“ไปทำอะไรคะ”“ผมมีเพื่อนทำงานที่นั่น จะไปส่งข่าวและขอให้เขาช่วยอีกแรง”“อ้อ...ค่ะ” นรากรเอ่ยรับ เธอรู้สึกตัวเองคิดไม่ผิดที่มาพร้อมก่อสกุลจากนั้นนายตำรวจหนุ่มพร้อมเพื่อนเดินทางอย่างนรากรก็ตรงไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอนทันที ทั้งคู่แวะทำธุระส่วนตัวและทานอาหารง่ายๆ ระหว่างทาง เสร็จก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อเมื่อมาถึง นรากรก็ได้พบนายตำรวจอีกคนหนึ่งที่เป็นตำรวจท้องที่ ซึ่งก่อสกุลแนะนำว่าเขาคือเพื่อนตำรวจร่วมรุ่น ที่คบหาเป็นเพื่อนกันมานาน นรากรฝากฝังตำรวจคนนั้นเรื่องคดีเพลงขวัญ ซึ่งเขาก็รับปากว่าจะตามข่าวให้มากที่สุดเมื่อคุยธุระกันเสร็จ ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้าย“เป็นอะไรคุณ”“ฉันเป็นห่วงไหม ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง”“ผมเองก็เป็นห่วงอชิมากเหมือนกัน แต่ถ้าหากสองคนนั้นถูกจับไปด้วยกันจริงๆ ผมมั่นใจว่าอชิจะดูแลเพื่อนคุณได้”“อื้อ” นรากรเอ่ยรับสั้นๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถหาที่พัก&nb
อชิและเพลงขวัญยังคงเข้าไร่ฝิ่นเพื่อกรีดผลฝิ่นในทุกๆ วัน แม้จะเป็นงานที่ไม่ต้องการแต่ทั้งคู่ก็หลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้ กระแตเองก็ยังคงตามติดชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ แต่พอเจอสายตาของพี่ชายรวมไปถึงสายตาของย่าใหญ่ที่คอยส่งมาปรามก็เบาลงไปบ้างเมื่อมีจังหวะกระแตก็เข้าหาอชิแม้บางครั้งกระแตจะพูดจาไม่เพราะกับเพลงขวัญแม้จะได้ชื่อว่าอ่อยแต่ก็อ่อยแบบเก้ๆ กังๆ ไปหมด“พี่อชิจ๋า พี่อชิ”“ฉันไปก่อนนะคุณ” ทันทีที่ได้ยินเสียงของกระแต เพลงขวัญก็รีบขอตัว แต่กลับถูกอชิคว้าข้อมือไว้ วันนี้โตสั่งให้ทุกคนพัก เพราะทำงานติดต่อกันมาหลายวัน“เดี๋ยว คุณต้องอยู่กับผมด้วย” สีหน้าของอชิดูระอากระแตเล็กน้อย แต่เลเวลการอ่อยของกระแตนั้นเหมือนจะเทียบไม่ได้กับที่เขาเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้ เพราะสายป่านทำถึงขนาดแก้ผ้าเข้าหาเขามาแล้ว คิดๆ ดูอชิเหมือนจะหนีเรื่องนี้ไม่พ้น เพราะขนาดอยู่ในป่าก็ยังไม่เว้น“อะไร ฉันไม่อยากอยู่เป็นกอขอคองอ”“พี่อชิ” เสียงของกระ
ภาพที่กระแตวิ่งร้องไห้ สักพักก็เห็นเจษฎาพรวิ่งตามมาอีกคน อยู่ในสายตาของอชิและเพลงขวัญเข้าพอดี ทั้งคู่หันมามองตากันปริบๆ ชวนให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“เกิดอะไรขึ้นจ๊ะพี่โต” เพลงขวัญเอ่ยถามขึ้น“ข้าดุมันเรื่องไปวุ่นวายกับผัวเอ็ง”“ค่อยๆ พูดกันก็ได้นะพี่โต กระแตยังเด็ก ฉันไม่ถือสา” อชิเอ่ยขึ้น นั่นเพราะหากเขาไม่เล่นด้วย กระแตก็คงถอดใจไปเอง“เอ็งไม่ถือ แต่ข้าถือ เพราะมันจะเอาเอ็งทำผัวให้ได้ นี่ข้าขู่มันไปว่าถ้าไม่ตัดใจจากเอ็ง ข้าจะให้มันแต่งงานกับไอ้เจษฎาพร”“พี่โตอย่าบังคับกระแตแบบนั้นเลยนะจ้ะ” เพลงขวัญรีบบอก นั่นเพราะการถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสักเท่าไหร่ ซึ่งอชิเองก็เห็นด้วย“ใช่จ้ะพี่ เอาเป็นว่าเรื่องกระแต เดี๋ยวผมไปคุยเอง”“เออ...