LOGINสายๆวันต่อมา
“อื๊มมม!!” ยี่หวาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับทำท่าบิดขี้เกลียดอย่างที่ตัวเองชอบทำอยู่เป็นประจำตอนเช้าๆ แต่ทว่าเมื่อเธอปรับสายตาให้เข้าที่เรีบบร้อยแล้วนั้น ดวงตาของเธอกลับต้องจ้องมองเพดาลที่ดูไม่คุ้นตาอย่างสงสัย
“ตื่นแล้วหรอ” ก่อนที่เธอจะทันได้นึกคิดว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เสียงของใครบางคนก็เอ่ยถามขึ้น เธอจึงหันมองไปตามต้นทางของเสียง ก็เห็นว่าใครบางคนกำลังส่งยิ้มบางๆให้เธออยู่ที่ปลายเตียง
“เฮ้ยยย!!”
พรึ๊บบ!!
ด้วยความตกใจยี่หวารีบเด้งตัวขึ้นจากที่นอน และพยายามคิดนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเหตุการเมื่อคืน
“จริงหรอเนี่ย?” เมื่อพอจะจำเหตุการได้รางๆตั้งแต่ที่เธอเดินเข้าไนต์คลับ จนถึงตอนที่เธอถูกดินแดนรวบขึ้นรถไป แล้วก็ยังมีตอนที่…ยี่หวาหยุดคิดมาถึงตอนที่เธอและเขาได้ขึ้นมาอยู่บนเตียงนี้ ใบหน้าของเธอก็ขึ้นสีแดงกล่ำ เธอค่อยๆหันไปมองยังอีกคนที่อยู่ปลายเตียง ก็เห็นว่าเขายังคงนิ่งจ้องมองมาที่เธออยู่
“...” ลีโอไม่พูดไม่ถามอะไรต่อ เอาแต่ยืนจ้องมองเธอและเมื่อยี่หวาสังเกตดีๆ ก็เห็นว่าเขานั้นพยายามทำท่าเหมือนจะกลืนน้ำลายอยู่ตลอดเวลาที่จ้องมองมายังเธอ
ยี่หวาที่เห็นว่าเขายืนมองเธอแปลกๆแบบนั้นก็นึกสงสัย จึงก้มลงมองไปตามสายตาที่เขาจับจ้องอยู่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะผ้าห่มที่เธอห่มมันดันหล่นลงไปอยู่ที่เอวตอนที่เธอลุกนั่งอย่างไม่ทันระวัง และในตอนนี้เนื้อตัวของเธอก็ไม่ได้สวมใส่อะไรปกปิดไว้เลย
“ว้าย~! อย่ามองนะ” เธอรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดอกอวบอิ่มของเธอเอาไว้ แม้มันจะไม่ทันแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าจะปล่อยมันไว้แบบนั้น
“อายหรอ?” ลีโอเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างล้อเลียน
“อายสิ ฉันเป็นผู้หญิงนะ”
“หึ! ทีเมื่อคืนไม่เห็นอาย”
“...” ยี่หวาได้แต่เม้มปากแน่นสะกดความอายเอาไว้ ใครใช้ให้เขาพูดเรื่องหน้าอายแบบนั้นต่อหน้าผู้หญิงกันนะ…เธอนึกตำหนิเขาอยู่ในใจ
“อาบน้ำแต่งตัว แล้วไปคุยกันข้างนอก ผมจะไปนั่งรอที่ห้องรับแขก” ลีโอบอกพร้อมกับส่งชุดเดรสตัวที่เธอใส่เมื่อคืนให้
“ผมให้คนทำความสะอาดแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” ยี่หวารับชุดมาอย่างเก้ๆกังๆเพราะยังคงเขินๆคนตัวสูงที่เอาแต่มองเธออยู่
“อะ…ออกไปสิคะ”
“คุณไล่เจ้าของห้องหรอ?”
