MasukPAUL PART
หลังจากที่ผมได้เจอกับโยแบบจริงจัง ก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเขาคือคนที่ผมรอมาทั้งชีวิตคือผู้ชายคนนั้นที่ผมฝันถึงมาตั้งแต่เด็ก ใครๆก็ว่าว่าผมไม่ปกติอาจมีเรื่องทางจิตใจอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมฝันถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้ต้องเสียน้ำตาทุกครั้งที่นึกถึงเขา ยิ่งเจอกับโยยิ่งทำให้ความฝันชัดเจนขึ้นและยิ่งชัดเจนขึ้นเท่าไหร่ยิ่งทำผมรู็สึกว่าจะต้องเสียโยไปเร็วเท่านั้น
"พอลนายคิดอะไรอยู่ดูเหม่อเชียว" เสียงของแพตทริกน้องชายของผมกล่าวหลังจากเดินเข้ามา
"ก็ไม่มีอะไรแค่คิดเรื่องของคนคนหนึ่งอยู่" น้ำเสียงตอบกลับนุ่มสบาย
"คิดเรื่องคนในฝันอีกแล้วหรอ ฉันว่านายลองไปหาหมออีกรอบเถอะ" แพตทริกพูดอย่างเป็นห่วง
"แพตทริกฉันไม่ได้เป็นอะไรและฉันก็เจอคนคนนั้นแล้ว" ผมตอบกลับอย่างใจเย็น
"อ่อ.......เจอแล้วเป็นไง ปลดล็อกตัวเองได้มั้ย" แพตทริกตอบกลับอย่างยียวน
"ก็ดี แต่กลัวเสียเขาไปอย่างในฝัน" น้ำเสียงเศร้าตอบกลับ
"ทำเป็นกลัวไปได้อำนาจก็อยู่ในมือ นายช่วยหยุดแพนิคสักที" แพตทริกตอบกลับด้วยน้ำเสียงมีน้ำโหเล็กน้อย
"ฉันก็แค่กลัว"ผมตอบกลับเสียงเบา
"เฮ้อ! งั้นก็แล้วแต่นายเถอะฉันไปก่อนแล้วกัน ยิมรออยู่"หลังจากพูดจบแพตทริกก็เดินจากไป
พูดถึงความฝันแล้วผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยผมคงต้องใช้อำนาจของครอบครัวผมให็เป็นประโยชน์หน่อยแล้วกัน
'คุณภัทร ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปช่วยส่งดอกไม้ให้คุณนันทยศด้วยนะ' ผมโทรสั่งงานเลขาคนเก่ง
'ครับ คุณพอลต้องการให้ส่งดอกไม้ชนิดไหนเป็นพิเศษหรือป่าวครับ' คุณเลขาคนเก่งตอบรับ
'เอาเป็นดอกไม้ที่มีความหมายดีๆก็แล้วกัน'
'ครับคุณพอล'
END PAUL PART
YOH PART
ผ่านมาสองสามวันแล้วที่ผมได้เจอกับอีตาคุณพอล ผมพยายามสลัดเขาออกจากเท่าไหร่ก็ไม่ออกสักที ผมก็ไม่รู้ทำไมผมเอาแต่นึกถึงเขาทั้งที่ผมก็ไม่ชอบนิสัยเขาสักนิด แต่การเจอกับเขาทำให้ผมนึกถึงผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่ผมฝันถึงมาตลอดทั้งน้ำเสียง รูปร่าง ท่าทาง เขาเหมือนผู้ชายที่ผมฝันถึง
"โย โย!!" เสียงพี่ยี่หว่าเรียกผมจนลั่นร้าน
"ครับ พี่ยี่หว่ามีอะไรหรือป่าวครับ" ผมตอบกลับ
"มีดอกไม้มาส่ง จากคุณพอล"พี่ยี่หว่าเดินเข้าพร้อมกับช่อดอกทิวลิปสีแดงสวยช่อใหญ่
"ส่งให้ใครล่ะครับ ช่อใหญ่เชียว"ผมถามอย่างไม่สนใจนัก
"ก็จะใครล่ะคะ ก็เธอนั้นแหละค่ะ"พี่ยี่หว่าตอบกลับแบบกวนๆ
"ให้ผม"ผมถามกลับพร้อมกับชี้นิ้วหาตัวเองอย่างมึนงง
"ใช่ค่ะ มีการ์ดเขียนมาให้ด้วยนะ เธอเอาไปอ่านเองละกันของส่วนตัวฉันไม่อยากยุ่ง" พี่ยี่หว่าตอบกลับพร้อมกับส่งช่อดอกไม้นั่นมาให้ผม
