สาวน้อยล้มลงกองที่พื้นโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างเล็กรู้สึกทั้งเจ็บทั้งตกใจในคราวเดียวกัน ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มที่แนบชิดอยู่บนของแข็งบางอย่างค่อยๆ ยกขึ้น พร้อมๆ กับดวงตากลมโตที่ลืมขึ้นมาช้าๆ
มือเรียวเล็กที่วางแนบอยู่ใกล้ๆ กับใบหน้าเริ่มลูบไล้ของแข็งที่ปกคลุมด้วยผ้าเนื้อดีสีขาว นิ้วเรียวลากไล้ลงมาสัมผัสกับกระดุมเสื้อที่เปิดออกสองถึงสามเม็ด กลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนหลงไหลโชยมาประทะเข้ากับจมูกจนเธอเผลอเคลิบเคลิ้ม และในขณะที่เธอเริ่มตั้งสติได้และเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาเข้ากับสิ่งที่เธอกำลังทับอยู่บนนั้น
" ว้ายย..! " เมเบลรีบหยัดกายลุกขึ้นทันที เธอล้มทับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้าอย่างจัง คงเป็นช่วงจังหวะที่ประตูเปิดและเธอกำลังใช้แรงเตรียมผลักเข้ามาพอดี จึงทำให้เกิดเหตุเช่นนี้
" ขะ...ขอโทษนะคะ " หญิงสาวรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาที่กำลังหยัดกายลุกนั่ง เขาก้มลงเก็บเงินสดหลายปึกที่ล่วงหล่นออกจากกระเป๋าสะพายด้วยความรีบร้อน เขาใช้สองมือปัดๆ เศษฝุ่นที่เสื้อผ้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หันมามองหน้าคนตัวเล็กอย่างคาดโทษ
" โห คนอะไรสูงชะมัด แถมหล่อมากอีกต่างหาก " สาวน้อยยืนมองคนตัวสูงตาแป๋ว เธอกระพริบตาปริบๆ ตกตะลึงในความสมบูรณ์แบบตรงหน้า เมเบลยืนนิ่งงันอยู่ในภวังค์ความหล่อเหลาสไตลลูกครึ่งยุโรป โครงหน้าคมสันต์ราวพระเอกซีรีย์ ผิวพรรณเนียนละเอียดยิ่งกว่าไอดอลที่เธอเคยเห็นซะอีก ทั้งหุ่นก็ยั่วน้ำลายเหลือเกิน เธอมองตัวเองเทียบกับชายตรงหน้า เมเบลเองตัวเท่าอกเขาเท่านั้น
" เด็กมัธยม ทำไมถึงเข้ามาได้?" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ทำให้เมเบลดึงสติกลับมาได้คืนอีกครั้ง เธอรีบกระชับเสื้อคลุมปิดร่างกายเอาไว้แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว แต่นี่มัน......
ต้องใช่แน่ๆ นี่มันพี่เดลของยัยเฟย์หนิ เหมือนในรูปเป๊ะ หืม...หล่อแบบนี้เองเฟย์ถึงได้เป็นบ้าเป็นบอขนาดนี้...แต่เอ๊ะ...ทำไมยังดูเด็กอยู่เลยล่ะ.....