“ก็คุณบอกว่าจะออกไปรอข้างนอก ถ้าคุณยืนอยู่แบบนี่ ฉันจะกล้าลุกไปอาบน้ำได้ยังไงคะ”
“ฮึ! โอเค งั้นตามสบายนะครับ” ลีโอที่เห็นว่าอีกฝ่ายคงจะเขินอายเขามากๆ จึงไม่อยากจะแกล้งเธอต่อ เขาจึงทำตามที่บอกด้วยการออกไปนั่งรอเธอข้างนอก ปล่อยให้เธอจัดการธุระของตัวเธอเองไปตามลำพัง
เมื่อจัดแจงอาบน้ำชำระล้างร่างกายตัวเองเรียบร้อยแล้ว ยี่หวาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ เธอจึงถือวิสาสะเดินดูไปรอบๆเพ้นท์เฮาส์หรูแทน
“คิดถึงฉันหรอชาลิน”
“...”
“ฮ่าฮ่าๆๆ เอาไว้คืนนี้เล่าให้ฟัง แค่นี้ก่อนนะ” ลีโอที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ริมสระว่ายน้ำหันมามองยังคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขา
“เสร็จแล้วหรอ หิวไหม?”
“เอ่อ…ไม่ค่ะ”
“งั้นเข้าไปนั่งคุยที่ห้องนั่งเล่นกัน”
“ค่ะ”
ลีโอเดินนำยี่หวาเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินไปหยิบน้ำเปล่าและแก้วสองใบมาวางไว้ที่โต๊ะ
“คุณไม่หิวจริงๆหรอ?”
“ไม่ค่ะ”
“กินอะไรสักหน่อยไหม ผมสั่งให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“อืม!ตามใจครับ” ลีโอไม่คะยั้นคะยอต่อเมื่อเห็นว่ายี่หวาคงจะยังไม่อยากกินอะไรจริงๆ
“ขอบคุณนะคะเรื่องเมื่อคืน” ยี่หวาตัดสินใจเอ่ยออกมาหลังจากนั่งลงได้สักพักแล้วเอาแต่เงียบ
“เรื่องเมื่อคืนหรอ? เรื่องไหน? เรื่องที่…”
“เอ่อ…เรื่องที่คุณช่วยฉันจากคนที่ชื่อดินแดนค่ะ” ยี่หวารีบพูดออกมาก่อนที่ลีโอจะทันได้พูดอะไร
“อ๋อเรื่องนั้นหรอ ผมก็นึกว่า…”
“คุณ!” ยี่หวาทำเสียงขุ่นใส่คนที่เอาแต่จะพูดแกล้งเธอ ถึงเธอจะรู้สึกดีกับเขา แอบรักเขามาตั้งนาน แต่เธอก็อายเกินกว่าจะพูดคุยเรื่องแบบนั้นกับเขาอยู่ดี
“ฮึ!”
“...”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้น คุณไปขอบคุณชาลินเถอะ เธอเป็นคนช่วยคุณ”
“งั้นหรอคะ? แต่ยังไงคุณก็มีส่วนช่วยฉันอยู่ดี ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะสาวๆสวยๆแบบคุณ” ลีโอพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะที่มือเรียวของยี่หวา แววตาที่จ้องมองมาที่เธอบ่งบอกถึงความนัยบางอย่าง ที่เธอเองก็พอจะรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่เธอก็เลือกที่จะเลี่ยงการสบตากับเขาเพียงเพราะเธอยังไม่อยากจะให้เขารู้ว่าเธอนั้นหวั่นไหวกับเขามากแค่ไหน
“ฉันว่า…ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ” ยี่หวาบอกพลางลุกขึ้นจากโซฟาทันที
“ถ้างั้นก็ได้ครับ” ลีโอเองก็ลุกขึ้นตามมายืนเทียบกับร่างสวยของเธอเช่นกัน ทั้งคู่จ้องตากันไปมา ก่อนที่จะเป็นยี่หวาเองที่ยอมละสายตาจากเขา และเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะ เพื่อที่จะเดินออกจากห้องนี้ไป
“ผมให้คนขับรถคุณมาจอดไว้ด้านล่างแล้วนะครับ”
“คะ?”