ผมรับช่อดอกไม้นั่นมาแล้วค่อยๆหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน "สวัสดีครับคุณโย ขอให้เป็นวันที่ดีของคุณนะครับ ดอกไม้วันนี้มีความหมายว่า การตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจ และต้องการที่จะปกป้อง ผมอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเรานะครับ นับตั้งแต่วันนี้ผมจะส่งดอกไม้มาให้คุณทุกวันรอรับด้วยนะครับ" อะไรเนี้ย!จะมัดมือชกจีบกันแบบนี้เลยหรอคราวก่อนยังทำหน้านิ่งอยู่เลย
"ลีมาเอาดอกไม้มาใส่แจกันหน่อย" ผมเรียกลีที่กำลังเดินผ่านมา
"ครับพี่โย ใส่แจกันแล้วให้เอาวางตรงไหนดีครับ"ลีรับคำพร้อมถามกลับ
"ในห้องทำงานพี่ก็ได้" ผมตอบลีพร้อมกับส่งช่อดอกไม้ให้ลี
"ครับ"ลีตอบกลับพร้อมรับดอกไม้เดินออกไป
หลังจากที่ผมส่งดอกไม้ให้ลีแล้วผมก็ไปดูงานที่ต้องส่งลูกค้า
"พี่ยี่หว่าครับ วันนี้เราต้องส่งสูทให้คุณเจสันแล้วเรียบร้อยหรือยัง" ผมถามพี่ยี่หว่าที่กำลังตรวจงานอยู่
"เหลือสอยชายอีกนิดเดียวโย พอสอยชายเสร็จก็เอาไปส่งได้แล้ว"พี่ยี่หว่าตอบขนาดที่มือยังทำงานอยู่
"มาเดี๋ยวผมช่วย"ผมบอกพร้อมกับหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาช่วย
"เออโยคุณเจสันนี่เขาจะเข้ามาเอาสูทเองหรือให้เราเอาไปส่ง" พี่ยี่หว่าถามถึงรายละเอียดงานเกี่ยวกับลูกค้าประจำ
"เห็นเขาแจ้งไว้ว่าจะให้เราเอาไปส่งนะ เดี๋ยวยังเราโทรคอนเฟิร์มดับเขาอีกที่ก็ได้" ผมตอบพี่ยี่หว่า
"แต่พี่ว่าเอาไปส่งเขาก็ดีนะ พี่ไม่สายตาที่เขามองโยเลย เอาจริงๆนะพี่ไม่อยากให้โยรับงานเขาอีกเลย" พี่ยี่หว่าพูดพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม
"ก็เขาเป็นลูกค้าไงพี่ยี่หว่า ปฏิเสธได้ยังกันเหล่า ปฏิเสธไปเสียลูกค้ารายใหญ่เสียดายตายเลย"ผมว่าพร้อมยักไหล่
"ก็ขี้งกอย่างี้ไง แค่นี้โยก็รวยจนไม่รู้จะรวยยังไงแล้ว ห่วงตัวเองบ้างเถอะ คุณเจสันเขาดูอันตรายังไงก็ไม่รู้"พี่ยี่หว่าบ่นกลับ
"เอาอย่างงี้นะครับ โยจะระวังตัวดีๆ ไม่อยู่กับเขาสองต่อสอง" "ไม่อยู่กับใครสองต่องสองหรอครับ"เสียงขัดจังหวะจากบุคคลที่อยู่ในบทสนทนา
"ว่าไงครับ ไม่อยู่กับใครสองต่องสองหรอครับ"คุณเจสันถามพร้อมกระชากใจให้
"ไม่มีอะไรหรอครับ คุณเจสันมารับสูทใช่มั้ยครับ นี่ครับเรียบร้อยพอดีเลย" ผมรีบตัดบท
"นี่ค่ะสูทของคุณเจสัน เชิญชำระเงินทางนี้เลยค่ะ"พี่ยี่หว่ารีบเอาถุงเสื้อให้คุณเจสัน
"ครับ"คุณเจสันตอบอย่างมึนงง
"โยมีนัดกับน้องชายไม่ใช่หรอรีบไปสิเดียวน้องรอ" พี่ยี่หว่าพูดพร้องส่งซิกให้ผมรู้ในสิ่งที่พี่เขาจะสื่อ
"อ้อครับงั้นไปก่อนล่ะกันฝากร้านด้วยนะครับพี่ยี่หว่า"ผมตอบพร้อมกับหยิบของสำคัญแล้ว้ดอนออกมา
TBC
เชิงอรรถรส
ดอกทิวลิป (Tulip) เหมาะสำหรับ การบอกรักครั้งแรก ความหมายถึง การตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจ ความหลงใหล และการปกป้อง ซึ่งดอกทิวลิปก็หลายสีเช่นเดียวกับกุหลาบ ความหมายจึงแตกต่างกันไปอีก
- ทิวลิปสีแดง ความรักที่แท้จริง การบอกรัก
- ทิวลิปสีเหลือง ความร่าเริงเบิกบานใจ
- ทิวลิปสีส้ม ความอบอุ่น ความมีเสน่ห์และความสุข
- ทิวลิปสีขาว การขอโทษ การขออภัย