ฝากเอ็งด้วยแล้วกัน” โตถอนหายใจออกมาหนักๆ ขณะที่อชิเดินตามไปหากระแตในป่ากระทั่งเห็นเจษฎาพรยืนอยู่จึงเดินเข้าไปหา เพร
วันรุ่งขึ้นทุกคนออกไปกรีดผลฝิ่นเหมือนที่ผ่านๆ มา ผลฝิ่นที่กรีดก่อนหน้ามีลูกน้องของโตค่อยๆ รวบรวมเป็นก้อน ฝิ่นดิบถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เพื่อรอวันส่งมอบเพลงขวัญมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เธอเล่าให้อชิฟังแต่กลับถูกชายหนุ่มสะกัดจนเธอหน้ายู่ โดยให้เหตุผลว่าการแอบสะกดรอยโตไปในวันส่งของนั้นอันตรายเกินไป รอโอกาสและจังหวะเหมาะๆ กว่านี้อีกสักหน่อยน่าจะดีกว่า แม้จะไม่เห็นด้วย แต่เพลงขวัญก็จำต้องยอมเพราะทุกคนมัวแต่ง่วนอยู่แต่กับงานตรงหน้า ทำให้แทบจะลืมสังเกตว่าตอนนี้กระแตได้หายไปแล้ว เจษฎาพรที่ละสายตาจากกระแตถึงกับหน้าซีด โตสั่งให้ทุกคนออกตามหาน้องสาว นั่นเพราะเวลานี้กระแตอาจคิดทำอะไรแผลงๆ เพราะถูกตนดุเรื่องอชิเมื่อคืน เจษฎาพรที่เก่งเรื่องแกะรอยเริ่มปลีกตัวไปตามหากระแตตามลำพัง เพราะถ้ารอคนอื่นจะยิ่งช้าร่องรอยบอกว่ากระแตกำลังเดินลงเขา ซึ่งที่นั่นมันอันตรายทั้งจากสัตว์ป่าและโจรป่า ที่ได้ข่าวว่าอย่างหลังปล้นฆ่าคนหาของป่าแบบไม่เลือกหน้ามานักต่อนัก“เอ็งอย่าเป็นอะไรไปนะกระแต” เจษฎาพรเฝ้าภาวนาประโยคนี้ซ้ำๆ ตลอดเวลาก็ว
“อืม...พี่จะพูดกับพี่โตให้แล้วกัน”เจษฎาพรจำใจต้องรับปาก แม้ในอกนั้นจะเจ็บปวดอย่างสาหัสก็ตามที สำหรับกระแตแล้วไม่ว่ายังไงเขาก็คงชนะใจเธอไม่ได้สินะ และในเมื่อเธอไม่ได้รักเขา เขาเองก็ไม่อยากฝืนใจบังคับให้เธอต้องมาแต่งงานด้วยเช่นกัน“ขอบใจนะพี่ชัย” กระแตเอ่ยออกมา แม้จะหวิวๆ แปลกๆ อยู่ในอกบ้าง แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงแค่หิวข้าวเท่านั้นเองหลังจากตามหาตัวกระแตไปจนทั่ว จ้อยก็ตะโกนลั่นป่าเมื่อเห็นเจษฎาพรกับกระแตมาแต่ไกล โตรีบเข้ามาดูน้องสาวก่อนจะถามไถ่ว่าหายไปไหนมา โดยไม่ดุไม่ด่าอย่างที่กระแตกลัวมาตลอดทางเลยแม้แต่น้อย จากนั้นโตก็เดินนำทั้งหมดกลับเข้าหมู่บ้านเมื่อมาถึงย่าใหญ่ก็รุดมาดูข้อเท้าของกระแตทันที ก่อนจะให้คนไปเอายาสมุนไพรมาพอกให้ ส่วนแสงจันทร์ก็หาข้าวหาน้ำมาให้ทั้งสองคน อชิและเพลงขวัญก็พลอยโล่งอกที่เห็นทั้งคู่ปลอดภัยกลับมาในคืนนั้นเจษฎาพรก็หาเวลาไปคุยกับโตตามที่กระแตขอ ส่วนโตเองก็ยอมจำนน เพราะลึกๆ แล้วก็ไม่อยากบังคับน้องสาวเหมือนกัน คิดแล้วโตก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่
