MasukJASON PART
ผมมองตามหลังของนันทยศจนลับตา ความงามที่ยั่วยวน ความมั่นใจในตัวเองของเขาทำให้ผมต้องการเขามากขึ้นกว่าลูกค้าคนไหน ๆ สายตาที่จ้องมองเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ความต้องการของลูกค้า แต่เป็นความต้องการของ ผู้ล่า ที่มองเห็นเหยื่ออันโอชะที่กำลังจะเข้าสู่กรงของตัวเอง
"เรียบร้อยนะคะคุณเจสัน" พี่ยี่หวาเดินเข้ามาพร้อมยื่นบิล
"ครับ" ผมยิ้มเย็น ๆ แล้วจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต "คุณนันทยศเขาออกไปไหนครับ ดูรีบ ๆ นะ" ผมแสร้งถามอย่างสุภาพ
"อ๋อ...น้องชายเขาโทรมาตามค่ะ คงมีธุระด่วน" พี่ยี่หวาตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่จริงใจนัก
ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังปกป้องนันทยศอยู่ แต่ผมไม่สนใจหรอก สิ่งที่ผมอยากได้ ผมต้องได้
"เข้าใจครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมเดินออกจากร้านพร้อมกับถุงสูทในมือ แต่เป้าหมายของผมไม่ได้อยู่ที่สูทตัวนี้แล้ว แต่เป็น นันทยศ สถิรถาวร
PAUL PART
'คุณภัทรครับ ตามคุณนันทยศอยู่ใช่ไหม รายงานมาทุกฝีก้าวเลย' ผมสั่งเลขาหลังจากวางสายจากแพตทริกไป
'ครับคุณพอล ตอนนี้คุณนันทยศกำลังขึ้นรถแท็กซี่ไปที่ย่านช้อปปิ้งแห่งหนึ่ง คาดว่าจะไปพบกับน้องชายของเขา' คุณภัทรรายงาน
'ดีมาก อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด ถ้ามีอะไรผิดปกติให้รายงานผมทันที และส่งคนของ Ifandis เข้าไปในบริเวณนั้นเพิ่มอีกสิบคน' ผมต้องมั่นใจว่าเขาปลอดภัย ผมจะไม่ยอมให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นซ้ำสอง
'ทราบครับคุณพอล'
ผมวางสายจากคุณภัทร ดวงตาของผมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกังวล "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โย... นายจะปลอดภัย"
YOH PART
ผมลงจากแท็กซี่และเดินเข้าไปในคาเฟ่ที่นัดกับยิมน้องชายไว้ ยิมเป็นสิ่งเดียวที่เป็นความจริงใจในชีวิตครอบครัวจอมปลอมของผม
"ยิม!!!" ผมเรียกน้องชายพร้อมกับเข้าไปกอดแน่น
"พี่โย!! คิดถึงจังเลยครับ" ยิมกอดตอบผมอย่างอบอุ่น "พี่โยดูมีอะไรไม่สบายใจนะครับ"
"พี่พึ่งเจอลูกค้าเรื่องเยอะคนหนึ่งน่ะสิ ชื่อคุณพอล แถมเขายังส่งดอกไม้มาให้พี่ทุกวันด้วยนะ" ผมเล่าให้น้องชายฟังอย่างระบาย
"ห๊ะ! คุณพอล! พี่ชายของนายแพตทริกน่ะหรอ!?" ยิมทำหน้าตกใจ
"ใช่สิ ทำไม นายรู้จักเขาหรอ"
"ผมก็เคยเจอเขาบ้างตอนอยู่ที่บ้านนั้น เขาดูเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่เขามีอำนาจมากเลยนะพี่โย" ยิมอธิบาย "เขาทำแบบนั้นทำไมครับ"
"พี่ก็ไม่รู้สิ แต่พี่รู้สึกแปลก ๆ กับเขานะ เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน" ผมมองไปนอกหน้าต่าง พลันสายตาของผมก็ปะทะเข้ากับเงาของใครบางคนที่เหมือนกับคุณเจสัน
"นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย" ผมอุทานเบา ๆ ทำไมคุณเจสันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าพี่ยี่หวาจะพูดถูก...