" เห็นเด็กมัธยมแล้วถึงกับตกใจเลยหรอคะ ทำไมหรอ? ไปทำสร้างเรื่องอะไรให้เด็กมัธยมไว้ล่ะ?" เมเบลเท้าสะเอวถาม ขยับเท้าเดินเข้าไปประชิดตัวอีกคน
" พูดอะไรของเธอ หลบไป " ชายตัวสูงใช้มือผลักเบาๆ ไปที่ร่างเล็กให้หลบออกจากทางเดิน ก่อนจะเดินออกไปด้วยความรีบร้อน
" ไม่ให้ไป พี่ต้องไปขอโทษเฟย์ก่อน " เมเบลคว้าแขนของเขาเอาไว้ พร้อมดึงกระชากเมื่อเขาเริ่มต่อต้าน
" พูดอะไรของเธอ เฟย์ไหนฉันไม่รู้จัก ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้ ! "
" ไม่ พี่ต้องไปคุกเข่าขอโทษเฟย์ก่อน "
" ฟังนะ ฉันไม่เข้าใจเรื่องที่เธอพูด ถ้ายังไม่ยอมปล่อย อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ " เขาพูดเสียงเข้มขึ้นอย่างเอาจริง ใบหน้าหล่อเหลาในตอนนี้เปลี่ยนเป็นหน้าตาโมโหเอาเรื่อง
" ทำผิดแล้วก็ต้องรับผิดชอบสิ เป็นลูกผู้ชายอยู่รึป่าวห้ะ?" ถึงเขาจะน่ากลัวแค่ไหน แต่เมเบลก็ยังยืนกรานว่าจะลากคอพี่เดลคนนี้ไปขอโทษเฟย์ให้ได้
" เธอว่าไงนะ...!" คนตัวสูงถึงกับขบกรามแน่นเป็นสันข่มกลั้นอารมณ์คุกรุ่งของตนเอง เมื่อมีคนแปลกหน้ามาด่าว่าไม่เป็นลูกผู้ชายเป็นใครจะยอมได้
" คิดจะฟันแล้วทิ้งหรอ มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกนะ เฟย์มันเสียใจจนคิดสั้นพี่รู้บ้างมั้ย ถ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่ก็ช่วยไปรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วย " เมเบลพยายามอธิบายยืดยาว ในขณะที่อารมณ์พุ่งสูงปรี๊ดจนแทบอยากจะกระโจนบีบคนคนตรงหน้าให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ
" เธออยากรู้ใช่มั้ยว่าฉันเป็นลูกผู้ชายรึป่าว? " คนตัวสูงเดินตรงเข้าหาหญิงสาว เมเบลถอยหลังหลบจนแผ่นหลังติดผนัง
" จะทำอะไร ถอยไปนะ "
" ก็จะทำให้เธอรู้ยังไงล่ะ ว่าลูกผู้ชายเค้าทำกันยังไง " สิ้นเสียงพูดชายหนุ่มก็ใช้สองมือประกบไปที่กรอบหน้าเล็ก ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปประกบริมฝีปากใส่คนปากดีให้หยุดพูดเหลวไหล
" อื้อออ ~ " เมเบลเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ สัมผัสแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ตอนนี้เกิดขึ้นกับเธอแล้ว แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าจูบแรกของเธอจะไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกันกับเพื่อนสนิท
พรึ่บ...!
" ไอ้บ้า " เมเบลยกมือขึ้นเช็ดปาก เธอด่าเขาทันทีที่หลุดออกเป็นอิสระ
" หึ...ทีนี้รู้ยัง ว่าฉันยังเป็นลูกผู้ชายอยู่มั้ย " ชายหนุ่มหัวเราะสะใจในลำคอเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ถึงรสสัมผัสนี้เช่นกัน
" นายมันไม่ใช่...!" เมเบลรีบกลืนคำด่าต่อไปลงคอ เมื่อชายตรงหน้ายกมือขึ้นชี้หน้าเธอ มือเล็กยกขึ้นปิดปากเอาไว้ทันทีเพราะกลัวจะถูกคนบ้าขโมยจูบอีกครั้ง
คนตัวสูงยังคงแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา มองหน้าสาวน้อยที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ บางมุมก็น่าสงสารแต่เรื่องปากดีเธอคนนี้ยืนหนึ่งจริงๆ
" มีเรื่องอะไรกัน ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ ?" เสียงทุ้มดังเข้ามาจากด้านใน สองคนจึงหันไปมอง คนที่กำลังเดินตรงเข้ามาทำเอาเมเบลถึงกับอึ้งอีกครั้ง เธอมองหน้าชายที่เข้ามาใหม่กับคนขโมยจูบเธอเมื่อครู่สลับกันไปมา นี่มันอะไรกัน.....
