Share

ยิ่งหนียิ่งเจอ

Author: light sky
last update Last Updated: 2025-10-03 18:43:10

4

ยิ่งหนียิ่งเจอ

 

ฉันไม่คิดว่าผู้ชายแบบนายตุ่นที่ดูห่ามๆ จะพูดคะขาเป็นกับเขาด้วย มีคนบอกไว้ว่าผู้ชายที่พูดคะขาถ้าไม่เป็นคนที่อบอุ่นมากก็เป็นคนที่เจ้าชู้มากเช่นกัน ซึ่งในกรณีแบบนี้นายตุ่นจัดอยู่ในประเภทหลังอย่างไม่มีข้อสงสัย ฉันไม่น่าไปสงสารเขาเลยจริงๆ

“ผมไปก่อนนะคุณ” นายตุ่นพูดขึ้นหลังจากฟาดอาหารบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยงอย่างที่ลั่นวาจาไว้ ฉันนี่อึ้งไปเลยตอนที่เห็นเขาสวาปาม สงสัยคงจะหิวจริงๆ นั่นแหละ

“นายจะกลับยังไง”

“เดี๋ยวเพื่อนมันมารับ ส่งไลน์ไปบอกมันแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคุณ”

“ใครห่วงนาย!” ฉันว่าเสียงเข้ม หมอนี่ต้องสอบตกวิชาภาษาไทยเรื่องการตีความแน่ๆ “แล้วทำไมไม่บอกเพื่อนนายตั้งแต่ทีแรก จะให้ฉันเลี้ยงข้าวนายทำไม”

“เพื่อนผมมันก็จน เมื่อวานมันยังไปแคะกระปุกซื้อมาม่าต้มกินอยู่เลย” นายตุ่นไหวไหล่เล็กน้อยราวกับเรื่องที่พูดมันเป็นเรื่องปกติ “แต่ผมดันไม่มีกระปุกให้แคะไง”

“พวกนายใช้ชีวิตกันได้ยังไง” ฉันถามเสียงฉงน ถ้าเป็นอย่างที่นายตุ่นบอกจริงๆ ก็ไม่แปลกที่เขาจะเขมือบอาหารสามสี่อย่างไปคนเดียวแบบนี้

“ก็อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้นี่แหละ”

“อืม” ฉันรับคำในลำคอก่อนจะเรียกพนักงานเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ฉันไม่ชอบอะไรที่มันหดหู่แบบนี้น่ะ พอฟังแล้วอดย้อนนึกถึงตัวเองไม่ได้ทุกที

“น้องคะเดี๋ยวขอข้าวผัดอะไรก็ได้ใส่กล่องมาซักสี่กล่องนะคะพร้อมเช็กบิลล์มาเลยนะคะ”

“คุณสั่งไปกินมื้อดึกเหรอ” นายตุ่นเลิกคิ้วถามขึ้นเมื่ออยู่กันสองคน

“เปล่า ฉันสั่งให้นายกับเพื่อนนาย ฉันจะบอกว่าพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน่ะมันไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าพวกนายไม่มีเงินจริงๆ ก็น่าจะซื้อพวกไข่ไก่มาทอด ส่วนข้าวก็ไปซื้อมาสักห้าบาทสิบบาทตามร้านอาหารตามสั่งอะ ฉันคิดว่าเขาคงขายให้นะ” ฉันขมวดคิ้วเพราะเริ่มไม่แน่ใจว่าพวกร้านอาหารเขาจะยอมแบ่งขายข้าวเปล่าทีละนิดหรือเปล่า

“ยุ่งยากจังคุณ แต่ก็เอาเถอะผมจะลองดู”

“อ่าหะ” ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วนั่งเงียบจนกว่าพนักงานจะเดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมข้าวกล่อง

“หนึ่งพันสามร้อยยี่สิบบาทครับ” ฉันหยิบเงินสดให้พนักงานไป เขาดูแปลกใจเล็กน้อยที่ฉันเป็นคนจ่ายในขณะคนที่ควรจะอายกลับหยิบไม้จิ้มฟันมาแคะฟันเฉย

