Share

บทที่ 5

Penulis: light sky
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-03 18:43:10

4

ยิ่งหนียิ่งเจอ

ฉันไม่คิดว่าผู้ชายแบบนายตุ่นที่ดูห่ามๆ จะพูดคะขาเป็นกับเขาด้วย มีคนบอกไว้ว่าผู้ชายที่พูดคะขาถ้าไม่เป็นคนที่อบอุ่นมากก็เป็นคนที่เจ้าชู้มากเช่นกัน ซึ่งในกรณีแบบนี้นายตุ่นจัดอยู่ในประเภทหลังอย่างไม่มีข้อสงสัย ฉันไม่น่าไปสงสารเขาเลยจริงๆ

“ผมไปก่อนนะคุณ” นายตุ่นพูดขึ้นหลังจากฟาดอาหารบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยงอย่างที่ลั่นวาจาไว้ ฉันนี่อึ้งไปเลยตอนที่เห็นเขาสวาปาม สงสัยคงจะหิวจริงๆ นั่นแหละ

“นายจะกลับยังไง”

“เดี๋ยวเพื่อนมันมารับ ส่งไลน์ไปบอกมันแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคุณ”

“ใครห่วงนาย!” ฉันว่าเสียงเข้ม หมอนี่ต้องสอบตกวิชาภาษาไทยเรื่องการตีความแน่ๆ “แล้วทำไมไม่บอกเพื่อนนายตั้งแต่ทีแรก จะให้ฉันเลี้ยงข้าวนายทำไม”

“เพื่อนผมมันก็จน เมื่อวานมันยังไปแคะกระปุกซื้อมาม่าต้มกินอยู่เลย” นายตุ่นไหวไหล่เล็กน้อยราวกับเรื่องที่พูดมันเป็นเรื่องปกติ “แต่ผมดันไม่มีกระปุกให้แคะไง”

“พวกนายใช้ชีวิตกันได้ยังไง” ฉันถามเสียงฉงน ถ้าเป็นอย่างที่นายตุ่นบอกจริงๆ ก็ไม่แปลกที่เขาจะเขมือบอาหารสามสี่อย่างไปคนเดียวแบบนี้

“ก็อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้นี่แหละ”

“อืม” ฉันรับคำในลำคอก่อนจะเรียกพนักงานเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ฉันไม่ชอบอะไรที่มันหดหู่แบบนี้น่ะ พอฟังแล้วอดย้อนนึกถึงตัวเองไม่ได้ทุกที

“น้องคะเดี๋ยวขอข้าวผัดอะไรก็ได้ใส่กล่องมาซักสี่กล่องนะคะพร้อมเช็กบิลล์มาเลยนะคะ”

“คุณสั่งไปกินมื้อดึกเหรอ” นายตุ่นเลิกคิ้วถามขึ้นเมื่ออยู่กันสองคน

“เปล่า ฉันสั่งให้นายกับเพื่อนนาย ฉันจะบอกว่าพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน่ะมันไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าพวกนายไม่มีเงินจริงๆ ก็น่าจะซื้อพวกไข่ไก่มาทอด ส่วนข้าวก็ไปซื้อมาสักห้าบาทสิบบาทตามร้านอาหารตามสั่งอะ ฉันคิดว่าเขาคงขายให้นะ” ฉันขมวดคิ้วเพราะเริ่มไม่แน่ใจว่าพวกร้านอาหารเขาจะยอมแบ่งขายข้าวเปล่าทีละนิดหรือเปล่า

“ยุ่งยากจังคุณ แต่ก็เอาเถอะผมจะลองดู”

“อ่าหะ” ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วนั่งเงียบจนกว่าพนักงานจะเดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมข้าวกล่อง

“หนึ่งพันสามร้อยยี่สิบบาทครับ” ฉันหยิบเงินสดให้พนักงานไป เขาดูแปลกใจเล็กน้อยที่ฉันเป็นคนจ่ายในขณะคนที่ควรจะอายกลับหยิบไม้จิ้มฟันมาแคะฟันเฉย