“ขอโทษที ผมถือวิสาสะหยิบกุญแจในกระเป๋าคุณ”
“อ๋อ!ค่ะ ไม่เป็นไร ขอบคุณนะคะ” ยี่หวายิ้มบางๆก้มหัวเล็กน้อยอย่างรับรู้ และทำท่าจะหันหลังเดินไปต่อ
“เดี๋ยวครับ”
“คะ? มีอะไรอีก?”
“ทางนั้นห้องนอนผมนะครับ คุณจะเข้าไปนอนต่อหรอ?”
“ค่ะ อ่ะ! เอ่อ!ขะ…ขอโทษค่ะ” ยี่หวาอ้ำๆอึ้งๆทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองเกิดเผลอทำอะไรโก๊ะๆออกมา
เธอหันมองไปทางเขาก่อนที่จะส่งยิ้มแห้งๆให้ แล้วรีบเปลี่ยนทิศทางเดินไปยังประตูและเปิดมันออกไปทันที
“ฟู่ว! บ้าจริง” เสียงพ้นลมหายใจแรงๆของคนที่รู้สึกโล่งอกดังขึ้น หลังจากเดินออกมาจากห้องของผู้ชายขี้แกล้งแล้ว ยี่หวาเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่อยู่ๆเธอก็ได้เข้ามาอยู่ใกล้เขาแบบที่ตั้งใจเอาไว้ ถึงแม้มันจะมีอะไรผิดคาดไปนิดหน่อย แต่ก็ถือว่ายังดี ที่ในที่สุดเธอก็ได้มีวันนี้
ตลอดเวลาแปดเก้าปีที่เธอเฝ้าตามติดชีวิตเขา ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะกล้าเข้ามาประชิดตัวเขาแบบนี้ ด้วยกลัวว่าเขาจะผลักใสเธอเหมือนตอนที่เธอไปสารภาพรักเขาครั้งแรก เหตุการเมื่อคืนที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับดินแดน ถ้าเขาไม่คิดจะทำอะไรบ้าๆกับเธอที่ไนต์คลับนั่น ลีโอก็คงไม่ได้เข้ามาช่วยเธอไว้ และเธอเองคงจะยังไม่ได้เข้ามาใกล้ชิดกับเขาแบบนี้ ต่อจากนี้ไปยี่หวาคิดว่าเธอคงจะเข้าหาตัวเขาได้ไม่ยากอีกแล้ว เพราะเธอมีความกล้ามากขึ้นจากแต่ก่อน และเธอก็จะทำให้เขาหันมารักเธอให้ได้แบบที่เคยพูดเอาไว้จริงๆ
@LK club
“เป็นอะไรของมึงนั่งยิ้มอยู่ได้” เสียงเคลวินเอ่ยทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนสนิทเอาแต่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“อารมณ์ดี ยิ้มไม่ได้หรอว่ะ”
“ฮั่นแน่! แสดงว่ามีอะไรดีๆงั้นดิ”
“อะไร?”
“มึงอย่ามา ชาลินเล่าให้กูฟังแล้วนะ”
“ฮึ!”
ก๊อกๆๆๆ!!
ก่อนที่ทั้งสองจะทันได้พูดคุยอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างบางของชาลินที่เปิดประตูห้องทำงานแทรกเข้ามา
“เฮ้!พวกหล่อเลว”
“ทักกันดีๆบ้างไม่ได้หรอว่ะชาลิน”
“เอ้า!มันเข้ากับพวกนายดีออกเคลวิน”
“ปากแบบนี้ถึงไม่มีผัวสักทีสินะ”
“เคลวิน”
“เออ!ล้อเล่นๆๆ ว่าแต่มีอะไรไหมขึ้นมาหาพวกฉัน”
“มีสิ มีแน่นอน นายย!” ชาลินหันไปชี้ลีโอพร้อมทำหน้าตาจับผิด
“มองฉันแบบนี้หมายความว่าไง?”
“นายได้ทำอะไรคุณยี่หวาหรือเปล่า”
“เปล๊า!”
