LOGINไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้สองเท้าของฉันก็ยืนอยู่หน้าหอพักของตัวเองแล้ว
ไม่รู้ว่าส้มหวานอยากจับคู่ฉันกับฉลามดุอะไรขนาดนั้น เธอพยายามผลักดันฉันให้ลงไปข้างล่างด้วยตัวเองให้ได้เลย ในขณะที่ตัวเองก็นอนเล่นโน๊ตบุ้คอย่างสบายใจ
ให้ตายสิ นี่ส้มไม่รู้เลยรึไงนะว่าฉันโดนเขาโกรธอยู่น่ะ
เขาอยู่นั่นแล้ว ตรงลานจอดรถข้างหน้าตึกใกล้ป้อมยามนี่เอง
ฉันเม้มริมฝีปาก ตัดสินใจยืนแอบอยู่ข้างๆ เสาข้างหน้าหออย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อทันทีที่ลงไปก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกับรถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้นเคย ฉลามดุสูบบุหรี่อีกแล้ว เขานั่งหันเสี้ยวหน้าด้านข้างมาทางที่ฉันยืนอยู่ ร่างสูงเสยผมขึ้น แล้วเริ่มพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างเงียบเชียบ
ฉันค่อยๆ โผล่หน้าออกไป แล้วก็เป็นจังหวะที่ร่างสูงหันมามองทางนี้พอดี
ทันทีที่เห็นเขาก็กวักมือเรียกฉันให้เดินเข้ามาหา แล้วทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นในวินาทีนั้น
ฉันอึกอักนิดหน่อยเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะยังโกรธหรือน้อยใจฉันอยู่รึเปล่า แต่พอเดินเข้าไปใกล้ตัวร่างสูงที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ข้อมือของฉันก็ถูกคว้าไปใกล้เขาอีกนิดอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อะ... ปล่อยนะ” ฉันตกใจและดันเขาออกทันที ในขณะที่เงยหน้ามองฉลามดุในความมืด มันมีแค่แสงไฟจากถนนข้างหน้าเท่านั้น ฉันก็เลยเห็นไม่ชัดว่าเขากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่
จนกระทั่งทั้งตัวของฉันถูกเขาโอบเข้ามาใกล้และถูกกอดเอาไว้แน่นโดยที่คนกระทำไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ
ฉันเบิกตากว้าง พยายามดันเขาออกอีกรอบแต่ก็ไม่เป็นผล เลยได้แต่พูดเสียงสั่นๆ ออกไปแทน “นะ... นี่”
“เราหนาว” แต่คำสั้นๆ ของเขากลับทำให้ฉันชะงักไปอย่างไม่เข้าใจ “แล้วก็น้อยใจนิดหน่อย”
นะ... น้อยใจ?
“...”
“เธอโกรธเรารึเปล่า... ที่วันนี้เราไม่ได้ไปรับ” ฉันนิ่งไปเมื่อได้ยินฉลามดุถาม และสั่นหน้าเบาๆ ในอ้อมแขนของเขา “แต่เราโกรธ”
เขาโกรธฉันเหรอ?
“โกรธเรื่องอะไรเหรอ” ฉันถามกลับไป แล้วร่างสูงก็ซุกใบหน้าลงมาที่ไหล่ของฉันจนสะดุ้งไปทั้งตัว เส้นผมแข็งๆ ของเขาคลอเคลียอยู่ที่ต้นคอจนฉันต้องหลับตาปี๋และหน้าร้อนวูบขึ้นมาด้วยความอาย
“ไม่มีเหตุผล” เขาตอบกลับเบาๆ แล้วกอดฉันแน่นขึ้นอีก “แค่เราชอบเธอมาก... ก็เลยโกรธมั้ง”
“ไม่เห็นเข้าใจเลย”
“หึ อย่าเข้าใจเราเลยว่ะเธอ” เขาคลายอ้อมกอดออก แล้วจับไหล่ของฉันเอาไว้แน่นในขณะที่มองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า “จะนอนแล้วไง?”