เราสองคนออกจากร้านพร้อมกัน ในขณะนั้นก็มีรถบีเอ็มสีดำขับเข้ามาพร้อมกับเสียงเบรกรถดังเอี๊ยด ฉันย่นคิ้วเล็กน้อยกับเสียงของมันที่ชวนให้ปวดหัวพอๆ กับเสียงบิดมอเตอร์ไซค์ของพวกนักบิด

“ผมไปก่อนนะคุณ เพื่อนผมมาแล้ว”

“เพื่อน? ไหนนายบอกเพื่อนนายจนไง แต่ขับบีเอ็มนี่นะ” ฉันเลิกคิ้วถามเสียงสูง

“อ้อที่มันจนเพราะคืนก่อนดันไปทะเลาะกับคู่อริจนร้านเหล้าเขาพังอะเลยต้องชดเชยค่าเสียหาย” นายตุ่นพูดด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนในขณะที่ฉันเริ่มหน้าแดงก่ำเพราะความโมโห

“ไอ้บ้าเอ๊ย!” โดยที่นายตุ่นไม่ทันตั้งตัว ฉันปลดกระเป๋าที่คล้องบ่าเอาไว้จัดการเหวี่ยงไปที่หลังของเขาอย่างเต็มแรงแล้วยัดถุงข้าวกล่องใส่มือให้เขาแล้วรีบย่ำเท้าเดินออกมา

“คุณตีผมทำไม!” ฉันได้ยินนายตุ่นตะโกนไล่หลังมา แต่ฉันไม่สนใจหรอกยังเดินฉับๆ ไปที่รถแล้วเข้าไปนั่งก่อนจะสตาร์ตรถออกมาด้วยความเร็วค่อนข้างจะสูงตามแรงอารมณ์

ฉันจะไม่หลงสงสารผู้ชายคณะนี้อีกแล้ว!

 

Tun’ s part

“อะ เอาไป” ผมเปิดประตูรถก่อนจะโยนกล่องข้าวให้ไอ้ริที่รับไปอย่างมึนๆ

“อะไร”

“ข้าวไง”

“มึงซื้อ?” ไอ้ริเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ผู้หญิงคนที่เดินออกมาพร้อมกูอะซื้อให้” ผมตอบมันด้วยท่าทีหงุดหงิด ความเจ็บจากการโดนกระเป๋าราคาแพงนั่นฟาดเข้าสร้างความเจ็บใจให้ผมไม่น้อย

“นี่มึงเกาะผู้หญิงกินเหรอวะ”

“ไอ้ห่าน! กระเป๋าตังค์กูอยู่ในรถ”

“แล้วนี่พวกกูให้มึงไปจัดการกับคนที่ด่าคณะ ทำไมมึงถึงหายหัวแล้วโผล่มาอยู่ที่นี่ได้วะ หรือว่า...”

“เออ! ผู้หญิงคนนั้นแหละเป็นคนพูด แล้วไม่ต้องไปบอกพวกที่เหลือล่ะ เพราะกูจัดการเอาคืนยัยนั่นไปแล้ว” ผมกำชับเสียงจริงจัง

ที่จริงตอนนั้นผมกับพวกเพื่อนมาสุมหัวสูบบุหรี่กันอยู่ตรงนั้น พลันหูก็ไปได้ยินเสียงของผู้หญิงที่พูดเหมือนว่าไม่ชอบคณะผมเข้า ไอ้พวกนั้นได้ยินก็ร่ำๆ จะไปสั่งสอนในขณะที่ผมคัดค้านและอาสาขอไปเองเพราะผมดันจำเสียงผู้หญิงคนนั้นได้

“ไอ้พวกนั้นมันไม่ได้เคียดแค้นอะไรมากหรอก ยิ่งสวยแบบนั้นกูว่าพวกมันน่าจะสยบแทบเท้ามากกว่า แต่หน้าแม่งหยิ่งฉิบ เออแล้วทำไมถึงโดนคนสวยนั่นฟาดเอาวะ”

“กูก็ไม่รู้ว่ะ มือหนักฉิบ”

“สมน้ำหน้า!”

“มึงขับรถไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง”

 

รู้อะไรไหมว่าสองสามวันที่ผ่านมามันค่อนจะเงียบมากไปหน่อย ฉันใช้ชีวิตโดยสงบไม่มีสิ่งใดมารบกวนอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก นี่มันเข้าข่ายที่เขาเรียกกันว่าคลื่นใต้น้ำไหมนะ

คุณแม่โทรมาบอกฉันว่าคุณพ่อท่านยอมฉันแล้วจริงๆ ฉันสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ตามใจชอบและยังบอกว่าจะโอนเงินให้ฉันใช้เหมือนเดิมด้วย แปลก...คุณพ่อฉันเป็นคนดื้อรั้นและฉันได้นิสัยส่วนนี้มาค่อนข้างจะมาก มันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทำแบบนี้

นอกจากท่านมีแผนอะไรเอาไว้ในใจ

“ยางแบน!” ฉันโพล่งขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถ หลังจากวันนั้นฉันก็มาจอดรถที่คณะวิศวะเหมือนเดิมนี่แหละ แค่เปลี่ยนเป็นหลังตึกอื่นเท่านั้น

ฉันขมวดคิ้วเดินเวียนรอบรถเมื่อล้อทั้งสี่แบนอย่างจงใจเกินไป มีใครเล่นตลกกับฉันอีกเนี่ย คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่ ฉันคิดในใจพลางสาวเท้าไปยังบนตึกของคณะเพื่อดูกล้องวงจรปิด ยังไงฉันก็จะไม่อยู่เฉยแน่ๆ เล่นแกล้งกันกลางวันแสกๆ แบบนี้มันชักจะได้ใจเกินไปแล้ว

“ขอโทษนะคะ มีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องเล็กๆ ที่กั้นด้วยกระจกใส ภายในห้องนั้นมีจอมอร์นิเตอร์ที่กำลังฉายภาพวงจรปิดอยู่

“มีอะไรครับนักศึกษา” ลุงยามที่เฝ้าห้องอยู่ถามขึ้น

“คือพอดีรถหนูล้อมันแบนทั้งสี่ล้อเลยค่ะ หนูก็เลยคิดว่าอาจจะมีใครแกล้ง รบกวนช่วยเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดได้ไหมคะ”

“ช่วงเวลาไหนครับ”

“วันนี้ค่ะ ตอนประมาณเจ็ดนาฬิกาถึงสี่โมงเย็น ทะเบียนรถ พต 2468”

“รอสักครู่นะครับ”

ฉันพยักหน้าพึมพำขอบคุณเสียงเบาก่อนจะยืนอยู่บริเวณหน้าห้องนั่นแหละ สายตาก็สอดส่องผ่านกระจกใสเพื่อมองจอมอร์นิเตอร์ไปด้วย

หรือว่าคุณพ่อจะเป็นคนทำ...

ผ่านๆ ไปราวเกือบหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มหม่นเพราะความมืดเริ่มคืบคลาน ฉันยืนพิงกับผนังกระจกใสพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างรอคอยแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ แสดงออกมา

ฉันขมวดคิ้วจนย่นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนไม่น้อยแว่วเข้ามา ก่อนจะเจอกับบรรดานักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ลงมาจากตึกเรียน เสียงเกรียวกราวที่ดังจนฟังไม่ออกว่าเป็นของใครต่อของใครทำให้ฉันหรี่ตาแคบอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก

พอมองดีๆ ก็คล้ายกับเด็กช่างที่เตรียมยกพวกกันไปต่อยตีกันมากกว่า

“อ้าวคุณ มาดักรอผมเหรอ” เสียงยียวนดังขึ้นอย่างจงใจทำให้ฉันลอบถอนหายใจ ตั้งท่าว่าจะเบือนหน้าหนีแต่นายตุ่นกลับเดินเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าฉันเสียก่อน

“เปล่า” ฉันตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นอกจากความเบื่อหน่ายที่ต้องมาเจอหน้าผู้ชายคนนี้เท่านั้น ฉันยังเจ็บใจไม่หายเลยนะ

“หรือมาหาแฟน”