“แน่ใจหรอ ทำไมต้องเสียงสูง” คนจับผิดเพื่อนแกล้งเดินเข้าไปใกล้ๆและมองเข้าไปยังในดวงตาคมเพื่อหาคำตอบ
พลั๊ก!
“ไม่ต้องใกล้ขนาดนี้ก็ได้” คนโดนจับผิดถึงกับต้องดันเพื่อนออกไปให้ห่าง เพราะกลัวว่าจะโดนจับได้
“ไม่มีอะไรทำไมต้องเลิ่กลั่กด้วย”
“เออ!นั่นดิ” เคลวินทำทีเข้ามาช่วยเสริม
“ไม่มีอะไรเว้ย! ไม่ต้องมาจับผิดกันเลย” แต่ผู้ต้องสงสัยก็ยังคงปากแข็งเหมือนเดิม
“อ่าๆ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากให้คุณยี่หวาต้องมาเสียท่าให้คนอย่างนายเหมือนกัน บอกตรงๆเลยว่าฉันรู้สึกถูกชะตากับเขาน่ะ
“เดี๋ยวๆ ไปถูกชะตาอะไรกับเขาตั้งแต่ตอนไหน แล้วก็อย่าบอกนะว่าเธอชอบผู้หญิงน่ะ ถึงว่า…”
“หยุดเลยนะเคววิน ฉันชอบผู้ชายเว้ย!”
“แล้วไปๆตกใจหมด ว่าแต่ผู้ชายที่ว่านี่ แบบฉันพอได้ป่ะ”
“แบบไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่นายสองคน…ไปทำงานดีกว่า เหม็นขี้หน้าพวกนายจะแย่” ชาลินทำท่ารังเกลียดเพื่อนสองคนแบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะหันหลังเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกไปทำงานของเธอต่อ
“มึงก็ชอบไปแกล้งมันนะเควิน”
“อย่างกับมึงไม่แกล้ง”
“กูนานๆทีจะแกล้งเหอะ”
“ก็ชาลินมันหน้าแกล้ง โมโหง่ายชิบ”
“ระวังจะได้กันเองนะพวกมึงน่ะ”
“มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ไหนเล่ามาสิเรื่องเมื่อคืน”
“ไม่มีอะไร” ลีโอยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง
“กูไม่เชื่อ”
“เรื่องของมึง”
“เล่าหน่อยน่า…นะ”
“ถ้ายังเร้าหรือ กูจะโทรหาลียาเดี๋ยวนี้”
“เฮ้ย!ใจเย็น จะโทรหาน้องมึงทำไม เออๆก็ไม่เซ้าซี้แล้วก็ได้ ไปดีกว่า” เคลวินรีบเดินจ้ำอ้าวเปิดประตูออกไปทันทีที่ลีโอพูดถึงไม้ตายบางอย่างที่เคลวินกลัวนักกลัวหนา
“หึ!ถามอยู่ได้ไอ้พวกนี้” ลีโอส่ายหน้าให้กับเพื่อนๆจอมวุ่นวายของเขา ถึงแม้ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่อยากจะเล่าอะไรให้ใครฟังถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ดี ใครจะไปเล่าให้ฟังว่าเขาไปเจออะไรดีๆมาบ้าง
อยู่ๆภาพใบหน้าใครบางคนก็ฉายเข้ามาในหัวของเขา ทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่เขาได้สัมผัสเมื่อคืนมันยังคงติดอยู่ที่ปลายประสาทไม่หายไปไหน
การที่เขาเคยได้ผ่านผู้หญิงมาแล้วหลายต่อหลายคน ไม่มีครั้งไหนเลยตื่นเต้นเท่าครั้งนี้มาก่อน ถึงแม้มันจะเป็นเพียงการสัมผัสกันแค่… แต่มันกลับทำให้เขาเกิดความต้องการอยู่หลายครั้งเมื่อได้นึกถึง และแน่นอน หากมีครั้งต่อไปเขาจะไม่ยอมให้เธอได้มีความสุขแค่เพียงฝ่ายเดียวแน่ๆ ครั้งหน้าต้องเป็นเขาที่ได้ปลดปล่อยบ้าง
