บทที่ 11 นอนเฝ้าลูก
พูดจบแดย์ตันก็หันหลังเดินไปเปิดตู้แล้วหยิบผ้าห่มอีกผืนออกมา การกระทำของเขาทำให้ยาหยีรีบลุกขึ้นมาจากมุมห้อง
“จะทำอะไร”
“นอน”
“นอน นอนยังไง นี่ห้องฉันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ฉันไม่ได้นอนกับเธอ แต่ฉันนอนเฝ้าลูกของฉั
“ไม่!” ยาหยีคว้าได้หมอนข้าง เธอไม่ลังเลที่จะขวางใส่หน้าเดย์ตันจนเขาเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“อย่านะยาหยี หยุด!” เขากะพริบตาปริบ ตั้งท่าหลบยาหยี ‘ซ้ายแน่ๆ แม่งต้องขว้างมาทางซ้ายแน่!’ เมื่อคิดแบบนั้นเดย์ตันจึงหลบไปทางซ้าย แต่เขาคิดผิด เพราะยาหยีขว้างไปทางซ้ายและหมอนกระแทกหน้าเขาเต็มๆ “เธอ!”
“ออกไป ออกไปจากห้องนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะออกไปเอง!” เธอเดินผ่านหน้าเขาไปได้เพียงสองก้าวเท่านั้น “นายทำอะไร หลบไป!”
ผ่านไปหลายนาที…
ภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหายใจแรงๆ ของยาหยีที่พยายามดิ้น และเสียงฝีเท้าหนักๆ ของเดย์ตันที่ไม่ยอมหลบทางให้เธอเดินออกไป
“ฉันบอกให้ออกไป!” ยาหยีตะโกนอีกครั้ง พร้อมทั้งสะบัดตัวแรงๆ หวังให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่แบบนั้น
“ดิ้นนัก… ได้!” เดย์ตันกัดฟันกรอดก่อนจะก้มตัวคว้าผ้าห่มผืนใหญ่ที่เขาถือมาจากตู้ แล้วห่อตัวเธอไว้อย่างรวดเร็วราวกับจับตัวนักโทษ “อยู่นิ่งๆ ซะที!”
“เฮ้ย! นายทำบ้าอะไร อ๊ะ! เดี๋ยว…นี่! ห่อตัวฉันทำไม ปล่อยนะ! อื้ออออ!” ยาหยีถูกพันไว้แน่นจนแขนขาถูกล็อกอยู่ข้างลำตัว กลายเป็นดักแด้มนุษย์เต็มรูปแบบ
เดย์ตันก้มลงผูกชายผ้าห่มอย่างประณีต แล้วยืนขึ้นมองผลงานตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่สายตาแฝงแววขำ
“จะหนีไปไหนได้ล่ะตอนนี้ หืม?” เขาย่อตัวลงมาจ้องหน้าเธอที่นอนดิ้นพล่านอยู่บนเตียงเหมือนหนอนน้อย “ถ้าไม่ยอมให้ฉันอยู่เฝ้าลูก งั้นฉันก็จะเฝ้าเธอแทนละกัน”
“ไอ้บ้า! ไอ้มาเฟียโรคจิต! แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาห่อฉันแบบนี้!”
“ฉันเป็นพ่อของเด็กในท้องเธอไง” เดย์ตันว่าอย่างหน้าตาย แล้วเดินไปหยิบหมอนอีกใบมาวางข้างเธอ “จะดิ้นอีกไหม? หรือจะนอนดีๆ”
“จะดิ้น! จะดิ้นให้ผ้าห่มขาดเลยด้วย!”
“งั้นฉันจะเอาเชือกมามัดเพิ่ม”
“นายมันเผด็จการ!”
“เธอมันดื้อ”
สองสายตาสบกันกลางความตึงเครียดและความตลก ยาหยีตัวแดงก่ำด้วยความโมโห ในขณะที่เดย์ตันพยายามข่มยิ้มสุดชีวิตไม่ให้หลุดมาดมาเฟียสุดขรึม
ในที่สุด… เขาก็ถอนหายใจ เดินไปปิดไฟแล้วกลับมานั่งที่ปลายเตียง
“นอนได้แล้วยาหยี ฉันไม่ได้จะทำอะไร… ฉันแค่อยากอยู่ใกล้ลูกฉันก็เท่านั้น”
“แล้วนายต้องอยู่ตรงนั้นนะ อย่าขยับเข้ามา ไม่งั้นฉันจะร้องให้ทั้งบ้านได้ยิน!”