“นายลืมไปแล้วรึไงว่า...” ฉันไม่ชอบเด็กคณะนี้

ฉันกลืนคำประโยคต่อท้ายลงในลำคอเมื่อจู่ๆ นายตุ่นก็เข้ามาประชิดตัวแถมยังเอาแขนพาดไว้บนไหล่ฉันอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่หมอนี่ส่งสายตาดุให้มาประมาณบอกฉันให้เงียบพลางเชิดหางตาไปด้านหลังที่มีกลุ่มคนที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเขายืนแปลกใจกันอยู่

“โทษทีๆ ผมลืมไปว่าคุณไม่มีแฟน”

“=_=”

“ผู้หญิงเขาไม่ชอบให้พูดแบบนี้กันสินะ”

“ปล่อย!” ฉันว่าพร้อมกับสะบัดตัวออกจากแขนหนักนั่นพร้อมกับส่งตาขวางไปให้

“อย่าทำหน้าเหมือนผมแต๊ะอั๋งคุณได้ปะ”

“ก็เมื่อกี้นาย...”

“ถ้าเมื่อกี้เรียกว่าแต๊ะอั๋ง ผมคงแต๊ะอั๋งผู้หญิงทั้งคณะแล้วล่ะคุณ” น้ำเสียงขบขันดังขึ้นจากปากเข้มนั่น มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกติดบุหรี่ขนาดหนัก

“=___=”

“อ้อ แต่ถ้าตอนที่เราเจอกันที่บาร์ก็ว่าไปอย่าง”

“ไอ้...!” ฉันอ้าปากค้างอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่านายตุ่นจะพูดเรื่องคืนนั้นขึ้นมาอีก คืนที่ฉันลบมันออกจากความทรงจำไปแล้วแท้ๆ

“หืม? แกไปทำอะไรคุณคนสวยเขาวะ” ผู้ชายผิวขาวไว้ผมยาวกว่านายตุ่นพูดขึ้น

“คือข้าเผลอ...”

“อย่าพูดนะไอ้บ้า!”

ฉันโพล่งออกไปก่อนจะเตรียมฟาดหน้านายตุ่นด้วยกระเป๋าของฉันอีกครั้ง แต่นายนั่นดันรู้ทันรีบคว้ากระเป๋าฉันเอาไว้กระตุกเพียงนิดร่างของฉันก็ถลาไปข้างหน้าจนต้องรีบปล่อยกระเป๋าให้หลุดมือไปก่อนที่จะล้ม

“ถ้าคุณตีผมอีกผมแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายแน่ รอยที่คุณทำเอาไว้ที่หลังผมยังไม่หายเลย”

“รอยอะไรวะ คิสมาร์กเหรอ”

“คิสมาร์กป้าแกสิไอ้ขวาน รอยกระเป๋าที่ฟาดกูนี่แหละ” น้ำเสียงโมโหปนหงุดหงิดว่าขึ้นจนคนที่ชื่อขวานหน้าจ๋อยถอยร่นไป

“เอากระเป๋าฉันคืนมา!” ฉันแหวใส่

“ตอบผมมาก่อนว่ามาที่นี่ทำไมอีก” หมอนี่คงคิดว่าหลังจากวันนั้นฉันคงจะกลัวหัวหดจนไม่กล้ามาที่นี่อีกสินะ คิดผิดไปสิบชาติ - -

“ไม่ได้มาหานายก็แล้วกัน” ฉันว่าจบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ลุงยามเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะคงจ้องมองจอมอร์นิเตอร์นานเกินไป “ได้เรื่องอะไรไหมคะ”

“ไม่มีคนที่น่าสงสัยเลยครับ”

“ไม่มีเลยเหรอคะ”

“ครับ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตกกับคำยืนยันนั่น มันจะเป็นไปได้เหรอที่ล้อรถทั้งสี่มันจะพร้อมใจกันแบน ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว...

“ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหวลุงยามก่อนจะเลื่อนสายตามามองนายตุ่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “ขอกระเป๋าฉันคืนเถอะนะ”

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคุณ” หมอนั่นเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย

ฉันไม่ตอบก่อนจะใช้จังหวะที่นายตุ่นไม่ระวังตัวรีบกระชากกระเป๋าออกมาไว้กับตัวแล้วเดินดุ่มๆ ไปที่ลานจอดรถอีกครั้งอย่างไม่คิดแม้จะหันหลังกลับไปมองพวกนายตุ่นเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ตึกตัก...