- ทิวลิปสีชมพู ความสุขและความมั่นใจ
- ทิวลิปสีม่วง ความจงรักภักดี
PAUL PARTสามปีผ่านไปนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายบน เกาะโซลาริส (Solaris Island) และการแต่งงานของเรา โลกทั้งใบของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผมไม่ได้เป็นแค่ อพอลโล่ หรือ พอล พีธรธนัส มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลอีกต่อไป แต่ผมได้เป็น สามี และที่สำคัญที่สุด... พ่อ ของลูกชายที่สมบูรณ์แบบของเราศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารทรงพิณขนาดมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นจากกระจกและเหล็กกล้าสีทองตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะ มันไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของความรัก ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาศึกษาเรื่องพลังงานทางเลือกและสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต เกาะทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่สะอาดและอบอุ่น และดอกไฮยาซินธ์ที่โยปลูกไว้ก็เติบโตอย่างงดงามผมยืนอยู่ที่หน้าต่างในห้องนอนของผมที่คฤหาสน์ Ifandis ในยามบ่ายที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ มองดูสวนที่เต็มไปด้วยดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบานอย่างสวยงาม ผมไม่ได้สวมชุดสูท แต่สวมเสื้อผ้าลำลองที่ยังคงดูเนี้ยบตามสไตล์ของผม มือของผมกำลังอุ้ม ลูกชาย ของเราไว้ในอ้อมแขน"ดูสิครับ ไฮยาซินธ์น้อย" ผมกระซิบกับลูกช
YOH PARTหกเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากการวิวาห์ของเรา ช่วงเวลานี้ไม่ใช่แค่การปรับตัวเข้าสู่ชีวิตคู่เท่านั้น แต่เป็นการสร้าง รากฐานใหม่ ที่มั่นคงสำหรับชีวิตนิรันดร์ของเรา คุณพอลไม่ได้เป็นแค่สามี แต่เขาเป็นเหมือน แกนกลาง ที่ให้ความมั่นคงและความมุ่งมั่นในทุกสิ่งที่ผมทำโครงการ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ บนเกาะที่ถูกเปลี่ยนชื่อไปแล้ว กำลังคืบหน้าไปอย่างน่าทึ่ง ชื่อใหม่ของเกาะคือ เกาะแสงอาทิตย์ (Solaris Island) ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของเราเพื่อเน้นย้ำถึงพันธสัญญาแห่งแสงสว่างของเราผมในฐานะ สถาปนิกแห่งแสง (Architect of Light) เดินทางไปที่เกาะสัปดาห์ละสามครั้ง โดยมีคุณพอลไปกับผมเสมอ การได้ทำงานเคียงข้างเขาในฐานะ หุ้นส่วนชีวิต และ หุ้นส่วนธุรกิจ ทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มอย่างที่สุด ผมค้นพบว่าความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้าของผมนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเน้นที่การใช้งานของวัสดุ การสะท้อนแสง และความงามของรูปทรงในวันนี้... เราเดินทางมายังเกาะพร้อมกับทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับสูง เรากำลังจะติดตั้ง ผลึกควอตซ์ ขนาดใหญ่