"พี่โยครับ เป็นอะไรหรือเปล่า" ยิมถามอย่างเป็นห่วง
ผมหันกลับมายิ้มให้น้องชาย "ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย"
ผมพยายามสงบสติอารมณ์และจิบกาแฟที่สั่งมา แต่ภาพเงาของคุณเจสันที่แวบหายไปนอกกระจกก็ทำให้ใจผมเต้นระรัว
"พี่โยเป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหมครับ ดูไม่ค่อยสบายใจเลย" ยิมยังคงสังเกตเห็นความผิดปกติของผม
"เปล่าจริง ๆ ยิม แค่อาจจะเหนื่อยจากงานนิดหน่อย" ผมฝืนยิ้มให้เขาสบายใจ แต่สายตาก็ยังแอบกวาดมองไปรอบ ๆ คาเฟ่และถนนด้านนอกอย่างระมัดระวัง
ทำไมคุณเจสันต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย? นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเขาตามผมมา? ความคิดนี้ทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว พี่ยี่หวาบอกว่าคุณเจสันดูอันตราย สายตาที่เขามองผมตอนอยู่ในร้านก็ไม่น่าไว้วางใจเลยแม้แต่น้อย
"พี่โยครับ แล้วเรื่องคุณพอลล่ะ เขาเป็นคนยังไงเหรอครับ" ยิมเปลี่ยนเรื่อง
"คุณพอลน่ะเหรอ..." ผมนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเหมือนเทพบุตรกรีก นึกถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผมไม่เข้าใจ และช่อดอกไม้ที่ถูกส่งมาให้ทุกวัน "เขาเป็นคนเงียบ ๆ ดูมีอำนาจมาก แต่เขาก็จู่โจมจีบพี่แบบไม่อ้อมค้อมเลย ส่งดอกไม้สื่อความหมายมาทุกวัน แถมยังบอกว่าจะต้องเป็นพี่คนเดียวที่ตัดสูทให้เขา..."
"แปลกจังนะครับ" ยิมพึมพำ "แต่ที่นายแพตทริคเล่าพี่ชายเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนะ ถ้าเขาต้องการอะไร เขาจะทำทุกทางเพื่อให้ได้มา แต่ไม่คิดว่าจะมาสนใจพี่โย..."
"สนใจ?" ผมทวนคำ
"ก็ใช่สิครับ ดอกทิวลิปสีแดงนั่นหมายถึงการตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจไม่ใช่เหรอ" ยิมยิ้มเจ้าเล่ห์ "สงสัยพี่โยจะเสน่ห์แรงมากจนเขาถึงกับคลั่ง"
ผมไม่รู้สึกยินดีกับคำพูดของยิมเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ความรู้สึกถูกคุกคามจากคุณเจสันผนวกกับความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ที่มีต่อคุณพอล ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกบีบจากทั้งสองด้าน
จู่ ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังผม... กลิ่นน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นบุหรี่จาง ๆ ลอยมากระทบจมูก
"บังเอิญจังเลยนะครับ คุณนันทยศ" เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น
ผมสะดุ้งสุดตัวและหันกลับไป คุณเจสัน ยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ทำให้ผมรู้สึกถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ค..คุณเจสัน" ผมรีบเรียกชื่อเขาอย่างประหม่า
"ครับ ผมเอง ผมเห็นคุณเดินอยู่เลยลองเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่จริง ๆ" เขาพูดอย่างเป็นมิตรเกินเหตุ แต่ดวงตาของเขากลับส่อแววลึกลับและเจ้าเล่ห์
"อ๋อ... ผมมากับน้องชายครับ" ผมชี้ไปที่ยิมอย่างรวดเร็วเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว
"สวัสดีครับ คุณเจสัน" ยิมลุกขึ้นยืนและทักทายอย่างสุภาพ
คุณเจสันเพียงพยักหน้าเล็กน้อย แต่สายตาของเขาก็กลับมาจับจ้องที่ผมอีกครั้ง "ผมว่าเราคงมีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะครับคุณนันทยศ เรื่องสูทที่ผมอยากจะเพิ่มรายละเอียดบางอย่าง"
"ได้สิครับ แต่...ทำไมไม่โทรมาที่ร้านล่ะครับ"
"ก็บังเอิญเจอแล้วนี่นา จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะครับ" เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้จนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา "ผมอยากจะคุยกันแบบส่วนตัวมากกว่านะครับ"
ความรู้สึกถูกต้อนจนมุม ทำให้ผมเริ่มหายใจติดขัด ผมมองไปที่ยิมอย่างขอความช่วยเหลือ ยิมก็ดูไม่สบายใจเช่นกัน
ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังคุณเจสัน...