ฉันทำหน้างุนงงแล้วก้มลงมองชุดของตัวเอง เพิ่งรู้สึกตัวว่าใส่ชุดนอนลงมาหาเขาข้างล่าง มันเป็นชุดนอนแบบเดรสสีครีม แถมบางเบามากด้วย หน้าแดงไปหมดเมื่อรู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมองฉลามดุที่เริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
“อย่าใส่ชุดนอนบางๆ แบบนี้ลงมารับผู้ชายคนไหนอีกเลยนะ” เขาพูดแบบนั้น แล้วมันก็ทำให้ฉันต้องก้มหน้างุดลงแทบจะทันที “แต่มารับเราได้”
“...”
“เมื่อกี้ที่กอดเธอ เหม็นบุหรี่มั้ย?” พอเห็นว่าฉันเงียบไป ฉลามดุก็ถามขึ้นมาอีกเหมือนพยายามหาเรื่องคุย ส่วนมือที่จับที่ไหล่ของฉันก็เริ่มเลื่อนลงมากุมมือของฉันเอาไว้อย่างหลวมๆ
“นะ... นิดหน่อย” ฉันตอบโดยไม่สบตากับเขา แล้วฉลามดุก็หัวเราะ
“ไม่บอกก่อน” เขาบีบมือฉันแน่นขึ้นข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาปัดเส้นผมของฉันที่ตกลงมาปรกหน้าเพราะลมตอนกลางคืนมันค่อนข้างแรงให้อย่างลวกๆ “ไม่ชอบคนสูบบุหรี่?”
ฉันมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วตอบไปตามความจริง “อื้อ ไม่ชอบ”
“งั้นเดี๋ยวเราเลิกให้” ฉันเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะได้ยินคำแบบนี้จากปากผู้ชายคนไหน เขาจะเลิกบุหรี่ให้ฉันเหรอ ทำไม? “ไม่ชอบอะไรอีก”
“...!”
“ถ้าเธอไม่ชอบ จะได้เลิกให้หมดเลย” เลือดบนใบหน้าของฉันสูบฉีดจนชาไปหมดเมื่อเขาพูดแบบนั้นด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมทั้งดึงตัวฉันให้ขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของเขาอีก และเพราะฉลามดุนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์มันก็เลยดูเหมือนฉันสูงกว่าเล็กน้อย เส้นผมของฉันตกลงมาปรกหน้าของเขา ในขณะที่ร่างสูงจะฉีกยิ้ม “บอกแล้วว่าเพื่อเธอเราทำได้ทุกอย่าง”
“...”
“หนาวมั้ย เธอใส่เสื้อบางมากเลยว่ะ” เขาพูดอีก ย้ำอีกว่าชุดเดรสของฉันมันบางแค่ไหน ในขณะที่จะโอบเอวฉันเข้ามาใกล้เมื่อมีกลุ่มผู้ชายที่พักหอพักเดียวกันกับฉันเดินผ่านและนั่งจับกลุ่มกันตรงโต๊ะม้าหินอ่อนที่ไม่ไกลกันนัก พอฉันมองตามก็เห็นว่าพวกเขากำลังมองฉันด้วยแววตาจาบจ้วง ถึงแม้ว่าฉันจะยืนอยู่กับฉลามดุและถูกเขาโอบเอวอยู่ก็ตาม “... เธอไม่น่าเลือกหอพักนอกมหาลัยเลยนะ”
“หือ... อะไรนะ” ฉันหันไปมองเขาอย่างสงสัยเมื่อรู้สึกว่าร่างสูงพึมพำอะไรสักอย่างข้างๆ หู ก่อนที่ฉลามจะหันกลับมามองและไม่พูดอะไร ในขณะที่เลือกที่จะทำอะไรบางอย่าง
“นิ้ง ใส่นี่ไว้”
เขาถอดเสื้อฮู้ดด้านนอกที่ใส่อยู่แล้วสวมให้ฉัน
“อะ... ไม่หนาวสักหน่อย” ฉันท้วง ไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรจนถูกร่างสูงช้อนตัวให้มานั่งตักเขาบนเบาะมอเตอร์ไซค์ หน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมาทันที
“ถ้าไม่ทำแบบนี้พวกมันก็ไม่เลิกมองเธอหรอก” เขาอธิบายทันทีเหมือนกลัวว่าฉันจะหนีเขาเพราะการกระทำที่อุกอาจแบบนี้ ฉันมองตามสายตาของร่างสูง แล้วก็เห็นว่าพวกผู้ชายกลุ่มนั้นหันกลับไป
อ๋อ เขากำลังช่วยฉันอยู่นี่เอง
แต่ดูเหมือนคนที่จะถึงเนื้อถึงตัวไม่ใช่แค่สายตา จะเป็นเขามากกว่านะ
“เอ่อ... ขอบคุณนะ” ฉันไม่รู้ว่าควรพูดคำนี้มั้ยกับสถานการณ์ที่ตัวเองตกเป็นรองแบบนี้ แต่พอพูดออกไป ฉลามดุก็เอื้อมมือข้างหนึ่งมารั้งเอวของฉันไว้ทันที
“ขอโทษนะนิ้ง” เขาพูดสั้นๆ แล้วฉันก็ทำสีหน้างุนงง
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ที่ไม่ได้ไปส่งวันนี้” ฉันชะงักไป แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่กุมเข้าหากันเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี “เราโกรธ แต่พอเรารู้สึกตัว เราก็รีบมาที่นี่เลย ถึงเพื่อนเธอจะบอกว่าเธอโอเคดี เราก็อยากมาเจอหน้าให้แน่ใจกว่านี้”
“...”
“เราชอบเธอ และเราจะไม่ทำแล้ว ครั้งนี้ครั้งเดียว”
“...”
“เธอไม่โกรธนะ?”
“มะ... ไม่จ้ะ”
เพราะอย่างงั้น...
เพราะอย่างงั้นก็เลิกทำให้ฉันเขินจนทำตัวไม่ถูกขนาดนี้สักทีเถอะ
“ดีแล้ว เราก็ไม่คิดว่าเธอจะโกรธหรอก” เขาพูด และถึงจะไม่ได้หันกลับไปมองฉันก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มอยู่ “พรุ่งนี้มีเรียนมั้ย?”
“อะ... อื้อ มี” ฉันตอบอย่างตกใจเพราะเขาเอียงหน้าเข้ามาถามจากด้านข้าง มันใกล้มากจนฉันตั้งตัวไม่ทัน แล้วฉลามดุก็พยักหน้ารับรู้ เขาผละใบหน้าออกไปแล้วถามอีก
“กี่โมง”
“เที่ยงค่ะ เหมือนวันนี้” ฉันคิดว่าฉันเริ่มชินกับท่านั่งในตอนนี้แล้วก็เลยพูดออกมาแบบไม่ติดอ่างเหมือนเคย “ทำไมเหรอ?”
“เปล่า” เขาหัวเราะในลำคอ “แต่ถ้าตื่นทันจะโทรหา”
“...”
“จะได้ไปส่ง” ฉันก้มหน้าลงมองมือของตัวเองอีกครั้งเมื่อไปไม่เป็น เขาพูดแล้วก็มองไปทางผู้ชายตรงนั้นด้วย ดูเหมือนฉลามดุจะไม่ชอบพวกเขาเอามากๆ เลย
“แต่... แต่ส้ม”
“เพื่อนเราทำงานที่อู่ พรุ่งนี้เราก็มีเรียน เดี๋ยวจะเอารถเพื่อนไปส่งเธอก่อนไง” เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันอยากจะถามอะไร ร่างสูงพูดตัดบทแบบไม่ให้ฉันแทรกขึ้นมาได้เลยอย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้ฉันปฏิเสธด้วย “โอเคนะ?”
ถึงไม่โอเคก็ต้องโอเคไม่ใช่เหรอ
“อื้อ”
“...”
“มาเร็วๆ นะ” ฉันรู้สึกว่าผู้ชายที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังชะงักไปหน่อยๆ ฉันก็แค่อยากแกล้งเขานิดหน่อยน่ะ ก็เขาชอบแกล้งฉันก่อนนี่นา อย่างที่ดึงมานั่งบนตักแบบนี้มันก็คือการแกล้งให้ฉันเขินไม่ใช่เหรอ
“เธอพูดว่าไงนะ” แต่พอเขาถามย้ำเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ฉันก็รู้สึกว่าที่พูดไปน่ะเป็นอะไรที่คิดผิดสุดๆ เลย
“มะ... มาเร็วๆ นะ”
“...”