เราสองคนออกจากร้านพร้อมกัน ในขณะนั้นก็มีรถบีเอ็มสีดำขับเข้ามาพร้อมกับเสียงเบรกรถดังเอี๊ยด ฉันย่นคิ้วเล็กน้อยกับเสียงของมันที่ชวนให้ปวดหัวพอๆ กับเสียงบิดมอเตอร์ไซค์ของพวกนักบิด

“ผมไปก่อนนะคุณ เพื่อนผมมาแล้ว”

“เพื่อน? ไหนนายบอกเพื่อนนายจนไง แต่ขับบีเอ็มนี่นะ” ฉันเลิกคิ้วถามเสียงสูง

“อ้อที่มันจนเพราะคืนก่อนดันไปทะเลาะกับคู่อริจนร้านเหล้าเขาพังอะเลยต้องชดเชยค่าเสียหาย” นายตุ่นพูดด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนในขณะที่ฉันเริ่มหน้าแดงก่ำเพราะความโมโห

“ไอ้บ้าเอ๊ย!” โดยที่นายตุ่นไม่ทันตั้งตัว ฉันปลดกระเป๋าที่คล้องบ่าเอาไว้จัดการเหวี่ยงไปที่หลังของเขาอย่างเต็มแรงแล้วยัดถุงข้าวกล่องใส่มือให้เขาแล้วรีบย่ำเท้าเดินออกมา

“คุณตีผมทำไม!” ฉันได้ยินนายตุ่นตะโกนไล่หลังมา แต่ฉันไม่สนใจหรอกยังเดินฉับๆ ไปที่รถแล้วเข้าไปนั่งก่อนจะสตาร์ตรถออกมาด้วยความเร็วค่อนข้างจะสูงตามแรงอารมณ์

ฉันจะไม่หลงสงสารผู้ชายคณะนี้อีกแล้ว!

Tun’ s part

“อะ เอาไป” ผมเปิดประตูรถก่อนจะโยนกล่องข้าวให้ไอ้ริที่รับไปอย่างมึนๆ

“อะไร”

“ข้าวไง”

“มึงซื้อ?” ไอ้ริเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ผู้หญิงคนที่เดินออกมาพร้อมกูอะซื้อให้” ผมตอบมันด้วยท่าทีหงุดหงิด ความเจ็บจากการโดนกระเป๋าราคาแพงนั่นฟาดเข้าสร้างความเจ็บใจให้ผมไม่น้อย

“นี่มึงเกาะผู้หญิงกินเหรอวะ”

“ไอ้ห่าน! กระเป๋าตังค์กูอยู่ในรถ”

“แล้วนี่พวกกูให้มึงไปจัดการกับคนที่ด่าคณะ ทำไมมึงถึงหายหัวแล้วโผล่มาอยู่ที่นี่ได้วะ หรือว่า...”

“เออ! ผู้หญิงคนนั้นแหละเป็นคนพูด แล้วไม่ต้องไปบอกพวกที่เหลือล่ะ เพราะกูจัดการเอาคืนยัยนั่นไปแล้ว” ผมกำชับเสียงจริงจัง

ที่จริงตอนนั้นผมกับพวกเพื่อนมาสุมหัวสูบบุหรี่กันอยู่ตรงนั้น พลันหูก็ไปได้ยินเสียงของผู้หญิงที่พูดเหมือนว่าไม่ชอบคณะผมเข้า ไอ้พวกนั้นได้ยินก็ร่ำๆ จะไปสั่งสอนในขณะที่ผมคัดค้านและอาสาขอไปเองเพราะผมดันจำเสียงผู้หญิงคนนั้นได้

“ไอ้พวกนั้นมันไม่ได้เคียดแค้นอะไรมากหรอก ยิ่งสวยแบบนั้นกูว่าพวกมันน่าจะสยบแทบเท้ามากกว่า แต่หน้าแม่งหยิ่งฉิบ เออแล้วทำไมถึงโดนคนสวยนั่นฟาดเอาวะ”

“กูก็ไม่รู้ว่ะ มือหนักฉิบ”

“สมน้ำหน้า!”

“มึงขับรถไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง”

รู้อะไรไหมว่าสองสามวันที่ผ่านมามันค่อนจะเงียบมากไปหน่อย ฉันใช้ชีวิตโดยสงบไม่มีสิ่งใดมารบกวนอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก นี่มันเข้าข่ายที่เขาเรียกกันว่าคลื่นใต้น้ำไหมนะ

คุณแม่โทรมาบอกฉันว่าคุณพ่อท่านยอมฉันแล้วจริงๆ ฉันสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ตามใจชอบและยังบอกว่าจะโอนเงินให้ฉันใช้เหมือนเดิมด้วย แปลก...คุณพ่อฉันเป็นคนดื้อรั้นและฉันได้นิสัยส่วนนี้มาค่อนข้างจะมาก มันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทำแบบนี้

นอกจากท่านมีแผนอะไรเอาไว้ในใจ

“ยางแบน!” ฉันโพล่งขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถ หลังจากวันนั้นฉันก็มาจอดรถที่คณะวิศวะเหมือนเดิมนี่แหละ แค่เปลี่ยนเป็นหลังตึกอื่นเท่านั้น

ฉันขมวดคิ้วเดินเวียนรอบรถเมื่อล้อทั้งสี่แบนอย่างจงใจเกินไป มีใครเล่นตลกกับฉันอีกเนี่ย คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่ ฉันคิดในใจพลางสาวเท้าไปยังบนตึกของคณะเพื่อดูกล้องวงจรปิด ยังไงฉันก็จะไม่อยู่เฉยแน่ๆ เล่นแกล้งกันกลางวันแสกๆ แบบนี้มันชักจะได้ใจเกินไปแล้ว

“ขอโทษนะคะ มีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องเล็กๆ ที่กั้นด้วยกระจกใส ภายในห้องนั้นมีจอมอร์นิเตอร์ที่กำลังฉายภาพวงจรปิดอยู่

“มีอะไรครับนักศึกษา” ลุงยามที่เฝ้าห้องอยู่ถามขึ้น

“คือพอดีรถหนูล้อมันแบนทั้งสี่ล้อเลยค่ะ หนูก็เลยคิดว่าอาจจะมีใครแกล้ง รบกวนช่วยเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดได้ไหมคะ”

“ช่วงเวลาไหนครับ”

“วันนี้ค่ะ ตอนประมาณเจ็ดนาฬิกาถึงสี่โมงเย็น ทะเบียนรถ พต 2468”

“รอสักครู่นะครับ”

ฉันพยักหน้าพึมพำขอบคุณเสียงเบาก่อนจะยืนอยู่บริเวณหน้าห้องนั่นแหละ สายตาก็สอดส่องผ่านกระจกใสเพื่อมองจอมอร์นิเตอร์ไปด้วย

หรือว่าคุณพ่อจะเป็นคนทำ...

ผ่านๆ ไปราวเกือบหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มหม่นเพราะความมืดเริ่มคืบคลาน ฉันยืนพิงกับผนังกระจกใสพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างรอคอยแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ แสดงออกมา

ฉันขมวดคิ้วจนย่นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนไม่น้อยแว่วเข้ามา ก่อนจะเจอกับบรรดานักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ลงมาจากตึกเรียน เสียงเกรียวกราวที่ดังจนฟังไม่ออกว่าเป็นของใครต่อของใครทำให้ฉันหรี่ตาแคบอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก

พอมองดีๆ ก็คล้ายกับเด็กช่างที่เตรียมยกพวกกันไปต่อยตีกันมากกว่า

“อ้าวคุณ มาดักรอผมเหรอ” เสียงยียวนดังขึ้นอย่างจงใจทำให้ฉันลอบถอนหายใจ ตั้งท่าว่าจะเบือนหน้าหนีแต่นายตุ่นกลับเดินเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าฉันเสียก่อน

“เปล่า” ฉันตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นอกจากความเบื่อหน่ายที่ต้องมาเจอหน้าผู้ชายคนนี้เท่านั้น ฉันยังเจ็บใจไม่หายเลยนะ

“หรือมาหาแฟน”