"ผมคิดว่าการคุยเรื่องธุรกิจควรจะเป็นที่ร้าน หรืออย่างน้อยก็เป็นที่บริษัทของคุณนะครับ คุณเจสัน"
ทุกคนหันไปมอง คุณพอล พีธรธนัส ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาและอำนาจ เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ และเขาก็เดินตรงเข้ามาหาเราทันทีที่พูดจบ ราวกับเทพเจ้ากรีกที่ลงมาขวางทางผู้รุกราน
"ผมไม่คิดว่าคุณจะมาถึงที่นี่นะครับ คุณพอล" คุณเจสันหันไปเผชิญหน้ากับคู่แข่งโดยที่รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มแข็งกระด้าง
"ผมเป็นลูกค้า VVIP ของคุณโย และผมก็ไม่ชอบให้ใครมารบกวนดีไซเนอร์ของผมในเวลาส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าลูกค้าคนนั้นมีประวัติไม่ค่อยดีนัก" คำพูดของคุณพอลเน้นย้ำที่ประโยคสุดท้ายอย่างจงใจ
บรรยากาศในคาเฟ่ตึงเครียดขึ้นมาทันที การเผชิญหน้าของสองขั้วอำนาจ ที่ต่างก็ต้องการตัวผมอยู่ตรงหน้า
ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ตรงกลางของพายุที่น่ากลัว...
TBC.
PAUL PARTสามปีผ่านไปนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายบน เกาะโซลาริส (Solaris Island) และการแต่งงานของเรา โลกทั้งใบของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผมไม่ได้เป็นแค่ อพอลโล่ หรือ พอล พีธรธนัส มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลอีกต่อไป แต่ผมได้เป็น สามี และที่สำคัญที่สุด... พ่อ ของลูกชายที่สมบูรณ์แบบของเราศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารทรงพิณขนาดมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นจากกระจกและเหล็กกล้าสีทองตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะ มันไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของความรัก ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาศึกษาเรื่องพลังงานทางเลือกและสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต เกาะทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่สะอาดและอบอุ่น และดอกไฮยาซินธ์ที่โยปลูกไว้ก็เติบโตอย่างงดงามผมยืนอยู่ที่หน้าต่างในห้องนอนของผมที่คฤหาสน์ Ifandis ในยามบ่ายที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ มองดูสวนที่เต็มไปด้วยดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบานอย่างสวยงาม ผมไม่ได้สวมชุดสูท แต่สวมเสื้อผ้าลำลองที่ยังคงดูเนี้ยบตามสไตล์ของผม มือของผมกำลังอุ้ม ลูกชาย ของเราไว้ในอ้อมแขน"ดูสิครับ ไฮยาซินธ์น้อย" ผมกระซิบกับลูกช
YOH PARTหกเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากการวิวาห์ของเรา ช่วงเวลานี้ไม่ใช่แค่การปรับตัวเข้าสู่ชีวิตคู่เท่านั้น แต่เป็นการสร้าง รากฐานใหม่ ที่มั่นคงสำหรับชีวิตนิรันดร์ของเรา คุณพอลไม่ได้เป็นแค่สามี แต่เขาเป็นเหมือน แกนกลาง ที่ให้ความมั่นคงและความมุ่งมั่นในทุกสิ่งที่ผมทำโครงการ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ บนเกาะที่ถูกเปลี่ยนชื่อไปแล้ว กำลังคืบหน้าไปอย่างน่าทึ่ง ชื่อใหม่ของเกาะคือ เกาะแสงอาทิตย์ (Solaris Island) ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของเราเพื่อเน้นย้ำถึงพันธสัญญาแห่งแสงสว่างของเราผมในฐานะ สถาปนิกแห่งแสง (Architect of Light) เดินทางไปที่เกาะสัปดาห์ละสามครั้ง โดยมีคุณพอลไปกับผมเสมอ การได้ทำงานเคียงข้างเขาในฐานะ หุ้นส่วนชีวิต และ หุ้นส่วนธุรกิจ ทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มอย่างที่สุด ผมค้นพบว่าความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้าของผมนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเน้นที่การใช้งานของวัสดุ การสะท้อนแสง และความงามของรูปทรงในวันนี้... เราเดินทางมายังเกาะพร้อมกับทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับสูง เรากำลังจะติดตั้ง ผลึกควอตซ์ ขนาดใหญ่
YOH PARTชีวิตหลังจากสงครามนั้นไม่ใช่แค่ความสงบสุข แต่มันคือ นิรันดร์ ผมไม่จำเป็นต้องกังวลว่าแสงอาทิตย์จะร้อนแรงเกินไป หรือสายลมจะพัดพาความสุขไปจากผมอีกแล้ว เซฟิรัส ได้ถูกส่งกลับไปยังมิติที่ว่างเปล่า และโลกทั้งใบของผมก็ถูกโอบอุ้มไว้ด้วยความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ พอล พีธรธนัสช่วงเวลาที่รอคอยงานวิวาห์เป็นเหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความปิติยินดี เราไม่ได้รีบร้อน แต่ใช้เวลาทุกนาทีในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และในฐานะเทพเจ้าที่ค้นพบความรักที่แท้จริงผมยังคงทำงานเป็นดีไซเนอร์และสถาปนิกอย่างเต็มตัว ควบคุมการออกแบบ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณพอลก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ การทำงานเคียงข้างเขาทุกวันทำให้ผมรู้สึกถึงความมั่นคงที่ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้งานวิวาห์ของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่โอ่อ่าตามแบบฉบับมหาเศรษฐี แต่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นส่วนตัวในคฤหาสน์ Ifandis ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจำนวนมหาศาล ซึ่งคราวนี้เป็นดอกไม้ที่ถูกปลูกในสวนของคฤหาสน์เอง ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของทีมงานพิเศษ เพื่อให้
ณ ดินแดนแห่งตำนานที่ประดับประดาด้วยโอลิมปัสอันตตระหง่านและทะเลอีเจียนสีครามเข้มในส่วนต่างๆ ของเทพเจ้าและมนุษย์ถูกถักทอด้วยใยแห่งโชคชะตาและการนำเสนอเรื่องราวหนึ่งที่ยังคงดำเนินต่อไปหัวใจของผู้คนตลอดหลายยุคสมัยคือตำนานความรักแต่โคโลราโดนาฏกรรมระหว่างอพอลโล (Apollo) สุริยเทพผู้เจิดจรัสและไฮยาซินทัส (Hyacinthus) เจ้าผู้ปกครองแห่งสปาร์ตา ผู้นำรูปงามเหนือมวลมนุษย์บทที่ 1: การจุติของการทำเช่นนั้นเพื่อเป็นที่รัก1.1 อโล่พอล: เทพแห่งความสมบูรณ์แบบพอลต่อหน้าพระเจ้าและเป็นผู้นำที่เคารพที่สุดแห่งโอลิมปัสพื้นฐานโอรสของเทพซุสและเทพีลีโตเป็นพี่ชายของเทพีอาร์เทมิสในตำแหน่งของเขานั้นศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อในดนตรี กวี หลังคาเหล็ก การแพทย์ และคำทำนายที่วิหารเดลฟีดูแลของเขาในอินดัจเทพบุตรในเครื่องแบบของเกรย์ผู้นำสายการบินสีทองสว่างไสวราวกับรัศมีแห่งดวงตะวัน ตัวตนของเขาคือความโดดเด่นที่เป็นผู้นำได้เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจและศิลปะทุกแขนงแต่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบอันไร้ที่ติ อพอลโล่ก็มีความอ่อนไหวและความรักใคร่เยี่ยงเทพและมนุษย์ทั่วไป1.2 ไฮยาซินทัส: ร้านพิซซ่าแห่งสปาร์ตาณ ดินแดนสปาร์ตา ดินแดนแห่งนักร