“หนูจะรอ”
คะนิ้งจ๋า เธอแกล้งเขามากเกินไปแล้ว
“พูดจริง?” เขาทวนอีก แล้วฉันก็หลับตาปี๋แล้วพยักหน้ารัวเร็ว ก่อนที่ร่างสูงจะหัวเราะเสียงดัง ในขณะที่จะคว้าเอวฉันแล้วดันให้ลุกขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ฉันมองเขาอย่างงุนงง แล้วฉลามดุก็กอดคอฉันแล้วเดินผ่านกลุ่มพวกนั้นที่เหลือบมามองพวกเรานิดหน่อย เขาเบี่ยงด้านตัวเองไปทางพวกนั้น ในขณะที่จะดึงตัวฉันให้เบียดชิดเข้ากับตัวของเขาอย่างหวงแหน
“จะพาไปไหนอ่ะ” ฉันหน้าแดงไปหมดและถามขึ้นอย่างลนลานเมื่อถูกเขาลากให้เดินเข้ามาด้านในหอพัก ไม่มีใครเข้ามาห้ามเลย เพราะปกติเวลาคนนอกที่ไม่ใช่คนในหอพักเข้ามาจะถูกยามกันออกมาและต้องรับบัตรอนุญาตเข้าหอพักก่อน โดยจะต้องมีคนในหอพักที่รู้จักกันมายืนยันด้วย
แต่นี่เขาคงคิดว่ามากับฉันล่ะมั้ง ก็... ก็ฉลามดุเล่นกอดฉันหน้าหอซะขนาดนั้นนี่
“ดึกแล้ว” เขาตอบคำถามฉันสั้นๆ แล้วเบี่ยงตัวฉันให้ไปยืนข้างหน้า “พรุ่งนี้เธอมีเรียนเช้า เดี๋ยวนอนไม่พอ”
“เอ่อ... ไม่เช้านะ” ฉันท้วง ก็มันตั้งเที่ยงแน่ะ ฉันตื่นเจ็ดโมงครึ่งทุกวันอยู่แล้วอ่ะ
“แต่เช้าสำหรับเรา เรากลัวตื่นไม่ทัน” ฉันมองเขาแล้วกลั้นหัวเราะในเหตุผลนั้น แล้วก็เห็นรอยยิ้มจางๆ ของร่างสูงที่ปรากฎขึ้นที่มุมปากของเขา “เราก็แค่อยากมาส่งเธอ”
“...”
“ฝันดีนะนิ้ง” ฉันมองเขาแล้วพยักหน้าเบาๆ ฉลามดุจ้องหน้าฉันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะทำอะไรบางอย่าง
ร่างสูงเคลื่อนใบหน้าลงมาแล้วหอมแก้มฉันหนักๆ จากทางด้านซ้าย
“...!!” ฉันเบิกตากว้าง เอามือมาจับแก้มของตัวเองเอาไว้ ในขณะที่หน้าร้อนเห่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันเห็นเขายิ้มกว้าง แล้วเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซต์ของตัวเองโดยที่ขับออกไปทันที
ฉันทรุดตัวนั่งลงกับโซฟารับแขกด้านในหอ แล้วก็เอามือมาปิดหน้าตัวเองที่ร้อนจัดจนเหมือนกาต้มน้ำเดือดๆ อย่างรวดเร็ว
ขะ... เขานี่มัน
“เราชอบกันทั้งคู่ โอเคปะ” ฉันนิ่งไป จนเขาผละมือออก ฉันถึงได้คลี่ยิ้มกว้างออกมา“งั้นเราก็ดีกันแล้วใช่มั้ยอ่ะ”“จำไม่เห็นได้ว่าโกรธเธอตอนไหน” ฉันทำหน้าเอ๋อออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบของเขา “เราก็ไม่ได้ทะเลาะกันปะ”“อะ... แต่ว่าตอนนั้นฉลามไม่คุย...”“มันก็เรื่องตอนนั้น” เขาตัดบททันที แล้วฉันก็เม้มริมฝีปากเพราะพูดไม่ออก จนเขาเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วเธอหิวไรปะ?”