YOH PARTชีวิตหลังจากสงครามนั้นไม่ใช่แค่ความสงบสุข แต่มันคือ นิรันดร์ ผมไม่จำเป็นต้องกังวลว่าแสงอาทิตย์จะร้อนแรงเกินไป หรือสายลมจะพัดพาความสุขไปจากผมอีกแล้ว เซฟิรัส ได้ถูกส่งกลับไปยังมิติที่ว่างเปล่า และโลกทั้งใบของผมก็ถูกโอบอุ้มไว้ด้วยความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ พอล พีธรธนัสช่วงเวลาที่รอคอยงานวิวาห์เป็นเหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความปิติยินดี เราไม่ได้รีบร้อน แต่ใช้เวลาทุกนาทีในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และในฐานะเทพเจ้าที่ค้นพบความรักที่แท้จริงผมยังคงทำงานเป็นดีไซเนอร์และสถาปนิกอย่างเต็มตัว ควบคุมการออกแบบ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณพอลก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ การทำงานเคียงข้างเขาทุกวันทำให้ผมรู้สึกถึงความมั่นคงที่ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้งานวิวาห์ของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่โอ่อ่าตามแบบฉบับมหาเศรษฐี แต่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นส่วนตัวในคฤหาสน์ Ifandis ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจำนวนมหาศาล ซึ่งคราวนี้เป็นดอกไม้ที่ถูกปลูกในสวนของคฤหาสน์เอง ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของทีมงานพิเศษ เพื่อให้
ณ ดินแดนแห่งตำนานที่ประดับประดาด้วยโอลิมปัสอันตตระหง่านและทะเลอีเจียนสีครามเข้มในส่วนต่างๆ ของเทพเจ้าและมนุษย์ถูกถักทอด้วยใยแห่งโชคชะตาและการนำเสนอเรื่องราวหนึ่งที่ยังคงดำเนินต่อไปหัวใจของผู้คนตลอดหลายยุคสมัยคือตำนานความรักแต่โคโลราโดนาฏกรรมระหว่างอพอลโล (Apollo) สุริยเทพผู้เจิดจรัสและไฮยาซินทัส (Hyacinthus) เจ้าผู้ปกครองแห่งสปาร์ตา ผู้นำรูปงามเหนือมวลมนุษย์บทที่ 1: การจุติของการทำเช่นนั้นเพื่อเป็นที่รัก1.1 อโล่พอล: เทพแห่งความสมบูรณ์แบบพอลต่อหน้าพระเจ้าและเป็นผู้นำที่เคารพที่สุดแห่งโอลิมปัสพื้นฐานโอรสของเทพซุสและเทพีลีโตเป็นพี่ชายของเทพีอาร์เทมิสในตำแหน่งของเขานั้นศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อในดนตรี กวี หลังคาเหล็ก การแพทย์ และคำทำนายที่วิหารเดลฟีดูแลของเขาในอินดัจเทพบุตรในเครื่องแบบของเกรย์ผู้นำสายการบินสีทองสว่างไสวราวกับรัศมีแห่งดวงตะวัน ตัวตนของเขาคือความโดดเด่นที่เป็นผู้นำได้เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจและศิลปะทุกแขนงแต่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบอันไร้ที่ติ อพอลโล่ก็มีความอ่อนไหวและความรักใคร่เยี่ยงเทพและมนุษย์ทั่วไป1.2 ไฮยาซินทัส: ร้านพิซซ่าแห่งสปาร์ตาณ ดินแดนสปาร์ตา ดินแดนแห่งนักร