YOH PARTผมถูกยัดเข้าไปในรถตู้สีดำอย่างรุนแรง ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถมเข้าใส่เมื่อผมเห็นใบหน้าของ เจสัน หรือ เซฟิรัส ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและโทสะที่ระงับไม่อยู่ เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมในรถตู้ที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็วราวกับจะฉีกอากาศ"ปล่อยผมไปนะเจสัน! คุณทำอย่างนี้ไม่ได้!" ผมตะโกนใส่เขา พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เหลืออยู่เจสันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความวิปลาส "ไม่ได้เหรอ ไฮยาซินธ์? แกคิดว่าไอ้เทพดวงอาทิตย์ของแกจะทำลายฉันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ! เขาทำลายฐานของฉัน! แต่ฉันก็ทำลาย สัญลักษณ์ ที่เชื่อมแกไว้กับเขาแล้ว!" เขาชี้ไปที่คอของผมที่ว่างเปล่า"คุณทำลายแค่จี้!" ผมสวนกลับด้วยความโกรธแค้น "คุณทำลายความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาไม่ได้! ผมรักคุณพอล! ผมเลือกที่จะอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ของเขา!"คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของเจสันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและความริษยาที่รุนแรงกว่าการโจมตีทางกายภาพใดๆ "โกหก! แกต้องรักฉัน! แกต้องอยู่กับ ลม! ฉันเป็นคนพาแกออกไปจากแสงอาทิตย์ที่น่าเบื่อของเขาเอง! เขาคือผู้ควบคุม! ส่วนฉันคืออิสรภาพ!""คุณไม่ได้พาผมออกไป! คุณพยายามจะฆ่
YOH PARTหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เซฟิรัสโจมตีคฤหาสน์ด้วยพลังงานลมที่มองไม่เห็น ทำให้ระบบไฟฟ้าและระบบเตือนภัยของบ้านเสียหายอย่างหนัก แม้ดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจะถูกทำลายทั้งหมด แต่จิตใจของผมกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาดผมไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป ความโกรธแค้นของเซฟิรัสทำได้เพียงแค่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของผมที่จะปกป้อง อพอลโล่ และ ความรัก ของเรา"เขาทำลายดอกไม้ได้ แต่เขาจะทำลายความคิดของผมไม่ได้หรอกครับคุณพอล" ผมยืนยันกับคุณพอลในสตูดิโอตัดเย็บส่วนตัวของเราคุณพอลในชุดสูทสีเทาเข้มที่ผมตัดเย็บให้ ยืนกอดอกมองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน"ผมรู้ครับ โย" เขาตอบ "พลังของ เซฟิรัส คือการสร้างความวุ่นวายทางจิตใจ แต่คุณได้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าคุณคือ แสงสว่าง ที่ไม่สามารถดับได้""เราต้องสร้าง ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ บนเกาะเซฟิรัสให้เร็วที่สุดครับ" ผมพูดอย่างกระตือรือร้น "มันจะไม่ใช่แค่อาคาร แต่จะเป็น สัญลักษณ์ ที่จะประกาศให้เขารู้ว่า ยุคแห่งแสงอาทิตย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"ในช่วงสองสัปดาห์ถัดมา ผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับโครงการนี้ ผมได้กลายเป็น สถาปนิกแห่งแสง