แต่ในระหว่างที่งุนงงกับใบหน้าของสองคนที่ละม้ายคล้ายกันมากจนแทบแยกไม่ออก คนตัวสูงข้างเธอก็ยื่นมือเข้ามาโอบไหล่กระชับเข้าหาตนเอง
" ไม่มีอะไรพี่ ผมแค่จะพาน้องมาดื่ม แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว " คนตัวสูงตอบกลับไป เมเบลเห็นว่าเขาโกหกจึงจะรีบปฏิเสธ
" เอ่อ ไม่ใช่...!"
" เด็กน้อย พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า เห็นแบบนี้พี่ก็กลัวคุกเหมือนกันนะ " คนตัวสูงเอามือขึ้นมาลูบหัวเมเบล เป็นกลายๆ ว่าห้ามพูดอะไรเด็ดขาด ระหว่างนี้ชายฉกรรจ์ชุดดำสามถึงสี่คนก็กรูกันเข้ามา เมเบลที่ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ราวกับหนังแอ็คชั่นแบบนี้ก็เริ่มกลัวขึ้นมา
" มีอะไรกันรึป่าวครับนาย ?" ชายหนึ่งในสี่คนเอ่ยถาม ก่อนคนที่พวกเขาเรียกเจ้านายจะยกมือขึ้นปราม
" สเปคมึงเปลี่ยนไปแล้ว? "
" เธอน่ารัก พี่ไม่เห็นรึไง ขอมองข้ามเรื่องสเปคไปก่อนก็แล้วกัน " คนวางมือบนศรีษะเล็กพูดขึ้น พร้อมทั้งก้มหน้าลงมาระบายยิ้มให้กับหญิงสาว เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของเธอ " ถ้ายังอยากจะออกไปจากที่นี่ พร้อมลมหายใจก็ตามน้ำไปก่อน "
เมเบลขนลุกซู่เมื่อสิ้นประโยคเมื่อครู่ เธอไม่เคยใกล้ชิดชายใดขนาดนี้มาก่อน และยังจะชายรูปร่างกำยำตรงหน้าอีก ราวกับแกงค์มาเฟียในละครยังไงอย่างนั้น
"น้องคบกับไอ้เดรฟจริงหรอ?" ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่หน้าคล้ายกันกับคนข้างกายถามขึ้น ในขณะที่สายตาของเขาจ้องมองไปที่กระเป๋าสะพายของชายหนุ่มข้างๆ เธอไม่วางตา
" เดรฟ...เค้าชื่อเดรฟงั้นหรอ? งั้นก็แสดงว่าที่ฉันด่าไปเมื่อกี้ก็....ผิดคนน่ะสิ..! "
" น้อง?! " เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงยืนนิ่ง
" คะ? อ้อ ค่ะๆ..หนูคบกับพี่ดะ...เดรฟอยู่ค่ะ " เมเบลตอบเสียงตะกุกตะกัก ตอนนี้ทั้งร่างกายของเธอสั่นไปแทบทุกส่วนด้วยความกลัวเพราะดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่เชื่อเธอซะแล้ว
" ถามอะไรนักหนาว่ะพี่เดล ขัดเวลาความสุขของพวกเราจังเลย" เดรฟรีบพูดปัดความสนใจ เพราะเขาเองก็แอบเข้ามาทำความผิดบางอย่างเช่นกัน หากพี่ชายรู้ว่าเด็กนี่โกหกเขาก็จะพลอยซวยไปด้วย
" ห้ะ พี่เดลงั้นหรอ ไอ้โหดตรงหน้าฉันคือแฟนยัยเฟย์งั้นสิ โอ้มายก็อต...ใครมันจะกล้าไปลากคอพี่เค้าไปว่ะ ลูกน้องประกบซ้ายขวาขนาดนั้น "
" ก็แค่ถามดู ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดจะกลัวอะไรว่ะ ?"