“ไปๆ เข้าบ้านทั้งคู่นั่นแหละ” เอ่ยจบอรทัยก็ดันหลังลูกสาวคนเดียวให้เข้าบ้านไปก่อน ตามด้วยผายมือเชื้อเชิญให้ก่อสกุลเข้าบ้านอีกคนสองแม่ลูกขึ้นไปจัดห้องหับต้อนรับแขก ส่วนเดชนั่งคุยกับก่อสกุลอยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งก็คุยกันถูกคอจนนรากรหมั่นไส้“ก้อยกับแม่จัดห้องเสร็จแล้วจ้ะพ่อ”“ดีๆ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้วันใหม่ค่อยว่ากัน”“ครับ” เสียงทุ้มของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามนรากรไปยังห้องรับรองแขก ของใช้ส่วนตัววางอยู่บนเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าอีกชุด“ชุดของพ่อฉัน ยังไม่ได้ใส่ แม่ก็เลยเอามาให้คุณเปลี่ยนนอน”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จู่ๆ นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจแปลกๆ“ระวังผีอำนะคุณ พอดีที่บ้านฉันผีค่อนข้างดุนะ”“ไม่เป็นไร ผมบวชมาแล้วพอจะสวดมนต์ได้หลายบทอยู่”“งั้นก็ขอให้รอดปลอดภัยนะคะ” เอ่ยจบนรากรก็กลับออกไปทันที เมื่อประตูปิดลงก่อสกุลก็คว้าข้าวของและเสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ นั่นเพราะเขาเองก็อยาก
“ทำตัวให้แข็งแรงรอวันที่ลูกเราจะกลับมาดีกว่า”“เมื่อไหร่ล่ะคะที่ลูกเราจะกลับมา”“ผมก็ยังให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่มั่นใจเถอะว่าเราต้องได้ข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ ถ้าลูกกลับมาแล้วเห็นคุณซูบผอมไปแบบนี้ ไหมคงโกรธผมแย่ที่ดูแลคุณไม่ดี ฝืนดื่มเสียหน่อยนะ” เอ่ยจบอาคมก็ยื่นถ้วยซุปไก่ให้จิตราอีกครั้ง มือเล็กของจิตราแต่ทว่ายังอุ่นและนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสรับถ้วยซุปไก่ไปถือไว้ ก่อนจะตัดใจยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย นั่นทำให้อาคมยิ้มออก“ไปเดินเล่นในสวนมั้ย กุหลาบที่คุณปลูกไว้ ตอนนี้แข่งกันออกดอกสวยแล้วนะ”“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” จิตราเอ่ยรับ เพราะไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อมทุกข์อีกต่อไปแล้วเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำตัวเป็นภาระให้สามีต้องมาดูแลอีก แทนที่จะเอาเวลาไปตามหาเพลงขวัญ คิดแล้วจิตราก็รู้สึกผิดที่แทนที่จะช่วยกลับสร้างปัญหา เธอจึงคิดใหม่ ทำใหม่ ต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันที่ลูกกลับมาเพลงขวัญกับอชิยังคงอยู่ในหมู่บ้าน เพราะอยู่ในป่าในเขาจึงไม่มีใครได้ข่าวหรือพบเห็นคนทั้งคู่ แม้ทางตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจะออกสืบข่าวกันทุกทางแล้วก็ต