ฉันสั่นหน้าเบาๆ“... ไม่เลย”“แล้วหิวเราปะ” ฉันทำหน้าตื่นออกมาทันทีที่เห็นว่าถูกฉลามหยอกเล่น แล้วพอเห็นว่าเขายิ้มอยู่ฉันถึงได้ทำหน้ามุ่ย แต่ก็แอบดีใจที่เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว“เล่นแบบนี้ทุกทีเลย”“ก็นะ” เขาไหวไหล่ ดูมีความสุขที่ได้แกล้งฉัน ก่อนที่จะลูบผมฉันแล้วยันตัวลุกขึ้น “ไปอาบน้ำเหอะ เดี๋ยวถึงเวลาเราไปส่ง”ฉันมองเขานิ่ง แล้วฉลามก็หันกลับมามอง เขาเลิกคิ้วถาม “มองทำไม?”ฉันไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ขยับตัวเข้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดกับฉลามที่ชะงักไปกับการกระทำนั้นของฉัน ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับตัวลงไปจากเตียงเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำตามที่เขาบอก“เอาเวลาไปรักมันเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า”พี่เพทายพูดถูกจริงๆ น
[SALAMDU : SIDE]หลังจากเลิกงานผมก็ตามมานอนห้องนิ้งเหมือนเดิมเห็นเธอกับเจ๊ดูคุยไรกันปกติดีผมก็โล่งหน่อย คิดว่านิ้งจะคิดมากเรื่องหยก แต่ดูแล้วตอนขับมาส่งที่นี่เธอก็คุยกับผมดี ถึงจะดูเกร็งๆ ตอนคุย แต่เซ้นส์ผู้ชายมันบอกว่าเธอไม่ได้โกรธไร ผมเลยนอนห้องเธอได้สบายใจนิ้งหายไปอาบน้ำเพราะเธอรอผมอาบก่อน ผมก็งงๆ เหมือนกัน แต่ช่างแม่ง วันนี้เหนื่อย ผมว่าจะนอนเร็วหน่อยผมพลิกตัวนอนตะแคงตอนที่รู้สึกมึนๆ แต่วันนี้ก็แดกเหล้าไม่เยอะ นิ้งอยู่ อีกอย่างผมต้องขับรถไปส่งเธอ ถ้าขับไปคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่มีนิ้งด้วยผมเลยต้องมีขีดจำกัดของตัวเองผมว่าจะหลับอยู่แล้วว่ะ ถ้าไม่รู้สึกเหมือนมีคนขึ้นเตียงมาคร่อมไว้พอลืมตาขึ้นมามองก็เห็นว่าเป็นนิ้ง แต่ที่ผมตกใจคือพอหรี่ตามองลงไปก็เห็นว่าเธอใส่ชุดผมอยู่ แต่กางเกงไม่ใส่งั้นข้างล่างแม่งก็...“จะนอนแล้วเหรอ” นิ้งถามผม แล้วผมก็จ้องหน้าเธอนิ่ง ก่อนที่จะพยักหน้า“อ่า”“... ทำไมรีบนอนอ่ะ”“เหนื่อยว่ะ” ผมตอบ ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าเสื้อผมมันใส่ทำงานมา เหม็นเหงื่อตายห่า “แล้วใส่เสื้อเราทำไม ไม่เหม็นไง?”เธอสั่นหน้า“สะ... เสื้อของฉลามเราไม่รังเกียจหรอก” ร่างเล็กพูดเสียงเบา