“ฮึ! จะได้เจอกันอีกไหมนะ”ลีโอเอามือลูบที่คางตัวเองพรางนึกถึงแต่ใบหน้าของใครบางคน
“อ้าวๆ ฝั่งนั้นทำไมชนกันอยู่สองคนละครับ หันมาชนฝั่งนี้ด้วยก็ได้” เคลวินที่พอจะรู้อะไรๆขึ้นมาบ้างก็นึกอยากจะป่วนเพื่อน ไม่ว่าลีโอจะคุยจะทำอะไรก็แกล้งขัดเพื่อนไปเสียหมด “มาชนกับฉันนี่มาเคลวิน” “ไม่เอา เดี๋ยวเธอเมาให้ฉันเก็บอ้วกอีก” “เกินไป ไม่เคยเมาขนาดนั้นสักหน่อย” “อย่า อย่าให้ฉันพูด เดี๋ยวเธอจะอายนะ” เคลวินกับชาลินก็ยังคงเถียงกันไม่เลิกกับทุกเรื่อง จนทุกคนที่นั่งอยู่ในวงเริ่มจะชินกันไปหมด “สองคนนี้ดูสนิทกันจังนะคะ” ยี่หวาพยายามหาเรื่องคุยกับลีโอไปเรื่อยเพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากขึ้น “ครับ พวกเราสนิทกันมากพอสมควร” “น่ารักจังค่ะ” ยี่หวายิ้มและมองไปยังชาลินกับเคลวินที่ยังคงนั่งถกเถียงกันอยู่ โดยที่มีสายตาของลีโอจดจ้องมาที่เธออีกที ติ้ง!! เนเน่ : (นั่งตัวเกร็งเชียวนะ) ยี่หวากดอ่านข้อความไลน์ที่เนเน่ส่งมาแซว ยี่หวา : “งื๊ออ!! ตัวหอมมากแก จะละลายแล้ว” เนเน่ : (เก็บทรงดีๆหน่อยเดี๋ยวเสือตื่น อิอิ) ยี่หวา : “อย่าแซวสิ” เนเน่ : (ดูพี่เขาสิ มองแกตลอดเลยอ่ะ) ยี่หวาลองหันไปตามที่เนเน่พิมพ์บอกในไลน์ ก็เห็นว่าลีโอมองเธออ
หลังจากที่อวยพรวันเกิดให้ผู้จัดการไนต์คลับจบไปแล้วนั้น บรรยากาศภายในคลับก็กลับมาเข้าสู้โหมดปกติ โดยที่บนเวทีก็กลับมามีดีเจย์หนุ่มหล่อขึ้นมิกซ์เพลงแดนซ์ตามเดิม หลังจากที่จบการแสดงสดของนักร้องชื่อดังไปแล้ว “ไปเข้าห้องน้ำนานจังยี่หวา มาเลยมาเร่งรอบ” เฟรมยังคงทำหน้าที่ปลุกเร้าเพื่อนๆให้ดื่มกินตามประสาเธอเหมือนเดิม “เป็นอะไรไหมแก” เนเน่ที่สังเกตอาการผิดปกติของยี่หวาได้ก็กระซิบถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “เมานิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกกินต่อเถอะ” แม้จะพูดไปแบบนั้นแต่เธอรู้ดีว่าเพื่อนสนิทอย่างเนเน่ไม่มีทางที่จะดูไม่ออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ ภาพเหตุการณ์บนเวทีทำให้ยี่หวาที่ตอนแรกเริ่มได้ที่เพราะดีกรีของแอลกอฮอล์ไปพร้อมเพื่อนๆแล้ว กลับต้องมาส่างตาสว่างอีกครั้ง ภายในใจเธอยังคงคิดวนไปวนมาถึงแต่ความสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนั้นกับลีโอผู้ชายที่เธอรัก “นั่นชาลินหนิ” ในระหว่างที่เธอคิดอะไรวนไปวนมาเสียงของดรีมก็พูดขึ้นทำให้ยี่หวาต้องหันไปมองตามที่เพื่อนพยักเพยิดให้ดู และก็เห็นว่าเป็นชาลินที่กำลังเดินทักทายลูกค้าภายในร้านด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ในแบบของเธออยู่ “น่ารักเนาะ ตัวเล็กแต่โคตรเอ็ก
