้แค่ว่าเธอนั้นฝัน ฝันว่าเจอแม่ในป่า แม่ตะโกนหาเธอจนแทบหมดเสียง ทั้งๆ ที่เธอก็ยืนอยู่ตรงหน้าแม้แท้ๆ แต่แม่กลับมองไม่เห็น และเธอก็คว้าแม่มากอดหรือพูดกับแม่ไม่ได้เช่นกัน“ก็แค่ฝัน ไม่มีอะไรหรอก”“อื้อ”“นอนต่อเถอะ”“คุณ” จังหวะที่อชิจะหมุนตัวเพื่อกลับไปนอนที่เดิม จู่ๆ เพลงขวัญก็คว้าแขนชายหนุ่มไว้ นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ในหัวหวนนึกถึงฉากในละครหรือแม้แต่ในซีรีส์เวลานางเอกฝันร้ายแล้วกลัวจนนอนต่อไม่ได้ เธอก็จะขอร้องให้พระเอกมานอนเป็นเพื่อน ต้องใช่แน่ เขามั่นใจว่าเพลงขวัญต้องเอ่ยแบบนั้น“อะไรกันคุณ ก็แค่ฝัน...” อชิคล้ายจะออกตัว เพราะถ้าเพลงขวัญพูดออกมาอย่างที่เขาคิดไว้ จะได้ไม่ดูน่าเกลียด แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเอ่ยจบประโยค เพลงขวัญก็ชิงเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
ย่าใหญ่เดินออกจากบ้านมาพร้อมสมุนไพรเกือบสี่สิบชนิดในมือ ความที่มากประสบการณ์แค่เห็นปากแผลก็รู้ได้ทันทีว่างูมีพิษ ทุกคนได้แต่เฝ้าภาวนาให้เจษฎาพรนั้นปลอดภัย โดยเฉพาะกระแตที่เธอร้องห่มร้องไห้จนแทบไม่มีกะจิตกะใจไปทำอะไรทว่าการรักษาผ่านพ้นไปสามวันแล้ว อาการของเจษฎาพรกลับไม่ดีขึ้นและดูเหมือนจะทรุดลงเสียมากกว่า ย่าใหญ่เองก็รักษาอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงเดินออกมาบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจรับกับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทุกคนฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เพลงขวัญถึงกับแอบร้องไห้เพราะสงสารเจษฎาพร รวมไปถึงสงสารกระแตด้วย ที่ป่านนี้คงรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดยังไงกับเจษฎาพร“พี่ชัย ไม่สิ พี่เจษฎาพร พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ” กระแตเอ่ยเรียกชื่อใหม่ของเจษฎาพรเป็นครั้งแรก ชื่อนี้ย่าใหญ่เปลี่ยนให้ตอนที่เจษฎาพรล้มป่วยเพราะไข้ป่าจนเกือบตาย แต่ก็ฟื้นกลับมาได้นี่นา ครั้งนี้ก็ต้องเหมือนกันสิ“พี่รักเอ็งนะกระแต” เจษฎาพรเปล่งเสียงออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก แต่ก็กลัวว่าหากไม่พูดออกไปตอนนี้ก็จะไ
“กะ...ก็ไม่รู้สึกอะไร นอกจากหนักๆ หัว”“นั่นเพราะผมไม่ได้ทำอะไรคุณ”“ละ...แล้วเสื้อผ้าพวกนี้ใครเป็นคนเปลี่ยนให้ฉัน”“ผม”“คุณเหรอ!” คนฟังอุทานออกมาหน้าตาตื่น“ครับ...ก็คุณอ้วกจนเลอะเทอะไปหมด ผมเลยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้”“งั้นแสดงว่าคุณก็เห็น...เห็น...”“เห็นหมดแล้วครับ อย่าห่วงไปเลย เพราะทรวดทรงองค์เอวคุณเหมือนเด็กยังไม่โตจะตายไป ยั่วอะไรผมไม่ได้หรอก” อชิไหวไหล่ทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องเล็กเข้าไว้“แล้วคุณขึ้นมานอนบนเตียงฉันได้ยังไง” น้ำเสียงตึงๆ ห้วนๆ ของเพลงขวัญเอ่ยถาม นั่นเพราะชักจะไม่พอใจประโยคที่ได้ยินจากอชิเมื่อครู่เข้าเสียแล้ว เขาว่ารูปร่างเธอมันเหมือนเด็กยังไม่โตอย่างนั้นเหรอ...หน็อยยยยยย“ก็เพราะคุณนั่นแหละที่คว้าตัวผมให้ลงไปนอนด้วย”“ฉันเหรอ” เพลงขวัญชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เ