[SALAMDU : SIDE]ผมไม่คิดว่าหยกจะตามมาถึงที่นี่ไอ้พวกรุ่นน้องแม่งก็ปากสว่าง เอาจริงๆ หยกมันสนิทกับไอ้วิน ไอ้เหี้ยนี่กว้างขวางจะตายห่า ที่ผมรู้จักหยกส่วนหนึ่งก็เพราะมัน“อะไรของมึงหยก”นิ้งมองผมหน้าตื่นทันทีตอนที่ผมสวนกลับไปก่อนที่มันจะได้เดินเข้ามา เพราะผมกลัวว่าหยกมันจะทำตัวแบบเมื่อก่อน ที่พอไม่ชอบหน้าใครก็ตบ ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเวลาคบกับแฟนคนไหน แต่เธอชอบเอาปัญหาห่าเหวนั่นมาใส่ให้ผมเองผมว่ากลับไปคราวนี้คงได้เคลียร์กับนิ้งยาว ตอนแรกมันกำลังดีๆ“แค่มาหามึงมันต้องมีอะไรด้วยเหรอวะ?”“...”“ถ้ากูไม่ถามไอ้วินคงไม่รู้หรอกว่ามึงอยู่ห้องนี้ มันบอกมึงอยู่กับเมีย” มันพูดอย่างหงุดหงิดแล้วปิดประตู ก่อนที่จะเหลือบมองร่างเล็กที่นั่งข้างๆ ผม “นี่ ออกไปก่อนได้ปะ จะคุยกับผัวเก่า”“หยก” ผมกัดฟันเรียกชื่อเธอ นิสัยไม่เปลี่ยนเลยว่ะ “มึงออกไปคุยกับกูข้างนอกเหอะ”“เดี๋ยวนี้หาได้อย่างนี้เหรอ ผิดกับเมื่อก่อนนะหลาม” มันไม่สนที่ผมพูดแล้วมองนิ้งแล้วฉีกยิ้ม “ไม่เชื่อเลยว่าเคยมาเอากู”“ออกไปคุยกับกูข้างนอก” ผมบีบมือนิ้งที่เริ่มทำหน้าซีดแล้วลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด ผมไม่ชอบให้ใครทำท่าทางแบบนี้ใส่นิ้งไง โคตรไ
“เฮ้ย มีคนตามน้องนิ้งมาเหรอวะ”“เออ” ผมตอบสั้นๆ ตอนที่เจ๊ส่งไฟแช็คมาให้ผมต่อบุหรี่ตอนที่ผมล้วงซองมันขึ้นมา ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่บ้านมัน วันนี้มันอยู่คนเดียว ไม่ได้ไปที่อู่ ผมก็รู้อยู่ถึงได้มาที่นี่ ความจริงกะจะมาอยู่แล้ว แต่ติดที่เจอหยกก่อน “แต่กูยังไม่ได้บอกนิ้ง”“เออ อันนี้กูเข้าใจ” มันพยักหน้า “แล้วได้เจอตัวปะ”“ยังว่ะ กูไปดูกล้องวงจรปิดมา แต่ไม่มีใครมีพิรุธ”“...”“กูคิดว่าอย่างน้อยก็ไปนอนห้องนิ้งทุกวันกันไว้ มีกูอยู่ดีกว่า”“อันนั้นก็ใช่” มันพยักหน้าอีก “แล้วงานช่วงดึกทำไง?”“กำลังคิดอยู่” ผมตอบแล้วจุดบุหรี่ดูดเงียบๆ “เอาเค้ามาทำงานด้วยดีมั้ยวะ ไม่อยากให้อยู่ห้องคนเดียว”“ก็ดี เดี๋ยวกูว่างกูจะแวะเข้าไปดูด้วย” มันเห็นด้วยกับความคิดผม “ถ้าน้องง่วงก็นอนที่ห้องพักได้ ถ้าเป็นผับไอ้วินใกล้บ้านกู กูแวะไปได้”“เออ” ผมตอบแค่นั้นพอเห็นว่าได้คำตอบที่พอใจมาง่ายๆ ก่อนที่จะพ่นควันออกมา ผมเห็นว่าเจ๊มองผมอยู่ ก็เลยจ้องกลับไปบ้าง “มองไร”“หัวมึงแตกเหรอวะ” มันถามแล้วมองแผลที่หัวผมที่นิ้งติดพลาสเตอร์ให้ ผมลูบหัวตัวเองนิดหน่อย แล้วครางรับสั้นๆ“ใช่”“เป็นไร? โดนดักตีหัวมาว่างั้น”“เปล่า อันนี้กูหาเรื่