“รู้แล้วๆ คุณนี่ขี้บ่นจริง” เพลงขวัญย่นจมูกให้คนตรงหน้า แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีที่รู้ว่าอชิห่วงเธอ ก่อนที่จะตกใจตัวเองที่ไปรู้สึกหรือคิดอะไรแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่มีเป้าหมายเพื่อหนีจากห้องหอด้วยกันทั้งคู่ แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกในตอนแรกนั้นกลับเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่เพลงขวัญก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“นี่มันยังน้อยไป ตะกี้ถ้ากลับมาแล้วผมยังไม่เห็นคุณ ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวมารอ” อชิเอ่ยขำๆ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวอะไรทั้งนั้น แต่พูดไปเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้นเอง วันนี้ทำไมความรู้สึกเป็นห่วงเพลงขวัญถึงได้มากมายนัก ชายหนุ่มเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้“บ้า...ใครจะยอมให้คุณตีเหมือนเด็กๆ”“ถ้าไม่อยากถูกผมตี ก็ต้องทำตามที่สัญญา”“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว” เพลงขวัญเอ่ยรับปากอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกอชิตี แต่เพราะไม่อยากฟังชายหนุ่มบ่นมากกว่า และอีกอย่างคือทำไมเธอต้องแคร์ความรู้สึกเขาด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะจำเป็นนี่นา&
เพลงขวัญและอชิที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนพลอยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกตามไปด้วย แม้จะเริ่มหิวแต่ดูเหมือนความง่วงจะชนะ“ง่วงเสียแล้วสิ ถ่างตาไม่ไหวแล้ว” พอรู้ว่าเจษฎาพรปลอดภัยแล้วแบบนี้ เพลงขวัญที่นั่งสวดมนต์มาทั้งคืนก็เริ่มออกอาการว่าไม่ไหว ง่วงจนตานั้นสู้แสงไม่ได้เสียแล้วสิ“ผมก็ง่วง” อชิเองก็ง่วงเช่นกัน นั่นทำให้ทั้งคู่กลับมาที่บ้านเพื่อจะงีบเอาแรงกันเสียหน่อย ตั้งใจจะนอนที่ใครที่มัน แต่ไปๆ มาๆ ทั้งคู่กลับทิ้งตัวหลับบนเตียงของเพลงขวัญ พวกเขานอนกอดกันโดยไม่มีใครผลักไสใครให้ออกห่าง ทั้งคู่สัมผัสลมหายใจของกันและกันได้อย่างสนิทใจ ไม่ได้รังเกียจเหมือนเมื่อก่อน นั่นเพราะทั้งสองต่างมีใจให้กันและกันแล้วนั่นเองบางครั้งผลลัพธ์ของการรอคอยมันก็คุ้มค่า แม้เวลาของการรอแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางคนเร็วบ้างช้าบ้าง แต่สุดท้ายแล้วความสุขมักจะรอพวกเขาอยู่เสมออชินอนกอดเพลงขวัญด้วยรอยยิ้ม เช่นเดียวกับคนในอ้อมกอดหลับพริ้มด้วยใบหน้ามีความสุข กระแตเองแม้จะเหนื่อยแต่เธอกลับมีความสุขที่ได้เห็นว่าเจษฎาพรยังมีชี