“หึหึ ลืมไปหรือเปล่าว่านี่บ้านฉัน ถึงเธอจะแหกปากร้องจนคอแตก ถ้าฉันไม่เรียกพวกนั้นมันก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งหรอก แต่ฉันแนะนำนะ เธอควรนอนพักผ่อนและอย่าทำอะไรเสี่ยงอันตรายกับเด็กในท้องดีกว่า”
“ฉันเกลียดนาย!”
“ขอบคุณที่เกลียด”
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในความมืด ถึงแม้เธอจะหงุดหงิดจนคิ้วกระตุก แต่ภายในหัวใจก็อดรู้สึกอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้… แม้จะถูกห่อเหมือนแหนมก็เถอะ!
กลางดึก…
ยาหยีนอนหลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย เสียงหายใจของเธอสม่ำเสมอและอ่อนโยน ขณะที่ทั้งห้องเงียบสงบใต้แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียง
เดย์ตันยังไม่หลับ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะเดินอ้อมมาทางฝั่งที่หญิงสาวนอนอยู่ ร่างสูงย่อตัวลงข้างเตียง ค่อยๆ เอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าเธอออกอย่างแผ่วเบา
แววตาแข็งกร้าวที่เคยมีเสมออ่อนลงในยามที่มองเธอ แล้วมือหนาค่อยๆ สอดเข้าใต้ตัวเธอทีละน้อย ช้าและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ก่อนจะค่อยๆ คลายผ้าห่มที่พันเธอไว้ออกจนหลุดเป็นอิสระจากพันธนาการ
เขาหยุดมองเธออีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้น ริมฝีปากหยักลึกขยับแผ่วเบา คล้ายจะบ่นกับตัวเอง
“ไม่ดื้อก็นอนได้สบายๆ ตั้งแต่แรกแล้ว จะขยันสร้างเรื่องทำไมกันนะ…”
แม้จะเป็นคำพูดกึ่งบ่น แต่ในน้ำเสียงของเขากลับแฝงความอ่อนโยนที่หาได้ยาก ราวกับว่า… เขาไม่ได้รำคาญเลยสักนิดที่เธอดื้อแบบนั้น ออกจะชอบด้วยซ้ำ
มือของเขายังวางอยู่ข้างแก้มเธอ ก่อนจะค่อยๆ ละออกแล้วกลับไปนั่งพิงพนักหัวเตียงเงียบๆ ทิ้งสายตาไว้กับหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสงบตรงหน้า…
เช้ามืด…
เสียงนกร้องแผ่วเบานอกหน้าต่างกับแสงอ่อนที่ลอดผ้าม่านเข้ามา กลายเป็นสิ่งแรกที่ปลุกยาหยีให้ตื่นจากนิทรา
เธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วทันทีที่รู้สึกถึงแรงปวดตุบๆ บริเวณท้องน้อย ตามด้วยอาการคลื่นไส้พุ่งปราดขึ้นมาจนต้องรีบยันตัวลุกขึ้นจากหมอน
“อื้อ… แหวะ…”
มือบางปิดปากแทบไม่ทัน ขณะที่ร่างกายรีบก้าวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล ยาหยีตรงไปยังห้องน้ำในสภาพที่ดูไม่ต่างจากซอมบี้ยามเช้า เสียงอาเจียนดังลอดออกมาเป็นพักๆ ไม่กี่วินาทีให้หลัง เดย์ตันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาคมกวาดมองรอบห้องอย่างงุนงง ก่อนจะลุกพรวดตามเสียงจากในห้องน้ำ
“ยาหยี?! เป็นอะไร”
“อย่าเข้ามา!” เสียงห้วนลอดออกมาจากหลังประตูห้องน้ำ
เดย์ตันหยุดเท้าอย่างตกใจ ยืนเก้ออยู่หน้าประตูอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่นานนัก ยาหยีก็เดินออกมาในสภาพที่ซีดเซียว ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาไม่สบอารมณ์สุดขีด เธอหยิบผ้าเช็ดปากแล้วมองหน้าเขาอย่างหงุดหงิด
“อย่ามองหน้าฉันแบบนี้นะ มองทีไรจะอ้วกให้ได้ทุกทีเลยอะ”
เดย์ตันเลิกคิ้ว
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“แต่นายหายใจอยู่! หายใจแรงด้วย!”
“แค่หายใจ?” เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ “เธอแพ้ท้อง?”
“ใช่”
“อืม…งั้นฉันจะกลั้นไว้ละกัน”
“กลั้นเลย! กลั้นทั้งหายใจ ทั้งตัว ทั้งการปรากฏตัวไปเลยได้ยิ่งดี!”