บรรดายี่หวาและเพื่อนๆต่างพูดคุยสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทุกคนต่างมีความสุขไปกับการดื่มกิน “วันนี้คนเยอะเนาะ” ยี่หวาที่คอยมองไปรอบๆอยู่ตลอดเอ่ยขึ้นลอยๆ “ใช่ จากที่เยอะอยู่แล้วแต่วันนี้หน้าจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันเกิดผู้จัดการที่นี่” ดรีม หนึ่งในเพื่อนสาวที่วันนี้เธอเป็นคนจองโต๊ะให้เพื่อนๆกล่าวขึ้น “ผู้จัดการที่นี่งั้นหรอ?” “อืม! วันเกิดชาลินผู้จัดการที่นี่น่ะ ตอนแรกฉันว่าจะจองโซนวีไอพีพวกเราจะได้เป็นส่วนตัว แต่ปรากฏว่าโซนนั้นปิดเพื่อจัดวันเกิดไปครึ่งนึง ส่วนที่เหลือก็มีลูกค้าจองหมดแล้ว ฉันเลยต้องให้แฟนฉันช่วยหาโต๊ะที่โซนธรรมดานี้ให้แทนน่ะ” “ดูท่าทางแกจะมาที่นี่บ่อยนะดรีม” “ไม่บ่อยได้ไง ก็แฟนมันเป็นเพื่อนกับเจ้าของที่นี่” “ฮ่ะ!จริงหรอดรีม” ยี่หวารู้สึกตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนมหาลัยของเธอ จะเป็นแฟนกับเพื่อนลีโอ “ใช่ พี่โอมเป็นเพื่อนพี่เคลวินพี่ลีโอน่ะ ตอนนี้ก็นั่งดื่มอยู่กับพวกเขาข้างบนนั่นแหละ” “แบบนี้นี่เอง…เอ่อ!แล้วเธอรู้ไหมว่าคนที่ชื่อชาลินเป็นอะไร
Lk club “อารมณ์ดีเชียวนะมึง ได้ไปปลดปล่อยมาละสิ” เสียงกวนๆของเคลวินเอ่ยแซวขึ้นในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน “ปลดปล่อยบ้าอะไร” “อ้าว!ก็วันนี้ไปกับบิวตี้มาไม่ใช่หรอ” “อืม! แต่ไม่ได้ไปต่อ” “เฮ่ย! จริงหรอว่ะ ไม่หน้าเชื่อ” เคลวินแสร้งทำหน้าตกอกตกใจเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนบอกว่ามันจะเป็นความจริง “มึงก็ทำหน้าทำตาโอเวอร์ไปนะ” “55 ก็มันจริงนี่หว่า เคยมีด้วยหรอไม่ไปต่อ หรือว่ามึงเบื่อแล้ว” “งั้นมั้ง หลังๆมาทำตัวหน้าเบื่อ” “มึงก็เลยจะโล๊ะทิ้ง ว่างั้น?” “ประมาณนั้น” “ใจร้ายฉิบ” “ฮึ! อย่างกับมึงไม่ทำ เวลาเจอคนไหนเริ่มล้ำเส้น” “เออ!ก็จริง” เคลวินนึกตามคำพูดของเพื่อนแล้วก็ต้องเออออไปด้วย จริงอยู่ว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนผู้หญิงกันบ่อยๆ แต่ผู้หญิงทุกคนที่พวกเขาควงด้วยทุกคนจะอยู่ในข้อตกลงที่ว่า เจอกันได้แค่ชั่วคราว แค่สนุกด้วยกันแล้วก็แยกย้าย ห้ามหึงหวงหรือแสดงความเป็นเจ้าของ และไม่ทำตัวให้หน้ารำคาญ ถ้าทำได้พวกเขาก็จะเก็บผู้หญิงคนนั้นไว้เล่นสนุกไปเรื่อยๆ ดูแลเรื่องเงินๆทองๆบ้างตามแต่เห็นสมควร แต่ถ้าคนไหนเริ่มที่จะเรียกร้องมา