" พี่พูดแบบนี้ไม่เชื่อใช่มั้ยว่าน้องน่ารักคนนี้คบกับผมจริงๆ งั้นดูให้เต็มตา " เดรฟเถียงกลับพี่ชาย ก่อนจะหันมาทางคนตัวเล็กข้างกาย เขาใช้สองมือประคองใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มให้หันมาตรงหน้าอีกครั้ง
" อื้อ~ อืออ..." เมเบลร้องประท้วงในลำคอ เมื่อถูกขโมยจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันท่ามกลางสายตาถึงห้าคู่เชียวนะ เขาไม่อายแต่เธออาย และที่สำคัญ...ใครก็ไม่รู้กำลังจูบเธออยู่.....
เมื่อเดลเห็นว่าน้องชายตั้งใจพิสูจน์ตัวเองขนาดนี้เขาจึงเดินออกไปพร้อมกับลูกน้องทั้งสี่คน ทันทีที่พี่ชายลับสายตาเดรฟก็ผละจูบออกจากคนตัวเล็ก...ในขณะที่คนถูกจู่โจมถึงสองครั้งยังคงยืนอึ้งอยู่
" จะไปไหม หรือจะรอให้พี่ชายฉันลากเข้าไปให้ไอ้พวกนั้นจับทำเมีย " เสียงของชายหนุ่มทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์วาบหวามนั้น
" นะ นาย...นายขโมยจูบฉัน " เมเบลทักท้วงอีกคน เธอยกมือขึ้นจับริมฝีปากที่เพิ่งถูกสัมผัสร้อนเมื่อครู่จู่โจม
" แล้วไง?"
" แล้วไงอะไร นั่นมัน จูบแรก ของฉันเลยนะ แต่นายกลับพลากมันไปจากฉันตั้งสองครั้ง " เมเบลที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน เธอยังคงหวงเนื้อหวงตัวเอาไว้ให้คนรักในอนาคตแต่ดันพลาดท่าให้ใครก็ไม่รู้
" นายต้องรับผิดชอบ "
" อะไรนะ รับผิดชอบ รับผิดชอบอะไร? "
" ก็นายขโมยจูบแรกฉันไป.." ยังไม่ทันพูดจบ เดรฟก็เดินเข้ามาจนประชิดตัวหญิงสาวจนเมเบลเองต้องรีบใช้สองมือดันแผ่นอกเข้าเอาไว้
" เธอเองก็พลากจูบแรกของฉันไปเหมือนกัน "
"....."
และตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ไม่ได้พบกับเขาอีกเลย นายเดรฟ ผู้ร้ายกาจ...
*************************
Spoil next ep.