YOH PARTผมถูกยัดเข้าไปในรถตู้สีดำอย่างรุนแรง ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถมเข้าใส่เมื่อผมเห็นใบหน้าของ เจสัน หรือ เซฟิรัส ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและโทสะที่ระงับไม่อยู่ เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมในรถตู้ที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็วราวกับจะฉีกอากาศ"ปล่อยผมไปนะเจสัน! คุณทำอย่างนี้ไม่ได้!" ผมตะโกนใส่เขา พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เหลืออยู่เจสันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความวิปลาส "ไม่ได้เหรอ ไฮยาซินธ์? แกคิดว่าไอ้เทพดวงอาทิตย์ของแกจะทำลายฉันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ! เขาทำลายฐานของฉัน! แต่ฉันก็ทำลาย สัญลักษณ์ ที่เชื่อมแกไว้กับเขาแล้ว!" เขาชี้ไปที่คอของผมที่ว่างเปล่า"คุณทำลายแค่จี้!" ผมสวนกลับด้วยความโกรธแค้น "คุณทำลายความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาไม่ได้! ผมรักคุณพอล! ผมเลือกที่จะอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ของเขา!"คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของเจสันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและความริษยาที่รุนแรงกว่าการโจมตีทางกายภาพใดๆ "โกหก! แกต้องรักฉัน! แกต้องอยู่กับ ลม! ฉันเป็นคนพาแกออกไปจากแสงอาทิตย์ที่น่าเบื่อของเขาเอง! เขาคือผู้ควบคุม! ส่วนฉันคืออิสรภาพ!""คุณไม่ได้พาผมออกไป! คุณพยายามจะฆ่
YOH PARTหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เซฟิรัสโจมตีคฤหาสน์ด้วยพลังงานลมที่มองไม่เห็น ทำให้ระบบไฟฟ้าและระบบเตือนภัยของบ้านเสียหายอย่างหนัก แม้ดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจะถูกทำลายทั้งหมด แต่จิตใจของผมกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาดผมไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป ความโกรธแค้นของเซฟิรัสทำได้เพียงแค่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของผมที่จะปกป้อง อพอลโล่ และ ความรัก ของเรา"เขาทำลายดอกไม้ได้ แต่เขาจะทำลายความคิดของผมไม่ได้หรอกครับคุณพอล" ผมยืนยันกับคุณพอลในสตูดิโอตัดเย็บส่วนตัวของเราคุณพอลในชุดสูทสีเทาเข้มที่ผมตัดเย็บให้ ยืนกอดอกมองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน"ผมรู้ครับ โย" เขาตอบ "พลังของ เซฟิรัส คือการสร้างความวุ่นวายทางจิตใจ แต่คุณได้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าคุณคือ แสงสว่าง ที่ไม่สามารถดับได้""เราต้องสร้าง ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ บนเกาะเซฟิรัสให้เร็วที่สุดครับ" ผมพูดอย่างกระตือรือร้น "มันจะไม่ใช่แค่อาคาร แต่จะเป็น สัญลักษณ์ ที่จะประกาศให้เขารู้ว่า ยุคแห่งแสงอาทิตย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"ในช่วงสองสัปดาห์ถัดมา ผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับโครงการนี้ ผมได้กลายเป็น สถาปนิกแห่งแสง