ย่าใหญ่เดินออกจากบ้านมาพร้อมสมุนไพรเกือบสี่สิบชนิดในมือ ความที่มากประสบการณ์แค่เห็นปากแผลก็รู้ได้ทันทีว่างูมีพิษ ทุกคนได้แต่เฝ้าภาวนาให้เจษฎาพรนั้นปลอดภัย โดยเฉพาะกระแตที่เธอร้องห่มร้องไห้จนแทบไม่มีกะจิตกะใจไปทำอะไรทว่าการรักษาผ่านพ้นไปสามวันแล้ว อาการของเจษฎาพรกลับไม่ดีขึ้นและดูเหมือนจะทรุดลงเสียมากกว่า ย่าใหญ่เองก็รักษาอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงเดินออกมาบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจรับกับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทุกคนฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เพลงขวัญถึงกับแอบร้องไห้เพราะสงสารเจษฎาพร รวมไปถึงสงสารกระแตด้วย ที่ป่านนี้คงรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดยังไงกับเจษฎาพร“พี่ชัย ไม่สิ พี่เจษฎาพร พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ” กระแตเอ่ยเรียกชื่อใหม่ของเจษฎาพรเป็นครั้งแรก ชื่อนี้ย่าใหญ่เปลี่ยนให้ตอนที่เจษฎาพรล้มป่วยเพราะไข้ป่าจนเกือบตาย แต่ก็ฟื้นกลับมาได้นี่นา ครั้งนี้ก็ต้องเหมือนกันสิ“พี่รักเอ็งนะกระแต” เจษฎาพรเปล่งเสียงออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก แต่ก็กลัวว่าหากไม่พูดออกไปตอนนี้ก็จะไ
“กะ...ก็ไม่รู้สึกอะไร นอกจากหนักๆ หัว”“นั่นเพราะผมไม่ได้ทำอะไรคุณ”“ละ...แล้วเสื้อผ้าพวกนี้ใครเป็นคนเปลี่ยนให้ฉัน”“ผม”“คุณเหรอ!” คนฟังอุทานออกมาหน้าตาตื่น“ครับ...ก็คุณอ้วกจนเลอะเทอะไปหมด ผมเลยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้”“งั้นแสดงว่าคุณก็เห็น...เห็น...”“เห็นหมดแล้วครับ อย่าห่วงไปเลย เพราะทรวดทรงองค์เอวคุณเหมือนเด็กยังไม่โตจะตายไป ยั่วอะไรผมไม่ได้หรอก” อชิไหวไหล่ทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องเล็กเข้าไว้“แล้วคุณขึ้นมานอนบนเตียงฉันได้ยังไง” น้ำเสียงตึงๆ ห้วนๆ ของเพลงขวัญเอ่ยถาม นั่นเพราะชักจะไม่พอใจประโยคที่ได้ยินจากอชิเมื่อครู่เข้าเสียแล้ว เขาว่ารูปร่างเธอมันเหมือนเด็กยังไม่โตอย่างนั้นเหรอ...หน็อยยยยยย“ก็เพราะคุณนั่นแหละที่คว้าตัวผมให้ลงไปนอนด้วย”“ฉันเหรอ” เพลงขวัญชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เ
“พออารายยย อาวววมา ฉานนยังไม่มาววววสักหน่อย” เพลงขวัญพยายามยื้อแก้วเหล้าคืนมาจากอชิ แต่ทำไมมือเขาถึงอยู่ไกลอย่างกับมือแม่นาคแบบนี้นะ“ไม่เมาสักหน่อยเลยครับ นั่นเพราะตอนนี้คุณเมาหนักมากแล้วต่างหาก” อชิส่ายหน้าให้คนเมาที่บอกว่าตัวเองไม่เมา“เมียเอ็งเมาขนาดนี้ ข้าว่ารีบพาไปนอนก่อนเถอะ”“จ้ะพี่” อชิเอ่ยรับคำของโต จากนั้นก็พยุงเพลงขวัญกลับมาที่บ้านเพื่อให้เธอนอนพัก โดยคนเมาโวยวายมาตลอดทางว่าไม่เมากระทั่งใกล้ถึงบ้านเพลงขวัญก็อ้วกเอาทุกอย่างที่กินไปออกมาจากท้องจนหมดอชิเห็นแล้วก็สงสารและคงปล่อยให้เพลงขวัญนอนทั้งๆ ที่เสื้อผ้าเลอะเทอะแบบนี้ไม่ได้ จึงไปเอาผ้ามาชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ แต่ที่หนักใจคือจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพลงขวัญยังไงนี่สิ“คุณไหม...