“พออารายยย อาวววมา ฉานนยังไม่มาววววสักหน่อย” เพลงขวัญพยายามยื้อแก้วเหล้าคืนมาจากอชิ แต่ทำไมมือเขาถึงอยู่ไกลอย่างกับมือแม่นาคแบบนี้นะ“ไม่เมาสักหน่อยเลยครับ นั่นเพราะตอนนี้คุณเมาหนักมากแล้วต่างหาก” อชิส่ายหน้าให้คนเมาที่บอกว่าตัวเองไม่เมา“เมียเอ็งเมาขนาดนี้ ข้าว่ารีบพาไปนอนก่อนเถอะ”“จ้ะพี่” อชิเอ่ยรับคำของโต จากนั้นก็พยุงเพลงขวัญกลับมาที่บ้านเพื่อให้เธอนอนพัก โดยคนเมาโวยวายมาตลอดทางว่าไม่เมากระทั่งใกล้ถึงบ้านเพลงขวัญก็อ้วกเอาทุกอย่างที่กินไปออกมาจากท้องจนหมดอชิเห็นแล้วก็สงสารและคงปล่อยให้เพลงขวัญนอนทั้งๆ ที่เสื้อผ้าเลอะเทอะแบบนี้ไม่ได้ จึงไปเอาผ้ามาชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ แต่ที่หนักใจคือจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพลงขวัญยังไงนี่สิ“คุณไหม...ไหมตั้งสติหน่อย”“ตั้งสาติแล้ว” คนเมาพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้าง“ผมจะถอดเสื้อผ้าตัวที่คุณใส่อยู่ตอนนี้ออกแล้วเอาตัวใหม่มาใส่ให้แทน โอเคนะ”“ม่ายยยโอเค”“แล้วจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณบอกม
ทิศทางที่หมูป่าวิ่งหนีไปนั้นคือเหว เจษฎาพรเห็นท่าไม่ดีจึงตั้งใจจะรีบวิ่งไปดักหน้ามันไว้ โดยมีอชิตามมาสมทบ แต่ทั้งสองคนกลับวิ่งเร็วจนแซงเพลงขวัญและกระแตไปเสียแล้วแม้จะงงว่าอชิกับเจษฎาพรมาอยู่กันที่นี่ได้ยังไง แต่ก็ไม่มีเวลาให้ได้ซักถาม เจษฎาพรกระโดดข้ามกิ่งไม้ ต้นไม้อย่างไม่กลัวเจ็บ ส่วนคนไม่ชินทางอย่างอชิและสองสาวก็หาจุดอื่นข้ามแทน และคนที่ถึงตัวหมูป่าได้ก่อนก็ไม่ใช่ใครอื่นทันทีที่จับตัวหมูป่าได้ เจษฎาพรก็ล็อกตัวมันไว้แล้วใช้มีดที่พกมาปักลงไปบนคอของมันเพื่อให้สิ้นใจตายในทันที แม้จะโหดร้ายแต่หมูป่าก็ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป“จับหมูป่าได้มั้ยพี่ชัย” กระแตที่ตามมาสมทบรีบถาม เจษฎาพรที่เวลานี้นั่งหันหลังให้อยู่จึงค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับหลีกทางให้ทั้งสามเห็นว่าตรงหน้าเขามีอะไร“กรี๊ดดด เราจับหมู่ป่าได้จริงๆ ด้วยพี่ไหม” เอ่ยจบกระแตก็กระโดดโลดเต้นไปมา ส่วนเพลงขวัญนั้นดีใจจนเธอยืนค้างเพราะทำอะไรไม่ถูกแล้วนั่นเอง จากที่เหนื่อยๆ เพราะวิ่งไล่หมูป่ามาจู่ๆ ความเหนื่อยนั้นก็หายไปเสียดื้อๆ“ตัวนั้นคือตัวที่ถูกฉันยิงเหรอพี่ชัย” เพล
“หมู่บ้านเรามีข่าวดีเรื่องลูกชายพี่โตแล้ว น่าจะมีงานฉลองสักหน่อยนะ” ดามที่กำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่เอ่ยขึ้น นั่นเพราะทุกครั้งที่มีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน พวกเขามักจะมีงานเลี้ยงเสมอ“งั้นพวกเราออกไปล่าหมูป่าสักตัวสองตัวดีมั้ย” ชายอีกคนเอ่ยเห็นด้วยกับดาม จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เออออตามกัน ทำให้เช้านี้พวกเขามีเป้าหมายจะออกไปล่าหมูป่าให้ได้สักหนึ่งหรือสองตัว“ฉันขอไปด้วยนะจ้ะพี่ๆ” เสียงของเพลงขวัญที่นั่งฟังอยู่ดังขึ้นเช่นกัน เธอหูผึ่งตั้งแต่แรกที่ได้ยินว่าจะมีการออกไปล่าหมูป่าแล้ว“ไม่ได้” และคนแรกที่ค้านคืออชิ ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ เธอ ชายหนุ่มส่งสายตาเขียวปัดมาปราม“ผัวเอ็งพูดถูก งานล่าสัตว์มันของพวกผู้ชาย ผู้หญิงอยู่ที่นี่เตรียมของไว้รอแล้วกัน” ดามเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจว่าวันนี้ต้องได้หมูป่าติดมือกลับมาแน่นอน“พี่ดามพูดถูก” อชิเข้าข้างดามทันที“แต่ฉันอยากแก้มือ ไถ่โทษที่ครั้งก่อนทำหมูป่าหลุด