ตื่นจ้ะเพื่อนรัก วันนี้แหละกูจะพามึงไปดูของจริง ผู้ชายหล่อๆ ตัวเป็นๆ รับรองว่าเมเบลจะต้องเลิกเพ้อหาเจ้าชายในฝันอย่างแน่นอน
พล๊วะ!" ไอ้ห่า มึงจะเอายังไงกับกูห๊ะ กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่างยุ่งกับน้องสาวกู พวกมึงสองคนพี่น้องนี่วอนอยากตายกันจริงๆ "" น้องมึงโตเป็นสาวแล้วยังจะหวงอยู่ได้ กูก็แค่จีบไม่เล่นด้วยก็แค่จบป่าวว่ะ ?"" จีบเหี้xอะไร ถึงได้ออกมาจากคอนโดตอนเช้ามืด มึงอย่ามาเล่นลิ้นนะ วันนี้ไม่กูกับมึงต้องได้ตายกันไปข้าง! "เสียงมาเฟียหนุ่มทั้งสองที่ตอนนี้ต่างก็อยู่ในฐานะเพื่อนสนิทกำลังทะเลาะกันดันลั่นห้องทำงาน หลังจากที่หมัดแลกหมัดกันไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ลูกน้องคนสนิทฝีมือฉกาจทั้งสองฝ่ายทำได้เพียงยืนมองผู้เป็นนายฟัดกันอย่างไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัว" เกิดอะไรขึ้น?" ขาเรียวขาวบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วก้าวผ่านหน้าบรรดาลูกน้องที่คุ้นตากันดีของทั้งสองฝ่าย ก่อนพวกเขาจะโค้งตัวลงเคารพเจ้านายหญิงอีกคน ดวงหน้าสวยใสเป็นต้องขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเสียงที่ดังอยู่ในห้องนั้นเป็นเสียงของชายหนุ่มที่ฟังดูคุ้นหูเป็นอย่างดี" หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุด! " เธอเดินเข้าไปพร้อมแหวกเสียงดังลั่นใส่สองหนุ่มที่กำลังกระหน่ำต่อยกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งเสียงแหลมเล็กเมื่อครู่ที่ค่อยๆ ทำให้สติของพวกเขากลับคืนมา" นี่มันเรื
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยามกระทบกับแสงไฟดูลึกลับและน่าหลงไหล หากแววตานั้นกลับซ่อนความอันตรายและร้ายกาจเอาไว้ผ่านแว่นตาสีดำที่เพ่งมองไปยังท้องทะเลอันน่าสะพรึงกลัวในยามค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว เบื้องหน้าเต็มไปด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวนหลายลำ" แก๊งบาร์เซส หนึ่งในผู้ค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ฝั่งยุโรป คนพวกนี้ไว้ใจไม่ได้ ของที่อยู่บนเรือต้องเช็คให้ครบทุกลัง " คนมีประสบการณ์ในชุดพลางตัวสีดำเอ่ยขึ้น ดวงตาเพ่งมองไปที่ไฟหน้ารถคันหรูส่องสว่างแล่นฝ่าละอองฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา" ได้ยินแล้วใช่ไหม จัดการอย่าให้พลาดล่ะ " คนรับหน้าที่ในการคุมงานครั้งนี้สั่งการขึ้นโดยดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องดูการเคลื่อนไหวของเรือขนส่งสินค้าไม่วางตา" ครับนาย " ลูกน้องคนสนิทตอบรับคำสั่งก่อนจะเดินไปสั่งงานลูกน้องฝีมือฉกาจร่วมสามสิบชีวิตที่ถูกส่งตรงมาจากอินตาลีเพื่อคุ้มครองสินค้าล็อตใหญ่มูลค่าหลายร้อยล้านดอลล่า รวมถึงทายาทคนเล็กของหยางหมิงในการคุมงานใหญ่ครั้งแรก" ไม่ต้องยืดเยื้อ ทำทุกอย่างให้จบโดยเร็วที่สุด คนพวกนี้ร้ายกาจกว่าที่เราคิด พวกมันพร้อมจะตลบหลังเราทุกเมื่อ "" ครับเฮียฟาน " เดรฟหันไปตอบรับคำแนะนำของผู้รับหน้าที่สอนงานและเป็นท