ไหมตั้งสติหน่อย”“ตั้งสาติแล้ว” คนเมาพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้าง“ผมจะถอดเสื้อผ้าตัวที่คุณใส่อยู่ตอนนี้ออกแล้วเอาตัวใหม่มาใส่ให้แทน โอเคนะ”“ม่ายยยโอเค”“แล้วจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณบอกม
ทิศทางที่หมูป่าวิ่งหนีไปนั้นคือเหว เจษฎาพรเห็นท่าไม่ดีจึงตั้งใจจะรีบวิ่งไปดักหน้ามันไว้ โดยมีอชิตามมาสมทบ แต่ทั้งสองคนกลับวิ่งเร็วจนแซงเพลงขวัญและกระแตไปเสียแล้วแม้จะงงว่าอชิกับเจษฎาพรมาอยู่กันที่นี่ได้ยังไง แต่ก็ไม่มีเวลาให้ได้ซักถาม เจษฎาพรกระโดดข้ามกิ่งไม้ ต้นไม้อย่างไม่กลัวเจ็บ ส่วนคนไม่ชินทางอย่างอชิและสองสาวก็หาจุดอื่นข้ามแทน และคนที่ถึงตัวหมูป่าได้ก่อนก็ไม่ใช่ใครอื่นทันทีที่จับตัวหมูป่าได้ เจษฎาพรก็ล็อกตัวมันไว้แล้วใช้มีดที่พกมาปักลงไปบนคอของมันเพื่อให้สิ้นใจตายในทันที แม้จะโหดร้ายแต่หมูป่าก็ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป“จับหมูป่าได้มั้ยพี่ชัย” กระแตที่ตามมาสมทบรีบถาม เจษฎาพรที่เวลานี้นั่งหันหลังให้อยู่จึงค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับหลีกทางให้ทั้งสามเห็นว่าตรงหน้าเขามีอะไร“กรี๊ดดด เราจับหมู่ป่าได้จริงๆ ด้วยพี่ไหม” เอ่ยจบกระแตก็กระโดดโลดเต้นไปมา ส่วนเพลงขวัญนั้นดีใจจนเธอยืนค้างเพราะทำอะไรไม่ถูกแล้วนั่นเอง จากที่เหนื่อยๆ เพราะวิ่งไล่หมูป่ามาจู่ๆ ความเหนื่อยนั้นก็หายไปเสียดื้อๆ“ตัวนั้นคือตัวที่ถูกฉันยิงเหรอพี่ชัย” เพล
“หมู่บ้านเรามีข่าวดีเรื่องลูกชายพี่โตแล้ว น่าจะมีงานฉลองสักหน่อยนะ” ดามที่กำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่เอ่ยขึ้น นั่นเพราะทุกครั้งที่มีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน พวกเขามักจะมีงานเลี้ยงเสมอ“งั้นพวกเราออกไปล่าหมูป่าสักตัวสองตัวดีมั้ย” ชายอีกคนเอ่ยเห็นด้วยกับดาม จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เออออตามกัน ทำให้เช้านี้พวกเขามีเป้าหมายจะออกไปล่าหมูป่าให้ได้สักหนึ่งหรือสองตัว“ฉันขอไปด้วยนะจ้ะพี่ๆ” เสียงของเพลงขวัญที่นั่งฟังอยู่ดังขึ้นเช่นกัน เธอหูผึ่งตั้งแต่แรกที่ได้ยินว่าจะมีการออกไปล่าหมูป่าแล้ว“ไม่ได้” และคนแรกที่ค้านคืออชิ ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ เธอ ชายหนุ่มส่งสายตาเขียวปัดมาปราม“ผัวเอ็งพูดถูก งานล่าสัตว์มันของพวกผู้ชาย ผู้หญิงอยู่ที่นี่เตรียมของไว้รอแล้วกัน” ดามเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจว่าวันนี้ต้องได้หมูป่าติดมือกลับมาแน่นอน“พี่ดามพูดถูก” อชิเข้าข้างดามทันที“แต่ฉันอยากแก้มือ ไถ่โทษที่ครั้งก่อนทำหมูป่าหลุด