เดย์ตันถอนหายใจยาว ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำมองเธอเดินไปหยิบน้ำพลางจิบทีละนิด เขาเริ่มตั้งข้อสงสัย ว่าเธอเป็นแบบนี้หรือแค่เป็นเวอร์ชัน ‘มนุษย์แพ้ท้อง’ ที่ควรรับมือด้วยความนิ่งเท่านั้น
“อยากกินอะไร จะได้ให้ลูกน้องจัดการไปซื้อให้” เขาถามเสียงเบา
“ซื้อหน้าใหม่มาด้วยได้ไหม ฉันจะได้ไม่ต้องเจอหน้าแบบนี้ทุกวัน!”
เดย์ตันพยักหน้าช้าๆ พร้อมเสียงพึมในลำคอ
“เข้าใจละ… แพ้ท้องกับเกลียดผัว อาการมันคล้ายกันจริงๆ…” และในขณะที่เขากำลังจะหมุนตัวกลับไปที่เตียง เสียงฝีเท้าเร็วๆ ของยาหยีก็ดังขึ้นก่อนจะมีหมอนอีกใบลอยเฉียดหน้าของเขาไปอย่างแม่นยำ
“ไม่ใช่ผัว!”
“โอเค… พ่อของลูกก็ได้…”
เธอหันขวับกลับไปยกน้ำอีกอึก ก่อนจะทำหน้าหงิกเหมือนจะอ้วกอีกรอบทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น!
บทที่ 20 จ้างให้จบทางด้านลี หลังจากที่เรื่องราวระหว่างเขากับดอกส้ม ถูกเปิดเผยและเขาได้เห็นแววตาผิดหวังของยาหยีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก ใจเขาก็ไม่สงบอีกเลยเขาตามหายาหยีทั่วทั้งเมือง โทรหาเธอแล้วโทรหาอีก แต่ไม่มีการรับสาย ไม่มีการตอบกลับข้อความแม้แต่นิดเดียว ลีเริ่มไปที่ร้านกาแฟที่เธอชอบนั่ง ร้านขนมที่เธอโปรด ไปจนถึงหน้าคอนโดของเธอ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่“หยี… ฟังพี่ก่อนก็ได้ ได้โปรด…” เขาพึมพำกับตัวเองทุกครั้งที่ได้ยินสัญญาณตัดสาย ความผิดพลาดของเขากำลังจะพรากผู้หญิงที่เขาควรรักษาเอาไว้ตั้งแต่แรกไปอย่างถาวรอีกมุมหนึ่งที่บ้านของเดย์ตันบรรยากาศเงียบเชียบยามสาย ลูกน้องคนสนิทของเขาเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ขณะเขานั่งอยู่ริมระเบียงในชุดลำลอง ถือแก้วกาแฟในมือ“นายครับ มีข่าวของผู้ชายคนนั้นคุณลีน่ะครับ”เดย์ตันละสายตาจากวิวเบื้องหน้า สายตาดุดันจับจ้องลูกน้องทันที“มันทำอะไร?”“เขาตามหาคุณยาหยีครับ เดินพล่านไปหลายที่เหมือนคนสติแตก พยายามขอให้คนช่วยติดต่อเธอ แต่ยังไม่เจอ เราลองสะกดรอยอยู่ห่างๆ แล้วครับ เขากำลังมุ่งหน้าไปที่คาเฟ่ที่คุณยาหยีเคยนั่งบ่อยๆ”เดย์ตันขมว
บทที่ 19 ความฝันของเดย์ตันเดย์ตันหัวเราะในลำคอเสียงทุ้มต่ำเจือความเจ้าเล่ห์อย่างจงใจ“ปากดีนะเรา” เขายักคิ้วหนึ่งข้าง ก่อนจะวางมือบนไหล่ยาหยี สีหน้าไม่ได้สะทกสะท้านต่อคำด่าทอของเธอยาหยีถอยหลังอีกก้าว แต่ก็ต้องหยุดเพราะแผ่นหลังชนกับแผงอกแกร่งพอดี ดวงตากลมเบิกกว้าง ใบหน้าสวยเลิ่กลั่ก“ต้องใกล้ขนาดนี้?”“ไม่ได้จะทำอะไร…” เขาโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย ริมฝีปากเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ “ก็แค่อยากสอนจับปืน แล้วก็อยากรู้ว่าลูกเริ่มดิ้นแล้วหรือยัง”ดวงตาของเดย์ตันอ่อนลงครู่หนึ่ง เขาเอื้อมมือแตะแผ่วเบาที่หน้าท้องเธออีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพราะจะแกล้ง ไม่ใช่เพราะหยอกเล่นหรือชวนทะเลาะ แต่เพราะเขาอยากรู้สึกถึงชีวิตเล็กๆ ที่กำลังก่อตัวอยู่ในนั้นจริงๆยาหยีมองเขานิ่ง ลมหายใจติดขัดเพราะความรู้สึกตีกันวุ่นวายไปหมด เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้… และไม่คิดว่าในแววตาแข็งกร้าวของมาเฟียอย่างเขา จะมีความอ่อนโยนแฝงอยู่ได้มากขนาดนี้ด้วย“เดย์…” เธอเผลอเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ อย่างลืมตัว“หืม?” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ แล้วก็ยิ้ม… รอยยิ้มที่ไม่ได้ร้ายกาจ ไม่ได้กวนประสาท แต่นุ่มนวลจนใจเธอเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล เธอรีบเบือนหน้
บทที่ 18 ยินดีนำเสนอหลายนาทีต่อมาบนเตียงกว้างกลางห้องนอน ยาหยีกำลังนอนหันหลังให้เดย์ตัน มือเล็กยังคงจับผ้าห่มไว้แน่นถึงแม้จะรู้ตัวว่าคนด้านหลังเดินเข้ามาแล้ว และเขาก็กำลังขยับขึ้นเตียงอย่างเงียบเชียบเสียงเตียงยุบลงเมื่อร่างสูงของเดย์ตันทิ้งตัวนอนลงข้างๆ เธอ ชายหนุ่มแสร้งถอนหายใจเสียงดัง ทำทีเป็นคนอ่อนล้าจากสงครามชีวิตทั้งวัน“เฮ้อ…หลังจะพังอยู่แล้ว ให้ลงไปนอนพื้นอีกคืนนี้หลังคงทรุดจริงๆ” เขาบ่นเบาๆ แล้วเอื้อมมือมาสะกิดไหล่เล็กเบาๆ “ฉันจะเบียดหน่อยนะ ถ้าเผลอกอดเธอก็ขออภัยด้วย”ยาหยีไม่ตอบ เธอกัดฟันแน่นแล้วขยับตัวหนี แต่ไม่ทันไรแขนแข็งแรงก็คว้ารั้งตัวเธอมากอดไว้จากด้านหลังแน่น“อย่าดิ้น เดี๋ยวปวดหลังหนักกว่าเดิมอีก” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู“เดย์ตัน!” ยาหยีสะดุ้ง หันกลับมามองเขาด้วยแววตาขุ่น แต่คนโดนดุกลับยิ้มกวน แถมยังยักคิ้วใส่“โกรธรึไง? เดี๋ยวจับพันผ้าห่มเหมือนดักแด้เลยเอาไหม ถ้าไม่ยอมให้ฉันนอนด้วย”“กล้าก็ลองดู!” เธอแหวกลับทันควัน“อย่าท้านะยาหยี…” เดย์ตันโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปจ้องตาเธอแบบท้าทาย “หลังฉันมันแย่จริงๆ นะ หมอเคยบอกว่าถ้าไม่ได้นอนบนที่นุ่มๆ จะกระทบกระเทือนถึงส
บทที่ 17 เคยเป็นทานตะวันของพระอาทิตย์เดย์ตันยืนอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ที่ตอนนี้ถูกยาหยียึดพื้นที่ไปแล้วเรียบร้อยก๊อก ก๊อก“เปิดประตู”“ไม่ ฉันบอกแล้วไงว่าอยากนอนคนเดียว”“ไม่ได้จะเข้าไปนอน แค่เอานมมาให้”ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเสียงปลดล็อกประตูจะดังขึ้น ยาหยีไม่ได้เปิดประตูออกกว้าง เธอแค่แง้มออกแล้วยื่นหน้าออกมามองเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก“กินให้หมด”“ฉันไม่หิว”“กิน เธอไม่หิวแต่ลูกฉันต้องการแคลเซียม”“นายนี่มันจุ้นจ้านจัง”“ก็ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะทำโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ อย่าลืมว่าเราตกลงกันไว้ยังไง” ยาหยีรับแก้วนมไปดื่มจนหมดภายในรวดเดียวแบ้วส่งแก้วเปล่าให้เดย์ตัน “ทำดีๆ ก็ทำได้ ทำไมต้องให้ฉันบังคับก่อน”“ออกไป”เธอปิดประตูดัง ปึ่ง! ใส่หน้าเดย์ตันจนปลายผมเขาพลิ้วไปตามแรงลมที่กระแทกหน้า“อดทน อดทน…จนกว่าลูกจะคลอด” เขาท่องคำนั้นแล้วหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง หวังให้ตัวเองใจเย็นลงไม่มากก็น้อยเดย์ตันเดินลงมาถึงเชิงบันได เขาก็เงยหน้าขึ้นมองชั้นสองอีกครั้ง“เอาแก้วไปเก็บ” เขาส่งแก้วเปล่าให้ลูกน้องที่ยืนรออยู่เชิงบันได จากนั้นค่อยเดินไปที่ห้องนั่งเล่น พร้อมกับเปิดภาพยนตร์ดูจนถึงเช้าข