      10ตึกตัก...ตึกตัก... “คุณพิมพ์คะ”“อีกแล้วเหรอคะ”ฉันร้องถามด้วยประโยคเดิมซ้ำๆ ทุกวันเมื่อทันทีที่ฉันย่างกรายมาในคอนโดหลังจากเลิกเรียนก็จะมีเสียงจากพนักงานเอ่ยเรียกชื่อฉันเอาไว้ฉันกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายสาวเท้าไปยังล็อบบี้ก่อนจะรับดอกไม้กุหลาบแบบเดิมที่ขยันส่งมาทุกวันอย่างรำคาญ การ์ดใบเล็กที่แนบไว้ถูกฉันเพิกเฉยอีกครั้งเมื่อมันมีแต่ข้อความชวนเลี่ยนจนฉันตัดสินใจว่าจะไม่เปิดอ่านมันให้เสียสายตาอีก“ไม่ได้บอกเขาเหรอคะว่าไม่ต้องส่งมาอีก”“บอกค่ะ”“แล้วได้บอกเขาไหมคะว่าดอกไม้ทุกช่อที่ส่งมานั้นพิมพ์โยนใส่ถังขยะทุกครั้ง”“บอกค่ะ”ผู้ชายดื้อด้าน...ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วจัดการทิ้งช่อดอกไม้ลงถังขยะอีกหนอย่างไม่รู้สึกเสียดายในความสวยของมันสักนิด‘พ่อยอมลูกแล้ว...แต่เหมือนว่าฝั่งนั้นเขาจะชอบลูกจริงๆ’คำพูดของบิดายังคงวนเวียนอยู่ในสมองเมื่อตอนที่ฉันต่อสายไปถามท่านว่าจู่ๆ คนที่ชื่อแทนอะไรนี่โผล่มาได้ยังไงกัน และคำตอบที่ได้มาทำให้ฉันเบ้ปาก ชอบฉ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ชัวร์ป้าบ!

    9ชัวร์ป้าบ!“ขอบคุณนะคุณที่มาส่ง” นายตุ่นพูดขึ้นเมื่อฉันพาเขามาเอารถที่คณะอีกครั้ง พอถามว่าทำไมไม่ขับรถของตัวเองไปตั้งแต่ทีแรกเขาก็ตอบกลับมาว่า‘เดี๋ยวคุณขับรถหนีผมไง กันไว้ก่อน’หนักใจกับผู้ชายคนนี้จริงๆ ...“ไม่เป็นไร” ฉันปรายตามองเขาแล้วบอกเสียงราบเรียบ ก่อนจะออกรถอีกครั้งถ้านายนั่นไม่วิ่งตามแล้วใช้มือเคาะท้ายรถฉันอะนะ“คุณๆ”“มีอะไร” ฉันเลื่อนกระจกรถลงก่อนจะถาม“ขอเบอร์ๆ” นายนั่นว่าพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลข“เพื่อ?” ฉันขมวดคิ้วจนย่น เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างสงสัยว่าเขาจะมาขอเบอร์ฉันทำไม จะว่าเกิดพิศวาสก็ไม่ใช่อีก ใครเขาพ่นคำกวนเบื้องล่างทุกสองนาทีแบบนี้กับคนที่ชอบกันล่ะ“เผื่อได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมไง”“นายจะตามเรื่องต่อเหรอ ฉันว่าไม่ต้องหรอก เสียเวลาเปล่าๆ”“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไงคุณ อีกอย่างมันก็เกิดที่คณะผมด้วย ถ้าเกิดคนทำมันไม่ได้เจาะจงที่คุณขึ้นมาล่ะ บางทีพวกมันอาจจะเล็งเด็กคณะผมอยู่ก็ได้นะ”“นายนี่ดูรักคณะจังนะ”“คณะใครใครก็รักไหมคุณ พูดแปลกๆ” นายตุ่นส่ายหน้าเอือมๆ “ตกลงจะให้ไหมเนี่ยเบอร์น่ะ หรือต้องไปถูเอาตามต้นไม้เหมือนขอหวย?”“จะไม่ให้เพราะปากแบบนี้ไง คนอะไรปากร้ายชะมั

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ว่างมั้ยคุณ?