อชิกำลังมอบจูบแรกให้เธอ จูบที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของชายหนุ่มเพื่อปิดคำกล่าวหาเรื่องที่เธอคิดว่าเขานั้นเป็นเกย์ แต่จูบนี้ก็แฝงไว้ซึ่งความรู้สึกบางอย่างที่มันค่อยๆ เกิดขึ้นกับอชิ ก่อนหน้านี้เขาพยายามปฏิเสธมันมาตลอด แต่สุดท้ายแล้วเขากลับพ่ายแพ้ จะเป็นอะไรไหมหากว่าเขานั้นได้หลงรักภรรยาตามกฎหมายคนนี้เข้าให้เสียแล้ว และต่อให้เธอจะรักจะชอบใครมาก่อนเขาก็ไม่สน เขาจะทำให้เธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวจูบท่ามกลางแสงดาวเกิดขึ้นเนิ่นนาน นานเสียจนเพลงขวัญเกือบหมดลมหายใจ มีบางจังหวะที่อชิเผยอริมฝีปากออกเพื่อให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอด แต่เพียงไม่นานชายหนุ่มก็วกกลับมามอบจูบให้เธอใหม่อีกครั้ง ประสบการณ์จูบครั้งแรกของเพลงขวัญช่างน่าตื่นเต้น เธอเพิ่งรู้ว่าการจูบกันจะให้ความรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัวได้อย่างมากมายขนาดนี้ ริมฝีปากและปลายลิ้นของอชิเองก็ร้ายกาจ“เชื่อได้หรือยังว่าผมไม่ได้เป็นเกย์” เมื่อถอนจูบออกเสียงทุ้มก็เอ่ยถามขึ้น ใจจริงอชิไม่อยากหยุดจูบออกด้วยซ้ำ เพราะริมฝีปากนุ่มๆ หวานๆ ของเพลงขวัญมันทำให้เขาหลง“เกย์จูบเก่งก็มี” เพ
คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
“น้ำเดิน” เพลงขวัญโพล่งออกมา แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูก แต่เรื่องนี้ก็เคยเรียน เคยได้ยินมาบ้าง ถ้าน้ำเดินแล้วยังไม่คลอด คราวนี้ยิ่งอันตราย“น้ำเดินคืออะไร” โตตะโกนถามขึ้น“แสงจันทร์มันใกล้จะคลอดเต็มแก่แล้วน่ะสิโต รีบๆ เข้าไปดูเมียเอ็งก่อน” หญิงคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะพอๆ กับโตหรือมากกว่าเอ่ยบอก นั่นเพราะเธอก็เพิ่งคลอดลูกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง จึงพอจะเข้าใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง“โอ๊ย...พี่โต ฉันเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้นโตก็รีบจ้ำกลับเข้าไปในบ้านทันที ตามด้วยเพลงขวัญและอชิ ส่วนกระแตเวลานี้ยืนช็อกไปแล้ว“เจ็บมากมั้ยแสงจันทร์”“เจ็บมากพี่ ฉันเจ็บ” แสงจันทร์กัดฟันพูดออกไป เส้นเลือดบนหน้าปูดโปนจนน่ากลัว“พี่แสงจันทร์อดทนอีกหน่อยนะจ้ะ ย่าใหญ่กำลังมา” เพลงขวัญเอ่ยบอก เห็นแสงจันทร์เจ็บท้องคลอดมากขนาดนี้แล้วก็ยิ่งสงสาร“พี่ทนไม่ไหวแล้วไหม พี่จะ&helli