หลังจากที่จงใจสั่งสอนอีกคนจนได้แผลมา คืนนั้นทั้งคืนเมเบลก็ต้องมาดูแลคนสำออยที่เพ้นท์เฮาส์เพราะหลังจากพี่เดลพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องกลับไปสะสางงานต่อ เว้นเพียงคนที่กำลังนอนเอนหลังบนโซฟาที่ไม่ยอมอยู่โดยลำพังท่าเดียว" ทานยาค่ะ " เธอหยิบน้ำและยาตามที่แพทย์สั่งยื่นให้คนเจ็บ แต่สิ่งที่ได้คือใบหน้าออดอ้อนพร้อมอ้าปากแทน เมเบลกระตุกยิ้มก่อนจะยัดยาและน้ำกระแทกเข้าไปพรวดเดียว" แค่กๆ นี่จะฆ่าพี่ให้ได้เลยใช่มั้ย?" หลังจากกลืนยาลงไป เดรฟก็หันมาตำหนิคนที่ทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพนี้แทน" ถ้าเบลจะฆ่าพี่ เบลคงยิงไปแล้วล่ะคะ ไม่ปลอยเอาไว้ให้เป็นภาระแบบนี้หรอก "" โหดจังเลยนะ ตั้งแต่มาดามดารินให้ท้ายนี่กล้าขึ้นเยอะ ระวังจะไม่มีแรงลุกเดินออกจากเตียงล่ะคืนนี้ " ใบหน้าเจ้าเล่ห์หันมองคนข้างกาย สมองกำลังคิดวางแผนว่าจะจัดการคนพยศนี่ยังไงให้สาแก่ใจสมกับที่คิ้วแตกแบบนี้ ดีที่ว่าแก๊งเพื่อนๆไม่มีใครรู้ ไม่อย่างงั้นได้อับอายไปจนลูกบวช" น่ากลัวจังเลยนะคะ แต่เอาเวลาไปดูแลตัวเองไม่ให้คืนนี้ไข้ขึ้นก่อนจะดีกว่า "" เดี๋ยวจะเก่งไม่ออก....." แต่ยังไม่ทันจะต่อปากต่อคำกับเมเบลจบ มือถือของ
ร่างเล็กในชุดเดรสรัดรูปสีดำเผยให้เห็นทรวดทรงเด่นชัด เนินอกขาวเนียนโผล่พ้นขอบเสื้อสายเดี่ยวเป็นทรงสวยได้รูปกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะของการเดินบนส้นสูงสี่นิ้ว เรียวขายาวสมส่วนก้าวฉับๆเข้ามายังไนท์คลับที่คุ้ยเคยผิวขาวใสอมชมพูและใบหน้าจิ้มลิ้มได้รูปภายใต้เครื่องประทินผิวที่แต่งเติมเข้มกว่าทุกครั้ง ดึงดูดสายตาผู้พบเห็นจนต้องตกตะลึง เปลี่ยนจากสาวน้อยวัยใสให้กลายเป็นหญิงสาวสวยโฉบเฉี่ยวสุดเซ็กซี่เพียงชั่วพริบตาชายหนุ่มเจ้าของไนท์คลับเดินลงมารับด้วยตนเองหลังจากประตูรถลามูนซีคันหรูเปิดออก ก่อนเมเบลจะหันกลับไปโบกมือลาว่าที่แม่สามีบนรถด้วยใบหน้าเปื้อยยิ้ม" สวัสดีคะพี่เดล "" ทำไมถึงได้จัดเต็มขนาดนี้ ไอ้ขี้หวงมาเจอเบลสภาพนี้มีหวังบ่นไปแปดชาติสิบชาติ " เดลเอ่ยทักว่าที่น้องสะไภ้ด้วยความสนิทสนมกว่าแต่ก่อน ตั้งแต่วันนั้นที่ทุกอย่างคลี่คลายเขาก็เหมือนได้ยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวางใจกับคนตรงหน้าอีกแล้ว" ก็คุณป้านะสิคะจับเบลแต่งตัวแบบนี้ แล้วก็พาไปปาร์ตี้ตั้งแต่หกโมงเย็น " เมเบลเอ่ยฟ้องตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยๆ เดลได้แต่ยิ้มกริ่มเพาะตั้งแต่มีเมเบลเข้ามามาดามดารินก็ไม่ค่อยว