บทที่ 16 คุณพ่อบ้านมาเฟียช่วงเย็น…หลังจากกลับมาถึงบ้าน ยาหยีก็แทบหมดแรง เธอถอดรองเท้าแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยเสียงถอนหายใจยาวเหยียด มือข้างหนึ่งวางพัดลมมือถือไว้บนพุงน้อยๆ ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นนวดขมับเบาๆ“วันนี้เหนื่อยมากเลย…” เธอบ่นพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองเดย์ตันเหลือบตามองก่อนจะวางถุงของที่ซื้อมาจากห้างลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบแล้วให้แม่บ้านนำไปเก็บ เขาไม่ได้ตอบอะไร ยังคงขรึมเหมือนเดิม แต่เพียงแค่เขาเดินไปทางห้องครัว แล้วเปิดตู้เย็น หยิบของสดออกมาอย่างคล่องแคล่ว มันก็เพียงพอจะบอกได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร“จะทำอะไรน่ะ?” ยาหยีเดินตามเขามาในห้องครัวด้วย เสียงแผ่วแต่ยังติดหงุดหงิดเบาๆ จากอารมณ์ล้า“เธอหิว” เขาตอบสั้นๆ ขณะหยิบกระเทียมมาปอก“ไม่ได้บอกนี่ว่าหิว…”“แต่เดินห้างตั้งหลายชั่วโมง เหงื่อออก หน้าเริ่มซีด ไม่ใช่หิวก็น้ำตาลตกมั้ง” เขาพูดเรียบๆ แต่ฟังแล้วเหมือนโดนอ่านใจหมดเปลือกยาหยีชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพึมพำเบาๆ“ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อยเอง…”ในครัวนั้น เดย์ตันจัดการทุกอย่างอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงน้ำไหล เสียงหั่นผัก และเสียงกระทะร้อนที่กำลังผัดข้าวกับไข่และหมูบด เขาไม่ใช่คนพูดมากอยู่
บทที่ 15 เคยไว้ใจหลังจากเหตุการณ์ที่บ้านยาหยี เดย์ตันไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม เขาแค่ขับรถพายาหยีไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งอย่างเงียบๆ ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ยาหยีบอกว่าอยากซื้อของใช้ส่วนตัวและดูของสำหรับเด็กบางอย่างที่เธอยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอได้มาเดินอยู่ท่ามกลางแสงไฟร้านค้าและเสียงคนพลุกพล่าน เธอก็เหมือนได้ผ่อนคลายลงเล็กน้อยเดย์ตันเดินอยู่ข้างเธอ มือหนึ่งถือถุงของ ส่วนอีกมือก็แอบเผลอล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างประหม่า เขาไม่ใช่คนที่ถนัดการเดินชอปปิงตามห้าง แต่เขาเต็มใจทำมันเพราะอยากอยู่ดูเธอ…และเพราะลูก“อันนี้น่ารักไหม?” ยาหยีชูผ้าห่อตัวลายน้องเป็ดขึ้นมาให้เขาดู“ก็น่ารัก” เขาตอบเสียงเรียบ แต่พอเห็นว่าเธอกำลังจะวางคืนก็รีบพูดต่อ “ถ้าชอบก็ซื้อไว้เลย เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”ยาหยีมองเขาแวบหนึ่ง ริมฝีปากขยับเหมือนจะเถียง แต่สุดท้ายก็เงียบ และใส่มันลงในตะกร้า แล้วทันใดนั้นเสียงใสเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“เดย์ตัน?”เขาชะงัก หันกลับไปตามเสียง และพบกับผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเดรสรัดรูปสีแดง เธอแต่งหน้าเป๊ะ ผมหยิกเป็นลอนดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า“ริต้า?” เขาพูดชื่อเธอช้าๆ สีหน้าไม่แป