    8 ว่างไหมคุณ? วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันกลับมาอ่านหนังสือกับเพื่อนกลุ่มเดิม บรรยากาศมันค่อนข้างจะดีกว่าที่ฉันคิดไว้มากพอสมควรเลยล่ะ ความอึดอัดที่ฉันมีต่อยูเริ่มน้อยลงอาจจะเป็นเพราะเราแต่ละคนต่างสนใจกับตำราเรียนจนลืมคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาก็เป็นได้ แต่ในทางกลับกันวันใดที่มีพี่คิมมาช่วยติวด้วยฉันกลับรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกที ฉันสามารถสัมผัสถึงสายตาที่เขาคอยจ้องมองฉันอยู่เสมอแม้ว่าฉันจะไม่ได้มองหรือคุยกับเขาก็ตาม เหมือนอย่างวันนี้ “น้องพิมพ์” ฉันหยุดกึกทันทีเมื่อเจอพี่คิมยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ฉันเงยหน้าไปมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแม้นัยน์ตาจะสั่นไหวไปด้วยความตื่นตระหนกก็ตาม “มีอะไรเหรอคะ” ฉันถามพลางเหลือบมองซ้ายขวาอย่างหาทางเอาตัวรอด “พิมพ์ยังไม่เลิกหายกลัวพี่เหรอครับ” “....” “พี่ไม่ได้คิดร้ายกับพิมพ์จริงๆ นะคะ” “ค่ะ” ฉันรับคำอย่างขอไปที ตั้งใจว่าจะเดินเลี่ยงแต่ร่างสูงกลับเดินตามมาขวางทำให้ฉันต้องร่นเท้าถอยหลังทันที “พี่คิมมีอะไรก็บอกมาตรงๆ ดีกว่าค่ะ” “พี่...พี่ชอบน้องพิมพ์” “...” “น้องพิมพ์ไม่ได้ตกใจเลยเหรอครับ” “นิดหนึ่ง...มั้งคะ” ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายอ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   คนร้าย

    7คนร้ายฉันก้าวฉับๆ เดินเข้ามาในบ้านของตัวเองที่ยังคงเงียบเชียบแม้ว่าจะมีการ์ดและแม่บ้านอยู่กันหลายคนก็ตาม คนแรกที่ฉันเจอหน้าก็คือป้าสายใจที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากห้องครัวมาหาฉันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแสดงออกถึงความดีใจแม้ว่าฉันจะออกจากบ้านนี้ไปยังไม่ถึงสองอาทิตย์ดีก็ตาม“คุณหนูของป้า จะกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่ไหมคะ”“เปล่าหรอกค่ะ” พูดเสร็จป้าสายใจก็หน้าสลดขึ้นมาอย่างผิดหวัง ฉันก็ได้แต่ลูบหลังท่านอย่างปลอบประโลม “คุณพ่ออยู่ไหมคะ”“โรงพยาบาลโทรตามให้ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะค่ะ ส่วนคุณผู้หญิงก็ไปทำงานเมื่อเช้านี่เอง”ทางสะดวก...“งั้นเดี๋ยวพิมพ์ขึ้นไปเอาของบนห้องก่อนนะคะ”“คุณหนูจะรับอะไรไหมคะ ของว่างดีไหม”“ไม่ล่ะค่ะ พิมพ์กะว่าจะเข้ามาเอาของแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” ฉันบอกแล้วคลี่ยิ้มให้ป้าสายใจก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาบันไดมายังชั้นสองและแทนที่ฉันจะเลี้ยวซ้ายไปยังห้องนอนของตัวเอง ฉันกลับตัดสินใจเลี้ยวขวาเดินดุ่มไปยังห้องทำงานของคุณพ่อ โชคดีที่ประตูไม่ล็อกทำให้ฉันสามารถเข้าไปข้างในได้ก่อนจะกวาดมองไปทั่วห้องอย่างนึกคิดถึง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาบางครั้งฉันมักจะคิดถึงคุณพ่อคุณแม

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   หลง...?