ยี่หวามองหน้าผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วยความไม่พอใจ แต่เมื่อสังเกตุหน้าเธอดีๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนี้ เป็นคนเดียวกันกับคนที่เดินควงมากับลีโอเข้าไปในร้านอาหารนั่นเอง “เอ่อ! รุ่นนี้เหลือแค่สีละใบนะคะไม่รวมตัวโชว์” “แล้วยังไง? ก็ฉันตัดสินใจได้ก่อน” “แต่ว่า…เอ่อ!” พนักงานภายในร้านเกิดความอึดอัดใจทันที ที่ลูกค้าทั้งสองจ้องมองหน้ากัน คนหนึ่งมาก่อนและกำลังตัดสินใจ อีกคนมาทีหลังแต่ตัดสินใจได้ก่อน และดูแล้วทั้งคู่จะไม่มีใครยอมใครซะด้วย “ให้เขาไปเถอะค่ะ” แต่อยู่ๆยี่หวาที่ดูเหมือนจะไม่ยอมตอนแรกกลับบอกยอมยกกระเป๋าให้อีกคนง่ายๆ “ยี่หวา ทำไมยอมอ่ะ” “เอาน่า ฉันขี้เกลียดมีเรื่อง นี่มันในห้าง” ยี่หวาก้มลงกระซิบที่หูของเพื่อนถึงเหตุผลที่ยอมปล่อยไป “แล้วอีกอย่าง พี่ลีโออยู่ตรงนั้น ฉันยังไม่อยากแผลงฤทธิ์ให้เขาเห็นด้วย” “อ๋อ! กลัวเสือตื่นสินะ” เนเน่เหลือบไปมองที่หน้าร้านก็เห็นว่าลีโอยืนกอดอกมองมายังพวกเธออยู่ “คิก! ใช่” “ขอบคุณนะคะคุณยี่หวา” พนักงานก้มศีรษะให้ยี่หวาอย่างรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ไม่มีการเกิดศึกชิงกระเป๋าขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉัน
@ห้างxxx ยี่หวาและเนเน่พากันขับตรงมายังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้างที่พวกเธอคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพากันมาเดินเล่นเดินซื้อของหรือกินอาหารกันเป็นประจำที่นี่ รวมถึงมานั่งส่องหนุ่มๆด้วย “หาอะไรกินกันก่อนไหมเนเน่” “อืม! ดีเหมือนกันกำลังหิวเลย” “งั้นไปร้านเดิมกัน” “ดีเลย ฉันกำลังนึกอยากกินห่อหมกทะเลร้านนี้อยู่พอดี ไม่ได้กินนานแล้วด้วย” “ไปกัน” ทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปยังร้านอาหารไทยที่อยู่ในตัวห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่พวกเธอๆเข้าออกกันเป็นประจำเมื่อสมัยยังเป็นนักเรียน ด้วยว่าฐานะทางบ้านของยี่หวานั้นถือได้ว่ามีอันจะกินระดับนึง จึงไม่แปลกที่ลูกสาวคนเดียวจะมาหาทานข้าวในร้านอาหารอยู่บ่อยๆแทบจะอาทิตย์ละหลายๆครั้ง “บรรยากาศยังเหมือนเดิมเลยเนาะแก” เนเน่เดินนำยี่หวาเข้ามานั่งที่ประจำมุมโปรดของพวกเธอ “คิดถึงเมื่อก่อนจัง” “ดูนั่นสิ สถาบันกวดวิชานั่นยังอยู่ที่เดิมเลย มานั่งตรงนี้ทีไรใจกระชุ่มกระชวยทุกที คิก!” เนเน่พูดพลางทำท่าเอามือทาบอกมองไปที่สถาบันกวดวิชาชื่อดังที่มีนักเรียนหนุ่มๆม.ปลายนั่งติววิชาสำคัญๆกันอยู่