“นายลืมไปแล้วรึไงว่า...” ฉันไม่ชอบเด็กคณะนี้

ฉันกลืนคำประโยคต่อท้ายลงในลำคอเมื่อจู่ๆ นายตุ่นก็เข้ามาประชิดตัวแถมยังเอาแขนพาดไว้บนไหล่ฉันอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่หมอนี่ส่งสายตาดุให้มาประมาณบอกฉันให้เงียบพลางเชิดหางตาไปด้านหลังที่มีกลุ่มคนที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเขายืนแปลกใจกันอยู่

“โทษทีๆ ผมลืมไปว่าคุณไม่มีแฟน”

“=_=”

“ผู้หญิงเขาไม่ชอบให้พูดแบบนี้กันสินะ”

“ปล่อย!” ฉันว่าพร้อมกับสะบัดตัวออกจากแขนหนักนั่นพร้อมกับส่งตาขวางไปให้

“อย่าทำหน้าเหมือนผมแต๊ะอั๋งคุณได้ปะ”

“ก็เมื่อกี้นาย...”

“ถ้าเมื่อกี้เรียกว่าแต๊ะอั๋ง ผมคงแต๊ะอั๋งผู้หญิงทั้งคณะแล้วล่ะคุณ” น้ำเสียงขบขันดังขึ้นจากปากเข้มนั่น มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกติดบุหรี่ขนาดหนัก

“=___=”

“อ้อ แต่ถ้าตอนที่เราเจอกันที่บาร์ก็ว่าไปอย่าง”

“ไอ้...!” ฉันอ้าปากค้างอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่านายตุ่นจะพูดเรื่องคืนนั้นขึ้นมาอีก คืนที่ฉันลบมันออกจากความทรงจำไปแล้วแท้ๆ

“หืม? แกไปทำอะไรคุณคนสวยเขาวะ” ผู้ชายผิวขาวไว้ผมยาวกว่านายตุ่นพูดขึ้น

“คือข้าเผลอ...”

“อย่าพูดนะไอ้บ้า!”

ฉันโพล่งออกไปก่อนจะเตรียมฟาดหน้านายตุ่นด้วยกระเป๋าของฉันอีกครั้ง แต่นายนั่นดันรู้ทันรีบคว้ากระเป๋าฉันเอาไว้กระตุกเพียงนิดร่างของฉันก็ถลาไปข้างหน้าจนต้องรีบปล่อยกระเป๋าให้หลุดมือไปก่อนที่จะล้ม

“ถ้าคุณตีผมอีกผมแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายแน่ รอยที่คุณทำเอาไว้ที่หลังผมยังไม่หายเลย”

“รอยอะไรวะ คิสมาร์กเหรอ”

“คิสมาร์กป้าแกสิไอ้ขวาน รอยกระเป๋าที่ฟาดกูนี่แหละ” น้ำเสียงโมโหปนหงุดหงิดว่าขึ้นจนคนที่ชื่อขวานหน้าจ๋อยถอยร่นไป

“เอากระเป๋าฉันคืนมา!” ฉันแหวใส่

“ตอบผมมาก่อนว่ามาที่นี่ทำไมอีก” หมอนี่คงคิดว่าหลังจากวันนั้นฉันคงจะกลัวหัวหดจนไม่กล้ามาที่นี่อีกสินะ คิดผิดไปสิบชาติ - -

“ไม่ได้มาหานายก็แล้วกัน” ฉันว่าจบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ลุงยามเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะคงจ้องมองจอมอร์นิเตอร์นานเกินไป “ได้เรื่องอะไรไหมคะ”

“ไม่มีคนที่น่าสงสัยเลยครับ”

“ไม่มีเลยเหรอคะ”

“ครับ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตกกับคำยืนยันนั่น มันจะเป็นไปได้เหรอที่ล้อรถทั้งสี่มันจะพร้อมใจกันแบน ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว...

“ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหวลุงยามก่อนจะเลื่อนสายตามามองนายตุ่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “ขอกระเป๋าฉันคืนเถอะนะ”

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคุณ” หมอนั่นเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย

ฉันไม่ตอบก่อนจะใช้จังหวะที่นายตุ่นไม่ระวังตัวรีบกระชากกระเป๋าออกมาไว้กับตัวแล้วเดินดุ่มๆ ไปที่ลานจอดรถอีกครั้งอย่างไม่คิดแม้จะหันหลังกลับไปมองพวกนายตุ่นเลยแม้แต่น้อย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 60

    “พิมพ์ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก” คุณแม่ปรามฉันซึ่งว่ากันตามตรงคนที่ท่านควรห้ามปรามคือคุณพ่อเสียมากกว่า “พิมพ์ใจร้อนตรงไหนคะ พิมพ์แค่บอกว่าพิมพ์จะไม่แต่งงานกับพี่แทน พิมพ์ไม่ได้รักพี่แทน เลิกเอาความรักกับธุรกิจมาเกี่ยวข้องกันสักทีเถอะค่ะ” “ลูกชายป้าทำหนูพิมพ์ไม่พอใจหรือเปล่า บอกป้ามาได้เลยนะเดี๋ยวป้าจะจัดใ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 59

    32 เร่งรัด Tun’s part หลังจากเคลียร์กับนุ่นเสร็จผมก็รีบเดินลงมาหาพิมพ์เขาที่ร้านกาแฟ ผมไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกโอเคหรือเปล่าที่ต้องมาเจอกับนุ่นแบบนั้น ภายนอกเธออาจจะดูแข็งกร้าวแต่ทว่าตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาผมสัมผัสได้ว่าเนื้อในเธอเปราะบางมาก เท้าของผมชะงักเมื่อเดินเข้าไปร้านแล้วสายตาของผมก็พลันเข

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 58

    “ให้นุ่นเน่าไปนอนกอดสักคืนดีไหม?” “ที่รัก” น้ำเสี่ยงเลี่ยนๆ ที่มาพร้อมกับมือหนาที่วางไว้บนเอวของฉันอย่างพอดิบพอดีทำให้ฉันนึกอยากจะถลึงตาใส่นายตุ่นนักแต่ก็ทำได้เพียงแสร้งกรีดยิ้มหวานกลับไปเท่านั้น “มาแล้วเหรอคะ” ฉันพูดเพราะใส่เขาเสร็จ คิ้วเข้มนั่นก็เลิกขึ้นทันทีในขณะที่ฉันก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ “ภ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 57

    31 นุ่นเน่าๆ คำตอบที่แสนจะจริงจังของเขาทำเอาฉันนิ่งค้างไปอย่างนึกทั้งอายทั้งโกรธขึ้นมา นึกอยากจะตะบันหน้าที่ยิ้มกริ่มของเขาตอนนี้ยิ่งนัก “ล้อเล่นน่าคุณ ซีเรียสไปได้” นายตุ่นว่าอย่างไม่จริงจังนักพลางยกนิ้วโป้งลงมาทาบบนระหว่างคิ้วของฉันแล้วคลึงเบาๆ “ก็หน้านายเหมือนว่าจะเอาจริงนี่” “เผื่อฟลุ๊กคุณต

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 56

    “โหหอมจัง!” ฉันที่ทำท่าจะอ้าปากถามเขาจำต้องปิดปากพลันเมื่อคนตัวสูงแสร้งโพล่งออกมาเพื่อต้องการเปลี่ยนเรื่องอย่างตั้งใจ ฉันสูดลมหายใจลึกพลางนึกรอว่าให้ทานอาหารเสร็จก่อนแล้วค่อยเค้นปากร่างสูงเอาก็ได้ ที่จริงฉันกะว่าจะปล่อยเลยตามเลยแต่แววตาของนายตุ่นมันทำให้ฉันฉุกคิดได้ว่าเรื่องที่เขาต้องการจะปิดบังฉัน

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   บทที่ 55

    30 จริงจังกันไหม? “สวัสดีครับแม่” นายตุ่นยกมือไหว้ผู้หญิงวัยกลางคนที่เขาเรียกว่าแม่ ท่านกำลังรดน้ำต้นไม้ตามที่นายตุ่นบอกจริงด้วย “สวัสดีค่ะคุณน้า” ฉันยกมือไหว้ท่านอีกคน “อ้าวตุ่น มานี่ทำไมไม่บอกแม่หึ” คุณน้าละจากต้นไม้หมุนตัวมาทางเราพลางถามคำถามลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก “เซอร์ไพรส์ไหมล่ะครับ” “

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status