    6หลง...?“ขอบใจนะแบงค์ที่มารับ” ฉันว่าขึ้นเมื่อพาตัวเองมาอยู่ในรถเก๋งของเพื่อนที่ฉันโทรวานให้มารับให้ไปเรียนด้วยกัน“ไม่เป็นไรหรอก แล้วรถอะเรียกช่างมาแล้วใช่ไหม”“เรียกแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นก็คงได้แล้วแหละ”“อ่าหะ”“ช่วงนี้อ่านหนังสือที่ไหนเหรอ ว่างๆ มาอ่านด้วยกันสิ”“พอดียุ่งๆ น่ะ ถ้าว่างวันไหนค่อยโทรไปนะ”แล้วภายในรถก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมามีเพียงเสียงคนพูดข่าวในวิทยุช่วงเช้าเท่านั้นที่ไม่ทำให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป ใช้เวลาไม่นานนักรถของแบงค์ก็ขับมาจอดที่หน้าตึกเรียน“พิมพ์ขึ้นไปเรียนก่อน เดี๋ยวเราเอารถไปจอด”“ขอบใจนะ”ฉันกล่าวอีกครั้งก่อนจะเดินลงมาจากรถ เวลาเหลืออีกประมาณยี่สิบนาทีกว่าจะถึงแปดโมงฉันจึงเดินไปหาอะไรกินที่เซเว่นก่อนจะขึ้นไปยังห้องเรียน“คุณครับ” ฉันชะงักเท้าเมื่อมีผู้ชายในชุดกาวน์มายืนอยู่ตรงหน้า ด้วยความที่ดูจากเครื่องแต่งกายแล้วฉันจึงยกมือไหว้เขาอย่างเสียไม่ได้ถึงเขาจะเป็นผู้ชายเมื่อคืนก็เถอะ“เมื่อคืนผมไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรคุณนะครับ”“ค่ะ” ฉันรับคำอย่างขอไปที ถึงเขาจะเป็นรุ่นพี่แต่การที่ไปโผล่คณะของคนอื่นกลางดึกมันเป็นสิ่งที่น่าแปลกไม่ใช่หรือไง“ที่ผมตามคุณไปเพราะผมเห็

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ไปส่งปะล่ะ

    5ไปส่งปะล่ะ?เสียงแตรรถที่ดังขึ้นทำให้ฉันละสายตาจากโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถ เขาส่งยิ้มให้มาให้ฉันอย่างจริงใจในขณะที่ฉันทำเพียงแค่หรี่ตาเท่านั้น“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”“ไม่ค่ะ” ฉันตอบแทบจะทันทีหลังจากนั้นก็ก้มหน้ากดหาเลขอู่รถแถวนี้ “สวัสดีค่ะพอดีรถยางแบนน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะสะดวกมาเปลี่ยนให้ไหมคะที่ลานจอดรถตึก X คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.K ค่ะ”“ขอโทษด้วยนะครับพอดีว่าช่างของเราเลิกงานกันหมดแล้ว ถ้ายังไงขอเป็นพรุ่งนี้เช้าได้ไหมครับ” ฉันกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดกับคำตอบที่ได้รับ บางทีฉันอาจจะไปขอนอนกับเพื่อนที่หอพักของนักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยก็เป็นได้“ได้ค่ะ” หลังจากนั้นฉันก็บอกรายละเอียดข้อมูลไปก่อนจะกดวางสายฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจ้องมองอยู่ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อตอนเหลือบตาขึ้นไปมองก็เห็นผู้ชายคนเดิมยังคงนั่งอยู่ในรถ คราวนี้ฉันรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลสักเท่าไหร่นัก พอมองซ้ายมองขวาก็รับรู้ถึงความเปลี่ยววังเวงขึ้นมา“คุณไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมมาดีแค่เห็นว่ารถคุณยางแบนก็เท่านั้น”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันโทรเรียกช่างแล้ว” ฉันตอบอย่างขอไปที“ป่านนี้แล้วยังมีอู่เปิดอีกเหรอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status