อชิกำลังมอบจูบแรกให้เธอ จูบที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของชายหนุ่มเพื่อปิดคำกล่าวหาเรื่องที่เธอคิดว่าเขานั้นเป็นเกย์ แต่จูบนี้ก็แฝงไว้ซึ่งความรู้สึกบางอย่างที่มันค่อยๆ เกิดขึ้นกับอชิ ก่อนหน้านี้เขาพยายามปฏิเสธมันมาตลอด แต่สุดท้ายแล้วเขากลับพ่ายแพ้ จะเป็นอะไรไหมหากว่าเขานั้นได้หลงรักภรรยาตามกฎหมายคนนี้เข้าให้เสียแล้ว และต่อให้เธอจะรักจะชอบใครมาก่อนเขาก็ไม่สน เขาจะทำให้เธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวจูบท่ามกลางแสงดาวเกิดขึ้นเนิ่นนาน นานเสียจนเพลงขวัญเกือบหมดลมหายใจ มีบางจังหวะที่อชิเผยอริมฝีปากออกเพื่อให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอด แต่เพียงไม่นานชายหนุ่มก็วกกลับมามอบจูบให้เธอใหม่อีกครั้ง ประสบการณ์จูบครั้งแรกของเพลงขวัญช่างน่าตื่นเต้น เธอเพิ่งรู้ว่าการจูบกันจะให้ความรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัวได้อย่างมากมายขนาดนี้ ริมฝีปากและปลายลิ้นของอชิเองก็ร้ายกาจ“เชื่อได้หรือยังว่าผมไม่ได้เป็นเกย์” เมื่อถอนจูบออกเสียงทุ้มก็เอ่ยถามขึ้น ใจจริงอชิไม่อยากหยุดจูบออกด้วยซ้ำ เพราะริมฝีปากนุ่มๆ หวานๆ ของเพลงขวัญมันทำให้เขาหลง“เกย์จูบเก่งก็มี” เพ
คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
“น้ำเดิน” เพลงขวัญโพล่งออกมา แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูก แต่เรื่องนี้ก็เคยเรียน เคยได้ยินมาบ้าง ถ้าน้ำเดินแล้วยังไม่คลอด คราวนี้ยิ่งอันตราย“น้ำเดินคืออะไร” โตตะโกนถามขึ้น“แสงจันทร์มันใกล้จะคลอดเต็มแก่แล้วน่ะสิโต รีบๆ เข้าไปดูเมียเอ็งก่อน” หญิงคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะพอๆ กับโตหรือมากกว่าเอ่ยบอก นั่นเพราะเธอก็เพิ่งคลอดลูกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง จึงพอจะเข้าใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง“โอ๊ย...พี่โต ฉันเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้นโตก็รีบจ้ำกลับเข้าไปในบ้านทันที ตามด้วยเพลงขวัญและอชิ ส่วนกระแตเวลานี้ยืนช็อกไปแล้ว“เจ็บมากมั้ยแสงจันทร์”“เจ็บมากพี่ ฉันเจ็บ” แสงจันทร์กัดฟันพูดออกไป เส้นเลือดบนหน้าปูดโปนจนน่ากลัว“พี่แสงจันทร์อดทนอีกหน่อยนะจ้ะ ย่าใหญ่กำลังมา” เพลงขวัญเอ่ยบอก เห็นแสงจันทร์เจ็บท้องคลอดมากขนาดนี้แล้วก็ยิ่งสงสาร“พี่ทนไม่ไหวแล้วไหม พี่จะ&helli
“หายใจลึกๆ นะพี่แสงจันทร์ แล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆ” เพลงขวัญพยายามทำให้แสงจันทร์นั้นผ่อนคลาย แม้จะไม่เคยทำคลอด ไม่รู้วิธี แต่เวลานี้ก็งัดเอาความทรงจำตอนดูฉากคลอดลูกในละครหรือซีรีส์มาใช้ก่อน“ไม่ได้ พี่เจ็บท้องเกินไป ทำไม่ได้” คนเจ็บท้องคลอดแย้งขึ้นมาทันที“ค่อยๆ ทำพี่ ค่อยๆ ทำ” และเพลงขวัญก็เริ่มทำเป็นตัวอย่างให้แสงจันทร์ได้ดู เพราะถ้าเธอไม่ผ่อนคลายหรือเจ็บจนกลัวไปหมด การคลอดลูกก็อาจจะยิ่งยากในขณะที่เพลงขวัญกำลังอยู่ดูแลแสงจันทร์อยู่นั้น กระแตก็วิ่งลัดเลาะไปตามทางเท้าอย่างเร็ว แต่ที่ระวังหน่อยคือทางเดินในป่าเขาวงกตที่มีกับดักอยู่หลายจุดและทันทีที่เดินทะลุผ่านมาได้ก็ตะโกนหาโตไปทั่วไร่ฝิ่น“พี่โต! พี่โต!”“อะไรของเอ็งกระแต ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เดี๋ยวช้างป่าตกใจกันพอดี” โตเอ็ดน้องสาวขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหา โดยมีอชิกับเจษฎาพรที่มาพร้อมกับโตเดินเข้ามารอฟังด้วย“กลับบ้านด่วนพี่” กระแตพูดไปก็หอบไป