ใจฉันกระตุกไปหมด แล้วก็หน้าแดงก่ำออกมา“อะ... อะไรอ่ะ อื้อ” ฉันสะดุ้งเฮือกตอนที่ถูกจูบอีกครั้ง แต่คราวนี้ลึกซึ้งมากขึ้น ฉลามไล้ริมฝีปากฉันด้วยปากเขา มันเหมือนที่เขาทำในทุกๆ ครั้ง มือของฉันถูกเลื่อนไปจนถึงตรงนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ในขณะที่กำลังถูกฉลามจูบหูฉันอื้อไปหมด ในขณะที่มือของตัวเองจะโดนอะไรตรงนั้น หน้าฉันร้อนจนชา ฉันไม่ได้ซื่อจนไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรอีกแล้ว เพราะมันเคยอยู่ในตัวฉัน ฉันจำได้ว่ามันเท่าไหน... และเจ็บแค่ไหนตอนที่อยู่ในนั้น“ถ้ายังไม่ห้าม เธอคงต้องทำให้เราด้วยว่ะ” ฉันสะดุ้งเฮือก เพราะคำพูดของฉลามดูมีความหมายแอบแฝง แต่ครั้งนี้ล่ะที่ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ “แต่ไม่ให้จับเฉยๆ”“...”“จะให้ใช้อย่างอื่น” เขากระซิบเสียงหนักตอนที่ขยับเข้ามาจนชิดกับใบหน้าของฉัน แล้วหรี่ตาลงมอง “อย่างเช่นปากเธอ”“...!”“ลองดูปะ” เขาถาม แล้วฉันก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยแปลกๆ“จะ... จะให้เราทำอะไรอ่ะ” ฉันถามไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ ฉลามนิ่งไป ก่อนที่เขาแค่นหัวเราะ“เธอไม่รู้เหรอวะ”“...”“ปกติเราใส่ทางนี้ใช่ปะ” เขาเริ่มพูดความหมายแฝงแล้วก้มลงมองที่ตรงนั้นของฉัน ฉันเบิกตากว้างทันที แล้วรีบเอามือ
ฉันไม่รู้ว่าฉลามเป็นอะไร ก็เห็นว่าตอนแรกเขาดูจะไม่อยากมานอนกับฉันนี่นา เห็นบอกว่าอยากให้ฉันโตขึ้นก็เลยจะให้นอนคนเดียวแต่อยู่ดีๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วยกันทุกวันถ้าวันไหนส้มไม่อยู่... บางทีฉันก็ตามอารมณ์เขาไม่ค่อยทันจริงๆ อ่ะตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของตัวเอง ความจริงตอนแรกว่าจะอ่านหนังสือ แต่พอเห็นว่าฉลามไม่ยอมเข้ามาในห้อง ไม่ยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ เอาเสื้อพาดไหล่ใส่แค่กางเกงยีนส์อยู่เหมือนเดิมแบบนั้น เขาเอาแต่นั่งแต่ขอบโซฟาแล้วจ้องไปที่บานประตูหน้าห้องเขม็ง ฉันก็เลยถึงได้นั่งมองเขาจากข้างในบ้างฉลามดูแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วจริงๆ ฉันก็รู้นะว่าสิ่งที่เขาสอนก่อนหน้านั้นมันแรงมาก มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ในตอนนั้น แต่อยู่ดีๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวฉันว่าฉลามก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เขาแค่สอนฉันในแบบของเขา ฉันไม่ได้ยอมเขาเพราะว่าฉันรักอย่างเดียวนะ แต่เพราะว่าฉันเข้าใจเขา แล้วก็รับรู้ได้จากการกระทำเหล่านั้นว่ามันไม่มีสิ่งใดแอบแฝงนอกจากความเป็นห่วงฉันคิดว่าฉลามจะไม่ทำร้ายฉันแน่นอน... ก็แค่คิดแบบนั้นเท่านั้นเอง สุดท้ายก็เลยไม่คิดมากอะไร“ฉะ... ฉลาม” ร่างสูงหันกลับมามองทันที ฉ