คฤหาสน์อัศวพานิชความเงียบจนชวนอึดอัดปกคลุมไปทั่วทั้งห้องรับแขก ตั้งแต่กลับมาถึงที่นี่ต่างก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร สายตาประมุขของบ้านจ้องมองมายังชายหนุ่มที่พาลูกสาวสุดที่รักหายไปข้ามวันข้ามคืน" ผมพร้อมจะรับผิดทุกอย่างครับ " เสียงเข้มเอ่ยทำลายความเงียบนั้น ถึงแม้จะหวั่นใจกับคำตอบของชายตรงหน้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว" ยังไง ?" อนันต์ถามขึ้นมา มองหน้าลูกสาวสลับกับเด็กหนุ่มที่หายไปด้วยกันนานถึงสามวัน ก่อนหน้านี้เดรฟโทรมาขออนุญาติพาเมเบลไปเที่ยวก็จริง แต่มันต้องไม่ใช่การนอนค้างอ้างแรมกันหลายวันแบบนี้" แล้วแต่คุณอาเห็นสมควรเลยครับ ผมพร้อมจะรับผิดชอบน้องทุกอย่าง" เดรฟตอบออกไปอย่างไม่ลังเล แอบลอบสบตากันกับเจ้าของบ้านด้วยสายตาที่มีเลศนัยกันทั้งคู่ ก่อนเสียงเล็กจะแทรกขึ้น" แต่เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกันนะคะพ่อ " แต่เมื่อสายตาดุๆของอนันต์ตวัดมอง เมเบลจึงทำได้เพียงเงียบเสียงและก้มหน้าลงตามเดิม" เมเบลเป็นว่าที่พี่สะไภ้เธอ แล้วเธอสองคนหายไปด้วยกันมาตั้งหลายวัน เธอคิดว่าอาควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ลืมมันไปดีไหมแล้วจับยัยเบลใส่ตะกร้าล้างน้ำส่งให้ไปเป็นนายหญิงของหยางหมิงตามที่พ่
" นายหญิงหายไปไหน !! " เสียงทุ้มตะหวาดขึ้นดังลั่นห้องรับรอง เมื่อกลับเข้ามาที่ห้องพบเพียงความว่างเปล่า ลูกน้องที่เฝ้าหน้าประตูได้แต่ก้มหน้าลงหลบสายตาเพราะไม่มีคำตอบให้ผู้เป็นนายแต่ในขณะที่โมโหจนแทบบ้า คนตัวเล็กก็เดินกลับเข้ามาในห้องด้วยท่าทีเรียบนิ่ง เพียงแค่เมเบลไม่หันสบสายตาคมคู่นั้นก็ทำให้เดรฟรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ" ไปได้แล้ว ถ้าทำงานพลาดอีกก็ไสหัวออกไปได้เลย " เสียงเข้มคาดโทษลูกน้องทั้งสอง ก่อนจะหันมาสนใจคนตัวเล็กในห้องเมื่อตอนนี้อยู่กันเพียงลำพังแค่สองคน" เบลไปไหนมา พี่เป็นห่วงมากรู้ไหม ทำไมชอบขัดคำสั่งอยู่เรื่อยเลยห๊ะ " น้ำเสียงติดตำหนิพูดขึ้นจากทางด้านหลังของคนที่นั่งหันหน้าเข้าหากระจก ตั้งแต่เหตุการณ์บนเกาะนั่นเดรฟก็ใจเต้นแรงทุกครั้งที่เมเบลหายไปโดยไม่บอกกล่าวเมเบลมองเดรฟผ่านกระจกเงาบานใหญ่โดยไม่พูดอะไร เธอยังไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอจริงๆอย่างที่เขาเคยบอก ตกลงแล้วเดรฟเป็นคนยังไงกันแน่ เมื่อเช้ายังเป็นพ่อพระของเด็กๆอยู่เลย แต่พอตกกลางคืนกลับสังหารคนทั้งคนได้อย่างเลือดเย็น" เป็นอะไรไป?" เห็นอีกคนเอาแต่นั่งเงียบๆ เดรฟจึงเดินเข้ามาหา แต่เมเบลกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง